เรื่องของคนเขียนบทหนัง
บล๊อคนี้พักท่องเที่ยวก่อนเพราะมีเพื่อนบล๊อค(ตั้ง) 2 คนขอให้ผมบันทึกเรื่องเกี่ยวกับคนเขียนบทหนังในฮอลีวู๊ด อันนี้จากความทรงจำเลยนะครับ

คนเขียนบทในทั่วๆไปแล้วจะแบ่งเป็น 2 ประเภท

แบบแรกเขาเรียก Writing, Screenplay Written Directly for the Screen แปลว่าเป็นคนเขียนบทที่ครีเอทคิดบทออกมาด้วยตนเอง ทั้งพล๊อคเรื่องและตัวละครต่างๆเป็นความคิดริเริ่มของเขาแต่เพียงผู้เดียว(หรือทีมเดียว)

แบบที่สองคือ Writing, Screenplay Based on Material Previously Produced or Published แปลว่าเป็นผู้ที่ดัดแปลงบทภาพยนตร์มาจากนวนิยายหรือละครเวทีต่างๆ มาเป็นหนังเรื่องหนึ่ง

แต่เดิมรางวัลใหญ่ๆอย่างออสก้าร์หรือลูกโลกทองคำมีเพียงรางวัลเดียวคือบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเพิ่งมาเปลี่ยนเอาเมื่อไม่กี่สิบปีมานี้

ผู้เขียนบทมีอิทธพลมากแค่ไหนในวงการภาพยนตร์เป็นเรื่องพูดยาก เพราะในการขายบทให้ผู้สร้างในฮอลีวู๊ดนั้นมีหลายรูปแบบ บรรดาผู้อำนวยการสร้างต่างๆจะมีทีมงานที่เรียกว่า book editer คือผู้ที่ย่อเอาหนังสือต่างๆที่มีอยู่ในตลาดและมีแววว่าจะเป็นหนังที่นิยมส่งมาให้ผู้อำนวยการสร้างทั้งหลาย หรือทีมการตลาดในสตูดิโอนั้นๆได้วางแผนแล้วว่าหนังรูปใดใด หรือดาราคนไหนเป็นที่นิยม ก็จะว่าจ้างให้นักเขียนบทมาเขียนบทภาพยนตร์ให้ต่อไป

ว่ากันว่า book editer นั้น สามารถย่อหนังสือหนาถึงหลายพันหน้าอย่างพระคัมภีร์ไบเบิ้ลได้เหลือเพียง 2 หน้าเท่านั้น

ถ้าในสองกรณีที่ว่ามานี้ผู้เขียนบทจะไม่ค่อยมีอิทธิพลเท่าไรเพราะถ้าไม่ทำ สตูดิโอสามารถจ้างคนอื่นๆที่ต้องการทำงานซึ่งมีมากมายได้ไม่ยาก อีกอย่างผู้กำกับบางคนก็มีความเชื่อมั่นในทางกำกับของตัวเองสูง และไม่สนใจในฝีมือคนอื่นๆก็มีไม่น้อย



วู๊ดดี้ อัลเลน ไม่เคยให้ใครเขียนบทให้เลย

ผู้กำกับบางคนจึงไม่ยอมให้คนอื่นเขียนบทให้เลย จะกำกับภาพยนตร์จากบทของตนเองเขียนเท่านั้น ยุคเก่าก่อนก็เช่น นาย ชาร์ลี แชปปลิ้น / ปีเตอร์ ฟอนดา หรือ ยุคกลางๆเก่าก็เช่น จอร์จ ลูคัส หรือ วู๊ดดี้ อัลเลน ท่านมุ้ย ส่วนยุคใหม่ๆก็เช่น เอ๊ดเวิทร์ เบรินท์ / เควนติน ทราแรนติโน แต่ในอีกทางผู้กำกับที่เก่งๆหลายๆคนก็ไม่เคยเขียนบทเองเลย ใช้แต่มือเขียนบทที่จ้างเอาเท่านั้น เช่น Alfred Hitchcock / สตีเว่น สปริลเบริกท์ / มาร์ติน สกอร์เซอร์เซ่ / ไมเคิล เบย์ เป็นต้น อย่างไรก็ตามผู้กำกับเหล่านี้(ยกเว้นสปริลเบริก) ก็จะมีมือเขียนบทที่รู้ใจประจำตัวเอาไว้ คอยเขียนบทให้กำกับเรื่อยๆ

แต่ก็มีนักเขียนบทบางคนที่สามารถสร้างบทดีๆได้ด้วยตนเองจนมีชื่อเสียงและสตูดิโอเกรงใจ เช่น ซิลเวอร์เตอร์ สตาโลน ที่เขียนบทหนังอย่าง ร๊อคกี้ จนทำให้ตนเองเป็นดาราค้างฟ้าติดต่อมาจนเกือบ 20 ปี จะว่าไปบรรดาคนเขียนบททั้งหลายต่างก็มุ่งหมายที่จะได้เป็นผู้กำกับกันทั้งนั้น แต่จะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็อีกเรื่อง เช่น นาย Kevin Williamson ผู้เขียนบทเรื่อง scream ที่พอกำกับหนังเองก็แทบจะหมดอนาคตในวงการเลยทีเดียว หรือนักเขียนบางคนอย่าง สไปท์ จอนห์ ( being john malcovic / adaptation ) ก็ไม่ยอมกำกับเลย เขียนแต่บทเพียงอย่างเดียวก็โด่งดัง

ปรกตินักเขียนบทจะมีรายได้จากค่าบท บางคนที่มีชื่อเสียงสตูดิโอก็จะจ่ายค่าจ้างไปก่อนเลย โดยที่ไม่ต้องดูบท ที่ฮือฮามากๆก็เช่น ราว 15 ปีก่อนที่นาย เชน เบล๊ค ที่เพิ่งประสบความสำเร็จจาก Lethal Weapon (ริกส์ คนมหากาฬ) ทั้ง 3 ภาคสตูดิโอจึงยอมจ่ายเงินถึง 3.75 ล้านเหรียญ สำหรับบทหนังอย่าง the long kiss goodnight (ซึ่งล้มกระจุย) ที่ตอนจ่ายเขายังไม่ได้เขียนเลยซักตัว



นาย เชน แบล๊ค เคยครองตำแหน่งนักเขียนบทค่าตัวสูงสุดคือ 3.75 ล้าน / เรื่อง

แต่บางคนที่ยังไม่มีชื่อเสียงก็ต้องดิ้นรนเอามาก กว่าผลงานที่ตัวเองเขียนจะมีโอกาสได้สร้างเป็นภาพยนตร์ ผลประโยชน์พวกเขานอกจากค่าบท บางคนอาจขอถือลิขสิทธิ์ไว้ในกรณีทำภาคต่อ แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นการซื้อขาดจากสตูดิโอ จะได้สตางค์เพิ่มก็เมื่อหนังทำรายได้ไปถึงระดับหนึ่งเท่านั้น (เช่นถ้าได้ 100 ล้านเหรียญ เจ้าของบทได้อีก 1 เปอร์เซ็นต์)

การประท้วงในครั้งหมายถึงอะไร

เท่าที่ทราบ พวกเขาขอลิขสิทธิ์ในการนำภาพยนตร์ไปหารายได้ทางอื่นๆ เช่น ดีวีดี หรือ ขายทางเคเบิลทีวี อินเตอร์เนต เป็นต้น จาก 4 เซนต์เป็น 8 เซนต์ ซึ่งก็เป็นเรื่องใหม่และเราต้องติดตามดูกันต่อไป เพราะทุกวันนี้ค่ารายได้จากการขายและให้เช่าแผ่นดีวีดีสูงมาก จนเกือบจะได้ครึ่งส่วนหรือมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะค่าแผ่นหนังบางเรื่องถูกกว่าตั๋วหนังเสียอีก พอตลาดพวกนี้โตมากขึ้น พวกเขาก็ย่อมจะเรียกร้องผลตอบแทนในอีกทาง นอกจากที่กล่าวไปแล้วเรื่องรายได้อื่นๆ
จริงๆเรื่องนี้มันก็มีช่องทางไว้ คราวที่ จอร์จ ลูคัส เขียนบทเรื่อง สตาร์วอร์เสร็จ ข้อเสนอหนึ่งของเขาต่อสตูดิโอ คือเขาขอลดค่าบทภาพยนตร์และค่ากำกับลดลงไปอีกเท่าตัว แต่ขอเอาลิขสิทธิ์ภาคต่อและตัวละครทั้งหมดไว้

ก็เรียกว่าแทงหวยถูก เพราะจนทุกวันนี้สตาร์วอร์กลายเป็นขุมทรัพย์ที่ลูคัสและลูกหลานน่ะ อย่าว่ากินกันแต่ชาตินี้เลย กินไปอีกกี่สิบชาติก็ไม่หมด

สำหรับผมคนเขียนบทจะว่าไปก็เหมือนคนออกแบบบ้าน บางคนออกแบบตามใจคนจ้าง บางคนออกแบบตามใจตัวเองแล้วเอาไปขาย บางคนที่อารมณ์ศิลปินมากหน่อย ใครไปแก้แบบก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลยทีเดียว แต่เอาเข้าจริงๆสิทธิ์ขาดมักจะอยู่ที่ผู้อำนวยการสร้าง รองมาก็ผู้กำกับ รองมาอีกก็ดารานำ(ที่มักจะแก้บทโดยพละการบ่อยๆ เพราะมักคิดไปเองว่าจะทำให้ตัวเองดูดีกว่า) นักเขียนบทพอขายเรื่องไปแล้ว ก็หมดสิทธิ์จะทำอะไรไปเลยทีเดียว

เท่าที่ผมดูนะเพื่อนทั้งสอง - ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร - เพราะสมาคมนักเขียนบทภาพยนตร์ของสหรัฐหรือไรต์เตอร์สกิลด์ ออฟ อเมริกา ที่ประท้วงย่อมทำได้ตามเสรีภาพ และนักเขียนส่วนใหญ่ก็อยู่ในสมาคม คงจะร่วมมือร่วมใจเรียกร้องเอารายได้ที่พวกเขาสมควรได้รับเอามาได้

ในอดีตเคยมีมาแล้วในปี ในปี 2531 ซึ่งนานถึง 22 สัปดาห์ มีผลเสียหายแก่อุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์กว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 17,000 ล้านบาท คิดว่าคราวนี้บรรดาสตูดิโอคงไม่ปล่อยให้เสียหายมากมายขนาดนั้น น่าจะสรุปได้เร็วๆนี้เองครับ



Create Date : 09 มกราคม 2551
Last Update : 9 มกราคม 2551 12:12:07 น.
Counter : 1282 Pageviews.

14 comments
มิวสิควิดิโอ "I'm OK...I'm not OK." haiku
(25 มิ.ย. 2568 09:07:03 น.)
3768_Jurassic World Rebirth หอมกร
(22 มิ.ย. 2568 06:30:21 น.)
ไม่เปลี่ยนใจ ไม่โลภ รู้จักพอ แทนคุณ การอยู่ ทำผิด ความถูก ความดี ปัญญา Dh
(2 ก.ค. 2568 07:37:44 น.)
พริกขี้หนูกับหมูแฮม (2532) ไมเคิล คอร์เลโอเน
(22 มิ.ย. 2568 16:20:16 น.)
  
ขอบพระคุณก๊าบบบ

ละเอียดยิบ สมแล้วที่เป็นMr.cozy

ดาราดังหลายๆๆคนกะเหมือนกาลล บทหนัง มีผลต่อเค้ามาก

บางเรื่องยอมแสดงฟรี และเอาผลส่วนแบ่งของยอดขายภาพยนต์

เพื่อให้เล่นบทหนังที่เค้าอยากจะเล่น

อุตสาหกรรมภาพยนต์ หอมหวล ชวนให้หลายๆๆคนอยากเข้าไปลงทุน
โดย: Bernadette วันที่: 9 มกราคม 2551 เวลา:13:21:51 น.
  
ปรมจารย์ ผู้กำกับหนังหลายๆๆคน แรงเจงเจง

คนเขียนบทหนังแทบไม่มีบทบาทต่อผู้กำกับแรงๆๆเลยอะ
โดย: Bernadette วันที่: 9 มกราคม 2551 เวลา:13:23:58 น.
  
งะ รบกวนอีก เลือกตั้ง พามมารี อีเล็กชั่น โหวด เพรสซิเด้น ฮิลลารี คลินตันได้ไปแหละ

ดูจากโหวด เธอน่าจะได้เป็น เพรสซิเดนซ์

เราอยากให้คนที่เป็น เชื้อสายเคนยา อายุยังน้อยอยู่เลย ได้ รับเลือกตั้งชิง ประธานาธิบดีอะ

แกมาแนวม๊ากกก

ถอนทหารออกจากอิรัก เปลี่ยนโฉมหน้าเมกาใหม่
น้ำมันสำรองมีเป็นกะตั๊กเอาออกมาใช้ คนผิวสีสิทธิเท่าเทียม(อันนี้ยากเจงเจง)

เสียดายแกเจงเจง ในรัฐย่อยๆๆแกกะมาวิน แต่กะพูดยาก
แต่ละรัฐกะมีฐานเสียงของตะเองอยู่

ขนาดเลือกตั้ง พามารี่ เพรสซิเดนซ์ ยังมันส์ขนาดนี้


แฮรารี่ คลินตัน ถ้าได้ กะประธานาธิบดีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ เมกา

ถ้าทางจะดีก่าสามีหน่อย สามี ชอบใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว ควบคู่เวลาไปพบปะกะประเทศเพื่อนบ้านอ่า


เท่าที่ดู อาหรับกะบอก สถานะการณ์น้ำมันเพียงพอ
ปัญหาเกิดจาก เมกาเอง เศรษฐกิจชะลอตัว

เป็งไปตามหลักเศรษฐศาสตร์ กราฟขึ้นกราฟลง

ว่าจะเขียนเรื่องของ จีนอะ เหมาเจอตุง มาเจียงไคเข็ค และภัยธรรมชาติของจีน เกิดจากภาวะโลกร้อน

โดย: Bernadette วันที่: 9 มกราคม 2551 เวลา:14:22:26 น.
  
มาอ่านข้อมูล เเน่นจริงๆพี่โคซี่........

แต่ไอ้หุ้นตกน้ำมันแพงรอบนี้ มันจะเกี่ยวกะที่มีข่าวว่าจะมีการยิงถล่มเรือรบรึเปล่า
โดย: Michiru วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:9:07:46 น.
  
อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง เห็นประท้วงกันเหยงๆ ไอ้เราก็นึกว่าอะไร
โดย: veeda วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:14:55:59 น.
  
เรื่องสไตรตเนี่ยปีนี้ยังไม่มีผลกระทบกับหนังหรอกฮ่ะ แต่ปีหน้าหน่ะสิถ้ายังไม่สามารถหาข้อตกลงได้ มีปัญหาแน่ๆ

ส่วนการเมืองเมกา ผมก็ไม่รู้อ่ะนะว่าใครคนไหนเป็นแคนดิเดต แต่สงสัยอยู่นิดว่าพรรคเดโม เค้ามีแคนดิเดตอยู่สองคนหนิหน่า คือฮิลล่า กับ โอบาม่า แล้วสามารถเสนอได้ทั้งสองเลยรึเปล่าเนี่ย (แต่ยังไงๆคราวนี้พรรคเดโมก็มาวินแน่นอน)
โดย: BloodyMonday วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:16:31:45 น.
  
เรื่องสไตรตเนี่ยปีนี้ยังไม่มีผลกระทบกับหนังหรอกฮ่ะ แต่ปีหน้าหน่ะสิถ้ายังไม่สามารถหาข้อตกลงได้ มีปัญหาแน่ๆ

ตอบ ช่ายยย ปัญหาปีหน้าอะ เสร่อมาตอบ

ส่วนการเมืองเมกา ผมก็ไม่รู้อ่ะนะว่าใครคนไหนเป็นแคนดิเดต แต่สงสัยอยู่นิดว่าพรรคเดโม เค้ามีแคนดิเดตอยู่สองคนหนิหน่า คือฮิลล่า กับ โอบาม่า แล้วสามารถเสนอได้ทั้งสองเลยรึเปล่าเนี่ย (แต่ยังไงๆคราวนี้พรรคเดโมก็มาวินแน่นอน)



โดย: BloodyMonday วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:16:31:45 น.


ตอบ เค้าคัด พลามารี เพรสซิเดนซ์ ฮิลรารี่ได้ไปแว๊วว เราชอบ โอบามา

ถ้าโอบามา ได้ ประวัติศาสตร์เมกาใหม่เกิดขึ้นแน่

จากมาดผู้ร้าย กลายเป็ง ผู้ดีเลยอะ
โดย: Bernadette วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:20:22:27 น.
  
มาอ่านข้อมูล เเน่นจริงๆพี่โคซี่........

แต่ไอ้หุ้นตกน้ำมันแพงรอบนี้ มันจะเกี่ยวกะที่มีข่าวว่าจะมีการยิงถล่มเรือรบรึเปล่า



โดย: Michiru วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:9:07:46 น.


ตอบ เรื่องยิงถล่ม ตล๊กกกมาก ขำอะ

เรือรบเมกา อยู่ในน่านน้ำสากล อิหร่านวิ่งเรือ ลาดตะเวนเรือเร็ว มาใกล้ๆๆ กะด่ากันไปด่ากันมา

ประมาณว่า ลองมาเฉียดประเทศชั้นสิ เมกา ชั้นอยู่น่านน้ำสากลน๊ะ

บุช อย่ามาด่าแบบนี้น๊ะ เดี๊ยวยิงซ๊ะ


ไปไปมามา ไม่มีใครเอาด้วย

น้ำมันเพียงพอ แต่เป็นเรื่องของเมกาที่ต้องแก้ปัญหาเอง
ซึ่งการแก้ปัญหา เป็นผลกระทบระบบโดมิโน


จีนรณรงค์ ออกกฎถือถุงผ้าแหละ
ที่เราจะเขียนเป็นเรื่องเกี่ยวกะ พายุทะเลทราย
ปักกิ่งห่างจากทะเลทรายโกบี แค่ 70 กิโลเอง

ทุกวันนี้ปักกิ่งกะเจอพายุทะเลทรายนี้เหมือนกัน

ต่อไป ถ้าพายุทะเลทรายมาถึงปักกิ่งทำไง เพราะ การมาที
จากเป็นเมือง แม่น้ำ ต้นไม้ ความอุดมสมบรูณ์ เกลี้ยง มะเหลือ แค่ในเวลาไม่กี่ปีนี้เอง

โดย: Bernadette วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:20:28:18 น.
  
หวัดดีจ้าเพื่อนๆ

บลัดดี้ - Michiru - veeda สบายดีไหม เรื่องประท้วงครั้งนี้ตกลงเจรจาได้แล้วนะแต่ยังไม่รู้ผลสรุป

แบร์ เราได้หนังแล้วล่ะ ขอบพระคุณมากๆ

เรื่องคนเขียนบทหนังนี่ มีเรื่องตลกๆแยะนะ ไว้ว่างๆจะเล่าให้ฟัง

เรื่องเลือกตั้งอเมริกาไว้จะเขียนเล่าให้ฟังอีกบล๊อคนะอ่ะ
โดย: mr.cozy วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:11:36:50 น.
  
อ่านเพลินดีครับ ... ผมว่าในหัวของ คุณ โคซี่ น่าจะมีเยอะกว่านี้นะครับ ... ไม่น่าจะจบแค่นี้เลยอ่า ... เหมือนมันจะขาดๆ อะไรไปอีกนะ ... แต่ผมก็ไม่รุ้ ----> เหอะๆ..
โดย: haro_haro วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:12:54:54 น.
  
กะดูข่าว เห็นว่า รางวัลโกลเด้น โกล๊ป จะไม่จัด

ดารารับรางวัลที่บ้าน ทำนองนี้อะ

ซีรีย์ทีวี บางเรื่องกะเล่นได้อีก 3 ตอน ที่เหลือ คนเขียนบทประท้วงอยู่อ่า
โดย: Bernadette วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:14:17:28 น.
  
ปักกิ่งนี่ไม่ไหวน่ะ นอกจากพายุทรายแล้ว ยังมีพายุเกสรดอกไม้อีก ไปหาเพื่อน
เมื่อปีที่แล้ว พอไปถึงเพื่อนบอกว่ามาทำไมตอนนี้ว่ะ แบบว่าทุกๆคนบนท้องถนน
ต้องมีผ้าปิดจมูกปิดปากอ่ะ พอเข้าไปในห้องแอร์ก็เปิดไม่ได้เพราะมันจะไปปั่น
เอาพวกเกสรทำให้เครื่องพังหมด สรุปว่าไปผิดเวลาจริงๆเลย
โดย: BloodyMonday วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:16:57:16 น.
  
หวัดดีทุกๆครับ

ฮาโร่ เรามีอีกสิ แต่เวลาเขียนน้อย จึงสรุปๆเอา ไว้ว่างจริงๆจะเอามาเพิ่มเติมให้

บลัดดี้ - โห ผมเคยไปปักกิ่ง 3 ปีก่อน โชคดีไม่เจออย่างนายแฮะ ตอนนั้นอากาศดีมากๆ

แบร์ - พวกซี่รี่ย์นี่แน่นอน เพราะอยู่ในสมาคมทั้งนั้น กะลังลุ้นเจรจาอยู่น่า
โดย: mr.cozy วันที่: 12 มกราคม 2551 เวลา:12:40:20 น.
  
ได้ความรู้ไปเต็มๆ
ขอบคุณคร้าบบบบ
โดย: coming soon (The Yearling ) วันที่: 16 มกราคม 2551 เวลา:14:53:10 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Mr-cozy.BlogGang.com

mr.cozy
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด