พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมกุยต๊ะ มรดกจากการต่อสู้
ประชา แม่จัน
pracha_meachun@yahoo.com

บ้านกุยต๊ะ หมู่ 6 ตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เป็นบ้านชาวปกากะญอ แยกจากถนนลาดยางสายอุ้มผาง – เปิ่งเคลิ่ง ที่บ้านกุยเลอตอไปตามถนนดินเป็นระยะทาง 6 กม. ชื่อ “กุยต๊ะ” แปลว่า “วังห้าม” หรือ วังน้ำเขตอภัยทาน ตำนานกล่าวว่า มีพระสงฆ์รูปหนึ่งได้มาบิณฑบาตห้ามจับปลาในวังแห่งนี้ จึงเรียกเป็นชื่อวังสืบต่อมา แต่มีข้อน่าสงสัยชาวปกากะญอในอุ้มผางนับถือศาสนาของพวกเขาที่เรียกว่า “เพอเจะ” ซึ่งคนไทยเรียกว่า “ฤาษี” ดังนั้นพระสงฆ์จึงไม่น่าจะมีอิทธิพลเหนือความเชื่อถือของชาวบ้าน
เพอเจะ มีหลักศีลธรรมเหมือนกับศีล 5 ส่วนการเรียกว่า “ฤาษี” เข้าใจว่ามาจากการแต่งกายของชาวปกากะญอ ผู้ชายไว้ผมยาว มัดมวยผม นุ่งโสร่ง

ที่มาของพิพิธภัณฑ์
ประมาณปี 2547 ชาวบ้านกุยต๊ะจำนวน 16 ครัวเรือน 96 คนได้พร้อมใจกันอดข้าว เนื่องจากขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ (ชาวบ้านเรียกว่า “อนุรักษ์”) ที่จำกัดพื้นที่การทำไร่หมุนเวียน ในการอดข้าวประท้วงทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจังหวัด วุฒิสมาชิก เช่น คุณเตือนใจ ดีเทศน์ ได้เดินทางมาเจรจากับผู้ประท้วงที่นำโดย จอวาโพ

ระหว่างการประท้วงพวกเขาได้รวบรวมเครื่องมือทำมาหากิน เครื่องจักสาน หัตถกรรม ต่างๆ และประกาศว่า “พวกเราจะวางมือจากการทำมาหากิน และยอมอดตาย ถ้าพวกเราทำไร่ไม่ได้”

โดยพื้นฐานการผลิต การทำไร่เป็นศูนย์กลางของธัญญาหาร นอกจากการปลูกข้าวแล้ว ในไร่จะมีการปลูกพริก ขิง ข่า ตะไคร้ ฟักทอง แตงต่างๆ มะเขือต่างๆ ยาสูบ งา และพืชอื่นๆ สำหรับการบริโภค แม้กระทั่งผู้ที่ทำนาต้องถางไร่ขนาดเล็กเพื่อปลูกพืชอื่นนอกเหนือจากข้าว ในขณะที่ การทำไร่ของเขา ดูเหมือนว่าเป็นการบุกรุกป่า แต่ความจริงการถางไร่จะวนรอบภายใต้พื้นที่ที่ชุมชนได้กำหนดให้เพาะปลูกได้ โดยรอบการทำไร่จะนาน 7 – 10 ปี ถึงวนกลับมาทำที่เดิม เราจะพบว่าป่าที่นี่ยังไม่เสื่อมโทรม ทั้งที่พวกเขาอยู่อาศัยมามากกว่า 200 ปี

การห้ามถางไร่ของเจ้าหน้าที่จึงเป็นการปะทะทางวัฒนธรรมและการดำรงชีพ นำมาสู่การแตกหักด้วยการประท้วง ดูเหมือนว่าเป็นต่อสู้อย่างสันติครั้งแรกของพวกเขา หลังจากที่พวกเขาได้เข้าร่วมต่อสู้ด้วยอาวุธกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยตั้งแต่ปี 2513 และวางอาวุธในปี 2525
เมื่อพวกเขายุติการอดข้าวประท้วง จึงได้รวบรวมเครื่องมือ เครื่องจักสาน และหัตถกรรมต่างและสร้างบ้านเป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับจัดแสดงและใช้ทำพิธีทางศาสนาทุกวันพระ

ชาวบ้านกับป่า
จอวาโพ ผู้นำชาวบ้านกลุ่มนี้ได้เคยกล่าวกับเจ้าหน้าที่ว่า “ป่าจะอยู่ได้เพราะทุกคนเป็นอนุรักษ์ พวกอนุรักษ์ไม่กี่คนรักษาป่าไม่ได้ ชาวบ้านทุกคนต้องเป็นอนุรักษ์ป่าถึงจะอยู่ได้” และมีความเห็นว่า “อนุรักษ์ควรให้ชาวบ้านเก็บกะวาน มะอิ หรือตาว ออกมาขาย ชาวบ้านจะได้รักษาผืนป่าตรงนั้น ระวังไม่ให้ไฟไหม้”

ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อุทยานโดยเฉพาะผู้รับผิดชอบถูกสงสัยว่ามีความรู้เกี่ยวกับป่าแค่ไหนจากชาวบ้าน เช่น การแนะนำให้เขาปลูกไม้ผล คำถามของพวกเขาคือปลูกทำไม ถ้าปลูกไว้กิน พวกเขามีผลไม้อยู่แล้วหลายชนิด ถ้าปลูกไว้ขายจะนำไปขายใคร รวมทั้งเจ้าหน้าที่ความไม่เข้าใจต่อวัฒนธรรมข้าวของพวกเขาและไม่เคยคิดนำชาวบ้านมาเป็นส่วนของการรักษาป่า แต่มองเขาเป็นผู้บุกรุก โอกาสเกิดความขัดแย้งกับชาวบ้านมีมากและสัมฤทธิผลในการรักษาป่าต่ำ

พิพิธภัณฑ์ชาวบ้าน

ภายในพิพิธภัณฑ์ ประกอบด้วย
กลุ่มเครื่องจักสานที่เป็นเครื่องมือการผลิตและเครื่องใช้ เช่น ชุดกันฝนที่สานจากตอก กระด้ง กระบุงขนาดต่างๆ คบขี้ไต้ เครื่องมือจับปลาประเภทต่างๆ ปฏิทินจันทรคติ กลุ่มนี้แขวนอยู่หน้าบ้าน
กลุ่มสิ่งทอ ประกอบด้วยย่าม ผ้าผูกผม ผ้าถุง โสร่ง เสื้อ ผ้าห่ม สิ่งทอเหล่านี้มีหลายลวดลาย และแขวนไว้ภายในบ้าน
กลุ่มเครื่องมือ เช่น เครื่องปั่นด้าย กลุ่มนี้วางไว้ด้านขวามือ
กลุ่มเครื่องดนตรี เช่น ตะนะ ระนาดเล็ก เป็นต้น กลุ่มนี้วางไว้ด้านซ้ายมือ

สิ่งของที่จัดเก็บสมควรที่สนับสนุนการจัดทำเป็นสารานุกรม เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับการศึกษาด้านสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา

เมื่อมาถึงบ้านนี้ พอดีเป็นวันพระ ชาวบ้านกลุ่มนี้กำลังชุมนุมในบ้านด้วยชุดแต่งกายชาติพันธุ์ เพื่อนร่วมคณะของเราขอซื้อโสร่งและย่าม จอวาโพ บอกว่า “ถ้าต้องการให้เลือกเอาไป ไม่ต้องซื้อ เพราะเขาไม่ขาย” จึงเกิดการต่อรองบอกกับเขาว่าให้คิดว่าเงินเป็นการบริจาคเพื่อซื้อด้ายมาทอใหม่ การต่อรองบรรลุผล จอวาโพยอมรับเงินจำนวนนั้น แต่เขาย้ำว่า “เราไม่ได้ขาย”


ที่มา
ประชา แม่จัน. “พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรม มรดกจากการต่อสู้กุยต๊ะ”.สยามปริทัศน์ (1 มค.2550-1 กพ.2550):53-54
ฐานข้อมูลท้องถิ่นในประเทศไทย
ภาพพิพิธภัณฑ์
พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมกุยต๊ะ

ประชา แม่จัน ผู้เขียน "อุ้มผางเบื้องหลังธรรมชาติ", จุลภาค, 2551





Create Date : 10 กรกฎาคม 2552
Last Update : 26 กรกฎาคม 2552 23:24:55 น.
Counter : 1499 Pageviews.

1 comments
ไปเที่ยวเมือง กวางโจว นะคะ catt.&.cattleya..
(28 พ.ย. 2567 15:25:02 น.)
โรงแรมที่มี"ชีวิต": กาศยปี (น้านุ่ม & น้าหนึม) peaceplay
(23 พ.ย. 2567 21:18:15 น.)
พักที่พักราชบุรี สวนผึ้ง สัมผัสธรรมชาติแล้วแวะเที่ยวที่ไหนดี สมาชิกหมายเลข 7627727
(21 พ.ย. 2567 11:34:05 น.)
ทนายอ้วนชวนเที่ยวใกล้ๆบ้าน - วัดแสงสิริธรรม นนทบุรี ทนายอ้วน
(18 พ.ย. 2567 12:18:32 น.)
  
ขอแปะ link ท่องเที่ยวของเราไว้หน่อยนะคับ

เทศกาลปีใหม่โล้ชิงช้า ปีใหม่ของชนเผ่าอาข่า ทัวร์3วัน2คืน เริ่ม 2,3,4,กันยายน52

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=khundoi&group=3


//www.hilltribeguide.com/autopage/show_page.php?h=1&s_id=3&d_id=4


โดย: guide doi วันที่: 13 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:24:19 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Wide.BlogGang.com

wideteam
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด