จิตไม่เกิดดับ อารมณ์สิเกิด-ดับ


จิตไม่เกิดดับ อารมณ์สิเกิด-ดับ


แม้หากรูปารมณ์ที่หยาบ ซึ่งจะพึงทราบชัดด้วยจักษุ ฯ
แม้หากสัททารมณ์ที่หยาบ ซึ่งจะพึงทราบชัดด้วยโสต ฯ
แม้หากคันธารมณ์ที่หยาบ ซึ่งจะพึงทราบชัดด้วยฆานะ ฯ
แม้หากรสารมณ์ที่หยาบ ซึ่งจะพึงทราบชัดด้วยชิวหา ฯ
แม้หากโผฏฐัพพารมณ์ที่หยาบ ซึ่งจะพึงทราบชัดด้วกาย ฯ
แม้หากธรรมารมณ์ที่หยาบ ซึ่งจะพึงทราบชัดด้วยมโน
ผ่านมาสู่คลองใจของภิกษุผู้มีจิตหลุดพ้นแล้วโดยชอบอย่างนี้
ก็ไม่ครอบงำจิตของภิกษุนั้นได้เลย
จิตของภิกษุนั้นอันอารมณ์ไม่ทำให้เจือติดอยู่ได้
เป็นธรรมชาติตั้งมั่นไม่หวั่นไหว
และภิกษุนั้นย่อมพิจารณาเห็นความเกิดและความดับของจิตนั้น

(พรรณนาคุณของพระขีณาสพ)


^
^
พระพุทธพจน์ชัดๆ วันหลังจะยกพระสูตรนี้มาอ้างว่าจิตเกิด-ดับ ควรยกในส่วนที่ต่อเนื่องกันมาอ้างด้วย เพราะพระสูตรชี้ชัดเจนในตัวเองอยู่แล้วนะ การที่อ่านพระสูตรไม่เข้าใจเอง จึงตีความตามมติชอบใจของตนที่เรียนมา หรือเชื่อตามๆ กันมาแบบที่ไม่เคยพิจารณาให้รอบคอบถ่องแท้เสียก่อนเลย

ถ้าเป็นพระอรหันต์จริง ท่านย่อมไม่กล่าวขัดแย้งกันเอง หรือขัดแย้งกับพระพุทธพจน์ของพระพุทธองค์ที่ทรงตรัสไว้ดีแล้วนะ จิตที่ตั้งมั่นไม่หวั่นไหวแล้ว จิตของภิกษุนั้นอันอารมณ์ไม่ทำให้เจือติดอยู่ได้ ยังจะให้จิตที่ตั้งมั่นไม่หวั่นไหว ที่อารมณ์เจือติดไม่ได้นั้น เกิด-ดับอีกหรือ?

ตามความเป็นจริงที่ตริตรองดีแล้ว ควรเป็นอารมณ์ใช่มั้ย? ที่ไม่อาจเจือติดจิตได้ อารมณ์จึงฝ่ายเกิดขึ้น-ดับไป หมุนเวียนเข้ามา เพราะจิตของภิกษุนั้น อันอารมณ์เจือติดจิตไม่ได้ อารมณ์ครอบงำจิตของภิกษุนั้นไม่ได้ ความเกิดและความดับไป ควรเป็นฝ่ายอารมณ์ต่างๆ นั้นที่เจือติดจิตไม่ได้เหล่านั้นใช่หรือไม่?

จิตของภิกษุนั้น(ไม่ใช่จิตของภิกษุรูปอื่น) ย่อมพิจารณาเห็นอารมณ์ความเกิดขึ้นและความดับไปของจิตนั้นใช่หรือไม่? ทำไมต้องจิตของภิกษุนั้น เพราะเราจะไปรู้จิตของภิกษุอื่นไม่ได้ จิตของใครของมัน ตรงไหนที่พระพุทธองค์ตรัสว่าจิตเกิด-ดับ ของแบบนี้คิดเองเออเองไม่ได้หรอกนะ

อ่านพระสูตรควรพิจารณาด้วยจิตใจที่เป็นธรรมด้วย อย่าเอนเอียงไปตามความเชื่อและอคติ พระสูตรกล่าวถึงอารมณ์ต่างๆ นั้น เช่น รูปารมณ์ สัททารมณ์ คันธารมณ์ ฯลฯ ที่ไม่สามารถครอบงำจิตของภิกษุนั้น หรือเจือติดที่จิตของภิกษุนั้นได้ แต่เวลาเกิด-ดับกลับเมโมกันเอาเองให้จิตเกิด-ดับ เพราะเชื่อตามๆ กันมาตามตำรา ทั้งที่เห็นๆ อยู่ว่าที่เกิด-ดับไปนั้น ล้วนเป็นอารมณ์ต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นใช่หรือไม่?


เจริญในธรรมทุกๆ ท่าน
ธรรมภูต





Create Date : 04 เมษายน 2560
Last Update : 6 เมษายน 2560 13:23:23 น.
Counter : 810 Pageviews.

0 comments
: พูดกันดีดี : กะว่าก๋า
(24 ส.ค. 2567 05:10:44 น.)
อายตนบรรพ ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน มหาสติปัฏฐานสูตร สวดมนต์แปล มคธ - ไทย สมาชิกหมายเลข 8268609
(24 ส.ค. 2567 15:27:48 น.)
:: ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 358 :: กะว่าก๋า
(19 ส.ค. 2567 06:07:37 น.)
ถวายผ้าอาบน้ำฝนและเทียนพรรษา กับคณะเส้นทางบุญครั้งที่ 34 ณ วัดโพธิ์หอม อ่างทอง นายแว่นขยันเที่ยว
(19 ส.ค. 2567 00:33:51 น.)

Nujoy.BlogGang.com

ในความฝันของใครสักคน
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]

บทความทั้งหมด