รอยโคลนผ้าคลุมหน้า มองผ่านผ้าคลุมยังคงซ่อน เนื้อก้อนวงหน้าอันนิ่งเฉย มองลึกเรื่องราวยังละเลย ชินชาคุ้นเคยและค้างคา พี่ชายเธอเป็นผู้ใหญ่บ้าน ดึกงานเรียกออกโดยบอกว่า จำเป็นการเมืองมีเรื่องมา ไม่ช้าจะกลับโปรดหลับคอย ค่ำนั้นเปลี่ยวเกินจะข่มหลับ วินาทีก็นับไปค่อยค่อย ทางนอกโคลนนองไร้ร่องรอย รอยเท้าทบทยอยเมื่อกรีดยาง หยาดฝนโผตกลงเม็ดเผาะ ละหยาดเหยาะเหงื่อคอยให้เคลือบร่าง นอกหน้าต่างไฟถนนหม่นราง ไม่หลับอ้างว้างไม่มีใคร เปลี่ยวคอยประตูเคาะเช้าลั่น ถี่กระชั้น พี่ชาย หวังว่าใช่ หวังวาบภาพวูบเพราะเปิดไป ตำรวจร่างใหญ่พูดปลอบเธอ เช้านั้นพระอาทิตย์ก็เพิ่งตื่น น้ำค้างชี้หญ้าสะอื้นเมื่อคืนเสมอ รื้นน้ำตาบนใบหน้าหรือว่าละเมอ นายตำรวจบอกว่าเจอศพพี่ชาย เหมือนลอยล่องท่องทางอากาศธาตุ น้ำตาปาดมองศพก็เมื่อสาย แต่รอยโคลนติดเต็มตัวผู้ตาย และคลับคล้ายทุลักทุเลจากข้างทาง ไม่น่าตายในโรงแรมที่ศพอยู่ ไม่น่าดูไม่น่าเชื่อเหลือคำอ้าง ผู้รู้เห็นมีแน่แต่อำพราง จากนั้นคดีค้างทิ้งเรื่องราว - ให้อดสูดูเถื่อนสะเทือนทุเรศ พวกผีเปรตหากินปลิ้นปล้อนข่าว - บอกว่าพี่มีอิทธิพลบนเรื่องคาว หากินกับสาวราวแมงดา แต่ว่าพี่เธอเป็นผู้ใหญ่บ้าน เรื่องหลังเหตุการณ์ควรไว้หน้า ใช่ผู้คนติฉินนินทา สาดโคลนบนเนื้อหาไร้ความจริง ค่ำนี้หลับได้แต่หลอนหลับ ปิดไฟวูบดับดับทุกสิ่ง ชีวิตพลิกผันไร้หลักพิง ครอบครัวจะอิงจากนี้ใคร พ่อแม่แก่เฒ่าทนหน้านิ่ง อยากอยู่กับความจริงต้องนิ่งได้ แต่หากเช้าเคาะประตูมีเมื่อใด ก็หวังให้เป็นคนที่คุ้นเคย ถึงวันนี้เหงื่อโชกผ้าคลุมชุ่ม ผ้าคลุมใบหน้าที่เรียบเฉย รอยโคลนที่ใต้คงละเลย รอยเท้าไม่เปิดเผยมาแสนนาน |
บทความทั้งหมด
|