วันๆ พันกว่าเรื่อง



วันๆ พันกว่าเรื่อง
....นี่ไม่เกินจริงนะครับ......






วันก่อน ผมออกไซต์พร้อมไนท์
ซึ่งตอนนี้ไนท์มันตามผมไปทุกที่เลยครับ บางงานง่ายๆ สบายๆ มาก
ไนท์มันก็ไม่ปล่อยให้ผมไปคนเดียว ตามมาคุมงานทุกครั้งไป 
ไม่รู้มันกลัวผมเหนื่อย หรือกลัวผมหนีเที่ยวกันแน่ 5555



วันนึง ด้วยความเป็นงานชิลๆ กับคนชิลๆ ไม่ได้มีผู้ใหญ่ฝั่งลูกค้า
แค่ไปตรวจเช็คทั่วไป after sale service

ซึ่งจริงๆ ผมจะไม่ไปเองก็ได้นะ แค่ไนท์กับเจมส์ หรือไนท์คนเดียวก็สบายๆ

ทำให้วันนั้นผมกับไนท์ก็แต่งตัวกันชิลๆ ครับ 
เสื้อยืด กางเกงยีน อ่ะ...แจ็คเก็ตซักตัว 
รู้สึกวันนั้นผมจะใส่เสื้อยืดคอวีสีขาว ไม่มีลาย กับกางเกงจั๊มปลายขาสีเทา
วันนั้นคนที่จะเข้ามาทำงานร่วมกับเราจะเป็นวิศวกรของที่นั่น
และด้วยงานไม่มีอะไรมาก ก็ไม่มีหัวหน้า หรือซีเนียร์เข้าเหมือนกันครับ
ซึ่งไนท์มันบอกไว้ว่า
วิศวะที่จะเข้ามาทำงานกับเรา เป็นเพื่อนมหาลัยมันเอง
ในใจผมก็ เออดีวะๆๆ งั้นมึงโซโลเลยนะ  พี่แค่เดินเป็นเพื่อน
ไนท์มันก็ยกนิ้ว...โป้ง...โป้งแหละ  บอกว่า ได้เลยพี่

"จัดไป....จริง ๆ พี่ไม่ต้องมาก็ได้นะเนี้ย หรือจะไปไหนต่อ"
"เออ...เดี๋ยวเส็ดจะชิ่งแล้ว"
"โอเคร...(เครแบบนี้ด้วย) ได้เลย เดี๋ยวเราจัดการเอง"










ว่าแล้ว ผมกับมันก็เดินไปหน้างานพร้อมเจ้าหน้าที่แอดมินของที่นั่น 
โดยที่ ไนท์เดินนำหน้าไปพร้อมแอดมิน ใส่แจ็กเก็ต กับเสื้อและหมวกเซฟตี้
มือนึงถือ Ipad ไปจดบันทึก พร้อมอุปกรณ์พิเศษคล้องคอไปด้วย
ส่วนผม...ผมถอดแจ๊กเก็ตโยนไว้ในห้อง ก็เสื้อยืดพร้อมเสื้อและหมวกเซฟตี้
ไม่มีอะไรในมือซักอย่าง 


ไปถึงหน้างานปั๊บ วิศวกรที่นั่นก็เดินเข้ามาโอบไหล่ไอ่ไนท์ทันที
พร้อมทักทายจับไม้จับมือกันตามประสาเพื่อน ที่น่าจะดีใจที่ได้ทำงานด้วยกัน
แล้วมันก็เดินกันไปเลยครับ ไนท์มันก็หันมามองผมนิดนึง แล้ววิ่งตามเพื่อนไป



เวลาไนท์ทำงาน ผมก็ยืนอยู่ข้างหลังไม่ใกล้ แต่ไม่ไกลนักเสมอ
คือค่อยฟังปัญหา และแนวทางการแก้ปัญหาของมัน ไม่มีอะไรก็ปล่อย
มันจะปีนไปดูเกจ ผมก็สะกิดแล้วหยิบ Ipad มันมาถือให้อัตโนมัติ
ปกติอยู่แล้วครับ เวลาทำงานกัน พวกผมไม่มานั่ง ช่วยถือหน่อย อ่ะขอบคุณ
แต่ทำงานกันจนรู้หน้าที่ ใครทำ ใครช่วย ใครซัพพอตใคร ไม่เกี่ยง
ตอนมันขึ้นไป ตะโกนอะไรลงมาผมก็จดให้ 


พอกลับมาที่ห้องก็ไม่ได้มีอะไรคุยครับ เราแค่มาเช็คงาน
แต่เพื่อนของไนท์ก็กลับมานั่งคุยกับไนท์ด้วย
ส่วนผม....ผมก็ออกมายืนโทรศัพท์เรื่องงานอื่นๆ อยู่นอกตึก


"นี่โปรเจคมึงเลยป่ะ" เพื่อนไนท์ถาม
"อืม กูรับผิดชอบเลย มีไรมึงคุยกับกูได้" 
"เออๆ ดีเว้ย เดี๋ยวกูนัดมึงมาให้บ่อยเลย ทำงานเสร็จแดกข้าวกัน"
"ได้เลยเพื่อน" ไนท์ตอบเพื่อนอย่างสบายใจ

ก่อนที่เพื่อนไอ่ไนท์จะมองออกมานอกหน้าต่าง แล้วเห็นผมดูมือถือไป คิดอะไรไปด้วย
และไอ่ระหว่างคิดเนี้ย ผมก็เอามือข้างนึงจับหน้า จับจมูก จับปากตัวเองบ้าง
ตามประสา แบบแรมดอมลี่ และไม่รู้ตัว


"ไอ่เชี้ยไนท์ นี่มึงทำงาน 5 ปี เป็นซีเนียร์แล้วใช่ป่ะวะ"
"เอาจริงๆ ก็ยังนะ แต่ก็มีเด็กกว่ากูหลายคน"  ไนท์อธิบาย
"แล้วนั่นเด็กมึงหรอ"
"ห๊ะ...เด็กไหน" 
"ก็คนที่มึงพามาด้วยน่ะ" เพื่อนพูดพร้อมยิ้ม
"กูไม่ได้พาใครมา กูเนี้ยดูงานให้มึง" ไนท์ถามด้วยท่าทางสงสาร
"แล้วไอ่เด็กเสื้อขาวข้างนอกอ่ะ ไม่ใช่น้องที่มาช่วยงานมึงหรอ"

ทีนี้ไนท์ละรีบหันไปจับไหล่เพื่อนมันอย่างไว แล้วยกมือห้ามว่าไม่ต้องพูดต่อ
คงกลัวผมได้ยิน เพราะน่าจะมีแค่กระจกหน้าต่างกั้น 

แต่ผมไม่ได้ยินหรอกเว่ย.....
"ไอ่สัด นั่นไม่ได้เด็กกู นั่นพี่กู รองผู้จัดการ เด็กเชี้ยอะไรละ"
"ไอ่ที่ยืนดูดบุหรี่อยู่นั่นน่ะนะ!" เพื่อนมันตกใจ
"พี่กูไม่ดูดบุหรี่ เค้าแดกหมูปิ้งรึป่าว"
แล้วไนท์มันก็มายืนดูผมจากกระจกบ้าง ซึ่งครั้งนี้ผมเห็นมัน เลยยกมือให้เฉยๆ 
"ห๊ะ....เอ้า ชิบหายแล้วกูไม่รู้ พี่มึงดูเด็กกว่ามึงอีก" เพื่อนมันก็ดูจะตกใจเช่นกัน
"นี่มึงสวัสดีพี่กูบ้างรึยัง จะดีจะร้ายก็คนนี้นะเว่ย"
แน่นอนว่าเพื่อนมันส่ายหน้าเบาๆ 









จังหวะนั้นผมก็กลับเข้ามาที่ห้องพอดี 
ก็เพราะเห็นไนท์มันยืนมองที่หน้าต่างละครับ ก็คิดว่าคงจะเรียบร้อยแล้ว

"เสร็จแล้วป่ะ" ผมถาม แล้วเดินมายืนปืดจอโน๊ตบุ๊คลง
ตอนนั้น ไนท์ก็เรียกเพื่อนมัน แล้วเรียกผมพร้อมๆ กัน

"ตูนนี่ คุณตรีภพ พี่หัวหน้ากู...พี่ นี่ตูน ที่บอกว่าเป็นเพื่อนเรา"
ว่าแล้วนายตูนนั่นก็ยกมือไหว้ผม พร้อมกับที่ผมรับไหว้ แล้วแลกนามบัตรกัน
ตอนนั้นผมสังเกตว่าตูนมันยิ้มๆ กับ ไนท์
แต่ตอนนี้รู้แล้วว่า ก็คงเรื่องที่ตูนถามเรื่องผมนั่นแหละครับ 55555









จบจากเรื่องนั้น นี่มีเรื่องอีก
เนื่องจากพี่ ผจก กับทีมไปต่างประเทศ
พี่โฟล์คก็รับบทนายแบก 
ต้องเอาทีมตัวเองไปควงงานแทนทีมพี่ ผจก.

 แต่ไม่รู้ไปทำงานกันท่าไหน อยู่ๆ วันนี้ช่วงพักเที่ยงก็มีคนมาเคาะห้อง
ผมนั่งกินข้าวที่ห้องทำงานคนเดียว เพราะพี่ ผจก ไม่อยู่ สวนพี่โฟล์คก็ไม่ได้ชอบกินกับผม
จำ 
แบงค์ ได้ไหมครับ น้องคนที่อยู่ๆ ก็นั่งร้องไห้กลางวนข้าว
นี่มันเดินมาเคาะประตูห้อง ตอนผมนั่งดู Netflix อยู่

"กินข้าวเสร็จยังพี่" แบงค์เปิด
"เสร็จแล้วๆ ดูหนังเฉยๆ"  ผมรีบตอบ พร้อมยิ้ม
"ไปเซเว่นกันไหมครับ"
"ไม่อ่ะ ขี้เกียจออก แบงค์จะไปหรอ มีใครไปด้วยไหนละ"

ขณะที่ผมถาม ครูฝ่ายปกครองอย่างผมก็มองสีหน้ามันไปด้วย 
แล้วก็พอเข้าใจว่า
มัน.....ไม่ได้จะชวนผมไปเซเว่นซื้อของหรอก
"ยังไม่ได้ชวนใครอ่ะครับ" แบงค์พูดแล้วมองลง ก่อนจะหันหลังจะเดินไป
"เอ้อ....งั้นพี่ไปด้วย เดินเปลี่ยนบรรยากาศ"









เท่านั้นแหละครับ เดินคู่กับมันไปยังไมาทันพ้นประตูตึก ไอ่แบงค์เปิดเลย
"พี่เค้าทำเหมือนผมไม่มีตัวตนงั้นน่ะ"
"ยังไงอ่ะ"
"เค้าไม่จ่ายงานให้ผมเหมือนคนอื่น  อะไรที่ผมทำอยู่ก็ให้พี่หมิงมาดูด้วย
ไม่ไว้ใจผมหรอวะ 3 ปีนี่ผมทำไม่ดีตรงไหน"

"เอาจริงป่ะ เค้าเป็นคนอย่างงั้นอยู่แล้ว ช่างแม่งไปเถอะ เค้าเกลียดพี่พี่ยังเฉยๆ เลย"
"พี่ว่าผมรู้สึกไปเองไหม...."


จากนั้นก็เยอะเลยครับทีนี้ เหมือนเครื่องติด จนหยิบของจ่ายตัง ที่เซเว่นมันถึงเบรกได้
แล้วผมก็เดินคุยกับมันเรื่องอื่น เปลี่ยนบรรยากาศมาจนกลับมาที่ห้อง



พอถึงห้องทำงานผม แบงค์ก็ลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ 
แต่ยังไม่ทันได้เริ่มพูด เจ๊จัดซื้อก็วิ่งมาเกาะประตูห้อง
"กล้วยพี่อร่อยไหมปริ๊นซ์"
"ห๊ะ...ยังไม่ได้กินเลยครับพี่"
"ทำไมอ่ะ ทำไมยังไม่กิน กินเลยๆพี่รอ"
เฮ้ย! ได้หรอวะ เดี๋ยวก่อน
"คือผมยังไม่กินอ่ะครับพี่ เดี๋ยวผมกินตอนบ่ายนะครับ"
"ทำไมอ่ะๆทำไมต้องบ่าย"
หน้าผมเฉยๆ ยิ้มให้พี่เค้าปกติ น้ำเสียงปกติด้วนะครับ 
แต่ในใจผมนี่คือ
เฮ้ย นี่มันเชี้ยอะไรนักหนาวะ
"เดี๋ยวกินแล้วผมเดินไปบอกพี่เลย ... แบงค์...ฝากปิดประตูที"
"ครับ"

ไอ่แบงค์ลุกไปปิดประตู...ใช่ครับ ปิดประตูแม่งเลย 
ซึ่งตอนนี้ไอ่แบงค์ยิ้มนิดๆ แล้วมองหน้าผม

"วันๆ กูพันกว่าเรื่อง"  ผมหัวเราะพร้อมเอามือกุมหัว








"แล้วเป็นไงบ้าง อึดอัดกับสิ่งที่เค้าทำใช่ไหม"
ผมเปรยนำเปิดโอกาสให้แบงค์ได้พูด
แล้วทีนี้มันก็พรั่งพรู ไม่รู้ว่าหมดทุกสิ่งอย่างไหม
แต่มันก็ดูเปิดใจพูดสิ่งที่อึดอัดกับผมเต็มที่ ไม่ได้ลังเล
ซึ่งแบงค์มันพูดด้วยเสียงเรียบๆ แสดงสีหน้าไม่มากเทียบกับอารมณ์ที่มันเล่า
ส่วนผมคือนั่งมองหน้ามัน ฟังแบบตั้งใจ พยักหน้ารับเป็นพักๆ

ซักพัก ไอ่แบงค์ดูพูดตะกุกตะกัก กลืนน้ำลายถี่ แล้วดูสีหน้าสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
ผมเลยขยับตัวไปลูบหลังมันเบาๆ  คิดว่ามันจะร้องไห้
แต่พอแตะแล้ว ....
ทำไมตัวมันดูสั่นๆ วะ
แล้วมันพูดอะไรกับผมซักอย่าง แต่ตอนนั้นผมไม่ได้ฟังเนื้อหา
รู้แต่ว่าเสียงมันดูเหนื่อยๆ มันคนจะหายใจไม่ทัน



"แบงค์....นี่เป็นไรป่ะเนี้ย"
ไอ่แบงค์ไม่ได้ตอบ แต่โบกมือให้แทนว่า "ไม่"
แล้วยกมือเอาศอกเท้าโต๊ะ พร้อมเอามือปิดหน้า แล้วหลับตาเงียบๆ
แต่มือแม่งสั่น ตัวสั่นแปลกๆ เหงื่อแตก แล้วถอนหายใจหลายครั้ง

"แบงค์...โอเคไหม บอกพี่ดิวะ นี่มีโรคประจำตัวอะไรที่เครียดแล้วจะร่วงไปป่ะเนี้ย"








หุย! ผมสาบานเลยว่าตกใจลุกขึ้นยืน ยกมือเรียกพี่หมิงที่นอกกระจก
ซึ่งพี่หมิงชะโงกดูแล้วตามเข้ามาทันที 
แล้วไม่ได้ทำอะไรมากไปว่าปิดประตูห้องเงียบๆ แล้วยืนตบไหล่แบงค์เบาๆ
ส่วนผมก็นั่งลูบหลังจับแขนมันไว้พร้อมก้มดูเป็นระยะ

"มึงด่ามันหรอปริ๊นซ์"  พี่หมิงถามผม
"ยังไม่มีซีนพูดเลยครับ" ผมพูดเสียงกระซิบๆ
"เอ้อ...จะร้องมึงก็ร้องไปดิ เป็นกูกูก็ร้อง เป็นไอ่ไนท์แม่งตบร่วงไปแล้ว"
พี่หมิงพูดติดตลก 

"เออ...ไม่มีอะไรแล้วมึง...พี่เข้าใจหมดเลย คิดเหมือนมึงด้วย
แต่เราแก้ไขอะไรเค้าไม่ได้เว่ย ทำได้แค่ช่างแม่ง
พี่โบ๊ตบอกว่า มึงคิดดูนะ เราเบื่อเค้าแค่คนเดียว เค้าต้องเบื่อเราแม่ง 12-13คน
ถ้าเราเบื่อเค้ามาก เค้าก็เบื่อพวกเราชิบหายเลยนะเว่ย"
ผมพูดเองขำเอง

"เออวะ..."  แบงค์นี่เงียบไปนานพูดขึ้นเบาๆ 
"แต่จริงๆ เค้าไม่มีอะไรนะ เค้าหวังดี แต่อาจจะทำสิ่งที่ไม่มีใครชอบแค่นั้น
เราไม่มีสิทธิ์เลือกเค้า เค้าเองก็ไม่มีสิทธิ์เลือกเราเหมือนกัน
มึงคิดว่า
การต้องทำงานกับคนไม่ขาดก็เกิน13คนแม่งปวดหัวป่ะวะ
แม่งโคตรปวดหัว" 
ทีนี้ทั้งพี่หมิงทั้งแบงค์หัวเราะ มันดูผ่อนคลายขึ้น 
นั่งถอนหายใจแล้วเอามือเท้าหัวอยู่ที่โต๊ะ



"ผมไม่รู้ว่า ผมจะพูดแบบนี้ได้รึป่าวนะพี่ แต่ถ้าผมได้อยู่กับพี่ก็คงดี"
แบงค์ยิ้มแบบทรงไม่ได้อยากจะยิ้ม
"อ้าว....เวรก็ตกอยู่กับซีเกมส์อ่ะดิ"  พี่หมิงเอาแขนชนหลังแบงค์เบาๆ 
"ช่างแม่งมันดีไหม....ก็เออนั่นแหละ ถึงได้บอกว่า จริงๆ ก็ไม่มีสิทธิ์พูด"
"พูดได้ แต่ทำได้ไม่ได้ก็อีกเรื่อง ก็เล่นโดนคู่เลยนี่ นี่พี่โฟล์ค ทั้งย้ง"
ผมเสริม แบบคนรู้ลึกรู้จริง ใช่สิครับ ผมเป็นครูฝ่ายปกครอง 5555









หลังจากนั้น แบงค์ก็ออกไป พร้อมกับที่น้องธุรการเดินไล่ถามว่าใครจะสั่งกาแฟบ้าง
ส่วนพี่หมิงที่สั่งกาแฟช่วงบ่ายเสร็จก็ยังยืนอยู่หน้าห้องผม 

"ไม่เอาหรอ" พี่หมิงถามผม ส่วนผมส่ายหน้า พร้อมยกแก้วให้ดูว่า ของเมื่อเช้ายังไม่หมด
ส่วนสายตาผมยังมองออกไปนอกห้อง มองแบงค์อยู่

"น้องมันแค่เครียดจัด ไม่เป็นไรหรอก" พี่หมิงพยักหน้าให้
"หรอวะพี่ แม่งเล่นซะ ผมกลัวมันช็อคไป"
"ตอนห้องเชียร์ก็แบบนี้แหละ หายกดดันก็ดีขึ้น มึงจำไม่ได้หรอ"
"เหอะ...ผมไม่เคยเข้าตอนบรรยากาศไม่ดี"
"ถามกูนี่...กูเป็นว๊ากเกอร์"
"หน้าอย่างพี่อ่ะนะ ว๊ากใครเค้าจะกลัววะ"  ผมนี่ถึงกับขำ
"พี่ลีดมึงก็ว๊ากมึงไม่ใช่หรอ แล้วมึงกล้ามองหน้ามันไหมละตอนนั้น"
ผมยืนกอดอกแล้วส่ายหน้า  "ไม่มอง มองแล้วเดี๋ยวเหนื่อย"
พี่หมิงถึงกับตบมือชอบใจแล้วเดินออกไปจ่ายค่ากาแฟน้องธุรการ








ตกบ่าย ผมนั่งทำงานเงียบ ๆ ในห้องทำงาน 
ซักพักได้ยินเสียง
ปัง! จากนอกห้องที่โซนที่นั่งแผนก

โดยที่พี่โฟล์คเดินถอยหลังออกมาจากโซนที่นั่ง
พร้อมกับที่เจมส์ลุกพรวดขึ้นยืนจ้องหน้าพี่โฟล์ค

ผมจากที่นั่งมองผ่านกระจก นี่ก็ถึงกับต้องลุกยืน

เสียงพี่โฟล์คดัง พร้อมaction ที่ดูมีอารมณ์
ส่วนเจมส์ ไม่มีเสียง ปากพูดอะไรสั้น ๆ

แต่สีหน้าสีตาดูพร้อมจะจั่วคนตรงหน้าเต็มขั้น
"ชิบหายแล้วไหมละ" ผมถึงกับเอามือทาบอกอุทานอย่างสิ้นหวัง
ก่อนจะรีบเปิดประตูออกไป แล้วถามซีเกมส์น้องใหม่ที่นั่งหน้าเจื่อนไม่กล้าเงยมาสบตา



"ทำไมน่ะ" 
"ไม่รู้เหมือนกันครับพี่ปริ๊นซ์ อยู่ๆ พี่เจมส์ก็ตบโต๊ะ"
ผมเลยเงยไปมองหน้าสองคนนั้น หน้านิ่งๆ 
แต่ในใจที่ผมมองคือ
แยกนะ อย่าจั่วกันนะมึง กูอยู่คนเดียว

แต่เหมือนจิตผมจะแรง เพราะพอต่างคนต่างสบตาผม
สองคนนั้นก็หันหลังแยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง

พี่โฟล์คเดินเข้าห้องปิดประตูดังปัง! 
แล้วผมจะกล้าเข้าห้องไหมละ 55555 ผมเลยยืนเท้าฉากโต๊ะน้องเงียบๆ 

ไนท์กับป๊อปปี้รีบเข้าไปชาร์จเจมส์ที่มันก็เงียบๆ นิ่งๆ แต่ตาแม่งขวางเชียว
ข้างนอกน่าจะสงบแล้ว ผมเลยถอนหายใจแล้วหันไปที่ห้อง

"พี่เคลียร์ทางนั้นเอง ตรงนี้ดูเพื่อนกันด้วย"


แล้วก็เดินกลับเข้าไปนั่งที่ห้องทำงาน รูดมู่ลี่ปิดกระจก
แล้วนั่งจับไข่ เอ้ย! จับเข่า คุยกับพี่โฟล์คว่าเมื่อกี้มันน็อตหลุดอะไรขึ้นมา




วันวัน....ของกู.....พันกว่าเรื่อง!!!






 



Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2568
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2568 11:14:40 น.
Counter : 505 Pageviews.

17 comments
(โหวต blog นี้) 
ป๋าดัน รันวงการ จันทราน็อคเทิร์น
(11 เม.ย. 2568 00:07:45 น.)
ประเพณีแย่งเรือพระ งานดีดีที่เชื่อมความสามัคคีในชุมชน ของชาวบ้านอำเภอนาโยง ตรัง sawkitty
(9 เม.ย. 2568 11:35:57 น.)
New challenge : ชีวิตนี้แสนสั้นเกินกว่าจะเข้าใจได้ nonnoiGiwGiw
(9 เม.ย. 2568 16:06:28 น.)
7 เมษายน 2568 บางอย่างที่ไม่ค่อยเข้าใจ คุกกี้คามุอิ
(7 เม.ย. 2568 00:08:21 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณnonnoiGiwGiw, คุณกะริโตะคุง, คุณ**mp5**, คุณหอมกร, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณกะว่าก๋า, คุณThe Kop Civil, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณnewyorknurse, คุณtoor36, คุณmultiple, คุณSweet_pills, คุณtanjira, คุณฟ้าใสวันใหม่

  
555555555555555+ ไม่ใช่ว่า..
เรื่องคัวเองสามหมื่นแปดพันห้าร้อยเรื่อง
เรื่องเพื่อนพันกว่าเรื่องนี่คือ จิ๊บๆ กร๊ากกก

แล้วสรุปวันนั้นนี่คือได้งายไหม
รอบข้างสับคิวเข้ามาหา
อย่างกะเล่นเก้าอี้ดนตรี


ใดใด..ฉันเหมือนจะสะใจในความปวดกะบาลของน้อง 55
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:13:20:53 น.
  
*ตัวเอง
*งาน

แก้คำผิดอ่ะ
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:13:21:38 น.
  
แหม่ดูแล้วพันกว่าเรื่องไม่น่าจะใช้ น่าจะหลักสามพันสี่พันเรื่องนะฮะ

แถมๆๆๆๆ มีสับขาหลอกแอบชมว่าตัวเองหน้าเด็กอีกตะหาก ผมอ่าน between the lines ได้แบบนี้
โดย: กะริโตะคุง วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:13:30:50 น.
  
การต้องไปรับรู้เรื่องราวของคนอื่น
มันก็ย่ำแย่เหมือนกันนะปริ้น
โชคดีนะที่ชีวิตการทำงานไม่ต้องเจอแบบปริ้นหนะ

โดย: หอมกร วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:16:45:48 น.
  
ทำงานไม่ว่าอาชีพไหนก็มีปัญหาหมดค่ะ โดยเฉพาะกับคน
เมื่อก่อนก็แคร์กับคำพูดการกระทำของคนอื่นมากไปนะ จะรู้สึกเครียด พอได้ไปหาหมอ แล้วปรับไมด์เซ็ทตัวเอง โฟกัสแต่กับตัวเอง-กับงาน ก็เลยผ่อนคลายขึ้นค่ะ
แต่จริงๆชอบทำงานกับผู้ชายมากกว่านะ ตอนอยู่โรงพักนี่แบบเฮฮามาก เหมือนผู้ชายไม่ค่อยมากเรื่องเท่าผู้หญิงน่ะ แต่พอมาทำงานที่มีผู้หญิงเยอะ ก็เยอะสิ่งตามไปด้วย อยากกลับไปอยู่โรงพักเลยค่ะ 555
โดย: babyL' วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:19:17:01 น.
  
อ่านแล้วน่าดีใจครับ
น้องปริ๊นซ์ดูเด็กมากๆ
จนน้องในที่ทำงานดูไม่ออกเลย 555

แบงค์ดูเครียดมาก
แต่ก็โชคดีจริงๆที่มีน้องปริ๊นซ์
เป็นพี่ เป็นที่คอยปรึกษารับฟังได้

ดูท่าทาง ofiice นี้จะมีวัยรุ่นเยอะหน่อยนะครับ
วัยรุ่นก็เลยฮอร์โมนพลุ่งพล่านสักหน่อย 555

พี่ก๋านี่เกลียดการเอกสารมากที่สุดเลยครับ 555

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:20:24:49 น.
  
สวัสดีครับน้องปริ๊นซ์
แสดงว่าน้องปริ๊นซ์หน้าเด็กกว่าลูกน้องใช่ป่าว 555
ปัญหาในที่ทำงานมีทุกที่จริง ๆ ครับ ทั้งเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ ถ้าเคลียร์กันได้ตอนนั้น ก็โอเคเลย จบ ๆ ไป แต่ถ้าเคลียร์ไม่ได้นี่เรื่องยาวเลย
โดย: The Kop Civil วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:21:46:07 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:6:30:18 น.
  
ผมฮาตรงได้ยินหมด ผมก็ประมาณนี้แหละ บางครั้งเราก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน

เคสแบงค์ กรณีของผมจะเป็นตอนที่เดินไปเจอกันที่ห้องน้ำแล้ว เดินออกมาก็คุยกันครับ แล้วก็ยาว แต่ส่วนมากผมคุมเวลาไม่ให้เกิน 10 นาที ไม่งั้นมันจะดูไม่ค่อยดี

บางทีเราก็ต้องช่างแ-่งกับเรื่องที่เกิดขี้นครับ เอาเข้าจริงถ้าผมไม่ช่างแ-่งกับเรื่องที่เกิดขึ้นในออฟฟิศผมคงเป็นบ้า หรือไม่ก็อาจได้ต่อยคนไปแล้วก็ได้

คุณปริ๊นซ์เป็นเสมือน "ครูฝ่ายปกครอง" เหรอครับ ของผมต่างกันเลยครับ ตอนนี้กลายเป็น "นักทำลายคำสาป" ไปแล้วครับ เรื่องอาถรรพ์บ้าบอที่เล่าลือ ไอ้นี่มันอาถรรพ์พินาศหมดเลยครับ
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:9:58:26 น.
  
อาจารย์เต๊ะ ขอถามคำเดียวว่า ใช้ครีมอะไร ถึงหน้าเด็ก แฮร่ 555
เมื่อตะกี้ พึ่งจะดูข่าว ผอ รร สวยจิ้ง ปิ๊งๆ ขึ้นเวที อำลา นร ม6 แต่งชุดเด็กมัธยม
ถ่ายรูปคู่กับเด็ก นร นี่แยกไม่ออกเลยจริ๊งๆนะครับ 555

ของอาจารย์เต๊ะ นี่กลับกัน ถ้าไม่ได้ไปสอนอยู่บ้านจะออกแนว ซกม๊กหน่อยๆ เสื้อยืดเก่าขาดๆ คนมาเห็นเดินอยู่จะนึกว่าเป็น ตาลุงคนสวน แหงๆ 555

ส่วนเรื่องลูกน้องที่ทำงานมาระบายความในใจว่า แอบชอบ เจ้านาย เย้ย นั่นมันซีรีย์ Y ไม่ใช่แระ อิอิ

เรื่อง ความอึดอัดในที่ทำงาน ที่ไม่ได้รับมอบหมายงานนี่
ความนอยส์เลยบังเกิด จริงๆถ้าเป็นคนขี้เกียจ จะชอบมากกก555
แต่ถ้าคนดี มีความสามารถนี่ มันก็จะแสนอึดอัดเลยนะครับ

ของอาจารย์เต๊ะ นึกถึงตอนเป็นสถาปนิกสนามบินนี่
ที่แผนกก็ คนแยะเดินจะชนกันตาย
แต่ไอ้คนว่างนี่ เช้ามากินกาแฟ เดินไปเดินมา บ่ายหายหัว
นายก็ไม่ส่งงานให้ทำซะด้วย เพราะกลัวส่งไปแล้วเละ

แต่คนที่รับผิดชอบงานดี นายก็ขยันส่งงานให้ทำซะท่วมหัว
อย่างอาจารย์เต๊ะ นี่ปีนึงเคยทำร้อยกว่าโปรเจค งานขี้หมูราขี้หมาแห้ง กินเลี้ยงปีใหม่ จะทำเวที งานก็มา
บางที นายไปรับงานนอก งานกฐินมา ก็โยนมาให้
ทำงานสนามบิน แต่ต้องไปออกแบบ กำแพงวัด ซุ้มประตูวัดก็ยังมีเลยครับ อะไรๆก็กรู ท้างน้าน555

ส่วนเรื่องอารมณ์นี่ สมัยวัยรุ่น หนุ่มๆมักจะใจร้อน เป็นเรื่องปกติ
ยิ่งไปเจอ เจ้านายงี่เง่า ใช้แต่อารมณ์นี่ หูย
อาจารย์เต๊ะสมัยก่อน ถ้าทำได้อยากจะแอบไปตัดสายเบรค รถนายจร้งๆเล้ยเชียวครับ 555

แล้วบางที ใช้แต่อารมณ์งานก้ไม่ได้จะสำเร็จ เสร็จเร็วขึ้นนะครับ
เจ้านายที่ดีก็ต้องเข้าใจลูกน้องบ้าง ไม่ใช่เอะอะ ก็เอาแต่สั่งอย่างเดียว ไม่เคยลงมาช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้างเลยนะครับ

เรียกว่าการทำงานกับคนหมู่มาก เดี๋ยวนี้ เก่งเรื่องงานอย่างเดียวไม่พอ
ต้องเก่งการจัดการ การบริหารคนด้วย เรียกว่าต้องมีทั้งบู๊ ทั้งบุ๋นเลยนะครับนี่ ดูแล้ว พารา ต้องเข้าทั้งวันเลยนะครับ 555

โดย: multiple วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:20:02:28 น.
  
เห็นแล้วก็รู้สึกเลยว่าคุณทำงานหนักมากๆ และต้องรับมือกับเรื่องราวที่หลากหลายตลอดเวลา ดูเหมือนว่าแต่ละวันของคุณเต็มไปด้วยเหตุการณ์ที่ไม่เคยหยุดพักเลย ทั้งงานและความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ดูเหมือนจะมีทั้งความสนุกสนานและความเครียดผสมกันไป

อยากจะบอกให้คุณดูแลตัวเอง อย่าให้ความเครียดหรือเรื่องวุ่นวายต่างๆ มาทำให้คุณรู้สึกท้อหรือเหนื่อยเกินไป บางครั้งการแบ่งเวลาให้ตัวเองได้พักผ่อนหรือทำอะไรที่ทำให้รู้สึกสบายใจบ้าง ก็จะช่วยให้มีแรงสู้ต่อไปได้

จากที่เห็น คุณมีเพื่อนร่วมงานที่คอยสนับสนุนและเข้าใจคุณอยู่บ้าง ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วย
โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:21:28:31 น.
  
สวัสดีค่ะน้องปริ๊น

พี่แวะมาลงชื่อก่อนค่ะน้อง
โดย: tanjira วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:7:08:41 น.
  
สวัสดีค่ะน้องปริ๊นซ์

ตกลงบอกพี่เจ้าของกล้วยรึยังคะว่าอร่อยรึเปล่า

ประตูห้องทำงานน้องปริ๊นซ์เหมือนยินดีเปิดรับ
ทั้งรับฟังความในใจเพื่อนร่วมงาน ใครมีของอะไรมาฝากก็ไม่ปฏิเสธให้เสียน้ำใจ
เวลาไหนไม่สะดวกก็ปิดประตูนะคะ
น้องปริ๊นซ์มีความเป็นมิตร เป็นที่พึ่งที่ปรึกษาได้ไม่พอแถมหน้าเด็กอีกด้วย
เป็นรองผู้จัดการในอุดมคติได้เลยค่ะ

ลาป่วยไปวันนึง ตอนนี้หายดีแล้วนะคะน้องปริ๊นซ์
อากาศเปลี่ยนมาเย็นหน่อยๆอีกแล้ว รักษาสุขภาพนะคะ
ขอให้การทำงานในวันนี้ราบรื่นค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:8:14:47 น.
  
วันๆ พันกว่าเรื่อง
....นี่ไม่เกินจริงนะครับ......

ชีวิตมีสีสันนะคะ รับรองไม่ง่วงเลย เพราะมีเรื่องให้ตื่นเต้นตลอดเวลา
จริง ๆ เหลือโหวตสุดท้ายว่าจะเก็บไว้โหวตบล็อกใหม่ แต่ไม่เห็นอัพสักที งั้นก็แปะโหวตไว้บล็อกนี้แล้วกัน 555

จากเม้นท์บน ขอให้หายป่วยไว ๆ นะคะ
อากาศเปลี่ยนแปลงแบบงง ๆ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:19:47:52 น.
  
โดย: หอมกร วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:6:20:26 น.
  
สวัสดียามสายค่ะ น้องปริ๊นซ์

ทำงานกับคนเยอะๆ ปัญหาก็จะเยอะมาอ่ะเนอะ
วันๆพันกว่าเรื่องจริงๆ
ขำน้องแต่ละเรื่อง นี่ถ้าเป็นพี่ คงมีแตกกันบ้าง
คือพี่นี่หละเส้นเลือดสมองแตกก่อน 55555555555


ช่วงนี้ค่าฝุ่นลดลง มีกิจกรรมนอกบ้านได้ค่ะ
วันนี้ขอให้เป็นวันดีดีนะคะ


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:10:06:02 น.
  
นึกว่าบ้านนี้จะอัพตะพาบนะนี่
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:14:22:11 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Threepopstory.BlogGang.com

จันทราน็อคเทิร์น
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]

บทความทั้งหมด