170_[ผักชี@ปทุมธานี] : สุนัข ข้อสะโพกเสื่อม_(เข่า) สะบ้าเคลื่อนเล็กน้อย (โรงพยาบาลสัตว์เล็กจุฬา) อัพเดตเพิ่มเติม 2/3/2567 แนะนำที่ซื้อยา SC II (เอสซีทู) และ แอนทินอล ไว้ที่ด้านล่างค่ะ ** *** อัพเดตเพิ่มเติม 18/12/2566 อาการเดินไม่สะดวกของสุนัข นอกเหนือจากโรคข้อเสื่อม ยังเป็นอาการที่เกี่ยวกับ "ระบบประสาท" ได้ด้วยค่ะ คุณหมอที่ รพ.สัตว์เล็กจุฬา แจ้งตอนตรวจว่า เช็กจากท่าทางการเดิน และ การตรวจข้อต่อร่างกายสุนัข ดังนั้นพลอยแนะนำว่า อย่าเดาค่ะ พาไปพบสัตว์แพทย์ดีกว่า จะได้รักษาให้ตรงอาการ ** *** อัพเดตเพิ่มเติม 28/10/2566 ผักชีไม่หายท้องเสีย เมื่อวันที่ 17 ตค. ไปฉีดยา รับยาเพิ่ม เขียนแจ้งไว้ท้ายบล็อกค่ะ ** **** อัพเดตเพิ่มเติม : 1.คำเตือน_ ไปโรงพยาบาลสัตว์เล็กจุฬา ใช้เวลารอคิวและตรวจหลายขั้นตอน อาจนานถึงครึ่งวัน โปรดเตรียมน้ำดื่ม อาหารที่จำเป็นสำหรับสัตว์เลี้ยง และถุงเก็บอึไปด้วยค่ะ (มีถังขยะให้ทิ้งอึหลายจุด) 2. แก้ไข ยอดซื้อยาเพิ่มเติม ที่คลินิกแรก อีก 350 บาท *** *********** เลยรอตรวจให้ครบแล้วมาจัดเต็มไว้ตรงนี้ค่ะ สุนัข ข้อสะโพกเสื่อม_(เข่า) สะบ้าเคลื่อน ผักชี วัย 10 ขวบ 1 เดือน ป่วยอย่างเป็นทางการ T^T หมายเหตุก่อน ว่าโรคนี้รักษาไม่หายนะคะ ผักชีเป็นไปตามวัยที่เริ่มแก่ มีอาการมาตั้งแต่ 7 ขวบ แต่เป็นน้อย มาปีนี้พอ 10 ขวบ เธอจัดหนัก ลุกแล้วขางอ เหยียดขาหลัง ข้างขวา ลงพื้นไม่ค่อยได้ เลยต้องไปพบแพทย์รัวๆ เดี๋ยวพลอยไล่เรียงตาม ไทม์ไลน์อีกทีค่ะ ^ ^  1. ตอน 7 ขวบ อาการหลักๆของผักชีที่เห็นชัด จะเป็นตอนนอน แล้วพอเธอลุกขึ้น ก็จะเจ็บขา ขางอไป 1 ข้าง ขาหลัง ข้างขวา พาไปคลินิก คลำเข่าและขา คุณหมอบอกว่าน่าจะข้อเข่าเสื่อม ให้ยาแก้ปวด กิน+ฉีด รักษาร่วม 10 วันก็หายสนิท ไม่มีอาการอีกเลย แต่เรางดให้เดินขึ้นบันได อุ้มเอา 2. ช่วงอายุ 8-9 ขวบ ตอนไปเที่ยวทะเล มีอาการหลังจากวิ่งริมหาด วิ่งเยอะมากเพราะคึกได้ออกจากบ้าน ซื้อยาแก้ปวดกิน จากคลินิกแถวระยอง กินแค่ 2 วันก็หายดี เดินได้ปกติ 3. ปัจจุบัน 10 ขวบ 1 เดือน นอนอยู่บ้าน จู่ๆก็เริ่มมีอาการ พาไปคลินิก กินยา+ฉีดยา กินยาราวๆ 10 วันดีขึ้นมาก แต่พอมีวันไหน วิ่งแค่เล็กน้อย วิ่งดูแมวที่รั้ว วิ่งไปเห่ารถส่งของบ้านแถวนี้ ก็จะเจ็บขา ค่อนข้างมากในช่วงเย็นค่ำตามมา พลอยสรุปอาการเบื้องต้นของผักชีไว้ตามนี้นะคะ ผักชีจะเจ็บขาจนสั่นตอนลุกขึ้น ถ้าพอเริ่มเหยียดขาลงพื้นได้สักพัก ก็จะยังพอเดินได้คล้ายปกติ อาจมีอาการตึงๆบ้าง ดูไม่หายแล้วค่ะ เลยพาไปตรวจที่ โรงพยาบาลสัตว์เล็กจุฬา ทั้งนี้แนะนำให้ถ่ายคลิปไปด้วย ทั้งตอนลุกแล้วเจ็บ หรือตอนเดินปกติในบ้าน ให้แพทย์ประกอบการวินิจฉัยโรค ** **** วันที่ 9 กันยายน 2566 ผักชีอายุ 10 ขวบ 1 เดือน น้ำหนัก 14.7 กิโลกรัม เริ่มเจ็บขาหนแรกของปีนี้ พาไปคลินิกแฮปปี้เพ็ท ลำลูกกา คลอง 2 รับยาแก้ปวด กินต่อเนื่องราว 10 วันหายดีขึ้นมาก ได้รับคำแนะนำให้กินยา แอนตินอล Antinol จากหมอโบมาด้วย โดยซื้อกินเองต่อจากในเว็บไซต์ VetzPetz  หมดค่ายาครั้งแรก ไป 850 บาท (ยากิน 7 วัน) (ไม่มีค่าแพทย์) ไปรับยาเพิ่มเติมเพราะยังไม่หายดี อีก 350 บาท ยากิน แต่กินต่ออีกแค่ 3 วัน ยาที่เหลือเก็บสำรอง รวมรายจ่าย 1,200 บาท ** ***** ผักชีมีอาการเจ็บขาเป็นครั้งคราว หากวันไหนวิ่งจะมีอาการค่อนข้างเยอะ ดูเหมือนจะไม่หายขาดแล้ว วันที่ 30 กันยายน 2566 (วันเสาร์) พาผักชีไปตรวจที่โรงพยาบาลสัตว์เล็กจุฬา มีที่ชั่งน้ำหนักหลายจุดตามห้องต่างๆ ให้พาไปชั่งน้ำหนักก่อนทำเอกสารค่ะ  ช่วงรอตรวจค่ะ เธอยังชิล โดนหลอกว่าจะพามาขึ้นรถเที่ยว พอเจอหมาแมวเยอะแยะก้วิ่งพล่านพักใหญ่ ขาเจ็บอีกล่ะ แต่พอรอนานก็สงบ นอนรอหมอเรียกตามคิวไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีรีวิวสถานที่นะคะ ไม่มีเวลาถ่ายรูปด้านนอก ผักชีค่อนข้างวุ่นวายแตกตื่นเวลาเจอหมาแมวอื่นรวมกันเยอะๆ เลยต้องดูแลเธอมากกว่าปกติ พลอยแนะนำอ่าน 2 กระทู้นี้เลยค่ะ เขารีวิวดีมาก พลอยก็ตามรอย ขอบคุณไว้ ณ ที่นี่ ^ ^ [CR] พาน้องหมา ไปหาหมอที่โรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตว์แพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยลัยกับอีกกระทู้ [CR] รีวีว โรงพยาบาลสัตว์เล็ก จุฬา (รพส) ไปครั้งแรก ไปกี่โมง ดีมั้ย โรคเบ้าสะโพกตื้นตามนี้เลย ควรไปก่อน 7โมงเช้าหรือช่วงนั้นในวันหยุดค่ะ เนื่องจากที่จอดรถไม่เยอะ เข้าไปดูคิวตอนเช้าหน้าตึกสีขาว เขาจะห้อยเบอร์ไว้หน้าประตู ถาม รปภ. ได้ หรือถามคนอื่นแถวนั้นได้ค่ะ คนมารอหลายราย พอเปิดส่วนเวชระเบียน 7 โมงตรง ไปกรอกเอกสารที่โต๊ะข้างประตู สำหรับคนมาใหม่ แต่ช่วงนี้รับแค่เคสใหม่ 30 เคสในวันหยุด ไปไวๆค่ะ เขาจะเรียกคิว ก็เอาประวัติสุนัขที่เขียนไว้ ไปยื่นพร้อมบัตรประชาชนเจ้าของ ที่เคาน์เตอร์ จากนั้นจะได้คิวใหม่ (เขาคัดกรองและจัดให้ตามอาการของสุนัข) ออกจากตึกสีขาวเลย แล้วเดินไปตึกสีฟ้าข้างๆกัน ตึกสีฟ้าต้องเดินเข้าไปข้างในลึกหน่อย จะเห็นแบ่งห้องเยอะแยะ ไปรอเรียกที่ฝั่ง อายุรกรรมค่ะ เข้าไปรอในห้องนะคะ เดี๋ยวตอนเรียกจะไม่ได้ยิน เริ่มตรวจ 8 โมงเช้า ** **** อายุ 10 ขวบ 1 เดือน น้ำหนัก 14.15 กิโลกรัม (ท้องเสีย+ป่วยเจ็บขา เลยน้ำหนักลดลง เพราะมีช่วงซึม ไม่กินอาหารด้วย) 30 กันยายน ผักชีไปพบแพทย์ด้วย 2 อาการค่ะ 1. ท้องเสีย ถ่ายเหลวมา 2 วัน 2. ข้อเข่าเสื่อม ในส่วนท้องเสีย พลอยถ่ายรูปอึของผักชีเอาไว้ ให้คุณหมอดู อยู่ในระยะถ่ายเหลว แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นน้ำ ในส่วนข้อเข่าเสื่อม ก็ไล่เรียงตามที่เคยผ่านการตรวจจากคลินิกมา แต่ก็เหมือนตรวจใหม่หมด เพราะที่คลินิกเรายังไม่ค่อยได้ทำอะไรมาเนาะ อย่างแรกก็วัดอุณหภูมิ ถัดมาก็ต้องนอน ให้คุณหมอเจาะเลือดค่ะ จากนั้นก็เริ่มกระบวนการตรวจข้อ มีการจับบิด หมุนเช็คข้อสะโพก มีการเอาค้อนเล็กๆมาเคาะเข่า เคาะข้อเท้า เจ็บเล็กน้อยถึงปานกลาง ผักชีพอทนได้ แต่เครียดมากตอนโดนจับล็อกลงนอน พลิกตัวตรวจทีละข้าง แจ้งก่อนว่าโรงพยาบาลคนมาตรวจเยอะ ต้องทำเวลาเล็กน้อย ดังนั้นทุกขั้นตอน ไม่มีเวลาโอ๋ผักชีให้สบายใจก่อน เน้นใช้แรงจับล็อกกันอย่างเดียว ซึ่งก็แย่สำหรับหมาแบบผักชีเพราะยิ่งเครียดยิ่งเกร็ง สั่น ตรวจลำบากมาก แต่สุดท้ายก็ตรวจกันได้จตนจบค่ะ ในห้องตรวจมีผู้ช่วยท่านเดียวนะคะ ดังนั้นเจ้าของต้องล็อกหมากันเอง ทุกอย่างคือนอนตรวจ นอนเจาะเลือด "เท่านั้น" ปกติไปคลินิกเขาให้หมายืนเจาะเลือดกันเนาะ ผักชีเลยไม่ค่อยดิ้นตอนไปเจาะเลือดที่คลินิก ขั้นตอนการตรวจของผักชี 1. ซักถามอาการทีละหัวข้อ 2.วัดอุณหภูมิ 3.จับนอน ตรวจข้อสะโพก ข้อเข่า (พลิกตัวทีละด้าน) 4. ตอนนอน พอตรวจข้อเสร็จ ก็เจาะเลือดกันต่อเลย 5.คุณหมอสั่งไปห้องฝั่งตรงข้าม เอ็กซเรย์กระดูก แล้วค่อยกลับมารอฟังผลอีกที *** *** ในห้องเอ็กซเรย์ ถอดทุกสิ่งออก เหลือแค่สายรัดปาก (ไม่มีโลหะ) มีเจ้าหน้าที่ผู้ชายหายคนมาจับหมาไปดำเนินการ เจ้าของรอข้างนอกห้องค่ะ จากนั้นก็คือ เสียงกรีดร้องของแม่นางชีชี 555+ ผักชีไม่ชอบผู้ชาย ผักชีไม่ชอบคนแปลกหน้ามาจับตัว แต่วาระนี้ผักชีห้ามเลือกนะคะ พี่ๆเขาต้องรีบถ่ายเอ็กเซเรย์ มีคิวอื่นรอต่อคิวอีกเรื่อยๆ ตัวอื่นมีร้อง 1-2 ทีแล้วเงียบไป ผักชีแผดเสียงแปดหลอด ร้องตลอด ร้องลั่นแสบแก้วหูแบบจะโดนฆ่าโดนแกง ร้องต่อเนื่อง ร้องแบบดิ้นรน ไปจนน่าจะสัก 5 ทีจนเสร็จ พอเขาเรียกเราไปรับหมา ผักชีก็อึแตกบนโต๊ะ ต้องเอาทิชชู่เก็บกวาด ให้เจ้าของเอาออกมาทิ้งเองในจุดถังขยะที่ทิ้งอึได้ อยู่กลางอาคารนะคะ มีป้ายแปะบอกไว้ ตอนเราเข้าไปรับ เธอโดนกดจนน็อก นอนแผ่หมดสภาพบนโต็ะ คือดิ้นหนีตายจริงๆ น่จะช็อกนิดหน่อยแหละ แต่รับออกมาพ้นห้องก็ไม่มีอะไรค่ะ สักพักก็ปกติดี ให้พักเหนื่อย ป้อนน้ำ เช็ดก้นเรียบร้อยก่อน เดี๋ยวค่อยกลับไปรอผลตรวจที่ห้องคุณหมอท่านเดิมเมื่อเช้า เอ็กซเรย์ขอถ่ายจากจอคุณหมอได้ค่ะ พลอยลืมขอ เลยมารอคิวนัดรอบหลังแล้วขอถ่ายรูปมา  ด้านบน รูปที่ 1 ด้านบน รูปที่ 2 ด้านบน รูปที่ 3 ด้านบนรูปที่ 4พลอยมือสั่น เบลอไปหน่อย แค่เอาไว้อ้างอิง ไม่เป็นไรค่ะ ยังพอเห็นรายละเอียดข้อเข่า  ด้านบน รูปที่ 5 ด้านบน รูปที่ 6 สุดท้ายเราถ่ายเอ็กซเรย์ทั้งสิ้น 6 รูป ในราคา 1,800 บาทนะคะ ตกรูปละ 300 บาทเนาะ เห็นคนเคยไปคลินิกเขาบอกที่นี่ถูกกว่ามาก ตามคลินิกถ้ามีถ่ายแบบนี้น่าจะคิดราคาเกือบเท่าตัว  สภาพรอไปเอ็กซเรย์ค่ะ ดูวิตกกังวลมาก 55+ ถอดเสื้อรอแล้วล่ะ ตรงนี้รอคิวราวๆครึ่งชั่วโมงได้นะคะ เห็นบางตัวก็มีวิ่งหนีด้วย ต้องวิ่งจับกันลากมาเข้าห้อง สงสัยเคยโดน เลยจำได้แล้วกลัว ถ้าหมาไม่เครียด ยืนจัดท่าถ่ายเอ็กซเรย์ง่าย เป็นขั้นตอนที่ไม่เจ็บอะไรเลยค่ะ ผักชีเคยถ่ายเอ็กซเรย์ฟันที่คลินิกอื่น พลอยก็ โอ๋เอา (เขาไม่มีคิวคนไข้อื่น) ผักชีก็นอนนิ่งๆให้ถ่ายแชะนึงนะคะ ไม่ดิ้นไม่ร้อง ทั้งนี้แล้วแต่ความสะดวกของสถานที่ และเงื่อนไขของเจ้าหน้าที่ด้วยค่ะ อยากตรวจก็ต้องอดทน หรืออีกทางเลือกคือจ่ายแพงหน่อย ไปรักษาที่คลินิกเอกชน ก็น่าจะชิลกว่านี้เยอะอยู่ ^ ^ กลับไปรอคุณหมอที่ห้องตรวจอายุรกรรมเดิม พอบอกว่าเสร็จแล้ว ไม่ทำอะไรแล้ว ผักชีเริ่มอารมณ์ดี (มาก) นั่งเล่นนอนเล่นรอ เราเอาผ้าห่มเล็กไปด้วย โปะเธอไปนิดนึง แอร์เย็นค่ะ คือเราจะได้เอกสาร สั่งเอ็กซเรย์มาจากห้องตรวจแรก เอามายื่นรอคิวเอ็กซเรย์ พอเอ็กซเรย์เสร็จ ก็จะได้เอกสารอีกแผ่น นำกลับไปหาคุณหมอห้องเดิม แล้วรอเรียก ** **** มาว่ากันทีละอย่าง 1. อาการท้องเสียของผักชี คุณหมอประเมินแล้วว่า ไม่ร้ายแรง ไม่ให้ยาฆ่าเชื้อ คิดว่าน่าจะดีขึ้นเองได้ หมายังดูแข็งแรงดี (ผักชีวิ่งไปมา แถมมีแรงดิ้นมากมาย นั่งรอที่เก้าอี้หน้าห้อง ผักชีก็ดูสบายๆ ร่าเริงประมาณนึง55+) คุณหมอจ่ายยาปรับสภาพทางเดินอาหารให้ไปกิน เช้า-เย็น หลังอาหารครั้งละ 1 เม็ด 1 กระปุก (2 สัปดาห์) ** *** 2. อาหารเจ็บขาหลัง ข้างขวา ตอนลุก ประเมินจากการหมุนบิดตรวจข้อต่างๆ และผลเอ็กซเรย์ที่เห้นชัดเจนมาก ข้อสะโพกเสื่อมจริงตามที่คุณหมอที่คลินิกแรกประเมินไว้ และมีอาการ สะบ้าเคลื่อน เล็กน้อย ข้อเข่าเลยเจ็บ คุณหมออธิบายว่า เนื่องจากสะบ้าเคลื่อน ไม่ตรงกันพอดี เวลาลุกขึ้นหรือขยับ เลยเจ็บ และจากการบิดเหล่านี้ ทำให้เวลาขยับลุก เดิน มีการดึงกล้ามเนื้อรอบๆและกล้ามเนื้อขาจนตึงขึ้นมา ขาเลยงอ และเกิดการเสียดสีกัน หมาเลยเจ็บมากตามที่เห็น น่าจะมาจากอายุที่แก่ขึ้น เสื่อมสภาพ ไม่สามารถรักษาหายขาดได้ ได้แต่ประคับประคองไป ด้วยการกินยาบำรุง เพื่อให้เจ็บน้อยลง และเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงข้อสะโพกด้วยยาบำรุงเหล่านี้ **ยารักษาอาการ คุณหมอจ่ายยาแก้ปวดแก้อักเสบ เม็ดสี่เหลี่ยม ให้กินวันละครึ่งเม็ด 4 วันแล้วให้หยุดยา เนื่องจากไม่ควรกินเยอะเกิน สั่งเพิ่มยาบำรุงข้อ SC II (เอสซี ทู) 1 กล่อง กิน เช้า-เย็น หลังอาหาร ครั้งละ 1 เม็ด (2 สัปดาห์)  ภาพด้านบน คือยาที่ได้มาจากาการไปพบแพทย์ วันที่ 30 กันยายน 2566 ในส่วนยาเดิมที่กินอยู่แล้ว ซื้อเอง คือยาแอนทินอล Antinol คุณหมอสั่งให้กิน เช้า-เย็น หลังอาหาร ครั้งละ 1 เม็ด (วันละ 2 เม็ดนั่นเอง)  หมายเหตุ : ในส่วนของยาแอนทินอล Antinol พลอยแนะนำให้ถามปริมาณการกินกับแพทย์ให้ถ้วนถี่ค่ะ เผื่อคุณหมอบางท่านจะลืมอธิบาย เดี๋ยวเราพลาดปริมาณการกินที่เหมาะสม คือแอนทินอลจะกิน 2 เม็ด ในช่วง 14 วันแรกที่อาการเยอะเท่านั้น จากนั้นพออาการดีขึ้น ก็ต้องกินตามน้ำหนัก ถ้าสุนัขขนาดกลางแบบผักชี ต้องลดลงมาเหลือ วันละ 1 เม็ด แต่ถ้าสุนัขตัวโต ก็อาจจะต้องกินวันละ 2 เม็ดต่อไป ตามน้ำหนักตัว หน้าเว็บไซต์ VetzPetz มีบอกรายละเอียดไว้ และพลอยปรึกษาแพทย์เฉพาะทางอีกรอบแล้ว ก็ยืนยันปริมาณการกินของผักชีตามนั้นค่ะ ** **** คุณหมอจะจัดนัดหนถัดให้เรา ในอีก 2 สัปดาห์หน้า พลอยเลือกวันเสาร์ตามเดิม คราวนี้เป็นนัดพบแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกค่ะ คุณหมอส่งต่อเคสเอง ไม่ได้ต้องร้องขอแต่อย่างใด แต่พลอยก็ไม่ได้เลือกแพทย์เฉพาะเจาะจงนะคะ ส่งคุณหมอท่านไหนก็ตามนั้นเลย ^ ^  สรุปบิล 30 กันยายน 2566 ผักชีป่วย 2 โรค 1. ท้องเสีย ถ่ายเหลว 2.ข้อสะโพกเสื่อม สะบ้าเคลื่อนเล็กน้อย ราคาค่าตรวจเป็นวันเสาร์เน้อ ไม่แน่ใจว่าราคาต่างจากวันธรรมดาหรือไม่อย่างไรค่ะ 1.ค่าเอ็กซเรย์ 6 รูป 1,800 บาท 2.ค่าตรวจแล็ป เจาะเลือด 570 บาท (ไม่แน่ใจว่ามีค่าเช็กอุจจาระด้วยไหม จำไม่ได้ค่ะ เหมือนได้ยินคุณหมอบอกจะส่งตรวจด้วย) 3.ค่ายากิน 2 สัปดาห์ 1,415 บาท หมายเหตุ : ค่ายา SC II กล่องละ 900 บาทนะคะ ยาแอนตินอลเรามีที่บ้าน ซื้อเอง ถ้าใครไม่มีก็แล้วแต่จะบอกคุณหมอสั่งจ่ายให้ก็ได้ค่ะ 4.ค่าธรรมเนียมทางการแพทย์ 340 บาท (วันเสาร์ค่ะ มีรับตรวจครึ่งวันเช้า รับจำกัดจำนวนเคส ควรรีบมารับคิว)  ได้ใบนัดอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าเดี๋ยวพลอยมาคุยต่อเรื่องการมาตรวจกับแพทย์เฉพาะทาง  ได้รับบัตรสัตว์ป่วยรายใหม่ของโรงพยาบาลด้วย ด้านหน้าจะมีระบุชื่อสัตว์ และชื่อเจ้าของนะคะ เวลาเรียกคิว ปกติจะเรียกชื่อสัตว์เลี้ยงและเจ้าของกันเลยค่ะ ไม่ได้เรียกตามหมายเลขคิว พลอยไปถึง 7 โมงเช้า ยังพอมีที่จอดรถแต่เหลือน้อย มีรถเข็นไว้บริการ ต้องสอบถามเอา แต่เราเอารถเข็นไปกันเองก็ได้ มีคนเอาไปเยอะค่ะ รอเรียกคิวตรวจ ห้องตรวจเยอะ แต่สัตว์ป่วยก็มีเยอะพอประมาณ ไม่ถึงกับคนแน่นนะคะ ก็ดูโล่งๆนิดหน่อยในวันหยุดแบบนี้ ขนาดนั้นกว่าจะได้ไปตรวจก็ราวๆ 10 โมงโน่น รับยาก็ 11.30 น. ไปแล้วค่ะ รอเรียกคิวรับยา ก็เที่ยงพอดี เพิ่งได้ขึ้นรถกลับบ้าน -"- ถึงแบบนั้นก็ยังมีคิวนั่งรอเรียกตรวจอยู่เลยค่ะตอนเราเสร็จออกมา คุณหมอและเจ้าหน้าที่ก็ทำงานกันตลอด เลยเป็นอีกสาเหตุที่ทุกขั้นตอน ต้องรีบล็อกหมาลงนั่งนอนให้ไว ก็ใจเย็นๆกันนิดนึงเนาะ มีอะไรก็อย่าเพิ่งโมโหละกัน ^o^ ** *** บอกเพิ่มเติม ห้องจ่ายเงินคือตึกสีขาวค่ะ ตรวจครบหมด ได้เอกสารแล้ว ก็ออกจากตึก กลับไปทางตึกเวชระเบียนที่เก่าเมื่อเช้าที่จับคิว จะมีห้องมีเคาน์เตอร์กั้นเรียงราย เป็นโซนจ่ายเงิน ยอดเยอะหน่อยก็ โอนจ่ายได้ พอจ่ายแล้วก็เอาใบเสร็จ ไปวางให้ห้องยาที่อยู่ข้างๆกัน แล้วก็นั่งรอเขาเรียกรับยาอีกที พลอยจบวันที่ 30 กันยายนไว้ตรงนี้นะคะ ย้ำอีกที ว่าอาการผักชี ดีขึ้น แต่ไม่หายขาดแล้วค่ะ ห้ามวิ่งเป็นการถาวร...เศร้ามาก แล้วผักชีก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมเอาตุ๊กตามาวาง หมอบทำก้นโด่งดักซ้ายขวา ไม่มีคนเล่นกับหนูเลย T^T ตอนนี้เราเล่นกันได้แค่ ให้ผักชีงับตุ๊กตาสะบัดๆหน้าไปมา แล้วเราก็ดึงๆตุ๊กตาไว้นิดๆ สุ้กัน แต่ไม่ให้ขยับตัวเยอะค่ะ เดี๋ยวขาอักเสบตามหลัง ตอนอาบน้ำ หมักแชมพูยากันเชื้อรา เคยปล่อยวิ่งเล่นรอบรถหน้าบ้านเราเอง ตอนนี้คือ อาบน้ำแล้วต้องล็อกสายจูงสำรองค่ะ มัดไว้กับขาโต๊ะ ไม่ให้เธอวิ่งกระเจิงแบบเก่า ขาจะพังเอา ช่วงนี้เธอก็ดูจะสับสนหลายอย่างกับพฤติกรรมผู้คนรอบตัว ว่าทำไมคนไม่เล่นกับเธอเหมือนเก่า เหมือนไม่ได้รับความสนใจจากใครเลย หมาน้อยก็จะดูเศร้าๆ ผิดหวังบ่อยมาก ที่ชวนเล่นแล้วคนเดินหนีไปเลย คาบของเล่นมาสะบัดหัวหลอกล่ะ คนก็ลุกไปทางอื่น ของในปากก็ค่อยๆอ้า ปล่อยลงพื้น ได้แต่มองตามคนที่หนีไป... แต่ผ่านมาครึ่งเดือน ผักชีก็เริ่มทำใจได้บ้างแล้วค่ะ ว่าไม่มีคนเล่นด้วยแล้วนะถ้าต้องวิ่งไล่จับ สุขภาพต้องมาก่อนค่ะ  2 สัปดาห์ต่อมา วันที่ 14 ตุลาคม 2566 ผักชีอายุ 10 ขวบ 2 เดือน โดยประมาณ นำ้หนักล่าสุด 14.00 กิโลกรัม นัดพบแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูก 8.00 น. มีใบนัด (ชั้น 5) *** *** เช้าไปตามเวลาเดิม เดี๋ยวไม่มีที่จอดรถค่ะ ยังคงไปจับคิวที่ตึกสีขาว ด้านนอกประตูเลยนะคะ เขาแขวนห้อยไว้ และไปยื่นใบนัด+บัตรประชาชนเจ้าของ ที่เคาน์เตอร์เวชระเบียน จากนั้นเขาจะปริ้นท์คิวใหม่มาให้เรา ก็ออกมาที่ตึกสีฟ้าข้างๆ ที่เป็นอาคารตรวจ แต่ขึ้นลิฟท์ไปชั้น 5 ดูป้ายในบัตรคิว ห้องศัลยกรรม ห้องนี้สัตว์ป่วยน้อยกว่าชั้น 1 ที่ตรวจรวมค่ะ แต่น้องๆจะอาการหนักกว่า ใส่เฝือกบ้าง อะไรบ้าง ก็เลยอยู่กันแบบค่อนข้างเงียบสงบมาก มีแต่ผักชีที่ร้องอี้ดๆเบาๆ เดินวนกับที่จะขอให้พากลับ เธอจำตึกได้ หนที่แล้วตรวจเจ็บ+เครียดมาก 555+ *** ***  นั่งรอเขาเรียก เริ่มตรวจ 8.00 น. ค่ะ เรามาไว ได้คิวต้นๆ มีคุณหมอตรวจหลายห้องเหมือนกันเลยไม่ได้รอนาน รอบนี้ผักชีเจอคุณหมอผู้หญิง ใจดี เสียงเบา บรรยากาศชั้น 5 ก้ไม่ค่อยพลุกพล่าน กดนอนง่ายกว่าข้างล่าง ตรวจง่ายกว่ากันมาก กระบวนการตรวจก็ตามเดิม 1. ซักถามอาการ ผักชียังเจ็บตอนลุก แต่ก็พอจะเริ่มปรับตัว ถ้าไม่ไหวเธอก็จะนั่งหรือนอนลงก่อน สักพักค่อยลองใหม่ หรือถ้าขยับย้ายที่นอนใกล้ๆ เธอโดดสามขาเอาค่ะ ตอนไหนเธอพอจะเริ่มยืดกล้ามเนื้อลงแตะๆพื้นได้ ก็รอเธอนิดนึง อย่าไปเร่ง ถ้ากล้ามเนื้อคลายตัวดี เธอก็เดินได้อยู่ค่ะ แต่ถ้าบอกเธอว่าจะพาไปเดินเที่ยวเล่น ประหนึ่งมีปาฏิหาริย์ จากสามขาดึ๋งๆไปมา ขางี้ลงไว เดินเหยาะๆได้เลยทันที..สาธุ (55555+) พลังแห่งการอยากไปเที่ยวสินะ อย่าได้บอกว่าหมาไม่อยากไปเลยค่ะ ผักชีนี่ล่ะตัวเที่ยว... 2. ให้นอนลง เคาะข้อต่อต่างๆ บิดข้อสะโพก แต่ผักชีไม่เกร็งมาก ก็ไม่ได้ดูเจ็บเยอะหลังตรวจนะคะ จากนั้นก็มานั่งเช็กรายละเอียด ผลเลือดหนก่อน และฟิล์มเอ็กเรย์ ให้คำแนะนำ ในเคสผักชีก็สรุปผลมาตามเดิม แต่อาการของผักชีจัดได้ว่าค่อนข้างน้อย ปัญหาที่เพิ่มมาก็คือ กล้ามเนื้อขาเริ่มลีบนิดหน่อย น่าจะเพราะเจ็บ เลยไม่ค่อยออกแรง ห้ามวิ่ง แต่ต้องเดินมากขึ้น เพื่อให้มีการออกกำลังกายกล้ามเนื้อ ไม่งั้นนานไปถ้าขาลีบจะลุกไม่ขึ้น พิการเอาได้ในกรณีร้ายแรง แต่ตอนนี้ก็กินยาบำรุงต่างๆ ประคองอาการตามสภาพ ให้ตรวจตามคลินิกแถวบ้านก็ได้ ปวดเยอะก็กินยาตามแพทย์พิจารณาสั่ง กรณีถ้านานไป เป็นเยอะ ค่อยมาว่ากันเรื่องกลับมาเช็คที่นี่อีกที แล้วค่อยส่งต่อกายภาพบำบัด โรคนี้ในเคสหมาแก่แบบผักชี ไม่แนะนำให้ผ่าตัด  หนก่อนคุณหมอท่านแรกบอกจะปริ้นท์ผลเลือดให้ เพราะต้องไปเช็คเรื่องค่าไต เฝ้าระวังต่อ น่าจะสะดวกไปคลินิกแถวบ้านได้เลย ไม่ต้องมารอคิวที่นี่ ค่าไตผักชีปริ่มๆขีดจำกัดบนค่ะ ไตเคยอักเสบมาก่อน ในเอ็กซะเรย์จะเห็นว่า ไต ที่อยู่ข้างในมีขนาดเล็กลง คือทำงานได้น้อยลง ให้ระวังเรื่องอั้นฉี่ด้วย กินน้ำเยอะๆ หมอท่านแรกลืมปริ้นท์ พลอยก็ลืมทวง เลยมาขอคุณหมอเฉพาะทางรอบนี้ คุณหมอทั้ง 2 ท่านของ รพ.สัตว์เล็กจุฬา ก็ย้ำในส่วนนี้แบบเดียวกัน จริงๆที่คลินิกก็เคยบอกน่ะแหละ ตอนเจาะเลือดเจอ ก็หวังว่าค่าไตจะทรงๆไปงี้ ไม่ทะลุเกินที่จำเป็นค่ะ ผักชีอาจต้องเจาะเลือด เช็คค่าไตถี่ขึ้น เป็นทุกๆ 6 เดือนต่อครั้ง   รอบนี้คุณหมอเฉพาะทางด้านกระดูก สั่งจ่ายยาบำรุงข้อ SC II เอสซี ทู อย่างเดียว ปรับการกินเป็น วันละ 1 เม็ดหลังอาหาร แค่นั้น ยานี้สามารถซื้อเองได้นะคะ เลยไม่ต้องทำนัดต่อไปเพื่อมารับยา หรือจะนัดขอยาเดือนละหนก็ได้ แต่รอคิวค่อนข้างนานแหละ แล้วคุณหมอบอกว่าต้องมีจ่ายค่าแพทย์อะไรเพิ่มด้วยตามระเบียบ ถ้าซื้อเองก็น่าจะง่ายกว่า  รูปด้านบนให้ดูหน้าตากล่อง SC II แบบชัดๆค่ะ คุณหมอให้หาซื้อเองได้เลย  พลอยเลยถามย้ำเรื่องแอนตินอล ว่าจะให้กินต่อยังไงดี เพระาคุณหมอท่านแรกบอกให้กิน วันละ 2 เม็ดมาก่อนหน้านี้ ก็ได้ความว่ากิน แอนตินอล หลังอาหาร แค่วันละ 1 เม็ดก็พอ อันนี้คุณหมอเฉพาะทางสั่งปรับตามขนาดของผักชีนะคะ แต่เรามีแล้ว ก็ไม่ต้องสั่งจ่ายให้ ** *** อีกข้อดีของการเอ็กซเรย์ คือคุณหมอบอกปัจจุบันผักชีไม่มีนิ่ว  จากนั้นก็รับเอกสารต่างๆ ออกจากตึกสีฟ้าตามเดิม ไปจ่ายเงินที่ชั้นล่าง ตึกสีขาว และนั่งรอรับยา พลอยขอถ่ายรูปเอ็กซเรย์จากจอคุณหมอเฉพาะทาง เพื่อจะได้เอาไว้อ้างอิงตอนไปดูแลต่อที่คลินิกแถวบ้านค่ะ แล้วก็ขอให้หมอปริ้นท์ผลเลือดให้ด้วย จะได้ไว้ทำนัดเช็คค่าไตที่คลินิกอีกที จบที่ไม่ต้องนัดที่นี่ต่ออีกแล้ว เว้นแต่โรคต่างๆมีอาการหนักขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นต้องมา (ก็คือปรึกษาคุณหมอที่คลินิกได้) สรุปใบเสร็จวันที่ 14 ตุลาคม 2566 1.ค่าเวชระเบียน 200 2.ค่าธรรมเนียมการแพทย์ 200 (ถ้าเรานัดรับยาเดือนละหน ก็ต้องมาจ่ายส่วนนี้ค่ะ) 3.ค่ายากิน SC II กล่องละ 900 บาท รวมยอดเงิน 1,300 บาท ** **** อธิบายเพิ่มเติม ทำไมเลือกมาตรวจเพิ่ม เนื่องจากเราไม่รู้ความชัดเจนของโรคค่ะ ว่าอยู่ในความรุนแรงขนาดไหน มากหรือน้อย และให้เราเครียดว่าเราพลาดอะไรไหม ในขั้นตอนการรักษา หรือกังวลว่า จริงๆข้างในขาเนี่ย เป็นโรคอื่นหรือเปล่านะ ก็เอามาเอ็กซเรย์ซะ ให้เห็นกันชัดเจนไปเลย รวมถึงได้พบแพทย์เฉพาะทาง มีอะไรก็ถามไป จะได้ปฏิบัติตัวถูกต้องกับโรคนั้นๆมากขึ้น ในกรณีมีสัตว์เลี้ยงป่วย หรือมีคนป่วยในบ้าน ความ "ไม่รู้" ทำให้เราเครียดได้มากและอาจเครียดสะสม และเราอาจปฏิบัติผิดวิธีการ หรือรู้สึกผิด ถ้าพลาด "ข้อเท็จจริง" ดังนั้นตรวจให้รู้แน่ชัดไปค่ะ พอรู้แล้วบอกเลยว่า ความเจ็บป่วยไม่ได้หายไป แต่เราโล่งอก เราสอบถามคุณหมอต่อได้ ว่าเราควรทำยังไงกันต่อไปดี วางแผนระยะสั้น ระยะยาว เพื่อดูแลสัตว์เลี้ยงได้ ^ ^ ทั้งนี้อาจรวมไปถึงการเตรียมเงินค่ารักษาพยาบาลต่างๆในอนาคต แล้วพลอยว่ารอบนี้พลอยได้กำไรอยู่นะ ตรงที่พอเอ็กซเรย์ แล้วก็เช็คนิ่ว เช็กอวัยะภายในไปในตัว ว่าไม่มีก้อนนิ่วแล้วนะ ถึงจะต้องเฝ้าระวัง แต่ที่ทำมาตลอดปีนึง ก็ใช้ได้อยู่ และในส่วนที่เคยเจาะเลือด คลินิกอื่นๆที่เจาะ อาจจะแค่เตือนเรื่องขีดจำกัด ตามผลค่าเลือด ว่าค่าไตขึ้นบนๆแต่ยังรับได้ แต่ในฟิล์มเอ็กซเรย์ ทำให้เห็นชัดเจนคุณหมอสามารถบอกได้ ว่าตจ้องระวังเยอะขึ้นมาก เพราะไตมีขนาดเล็กลง ทำงานได้ไม่ดี ต้องเจาะเลือดถี่ขึ้นจริงๆ ** ** ในส่วนการปฏิบัติตัวกับผักชี ก็คือต้องหาทางให้เดินออกกำลังกายเยอะขึ้น ป้องกันกล้ามเนื้อขาลีบแบน แต่ในเรื่องวิ่ง กระโดด ก็ต้องหยุดแบบเด็ดขาด แล้วเราก็สามารถส่งต่อเคสมายังคลินิกแถวบ้านได้อย่างชัดเจน ว่าต้องดูแลส่วนไหนยังไงกันต่อไป ** ** เมื่อผักชีมีประวัติเบื้องต้นที่โรงพยาบาลมาแล้ว หากกรณีอาการหนักมากจนอาจลุกไม่ขึ้น ต้องกายภาพบำบัด ก็ยังเอากลับมาตรวจ มาขอคำปรึกษาแนะนำได้ โดยที่คุณหมอสามารถเทียบเคียงประวัติเก่าที่เคยมาได้ ** ** ดังนั้น ถ้าไหว ไม่เหลือบ่ากว่าแรงมากไปนัก แนะนำให้ตรวจโรคต่างๆให้ชัดเจนค่ะ แม้รักษาไม่ได้ ไม่หาย เราก็ยังต้องอยู่กับสุนัขต่อไป อยู่ด้วยความรู้ที่ชัดเจน อยู่ด้วยความเข้าใจ มุมมองและการปฏิบัติ มันจะแตกต่างออกไป อาจจะไม่ได้ต้องมาที่โรงพยาบาลนี้ แค่ถ้าป่วยอะไรก็ปรึกษาคุณหมอก่อนหลายๆที่ เพื่อคัดกรองสิ่งที่เราควรทำไปทีละขั้นตอน เพื่อการดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีขึ้น ^ ^ ป.ล. ผักชีปรึกษาคุณหมอที่คลินิก 2 แห่งแล้ว ได้มีการพูดคุยแนะนำกันมาเป็นอย่างดีเรื่องของอาการเบื้องต้น และก็เลยตัดสินใจมาตรวจเอ็กซเรย์ พบแพทย์เฉพาะทางที่ รพ.สัตว์เล็กจุฬา ความคิดเห็นของคุณหมอทุกที่ไม่ได้แตกต่างกันค่ะ แค่พอตรวจเยอะ ก็มีรายละเอียดอื่นอธิบายเพิ่มเติมมา ** ***** ในส่วนของโรคไต ได้แค่เฝ้าระวังค่ะ เนื่องจากผักชีกินอาการป้องกันนิ่ว S/O อยู่แล้ว มีป้อนน้ำเพิ่มด้วย ที่เหลือก็ลุ้นกันอีกที เพราะหมาแก่ไปเรื่อย สภาพร่างกายก็เสื่อมไปตามวัย ** ** อย่างกรณีข้อเสื่อม สะบ้าเข่าเคลื่อน พอเห็นหมาเจ็บ เราก็ไม่แน่ใจว่าควรจะให้เดินเล่นดี หรือให้นอนไปไม่ค่อยใช้ขาเยอะจะดีกว่า พอคุยกับคุณหมอก็จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนขึ้น ว่าควรเดินเพื่อให้กล้ามเนื้อขาแข็งแรง แต่ก็ไม่ให้วิ่งเพราะจะเจ็บและอาการแย่ลง ทั้งนี้เราก็รอดูจังหวะที่ผักชีเดินต่อเนื่องได้ค่อนข้างดี ค่อยไปเดินต้อนเธอ ให้เดินวนไปโน่นมานี่ หรือพาไปเดินเล่นเพิ่มค่ะ อีกปัญหาคือผักชีอ้วนด้วย น้ำหนักตัวจะมีผลให้เจ็บ ไม่ควรรับน้ำหนักที่เกินไปเยอะ เมื่อก่อนเธอวิ่งออกกำลังกายช่วงเย็นๆค่ำๆทุกวัน เล่นไล่จับกัน คึกคักสุดๆ วิ่งฟิ้วๆมองไม่เห็นเลยล่ะ ล่าสุดก็ต้องงด มีแนวโน้มว่านานไปน้ำหนักจะเยอะ ก็ต้องไปเพิ่มในส่วนของการเดินเล่น ใส่สายจูงออกปากซอย เดินวนหลายรอบหน่อย จะได้เยอะกว่าเดิมไป ยังไม่รู้จะชดเชยแทนส่วนที่เธอเคยวิ่งเล่นได้แค่ไหน เดี๋ยวก็ลองพยายามกันดู แล้วปรับเปลี่ยนรายละเอียดกันไปอีกทีค่ะ  ช่วงรอพบหมอเฉพาะทางก็จะจำอาคารได้ ว่าหนก่อนมาโดนจับล็อก ตรวจโน่นนี่ กลัวมาก อยากหนี พอหนีไม่พ้นก็ซุกลงใต้เก้าอี้ วุ่นวาย วนไปมารอบขาคนอยู่นี่แหละค่ะ แต่ตรวจจริงคุณหมอใจดีมาก ผักชีเลยสบายใจขึ้นมานิดนึง 55+ ** *** สรุปรายจ่ายเรื่อง สุนัข ข้อสะโพกเสื่อม สะบ้าเคลื่อนเล็กน้อย รวมไปกับอาการท้องเสีย ที่ตรวจพร้อมกัน ใน 1 เดือนที่ผ่านมา 1.วันที่ 9 กันยายน 2566 เจ็บขาหนแรก ไปคลินิก จ่ายค่ายา 850+350 บาท รวม 1,200 บาท 2.วันที่ 30 กันยายน 2566 ไป รพ.สัตว์เล็กจุฬา รับยากิน 2 สัปดาห์ จ่ายค่ายา ค่าแล็ป เจาะเลือด ค่าตรวจต่างๆ รวม 4,125 บาท 3.วันที่ 14 ตุลาคม 2566 ไป รพ.สัตว์เล็กจุฬา นัดพบแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูก ค่าตรวจและค่ายาบำรุงข้อ 1,300 บาท รวมค่าตรวจเกี่ยวกับ สุนัข ข้อสะโพกเสื่อม (เข่า)สะบ้าเคลื่อนเล็กน้อย รวม 6,625 บาท ก็หวังว่าจะสบายดีไปอีกยาวนานละกัน รักนะ ผักชี. อัพเดตเพิ่มเติม 28/10/2566 อาการท้องเสียที่ไปโรงพยาบาลสัตว์เล็กจุฬาเมื่อต้นเดือน คุณหมอนัดก่อนวันยาจะหมดนิดหน่อยค่ะ ท้องไส้ผักชีที่กินยาปรับสภาพลำไส้ยังปกติดี แต่พอยาหมดก็เริ่มค่อยๆกลับมามีอาการท้องเสียอีกครั้ง และอึเหลว เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนเละเท่าเดิม เลยต้องพาไปคลินิกแถวบ้านเพื่อรับการตรวจ อ้างอิงผลเลือดจาก รพ.สัตว์เล็กจุฬา เลยไม่เจาะเลือดเพิ่ม ยาเดิมหมดเมื่อวันเสาร์นะคะ จากนั้นวันถัดๆมา ก็เริ่มอึเหลวขึ้น ทีละน้อยในทุกวันที่ถ่าย จนเห็นชัดเจนในวันอังคาร ถึงรีบพาไปหาหมอ วันที่ 17 ตค.2566 -จิ้มก้น ตรวจแล็ป พบแบคทีเรียเยอะมาก -ฉีดยาไป 2 เข็ม -รับยากินกลับบ้าน หมดค่าแพทย์ค่ายาต่างๆไป 1,105 บาท ไม่กี่วันถัดมาก็หายดีแต่กินยาจนครบ คุณหมอบอกว่าผักชีน่าจะสภาพท้องไส้ไม่ดี ยาปรับสภาพลำไส้เป็นประเภทอาหารเสริม กินยาวไปได้เลย  พลอยซื้อเองได้ยี่ห้อของไทย ฟลอกัท Florgut คุณหมอที่คลินิกซึ่งมียาขาย (อีกคลินิก 55+) แนะนำค่ะ พลอยซื้อยกกระปุก 380 บาท กระปุกเล็กๆประมาณเดิม แต่คุณหมอที่ดูแลยาให่้ก็แนะนำว่า ตัวขนาดผักชีกินแค่ 1 เม็ดต่อวันก็ได้ กรณีอึเริ่มมีเหลวผิดปกติค่อยกิน 2 เม็ดต่อวัน (เช้า-เย็น หลังอาหาร) ** *** เพิ่มเติม 2/3/2567 ยา SC II (เอสซี ทู) ที่กินสำหรับสุนัขป่วยข้อเสื่อม สะบ้าเคลื่อน พลอยซื้อจาก Pet Complex Ubon เพ็ทคอมเพล็กซ์ อุบลมีทั้งร้านออนไลน์ในช็อปปี้ กับหน้าร้านที่อุบลเลยค่ะเผื่อใครกำลังมองหาอยู่ แนะนำให้ซื้อใช้คู่กับ แอนทินอล นะคะ แอนทินอล ซื้อที่เว็บ VetZ PetZ (มีไลน์ให้แอดจากเว็บด้วย)
ส่งกำลังใจให้ทั้งเจ้าของและน้องผักชีนะคะ
เก็บรายละเอียดดีมากค่ะ เป็นประโยชน์สำหรับทาสหมาแมวทั้งหลายค่ะ โดย: ฟ้าใสวันใหม่
  วันที่: 16 ตุลาคม 2566 เวลา:11:35:38 น.ขอบคุณค่ะ คุณ ฟ้าใสวันใหม่
อยากอัพแบบไม่มีประโยชน์บ้างเหมือนกันค่ะ กินๆเที่ยวๆอะไรงี้น่ะเนาะ น่าจะดี ...วะฮะฮ่า โดย: ploy666
วันที่: 16 ตุลาคม 2566 เวลา:22:33:19 น.คุณหอมกร
เลี้ยงไปนานๆยิ่งแพงขึ้นทุกทีแล้วค่ะ เปลี่ยนใจก็ไม่ทันแล้วด้วยสิคะ 55 โดย: ploy666
วันที่: 1 ธันวาคม 2566 เวลา:8:11:23 น. |
บทความทั้งหมด
|
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [
แจ้งย้ำอีกทีนะคะ
บล็อกนี้เรามิได้เลือกหัวข้อในการอัพบล็อกได้
เราอัพไปตามวิถีชีวิตผักชี
และสิ่งที่เธอเจอะเจอ
ซึ่งก็เลี่ยงเรื่องเจ็บป่วยตามวัยไม่ได้เช่นกัน
ดังนั้นถ้าไม่อยากดูรายละเอียดเวลาป่วยไข้
ก็ส่องผ่านๆก็พอค่ะ
หัวข้อเรื่องค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว
เราอัพเพื่อหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อบางท่าน
ที่มีสัตว์เลี้ยงป่วยด้วยอาการเดียวกัน
เหมือนที่เราได้ประโยชน์จากการแบ่งปันข้อมูลในอินเตอร์เน็ต
มาจากท่านอื่นๆที่อัพไว้ก่อนหน้าเรา
ก็อยากอัพแต่เรื่องแฮปปี้เหมือนกัน
แต่ผักชีแก่แล้วค่ะ ได้แค่นี้ล่ะ 55+