วันฝนพรำ ที่อัมพวา (ตอนที่ 1) ![]() (ตอนที่ 1) 23 ตุลาคม 2551 สวัสดีค่ะ มาชมแล้วค่ะ
โดย: บี่บี๋ IP: 115.67.209.57 วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:8:45:07 น.
รูปสวยมากค่ะ ไปหลายครั้งแล้ว แต่ไม่สามารถละมือจากกราบเรือได้ กลัวตกน้ำตายอายมัจฉา เลยไม่เคยมีรูปที่ถ่ายเองสักครั้ง นอกจากเวลาอยู่บนบก ขอบคุณมากค่ะ แมวน่ารักจังเลยค่ะ
โดย: บี่บี๋ IP: 115.67.209.57 วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:8:57:32 น.
ขอบคุณครับ คุณบี่บี๋... เสียดายที่ตลอดทั้งทริป แดดไม่ค่อยมีเลย ภาพเลยออกมาแบบทึมๆ เศร้าๆยังไงไม่ทราบ ทั้งๆที่ผม ชอบทริปนี้มาก ได้ทำอะไรดั่งใจ แม้จะไม่คุ้นเคยกับทางน้ำก็ตาม แต่คนขับเรือเหมือนจะรู้ใจ ชลอเรือให้ตลอด เวลาที่เรายกกล้องขึ้นถ่าย.....
![]() โดย: wicsir
![]() ไม่ทึมค่ะ นี่ละสีงามละมุน ไม่แจ๋แจ้น ดูแล้วเย็นตาเย็นใจดีค่ะ บ้านก็สีสวยเทคนิคคัลเล่อร์ ไม่เคยค้างเลยสักครั้งเดียว ดึกหน่อยก็ค่อยเกาะกลุ่มขับตามกันกลับค่ะ
อยากมีบ้านริมคลองอยู่ แต่ผู้ใหญ่ในบ้านท้วงว่า อย่าเลย เพราะคาดว่าคงตกน้ำตายตั้งแต่อยู่วันแรกค่ะ จับหิ่งห้อยได้หรือเปล่าคะ... ดีใจที่มีความสุขกับทริปนี้ คนขับเรือที่อัมพวา จงเจริญ ไชโย... โดย: บี่บี๋ IP: 115.67.209.57 วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:10:33:32 น.
ลืมบอกค่ะ มีเพลง ของนพดล ชาวไร่เงิน คนที่ร้อง ลาทีปากน้ำ ได้ไพเราะสุดๆ เพลงอัมพวา นี่ละค่ะ เพราะอีกเหมือนกัน มันน่าจะมีเพลงนี้ในบล๊อกด้วยน้า...
โดย: บี่บี๋ IP: 115.67.209.57 วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:10:36:07 น.
เห็นของเล่นเด็ก ที่เป็นดินเหนียวปั้นกลวง ปิดทับด้วยกระดาษหลากสีสัน มีเชือกร้อย มัดกับปลายไม้สักคืบแคบๆ ที่เวลาหมุนแล้วดังเพราะแรงเสียดทานหนืดๆกับชัน หลอกเด็กเล็กได้ชงัดนักนั้น... แล้วอยากทานขนมถังแตก
ตอนเด็กๆ เวลาตลาดมีงิ้ว เขาจะมีพวกป๋องแป๋ง สารพัดแบบ ใช้ไม้เสียบที่แกนอันประกบด้วยฟางข้าวมัดแน่น แล้วมีแบบนี้ด้วยค่ะ จำเพาะจะต้องอยู่ใกล้ๆกับขนมถังแตก....นี่ขนาดทานข้าวอิ่มแล้วนะคะ...เดี๋ยวงานเลิกมาดูใหม่ ติดใจค่ะ โดย: บี่บี๋ IP: 115.67.209.57 วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:12:51:54 น.
เลิกงานแล้วค่ะ
ขอเล่าเสริมเรื่อง อัมพวา สวนมะม่วงในพุทธประวัติที่คุณเล่านิดนึงนะคะ ทางไปเขาคิชกูฎ มีชีวกัมพวัน หรือวัดสวนมะม่วง ซึ่งหมอชีวกโกมารภัจจ์ หมอประจำพระองค์พระเจ้าพิมพิสารและพระเจ้าอชาตศัตรูสร้างถวายพระพุทธเจ้า บริเวณนี้เป็นที่ ที่พระเจ้าอชาตศัตรูได้พบพระพุทธองค์ครั้งแรกหลังจากทำปิตุฆาต (ประหารพระเจ้าพิมพิสาร พระราชบิดา)และสมรู้ร่วมคิดกับเททวทัตต์พยายามประหารพระพุทธองค์ เมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูทราบว่าเทวทัตต์ถูกธรณีสูบ จากการกลิ้งหินลงจากเขาคิชกูฎหมายสังหารพระพุทธองค์ ก็เกิดความกลัวบาปที่ฆ่าพ่อ จึงอยากไปคุยกับใครที่จะทำให้พระองค์ทรงสบายพระทัย หมอชีวกฯ จึงพามาเฝ้าพระพุทธองค์ที่นี่ค่ะ หลังจากนั้นจึงทรงเป็นพุทธมามกะที่เคร่งมากค่ะ มีเล่าแถมอีกเรื่อง คงจำชื่อวัสสการพราหมณ์ได้นะคะ หลังจากยุแหย่ให้กษัตริย์ลิจฉวีทำสงครามกัน แล้วรู้ตัวว่าถ้าตายไป จะไปเกิดเป็นลิงอยู่ที่วัดเวฬุวนาราม นี่ก็เป็นวัดในเรื่องพระพุทธศาสนาเหมือนกัน จึงรีบมาปลูกต้นผลไม้ไว้มากๆ เพื่อเอาไว้กินตอนเกิดเป็นลิง เพราะเวฬุ แปลว่าไผ่ ไม่เคยเห็นลิงกินหน่อไม้ เคยเห็นแต่ลิงกินกล้วย เหมือนค้างคาว..กินกล้วย จากเพลงเพราะๆเพลงนั้นค่ะ และวัดอัมพวันทั้งหลายในเมืองไทย จึงมักมีต้นมะม่วงมากมาย เช่นวัดอัมพวัน สิงห์บุรี ท่านอาจารย์จรัลค่ะ โดย: บี่บี๋ IP: 115.67.145.202 วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:15:08:48 น.
เห็นคำว่า "บางช้าง" ก็อยากเล่าอีกแหละ
สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี หรือ สมเด็จพระอมรินทรามาตย์ในตอนแรก เป็นพระบรมราชินีในรัชกาลที่ 1 สมรสตั้งแต่เป็นหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี สมัยก่อนเสียกรุง เป็นพระราชมารดา ร.2 ประสูติในตระกูลคหบดีมอญ ที่อัมพวา ต.บางช้าง สมุทรสงคราม ว่ากันว่าสมัยก่อนเดินทางโดยเรือ สามสิบสองคดจึงจะออกแม่น้ำเจ้าพระยาได้ บ้านของหลวงยกกระบัตรราชบุรี เป็นที่พระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ปัจจุบันคือวัดอัมพวันเจติยาราม ที่หน้าบันสวยแปลกกว่าวัดอื่นนั่นละค่ะ สมเด็จพระอมรินทราฯ เป็นคนขี้หึง จนมีกวีแต่งไว้ว่า "มเหษีขี้หึงเหมือนหนึ่งเสือ" เพราะพระราชสวามี ทรงจำเป็นต้องมีพระราชโอรส เพื่อพระราชวงศ์มั่นคง เข้มแข็ง จึงทรงต้องมีพระสนมกำนัลมากมาย ตามพระราชประเพณีโบราณ ที่ต้องมีถึง สิบสองท้องพระกำนัล จึงไม่ได้ประทับร่วมกัน ไม่พูดกันจนตลอดชีวิตค่ะ โดย: บี่บี๋ IP: 115.67.145.202 วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:16:02:32 น.
ภาพก่อนสุดท้าย ที่มีเนื้อเพลง...พรานทะเล แล้วคุณรำพึงรำพันว่า...เพราะสภาพบรรยากาศที่เป็นใจอย่างนี้...มิน่าล่ะครูเอื้อถึงได้บรรจงสร้างสรรผลงานเพลงที่เป็นอมตะ.....มันน่าจะรวมกับความรัก ของครูเอื้อ ต่อดอกฟ้า อาภรณ์ กรรณสูต ด้วยนะคะ จึงมีเพลงไพเราะมากมายที่เป็น อมตะนิรันกาล สุนทราภรณ์ ก็มาจาก สุนทร บวกกับ อาภรณ์ นั่นไงคะ
เหมือนเพลง อุษาสวาท ที่คุณสุรัฐ พุกกะเวส แต่งให้ภริยาท่าน คือคุณอุษา พุกกะเวสค่ะ เออหนอ..... แค่เคยไปมาหลายเดือนแล้ว.. ยังรำลึกความหลังเกี่ยวกับ อัมพวา ได้ซาบซึ้ง.. อวลไปด้วยกลิ่นอายอันอ่อนหวาน ได้มากมายปานฉะนี้เจียวหนอ.... โดย: บี่บี๋ IP: 115.67.145.202 วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:16:22:01 น.
คุณบี๋ครับ... เมื่อก่อนผมรู้จักคนมาอ้านบล๊อกผมคนหนึ่ง เขาใช้นามว่า นีลา เธอเล่าอะไรเกี่ยวกับพุทธองค์ได้ดีมากๆ วันนี้ผมได้ความรู้เพิ่มจากคุณบี๋เยอะมากครับ และขอบคุณที่กรุณา....
พอคุณพูดถึงเพลง ลาทีปากน้ำ ทำให้นึกถึงอีกเพลง คือลาแล้วลำปาง เพราะดีเช่นกัน.... แต่ลาทีปากน้ำที่นพดล ชาวไร่เงิน ร้องนั้ซาบซึ้งจริงๆ นะครับ... ขอบคุณอีกครั้งที่เข้ามาช่วยเสริมเรืองดีๆให้กับบ้านนี้ครับ. ![]() โดย: wicsir
![]() อ้ออีกอย่างที่ลืมตอบคุณบี๋ไป คือบ้านที่เขาทำหลากสี คือแต่ละหลังสีต่างกันไป เพราะความเห็นที่ต่างกันของ พี่น้อง ในบ้าน เขาก็เลยทำให้ถูกใจกันทุกคน เลยออกมาเหมือนที่เห็นแหละครับ
![]() โดย: wicsir
![]() ดีจังค่ะ แสดงว่ามีพี่น้องหลายคน เห็นบ้านเล็กๆน่ารักอย่างนี้แล้วคิดถึงคุณยายค่ะ แต่ก่อน ตอนที่มีเวลานั้น เวลาคุณยายไปอยู่วัด เรียกว่าอยู่กุฏิ อยู่ปริวาส กุฏิหลังน้อยกว้าง 2 เมตร ยาว 3 เมตร มีห้องน้ำขนาดกระทัดรัดอยู่ส่วนหลัง อยู่ครั้งละ 7 วัน กินเอ้กา (สำรวมมื้อเดียว) แล้วรับสัจจะ ไม่พูดกับใครเลย
เคยไปอยู่เป็นเพื่อนท่าน แต่ไม่ได้รับสัจจะ กินแค่ก่อนเพล นั่งวิปัสนา เข้ากรรมฐาน ก็ทำไปตามประสาเด็กค่ะ โดย: บี่บี๋ IP: 115.67.145.202 วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:20:36:13 น.
น่าจะอีกเพลงที่ นพดล ชาวไร่เงินร้องคือเพลง "คู่ทาส" เคยได้ยินไหมครับ...
..ขอครวญคำข้ามฟ้าลอยมาแด่เธอ น้ำคำวอนคลั่งเพ้อละเมอจากใจ รักเราสองสัมพันธ์แต่รักนั่นอยู่ไกล เฝ้าหลงอาลัย..ร้องครวญไปฝากหัวใจลอยล่อง... ..เป็นกะลาให้ถือแม้เธอคือขอทาน เป็นบัลลังก์ตระการแม้เธอเป็นนางพญา เป็นโลงทองรองรับแม้ดับชีวา เป็นวิมานผ่านฟ้าแด่เทพธิดานงคราญ ![]() โดย: wicsir
![]() ทำไมขึ้นวรรคเดียวแล้วจบเลยล่ะ เพลงอะไรสั้นจุ๊ดจู๋
เป้นโลงทองรึ มันต้อง.... เธอคือโคมทองของชีวิตพี่....สิ ของสุเทพเพราะดีออก โดย: บี่บี๋ IP: 124.121.32.236 วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:22:08:40 น.
กำนันคะ คู่ทาส คนร้องน่าจะชื่อ ยรรยง เสลานนท์นะคะ เพิ่งนึกได้เลยลองถามดูค่ะ แต่ใครร้องก็ไม่เป็นไร ท้วงไว้ก่อน คนอื่นมาอ่านทีหลัง จะได้ไม่ท้วงไงคะ อิอิ....
โดย: บี่บี๋ IP: 124.121.32.236 วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:20:27:55 น.
น่าจะใช่เนาะ....โง่อีกแล้ว ขอพระอภัยมณีครับคุณบี๋...
![]() โดย: wicsir
![]() ไม่โง่หรอกค่ะ แค่จำผิดนิดเดียวเอง...อิอิ
โดย: บี่บี๋ IP: 115.67.69.215 วันที่: 30 ตุลาคม 2551 เวลา:10:52:31 น.
พี่ค่ะ เยี่ยมมากค่ะทริปนี้ ให้รายละเอียดเยอะดี ขยันจริง ๆ ขอคารวะ อิอิ ..อยากไปจังเลย...
โดย: Pleja IP: 117.47.175.229 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:14:07 น.
คนกำลังฮิตกัน.... น่าไปครับ ถ้าช้ากว่านี้อาจจะไม่เหมือนเดิม....ขอบคุณที่แวะมานะครับ
![]() โดย: wicsir
![]() สวัสดีค่ะ
ตามมาเที่ยวค่ะ น่าสนใจมาก ภาพสวย เรื่องเล่าดี เมื่อไรจะได้ฟัง..ลาทีปากน้ำ... กับลาแล้วลำปางหนอ... เพลงแรกรู้จัก เพลงหลังไม่รู้จักค่ะ รู้จักที่นี่เพราะมาฟังเพลงแท้ๆเลย.... โดย: สมใจ IP: 203.144.187.19 วันที่: 6 ธันวาคม 2551 เวลา:13:25:59 น.
มาเยี่ยมชมค่ะ ทิ้งระยะมานานพอสมควร แต่อัมพวาก็ไม่เคยหลับไหลนะคะ คุณ wic ไม่ได้มา 2-3 ปีแล้ว คงต้องมารำลึกความหลังหน่อยหล่ะค่ะ ![]() โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ
![]() |
บทความทั้งหมด
|