บันทึกจากปักกิ่ง




1.

โต๊ะจีน
คือ
ประวัติศาสตร์
คือ
ความเป็นไป
เรา
คนต่างถิ่น
ไม่รู้จักหน้าค่าตา
มาด้วยจุดมุ่งหมายเดียวกัน
คือ
กิน
บริกรสาวจีนเรียงราย
ทยอยนำความหลากหลาย
อันประเมินค่ามิได้
มาจากทุกอาณาบริเวณ
เริ่มต้นด้วยชุดเรียกน้ำย่อย
เธอวางจานถั่วลิสงอบเกลือ แล้วยืนเงียบ
เธอวางจานหัวไชเท้าหั่นฝอยคลุกน้ำส้มสายชู แล้วยืนเงียบ
เธอวางจานผักสีเขียวใบเปื่อยบางราดซอสถั่วปนงา แล้วยืนเงียบ
เธอวางจานแผ่นหมูรมควันแล่บาง แล้วยืนเงียบ
เธอรินน้ำชาให้กับแขกเหรื่อทุกคน แล้วยืนเงียบ
เราคีบกินพอเป็นพิธีพร้อมสนทนาปราศรัยบ้างประปราย
พวกเธอยืนเงียบ มองว่าต้องรินน้ำชาให้ใครเพิ่มหรือไม่
จานที่ว่างเปล่าถูกยกออกไป
แล้วอาหารหนักก็ตามมาในทันที
เธอวางชามน้ำแกงสาหร่ายเขียวที่มีเมือกหนืดๆคลุม ตักให้ แล้วยืนเงียบ
เธอวางชามเนื้อไก่ฉีกเป็นเส้นปนผักกาดในน้ำซุปแดงฉานมันแผลบ แล้วยืนเงียบ
เธอวางจานเป็ดย่างหนังกรอบแล่บางและแผ่นแป้งห่อพร้อมซอสหนืดข้น แล้วยืนเงียบ
เธอวางจานเนื้อแพะผัดรสจัดจ้านแต่เนื้อนุ่ม แล้วยืนเงียบ
เธอวางจานปลานึ่งซีอิ๊วตัวใหญ่เท่าท่อนแขน แล้วยืนเงียบ
เธอวางจานจาปาตีไส้เนื้อวัวเครื่องเทศ แล้วยืนเงียบ
พวกเราบรรจงคีบอย่างสรวลเสเฮฮา
พวกเธอยืนเงียบรอคำสั่งภาษามือจากเราว่าต้องเติมน้ำชาหรือไม่
เมื่อเธอยกจานท้ายๆอย่างหมั่นโถวกับข้าวผัดมา
พวกเราก็อิ่มจนอ่อนล้าลง
แล้วไม่นานเธอก็ยกผลไม้มา
เหมือนจะบอกว่า
โต๊ะหรรษากำลังสิ้นสุดลง
คนต่างถิ่นอย่างเราทยอยลุกออกไป
ทิ้งแต่เศษกากก้าง กากกระดูก กากเมล็ด
กระจายอยู่เต็มโต๊ะ
คนสุดท้าย ฉันลุก
ประตูทางออก
มองกลับไป
พวกเธอเก็บกากทิ้งอย่างรวดเร็ว
ยืนเงียบล้อมรอบอาหารที่เหลือไว้
จับมันเป็นเชลย
สายตาฉันได้ยินว่า
นี่แหละคือ
นี่แหละคือ
ส่วนแบ่งที่เป็นธรรม



2.

ในเมืองที่มีแต่หมอก
และควันแห่งการสันดาป
ฉันไม่คิดว่าจะได้เจอเธอ
หากเธอยืนเปลือยกายตรงหน้า
ฉันจะเห็น
เนินเขาลดเลี้ยว
ลุ่มน้ำกสิกรรม
ที่ราบอันกว้างใหญ่
แต่เท่าที่ฉันเห็นคือ
เส้นผมที่แผ่สยายเหมือนสายถนนสร้างใหม่
ผิวขาวนวลที่เหมือนหินอ่อนต้องมลพิษในวังต้องห้าม
แก้วแว่นตาใสวามวาวที่เหมือนกระจกตึกเกิดใหม่ในเมือง
และด้วยการประดับประดา
เสื้อแขนกุดสีเหลือง
กางเกงยีนส์สี่ส่วน
กระเป๋าสีเงินวาวแบรนด์เนม
เธอก็งดงามไม่ต่างจาก
สาวชาวจีนสมัยใหม่ทั่วไป




ปล. ที่หายไปสักพักนึงแล้วไม่ได้อัพบล็อกก็คือไปจีนมานี่แหละครับเพื่อไปประชุมวิชาการแล้วหนึ่งสัปดาห์แล้วเพิ่งกลับมา



Create Date : 17 สิงหาคม 2550
Last Update : 5 ตุลาคม 2550 1:30:26 น.
Counter : 393 Pageviews.

0 comments
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ Wat Phrasri Rattana Mahathat, Phitsanulok. nanakawaii
(21 เม.ย. 2567 07:36:08 น.)
봄 처녀(Virgin spring) by 홍난파(NanPa Hong) ปรศุราม
(17 เม.ย. 2567 10:09:12 น.)
เรา คือ เอไอ ชีวภาพ..ที่ ทุกอย่าง ทำงาน อัตโนมัติ..อวิชชา ไม่รู้ โง่ ทุกข์..โดย อัตโนมัติ 15 CXO.Asia
(15 เม.ย. 2567 05:12:22 น.)
15/04/67 สมาชิกหมายเลข 4675166
(15 เม.ย. 2567 09:46:52 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Pakornlulu.BlogGang.com

SteppenWolf
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]