"สัมมาสมาธิฌาน" เป็นทางเดินของจิตไปสู่ความเป็น "อริยะ" "สัมมาสมาธิฌาน" เป็นทางเดินของจิตไปสู่ความเป็น "อริยะ" ดูกรมหานาม อย่างไร อริยสาวกจึงจะชื่อว่าเป็นผู้ได้ฌานทั้ง ๔ อันเป็นธรรมอาศัยซึ่งจิตอันยิ่ง เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรมตามความปรารถนา เป็นผู้ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก อริยสาวกในพระธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่ บรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน มีอุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ และเสวยสุขด้วยนามกาย เพราะปีติสิ้นไป บรรลุตติยฌานที่พระอริยะทั้งหลายสรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้ เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติอยู่เป็นสุข บรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ ดูกรมหานาม อย่างนี้แล อริยสาวกชื่อว่าเป็นผู้ได้ฌานทั้ง ๔ อันเป็นธรรมอาศัยซึ่งจิตอันยิ่ง เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรมตามความปรารถนา เป็นผู้ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก ฯลฯ * ดูกรมหานาม อริยสาวกนั้นอาศัยจตุตถฌาน มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งอื่นยิ่งกว่านี้อย่างเดียว ย่อมทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ ฯลฯ ^ ^ พระพุทธพจน์จากพระสูตรชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง "อริยสาวกนั้นอาศัยจตุตถฌาน มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งอื่นยิ่งกว่านี้อย่างเดียว ย่อมทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้..." สัมมาสมาธิฌาน (ฌานทั้ง ๔) ในอริยมรรคมีองค์ ๘ นั้น มีเฉพาะในพระพุทธศาสนานี้เท่านั้น ไม่มีในศาสนาอื่น ซึ่งก็ชัดเจนว่า สัมมาสมาธิฌานเป็นทางเดินของจิตไปสู่ความเป็น "อริยะ" ไม่มีสิ่งอื่นยิ่งไปกว่านี้ เมื่อไม่มีอะไรยิ่งไปกว่านี้ ก็แสดงชัดแล้วว่า "อย่างเดียว" ย่อมทำให้ผู้ปฏิบัติในหมวดสมาธิ อันมี "สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ" จิตรวมลงเป็นสมาธิ บรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ ไม่มีสิ่งอื่นยิ่งกว่านี้อย่างเดียว "ดูกรมหานาม อย่างนี้แล อริยสาวกชื่อว่าเป็นผู้ได้ฌานทั้ง ๔ อันเป็นธรรมอาศัยซึ่งจิตอันยิ่ง เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรมตามความปรารถนา เป็นผู้ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก" ฯลฯ "ย่อมทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติอันหาอาสวะมิได้ฯ" ถ้าพระอริยสาวก ขาดซึ่ง "ฌาน" ใน "สัมมาสมาธิ" เสียแล้ว อริยมรรคมีองค์ ๘ จะ "สมังคี" ได้อย่างไร? มักมีบุคคลบางพวกชอบอ้างว่า ไม่จำเป็นต้องได้ "ฌาน" ก็เป็น "อริยะ" ได้ น่าจะขัดแย้งกับพระพุทธพจน์นะครับ แม้พระอริยสาวกในครั้งพุทธกาลที่ได้ชื่อว่าสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว ท่านเองก็มีพื้นเดิมที่เชี่ยวชาญชำนาญจนเป็นวสีในรูปฌานและอรูปฌาน ที่มีมาก่อนพระพุทธเจ้าจะอุบัติขึ้นมา คิดว่าทุกท่านคงพอจำกันได้ว่า ตอนพระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ใหม่ๆ นั้น พระองค์ทรงระลึกถึงท่านอาจารย์ทั้ง ๒ ด้วยคำกล่าวว่า ท่านอาจารย์ทั้งสองเป็นผู้มีธุลีในจักษุน้อย เพียงฟังธรรมของเราก็จะบรรลุธรรมได้ เจริญในธรรมทุกๆ ท่าน ธรรมภูต |
บทความทั้งหมด
|