เยือนชะอำเดือนพฤษภาคม 08.
Title


เยือนชะอำเดือนพฤษภา 08


มีโอกาสไปชะอำเมื่อ 23- 25 พฤษภาคม 2008 เลยเก็บภาพมาฝากครับ การถ่ายภาพอาจไม่ดีเอาเสียเลย เพราะไม่ได้เตรียมอุปกรณ์อย่างอื่นไปนอกจากกล้อง

วันที่ 23 พฤษภาคม ไปถึงก็เจอฝน ภาพที่ออกมาเลยอาจจะทึมๆไปหน่อย แต่เอาเป็นว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว เอามาฝากเพื่อนๆหน่อยละกัน ถือเสียว่าได้บรรยากาศอีกแบบหนึ่งนะครับ..


ไปพักกันที่โรงแรมเมทาวลัย ชะอำครับ ถึงปับก่อนขึ้นที่พัก ก็ถ่านสระว่ายน้ำนี่มาฝากครับ




เรือใบนี้เขาตั้งโชว์ไว้ เห็นเก๋ดีเลยเก็บเอาไว้



เดินทางไปถึงชะอำเกือบสี่โมงครึ่งแล้ว พวกเรายังพอมีเวลาเหลือก่อนที่เจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ บริษัท Hunsa Holiday ซึ่งเราได้เช่ารถ และการดำเนินการในการไปชะอำครั้งนี้ จะพาเราไปทานมื้อเย็นที่ร้านอาหารริมหาดชะอำ ทางด้านปลายหาดทางเหนือ เราเลยใช้เวลาที่เหลือเดินเก็บภาพกัน







ถนนหน้าโรงแรม





ชายหาดชะอำหลังฝน



หินอ่อนที่มุมถนนหน้าโรงแรม



ทานมื้อเย็นที่ชะอำเสร็จ เจ้าหน้าที่พาเราไปเดินตลาดกลางคืนที่หัวหิน วันนี้ที่หัวหินปิดถนนตรงสี่แยกใหญ่กลางเมือง (ข้างๆตลาดสดเดิม) ขึ้นไปจนเกือบถึงสถานีรถไฟ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินซื้อหาของใช้ต่างๆ เช่นไม้แกะสลัก ผ้าทอ ภาพวาด และอีกหลายๆอย่าง ส่วนมากพวกงานศิลปะทั้งหลาย รวมทั้งผ้าทอไทย ก็เน้นขายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ..... หัวหินวันนี้ ห้องพักหลายๆที่แพงมาก นักท่องเที่ยวจากต่างชาติที่จองเข้ามา ได้ราคาถูกกกว่าคนไทยเสียอีก อันนี้ก็แปลกเหมือนกัน เขาว่ามีสองเมืองเป็นแบบนี้ คือ ภูเก็ต และหัวหิน....




หัวหินตอนกลางคืน



ถ่ายกับบรรยากาศ



ถนนกลางคืน


ได้เวลาสามทุ่มเศษ เราก็เดินทางกลับที่พักที่ชะอำกัน

เช้าๆ 700-800 น. หาดชะอำยังเงียบสงบ เหมาะที่จะถ่ายภาพมาก แต่ทั้งฝีมือ และอะไรหลายอย่างที่ห่างไกลมาก ภาพที่ได้จึงเป็นแบบที่เห็น




ความสงบเงียบของหาดตอนเช้า



สายหน่อยนางแบบคนนี้ก็ตื่นมาเล่นทราย





ผู้ใหญ่ก็เล่นเรือกล้วย



น้องคนนี้ก็คอยดูแลพวกเรา



สาวๆก็ สู้ตายค่ะ...ไม่กลัวแดด



ร้อนแล้ว ก็เข้ามาเล่นน้ำในสระว่ายน้ำ



นั่งใต้ต้นหางนกยูงต้นนี้ก็ได้



บ่ายๆเราเดินทางไปชมพระราชวัง "มฤคทายวัน" ตั้งอยู่ที่เดียวกับค่าย ตชด. พระรามหก ซึ่งอยู่ระหว่างหัวหิน กับ ชะอำ..เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 08.00 -16.00 น.


ประวัติพระราชวังมฤคทายวัน

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให ้ เจ้าพระยายมราช ( ปั้น สุขุม ) เป็นผู้เลือกสถานที่และอำนวยการก่อสร้าง เพื่อเป็นที่เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับแรมและทรงพระสำราญในฤดูร้อน หลังจากได้ทอดพระเนตรแผนที่ตำบลบางควาย แขวงเมืองเพชรบุรีเป็นที่พอพระราชหฤทัย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กระทรวงมหาดไทย รับไปดำเนินการก่อสร้าง ต่อมามีประกาศพระบรมราชโองการเปลี่ยนนามตำบลบางควาย เป็นตำบลมฤคทายวัน เมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๔๖๖

การก่อสร้างพระราชนิเวศน์แห่งนี้ เริ่มก่อสร้างใน พ . ศ . ๒๔๖๖ แล้วเสร็จใน พ . ศ . ๒๔๖๗ วัสดุก่อสร้างที่เป็นไม้ ส่วนใหญ่นำมาจากกรุงเทพฯ โดยทำตัวไม้เป็นชิ้น แล้วนำมาประกอบเวลาก่อสร้าง ซึ่งพระองค์ได้เสด็จแปรพระราชฐาน ณ พระราชนิเวศน์เพียง 2 ครั้ง ครั้งสุดท้ายหลังจากเสด็จกลับจากแปรพระราชฐาน พระองค์ก้ได้เสด็จสวรรคตเมื่อปีพุธศักราช 2468 หลังจากนั้นก็ไม่มีพระมหากษัตริย์พระองค์เสด็จมาแปรพระราชฐานอีกเลย ทำอาคารพระราชนิเวศน์มฤคทายวันชำรุดทรุดโทรม เนื่องจากขาดการบำรุงรักษา ประกอบกับตัวอาคารอยู่ติดกับชายฝั่งทะเล ทำให้ไอเค็มเกิดปฏิกิริยากับอาคารจึงทำให้ชำรุดเสร็จกว่าปกติ ปีพุทธศักราช 2508 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ได้มีพระบรมราชานุญาต ให้กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนใช้สถานที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เป็นที่ทำการฝึกอบรมหลักสูตรการรบพิเศษ และโปรดเกล้าให้ดูแลรักษาบูรณะซ่อมแซมพระราชนิเวศน์มฤคทายวันด้วย โดยให้กองบัญชาการตระเวนชายแดนเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการบูรณะซ่อมแซมเองทั้งสิ้น ทั้งนี้จะต้องรักษารูปลักษณะของอาคารเดิมไว้ ปีพุทธศักราช 2515 ศูนย์ฝึกอบรมการรบพิเศษได้รับการแบ่งส่วนราชการ โดยกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนเป็นกองกำกับการ 1 กองบังคับการฝึกพิเศษ และได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่รับผิดชอบ ในการดูแลรักษาบูรณะพระราชนิเวศน์มฤคทายวันโดยตรง เนื่องด้วยที่ทำการอยู่ใกล้พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ปีพุทธศักราช 2526 กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนร่วมกับกรมศิลปากรได้จัดทำโครงการบูรณะซ่อมแซมพระราชนิเวศน์มฤคทายวันขึ้น และดำเนินการบูรณะซ่อมแซมจนแล้วเสร็จในปีพุทธศักราช 2537 เงินงบประมาณที่ใช้ในการบูรณะซ่อมแซมเป็นเงินที่ได้รับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาและองค์การต่างๆ

ปีพุทธศักราช 2534 กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนโดย พลตำรวจโท ชาติชาย ฉายอรุณ ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนขณะนั้น ได้ยื่นคำร้องขออนุญาต จดทะเบียนจัดตั้งเป็นมูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน และได้รับการจัดตั้งเป็นมูลนิธิฯ ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2535 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณะซ่อมแซมจนพระราชนิเวศน์มฤคทายวันให้มีสภาพดี เพื่อดำรงไว้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และอนุรักษ์ไว้เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ โดยมีเงินทุนเริ่มแรก 500000 บาท และได้รับกราบทูลเชิญ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดีเป็นองค์อุปถัมภ์ของมูลนิธิพระราชนิเวศน์ ในระหว่างการขอจดทะเบียนจัดตั้ง ซึ่งพระองค์ได้ทรงพระกรุณารับไว้ในอุปถัมภ์ ตั้งแต่วันที่จดทะเบียนเป็นต้นไป ปีพุทธศักราช 2543 ที่ประชุมสามัญประจำปีได้มีมติให้เปลี่ยนแปลงชื่อมูลนิธิเสียใหม่ จากเดิมชื่อว่า มูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เปลี่ยนเป็น มูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวันในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาสิริโสภาพัณณวดี

ระเบียบในการเข้าชมพระราชนิเวศน์มฤคทายวันคือ ก่อนเข้าต้องไปติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ป้อมยาม แลกบัตรประจำตัวเพื่อรับบัตรผ่านก่อน เพราะพระราชวังแห่งนี้อยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจ

ความสวยงามสงบและร่มรื่นเป็นสิ่งที่จะได้รับเมื่อเข้ามาในเขตพระราชวัง จามจุรีเก่าแก่แผ่กิ่งด้านให้ร่มเงาร่วมกับลมทะเลที่พัดมาเป็นระยะ ช่วยสร้างบรรยากาศให้น่ารื่นรมย์ยิ่งขึ้น

พระราชนิเวศน์แห่งนี้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ร่างแบบผนังด้วยพระองค์เอง ทรงกำหนดแบบพระราชนิเวศน์ให้เป็นอาคารไม้ชั้นเดียว หลังคาทรงปั้นหยามุงกระเบื้องขาวสี่เหลี่ยม ใต้ถุนสูง เทพื้นคอนกรีตตลอดพระตำหนักซึ่งอยู่กระจายกันเป็นหลัก ๆ มีระเบียงและบันไดเป็นเอกเทศ แต่มีทางเดินเชื่อมถึงกันได้โดยตลอดและทั้งมีทางเดินไปสู่ทะเลด้วย พระราชนิเวศน์มฤคทายวันประกอบด้วยพระที่นั่งองค์ใหญ่ 3 องค์ องค์ที่อยู่ด้านในสุดนับจากประตูพระราชวังด้านหน้า ได้แก่ " พระที่นั่งสมุทพิมาน" อันเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรชายา
" พระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์" นั้น เป็นอาคารสองชั้นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าไม่กั้นฝา ใช้เป็นโรงละครและเป็นที่ชุมนุมในโอกาสต่าง ๆ นับจากที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต พระราชวังแห่งนี้ถูกทิ้งร้างมานาน แต่ปัจจุบันได้มีการซ่อมแซมให้กลับคืนสู่สภาพที่สวยงามดังเดิม สำเร็จไปหลายส่วนแล้ว เช่น พระตำหนักที่เคยเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ห้องทรงพระอักษร ห้องบรรทม ห้องสรง เป็นต้น
ถ้าอยากทราบว่าสภาพก่อนหน้านี้ดูทรุดโทรมขนาดไหน เขาก็จัดห้องแสดงภาพตลอดจนเรื่องราว มีประวัติความเป็นมาต่าง ๆ ที่น่าสนใจศึกษาไว้ให้ชมเป็นความรู้ พระราชนิเวศน์มฤคทายวันเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของจังหวัดเพชรบุรี ในฐานะเป็นที่ประทับพักผ่อนพระราชอิริยาบถและทรงพระสำราญในฤดูร้อนในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่เลี้ยงรับรองราชทูตจากต่างประเทศ รวมทั้งเป็นสถานที่บำเพ็ญพระราชกุศล จึงโปรดเกล้าฯ ให้เป็นเขตอภัยทานแก่สัตว์ทั้งหลาย

ปัจจุบันพระราชนิเวศน์มฤคทายวันอยู่ในความดูแลของกองบังคับการฝึกพิเศษกองบัญชาการตำรวจตะเวนชายแดน ซึ่งเรียกว่า " ค่ายพระรามหก "
(ข้อมูลจาก //www.land.arch.chula.ac.th/fieldtrip47/group7/01index.htm ......Online 26/5/2008).



ทางเดินอันร่มรื่น





ถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก















ได้เวลาพอสมควรพวกเราก้เดินทางกลับ ชะอำเพื่อร่วมงานปาร์ตี้กัน ก่อนจะหมดสภาพ และเข้านอนเกือบเที่ยงคืน แถมยังมีบางกลุ่มใปต่อที่คาราโอเกะกันอีก...... แต่อยากเห็นพระอาทตย์ขึ้นที่ชะอำ เลยตั้งนาฬิกาไว้ 05.30 น. เพื่ออกไปเก็บภาพ (เท่าที่ทำได้) ......












ภาพที่เก็บได้เป็นแบบที่เห็น วันนี้พระอาทิตย์ขึ้นมาบนท้องฟ้าเลย พอพ้นเวลาแสงทองเสร็จ ก็ขึ้นอยู่เหนือน้ำเลย..... เริ่มเก็บภาพทั้งหมดตั้งแต่ช่วง 06.09 น. จนถึง 06.25 น. ครับ

สายหน่อย ประมาณ 10 โมงกว่าๆเราก็ไปไหว้หลวงปู่ทวด ที่วัดห้วยชัยมงคล หัวหิน เป็นวัดที่สร้างรูปปั้นจำลองของหลวงปู่ทวด ประดิษฐานอยู่บนแท่นขนาดใหญ่ มีรูปปั้นช้างพลายมงคลอเฝ้าอยู่ด้านหน้า สองเชือกอยู่ตรงทางขึ้นแท่นขึ้นไปไหว้หลวงปู่ เวลาเราไปทำบุญที่ใกล้รูปพลายมงคล เจ้าหน้าที่เขาจะให้ยันต์มงคล สีขาวและแดง (ข้างหนึ่งได้สีขาว และอีกข้างหนึ่งได้สีแดง)

บริเวณใกล้ๆกัน เขาวางแผนไว้จะสร้างมณฑบสำหรับเก็บสารีริกธาตุด้วย ด้านศาลาทางทิศใต้จะเป็นที่บูชาวัตถุมงคลต่างๆ ที่สะเดาะเคราะห์ รวมทั้งที่ถวายสังฆทาน

วัดนี้อยู่ห่างจากหัวหินออกไปทางป่าละอู ถึงทางแยกตรงสนามกอล์ฟมาเจสติคก็เลี้ยวซ้ายเข้าไป จะเห็นวัดตั้งอยู่ริมถนน



สี่สาวลุยแสงแดดที่หน้าวัด
















จากวัดห้วยชัยมงคลเราก็เดินทางเข้าหัวหิน เพื่อทานมื้อเที่ยงที่ภัตราคารไฮ้เปียง ซึ่งเป็นภัตราคารที่เก่าแก่คู่กับเมืองนี้เลยที่เดียว


______จบทริปสั้นๆเพียงแค่นี้ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านครับ______.












Create Date : 26 พฤษภาคม 2551
Last Update : 21 มกราคม 2554 17:09:16 น.
Counter : 3510 Pageviews.

13 comments
Yading Short Route (1) สายหมอกและก้อนเมฆ
(2 ก.ค. 2568 16:06:46 น.)
บ้านครูช่วงสโลว์บาร์ คาเฟ่แนววินเทจสวย ๆ ที่พัทลุง sawkitty
(1 ก.ค. 2568 15:37:59 น.)
Kobe ไร้นาม
(29 มิ.ย. 2568 00:27:44 น.)
สุกี้โบราณและอาหารจีน ร้านเรือนเพชรสุกี้ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ นายแว่นขยันเที่ยว
(27 มิ.ย. 2568 01:16:33 น.)
  
No comment
โดย: Veerao IP: 202.44.4.62 วันที่: 29 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:22:54 น.
  
Thanks for comming K. Veera
โดย: wicsir วันที่: 29 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:24:52 น.
  
แวะมาชมแล้วจ้า...วันนี้ได้ความรู้เพิ่มค่ะ...เคยไปเที่ยวที่พระราชนิเวศน์ฯ หลายครั้งแต่ไม่เคยได้ทราบประวัติ ชอบศาลาที่ยื่นไปในทะเล ตัดกับท้องฟ้าสีคราม สวยงามประทับใจมากค่ะ...ขอบคุณที่มาโพส ทำให้คิดถึงเมื่อวันวาน อิอิ
โดย: Pleja IP: 124.157.184.3 วันที่: 1 มิถุนายน 2551 เวลา:10:30:45 น.
  
ขอบคุณ คุณ ple ที่เข้ามาเยี่ยมเยือนครับ....
โดย: wicsir วันที่: 1 มิถุนายน 2551 เวลา:16:20:39 น.
  
สวัสดีค่ะ
มาชม-เที่ยวถึงที่นี่แล้วค่ะ
ด้านในสุด ขวามือมีพระให้เช่า เช่ามาฝากน้องที่ทำงาน
เธอนำโค้ดใต้องค์พระไปซื้อหวย คิดได้ไง
ถูกค่ะ ได้มาหลายร้อย มีกล้วยปิ้งกินเป็นเดือนเลย อิ อิ
โดย: นีลา IP: 202.91.18.192 วันที่: 11 กันยายน 2551 เวลา:21:44:11 น.
  
ไม่ได้มาชะอำนานหลายปี ทำให้คิดถึงที่นี่เหมือนกัน..... แต่สถานที่เปลี่ยนไปเยอะ ความเป็นชายหาดที่สงบเงียบหายไปมากเลย.... ได้แสงสีเข้ามาแทน วันข้างหน้าไม่รู้จะเป็นอย่างไร ????

ขอบคุณ คุณนีลาที่ตามมาเที่ยวชะอำด้วยครับ.
โดย: wicsir วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:21:52:47 น.
  
อยากไปด้วยจังครับ
โดย: Sothara IP: 58.8.2.48 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:18:09 น.
  
ชะอำน่าเที่ยวนะครับ Sothara......
โดย: wicsir วันที่: 16 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:50:30 น.
  
เปนสถานที่ที่น่าเที่ยวมากค่ะ
เพิ่งไปมาเมื่อวานนี้เอง
นั่งรถจากตรังเพื่อไปเที่ยวนะค่ะ
อยากไปอีก
โดย: มดค่ะ IP: 125.24.155.104 วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:10:26:22 น.
  
ขอบคุณคุณมดครับ.... นับถือมากมาจากตรังเลยนะครับ.
โดย: wicsir วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:22:44:48 น.
  
ประทับใจมาก ไปมา สองครั้ง แล้วถ้ามีโอกาสและวาสนาก็จะไปอีกไม่เบื่อชอบมากถ่ายรูปมาดูเยอะมาก...ประทับใจสงสัยชาติที่แล้วอาจจะเคยได้ไปขนอิฐ หิน ปูนทราย หรือเป็นบ่าวในวังด้วย...คิดไปได้น่ะค่ะ...ไปเที่ยวมาแล้วอยากให้คนไทยไปเที่ยวน่ะค่ะ...เงินไม่รั่วไหล...
โดย: คนอีสานใจดี IP: 222.123.57.118 วันที่: 4 เมษายน 2552 เวลา:21:35:10 น.
  
ขอบคุณ คนอีสานใจดี ที่แวะเข้ามาอ่านบล๊อกครับ
โดย: wicsir วันที่: 15 เมษายน 2552 เวลา:7:46:51 น.
  
น่าสนุกจัง เมืองชะอำเป็นเมืองที่น่าอยู่ เป็นเมืองที่เหมาะกับการพักร้อน เดี๋ยวนี้สวยขึ้นกว่าแต่ก่อน
โดย: หนูเล็ก IP: 27.130.57.135 วันที่: 22 สิงหาคม 2553 เวลา:0:02:33 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Travelsomewhere.BlogGang.com

wicsir
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]

บทความทั้งหมด