รางวัลสำหรับหนังสั้นของเวทีประกวดออสการ์ มีการจัดแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มเอนิเมชั่น (Animated Short Film) และกลุ่มคนแสดง (Live Action Short Film) โดยแต่ละกลุ่มจะมีรายชื่อของหนังที่เข้าชิงรางวัล 5 เรื่อง และในที่นี้จะขอกล่าวถึงหนังสั้นประเภทเอนิเมชั่นกันก่อน

Academy Award for Best Animated Short Film
Oktapodi - Emud Mokhberi and Thierry Marchand
Presto - Doug Sweetland
This Way Up - Alan Smith and Adam Foulkes
Lavatory - Lovestory - Konstantin Bronzit
La Maison En Petits Cubes - Kunio Kato :: WINNER








Oktapodi (2007)
Directors : Julien Bocabeille, François-Xavier Chanioux
Runtime : 3 min
Country : France

คู่รักหมึกยักษ์คู่หนึ่งกำลังพรอดรักกันอย่างมีความสุขแต่แล้วฝ่ายหญิงก็ถูกมือดีคว้าตัวไป การผจญภัยในการพาตัวเธอกลับมาก็เริ่มขึ้น

“อุปสรรค” ทั้งหลายคือสีสันของการดูอนิเมชั่นสั้นๆ เรื่องนี้ และทิ้งท้ายเรื่องไว้ได้น่าประทับใจ








Presto (2008)
Director : Doug Sweetland
Runtime: 5 min
Country : USA

ก่อนการแสดงจะเปิดม่าน นักมายากลได้อิ่มหนำสำราญแต่กระต่ายน้อยผู้ร่วมแสดงกลับถูกห้ามไม่ให้กินแครอท ความเคืองและโมโหหิวจึงทำให้เจ้ากระต่ายไม่ยอมแสดงตามคิวแถมยังกลั่นแกล้งนักมายากลอีกหลายประการ

มุกตลกเจ็บตัว(จากการถูกกระต่ายแกล้ง) ได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชมเป็นระยะ ยิ่งมีสภาพดูไม่ได้ปางตายยิ่งได้รับเกียรติอย่างสูง(ผู้ชมลุกขึ้นยืนปรบมือ)

หรือว่า “ความบันเทิง” ขั้นสูงสุดคือการได้เห็นผู้อื่นตกอยู่ในอันตราย!








This Way Up (2008)
Directors : Adam Foulkes, Alan Smith
Runtime : 8 min
Country : UK

งานของ 2 ลุงสัปเหร่อวันนี้คือนำศพคุณยายคนหนึ่งไปฝังยังที่ที่เตรียมไว้ แต่การเดินทางคราวนี้ไม่ราบรื่นเอาเสียเลย เพราะรถที่จะใช้เดินทางนั้นกลับเสียหายหนัก ลุงทั้ง 2 จึงต้องแข็งขันแบกโลงข้ามน้ำ ข้ามป่า อุปสรรคนาๆ อย่างไม่ลดละ

เรื่องราวเกี่ยวกับความตาย บรรยากาศตลบไปด้วยเมฆหมอกอึมครึม แต่ดนตรีที่สนุกสนานครื้นเครงของบางช่วงช่วยทำให้ลืมความหม่นไปได้โดยเฉพาะฉากพาเหรดที่แสนจะหลั่นล้า บุคคลิกของลุงทั้งสองที่แตกต่างก็เป็นสีสันน่ารักๆ บวกกับมุกขำที่มีแต่พองามก็ช่วยเรียกรอยยิ้มได้พอสมควร

แต่หากให้คิดกันแบบจริงจัง เรื่องราวบางตอนก็น่าคิดตามอย่างฉากโลงศพมากมายที่ไหลล่องตามกระแสธารและสุดท้ายด้วยการแบกโลงขึ้นวนไปตามภูเขา จะใช่หรือไม่ว่า...

การที่มีคนตายมากเป็นเบือขนาดนั้นล้วนมีสาเหตุมาจาก “ความขัดแย้ง” ด้วยเพราะภาพภูเขาที่มีทางเดินวนรอบนั้นละม้ายคล้ายกับ หอคอยบาเบล(Tower of Babel) ตามพระคัมภีร์เก่าของคริสตศาสนา อันมีที่มาว่าแม้หอคอยนี้จะสร้างขึ้นด้วยความร่วมมือของมนุษย์แต่เมื่อเป็นไปด้วยการท้าทายต่อพระผู้เป็นเจ้า พระองค์จึงบันดาลให้มนุษย์พูดกันคนละภาษา ยามใดสื่อสารกันไม่เข้าใจก็เกิดทะเลาะบาดหมางขัดแย้งแล้วเหตุการณ์จากจุดเล็กๆ ได้ขยายวงกว้าง พ้องกับช่วงต้นของอนิเมชั่นเรื่องนี้เมื่อคราวที่กลีบดอกไม้ร่วงกระทบกับกรอบภาพที่ตั้งบนโต๊ะล้ม และตามมาด้วยสิ่งอื่นๆ ล้มตามกันเป็นทอด ไมต่างจากสถานการณ์โลกในปัจจุบันทั้งเรื่องการรบราฆ่าฟันยันเรื่องเศรษฐกิจ








Ubornaya istoriya - lyubovnaya istoriya (Lavatory - Lovestory, 2007)
Director : Konstantin Bronzit
Runtime : 10 min
Country : Russia

ป้าผู้หญิงคนหนึ่งทำงานเป็นพนักงานเก็บตังค์หน้าห้องน้ำชาย แอบเหงาเล็กๆ เวลาเห็นชายหนุ่มหญิงสาวเขาโอบเอวซบไหล่กัน แต่แล้วอย่างไม่คาดฝัน จู่ๆก็มีดอกไม้ช่อสวยวางอยู่ตรงหน้า ช่อแล้วช่อเล่าแต่เธอยังไม่เห็นแม้เงาคนให้

หนังทำออกมาได้น่ารักมากๆ ลายเส้นเพียงบางเบา ใช้สีเพียงขาวและดำ เปรียบกับโลกของตัวเอกไร้ซึ่งสีสรร จืดชืด แต่ดอกไม้แต่ละช่อสีออกแจ่มจรัส เหลือง ฟ้า แดง ราวกับเป็นสิ่งใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ประทับใจในกิริยาของป้า(ความละเอียดของผู้กำกับฯ) อยู่หลายฉากทั้งตอนที่เธอประหลาดใจปนดีใจเมื่อมีใครคนหนึ่งยื่นดอกไม้ให้ มือไม้ป้าแกก็เริ่มวางไม่ถูกที่ สะเปะสะปะ แต่ที่ชอบมากแบบโดยเฉพาะคือตอนเธอวิ่งออกมาข้างนอกกลางสายฝน ผู้คนผ่านไปมาเยอะๆ และบางคนก็เดินชนเธอ เหมือนมองไม่เห็น ราวกับเธอเป็น nobody

สรุปว่า คิดอย่างไรต่อกันขอให้บอก ไม่ใช่รักนะแต่ไม่แสดงออก...จะได้เป็นการช่วยลดจำนวนประชากรขี้เหงาน่ะ








La Maison en Petits Cubes (The House of Small Cubes,2008)
Director : Kunio Katô
Runtime : 12 min
Country : Japan

นิ่ง หม่น เศร้า เหงาและหดหู่ คือภาพรวมของหนังน้ำท่วมโลกเรื่องนี้ หนังเล่าถึงคุณลุงคนหนึ่งอาศัยอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม เมื่อตื่นขึ้นในเช้าวันหนึ่งจึงพบว่าน้ำนองท่วมพื้นห้องเสียแล้ว ทางออกของแกคือขึ้นชั้นบนแล้วก่อผนังขึ้นใหม่ ต่อเติมเตรียมไว้สำหรับอยู่อาศัยในอนาคตอันใกล้

ขณะก้มๆ เงยๆ เพื่อย้ายข้าวของขึ้นชั้นบน ไปป์ ที่แกคาบอยู่พลันหล่นลงน้ำ ทีแรกคิดหาอันใหม่ทดแทนแต่คงด้วยความชิน(หรือถนัด หรือรัก อะไรก็แล้วแต่) กับอันเก่า แกจึงตัดสินใจสวมใส่ชุดดำน้ำลงไปงม เป็นทั้งการงมไปเก็บไปป์และเป็นการรื้ออดีตในคราวเดียวกัน

หนังมีแนวความคิดที่น่าสนใจทั้งเรื่องการดำน้ำและเรื่องรูปทรงของบ้าน การดำน้ำที่ยิ่งดำลงลึก ยิ่งจะค้นพบรอยยิ้มและความสุขในอดีต แต่ละช่องชั้นของบ้านคือแต่ละช่วงวัยของชีวิต สอดคล้องกันไปกับขนาดความใหญ่เล็กของตัวบ้านแต่ละชั้น หากมองตั้งแต่ชั้นล่างขึ้นไป จะเห็นว่ายิ่งสูงยิ่งเรียวเล็กสอบลงเรื่อยๆ เหมือนจำนวนคนในครอบครัวที่มากอยู่ก็ลดจำนวนลงเรื่อยๆ เช่นกัน ยิ่งสูงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะยิ่งค่อยเลือนและจางหายไปในที่สุด

บริบทรอบๆ ตัวละครที่มีเพียงผืนน้ำ ผืนฟ้า นกกา และห้องสี่เหลี่ยมเล็กที่นับวันแคบลงเรื่อยๆ นั้น การได้หวลคิดถึงอดีตอันหอมหวานบ้างก็พอจะทำให้หายเหงาได้ในชั่วขณะ เพราะยังไงเสียเมื่อกลับขึ้นมาอยู่บนห้อง โลกแห่งความอ้างว้างและเหงากว่าก็กลับมาเหมือนเดิม

น้ำที่ท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆ หนังไม่ได้บอกว่าเป็นเพราะอะไร แต่มองอีกมุมหนึ่งย่อมได้ว่ามันเป็นภัยที่เรามองไม่เห็น เกิดแล้วแก้ไม่ได้ อย่างดีก็เพียงเอาตัวรอดไปเป็นครั้งคราว สิ่งนี้จึงช่วยเตือนใจเราว่าเรากำลังละเลยและชะล่าใจในอะไรบางอย่าง โลกถึงเจิ่งไปด้วยน้ำอย่างที่เห็น

ชม Oktapodi ที่ youtube
ชมตัวอย่าง This way up ที่ youtube
ชม La Maison en Petits Cubes : Part 1 ที่ youtube
ชม La Maison en Petits Cubes : Part 2 ที่ youtube
ชม Ubornaya istoriya - lyubovnaya istoriya ที่ youtube
ชม Presto ที่ youtube

: Please welcome :

ขอเชิญ ทุกท่านร่วมแสดงความคิดเห็นต่อหนังหลากเรื่องหลายแนว ทั้งชนโรง ทั้งหนังแผ่น ร่วมกับบล็อกเกอร์คนรักหนังอีก 5 ท่านได้ที่ //vreview.yarisme.com ค่ะ