ไม่ใส่ร้าย แต่ป้ายสี ไม่ใส่ร้าย แต่ป้ายสี ผมว่าจะทำเรื่อง Sharpen ตั้งแต่เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว แต่ก็ยังไม่เสร็จ ที่จริงเขียนเสร็จไปเรียบร้อยแล้วแหละ แต่พอตอนทำสาธิตจริงๆ ผมเพิ่งมารู้ว่าเทคนิคที่ผมใช้นี่ ผมเข้าใจอะไรผิดไปหลายอย่างเลย ก็เลยต้องกลับไปรื้อบทความเขียนใหม่เกือบครึ่ง ทั้งที่เขียนไปได้ตั้งร่วม 5 หน้า A4 แล้ว เวลาเขียนบทความผมจะเขียนทุกอย่างที่นึกได้เป็นฉบับร่าง เสร็จแล้วผมจะตัดทิ้ง 1 ใน 3 หรือบางที ครึ่งนึง แล้วค่อยเรียบเรียงใหม่ให้กระชับ เป็นบทความที่ได้เห็นกันจริงๆ แต่ยังบาดใจเรื่อง Sharpen อยู่ ขอดองไว้ก่อน เดี๋ยวทบทวนเทคนิคอีกหน่อย ค่อยทำภาพสาธิตใหม่อีกที คราวนี้มาเป็นเรื่องของสี อีกที เป็นเทคนิคในการทำสีเฉพาะจุด จากเดิมที่ผมเคยเล่าเรื่องการปรับ Saturation ทั้งภาพไปแล้ว แล้วเกริ่นๆ เรื่องการทำสีเฉพาะจุดไว้นิดหน่อย การทำสีเฉพาะจุด ปกติเราจะเอาไว้ใช้ในการเน้นความเด่น หรือปิดบังลดส่วนที่เด่นเกินไป บางส่วนของภาพ เวลาที่เราต้องการปรับให้เกิดความเด่น หรือลดความเด่นของวัตถุ โดยไม่ให้ดูหลอกตามากเกินไป บอกก่อนว่าผมเป็นพวกแอนตี้การทำสีเฉพาะจุด บนภาพขาวดำ ผมว่าเป็นเทคนิคที่ถูกเอามาใช้อย่างไม่เหมาะสมบ่อยมาก มันจะไม่เข้ากับภาพบางแนว ผมไม่สนับสนุนให้ใครใช้จนกว่าจะเข้าใจว่าทำไปเพื่ออะไร ในภาพไหนแล้วจะสวย ในภาพแบบไหนมันจะไม่สวย แค่ดูแปลกตาเฉยๆ เว้นแต่จะทำไปเพื่อฝึกฝีมือฉอบ อันนั้นเป็นข้อยกเว้น ไม่ว่ากัน แทนที่เราจะเน้นภาพสีบนขาวดำ ถ้าลองมาเป็นภาพสีสว่างสดใส บนฉากหลังที่สีมืดๆ หน่อย ก็จะเป็นการเน้นได้เหมือนกัน และใช้ได้กว้างกว่า กับภาพแทบทุกแนว จะดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติกว่า ทักษะเครื่องมือที่ต้องใช้ (เพิ่มหัวข้อนี้หน่อย จะได้รู้ว่าต้องมีพื้นฐานอะไรมาก่อน) Brush, Eraser, Layer, Blending Mode, Opacity เออ คราวนี้ใช้น้อยแฮะ ขนาด Mask ยังไม่ใช้เลย เวลาสาธิตครั้งนี้ผมจะไม่ได้ทำเฉพาะจุดนะครับ แต่จะทำทั้งภาพเลย จะได้เห็นผลกันชัดๆ เวลาทำจริงเราทำกันแค่บางจุดเท่านั้น เพราะถ้าจะทำเป็นพื้นที่กว้างๆ แบบนี้ ปรับ Saturation/Clean/Boost ร่วมกับ Channel และ Mask จะง่าย และเร็วกว่ามาก ผมเลือกภาพนี้ละกัน มีหลายสีดี จะได้เห็นชัดๆ เทคนิคนี้สรุปได้สั้นๆ ครับ สั้นมาก คือ ป้ายสีลงไปบน layer เปล่า แล้ว Blend ด้วย Color Dodge กับภาพ เพื่อให้สว่างสดใส หรือ Color Burn เพื่อให้เข้มมืดหม่น จบ ดูขั้นตอนเลย (Layer ที่เป็น Draft อันนั้นเป็นกระดาษทดของผม ไม่ต้องไปใส่ใจ) อันดับแรก สร้าง Layer เปล่าขึ้นมาก่อน อันนี้ขอข้าม ไม่สาธิตใน basic photoshop ทุกสำนักเค้าสอนไว้แล้ว เลือกใช้ Brush ที่ Opacity สูงๆ เต็มร้อยไปเลยก็ได้ ปรับลดทีหลัง ง่ายกว่าเพิ่มทีหลังครับ Hardness กลางๆ ค่อนข้าง Hard จะได้ไม่ฟุ้งกินแดนไปส่วนที่ไม่ต้องการมาก ขนาดแปรงเลือกตามความเหมาะสมของภาพ .....ไม่ต้องอธิบายมั้ง สี... อันนี้สำคัญ เราจะให้สีไหนสว่างใส (ถ้า dodge) หรือเข้ม (ถ้า burn) ก็ให้เลือกสีนั้น วิธีการเลือกสีที่ต้องการคือกดปุ่ม Alt (option ใน mac) ค้างไว้ แปรงก็จะเปลี่ยนเป็น หลอดดูดสี Eyedrop tools แล้วจิ้มไปที่สีที่ต้องการ พอปล่อยปุ่ม Alt ตอนนี้แปรงเราก็จะมีสีตามที่เราจิ้มไว้แล้ว จากนั้นก็ป้ายไปตามอัธยาศัย ตามใจชอบในพื้นที่ๆ เราต้องการ กินแดนล้ำแดนไปบ้างไม่เป็นไร เราสามารถใช้ Eraser ลบส่วนที่ไม่ต้องการทิ้งได้เลย ไม่ยาก ใน Layer ป้ายสีของผม ก็จะได้ออกมาหน้าตาประมาณนี้ ผมอยากให้ฉากหลังเข้มข้นหน่อย ผมก็จะเปลี่ยน Blending Mode ของชั้นนี้ โดยเลือกไปที่ Color Burn ก็จะได้ภาพหน้าตาสีสันแบบนี้ออกมา แอ๊ก.. น่าเกลียด ไม่เป็นไร ใช้ลูกเล่น Opacity เหมือนเดิม ลดมันลงมาจนกว่าจะดูดี และสำหรับการทำ Color Dodge ให้สีสว่างสดใส ก็ทำเหมือนเดิมเป๊ะ อยากได้สีอะไรก็ Alt จิ้ม แล้วเอาแปรงที่เปลี่ยนเป็นสีนั้นเรียบร้อยแล้ว ป้ายๆๆๆๆๆๆๆ ถ้าดูแต่ชั้นนี้จะดูประหลาดมาก ประมาณนี้ (นกบ้าอะไรเนี่ย สีเยอะชิปอ๋าย) เราก็เปลี่ยนเป็น Color Dodge ก็จะได้ภาพที่พิลึกไม่น้อยไปกว่ากันขึ้นมา ลืมบอกไป ถ้ามีหลายสีใกล้ชิดกันแดนกันอย่างนกตัวนี้ ใช้แปรงที่ Hardness น้อยๆ ให้แต่ละสีมันฟุ้งๆ กินแดนกันระหว่างสีต่างๆ ภาพจะดูดีกว่าใช้แปรงขอบคมๆ นะครับ ถ้าป้ายขอบคมแบบที่ผมทำบางทีมันจะดูกระด้างไปนิด หลังจากทำแล้วก็อย่าลืมลด Opacity จนได้ภาพที่ดูเป็นธรรมชาติขึ้น เสร็จล่ะ ได้ภาพเรียบร้อย ถ้าจะเอาเทคนิคนี้ไปทำสีแทน Saturation มันก็พอได้นะครับ แต่มันช้ากว่า เพราะต้องใช้แปรงป้ายเก็บพื้นที่ที่ต้องการ ทำซ้ำได้ไม่เหมือนเดิม เพราะพื้นที่ และน้ำหนักที่ทำสีขึ้นอยู่กับการป้ายแปรง ควบคุมผลลัพท์ได้ลำบาก มีจุดที่ทำให้ผลแปรปรวนได้หลายอย่างเหลือเกิน ใช้ Action ไม่ได้ ไม่เหมือนเหมือนเทคนิค Boost & Clean ที่เคยแนะนำไปอันนั้นกดปุ่มทีเดียวเสร็จ เทคนิค Color Dodge & Burn เลยเหมาะกับการทำสีเฉพาะพื้นที่ มากกว่า เป็นงานฝีมือที่ต้องทำกันเป็นภาพๆ ไป แถมท้ายด้วยวิดีโอหน้าจอที่ผมเก็บไว้ ตอนทำภาพนี้ ให้ดูกันเพลินๆ ครับ จะได้เห็น ตอนทำจริง เก่งจังคับ อิอิ
โดย: สัญญาลมปาก วันที่: 9 พฤษภาคม 2554 เวลา:17:13:37 น.
ตอนอ่าน ก็ถือว่ายังงง งง
มาเริ่มดีขึ้นหน่อย ตอนดูคลิปครับ ขอบคุณครับ โดย: yyswim วันที่: 9 พฤษภาคม 2554 เวลา:23:26:00 น.
|
บทความทั้งหมด
|