ฟอร์บส์นิตยสารทางธุรกิจของสหรัฐฯ ได้ประกาศการจัดอันดับมหาเศรษฐีประจำปี 2015 ซึ่งปีที่ผ่านมาแม้จะมีปัญหาเศรษฐกิจทั้้งราคาน้ำมันตกต่ำ ค่าเงินยูโรอ่อนค่า แต่ความมั่งคั่งของคนกลุ่มเล็กๆไม่ได้ลดลง ในปีนี้ซึ่งเป็นปีที่ 29 ที่ฟอร์บจัดอันดับมหาเศรษฐีปรากฏว่ามหาเศรษฐี(คนที่มีทรัพย์สินรวมเกินพันล้านดอลลาร์)กว่า 1,826 คนมีรายได้รวมกันถึง 7.05 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มากขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งมีตัวเลขอยู่ที่ 6.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

มหาเศรษฐีหน้าใหม่ที่ติดเขามาในการจัดอันดับครั้งนี้มี 290 คน กว่า 71 คนมาจากประเทศจีน โดยที่บิลล์ เกตส์ได้กลับมาเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกอีกครั้งเป็นครั้งที่ 16 ในรอบ 21 ปีที่ผ่านมา โดยปีที่แล้วเขามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นสามพันสองร้อยล้านดอลลาร์ในรอบหนึ่งปี โดยมีทรัพย์สินรวมที่ 79,200 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าเขาจะได้บริจาคเงินให้กับมูลนิธี"เดอะบิลล์แอนด์เมลินดาเกตส์"ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วไปกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์ก็ตาม

อันดับสองเป็นนักธุรกิจโทรคมนาคมจากเม็กซิโก คาร์ลอส สลิม นักลงทุนชื่อดังของสหรัฐฯอย่างวอร์เรน บัฟเฟต ตามมาเป็นอันดับสาม และอันดับสี่เป็นนักธุรกิจเจ้าของผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าชื่อดังจากสเปน อมานซิโอ ออร์เตกา ส่วนมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เจ้าของสื่อใหม่ชื่อดังเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีอายุต่ำกว่า 40 ปี ติดอันดับที่ 16 ด้วยทรัพย์สินรวมมูลค่า 33,400 ล้านดอลลาร์ โดยที่มหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดคือ อีวาน สปีเกล ด้วยอายุเพียง 24 ปี ผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตแอพพลิเคชั่นเพื่อการสื่อสารบนโทรศัพท์มือถือ

ด้านมหาเศรษฐีไทยอันดับสูงสุด 100 อันดับแรกคือ นายธนินทร์ เจียรวนนท์ เจ้าของธุรกิจอาหารและการเกษตรของไทย อยู่ที่อันดับ 81 มูลค่าทรัพย์สินรวมอยู่ที่ 13,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และตามมาด้วยอันดับที่ 87 นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่ม ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินรวมราว 13,200 ล้านดอลลาร์