Story of the Day : April 2010

01/04/10 ... สลบเหมือด


กลับมาซะทีกับไฟล์สุดท้ายของเดือนมีนา เหมือนจะสบายแต่แอบเหนื่อยเหมือนกัน ... ปารีสรอบที่สาม


เป็นครั้งแรกที่ขาไป - ทำงาน ขากลับ - นั่งเป็นผู้โดยฯ (แถมได้เงินด้วย )


ขาไป - อีกแล้ว อีกแล้ว เครื่องตัวใหม่ 40 ที่นั่ง ... เกือบเต็ม ... แถมเจอหัวหน้าเนียนขี้เกียจอีก ทำมาถาม "มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?" แล้วเดินจากไป ... แล้วจะถามกรูทำไมเนี๊ยะ


คราวนี้อยู่แค่สิบชั่วโมงกว่า ก็ต้องกลับ ... อิฉันจะทำอะไรได้ นอกจาก นอน นอน แล้วก็นอน ตื่นมาฉี่ ตื่นมาอ่านหนังสือ สักแป๊ป แล้วก็นอนต่อ ... นอนเยี่ยงไม่ได้นอนมาเป็นอาทิตย์


ขากลับ ... เป็นเวลาที่ใฝ่ฝันคือ ไม่ต้องทำงาน นั่งเป็นผู้โดยฯ กลับ ลูกเรือคนอื่นหลับ แต่อิฉันเป็นอะไรไม่ทราบ นั่งที่ผู้โดยฯ ที่ไรไม่เคยง่วง นั่งที่ลูกเรือไม่ได้ตาจะปิด ... ไฟล์หกชั่วโมง เลยดูหนังไปซะสามเรื่อง หนังที่คนอื่นเค้าดูกันมานานละ แต่อิฉันพึ่งได้ดู



เรื่องแรกเลย The twilight saga : new moon




credit by : //www.movies.ign.com

ทไวไลท์ภาคสองนี้ ช่วงแรกออกจะน่าเบื่อเอามากๆ แต่พอหมาป่าถอดเสื้อแค่นั้นเลือดกำเดาจะไหล ... ล่ำบึก ภาคนี้แวมไพร์ชิดซ้าย



เรื่องที่สอง : Sorrogates



credit by : //www.collider.com

หนังบู๊ทั้งสนุกและให้แง่คิด สไตล์เฮีย Bruce Willis จริงๆ ดูมาตั้งแต่ Die Hard ฮีแก่ลงไปมากกกก



เรื่องที่สาม : Ninja Assassin



credit by : //www.sorenz.dk

เรื่องนี้ เลือดท่วมจอ ตั้งแต่ต้นจนจบ ที่ดูเพราะเฮียเรนเท่านั้น หุ่นบึกมากๆ ไม่งั้นไม่ดูแน่ ดูไปหยุดไป เพราะดูตอนเค้าเสิร์ฟอาหารเช้าพอดี ถ้าไม่หยุดดู กลัวจะเอาของที่กินออกมาจนหมด


ดูไปสามเรื่องเต็มๆ แบบไม่มีพัก พอกลับถึงห้องเลยปวดหัวตึบๆ สงสัยจะใช้สายตามากไป สลบเหมือดตั้งแต่เก้าโมงเช้ายันบ่ายสาม ... ตื่นมา งงเลย หลับไปนานมาก แล้วคืนนี้จะหลับได้ยังไงเนี๊ยะ พรุ่งนี้สแตนบายแต่เช้าตรู่





05/04/10 ... บรัสเซล 43 ชั่วโมง

ตารางเดือนนี้ หลังจากกลับจากปารีสต้องเป็นสแตนบายสองวัน แล้วก็ทำไฟล์ไป-กลับอีกสองวัน ปกติสแตนบายไม่เคยเรียก อิฉันชิลล์ๆ เพราะคิดว่าได้หยุดชัวร์ กลับจากปารีสถึงวันที่ 1 ตอนเช้า หลับไปซะหกชั่วโมง พอตอนกลางคืนกว่าจะหลับก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว ... หกโมงยี่สิบ โทรศัพท์ดัง

ออฟฟิต : อรุณสวัสดิ์, สุกัญญา
อิฉัน : (งัวเงีย ) อรุณสวัสดิ์
ออฟฟิต : เราต้องการให้เธอทำไฟล์ไปบรัสเซล รถแท็กซี่จะมารับเธอภายใน 30 นาที
อิฉัน : กระเป๋ายังไม่ได้จัด น้ำยังไม่ได้อาบ หน้ายังไม่ได้แต่ง จะทันไหมเนี๊ยะ

สุดท้ายก็ทันแบบเฉียดฉิว ... น้ำไม่อาบ หน้าแต่งลวกๆ ข้าวของคิดอะไรได้ก็โยนๆ เข้าไป อากาศเป็นยังไงก็ไม่รู้ แต่คงจะหนาว ... ลืมอะไร ค่อยหาเอาข้างหน้า



ขาไป - เหมือนบริษัทจะรู้ว่า บล็อคที่แล้วพึ่งบ่นว่าอยากกลับไปทำชั้นประหยัด มาคราวนี้เลยให้ทำสมใจ อุตส่าห์ได้ทำชั้นเฟิร์สคลาสดีดี แต่ไม่มีผู้โดยฯ เลยโดนถีบไปทำชั้นประหยัด


ทำเสร็จแทบอยากร้องไห้ ... ไอ่เครื่องที่อยากทำน่ะ ผู้โดยฯ แค่ 150 แต่เครื่องนี้ ผู้โดยฯ เกือบ 300 ...


ทำชั้นประหยัดทีไร มีเรื่องเม้าท์ทุกที สงสัยเพราะคนเยอะ เรื่องเลยเยอะตาม ... เรื่องนี้ ลูกเรือเล่าให้ฟัง ไม่ได้โดนกับอิฉันเอง ถ้าโดนกับตัวเอง ไม่รู้จะเป็นยังไงเหมือนกัน


เรื่องเกิดระหว่างเสิร์ฟอาหาร ลูกเรือเสิร์ฟอาหารให้เด็กคนนึง

เด็กดี : ขอบคุณค่ะ
แม่เลว หันไปหาลูกแล้วว่า : ลูกจ๊ะ เราไม่ขอบคุณคนที่ได้รับเงินเดือนจากการเสิร์ฟอาหารให้เราหรอกนะจ๊ะ ถ้าลูกไม่อยากเป็นอย่างพวกนี้ ลูกต้องตั้งใจเรียนนะ


เป็นคุณ ... คุณจะตอบว่าอย่างไร ... ไม่มีผิดไม่มีถูก

ถ้าเป็นอิฉันคง "อึ้งกิมกี่" พูดอะไรไม่ออกเป็นแน่แท้


ลูกเรือไม่บอกว่าเค้าตอบไปว่ายังไง แต่พอมาเม้าท์กันทีหลัง นังกะเทยตอบได้ใจอิฉันมาก ชีว่า เป็นฉันนะฉันจะพูดไปเลย

"แม่หนูพูดถูก หนูต้องตั้งใจเรียน เรียนเก่งๆ หางานทำดีดี ต่อไปเวลาเดินทางจะได้ไม่ต้องมานั่งชั้นประหยัดเหมือนอย่างพ่อ-แม่หนูไง"

ก๊ากกกก ไงคะ กะเทยที่ไหนก็ฝีปากกล้าทั้งนั้น อยากดูถูกคนอื่นดีนัก


พี่คนไทยอีกคนก็ว่า เป็นพี่นะพี่จะว่า

"การขอบคุณเป็นมารยาท ใครพูดก็ดีแก่ตัว และเป็นตัวบอกว่าคนพูดได้รับการศึกษามาดี"


รอยหยักในสมองน้อยๆ อย่างอิฉัน คิดไม่ทันค่ะ คิดไม่ทัน ... พวกนี้เค้าสุดยอดกันจริงๆ



เลิกบ่นดีกว่า ได้มานอนเล่นอยู่บรัสเซล สูดอากาศบริสุทธิ์ เดินเล่นรับลมเย็น กินวาฟเฟิล ตั้ง 43 ชั่วโมง ... สุขใจเป็นที่สุด


คราวนี้ไม่ได้ออกไปไหนไกล แค่เดินเล่นในเมือง เดินเล่นแถวโรงแรม เพราะฝนตกๆ หยุดๆ ออกไปไกลกลัวจะไม่สบายเอา


มีรูปมาฝากค่า




มุมเดิมๆ แต่ต่างฤดู





ไปถึงวันศุกร์ นักท่องเที่ยวเพียบเลย



แล้วก็ไม่พลาด




วาฟเฟิลของโปรด




ขากลับ หัวหน้าเปลี่ยนตำแหน่งให้ทำงานในชั้นธุรกิจ ดีนะไม่เต็ม แค่เกือบ ... ทำงานไปชิลล์ ผู้โดยฯ เรื่องมากบ้าง ไม่มากบ้าง ตามปกติ จนก่อนเครื่องจะลง ก็มีแม่ + ลูกสอง ขอมันฝรั่งทอดรสเกลือ บนเครื่องมียี่ห้อ Lays ... อิฉันก็จัดการฉีกจากถุงใหญ่ใส่ลงในถ้วยสองถ้วยให้เด็กสองคน ... 10 นาทีผ่านไป นังแม่เรียก

นังแม่ : นี่! มันฝรั่งถ้วยนี้ไม่ใช่รสเกลือ มันไม่เค็มเลย ถ้วยนี้มันไม่เหมือนถ้วยแรก
อิฉัน : คือมันฝรั่งทั้งสองถ้วยมันมาจากถุงเดียวกันนะค่ะ
นังแม่ : แต่เนี๊ยะ ... (แล้วชีก็กินให้ดู) ... มันไม่เค็มเลย ไม่เค็มแม้แต่นิด
อิฉัน : คือบนเครื่องที่เราเสิร์ฟ เป็นมันฝรั่งยี่ห้อเลย์ รสเกลือ แล้วดิฉันก็เป็นคนเทออกมาจากถุงเอง เป็นถุงเดียวกันทั้งสองถ้วย ... (งง อยากได้เกลือเพิ่ม หรืออยากให้ไปฟ้องบริษัทเลย์ฟ่ะ ว่าทำมันฝรั่งออกมายังไง ถุงเดียวกันแท้ๆ แต่มันฝรั่งแต่ละชิ้นเค็มไม่เท่ากัน )
นังแม่ : ลูกฉันกินไปถ้วยแรกแล้ว แต่พอถ้วยที่สองบอกไม่เหมือนกัน
อิฉัน : งั้นเดี๋ยวไปเอาอันใหม่มาให้นะค่ะ (สงสัยอยากให้ลูกเป็นโรคตั้งแต่เด็ก อายุไม่น่าจะถึงห้าขวบ ให้กินแต่ขนมเค็มๆ กินน้ำอัดลมหวานๆ ... นะ ลูกใคร ลูกมัน)

... แล้วอิฉันก็เอาทั้งถุงไปให้ ให้ดูก่อนเผื่อชีจะบอกว่าไม่ได้มาจากถุงเดียวกันอีก แล้วก็เทมันต่อหน้าเลย ... สิ่งที่เธอตอบกลับมา

นังแม่ : ก็ถ้วยที่แล้ว มันไม่เค็มจริงๆ นิ
อิฉัน : ค่ะ ... (สงสัยสะกดคำว่า "ขอบคุณ" ไม่เป็น )



จบไฟล์เหมือนเรื่องจะจบ ... เกิดเรื่องอีกจนได้

ออกจากเครื่องไปเอากระเป๋าเดินทาง แม่เจ้า! มันติดบาร์โค้ดรอบกระเป๋า แถม seal ที่หูจับทั้งสองอัน!!!

คือ กระเป๋าเดินทางเมื่อเอาออกมาจากเครื่องแล้ว ทางสนามบินจะตรวจก่อนว่ามีอะไรผิดปกติ ผิดกฎหมายบ้างรึเปล่า แล้วค่อยส่งออกมาให้ผู้โดยฯ รับกัน ปกติถ้ามีอะไรน่าสงสัย เช่นเหล้า ก็ติดบาร์โค้ดสีดำ (คือถ้าใครไม่สังเกตุก็จะไม่เห็น) สักอัน สองอัน หรือ seal

แต่นี่อิฉันโดนบาร์โค้ดเยอะมาก เยอะจนไม่ต้องสังเกตุก็เห็น ขนาดกระเป๋าเดินทางสีดำทั้งใบ ยังเห็นชัดมาก แถม seal สีเขียวอีกสองอัน รัดแน่น แบบว่าไม่มีทางตัดออกได้ ... งงค่ะ งง ในกระเป๋ามีอะไรฟ่ะ ก็ซื้อแต่วาฟเฟิล น้ำเปล่าเอาไป กินไม่หมดก็เอากลับมา


ตอนแรกลูกเรือก็ว่าตัด seal ซะ แกะบาร์โค้ดออกซะ ... แต่ด้วยความขี้เกียจ แล้วก็คิดว่าในกระเป๋าไม่มีอะไร เลยไปตรวจ

ศุลกากร : กลับมาจากไหนละเนี๊ยะ
อิฉัน : บรัสเซล
ศุลกากร : เบงกอ??
อิฉัน : บรัสเซล, เบลเยี่ยม
ศุลกากร : เออ เออ

แล้วก็เริ่มค้น ค้นทีละอย่าง ถุงเสื้อผ้ายังไม่ได้ใช้ ถุงเสื้อผ้าใช้แล้ว กระเป๋าเครื่องสำอาง กระเป๋าของอาบน้ำ ค้นยังไม่หมด สงสัยจะเหนื่อยก็เลยปล่อยไป



อิฉันก็มานั่งคิด ซื้อไรฟ่ะ มันถึงร้ายแรงขนาดนี้ ... คุยกับลูกเรือหลายคน เลยมั่นใจว่ามันต้องเพราะสิ่งนี้




ไส้กรอกในขวด ... สงสัยศุลกากรคงคิดว่าเป็น vibrater ...

อันเล็กๆ หกอัน ... กรูจะเอามาทำไม๊ ไม่เข้าใจ??? ...


อันใหญ่ๆ อันเดียวดีกว่าไม๊





06/04/10 ... นับถอยหลังถึงวันพักร้อน

อีกสามวันเท่านั้น อิฉันก็จะได้พักร้อนแล้ว ดีใจ ดีใจ ได้หยุดพักผ่อนเติมพลังซะที


พักร้อนคราวนี้ ได้หยุดทั้งหมด 15 วัน ... วางแผนกับที่บ้าน ว่าจะขับรถกลับเชียงใหม่กัน ขับเรื่อยๆ แวะเที่ยวรายทาง ไม่รีบร้อน โดยมีผู้ร่วมขบวนการคือพี่สาว น้องชาย ส่วนคุณแม่สุดที่รักยังลังเลอยู่ เดี๋ยวต้องไปอ้อนอีกเล็กน้อย ... แบบว่าหาคนจ่ายค่าน้ำมัน ตอนแรกว่าจะอยู่สักอาทิตย์ แล้วไปเที่ยวหัวหินต่อ แต่เพื่อนๆ ไม่มีใครว่างกันสักคน กลับไปทำงานกันหมด เลยว่าจะอยู่เชียงใหม่ยาวเลย ... กินๆ นอนๆ เพิ่มน้ำหนัก


พรุ่งนี้เช้าทำไฟล์กรุงเทพ พอกลับมาแล้วก็ตรงกลับกรุงเทพพักร้อนต่อเลย ... บริษัทนี้แปลกๆ เดือนไหนพักร้อนตารางออกมาก็จะได้ไฟล์บ้านเกิด ครั้งหรือสองครั้งแล้วแต่ดวง ทีเดือนอื่นๆ ต้องขอถึงจะให้ แต่ก็ดีละที่ได้ไฟล์กรุงเทพต้องไปซื้อของกินกลับมาตุน เพราะในตู้ของกินร่อยหรอไปมาก ไม่ได้กลับมาสองเดือน ลิสต์ยาวเป็นหางว่าว


พรุ่งนี้รถมารับหกโมงเช้า ... ขอตัวไปนอนก่อนนะค่า





09/04/10 ... ไฟล์ทิ้งทวนก่อนพักร้อน

พักร้อน พักร้อน 15 วันที่รอคอย


พึ่งกลับมาจากไฟล์สุดท้ายก่อนพักร้อน ... กรุงเทพ! ... ทำไฟล์กรุงเทพทีไร ไม่มีครั้งไหนที่จะไม่มีเรื่องเลย ... คราวนี้ก็ไม่พลาด


เรื่องมาเกิดตอนก่อนเครื่องจะลงที่อาบู้ ... ผู้โดยขอกาแฟ! ... ไฟล์หกชั่วโมง ทำไมไม่รู้จักขอฟ่ะ มาขอตอนเครื่องจะลง ... แล้วจริงๆ คือเวลาสัญญาณรัดเข็มขัดสว่างขึ้น ไม่ควรจะเสิร์ฟเครื่องดื่มร้อน เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยฯ แล้วแถมนี่เครื่องกำลังจะลงด้วย

อิฉันก็เลยบอกดีดีว่า - ขอโทษค่ะ ไม่สามารถให้ได้เพราะสัญญาณไฟรัดเข็มขัดสว่างขึ้นและเครื่องก็จะลงแล้ว
ผู้โดยฯ - (โวยวายใหญ่เลย) อีกตั้งนานกว่าเครื่องจะลง ฉันจะเขียนรายงานว่าขอกาแฟถ้วยเดียวก็ไม่ได้ บลา บลา บลา
อิฉัน - งงค่ะ งง ... เป็นไรฟ่ะ แค่กาแฟถ้วยเดียว กลับบ้านไปทำกินเองก็ได้มั้ง??

หัวหน้าได้ยินก็เลยบอกให้ทำกาแฟไปให้ ... ตอนแรกก็หงุดหงิดหัวหน้า เพราะอิฉันปฏิเสธไปแล้ว แล้วสุดท้ายก็เอากาแฟไปให้ ดูยังไงไม่รู้ ... สงสัยชีกลัวจะโดนเขียนรายงาน ... มารู้ทีหลัง หลังจากจบไฟล์แล้ว หัวหน้าบอกว่า ที่ต้องให้เอากาแฟไปเสิร์ฟเนี๊ยะ เพราะผู้โดยฯ คนนี้จะเขียนรายงานว่า อิฉันเหยียดชนชาติเค้า เห็นว่าเค้าเป็นอาราบิคเลยไม่ยอมเสิร์ฟ ... ... ยั๊ง ยังค่ะ มันยังไม่แค่นั้น ยังหาว่าลูกเรือที่ทำงานด้วยอีกคน แอบดื่มไวน์แดง ... ดื่มขณะทำงาน ใครจะเอาอาชีพการงานมาเสี่ยงเพราะไวน์แก้วเดียว ... ... เฮ้อ! คิดได้ไงฟ่ะ


ไฟล์ทิ้งทวน ... เลิกบ่น เลิกเซ็ง เตรียมตัวไปพักร้อนดีกว่า





11/04/10 ... พักร้อนแล้ว

พักร้อนตั้งแต่วันที่ 9 แล้ว แต่ไม่มีเวลาอัพบล็อคเลย เพราะไปเที่ยวหัวหินมาสองวัน ไว้ว่างๆ เดี๋ยวจะพาไปเที่ยวหัวหินค่า


พรุ่งนี้ก็จะวันเกิดอิฉันแล้ว ... ปีปีนึงผ่านไปเร็วจริงๆ


ที่ทำไฟล์กรุงเทพคราวที่แล้ว เพื่อนเลิฟก็พาไปเลี้ยงวันเกิดที่ Coffee Bean มา





ทาโก้, เต้าหู้ทรงเครื่องเจ, ต้มกระดูกหมูอ่อน, ผัดวุ้นเส้นทะเล

อาหารอร่อยทุกอย่าง



ต่อด้วยเค้ก



กับเพื่อนสุดเลิฟ





เครปสตอเบอรี่, เค้กเกาลัด, เชอรี่ชีสเค้ก, วอร์นัทชีสเค้ก

เค้กก็อร่อยไม่ผิดหวังจริงๆ





13/04/10 ... เชียงใหม่เจ้า

แล้วก็ถึงเวลาเดินทางไปเชียงใหม่ วันนี้เช้าตรู่จะออกเดินทางไปเชียงใหม่กับที่บ้าน ... แม่ พี่สาว น้องชาย ... โดยจะขับเรื่อยๆ ไม่รีบร้อย แวะเที่ยวตามรายทางไปเรื่อยๆ อาจจะใช้เวลาวัน สองวัน สามวัน แล้วแต่ความชิลล์


เวลานี้ตีสองแล้ว อิฉันยังไม่หลับ ... พรุ่งนี้จะตื่นไหวไหมเนี๊ยะ แต่ไม่เป็นไรหลับในรถเอา





16/04/10 ... Home Sweet Home

ถึงเชียงใหม่โดยปลอดภัยตั้งแต่คืนวันที่ 14 แต่ที่บ้านไม่มีเนต เลยไม่ได้อัพบล็อค ตอนนี้ค้างอัพอยู่เพียบ เดี๋ยวจะรีบทยอยอัพ แล้วก็ขอบคุณที่เข้ามาทักทายกันนะค่ะ ยังไม่ได้กลับเข้าไปทักทายใครเลยตั้งแต่พักร้อนมา พอดีช่วงนี้มาขโมยใช้เนตชาวบ้าน เลยได้แต่อัพบล็อค ขอโทษจริงๆ นะค่า



กลับมาพักร้อนคราวนี้มีความสุขสุดๆ ได้เที่ยว ได้อยู่กับที่บ้านแบบครบๆ คือบ้านนี้ลูกใจแตก เรียนจบปุ๊บ เข้ากรุงปั๊บ เลยไม่ค่อยได้เจอกันแบบครบๆ ... พักร้อนคราวนี้ดีที่อิฉันได้หยุดพร้อมพี่สาวกับน้องชาย เลยตกลงกันว่าจะขับรถกลับบ้านที่เชียงใหม่กัน ... Road Trip แบบชิลล์ๆ เลยเริ่มขึ้น โดยมีคุณแม่สุดเลิฟมาด้วย (มีคนจ่ายค่าน้ำมันแล้ว ) ... ทริปนี้ตกลงกันว่าค่ำไหนนอนนั่น จริงๆ ว่าจะชิลล์สักสามสี่วัน แต่ด้วยอากาศที่ร้อนมากกกก ทุกคนเลยลงความเห็นว่า นอนที่สุโขทัยคืนเดียวพอ แล้วก็ตรงขึ้นเชียงใหม่เลย


มาถึงเชียงใหม่ว่าจะกินนู่นกินนี่ สรุปก็ไม่ได้กินที่ไหนเพราะร้านที่อยากกินก็ปิดกันหมด เลยว่า นานๆ กลับมาพร้อมกันที ให้คุณแม่ทำกับข้าวให้กินดีกว่า คิดถึงฝีมือแม่ ... ทุกวันเช้า - เย็น ก็จะกินข้าวที่บ้าน บ่ายๆ ก็ออกมานั่งเย็นๆ ที่ร้านขนม ร้านน้ำผลไม้ แถวนิมมานเหมินทร์แทน


อยู่ด้วยกันซะหลายวัน เรื่องทะเลากัน ตีกัน เป็นเรื่องปกติ แต่ก็ทำให้ที่เรารักกันอยู่แล้ว ยิ่งรักกันมากขึ้นไปอีก


พรุ่งนี้คุณแม่ พี่สาว น้องชาย จะกลับกรุงเทพแล้ว ... บ้านเงียบเหงาแน่ๆ เลย





19/04/10 ... พักร้อนชิลล์ๆ

คุณแม่ คุณพี่ คุณน้อง กลับกรุงเทพไปเรียบร้อยแล้ว เหลืออิฉันกับคุณพ่อ บ้านเงียบเหงาจริงๆ คิดถึงเสียงดังๆ ที่คนนู่นเถียงคนนี้ คิดถึงอาหารฝีมือแม่ คิดถึงเวลานั่งกินข้าวพร้อมๆ กันจังเลย ...


ตอนนี้ก็เลยเป็นพักร้อนชิลล์ๆ สไตล์อิฉัน ... เช้าไปโยคะ เที่ยงหาอะไรง่ายๆ กินกับเพื่อน บ่ายๆ นั่งเล่นเนตตามร้านขนมต่างๆ ตกเย็นนัดเพื่อนหาอะไรอร่อยๆ กิน


อีกสามวันว่าจะกลับกรุงเทพแล้ว เพราะต้องไปเอา Passport แล้ววันที่ 23 เย็น หรือ 24 เช้าก็จะต้องกลับไปทำงานแล้ว ดีที่เดือนนี้ขอไฟล์ไปซิดนีย์ไว้ ไม่งั้นอาจจะไม่ได้ทำงาน เพราะภูเขาไฟระเบิดที่ Iceland ปิดน่านฟ้าของประเทศยุโรปหมด เพือนๆ ที่ไม่ได้พักร้อน ก็หยุดกันหมด หวังว่าจะเปิดน่านฟ้าในเร็ววัน ... ไม่เช่นนั้น พวกอิฉันต้องตกงานเป็นแน่แท้





25/04/10 ... ละเหี่ยใจ

สิบห้าวันมันช่างผ่านไปไวจริงๆ จำได้ว่าพึ่งจะกลับไปพักร้อน นี่กลับมาทำงานอีกแล้ว


อยู่เมืองไทยไม่ค่อยได้เข้า ไม่ค่อยได้อัพบล็อคเลย เนตไม่มี เลยไม่ได้เข้าไปทักทายใครสักคน ไม่ว่ากันนะค่ะ ว่างเมื่อไหร่จะรีบไปเม้นท์เลยนะค่า


กลับไปเพิ่มพลังมาสองอาทิตย์ แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยช่วยอะไรเลย เมื่อต้องมาทำไฟล์ซิดนีย์ ... ด้วยความที่เป็นจูเนียร์สุดเลยโดนให้ไปทำอยู่ชั้นประหยัด ... ทุกทีไปแค่ช่วยนิดๆ หน่อยๆ แต่คราวนี้ทำงานเต็มตัวเลยค่ะ อยากจะร้องไห้ เวลาจะกินไม่มี เวลาจะนั่งหาไม่ได้ เวลาจะดื่มน้ำ จะฉี่ไม่ต้องพูดถึง ... ไฟล์ 13 ชั่วโมง นอนพักไปสามชั่วโมง นอกนั้นยืน เดิน ทำงานตลอด ... ถึงผู้โดยฯ จะเต็ม ลูกเรือก็ไม่ขี้เกียจนะ แต่หัวหน้าสำออยมากๆ โดนผู้โดยฯ เหยียบเท้า เหยียบยังไงไม่รู้ แต่ชีเดินไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็น ... งงค่ะ งงมากๆ เพราะเคยไปบินไฟล์นึง ลูกเรือกระดูกที่นิ้วเท้าหัก ยังเดินได้เลย นี่แค่ผู้โดยฯ เหยียบเท้า กระดูกคงไม่หักมั้ง ... เมื่อหัวหน้าทำงานไม่ได้ หัวหน้าชั้นประหยัดเลยต้องไปทำหน้าที่แทน ... ลูกเรือเลยหายไปคนนึง ลูกเรืออย่างอิฉันก็ต้องทำงานหัวฝู


ไฟล์นี้ไปขอมาค่ะ เพราะได้อยู่ 48 ชั่วโมงชิลล์ๆ ทำงานหนักบ้างก็ยังโอเค ... แต่ก่อนเครื่องลง ก็มีข่าวร้าย ... กัปตันบอกว่าที่ออฟฟิตให้บินกลับพรุ่งนี้

จากพัก 48 ชั่วโมง กลายเป็นเหลือ 23 ชั่วโมงกว่า

เซ็งและเศร้ามากๆ ทำไม๊ ทำไม ทำไมต้องเป็นช้านนนนนน ... หงุดหงิดโว้ย


วางแผนซะดิบดีจะไปช้อปปิ้ง จะไปเที่ยว ... ไฟล์เปลี่ยนอย่างนี้ แล้วจะได้ทำอะไรไหมเนี๊ยะ ... สงสัยจะได้นอนอย่างเดียว





27/04/10 ... ของแถมจากซิดนีย์

กลับมาถึงอาบู้ตั้งแต่เช้าตรู่เลยค่ะ ยังหงุดหงิดไม่หาย ได้อยู่ซิดนิย์น้อยลงไม่พอ เงินที่ได้ยังลดลงไปอีก ไฟล์นี้เสริมเข้ามาสำหรับผู้โดยฯ ที่ตกค้างตั้งแต่น่านฟ้าปิดที่ยุโรปเมื่ออาทิตย์ก่อน แต่ด้วยความที่เค้าเพิ่มไฟล์กระทันหันเกินไป ขาอาบู้ - ซิดนีย์ ... ไม่มีผู้โดยฯ ส่วนขาซิดนีย์ - อาบู้ ... ผู้โดย 74 คน ... ก็ยังดีนะค่ะ ถึงได้อยู่ซิดนีย์น้อย ก็ยังได้ทำไฟล์ชิลล์ๆ ... ชิลล์มากขนาดที่ถึงเวลาต้องมาทำเซอร์วิส อิฉันยังไม่ตื่นเลย คือนาฬิกาไม่ปลุก แถมลูกเรือไม่มาเรียกอีกต่างหาก ตื่นสายมาซะยี่สิบนาที ลูกเรือเสิร์ฟจะเสร็จอยู่แล้ว ลองคิดดูละกันนะค่ะว่าผู้โดยฯ น้อยแค่ไหน


ไปซิดนีย์ทีไรช้อปปิ้งทุกที ยิ่งคราวนี้ไปถึงวันหยุดของที่ซิดนีย์อีก เลยได้ไปเดิน Paddy Market ไปโซนผัก-ผลไม้ก่อนเลย (อีกแล้ว ) ... บางคนคงว่า นังนี่ทำเป็นหรู ซื้อผัก-ผลไม้ที่กรุงเทพไม่ได้ ต้องไปซื้อซิดนีย์ ... อยากหรูเหมือนกันนะค่ะ แต่ของที่ซื้อราคาไม่เกินสองเหรียญหรือหกสิบบาทเลย คือไปกรุงเทพทีไร กระเป๋าไม่เคยมีที่เหลือนค่ะ พอได้ซิดนีย์เลยมักจะซื้อของสดที่นี่แทน เพราะผัก-ผลไม้ที่นี่ไม่ได้แพง อย่างที่คิดไว้หรอกค่ะ ราคาพอพอกับบ้านเรา ถ้าแพง คนงกๆ อย่างอิฉันก็ไม่ซื้อหรอกค่ะ

เลยได้ส้ม, กี่วี่, แอปเปิ้ลเขียว มาอย่างละโลๆ ละ 1 เหรียญถึง 1.50 เหรียญ ตกอยู่ 30 บาท เป็นไงคะ ถูกหล่ะซี

ส่วนผักก็ได้ฟักทองมาลูกนึง, ผักชี, แตงกวา, ผักคะน้า และราคาก็เหมือนกันค่ะ อย่างละเหรียญ ที่แพงสุดก็เป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว สองเหรียญค่ะ ตั้งใจว่าจะทำราดหน้า



และด้วยความที่เหนื่อยมากจากไฟล์ นั่งไม่ได้นั่ง กินไม่ได้กิน น้ำไม่ได้ดื่ม ฉี่ไม่ได้ฉี่ ... มาถึงก็สลบค่ะ หลับไปตั้งแต่เที่ยงคืนตื่นอีกทีบ่ายครึ่ง เลยได้นี่มาเป็นของแถม




ตื่นมาตอนแรกคันๆ คิดว่าเดี๋ยวก็หาย ที่ไหนได้มันบวมขึ้น คันมากขึ้น กลับมาถึงอาบู้ก็แดงเยี่ยงนี้หล่ะค่ะ ... สงสัยว่าจะโดนไรฝุ่นเข้าให้ ... นี่ถ้าพรุ่งนี้ไม่ดีขึ้น ก็ว่าจะไปหาหมอละ





28/04/10 ... วันเงินเดือนออก

เมื่อวานได้รับข้อความจากธนาคาร ... เงินเดือนออกค่า

เงินเดือนออกทีไร อิฉันกับคุณเมทสุดเลิฟจะทนรอให้เงินอยู่ในแบงค์นานๆ ไม่ได้ ... ต้องรีบกดออกมาใช้ พร้อมทั้งหาเรื่องใช้เงิน



เมื่อวานเลยตกลงว่าจะออกไปหาของกินข้างนอกกัน ตกลงใจกินสิ่งนี้ เพราะมีคูปองหนึ่งแถมหนึ่งอยู่





Southern Fried Chicken

เซ็ทนึงได้ไก่ทอดสามชิ้น เฟรนฟรายเล็ก โคลสลอว์เล็ก ขนมปังเนยหนึ่งก้อน พร้อมกับน้ำขนาดกลาง


เหมือนจะน้อย แต่กินกันไม่หมด เพราะเนื้อไก่แห้งมากๆ ... กินเสร็จก็ไปเดินห้าง ซื้อของซุปเปอร์นิดหน่อย ก่อนกลับก็ต้องมีของหวานตบท้าย





Baskin Robbins

ไอติมสองลูกพร้อมบราวนี่ ราดด้วยซอสสตอเบอรี่กับชอคโกแลตในแก้วโต


กินกันจนอิ่มหนำ จนเกือบจะต้องกลิ้งกลับห้อง





วันนี้ว่าจะออกไปช้อปปิ้งกันอีก แต่ด้วยความขี้เกียจและผักที่ซื้อมาจะเน่าคาตู้อยู่แล้ว เลยต้องมาทำกับข้าวกันเอง ตอนแรกว่าจะทำราดหน้า แต่ถั่วฝักยาวที่ซื้อมาต้องรีบนำมาใช้อย่างด่วน เลยได้เมนูนี้มาแทน




ผัดพริกถั่วหมู

ฝีมือเมทอิฉันเองค่ะ น่ากินหล่ะซี อร่อยด้วยนะจะบอกให้



กับอีกเมนู ฝีมืออิฉันเอง




ยำวุ้นเส้นลูกชิ้นปลากราย

เมนูยำขอให้บอก ชอบกินมากๆ เลยต้องพยายามทำ ถึงไม่อร่อยเท่าที่ร้านแต่ก็พอกล้อมแกล้มค่า





29/04/10 ... แค่อักษรตัวเดียว

เมื่อวานว่าจะเข้าไปทักทายทุกคนซะหน่อย ก็เกิดเรื่องอีกจนได้ ที่ออฟฟิตโทรมาด้วยเรื่องพาสปอร์ตที่อิฉันพึ่งไปทำมาใหม่เมื่อพักร้อนที่ผ่านมา คืออิฉันดั้นไปเปลี่ยนตัวสะกดตัวเดียวในนามสกุลให้เหมือนพี่กับน้องของอิฉัน คิดแค่ว่าทำใหม่ทั้งทีเปลี่ยนตัวสะกดให้มันถูกต้องไปเลยดีกว่า


ที่ออฟฟิตบอกว่า การเปลี่ยนตัวสะกด เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล ต้องเข้ามายืนยันที่ออฟฟิต เพราะเอกสารสำคัญต้องเปลี่ยนใหม่หมด อิฉันก็ไม่ได้คิดอะไร เข้าก็เข้า เมื่อคืนเลยไปนอนตึกเพื่อนที่ใกล้ออฟฟิต เพราะจะได้ไปมาสะดวก


แปดโมงครึ่งก็ไปทำเรื่อง เริ่มจาก

- บัตรพนักงาน : ง่ายๆ ชิลล์ แค่ส่งอีเมล์แจ้ง ทำบัตรใหม่
- บัตรประกันสุขภาพ : ก็ง่ายๆ เหมือนกัน แค่ส่งอีเมล์ แต่ได้รับวันอาทิตย์ (เพราะที่นี่หยุดวันศุกร์กับเสาร์)
- ใบอนุญาตบิน : อันนี้เริ่มยากละ เพราะจะทำได้ต้องเปลี่ยนวีซ่าก่อน
- วีซ่าทำงาน : อันนี้หล่ะค่ะที่เป็นปัญหา เพราะจะทำวีซ่าใหม่ได้ ต้องมีจดหมายยืนยันจากทางสถานทูตว่า ทำไมอิฉันต้องเปลี่ยนตัวสะกดและต้องแปลเป็นภาษาอาราบิคมาให้ด้วย


พอมาถึงเรื่องวีซ่า อิฉันก็เริ่มเห็นความซวยมาลางๆ ซะแล้ว ไปสถานทูตใช้เวลาเท่าไหร่กว่าจะได้? ได้แล้ว วีซ่าอีกนานไหมกว่าจะได้? แล้วเมื่อไหร่จะได้ใบอนุญาตบิน อิฉันว่าได้หยุดรอใบอนุญาตบินสองอาทิตย์แน่ๆ เลยปรึกษากับเจ้าหน้าที่ สุดท้ายเลยลงความเห็นว่า อิฉันกลับกรุงเทพไปทำพาสปอร์ตใหม่ง่ายสุด ทำใหม่เปลี่ยนตัวสะกดกลับมาเป็นเหมือนเดิม


อิฉันเลยถูกเอาไฟล์ออกสองไฟล์ เงินเดือนโดนหักไปอีกหลายวันเพราะไม่ได้ทำงาน เสียตังค์ค่าตั๋วกลับบ้าน ...


เพราะอักษรตัวเดียว ทำอิฉันหมดเงินไปหลายหมื่นเลย


ไว้กลับมาจะรีบไปทักทายนะค่ะ เดี๋ยวต้องรีบแต่งตัวไปสนามบินแล้ว ต้องกลับกรุงเทพคืนนี้ แล้วพรุ่งนี้ต้องรีบไปทำพาสปอร์ตเลย หวังว่าคราวนี้จะไม่ต้องนั่งรอสามชั่วโมงเหมือนคราวที่แล้วอีก สาธุ





30/04/10 ... ภาระกิจเสร็จสิ้น

Hello ... Bangkok!


กลับจากพักร้อนไปทำแค่ไฟล์ซิดนีย์ก็กลับมาอีกละ ทำเหมือนอยู่เบสกรุงเทพ


กลับมาคราวนี้ภาระกิจอันใหญ่หลวงรออยู่ ... ทำพาสปอร์ต


เครื่องลงตั้งแต่หกโมงครึ่ง กว่าอิฉันจะถึงบ้านก็ปาไปเก้าโมงครึ่ง รถติดได้อีก ติดเพราะเป็นเวลาคนออกไปทำงาน ติดเพราะรถเยอะ ติด ติด ติด


กว่าจะถึงบ้าน อาบน้ำ เก็บของ เตรียมของ กว่าจะได้ออกก็เที่ยงนู่นเลยค่ะ ใจยังวั่นๆ ว่าวันนี้จะต้องรออีกนานเท่าไหร่เพราะคราวที่แล้วรอไปซะสามชั่วโมง

ไปถึงก็ต้องแปลกใจ ... อิฉันต้องรอคิวแค่สามสิบคน ใช้เวลารอแค่สามสิบนาที เริ่ดมากๆ มารับได้วันที่ 4 ... ทำเสร็จก็หาอะไรกินแอนด์ช้อปปิ้งกับพี่สาวที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า แล้วก็กลับมาเก็บของ เพราะเสาร์-อาทิตย์นี้อิฉันว่างเลยจะตามพี่สาวไปเที่ยวค่า

... เกาะเต๋า ...

ไปคืนนี้ กลับมาคืนวันจันทร์ วันอังคารรับพาสปอร์ต แล้วก็กลับอาบู้ เป็นไงคะ แผนเที่ยวของอิฉัน





หมายเหตุ : ย้ายจากบล็อค Story of the Day เดือนเมษายน มารวมไว้ที่นี่



Create Date : 01 มกราคม 2554
Last Update : 3 มกราคม 2554 3:18:45 น.
Counter : 2501 Pageviews.

0 comments
แพ้เนื้อจากการโดนเห็บกัด alpha-gal allergy สวยสุดซอย
(17 เม.ย. 2567 14:07:10 น.)
คุย โอพีย์
(13 เม.ย. 2567 21:51:16 น.)
พระราชวังบ้านปืน ดาวริมทะเล
(9 เม.ย. 2567 14:46:08 น.)
ถนนสายนี้มีตะพาบ กม.ที่ 349 "วันใดที่เธอ...." จันทราน็อคเทิร์น
(8 เม.ย. 2567 14:18:13 น.)

Molly-nanny.BlogGang.com

Molly_Nanny
Location :
Abu Dhabi  United Arab Emirates

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]

บทความทั้งหมด