ต่อจากบล๊อกที่แล้ว ที่เราพาคุณๆไปชมเขื่อนวชิราลงกรณและน้ำตกไทรโยคใหญ่ ช่วงบ่ายเราขับรถกลับมาที่เมืองกาญจนบุรี โดยมีเป้าหมายว่าจะมาพักที่ไหนซักแห่งริมแม่น้ำแคว และมาเดินชมสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ที่โด่งดังไปทั่วโลกของเมืองกาญจน์ด้วย.

ลานตรงหัวสะพาน

สะพานข้ามแม่น้ำแคว (The Bridge of the River Kwai) ตั้งอยู่ที่ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือ ตามทางหลวงหมายเลข 323 ประมาณ 4 กิโลเมตร แยกซ้ายประมาณ 400 เมตร มีป้ายบอกทางชัดเจน

นายแบบเรากับป้ายสถานีรถไฟ

ประวัติ

สะพานข้ามแม่น้ำแควเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง เป็นสะพานที่สำคัญที่สุดของเส้นทางรถไฟสายมรณะ สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดา และนิวซีแลนด์ประมาณ 61,700 คน สมทบด้วยกรรมกรชาวจีน ญวน ชวา มลายู ไทย พม่า (เมียนมาร์) และ อินเดีย อีกจำนวนมาก มาก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า ซึ่งเส้นทางช่วงหนึ่งจะต้องข้ามแม่น้ำแควใหญ่ จึงต้องมีการสร้างสะพานขึ้น การสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้ เต็มไปด้วยความยากลำบาก ความทารุณของสงครามและโรคภัย ตลอดจนการขาดแคลนอาหาร ทำให้เชลยศึกหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง

หลังฝนตก

สะพานข้ามแม่น้ำแควใช้เวลาสร้างเพียง 1 เดือน โดยนำเหล็กจากมลายูมาประกอบเป็นชิ้น ๆ ตอนกลางทำเป็นสะพานเหล็ก 11 ช่วง หัวและโครงสะพานเป็นไม้ มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2486 ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2487 ได้ถูกทิ้งระเบิดหลายครั้งจนสะพานหักท่อนกลาง ภายหลังสงครามสิ้นสุดลง รัฐบาลไทยได้ซ่อมแซมใหม่ด้วยเหล็กรูปเหลี่ยม เมื่อปี พ.ศ. 2489 จนสามารถใช้งานได้ ปัจจุบัน มีการยกย่องให้เป็น สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ

สะพานเหล่านี้มีมากมายในเมืองไทยและลาวพม่าแต่ส่วนใหญ่ทำจากไม้ ในไทยมีที่ทำจากเหล็กไม่ถึง 15 แห่ง

ผู้คนขึ้นไปเดินมากมายบนสะพาน

รถกำลังจะเข้าสถานี

บนสะพาน เขาทำที่ให้เราแอบรถไฟสายมรณะนี้เป็นช่วงๆ เวลารถจะเข้าสถานีแควใหญ่ ก็จะเปิดวูดและค่อยๆเคลื่อนเข้าสถานีแบบช้าๆ ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งในขบวนรถ และบนสะพานได้ถ่ายภาพกันอย่างสนุกสนาน

แอบไปอยู่ด้านข้าง แล้วถ่ายภาพนี้มา

ภาพนี้จากหัวสะพาน

ตลาสดพลอยข้างสะพาน

The River Kwai Bridge Resort ที่พัก

เนื่องจากการเดินทางมาเมืองกาญจน์เราคราวนี้ ไม่ได้มีแผน และไม่เตรียมการอะไรมาก่อนเลย เรื่องที่พักนี่ก็เหมือนกัน เราถามเจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวที่บริเวณลานหัวสะพาน เขาบอกว่าตามถนนเวียดนามผ่านตลาดพลอยไป มีที่พักหลายที่

บ้านตกแต่งและออกแบบสไตล์ญี่ปุ่น

และในที่สุดเราก็ได้นี่ "The River Kwai Bridge Resort ไม่ไกลจากสะพานมากนัก ซึ่งก็สวย มีต้นไม้เยอะ ดูไม่เหมือนว่าอยู่ในเมืองเลย บ้านพักแต่งสไตล์ญี่ปุ่นสวยดีครับ ร้านอาหารของรีสอร์ทอยู่ริมแม่น้ำแควใหญ่ มองเห็นตัวสะพานได้ชัดเจนครับ ถ้าคุณๆสนใจลองเช็คดูตามนี้ครับ www.riverkwaibridgeresort.com หรือ Tel 034-514 522, 034-516 000

ภายใน

มีสระว่ายน้ำพร้อมรั้วรอบๆด้วย

ที่ร้านอาหารของรีสอร์ทมองเห็นสะพานในยามเย็น

วันนั้นขับรถมาทั้งวัน เหนื่อยมาก เลยถือโอกาสมานั่งที่ร้านอาหารของรีสอร์ทริมแม่น้ำแควใหญ่ สั่งอาหารและไวน์แดงมานั่งจิบพอมึนๆ และโชคเราก็ดีด้วยได้เห็นสะพานที่เขาประดับไฟไว้เปลี่ยนสี ไปมาหลายสี... เลยอดคิดถึงเมื่อครั้งเราไปเที่ยวเมืองเว้ ที่เวียดนามไม่ได้ สะพานสายรุ้งข้ามแม่น้ำหอม เขาก็ทำแบบเดียวกันนี้ครับ

บรรยากาศท่ามกลางแสงสีของสะพานยามค่ำคืนสวยงงามกว่าในภาพที่ถ่ายมาให้ชมอีกครับ

ตามทางเดินในรีสอร์ทยามค่ำคืน

คืนนั้นเข้านอนด้วยความอ่นเพลีย เพราะเดินทางมาไกลพอควร คือจาก อ.สังขละบุรี มาแวะที่เขื่อนวชิราลงกรณและน้ำตกไทรโยคใหญ่ ก่อนมาพักที่ The River Kwai Bridge Resort แห่งนี้ .... ส่วนพรุ่งนี้เช้าเรามีโปรแกรมเดินทางไปดอนเจดีย์ และตลาด 100 ปีสามโคก จ.สุพรรณบุรี แล้วเจอกันบล๊อกหน้าครับ

ลาด้วยภาพยามเช้าที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว ภาพนี้ครับ