Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
10 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 
จอมจักรพรรดิ์ ฮั่นอู่ตี้ ภาค 1 - ตอนที่ 17


สารบัญ | ตอนที่แล้ว | ตอนถัดไป

《ต้าฮั่นเทียนจื่อ #17》ตามล่าหาฆาตกร

ตีพิมพ์ครั้งแรก : 12 มกราคม 2550
ปรับปรุงแก้ไข :


เช้าวันใหม่ หลิวอี้ในชุดไว้ทุกข์สีขาวคาดผ้าขาวไว้ที่หน้าผากเดินหน้าเครียดนำกำลังทหาร
ไปตามจับตัวคนร้าย ในความคิดของหลิวอี้นั้นบุคคลที่เข้าข่ายน่าสงสัยในอันดับต้นๆจะต้อง
เป็นผู้ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเกี่ยวข้องกับไท่จื่อ ซึ่งจะเป็นผู้ใดไปไม่ได้เลยนอกจากสาม
หนุ่ม จางทัง ก้วนฟู และหลี่หลิง ดังนั้นจึงได้คิดจะนำกำลังทหารเข้าไปเข้าไปตรวจค้น
ยังที่พักของคณะเดินทางของไท่จื่อ

ภายในห้องนอนของที่พักของคณะเดินทางของไท่จื่อนั้น ก้วนฟูกับหลี่หลิงนอนหลับอยู่บน
เตียงเดียวกันโดยที่หลี่หลิงนั้นไม่ได้ใส่เสื้อนอน เสียงเปิดประตูที่ด้านนอกห้องนอนทำให้ทั้ง
สองที่กำลังนอนหลับอย่างสบายต้องสะดุ้งตื่น ก้วนฟูหันไปทางหลี่หลิงพร้อมกับส่งสัญญาณ
จากนั้นทั้งสองก็แสร้งทำเป็นนอนหลับต่อ

หลิวอี้เดินตรงเข้าไปยังเตียงนอน เห็นทั้งสองกำลังนอนหลับอยู่จึงเอามือเลิกผ้าห่มที่คลุมตัว
ก้วนฟูอยู่ออก

“อย่ามายุ่งน่า ข้าง่วง อยากจะนอน” ก้วนฟูเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงคล้ายคนง่วงพร้อมกับเอามือ
ปัดไปมา

หลิวอี้ซึ่งกำลังอยู่ในอารมณ์แค้นเอ่ยขึ้นว่า “ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้” พร้อมกับเอามือเอื้อมไปคว้า
เสื้อดึงตัวก้วนฟูที่นอนอยู่ให้ลุกขึ้นนั่งแล้วเอ่ยถาม “เมื่อคืนวานเจ้าได้ไปก่อเรื่องอะไรไว้ ห๊า”

ก้วนฟูอ้าปากหาวแล้วเอ่ยขึ้นอย่างงัวเงียว่า “ไม่มีนี่ แต่ว่าเมื่อคืนข้าฝันดี๊ดี ฝันว่าได้พบกับ
หวงซ่าง พระองค์พระราชทานเมีย(老婆)ให้ข้าตั้งสองคนแน่ะ คนหนึ่งมีศักดิ์เป็นถึงองค์หญิง
อีกคนก็ยังเป็นองค์หญิงอีก พวกเรากำลังเอามือคล้องกัน แล้วก็ดื่มสุราที่อยู่ในมือของกันและ
กันอยู่(喝交杯酒) หลังจากนั้นนะ..หลังจากนั้นเจ้าก็เข้ามาาาาา..”


ยังมิทันที่จะได้พูดอะไรต่อ หลิวอี้ก็ผลักก้วนฟูนอนลง แล้วสั่งนายทหารให้เข้าไปถอดเสื้อ
ของก้วนฟูออก ทหารสองนายจึงเดินตรงเข้าไปที่เตียงแล้วทำการถอดเสื้อของก้วนฟู

“พวกเจ้าจะทำอะไรข้า อย่านะ อย่า” ก้วนฟูร้องโวยวายขึ้นพร้อมกับเอามือปัดป้องขัดขืน
“ตัวข้าเองยังไม่ได้แต่งงาน(处男) ยังไม่เคยมีผู้ใดได้เห็นหน้าอกหน้าใจของข้ามาก่อนเลย
พวกเจ้าอย่าเข้ามานะ”


ทหารสองนายใช้กำลังจัดการเปิดเสื้อของก้วนฟูออกมาจนได้ เผยให้เห็นแผ่นหน้าอกขาวๆ
ของก้วนฟู จากนั้นก็หันไปรายงานหลิวอี้
“เรียนใต้เท้า ไม่พบร่องรอยของบาดแผลใดๆบนตัวของเค้าเลย”

หลิวอี้ได้ยินดังนั้นจึงสั่งให้ทหารจัดการเลิกผ้าห่มที่คลุมตัวหลี่หลิงออก

“เฮ้ พวกเจ้าจะทำอะไรข้า อย่ามาแตะต้องตัวข้านะ ข้าบ้าจี้(痒)” หลี่หลิงร้องโวยวายเอา
มือยื้อยึดผ้าห่มที่คลุมตัวอยู่ไว้ แต่นายทหารก็สามารถจัดการดึงผ้าห่มที่คลุมตัวอยู่ออกมาจาก
ตัวได้ หลิวอี้เห็นบนหน้าอกของหลี่หลิงไม่มีร่องรอยของบาดแผลจึงได้เอ่ยถาม
“แล้วผู้ร่วมขบวนการ(同伙)ของพวกเจ้าล่ะ”

“เจ้าหมายถึงใครกันล่ะ? ถ้าหมายถึงจิ่วเกอล่ะก็ เค้าก็อยู่กับพวกเจ้านี่ กัวเส่อเหรินก็ด้วย
เหมือนกัน”
ก้วนฟูตอบอย่างกวนๆ

จางทัง หลิวอี้เอ่ยชื่อของจางทัง

ก้วนฟูรีบตอบ “เค้านะเหรอ เดินทางกลับไปเมืองฉางอันแล้ว ไม่แน่ว่าป่านนี้อาจจะกำลัง
อาบน้ำพุร้อนที่ฮว๋าซัน(华山)อยู่ก็เป็นได้”


หลิวอี้รู้สึกผิดหวังนิดๆที่ทั้งสองไม่ใช่คนร้ายที่บุกรุกไปที่จวนเมื่อคืน จึงหันหลังกลับเดินออก
ไปจากห้อง พร้อมกับสั่งให้ทหารเดินทางกลับ

ก้วนฟูกับหลี่หลิงรีบลุกลงจากเตียง ก้วนฟูเอ่ยตะโกนแซวไล่หลัง “ท่านพี่หลิว หากท่าน
ไม่มีธุระด่วนรีบร้อนอะไร จะอยู่นั่งคุยกันสักครู่ก่อนก็ได้นะ”


หลี่หลิงส่งเสียงจามฮัดเช่ยออกมา(คาดว่าคงจะเป็นหวัด เพราะนอนโดยไม่ใส่เสื้อ)แล้วเอ่ย
กับก้วนฟูว่า “ท่านสังเกตเห็นอะไรหรือเปล่า สงสัยว่าเจ้าเมืองเยี่ยนชื่อคงจะกลับบ้านเก่าไป
แล้ว(归天)”


“เจ้ารู้ได้อย่างไร” ก้วนฟูเอ่ยถามเพราะไม่ทันได้สังเกต

“ก็หลิวอี้เค้าใส่ชุดไว้ทุกข์(戴着孝)นี่” หลี่หลิงบอกสิ่งที่ตนเองสังเกตเห็น

ก้วนฟูนึกขึ้นได้ “เออ จริงด้วย”

จากนั้นทั้งสองก็ส่งเสียงหัวเราะยิ้มอย่างดีใจ ก้วนฟูเอ่ยขึ้นอย่างมีความสุข
“ข้าล่ะ สะจั้ย สะใจจริงๆ(痛快) ข้าว่าแล้ว คนที่ล่วงเกิน(冒犯)จิ่วเกอจะต้องพบกับจุด
จบ(下场)แบบนี้”


หลี่หลิงเอ่ยถาม “เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อ ท่านคงจะเป็นคนลงมือฆ่าสินะ”

“ไม่ใช่” ก้วนฟูส่ายหัว “เจ้าล่ะมั๊ง”

“ไม่ใช่ข้า” หลี่หลิงปฏิเสธ

“ถ้างั้นใครทำกันล่ะ” ก้วนฟูสงสัย

“ต้องเป็นจอมยุทธ์ที่คลุ้มหน้า(蒙面大侠)สองคนนั้นแน่ๆ” หลี่หลิงตั้งข้อสังเกต

*****


เมื่อก้วนฟูกับหลี่หลิงไม่ใช่คนร้ายตามที่ตนเองได้คาดคิดไว้ หลิวอี้จึงได้สั่งเหล่าทหารให้ทำ
การตรวจค้นตัวชาวบ้านว่ามีคนใดบ้างที่มีรอยบาดแผลจากคมกระบี่ที่หน้าอก แต่ก็ยังไม่พบตัว
ผู้ต้องสงสัย ตรวจค้นไปตรวจค้นมาจนไปถึงที่หน้าร้านของตงฟางซั่ว ตงฟางซั่วเห็นทหาร
เดินเข้ามาหาตนเอง จึงรีบเอ่ยกับหลิวอี้ว่า “คุณชาย ยกเว้นข้าไว้สักคนล่ะกัน”

“ทำไมเจ้าถึงไม่ยอมถอดเสื้อ หรือว่าบนตัวเจ้ามีบาดแผล” หลิวอี้เอ่ยถาม

“ไม่มี ไม่มี” ตงฟางซั่วรีบปฏิเสธ “ยังไงข้าก็ไม่มีบาดแผลหรอก บนตัวข้าจะมีก็แต่เพียง
หนังที่หุ้มติดกระดูก(骨瘦如柴) หากถอดเสื้อออกแล้ว ข้าเกรงว่าจะเป็นภาพที่ไม่น่าดูชม
สักเท่าไร”


“หากเจ้าไม่ถอดเสื้อออกจะถือว่าเจ้าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด(奸细) ถอดออกเดี๋ยวนี้” หลิวอี้สั่ง

ทหารถอดเสื้อของตงฟางซั่วออก หลิวอี้เห็นแล้วได้แต่ส่ายหน้ารีบบอกให้สวมเสื้อ พร้อม
กับหันหลังทำท่าจะเดินจากไป

ตงฟางซั่วรีบเอ่ยเชิญชวน “ในวันหนึ่งๆ ข้าจะให้คำทำนายแก่ลูกค้าเพียงสามคำทำนายเท่า
นั้น แต่ว่าวันนี้ยังขาดอีกหนึ่ง ท่านจะช่วยให้ข้าได้มีเงินไว้กินข้าวสักหน่อยก่อน แล้วค่อยไป
ได้หรือไม่”


“ก็ได้ เป็นเพราะข้าเห็นว่าเจ้านั้นเป็นคนน่าสมเพช(可怜)หรอกนะ จึงยอมให้เจ้าทำนายให้
ข้า”
หลิวอี้เห็นว่าไม่น่าจะมีอะไรเสียหายจึงให้ตงฟางซั่วลองทำนายดู
“ไหนเจ้าลองบอกข้ามาทีสิว่า คนที่ลอบสังหาร(行刺)ฆ่าเจ้าเมืองเยี่ยนชื่อ มันเป็นผู้ใด”

“ข้าต้องขอขอบคุณคุณชายเป็นอย่างมากเลยทีเดียว” ตงฟางซั่วเอ่ยขอบคุณหลิวอี้ แล้วก็
พูดต่อไปอีกว่า “มักจะมีคำพูดที่กล่าวกันไว้เสมอว่า ไม่มีผู้สูงศักดิ์คนใดที่จะทนนิ่งดูดายโดย
ไม่สงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ต่ำต้อย(常言道 没有君子 不养江湖)...”


“พอๆๆ พอเลย ข้าให้เจ้าทำนายก็ทำนายซะ ไม่ต้องมัวพูดพล่ามให้มากความ”

“คุณชาย ท่านยังไม่ได้บอกตัวอักษรที่จะให้ข้าทำนายเลย”

“อะไรนะ ยังจะต้องให้ข้าบอกตัวอักษรให้ด้วยอีกหรือนี่”

“ไร้ตัวอักษรก็ไร้คำทำนาย ไร้ตัวอักษรก็ทำนายได้ไม่ชัดเจน(无字卦无本 无字卦不通)”

“ก็ได้” หลิวอี้บอกพร้อมกับหยิบพู่กันที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาเขียนตัวอักษร (โหว) ลงไป
บนเสื้อของตงฟางซั่ว

ตงฟางซั่วเหลือบมองตัวอักษรบนเสื้อแล้วเอ่ยขึ้นเพื่อความแน่ใจ “侯(โหว)?”

“ใช่ ข้าให้เจ้าทำนายอักษรตัวนี้แหละ” หลิวอี้เอ่ย

[ขอเกริ่นเป็นข้อมูลไว้สักเล็กน้อยก่อนที่จะไปฟังคำทำนายของตงฟางซั่วกัน
ระดับชั้นศักดินาของขุนนางจีนในสมัยก่อนแบ่งออกเป็นห้าระดับเรียงตามลำดับจากระดับขั้นสูงไปยังระดับขั้นต่ำ ดังนี้
公爵(กงเจวี๋ย) 侯爵(โหวเจวี๋ย) 伯爵(ปั๋วเจวี๋ย) 子爵(จื่อเจวี๋ย) และ 男爵(หนานเจวี๋ย)
หากนำไปเทียบเคียงกับระดับชั้นขุนนางของสหราชอาณาจักร จะได้ว่า
公爵(กงเจวี๋ย) เทียบเท่ากับตำแหน่ง ดยุค(duke)
侯爵(โหวเจวี๋ย) เทียบเท่ากับตำแหน่ง มาควิส(marquis)
伯爵(ปั๋วเจวี๋ย) เทียบเท่ากับตำแหน่ง เอิร์ล(earl) หรือ เคานต์(count)
子爵(จื่อเจวี๋ย) เทียบเท่ากับตำแหน่ง ไวส์เคานต์(viscount)
男爵(หนานเจวี๋ย) เทียบเท่ากับตำแหน่ง บารอน(baron)]


“ตัวอักษร (โหว) ที่อยู่ใน (กง)(โหว)(ปั๋ว)(จื่อ)(หนาน) ในห้าตัวนี้ถือ
ว่าอยู่ในระดับชั้นที่สอง หากก้าวไปข้างหน้าไปอีกหนึ่งขั้นก็จะมียศตำแหน่งเป็นถึงระดับกง(公)
ระดับอ๋อง(王) แม้จะถอยหลังไปอีกหนึ่งขั้น ก็ถือว่ายังได้อยู่ในระดับชั้นที่สูงศักดิ์ ช่างเป็น
ตัวอักษรที่ดีจริงๆ”
ตงฟางซั่วเอ่ยให้หลิวอี้ฟัง แต่หลิวอี้รู้สึกรำคาญจึงได้เอ่ยขึ้นว่า

“เจ้ามัวพล่ามอะไรของเจ้าอยู่ ข้าให้เจ้าทำนายหาตัวฆาตกร(凶手)ไม่ใช่รึ”

“ใช่ๆๆ งั้นขอเชิญคุณชายพิจารณาดูที่ตัวอักษร (โหว) ตัวนี้ดีๆ จะเห็นว่าด้านซ้ายมือมี
ตัวอักษร (เหริน - คน) ประกอบอยู่ ถ้าจะพูดให้ชัดเจนลงไปก็คือ มีคนคอยจับตามอง
ดูอยู่(人相窥) แต่ว่าช่างน่าเสียดายที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่เคยรู้ตัวเลยว่าจะมีคนคอยจับตามอง
ส่วนด้านขวามือของตัวอักษร (โหว)ที่อยู่ด้านล่างนั้นจะเห็นมีตัวอักษร (สื่อ - สิ่งที่
คล้ายลูกศร)เป็นตัวประกอบอยู่ แล้ว (สื่อ) ตัวนี้หมายถึงอะไร (สื่อ) ก็หมายถึง
(เจี้ยน - เกาทัณฑ์, ลูกธนู) (เจี้ยน) ก็คือ 凶器(ซุงชี่ - อาวุธ)ท่านลองคิดดู
หากทั้งวันต้องนั่งอยู่เหนือคมหอกคมดาบอย่างนี้ ชีวิตจะมีความปลอดภัยได้อย่างไรกัน”


หลิวอี้ไม่เข้าใจความหมาย จึงเอ่ยถามตงฟางซั่ว “ความหมายของเจ้าก็คือ...”

“ความหมายของข้าก็คือ ไม่ควรจะหยุดตำแหน่งของตนเองไว้ที่ (โหว) จำเป็นจะต้อง
ก้าวไปข้างหน้าอีกหนึ่งขั้น(百尺竿头更进一步)”


“หากก้าวไปข้างหน้าอีกหนึ่งขั้น งั้นก็อยู่ที่ตำแหน่ง 公爵(กงเจวี๋ย)แล้วล่ะสิ”

ตงฟางซั่วยกมือซ้ายขึ้นพร้อมกับเขียนตัวอักษร (กง)ลงบนฝ่ามือให้หลิวอี้ดูพร้อมอธิบาย
“คุณชายดูสิ อักษร (กง)ที่ประกอบเป็นคำอยู่ใน 公爵(กงเจวี๋ย)นั้นค่อนข้างที่จะมั่นคง
ทุกด้าน(四平八稳) จะลมหรือจะฝนก็ทำอะไรไม่ได้ ถึงจะอยู่ต่ำกว่าคนเพียงหนึ่งคน แต่ก็
อยู่เหนือคนนับหมื่น(一人之下 万人之上) ข้าขออวยพรล่วงหน้าให้คุณชายสามารถก้าวไป
จนถึงจุดนั้น”


หลิวอี้อมยิ้มชอบใจ “ฮ่า..ฮ่า..พูดจามีเหตุผล พูดได้ดี” หันไปสั่งทหารให้นำเงินมาตบ
เป็นรางวัลแก่ตงฟางซั่ว

ตงฟางซั่วรับเงินมาพร้อมกับเอ่ย “ขอบคุณ ขอบคุณ”

หลิวอี้เอ่ยรำพึงขึ้นมาว่า “ท่านพ่อปกครองเมืองเยี่ยนชื่อ มาตั้งยี่สิบกว่าปีแล้ว ศัตรูที่คิดจะ
แก้แค้นก็มีตั้งเยอะ”


ตงฟางซั่วเอ่ย “คนที่ลอบทำร้ายนั้น ย่อมต้องเป็นครอบครัวของผู้ที่มีความแค้น หากท่าน
ค่อยๆตรวจตราค้นหาอย่างละเอียด รับรองต้องหาพบ”


หลิวอี้พูดเหน็บตงฟางซั่ว “ที่เจ้าพูดมาเหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย บอกก็เหมือนไม่บอก
ซะงั้น”
จากนั้นก็หันไปบอกกับเหล่าทหาร “ไป พวกเจ้าไปค้นหาให้ทั่วทั้งเมือง”

*****



“จะว่าไป ไท่จื่อตอนนี้ก็ตกอยู่ในภาวะคับขัน” อ๋องเหลียงหวังเอ่ยกับจางทัง

“แขวนอยู่บนเส้นด้าย(千钧一发)ทีเดียว” จางทังพูดเสริม

อ๋องเหลียงหวังเอ่ยตำหนิจางทัง “เจ้าเป็นคนคอยติดตามรับใช้ไท่จื่อมาก่อน ก็ควรที่จะต้อง
ดูแลให้การคุ้มครองไท่จื่อ แต่ว่าตอนนี้ไท่จื่อกำลังมีอันตราย (身遭不测) แทนที่เจ้าจะอยู่
ช่วยไท่จื่อ เจ้ากลับหนีเอาตัวรอดมาแต่ผู้เดียวได้อย่างไร”


“เรียนท่านอ๋อง ตัวข้านั้นเป็นเพื่อนกับไท่จื่อตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือมาด้วยกัน ข้าจะคิดหลบ
หนีเอาตัวรอดแต่ลำพังเพียงผู้เดียวได้อย่างไร เพียงแต่ข้าเห็นว่าสถานะการณ์เข้าตาจนไม่
สามารถคลี่คลายลงได้ อีกทั้งไม่มีกำลังอำนาจที่มากพอ(回天之力) ทำได้แต่เพียงรีบเร่ง
เดินทางทั้งวันทั้งคืน รีบกลับสู่ฉางอันเพื่อขอเข้าเฝ้าถวายรายงานเหตุการณ์ต่อหวงตี้
ขอร้องให้พระองค์ทรงมีพระบรมราชโองการสั่งการให้การช่วยเหลือไท่จื่อเป็นการด่วน”


“ที่แท้เจ้าก็เป็นข้าผู้ซื่อสัตย์ที่จงรักภักดี(忠臣)คนหนึ่ง ข้าดูเจ้าผิดไปทีเดียว”

“แต่ก็นับว่าข้ายังไม่สิ้นหวังเสียทีเดียว ที่วันนี้ ระหว่างทางได้เจอกับท่านอ๋องขณะกำลังออก
มาตรวจราชการโดยบังเอิญ ขอให้ท่านอ๋องได้โปรดมีคำสั่งไปยังเจ้าเมืองเยี่ยนชื่อด้วย”


อ๋องเหลียงหวังส่ายหน้า “ไม่ได้ เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อหลิวซิ่นคนนี้ เป็นคนที่หยิ่งทรนงถือดี
หากข้ามีคำสั่งไป ไม่มีเหตุผลหรือความจำเป็นใดๆที่เค้าจะต้องรับฟังคำสั่งของข้า ดีไม่ดีจะ
เป็นการไปเร่งให้เค้าชิงลงมือจัดการก่อนก็เป็นได้”


“ถ้างั้น จะทำอย่างไรกันดีล่ะ” จางทังเอ่ยถามเพื่อขอความคิดเห็น

“เอาเป็นว่าตัวข้าจะไปพบกับเค้าเป็นการส่วนตัวโดยด่วนที่สุด เพื่อกันไม่ให้เค้าตั้งรับได้ทัน
(措手不及)”
อ๋องเหลียงหวังบอก

“เป็นความคิดที่ดี”

“ส่วนเจ้า จะกลับฉางอันหรือว่าจะร่วมเดินทางไปด้วยกันกับข้า”

“แน่นอน ข้าย่อมต้องเดินทางติดตามไปกับท่านอ๋อง”

ทหารนายหนึ่งเข้ามารายงานต่ออ๋องเหลียงหวัง
“เรียนท่านอ๋อง มีคนจากเยี่ยนชื่อมาขอพบ”

ได้ยินว่ามีคนมาขอพบ อ๋องเหลียงหวัง จึงสั่งแก่นายทหารผู้นี้ว่า
“พวกเจ้าคอยอำนวยความสะดวกแก่จางทัง หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วจะออกเดินทาง
ทันที”


“รับทราบ” นายทหารเอ่ยตอบ จากนั้นก็หันไปทางจางทังเอ่ยว่า “เชิญ”

“ข้าน้อยขอลา” จางทังคารวะอ๋องเหลียงหวังก่อนจะเดินตามนายทหารคนนั้นออกไปจากห้อง

เมื่อเดินออกมาจากห้องของอ๋องเหลียงหวังเพื่อจะไปทานข้าวนั้น ระหว่างทางจางทังเห็น
นายทหารอีกคนหนึ่งกำลังนำทางพาบุรุษลึกลับเดินเข้ามาเพื่อจะไปพบกับอ๋องเหลียงหวัง
จางทังเกิดความสงสัยจึงหันไปบอกกับนายทหารที่เป็นคนนำทางตนเองให้ไปทานข้าวก่อน
ส่วนตนเองขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เสร็จแล้วจะตามไป




Create Date : 10 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 31 มกราคม 2550 17:57:02 น. 5 comments
Counter : 2153 Pageviews.

 
มารออยู่พักหนึ่งแล้วจ้า


โดย: Nuvan IP: 124.157.154.140 วันที่: 10 มกราคม 2550 เวลา:22:00:46 น.  

 
รออยู่จ้า


โดย: Nuvan IP: 58.147.123.113 วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:21:09:25 น.  

 
ขออภัยที่นำมาลงให้อ่านช้ากว่าี่กำหนดการที่ได้ตั้งใจวางเอาไว้ (ช้าไปสองวันคงจะไม่ว่ากันนะ)

กลับมาพบกับ 《ต้าฮั่นเทียนจื่อ》 ตอนที่ 18 ได้อีกครั้งในวันอังคารที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2550

ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านมาโดยตลอด


โดย: WangAnJun วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:10:23:40 น.  

 
ดีใจจังมาแว้วมาแว้ว


โดย: Nuvan IP: 222.123.18.2 วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:18:05:03 น.  

 
สุดยอดข้อมูลท่านละเอียดมาก


โดย: Nuvan IP: 222.123.18.2 วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:18:32:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

WangAnJun
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add WangAnJun's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.