วิกฤตการณ์ด้านอาหาร จัดการชีวิตให้พอเพียง ในปี2558ประเทศไทยและประเทศต่างๆ ในกลุ่มอาเซียนจะรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างสมบูรณ์ โดยตกลงเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกัน (single market and production base) นั่นย่อมหมายถึงจะมีการเคลื่อนยายปจจัยการผลิต สินค้า บริการ การลงทุนและแรงงานอย่างเสรี สามารถดําเนินกระบวนการผลิตที่ไหนก็ได โดยสามารถ ใชทรัพยากรจากแตละประเทศ ทั้งวัตถุดิบและแรงงานมารวมในการผลิต มีมาตรฐานสินคา กฎเกณฑ กฎระเบียบเดียวกัน แสดงให้เห็นการดำเนินชีวิตในอนาคตได้อย่างชัดเจนว่าจะมีทั้งการแบ่งปันและแย่งชิงทรัพยากรในภูมิภาคและทั่วโลกกันอย่างกว้างขวาง ใครตัวใหญ่แลัแข็งแรงกว่าก็จะเป็นผู้ชนะ พี่น้องเกษตรกรจะต้องปรับตัวเตรียมตัวรับมือกับกระแสธารอันเชี่ยวกรากของทุนนิยมที่หนักหน่วงรุนแรง ในภาคส่วนที่ปรับตัวได้ไว รวดเร็ว แข็งแรงก็จะอยู่รอดปลอดภัย ส่วนที่ยังอ่อนไหวอ่อนแอก็จะแย่หนักกว่าเดิมเพราะโลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก ในกลุ่มของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะมีการแบ่งโซนแบ่งประเภทกันผลิตและจำหน่ายโดย พม่าสาขาผลิตภัณฑเกษตร (Agro-based products) และสาขาประมง (Fisheries) มาเลเซีย สาขาผลิตภัณฑ์ยาง (Rubber-based products) และสาขาสิ่งทอ (Textiles and Apparels) อินโดนีเซีย สาขายานยนต (Automotives) และสาขาผลิตภัณฑไม (Wood-based products) ฟิลิปปินส สาขาอิเล็กทรอนิกส (Electronics) สิงคโปร สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ (e-ASEAN) และสาขาสุขภาพ (Healthcare) ไทย สาขาการทองเที่ยว (Tourism) และสาขาการบิน (Air Travel) ประชาชนทั่วทุกแดนดินต่างดิ้นรนแข่งขันปรับตัว ไม่เพียงแต่ประเทศไทยของเราเท่านั้น ประชาชนทุกประเทศก็จะต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเพื่อรักษาโอกาสให้ตนเอง ประเทศและประชาคมอาเซียนเพื่อแข่งขันกับทั้งจีน อินเดีย ญี่ปุ่น ยุโรปและอเมริกา ส่วนหนึ่งก็จะวัดกึ๋นกันที่ผู้นำว่าใครจะมีวิสัยทัศน์ในการรับมือได้กว้างไกลและรัดกุมนำพาประเทศชาติแหวกฝ่าวงล้อมเสือ สิงห์ กระทิง แรดให้อยู่รอดปลอดภัยต่อไปได้ในอนาคตข้างหน้า แต่พี่น้องประชาชนไทยยังถือว่าโชคดีในระดับหนึ่งที่นอกจะมีผู้ที่บริหารประเทศที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นมาบริหารประเทศแล้ว พวกเรายังมีพ่อหลวงที่ให้แนวทางการดำรงชีพแบบเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ว่าโลกจะหมุนเร็วเพียงใดเราก็ยังมีกินมีใช้ หากพลาดพลั้งไปกับโลกของทุนนิยมอย่างไรขอให้เรายึดมั่นในพระราชดำรัสคำสั่งสอนของพ่อหลวงคือเศรษฐกิจพอเพียงเราก็จะไม่อดตายไปตลอดชีวิต คือควรดำเนินชีวิตแบบไม่ประมาทและให้กลมกลืนกับกระแสโลกาภิวัฒน์โดยปลูกข้าว ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์เลี้ยงปลาไว้บริโภคกันภายในครัวเรือนสมบูรณ์พูนสุขโดยไม่ต้องไปซื้อหามาจากที่อื่น ทำให้มากเพียงพิและเหลือจะแบ่งปันหรือขายค่อยว่ากัน ทำอย่างนี้จนมั่นใจได้ว่าตลอดอายุขัยของเราจะไม่อดอาหารแน่นอนแล้วค่อยคิดเรื่องทุนนิยม เรื่องการลงทุน เรื่องการผลิต เรื่องการตลาดต่อไปเพื่อดำรงชีพให้อยู่รอดในวัฏสงสาร เมื่อดำเนินการผิดพลาดพลั้งในโลกทุนนิยม เรายังกลับบ้านมากินมาใช้ทรัพยากรของจริงที่เราได้เตรียมไว้เป็นอย่างดีแล้วดังคำหม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากรที่ท่าได้รับกล่าวไว้ดังนี้ "เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาสิเป็นของจริง" มนตรี บุญจรัส ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ //www.thaigreenagro.com |
บทความทั้งหมด
|