ผู้เข้าถึงฌาน มีจิตเป็นสมาธิ มีปัญญา มีสติ


ผู้เข้าถึงฌาน มีจิตเป็นสมาธิ มีปัญญา มีสติ


พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ในพระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น จันทิมสเทวบุตร เมื่อปฐมยามสิ้นไปแล้ว มีวรรณงามยิ่งนัก ยังพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่าง เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้วก็ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค แล้วได้ยืนอยู่ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ฯ

[๒๕๒] จันทิมสเทวบุตร ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กล่าวคาถานี้ ในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า

ก็ชนเหล่าใด เข้าถึงฌาน
มีจิตเป็นสมาธิ มีปัญญา มีสติ
ชนเหล่านั้น จักถึงความสวัสดี
ประดุจเนื้อในชวากเขา ไร้ริ้นยุง ฉะนั้น ฯ

[๒๕๓] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ก็ชนเหล่าใด เข้าถึงฌาน
ไม่ประมาท ละกิเลสได้
ชนเหล่านั้น จักถึงฝั่ง
ประดุจปลา ทำลายข่ายได้แล้ว ฉะนั้น ฯ

(จันทิมสสูตรที่ ๑)


^
^
พระพุทธพจน์ชัดเจนจนไม่ต้องตีความใดๆ ทั้งสิ้นเลย บุคคลเหล่าใดเข้าถึงฌาน จิตที่เป็นสมาธิ ย่อมมีสติ และมีปัญญา สติและปัญญา ย่อมเกิดขึ้นกับจิตที่ได้รับการอบรมการปฏิบัติสมาธิดีแล้ว (เข้าถึงฌาน)

ชนเหล่าใด เข้าถึงฌาน ไม่ประมาท ละกิเลสได้ ไม่เป็นผู้เดือดร้อนในภายหลัง ชนเหล่านั้น จักถึงฝั่ง ประดุจปลา ทำลายข่ายได้แล้ว ฉะนั้น ฯ

ฌานย่อมไม่มีในผู้ที่ไม่มีปัญญา ปัญญาย่อมไม่มีในผู้ที่ไม่มีฌานเช่นกัน ผู้ที่มีทั้งฌานและปัญญา จึงจะอยู่ใกล้พระนิพพาน (พระพุทธโฆษาจารย์)

แม้พระอรรถกถาจารย์ระดับพระพุทธโฆษาจารย์ ท่านยังไม่ล่วงเกินพระพุทธพจน์ เพราะท่าน ตรวจสอบ สอบสวน เทียบเคียงกับพระสูตร(ธรรม) ลงกันได้กับพระวินัย แต่สาธุชนคนรุ่นใหม่ที่มักง่าย เอาแต่สบายเข้าว่า กลับปฏิเสธ "การเพ่งฌาน" ว่าไม่สำคัญซะงั้น


เจริญในธรรมทุกๆ ท่าน
ธรรมภูต





Create Date : 01 เมษายน 2560
Last Update : 6 เมษายน 2560 13:23:08 น.
Counter : 1837 Pageviews.

0 comments
:: ชีวิตคือการพบเจอและการเลือก :: กะว่าก๋า
(19 ก.ค. 2567 05:09:21 น.)
No. 1284 จุดจบของการเริ่มต้น....? (ตะพาบ) ไวน์กับสายน้ำ
(19 ก.ค. 2567 06:25:49 น.)
การสร้างที่ผิด ปัญญา Dh
(18 ก.ค. 2567 00:15:35 น.)
:: จบแล้วก็ไป :: กะว่าก๋า
(16 ก.ค. 2567 05:43:08 น.)

Nujoy.BlogGang.com

ในความฝันของใครสักคน
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]

บทความทั้งหมด