การทำไร่หมุนเวียน (ตอนที่ 2)
ประชา แม่จัน
ที่มา wide tour

การเก็บเกี่ยว

หลังจากหยอดข้าวแล้ว เจ้าของต้องดายหญ้าประมาณ 3 รอบ รอบแรกในเดือนกรกฎาคม รอบที่ 2 เดือนสิงหาคม ในรอบแรกและรอบที่ 2 มักจะต้องทำต่อเนื่องกัน เพราะวัชพืชโตเร็ว และต้นข้าวยังเล็ก รอบที่ 3 เดือนกันยายน เป็นการดายหญ้าเฉพาะวัชพืชต้นใหญ่ เพราะช่วงนี้ต้นข้าวสูงมากแล้ว รอบนี้จึงทำได้เร็ว

ข้าวไร่จะสุกประมาณปลายเดือนตุลาคม ชาวบ้านจะทำการเก็บเกี่ยว ในอดีตการเกี่ยวข้าวและตีข้าวจะเป็นการลงแขกเกี่ยวข้าว หลังจากการเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว เจ้าของไร่จะรวบรวมข้าวด้วยการแบกข้าว การแบกจะกองมัดข้าวในเสื่อลำแพนที่เตรียมช่วงเดือนกันยายน แล้วแบกไปกองรวมกัน

เมื่อกองข้าวเสร็จแล้ว ทุกคนในหมู่บ้านจะไปตีข้าว ระหว่างการตีข้าวจะมีการร้องเพลงโต้ตอบระหว่างหนุ่มสาว ในพื้นที่ที่ไม่ได้นับถือเพอเจะจะมีการกินเหล้า ช่วงการเก็บเกี่ยวในอดีตจึงเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข สนุกสนาน

สำหรับข้าวนา ตามปกติใช้ควายนวด ชาวบ้านจะไปที่ลานข้าวเหมือนการตีข้าวไร่ แต่กิจกรรมมีน้อยกว่า

ปัจจุบันการลงแขกเกี่ยวข้าวและตีข้าวหายไปหมดแล้ว การตีข้าวเริ่มเปลี่ยนการใช้รถตีข้าวแทน

หลังจากตีข้าวเสร็จจะเก็บข้าวเข้ายุ้ง ก่อนเก็บข้าวจะทำพิธีขอบคุณกับพิบุ๊โยที่ช่วยคุ้มครองและดูแลต้นข้าวมาทั้งปี เจ้าของไร่จะจัดดอกไม้ อาหาร เช่น มันเทศ มันสำปะหลัง ใส่ในตระกร้า เพื่อเลี้ยงพิบุ๊โยบนยุ้งข้าวที่ยังไม่มุงหลังคาและเชิญพิบุ๊โยกลับคืนสวรรค์ ในช่วงพิธีขอบคุณ เจ้าของไร่จะอธิษฐานล่วงหน้าให้พิบุ๊โยได้กลับมาคุ้มครองในฤดูการผลิตต่อไป


ความหลากหลายของพันธุ์ข้าว

ในเขตทุ่งใหญ่นเรศวร พันธุ์ข้าวพื้นเมืองมีอยู่มากมาย ตามปกติในไร่แต่ละผืนจะมีข้าวปลูกอย่างน้อย 4 สายพันธุ์ ในแต่ละหมู่บ้านจะมีมากกว่า 10 สายพันธุ์ การเลือกพันธุ์ข้าวขึ้นกับพื้นที่ไร่และการคาดการณ์ปริมาณน้ำฝน

ตัวอย่าง ชาวบ้านกรูโบ หมู่ 8 ตำบลแม่จัน บอกว่าเมื่อปีที่แล้ว (พ.ศ. 2547) ฝนแล้งเร็วทำให้ผลผลิตไม่ดี ข้าวลีบปีนี้จึงเปลี่ยนเป็นพันธุ์ข้าวที่สุกเร็ว ปรากฎว่า ฝนในปีนี้ (พ.ศ. 2548) มาช้าและตกนาน จนถึงเดือนพฤศจิกายน ทำให้ข้าวที่เกี่ยวแล้วต้องตากแดดและตากฝน คุณภาพข้าวต่ำ ถึงแม้ว่าปีนี้ผลผลิตจะดี เมื่อเวลาตำข้าว ข้าวจะแหลกไม่ค่อยเป็นเม็ด

ในอำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ฝนที่นั่นน้อยกว่าลุ่มแม่จัน พันธุ์ข้าวจึงเป็นพันธุ์ข้าวทนแล้ง

นอกจากข้าว พันธุ์พืชที่ปลูกในไร่ยังมีหลายสิบชนิด ดังนั้นในแต่ละไร่จึงมีความหลากหลายทางชีวภาพ ไม่มีความจำเป็นใช้ยาปราบศัตรูพืช


พิธีกรรมเกี่ยวข้องกับการเพาะปลูก

เนื่องจากการผลิตเป็นสิ่งสำคัญต่อดำรงอยู่ ดังนั้นจึงมีพิธีกรรมที่แสดงออกถึงความเคารพต่อธรรมชาติ พิธีกรรมชุดนี้รวบรวมพิธีกรรมของชาวปกากะญอ โดย พิพิธภัณฑ์ชาวเขา online

1. กินเชื้อข้าว

เชื้อข้าวที่เหลือจากการหว่านข้าวเจ้าของไร่จะกลับไปต้มเหล้า เรียกชายหนุ่มและหญิงสาวที่ปักหลุม และหยอดข้าวแรกมาดื่มด้วย พร้อมกับขอเชิญผู้เฒ่าผู้หนึ่งมาทำพิธีรินหัวเหล้าและอธิฐานขอพรจากเทพยดา ให้ลงมาดื่มหัวเหล้าและมาโปรดให้ข้าวเจริญงอกงามดี พิธีกรรมนี้เรียกว่า "พิธีกินเชื้อข้าว"

2. พิธีเลี้ยงผีไร่

เมื่อข้าวงอกงามเขียวชะอุ่มเต็มท้องไร่อายุประมาณ 2 เดือน จะมีพิธีอีกอย่างหนึ่งคือพิธีเลี้ยงไร่ พิธีเลี้ยงไร่มีพิธีย่อยอีกหลายพิธีแยกตามวัตถุประสงค์ ได้แก่พิธีเลี้ยงไร่ขอพร พิธีเลี้ยงไร่ปัดรังควาญ พิธีเลี้ยงไฟ พิธีเลี้ยงขวัญข้าว และพิธีเลี้ยงไร่ไล่ความชั่ว ทั้งหมดนี้จะใช้เครื่องเซ่นไหว้ และการทำพิธีจะเหมือนกัน แต่จะต่างกันที่คำอธิฐาน ซึ่งได้บ่งบอกถึงวัตถุประสงค์ของแต่ละพิธีเอาไว้

3. พิธีเลี้ยงผีไร่ขอพร

พิธีเลี้ยงไร่ขอพรเป็นพิธีย่อยขั้นแรก วัตถุประสงค์เพื่อขอพรจากเทพยดาให้ลงมาโปรดให้ข้าวงอกงามเจริญเติบโตและได้ผลผลิตที่ดี เครื่องเซ่นไหว้ในพิธีประกอบด้วยไก่หนึ่งตัว เหล้าสองขวด หมากสองคำ บุหรี่สองมวน พริก เกลือและปูนขณะทำพิธีจะมีการอธิฐานดังนี้ "เจ้าแห่งโลกเจ้าแห่งแผ่นดินเอ๋ย วันนี้เลี้ยงท่าน โปรดลงมาดื่มหัวเหล้ากินหัวข้าวด้วยเถิด จงบันดาลให้ข้าวเจริญงอกงามดี เพื่อข้าและครอบครัวจะได้เป็นเจ้าของยุ้งเจ้าของฉางด้วยเถิด

4. พิธีเลี้ยงไร่ปัดรังควาญ

คำอธิฐานของพิธีกล่าวว่า "ไร่เอ๋ยขณะที่ข้าทำมาหากินบนเจ้าอาจจะมีสัตว์ป่า เก้งร้องทัก เสือร้องทัก งูเลื้อยผ่าน ตะขาบเลื้อยข้าม ทำให้เจ้าได้รับความเดือดร้อน วันนี้ข้ามาเลี้ยงปัดรังควาญให้เจ้า ให้เจ้าจงได้รับความสงบร่มเย็นกลับคืนมาด้วยเถิด"

5. พิธีเลี้ยงเทพอัคคี

คำอธิฐานของพิธีกล่าวว่า "ไฟเอ๋ย ใช้เจ้าให้เผาไหม้รอยมีดรอยขวาน ตนไม้นอนราบต้นไผ่นอนลง ทำให้เจ้ามีความรุ่มร้อน วันนี้ข้ามาเลี้ยงเจ้าให้สงบและเย็นลง อย่างได้ร้อนถึงข้าว อย่างได้ร้อนถึงพืชพรรณต่างๆในไร่เลย"

6. พิธีเลี้ยงเทพขวัญข้าว

คำอธิฐานของพิธีกล่าวว่า " ปรือ..ขวัญข้าวเอ๋ย จงกลับมาเถิด พันธุ์ข้าวสิบอย่าง พันธุ์ข้าวจากทิศเหนือ จากทิศไต้ ขอจงกลับมาวันนี้ กลับมาอยู่ในไร่กลับมาอยู่ในนา ให้กลับมาอุดมสมบรูณ์เต็มท้องไร่ด้วยเถิด

7. พิธีไล่ความชั่วในไร่

คำอธิฐานของพิธีกล่าวว่า " ไร่เอ๋ย วันนี้ข้ามาเลิ้ยงเจ้าเพื่อปัดเป่าความชั่วร้ายให้หมดสิ้นไป ปัดเป่านก ปัดเป่าหนู ปัดเป่าปลวกให้ออกไป หากมีสิ่งใดมากินเจ้า ขอให้ความเหี่ยวเฉาจงตามสิ่งนั้นไปเถิด"



Create Date : 16 สิงหาคม 2554
Last Update : 16 สิงหาคม 2554 23:40:09 น.
Counter : 887 Pageviews.

0 comments
Bopiliao Historical Block, The Red House, Rainbow Rd. สายหมอกและก้อนเมฆ
(23 พ.ย. 2567 19:46:13 น.)
โรงแรมที่มี"ชีวิต": กาศยปี (น้านุ่ม & น้าหนึม) peaceplay
(23 พ.ย. 2567 21:18:15 น.)
春和歌山県 : Wakaura Tenmangu Shrine mariabamboo
(18 พ.ย. 2567 07:37:24 น.)
ททท.สุดปลื้ม นักท่อวเที่ยวสนใจในงาน สีสันแห่งน้ำ มหกรรมลอยกระทงที่คลองผดุงกรุงเกษม อุ้มสี
(17 พ.ย. 2567 00:54:07 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Wide.BlogGang.com

wideteam
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด