6 กุมภาพันธ์ 2567 (ปานวาด)
ปานวาด (บทบาทสมมติ)
บอซซ์(คุกกี้)

ถึงเวลาไอร้อนระเหยจากหม้อต้มชาบู ของกินที่ใส่ในซุปผ่านความร้อนมาได้สักพัก บางชิ้นสุกพอพร้อมรับประทาน ชายหญิงที่นั่งตรงข้ามกันต่างเริ่มจัดเตรียมถ้วยชามไว้กับตัว 

ปานวาดใช้ช้อนใหญ่ทั้งตักเนื้อและผัก และใช้พลิกอาหารให้มันสุกทั่วถึงกันหมด เธอใช้ตะเกียบคีบหมูสันนอกชิ้นหนึ่งที่สุกดีแล้วและยื่นใส่ถ้วยของคุกกี้

ปานวาด : ไม่อยากจะเชื่อนะคะว่าหนูได้พบกับพี่บอซซ์อีกครั้ง ทั้งๆที่จริงเราก็ต่างแยกย้ายห่างกันไปทำความเติบโตในชีวิต พี่บอซซ์นัดหนูให้หนูเดินทางกลับมาไทย พี่บอซซ์เลี้ยงชาบูให้ทั้งที.....แต่หนูคงไม่ได้ปลื้มน้ำใจของพี่หรอก ตัวพี่บอซซ์เองก็ยังไม่มีงานทำเลย เงินยิ่งไม่ค่อยมี ...หัดใฝ่หางานทำสักงานซะบ้างนะ

คุกกี้ : .....พี่นัดเธอมานี่ พี่มีเรื่องอะไรจะคุยอยู่

ปานวาดหลิ่วตามองคุกกี้ ริมฝีปากเรียบแอบยิ้มเล็กๆ มือขวาที่ถือตะเกียบยกอยู่ระดับไหล่ 

ชายวัยหนุ่มใหญ่ใช้ตะเกียบคีบอาหารที่สุกแล้วในถ้วยใส่เข้าปากรัวๆเหมือนอดอยากมาหลายวัน

คุกกี้ : ปานวาด.....คิดถึงปานวาดในสมัยมัธยมน่ะ มันไม่เหมือนตอนนี้ ตอนนี้เธอเป็นผู้ใหญ่แล้วเธอดูหน้าสวยขึ้นนะ ....ร่างกายเธอมันเนื้อแน่นไปด้วยความอวบ อวบระยะสุดท้าย ไม่รู้ว่าบวมน้ำหรือบวมตีน ถ้าเนื้อหนังมากขึ้นไปกว่านี้เขาคงเรียกว่าอ้วน

ปานวาด : จะชมหรือจะด่า? ในสมัยเก่าๆพี่บอซซ์ควรจะสำนึกด้วย ตัวเองจีบเค้าเพราะอะไร ตอนนั้นมาสนิทเหมือนหนูมีเสน่ห์ แรกๆพี่บอซซ์เองก็ไม่คิดอะไร หนูว่าหนูเข้าใจอยู่แล้วว่าพี่มันหื่น ใจแตกกะทั่งผู้หญิงหน้าตาอย่างนี้.......สมัยนั้นถ้าหนูต้องทำขัดใจไม่ตีสนิทต่อเพราะพี่บอซซ์แสดงความใส่ใจสนใจหนูง่ายๆเกินไป ตอนนั้นที่คลั่งรักน่ะ พี่รักหนูไปแล้วใช่มั้ย ?

คุกกี้ : ......จริงๆเคยคิดรัก เคยต้องการ แต่พี่กลับไม่เคยลืมพี่บุ๋ม

ปานวาดคีบเนื้อเสือร้องไห้มาวางในถ้วยของฝ่ายชาย และคีบผักกวางตุ้งจุ่มน้ำจิ้มเพิ่มรสชาติให้ทานง่าย : เวลานั้นพี่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของการคิดกลับไปหาพี่บุ๋มหรือเปล่าว่าผู้คนให้กลับไปเพราะอะไร ความคลั่งของพี่บอซซ์ให้หนูมาตอนนั้นมันเป็นเรื่องความรู้สึกซื่อๆ มันทำให้ผู้คนเขาเข้าใจกันว่าพี่บอซซ์ต้องการหนูไปจริงๆน่ะ ..... 

คุกกี้ : ตอนนั้นพี่ไม่เข้าใจหรอกว่าปานวาดคิดยังไงไปแล้ว

ปานวาด : ถึงหนูไม่สวยแบบนี้ ถ้าเห็นแล้วมันน่ารักต่อพี่นะ พี่ก็ควรเตรียมใจก่อนนะ หนูไม่อยากใจง่ายดายคงไม่เอาผู้ชายอย่างพี่บอซซ์หรอก พี่ไม่เข้าใจความรักเอง โง่ ล่าสุดเห็นว่าเกิดปัญหาจะไปมีรักใหม่ไม่เลือกพี่จอย

คุกกี้ : ......ตอนที่พี่หลงน้องมายนัส.......พี่สามารถสลัดความฝังใจในตัวพี่บุ๋มที่ยาวนานเป็นสิบๆปีได้แล้ว.....ปอ(ปานวาด) ...พี่บุ๋มในทุกวันนี้ก็ประสบความสำเร็จ ทั้งงาน ความรัก ในเรื่องความรัก......สุดท้ายพี่เองก็ไม่ใช่คู่แท้......พี่แอบยินดีกับโชคชะตาความรักของพี่บุ๋มนะ.....เธอคงมีความสุข ......เธอที่ต้องเปลี่ยนแปลงคุณค่าตัวเองให้เป็นหมอ ไม่ได้อยากให้เป็นแต่ก็เพราะเธอรักแต่พี่หัวโตแต่พี่หัวโตรักผู้หญิงมีคุณค่าดีอย่างพี่จอย ซึ่งพี่จอยยังมีปัญหาเรื่อง.....เสือกมารักพี่น่ะ..... พี่บุ๋มเป็นคนมีวาสนาที่ดี การที่ได้มีพี่หัวโตและพี่แจ้ที่เป็นที่นิยม เธอเองก็มีพี่แจ้ช่วยอะไรให้หลายด้าน พี่แจ้นี่โดยรวมก็ดีไปหมด  .... มันคงถึงเวลาที่พี่บุ๋มได้ความรักจากพี่หัวโตที่พยายามหาทางช่วยความรักในตัวพี่จอยมานาน.............เรื่องพี่บุ๋มนี่... ทุกอย่างก็จบลงด้วยดี

ปานวาด : พี่บุ๋มเคยเปิดใจคุยกับพี่บอซซ์บ้างมั้ยคะ?

คุกกี้ : ไม่เลย และเธอก็ดันเสือกเป็นหมอ เป็นคุณค่าสูงแล้วรู้ว่าพี่น่ะไม่คิดกับพี่จอย .... พี่บุ๋มเขาไม่คบหาพี่กี้หรอก ....พี่กี้ไม่มีหนทางคุยกันกับพี่บุ๋มได้เลย.....

ปานวาด : น้องมายนัสนี่เป็นแฟนของพี่บอซซ์หรือเปล่า ?

คุกกี้ : มายนัส เจ้าตัวน้องเขาน่ะ ตัวคนน่ะอยู่กับแฟน แต่พี่น่ะยังมีสิ่งที่เหลือ......

ปานวาด : พี่ หนูขอดูมือถือ ดูรูปมายนัสหน่อย.......อ๊ะ !? อะไรเนี่ย? นี่มันแมวหนิ? แล้วพี่บอซซ์นี่เพี้ยนว่ะที่ประกาศตั้งสถานะตัวเองว่ามีแฟน.......คนบ้า มีแฟนเป็นแมว อิอิ แล้วไปเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าแมวมันมีใจ แถมเจ้าตัวน้องเขาก็มีแฟนแล้ว พี่บอซซ์ไม่ได้ฐานะเป็นแฟนกับน้องมายนัสแบบตัวคนเนี่ย....ปล่อยวางดีมั้ย? .....หืม?.... เจอรูปน้องที่เป็นคนแล้วล่ะ.......อืม ใบหน้าน้องเขาน่ารักดีเนาะ

คุกกี้ : ตอนที่พี่เริ่มแสดงความรู้สึกว่าชอบ เธอก็เริ่มตีตัวออกห่าง หลบหน้า จากการเคยคุยสนิทกัน 

ปานวาด : .....ปัญหาที่มันสับสนนะ อาการอย่างนั้นน่ะ มันเป็นความวิตกกังวลใจเรื่องที่น้องเขาคงมีแฟนอยู่แล้วแต่น้องเขาไม่กล้าบอกพี่บอซซ์ตรงๆน่ะสิ

คุกกี้ : มักจะเริ่มไม่มีเวลาว่างให้พี่กี้ ขนาดแมวมันยังไม่ค่อยมีเวลารักพี่กี้เลย.....เรื่องแฟนมายนัสมีทั้งแฟนเก่าที่ธรรมดา และแฟนปัจจุบันที่น่าจะดูดีมากโดยรวม พี่เพียงได้รับข่าวคราว พี่กี้ไปยุ่งวุ่นวายชีวิตมายนัสมาก.....ปานวาด .... ปัญหาคือพี่มันเข้าข้างตัวเองหรือเปล่าว่าแฟนเก่าของมายนัสกลับมา มาเพราะมายนัสตัดสินใจจะเลือกพี่กี้น่ะ แต่พี่อาจจะจนปัญญาไม่อยากคิดเรื่องตัวเอง...

ปานวาด : หลงตัวเองหรือเปล่า?....บางทีพี่บอซซ์ต้องถอยห่างน้องเขาสักทีนะ ..... จะดีที่สุด แต่ใจของพี่บอซซ์มันคงไม่เข้มแข็งพอ คงต้องใช้แมวเพื่อดูๆไป ขนาดแมวมันยังไม่มีเวลาให้พี่บอซซ์เลย พี่บอซซ์คิดว่าแฟนน้องเขามีอะไรที่พี่เห็นความสำคัญกว่าตัวพี่เองมั้ย

คุกกี้ : แฟนตัวจริงได้รับข่าวคราวว่า...น่าจะดูดีโดยรวมเลย ส่วนแฟนเก่าพี่กี้กลับคิดว่านั่นเป็นความรักของเธอด้วยนอกจากเรื่องที่มายนัสจะรับพิจารณาพี่อีกครั้ง....เข้าข้างตัวเองไปหน่อยเนอะ....บางทีคิดไปมีเรื่องน้อยใจตัวเอง...  ความรักของมายนัสไม่ใช่เรื่องหน้าตาคน พี่หัวโตเองก็เป็นตัวอย่างในเรื่องเสน่ห์หาที่ไม่ได้เกิดจากใบหน้า ในช่วงเจ็บใจเคยคุยกับพี่แจ้ในไลน์ พี่แจ้เขาบอกว่าถ้าน้องไม่รัก น้องอาจจะมีสเปค ซึ่งพี่ไม่ตรงรูปแบบสเปคเขา พี่เอาความหล่อไม่จริงของพี่นี่ไปเดิมพันความรักไม่ได้หรอก พี่กลับคิดว่ากรณีแฟนเก่ามายนัสเรื่องหน้าตาที่ดูด้อยกว่าแฟนตัวจริงอย่างนั้นเป็น......เหมือนที่พี่แจ้คุยไว้ ...... คือ  ใบหน้าแฟนเก่าพี่เดาว่านั่นคือสเปคของเธอน่ะ พี่กี้จะไม่อยากเสี่ยงจีบมายนัสตรงๆต้องใช้แมว และพยายามห้ามตัวเองมาก.....คิดว่ามายนัสน้องเขาชอบแบบนั้นจริงๆ ซึ่งไอ้ความหล่อของพี่และแฟนปัจจุบันของมายนัสที่ค่อนข้างหล่อนี่....มีปัญหาว่ามายนัสจะคิดยังไง

ปานวาด : ......วุ่นวายชีวิตมาก......พี่บอซซ์ พี่เลิกยุ่งกับชีวิตน้องน่ะดีกว่า แต่อาจจะเหลือแมวชื่อมายนัสเอาไว้อยู่ก็ได้ถ้าพี่ไม่อยากลืม ......มีแต่แมวที่ช่วยให้ชิดใกล้... ....พี่บอซซ์คะ...

คุกกี้ : หืม ?

ปานวาด : เราได้มาคุยกันอีก พี่คิดถึงหนูหรอ?  ถึงชวนมาทานชาบู นึกย้อนไปตอนสมัยที่พี่มาจีบหนูที่ห้องสมุด พี่มองนมหรือมองตูด? ได้ข่าวจากบางอย่างถึงเรื่องความลับในใจพี่บอซซ์ พี่อะตอนที่จีบหนูนี่หวังจะกระแทกตูดหนูสินะ?

คุกกี้ : อือ ใช่

ปานวาด : .....แหม้ ทีกับมายนัสไม่หื่นเลยนะ นี่พี่บอซซ์ พี่นี่ชอบตูดผู้หญิงใช่มั้ย? เหมือนไม่ได้ชอบจิ๋ม....เปิดเผยแล้วไม่ต้องมาขอปล้ำหรอก ถ้าจะปล้ำ.....พี่บอซซ์ก็คงจับหนูไปปล้ำในท่าหมาอะดิ .....พี่บอซซ์  ยังไงเฟสพี่ก็เคยเผยข้อมูลไปแล้ว ไอ้การอยากปล้ำหนู.....นี่พี่.....บอกอะไรมาอย่างนั้นแล้วอย่ามัวแต่ใจไม่ถึงมีดีแค่ปากพร่ำบ่น หึ อยากปล้ำหนูมานานแล้วใช่มั้ย?  กล้าปล้ำหนูจริงๆหรือปะล่ะ?

คุกกี้ : ...........

ปานวาด : ......พี่......เปลี่ยนเรื่องคุย......หนูที่พี่เคยต้องการ พี่ได้พบชีวืตในสังคมยุคของหนู  ...... ถ้าพี่ทำความรู้จักความรัก เรื่องบทบาท เรื่องคุณสมบัติของหนูมันเคยทำให้พี่รู้สึกดีบ้างมั้ย ? ...... รู้ตัวบ้างมั้ย? พี่เคยบอกรักหนูอย่างโน้นอย่างนี้ สุดท้ายพี่ก็ไปเลือกมายนัส มีความรักใหม่ ถ้าใครรักพี่จริง....แต่ไม่ใช่หนูนะ.... พี่ทำตัวให้คนรักพี่น้อยใจมากๆนะ คนที่น้อยใจอกหักอยากได้รับการปลอบ

คุกกี้ : ....ปานวาด ...... พี่ว่าปัญหาสถานะถูกหมั้นของพี่น่ะ คงเป็นพี่จอย .... ปานวาดไม่ใช่ปัญหาของพี่หรอกมั้ง ปานวาดไม่ซึมเศร้าจากความรักก็ดีแล้ว

ปานวาด : พี่จอยมันดูแน่ใจเรื่องปัญหาคู่มากกว่าหนูสินะ

คุกกี้ : .....ก็ เรื่องพี่จอยเนี่ยมันค่อนข้างเข้าหาพี่จริงๆ เพราะดูได้จากเหตุการณ์เก่าๆที่พี่หัวโตมาจีบ มาพาไปเที่ยววัดบ่อยๆ นั่นน่ะ ตอนนั้นพี่น่ะมันติดค้างคากับความหลงความฝังใจบุ๋มมานานเรื่อยๆ พี่จอยมันเหมือนเข้าใจว่าพี่ไปรักหล่อนซะหนิ ถ้าแยกพี่จอยกับพี่บุ๋มจะเห็นความแตกต่าง ...แต่ ไอ้ตอนที่เป็นยุคปานวาดเกิดขึ้นมา เหมือนว่า.....สังคมพยายามไม่ให้พี่นึกหาโอกาสคิดอะไรไปทางปานวาด ยังกะว่า.....

ปานวาดหลับตา ใจหงุดหงิด มือวางตะเกียบ : .....อือ ....เออ เออ ก็ในข่วงเวลานั้นมีแต่คนคิดว่าพี่ต้องการหนูน่ะสิ ผู้คนพยายามไม่ให้พี่บอซซ์โกงความรักเพราะพี่ลืมพี่บุ๋มไม่ได้จริงๆ..... บอกตรงๆ.....ถ้าหนูเกิดรักพี่ขึ้นมานะ......หนูต้องน้อยใจในตัวพี่รู้มั้ย

คุกกี้ : .......

ปานวาด : ......คนที่เคยถูกมองว่าสำคัญต่างๆในเวลาต่างๆ สุดท้ายคู่รักของตนเองกลับไปเลือกความรักจากคนใหม่ ...... หนูเข้าใจ พี่บอซซ์น่ะใจร้ายมาก อยากมีรักใหม่หนิ ......  ถ้ามีผู้หญิงที่อยู่ในสถานการณ์อย่างนี้........เขาต้องรู้สึกผิดหวังน้อยใจมากนะ.....ถามหน่อย ...... ทุกวันนี้พี่บอซซ์ยังรักหนูหรือเปล่า ?...... หนูไม่สวย ......ไม่สวยแต่ แต่น่ารัก

ปานวาดและคุกกี้ใช้ตะเกียบจะคีบเนื้อวัวชิ้นเดียวกันในหม้อ เกิดเหตุไม่คาดคิด ตะเกียบของทั้งคู่มาแตะกัน

คุกกี้ : ........ เอ๋ ? เราสองคนใจตรงกัน?

ปานวาด : เปล่า บังเอิญค่ะบังเอิญๆ

ทั้งสองคนยิ้มเขินๆ

คุกกี้ : ปานวาด........

ปานวาด : อะไรคะ?

คุกกี้ : เราสองคนกลับมาจู๋จี๋กันเหมือนสมัยเรียนดีมั้ย?

ปานวาดหน้าแดง : ........เอ่อ....มายนัสอยู่แถวนี้หรือเปล่าเดี๋ยวๆขอมองดูก่อน เอ่อ จีบกันหรอ ไม่เอาหรอกค่ะ....ก็ในเมื่อ.....

คุกกี้ : ปานวาด....

ปานวาด : คะ?

คุกกี้ : อยากจูบก็จูบได้เลยนะ

ปานวาด : ......ในเรื่องมารยาทงามๆแล้ว พี่ไม่ควรพูดเรื่องนี้ให้ดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาสามัญนะ .........อือ...ไหนจะอยากปล้ำก็บ้างล่ะ.....จะจูบทั้งทีก็ต้องจ่ายสองร้อยค่ะ

คุกกี้ : .......เอ้ย ตอบรับหนิ?

ปานวาด : ฮ่าๆๆๆๆๆๆ



Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2567
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2567 14:51:00 น.
Counter : 145 Pageviews.

0 comments
(โหวต blog นี้) 
ข้าวหมูแดงสุณี ตลาดพลู & ข้าวหมูแดงศิริพร โภชนา เสาชิงช้า & ขนมครกไข่ เจริญกรุง103 peaceplay
(24 เม.ย. 2567 06:22:08 น.)
Day..12 โฮมสเตย์ริมน้ำ
(19 เม.ย. 2567 08:40:36 น.)
»FFF#94« "กินเพลินเกินห้ามใจ" ผัดหมี่เส้นจันท์ nonnoiGiwGiw
(16 เม.ย. 2567 15:00:28 น.)
ep 4 ขับรถบนถนนเริ่มจะประมาท โอพีย์
(10 เม.ย. 2567 05:03:14 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Sktcookiekamui.BlogGang.com

คุกกี้คามุอิ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

บทความทั้งหมด