ขับไป-เที่ยวไป จากเขื่อนป่าสัฯ ถึงโคราช จากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ถึงโคราช 25 ตุลาคม 2008 ดอกทานตะวันบานแล้วเหรอค่ะ สวยจัง ยังไงจะตามไปชมดอกทานตะวันค่ะ ถ่ายรูปมาสวยจัง เมื่อไหร่เราจะถ่ายรูปได้ออกมาสวย ๆ เหมือนเค้าบ้างนะ
โดย: เคียงหมอก วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:02:28 น.
สวัสดีครับ คุณตุ๊ก......
ไม่เจอกันนานนะครับ นึกว่าเลิกเขียนบล็อกแล้ว ครับวันที่ไปถึงคนเยอะมาก เห็นที่จอดรถเต็มไปหมด ขนาดตอนเช้าที่เข้าไปถ่ายภาพอีกครั้ง เขายังนั่งล้อมวงทานอาหาร และเปิดเพลงกันสนุกมาก.... มีคนเขาบอกเหมือนกันว่าลาดหน้าที่นั่นอร่อย แต่คนเยอะเลยไม่ได้ไปที่โรงทานเขานะครับ.... ขอบคุณที่แวะมาครับ สวัสดีครับเคียงหมอก.. ทานตะวันเริ่มบานครับ ในวันที่ไป..... ผมเองก็อยากได้ภาพสวยๆ เหมือนที่เขาโฆษณาเหมือนกัน แต่แถวๆวังม่วงเพิ่งจะเริ่มบานแค่นั้นเอง เสียดายจัง...... ขอบคุณสำหรับคำชมเรื่องภาพ และการแวะมาอ่านนะครับ. โดย: wicsir วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:59:21 น.
แวะมาอีกที หลุมที่ว่า หลุม 10 ไงคะ เราตีตกน้ำค่ะ แต่ถ่ายจากทีออฟ หญิง ของชาย น่าจะ 137 หลาค่ะ
คุณภาพสนามที่ไปคราวนี้ เยี่ยมมาก แต่เป็นรองแค่เชียงใหม่ไฮแลนด์ สนามถัดไปค่ะ ก็ไปทัวร์นี้ค่ะ 7 วันเต็มรวมเดินทาง พักอีก 2 วัน เลยเพิ่งโผล่มาค่ะ โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:30:05 น.
โอ๊ย....ตาร้อนๆ ครับ อาจจะปลายๆปี รองานซาๆก่อนแล้วอาจจะตามรอยไปนะครับ
โดย: wicsir วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:35:16 น.
เป็นทริปที่เก็บเกี่ยวที่เที่ยวที่ดัง.ดังไว้ได้หมดเลยนะคะเนี่ย
เส้นนี้ nLatte ก้อไปบ่อยๆ แต่ยังมีบางที่ยังไม่ได้เข้าไปแวะชมเหมือนคุณ wicsir เลยค่ะ ขอบคุณที่นำภาพสวยๆมาฝากกันนะคะ โดย: nLatte วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:52:41 น.
สวัสดีครับ คุณ nLatte..
ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยมเยือนกัน.... ก็อย่างว่าน่ะครับ มีโอกาสเดินทางซักครั้ง ต้องไปรื้อฟื้นความทรงจำ.... ผมชอบเดินทางลัดมาทางนั้นครับ ธรรมชาติสวยดี แถมได้เห็นไร่คนดังหลายคน.... เขื่อนป่าสักฯวันนี้ สวยงามน่าเที่ยวครับ. โดย: wicsir วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:21:46 น.
สวัสดีครับ คุณอุ้มสี....... ขอทั้งสามชิ้นเลยนะครับ หิว
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ โดย: wicsir วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:20:17 น.
ไปเที่ยวมาแล้วคร้าบ
ทั้งเขื่อนป่าสัก ทั้งฟาร์มโชคชัย หนุกดีนะคับ โดย: chalawanman วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:09:40 น.
สวัสดีค่ะ รูปสวยมากๆ เรื่องละเอียด น่าตามไปมากค่ะ ค่ะ เคยผ่านไปแต่ไม่เคยมีเวลาแวะเลยค่ะ โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:5:52:43 น.
สวัสดีครับ คุณ chalawanman...
ขอบคุณที่แวะมาทักทาย ผมยังคิดว่าจะหาเวลาไปนั่งรถไฟข้ามทะเลสาบ เขื่อนป่าสักซักครั้งเหมือนกัน รถออกประมาณ 06.00 น ข้ามน้ำขึ้นไปด้านเหนือ และลงที่สถานีถัดไป แล้วนั่งอีกขบวนย้อนกลับ.... อยากได้ภาพน่ะ.. สวัสดีครับ sweety ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ เห็นภาพในบล็อกคุณก็สวยมากเช่นกันครับ คงได้แวะไปชมภาพถ่ายบ่อยๆครับ โดย: wicsir วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:8:56:47 น.
สวัสดีค่ะ
เดินแบกกลดมา เพิ่งมาถึงค่ะ สวยมากค่ะ โดย: บี่บี๋ IP: 115.67.47.181 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:50:15 น.
ขอยืนยันอีกคนว่า ถ่ายรูปได้สวยจริงๆค่ะ
โดย: นีลา IP: 115.67.117.80 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:24:44 น.
วิหารหลวงปู่โต ทั้ง สองภาพงามมาก ยอดเจดีย์มองดูสูงราวกับทาบนภา กลุ่มเมฆขาวสะอ้านบนฟ้าใส ยิ่งทำให้ความงดงามเพิ่มขึ้น
ขอเชิญชวนเพื่อนผู้ชอบเดินทางสวดมนตร์ถวายเป็นพุทธบูชา บทสวดพระคาถาชินบัญชร แม้เพียงมีในบ้าน ก็เป็นศิริมงคลยิ่งนักแล้ว ทั้งหมด 38 บรรทัด ถ้าตั้งใจท่องจำ ก็จะเป็นเนื้อนาบุญคุ้มเกล้าปกเกศ ป้องกันภยันตรายทั้งปวง หากยังจำไม่ได้ ขอให้ท่อง 4 บรรทัดแรกให้ได้ ท่องให้คุ้นปากเคยใจ ท่านจะประสบแต่สิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลตลอดไป โดย: บี่บี๋ IP: 115.67.2.233 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:6:57:31 น.
ตามประสาศิษย์หลวงปู่โต ที่ได้รับทราบมาว่า "ศิษย์ปู่โต ไม่มีวันตายโหง" อยากเล่าให้เพื่อนเด็กๆที่ยังไม่ทราบฟังว่า...
ปู่โต เกิดที่กำแพงเพชร ท่านโยมมารดา ชื่องุด เป็นลูกสาวของชาวนาผู้มีฐานะ ท่านโยมบิดา คือเจ้าพระยาจักรี แม่ทัพใหญ่ของพระเจ้ากรุงธนบุรี (พระเจ้าตาก) เมื่อแรกพบนั้น ท่านแม่ทัพควบม้ามาไกล และเหนื่อยมากทั้งคนและม้า เมื่อเห็นที่นามีบ้านคนจึงแวะ หวังขอน้ำดื่ม รวมทั้งให้น้ำม้า ได้พบเพียงสาวน้อย จึงขอน้ำดื่มสาวน้อยตักน้ำฝนจากตุ่มด้วยขันใบใหญ่ แต่โรยมาด้วยเกษรบัวหลวง (อีกฉบับหนึ่งว่าเธอหักแฝกชายคาบ้านใส่ลงไปเล็กน้อย) ท่านแม่ทัพฉงนมาก แต่ด้วยความกระหาย จึงก้มเป่าสิ่งที่ลอยในขัน แล้วค่อยๆดื่ม จนอิ่ม สาวน้อยก็ให้น้ำม้า เมื่อหมดกระหาย ก็ถามสาวน้อยว่า ก็เห็นอยู่ว่า หิวน้ำมาก เพราะเหตุใดจึงแกล้งเช่นนี้เล่า สาวน้อยตอบว่า เพราะเห็นว่าท่านกระหายมาก เกรงว่าท่านจะรีบดื่ม แล้วจะสำลัก มิได้ต้องการกลั่นแกล้งท่านแต่ประการใด หมดกระหาย ลมบ่ายก่อนค่ำเย็นลง ด้วยพูดคุยกันอย่างสบอัธยาศัย และชอบพอ จึงรอสู่ขอกับพ่อแม่ ซึ่งเมื่อเห็น จากการแต่งกายก็ทราบว่าเป็นผู้มียศ ท่านแม่ทัพก็นบนอบขอเป็นเขย โดยถอดแหวนทองคำวงใหญ่จากนิ้วให้ไว้เป็นประกัน ทำหนังสือรับรองว่าจะมาไถ่คืนในราคา 20 ชั่ง ท่านแม่ทัพก็พักอยู่ ณ บ้านน้อยกลางนา โดยได้นำเงินมาไถ่แหวนคืนแล้ว แต่ด้วยอยู่ระหว่างออกทัพ จำเป็นต้องไปปฏิบัติหน้าที่ ก่อนจากภรรยาผู้กำลังตั้งท้องอยู่นั้น ได้ให้ "รัดประคต"ไว้ เพื่อให้ลูก เพราะยามศึกอย่างนี้ ไม่ทราบเมื่อใดจะได้พบกันอีก ท่านแม่ทัพได้อุดหนุนครอบครัวภริยาของท่าน ให้เป็นปึกแผ่นไว้เผื่อบุตรในวันข้างหน้า โดยไปตั้งถิ่นฐานที่เมืองพิจิตร เจ้าเมือง ข้าราชการต่างก็ทราบว่า นี่คือบ้านของภริยาท่านแม่ทัพ จนถึงคราตัดจุก เจ้าเมืองและข้าราชการต่างมาร่วมทำพิธี ใช้กรรไกรตัดจุก มีพิธีโกนด้วยมีดนาค ด้ามเงิน และด้ามทอง ตามประเพณี เรียกว่า "มีดสามกษัตริย์" แล้วจึงอุ้มไปนั่ง "เตียงเบญจา" ที่ชานเรือน แล้วเจ้าเมืองจึงนำรดน้ำอวยพร เช้าวันรุ่งขึ้นทำบุญตักบาตรเช้า และทำพิธี ที่เรียกว่า "พิธีตั้งระเบียนบายศรี" คือการเวียนเจิมขวัญ และทำพิธีรำพันขวัญ เพื่อให้ขวัญอยู่กับเนื้อกับตัว เพื่อให้พร้อมที่จะบรรพชาเป็นสามเณรในเดือนแปด ที่วัดใหญ่ เมืองพิจิตร และเณรน้อยเอาใจใส่ต่อการเรียนทั้งบาลี สันสกฤต เลขผาหน้าไม้ ไวยากรณ์อย่างครบถ้วน เมื่อบวชเรียนได้ สามพรรษา อยากเล่าเรียนพระปริยัติศาสนาต่อ จึงกราบเรียนอุปัชฌาย์ แต่ตำราสูญหาย จึงนำไปฝากเรียนกับพระครูที่เมืองชัยนาท จนอายุ 18 ปี จึงมาเรียนต่อกับหลวงพ่อแก้วที่วัดบางลำพู และสามเณรโตเทศน์มหาชาติได้ไพเราะจับใจยิ่ง เทศได้ทั้ง 13 กัณฑ์ โดยทำเสียงเล็กแหลม ทำเสียงหวานแจ่มใส เสียงโฮกฮากได้ กลเม็ดมหาพนและแหล่สระแห่ราชสีห์ได้ยอดเยี่ยม มีชื่อเสียงโด่งดังมาก โยมอุปัฏฐากสามท่าน คือ พระโหราธิบดี พระวิเชียร และเสมียนตราด้วง ประชุมอภิปรายถึงบุคลิกภาพของเณร และสิ่งที่มี คือรัดประคตหนามขนุน สงสัยว่าไม่ใช่คนธรรมดา จึงนำไปถวาย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร เจ้าฟ้าฯมีรับสั่งถามว่าอายุเท่าใด.. เกิดปีอะไร.. บ้านเกิดอยู่ที่ไหน.. โยมผู้ชายชื่ออะไร เณรทูลตอบว่า "ไม่รู้จัก" แต่เจ้าของรัดประคตนี้โยมแม่ให้มาและบอกว่า เป็นของเจ้าคุณท่านแม่ทัพ ขอถวายพระพร สมเด็จเจ้าฟ้ารัชทายาทราชบัลลังก์แห่งกรุงสยาม เข้าใจในความหมายนั้น.... โดย: บี่บี๋ IP: 115.67.2.233 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:7:54:16 น.
เยี่ยมมากครับคุณบี๋..... ถ้ามีโอกาสเขียนเกี่ยวกับหลวงพ่อโตอีก ผมขออนุญาตนำไปอ้างอิงนะครับ..... ขอบคุณอีกครั้งสำหรับข้อมูลนี้.
โดย: wicsir วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:12:25 น.
ยินดีค่ะ ขอตอนพักกลางวันนะคะ จะรีบกินข้าวอย่างจรวด แล้วจามาโม้ให้ฟังค่ะ ..อิอิ
โดย: บี่บี๋ IP: 115.67.2.233 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:45:40 น.
เจ้าฟ้ารัชทายาท รับสั่งกับพระโหราธิบดีว่า "ฟ้าดีใจมากที่คุณพระนำสามเณรองค์นี้มาถวายตัว เชื่อว่าสามเณรองค์นี้คือช้างเผือกจากป่า และขอรับไว้ในพระอุปถัมภ์ แต่ให้คุณพระดูแลแทน.."
ทรงมีรับสั่งกับสามเณรว่า "ขอร้องอย่าสึกเลย เพราะแน่ใจว่าจะได้เป็นใหญ่เป็นโตทางศาสนจักรต่อไป ยินดีช่วยเหลือทุกอย่าง" และทรงให้ สามเณรอยู่กับสมเด็จพระสังฆราชมี วัดมหาธาตุ ได้ศึกษาวิชาความรู้จนแตกฉาน เมื่อสามเณรอายุครบ 21 ปี ทรงมีรับสั่งให้คุณพระโหราธิบดีจัดการบวชให้ที่วัดตระไกร พิษณุโลก โดยให้ทำขวัญนาค เวียนเทียน แต่งตัวแบบนาคหลวง พร้อมทั้งมีท้องตรา คือพระกระแสรับสั่งเป็นทางการ ให้เจ้าเมืองพิษณุโลกรับหน้าทีแทนพระองค์จัดการบวชให้เรียบร้อย รวมถึงเจ้าเมืองกำแพงเพชร พิจิตร พิชัย(อุตรดิตถ์) และชัยนาท เจ้าคุณสมเด็จพระวันรัตเจ้าอาวาสวัดระฆังเป็นผู้แทนสมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระครูแก้ว วัดบางลำพู เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการวัดตระไกร พิษณุโลก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ สมเด็จพระวันรัตเป็นพระอาจารย์สอนพระปริยัติธรรมจนจบแตกฉาน ช่ำชอง สมเด็จเจ้าฟ้าถวายตัวเป็นโยมอุปัฏฐาก ต่อมาสมเด็จเจ้าฟ้า ได้ทรงทำพิธีฉลองพระอิสริยยศเป็นพระมหาอุปราช พระภิกษุโต ได้เข้าเฝ้าถวายพระพรชัยมงคล ได้รับพระราชทานเรือพระที่นั่งของพระองค์ 1 ลำ มีกราบเป็นสี โปรดให้เป็น "มหาโต" มีหน้าที่เข้าไปถวายพระพรชัยมงคล เมื่อเจ้าฟ้าเถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็นพระเจ้าแผ่นดิน มหาโตบวชได้ 12 พรรษา ได้ลงโบสถ์ร่วมสังฆกรรมกับพระสังฆราชมี และพระสังฆราชพระองค์ใหม่ พระสังฆราชนาค ประทับที่วัดมหาธาตุ ต่อมาเจ้าฟ้าพระองค์ใหญ่จะทรงผนวชเป็นสามเณร โปรดฯให้ทรงผนวชที่วัดมหาธาตุ มหาโตเป็นพระพี่เลี้ยง จนถึงทรงผนวชเป็นพระภิกษุที่วัดราชาวาส มหาโตก็ถวายความสะดวก จึงทรงคุ้นเคยกันมาก ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มหาโตสูญเสียโยมมารดา ท่านแบ่งปันทรัพย์ให้ญาติโยมแล้ว จึงจัดสร้างพระนอนองค์ใหญ่ ที่ อ.ป่าโมกข์ อ่างทอง ใช้เวลาสร้าง 25 ปี ตลอดรัชสมัยของ ร.3 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขึ้นครองราชย์ มหาโตหายไป จึงออกหมายประกาศจับ เมื่อทอดพระเนตรเห็น มีพระราชกระแสรับสั่งว่า "เป็นสมัยฉันปกครองแผ่นดิน ท่านต้องช่วยฉันพยุงพระบวรพุทธศาสนาด้วยกันซี" ทรงแต่งตั้งให้เป็นพระธรรมกิติ เป็นเจ้าอาวาสวัดระฆัง ได้รับเงินเดือน สี่ตำลึงกับหนึ่งบาท ร.4 ทรงโปรดสดับพระธรรม โปรดฯให้สมเด็จไปถวายธรรมเทศนาประจำ วันหนึ่งท่านเทศนาเสียยืดยาว ในขณะที่ ร.4 ไม่สู้จะทรงสบายพระราชหฤทัย เพราะเจ้าจอมพระองค์หนึ่งกำลังจะประสูติพระเจ้าลูกเธอ ในวันรุ่งขึ้นสมเด็จโต เข้าไปถวายธรรมซ้ำอีกครั้ง แต่เทศน์เพียงสั้นๆ ร.4ทรงสงสัยมาก จึงทรงถามถึงเหตุผล สมเด็จโตตอบว่า "เมื่อวานนี้อาตมภาพรู้ว่ามหาบพิตรทรงไม่สบายพระราชหฤทัย จึงจำเป็นต้องพยายามเทศให้สบายพระราชหฤทัยก่อน ส่วนวันนี้ทราบว่า มหาบพิตรสบายพระราชหฤทัยแล้ว จึงไม่จำเป็นที่จะต้องถวายให้ยืดยาว.." เก็บความมาจาก อภินิหาร สมเด็จพุฒาจารย์ (โต) โดย "ไทยน้อย" โดย: บี่บี๋ IP: 115.67.2.233 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:12:07 น.
หลายท่านคงเคยทราบถึงคำพยากรณ์อนาคตบ้านเมืองไทยที่ว่า
1.มหากาฬ 2.พาลยักษ์ 3.สนิทธรรม 4.จำแขนขาด 5.ราษฎร์โจร 6.ชนร้องทุกข์ 7.ยุคทมิฬ 8.ถิ่นตาขาว 9.ชาวศิวิไลซ์ นี่คือคำพยากรณ์ของสมเด็จโต ค่ะ โดย: บี่บี๋ IP: 115.67.2.233 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:26:16 น.
ขอบคุณมากๆ สำหรับความรู้ที่นำมาเผื่อแผ่ครับ.... คำทำนายพอทราบ แต่เมื่อไหร่จะถึง 9. ชาวศิวิไลซ์หนอ....
โดย: wicsir วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:18:35 น.
เดี๋ยวคนบ้า เขาฆ่ากันตายหมด ก็คงถึงค่ะ
โดย: บี่บี๋ IP: 115.67.43.176 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:26:56 น.
ขอบคุณที่ไปเยี่ยมกันแต่เช้า
ผ่านมาแถวนี้อย่าลืมแวะอีกนะครับ โดย: chalawanman วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:23:03 น.
ยังเหลืออีก 2 สนามค่ะ แต่สนามเชียงใหม่ไฮแลนด์นี่แนะนำ แนะนำ
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:07:34 น.
อรุณสวัสดิ์ค่ะ
มาสวดพระคาถาชินบัญชรค่ะ... โดย: บี่บี๋ IP: 115.67.112.6 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2551 เวลา:6:35:17 น.
หวัดดีครับคุณตุ๊ก...
ผมเคยไปกับเพื่อนสองครั้ง สนามแถวๆแม่โจ้ ชื่อจำไม่ได้ต้องไปดูในเวบ ครั้งแรกประทับใจมาก แต่ครั้งที่สอง ไม่ไหวเลยโปรแต่พวกญี่ปุ่น และเกาหลี เลยโดนผมเทศนาสองสามกัณฑ์ เงียบฉี่เลย..... เลยเอาแบไทยๆ ตื่นแต่เช้าไปขอจอยเขาที่สนามในเมือง ล้านนานี่แหละ อยู่ข้างๆ สนามกีฬา มี 3 คอส พัตยากสุดๆครับ.... ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ โดย: wicsir วันที่: 6 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:41:01 น.
หวัดดีครับคุณบี๋...
ผมจดไว้พกด้วย.. "ครองจิตอยู่ในอุเบกขา อุตส่าห์ในศุภกิจให้ผลิตผล ค้ำจุนผู้อ่อนแออับจน แต่ส่วนตนอย่าต้องของ้อผู้ใด ชีวิตนี้มิได้ผิดฟองสบู่ เรารอยู่เพื่อทำทุนไว้ชาติใหม่ กรุณาผู้ลำบากยากไร้ เข้มแข็งในเมื่อทุกข์มาถึงตัว....." ครับเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร.....ใช่ไหมเอ่ย โดย: wicsir วันที่: 6 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:46:55 น.
ใช่ค่ะ...สาธุ
โดย: บีบี๋ IP: 115.67.236.83 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:08:45 น.
รีบท่องพระคาถาชินบัญชรให้ได้นะคะ สวดถวายทุกๆวันเดี๋ยวก็คล่องปากเองค่ะ เมื่อท่องได้แล้ว วันแรกสวดให้ได้ 9 จบถวายนะคะ ใช้เวลาไม่นานค่ะ จิตใจจะแจ่มใสผ่องแผ้ว มีสมาธิในการทำงาน และมีสติค่ะ
วันต่อๆไปแล้วแต่ศรัทธาค่ะ ยิ่งสวดยิ่งดี เหมือนฝากเงินในออมสิน พุทธคุณจะปกปักรักษาเราตลอดตัวหัวจรดเท้า และโดยรอบ ชวนคนที่รู้จักสวดยิ่งได้บุญใหญ่ค่ะ โดย: บี่บี๋ IP: 115.67.124.220 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:17:41 น.
ขออนุโมทนา สาธุค่ะ
ยังมียอดกัณฑ์พระไตรปิฎกอีกบทนะคะ อันนี้ง่ายกว่า ชินบัญชรอีกค่ะ เคยไปสวดพระคาถาชินบัญชรถวายหลวงปู่โต 108 จบ และยอดกัณฑ์ฯ 108 จบ ตั้งแต่เช้า เสร็จเที่ยงเศษ คนไปด้วยลงเรือข้ามฟากเที่ยวกันสนุก วันที่ 22 มิ.ย.วันมรณภาพมักไปทำบุญที่วัดระฆัง วันที่ 17 เม.ย.วันชาตะ ทำบุญที่วัดอินทรวิหาร นอกนั้นไปตามวัดต่างๆ แล้วแต่สะดวก ค่ะ ขอผลบุญกุศล และสัจจะวาจาที่ว่า มีหลวงปู่โต เป็นที่พึ่ง ต่อจากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขออำนาจพุทธานุภาพ จงปกปักรักษาเพื่อนๆชาวบล๊อกของคุณ wicsir จงมีแต่ความสุขกายสบายใจ สุขภาพแข็งแรงอย่าเจ็บอย่าไข้ ก้าวหน้าในหน้าที่การงานทุกท่านทุกคนเทอญ...สาธุ โดย: บี่บี๋ IP: 115.67.120.34 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:23:53 น.
ลูกศิษย์หลวงปู่โตเหมือนกันค่ะ
สาธุ.. ขอร่วมตั้งจิตอธิษฐานด้วยค่ะ ขอบุญญาบารมีหลวงปู่โต เป็นที่พึ่ง สังฆานุภาพได้โปรดคุ้มครองเพื่อนชาว bloggang.com:wicsir ประสบแต่สิ่งที่ดีงามตลอดกาลค่ะ โดย: สมใจ IP: 203.144.187.19 วันที่: 6 ธันวาคม 2551 เวลา:14:33:02 น.
ดีใจที่พบเพื่อนร่วมทางบุญ... เนื้อนาบุญเดียวกันนะคะ
ขอชมบ้างค่ะ... ภาพสวยงามมาก ถ่ายภาพราวกับจับวาง ช่างมีความสามารถแท้ๆเลย คนใจดี..ใจเย็น...มักถ่ายภาพออกมาสวยค่ะ บล๊อกสวย สีหวานแหวว เห็นแล้วใจชื่น..ใสสว่าง...เลยค่ะ สีฟ้าเย็นตาดีจริงเจียว อ่านเรื่องสนุก เพลงเพราะ เจ้าของบล๊อกใจดี เป็นมิตรมากเลย...ได้พบที่พักพิงใจที่ถูกใจมาก...ขอบคุณ ขอให้เจริญๆยิ่งๆขึ้นไปค่ะ โดย: สมใจ IP: 203.144.187.19 วันที่: 6 ธันวาคม 2551 เวลา:14:46:42 น.
|
บทความทั้งหมด
|
ที่พักที่เขื่อนก็หมายตาไว้อยู่ค่ะ แต่ที่คุณมาคราวนี้คนยังกะมดเลยนะคะ
ที่วัดสรพงศ์ ราดหน้าที่โรงทานอร่อยเป็นที่เลื่องลือเลยนะคะ