[SR] รีวิวครึ่งๆ กลางๆ พา Olympus PEN E-P5 ไปเที่ยวนครนายก
ไม่เชิงรีวิวสมบูรณ์แบบเท่าไหร่ เพราะได้เล่นรอบละนิดรอบละหน่อย หลายรอบ ไม่ได้เล่นยาวๆ สักที ได้เล่นทีนึง ก็เอามาเล่าให้ฟังทีนึง คราวนี้รวบรวมไว้ซะหน่อย น่าจะเป็นรอบสุดท้ายซะที

หลังจาก Olympus PEN E-P5 เปิดตัว พวกเราหลายคนได้เล่นกล้อง pre producttion มาหลายรอบจนพอจะรู้จักกับมันพอสมควรแล้ว
เหลือประเด็นที่ผมยังสงสัยอยู่ 2-3 เรื่องเท่านั้น ว่ากล้องที่ผลิตจริงจะออกมาเป็นอย่างไร ต่างจากตัวต้นแบบอย่างไร

จนหลังจากวางขายอาทิตย์นึงจนน้าๆ หลายท่านซื้อไปลองเล่นบ้างแล้ว ผมก็เลยถือโอกาสลองยืมกล้องจากน้าในกลุ่มผู้ใช้โอลิมปัสไปลองเล่นสัก 3-4 วันว่าที่สงสัยนั้น ที่จริงแล้วมันเป็นอย่างไร

เสียแต่ ได้กล้องไป 3 วัน ฝนตกทุกวัน...

P7200097


ดังนั้นไม่ค่อยมีรูปมาโชว์เท่าไหร่นะครับ อีกอย่างนึง ทริปที่ไปนี่ผมไปถ่ายรูปให้กับครอบครัวพี่แขก acj ที่เคยมาประกาศหาคนไปเที่ยวนครนายกด้วย รูปส่วนใหญ่ก็เลยเป็นรูปครอบครัวท่องเที่ยว ไม่มีรูปอะไรที่จะแสดงให้เห็นว่ากล้องมันต่างยังไง

แต่ผมว่านะ ดูไปก็ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่หรอก เพราะภาพมันก็เหมือนๆ OM-D E-M5 นั่นแหละครับ ออกใสๆ กว่าหน่อยเดียว
คิดซะว่าใส่รูปคั่นสายตาไม่ให้ตัวอักษรเป็นพรืดมากไปก็พอ อย่าไปเอานิยมนิยายอะไร

เรื่องนี้เป็นความสงสัยข้อแรกมาตั้งแต่ก่อนได้กล้องตัวจริงไปเล่นแล้ว ว่ารูปมันจะออกมายังไงต่างแค่ไหนกับต้นแบบ
เพราะในกล้อง pre production ที่หลายๆ คนได้เล่นกันตอนเปิดตัว สีสันมันเข้มดุเดือดยังกะโอลิมปัสเก่าๆ พอตัวจริงสีสันลดความเข้มไปเยอะ แต่ไล่โทนดีขึ้นมาก นุ่มเนียน ความคมชัดอะไรก็พัฒนาเพิ่มขึ้นกว่า E-M5 จึ๋งนึง แต่โดยรวมๆ ผมว่าภาพที่ได้ ไม่ได้ผิดตาจาก E-M5 ไปมากนัก

P7210230
รูปเก่าเล่าซ้ำ ไม่มีรีทัชใดๆ default จากกล้อง


ข้อสงสัยในการใช้งานจริงอย่างที่สองคือ เวลาใช้งานจริงๆ แล้ว Wi-Fi มันจะเป็นอย่างไร

อย่างแรกที่ต้องบอกเลยคือการเซ็ตอัพ Wi-Fi ง่ายโคตรๆ ง่ายสุดๆ มนุษย์ธรรมดาที่ใช้สมาร์ทโฟนเป็น สามารถเซ็ตอัพใหัทำงานได้ทันทีในครั้งแรก ด้วยเวลาไม่เกิน 1 นาที

สิ่งที่ต้องทำคือ
1. เปิดกล้อง เปิดแอพ OI. Share ในโทรศัพท์ หรือแท็ปเลต (โหลดได้จาก App Store/ Play Store)
2. แตะไอคอน Wi-Fi ที่หน้าจอกล้อง ก็จะมี QR code โผล่มา
3. เลือก Remote Control หรือ Import Photos ก็ได้ จากในแอพ OI.Share
4. หันกล้องไปเล็งที่ QR code บนหน้าจอกล้อง
แค่นี้แหละ ที่เหลือมันจะทำให้เสร็จโดยอัตโนมัติ จะคุมกล้องผ่านแอพ จะก็อปภาพจากกล้อง หรือจะติด Geo-tag ในภาพก็ได้
เทียบกับตอนที่ผมอ่านคู่มือ กดโน่นนี่กลับไปกลับมา กล้องที โทรศัพท์ที ตอนเซ็ตอัพ Wi-Fi ของ 6D หรือ FlashAir Card ที่มีมากับ E-PL5/E-PM2
ขอบอกเลยว่า นี่มันสวรรค์ชัดๆ

P7200118
อากาศแบบนี้ ไม่มีรูปสวยเลยยย


แต่อย่าเพิ่งดีใจไป ธรรมชาติของโอลิมปัส มักจะมีอะไรที่ดีมากๆ กับแย่มากๆ มาพร้อมกันเสมอ ...ที่ว่าไปคือส่วนที่ดี
ส่วนสิ่งที่แย่คือซอฟท์แวร์ OI.Share เหมือนจะยังทำไม่เสร็จดี

Remote Control ผ่านมือถือสามารถจะทำได้แค่ถ่ายภาพนิ่งในโหมด iAuto ได้เท่านั้น การควบคุมกล้องทำได้จำกัดมาก
ส่วนเวลาแปะแท็กนี่ง่ายเหมือนเสก กดปุ่มจึ้ก ทุกภาพจะมี location tag หมดทันที
การติด geo-tag ก็เหมือนจะดี แต่ปัญหาคือโทรศัพท์จะต้องทำงานตลอดเวลาเพื่อเก็บ log ของ GPS เอาไว้ เพื่อเอาไปแปะใน meta-data ของรูป
และการจัดการพลังงานก็ไม่ดีเสียด้วย โทรศัพท์ผมสูบแบตฮวบๆ เปิดค้างไว้ชั่วโมงเดียว พอเห็นเปอร์เซ็นต์แบตโทรศัพท์แล้วรีบปิดฟังก์ชั่นนี้แทบไม่ทัน
ฟังก์ชั่นเดิมๆ อย่าง import photos หรือ edit photos ก็เหมือนเดิม สะดวก เล่นง่ายใช้สนุก เอารูปอะไรมาใส่อาร์ตฟิลเตอร์ก็ได้เหมือนเดิม และก็ไม่ได้ดีกว่าเดิม

ถ้าเทียบแอพของ 6D กับ E-P5แล้ว ก็เหมือนนรกกับสวรรค์อีกนั่นแหละ แต่รอบนี้ใครเป็นอะไร ก็กลับกันกับรอบที่แล้ว
เรื่องแอพนี่ก็ยังมีความหวังว่าในภายภาคหน้าอาจจะมีการอัพเดท หรืออัพเกรดอะไรให้มากกว่านี้ได้อยู่
แต่ในวันนี้ถ้าซื้อ E-P5 เพราะเหตุนี้ ผมว่ามันมีประโยชน์ไม่มากเท่าไหร่นัก

P7220028
ปรับแบบซอฟท์ๆ นุ่มๆ คอนทราสท์ต่ำๆ มากเท่าที่กล้องจะอำนวย


เรื่องที่ 3 ที่ผมสงสัยคือ เวลาใช้จริง การคอนโทรลมันจะเป็นยังไงมั่ง

E-P5 ออกแบบการจัดวางปุ่ม แป้น วงล้อใหม่ และยังเพิ่มคาน 2x2 มาอีกอันนึง
ผมชอบปุ่มกระจายแบบนี้มากกว่าปุ่มเข้าแถวแบบเดิม เพราะมันทำให้กดได้โดยไม่ต้องมอง ไม่ต้องคลำนับปุ่ม ว่าจะกดปุ่มลำดับที่เท่าไหร่ในแถว
แต่ว่ามันจะกดถนัดมั้ย เพราะเล่นเอาปุ่ม Play ไปหลบไว้มุมล่างขวา ผมก็กดบ่อยเสียด้วยแล้วเอาปุ่ม delete มาไว้ซะเด่นเลย

Olympus-PEN-E-P5-camera-back


เวลาใช้จริงกลับถนัดแฮะ ใช้โคนนิ้วโป้งกดปุ่ม Play ได้ ส่วนปุ่ม delete เป็นปุ่มที่อยู่ไกลนิ้วมากที่สุด กดได้ไม่ง่ายนักต้องปล่อยกริ๊ปก่อน ซึ่งก็สมเหตุสมผลดี ปุ่มส่วนใหญ่ก็อยู่ในที่ที่สมควรอยู่ ทำงานได้แบบที่สมควรทำ กดถนัดมือดี ไม่มีอะไรให้เซอร์ไพรซ์เหมือนกล้องบางรุ่น
ปุ่มก็เยอะเหลือเฟือ ตั้งฟังก์ชั่นโน่นนี่แล้ว ยังเหลือปุ่มอีกแน่ะ ผมใช้ไม่ครบทุกปุ่มหรอก

ส่วนของใหม่อย่างคานสวิชท์เปิดปิดกล้อง ก็ทำงานได้ดี รวดเร็วกว่าปุ่มกดแบบเดิม กล้องก็ start-up ได้เร็วทันใจ ตอบสนองการทำงานได้ทันที
วงแหวนหน้าหลังที่ถนัดมือกว่า มาแทนวงแหวนทรงกระบอกที่นิ้วโป้ง และวงแหวนรอบปุ่มสี่ทิศทางเดิมๆ ที่ปรับไม่ค่อยถนัด

คาน 2x2 ทำให้วงแหวนหน้าหลังเปลี่ยนหน้าที่ จากวงแหวนปรับการเปิดรับแสง กลายเป็นปรับ ISO/WB แทน
ฟังดูดี แต่พอใช้จริง คานมันไวเกิน ชอบเคลื่อนอยู่เรื่อย ทำให้วงแหวนมันเปลี่ยนหน้าที่ไปๆ มาๆ จนไม่มั่นใจว่าตอนนั้นวงแหวนมันทำหน้าที่อะไรอยู่กันแน่
นอกจากนี้แล้ว เวลาใช้คานนี้ แล้วหมุนปรับ ISO กับ WB มันจะมี lag นิดๆ ชวนสับสนว่าปรับไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว

ผมว่าการปรับ exposure มันเป็นงานระดับ critical มากนะครับ จำเป็นจะต้องปรับได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ
สามารถไว้วางใจได้ทุกครั้ง ทุกสถานการณ์ ปรับได้โดยไม่ต้องคิด หรือกังวลใจ
แต่ไอ้คานอันนี้มันเพิ่มความสะดวกก็จริง แต่ก็ทำให้กล้องอยู่ในสภาวะไม่น่าไว้วางใจ มีเรื่องต้องกังวลเพิ่มขึ้นอีกเรื่องนึง
ถ้าต้องทำงานระดับพลาดไม่ได้ ผมว่าตั้งไว้ในโหมด 3, 4 จะดีกว่า 1, 2 แล้วย้ายการปรับ ISO/WB ไปไว้ที่ปุ่มอื่น หรือใช้ปุ่ม OK เปิด SCP ปรับเอาก็ได้

นั่นยังไม่เท่าไหร่ ถึงมีผลกับผม แต่ไม่ได้ส่งผลกับคนใช้กล้องที่เป็นเป้าหมายของกล้องรุ่นนี้เท่าไหร่

ส่วนที่น่ารำคาญที่สุดของกล้องคือปุ่มเปิดแฟลชครับ ที่ส่งผลกับทุกคนที่ใช้กล้อง
มันเซ็นซิทีฟมากไป ไวสุดๆ แทบจะเป่าลั่น ใส่กล้องไว้ในกระเป๋า กระแทกไปมาแฟลชก็เด้งได้เอง
ตลอดสามวันที่ผมเอากล้องออกจากกระเป๋า มีโอกาสอย่างมากที่เอากล้องออกมาจากกระเป๋า แล้วแฟลชเด้งเปิดอยู่แล้ว เรื่องนี้มันน่าหงุดหงิดสุดๆ
นี่ถ้าเป็นกล้องของตัวเอง ไม่ได้ยืมใครมา ภายในสามวันแรก ผมคงตัดฟองน้ำแปะรอบปุ่มแฟลชไปแล้ว จะได้กดยากขึ้นอีกหน่อย


จอเยี่ยมมากสวยคมชัด ถึงสีไม่สวยเท่า E-M5 แต่ก็ดูภาพได้สบายตากว่ามาก
บางเฉียบ ง้างเปิดปิดง่าย สะดวก ลื่นดี ปิดแล้วก็แนบไปกับตัวกล้อง
ดูกลางแจ้งได้ชัดเจนดี ไม่มีปัญหามองจอไม่เห็นเลย

ตัวกล้องก็จับได้ถนัดดี น้ำหนักกำลังเหมาะมือในการใช้งานทั่วไป และการพกพาไปไหนมาไหนตลอดเวลา
ถึงจะวางปุ่มไว้ทางขวาหมด แต่กล้องมันหนักเกินกว่าจะควบคุมสมดุลย์ได้ด้วยมือเดียว โดยไม่ใช้มือซ้ายประคอง
การประกอบแน่นหนาแข็งแรง สัมผัสดี ไม่มีโยกคลอน เทียบแล้วดีกว่า E-M5 ไปอีกเยอะ ถือไว้ในมือแล้วมั่นใจดี
แก้ไขข้อบกพร่องเรื่องการผลิตจากรุ่นเก่าๆ ไปหมดเลย

แต่ว่าอย่างหนึ่งที่ผิดคาดมากๆ คือมันเป็นกล้องที่กินแบตโหดสุดๆ ผมใช้ได้ 3 ชั่วโมง ถ่ายไปร้อยกว่ารูปแบตหมดซะแล้ว
ในขณะที่การใช้งานคล้ายๆ กัน แต่ใช้ EVF เป็นหลัก ผมถ่าย E-M5 ได้ค่อนวัน เกือบ 3 ร้อยรูป
สาเหตุมาจากอะไร จริงหรือไม่ ผมไม่มีเวลาสำรวจให้ละเอียด ฝากไว้ให้คนอื่นทดสอบละกัน ผมได้ลองผลาญแบตแค่ 2 รอบเอง
และเป็นแบตฯ ที่ใช้เป็นประจำอยู่กับ E-M5 ไม่ใช่แบตฯ ที่มากับกล้องเสียด้วย
ผมว่ามันกินแบตเยอะกว่า E-M5 แน่นอน แต่ไม่รู้ว่ากินขนาดไหน เรื่องนี้ผมยกประโยชน์ให้ละกัน

P7220017


น่าซื้อมั้ย

พิจารณาเฉพาะตัวกล้อง มันเป็นกล้องที่ดีมาก แทบจะหาข้อเสียร้ายแรงไม่ได้เลย
ที่ผมพยายามยก พยายามหามา เป็นข้อบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ ของคนช่างจับผิดเท่านั้น
แต่ถ้าเอาราคาเข้ามาเป็นปัจจัยด้วย มันกลายเป็นกล้องที่น่าซื้อน้อยลงไปเยอะสำหรับนักถ่ายภาพ

อดไม่ได้ที่จะต้องเอาไปเทียบกับ OM-D E-M5 เพราะฟังก์ชั่น ฟีเจอร์ มันเหมือนกันแทบทุกกระเบียด แต่มันก็ไม่เชิงเป็นกล้องที่ใช้แทนกันได้เสียทีเดียว
อย่างเช่นวันแรกที่ถ่ายทดสอบ ฝนตกปรอยๆ ผมก็ต้องเก็บกล้องหลบเข้าร่ม ซึ่งถ้าถือ OM-D มา ผมก็อาจจะเดินถ่ายต่อไปได้เลย
ในทางการวางตำแหน่งการตลาดมันเป็นกล้องไลฟสไตล์ระดับหรู ซึ่งก็ไม่ได้โฟกัสไปที่นักถ่ายภาพเป็นหลักอยู่แล้ว ความคุ้มค่ามันไม่ได้อยู่ในเรื่องของการถ่ายภาพอย่างเดียว บางทีความคุ้มค่ามันก็อยู่ที่ได้ใช้กล้องหรูๆ สวยๆ แพงๆ ไม่เหมือนใคร
สำหรับคนที่อยากได้กล้องแนวไลฟสไตล์ มันก็อาจจะคุ้มในแง่นี้

ถ้าถามความคุ้มค่าในมุมมองของช่างภาพ ผมว่าซื้อ OM-D E-M5 คุ้มค่าเงินกว่ามาก
หากอยากได้จริงๆ ผมแนะนำให้ซื้อกล้อง gray market ครับ ราคาเท่ากันเป๊ะ แต่ได้เลนส์ 17 mm ราคาหมื่นห้า (ลดแล้ว) ในขณะที่โอลิมปัสประเทศไทยให้แค่เลนส์คิดมาก 14-42 ที่หลายคนมีในครอบครอง 2-3 ตัวแล้ว ถ้าอยากได้จริงๆ ขอเอาฟรีๆ หรือซื้อต่อมือสองสภาพใหม่กิ๊ก สามพันฝ่าๆ เอง
เรื่องราคาแพงเว่อร์ บวกด้วยเรื่องสูญศูนย์บริการที่แย่สุดๆ และบางร้านเอากล้องนอกมาขายราคาถูกกว่าเป็นหมื่น การบริการส่งซ่อมดีกว่าประกันศูนย์อีกตะหาก

ผมไม่เห็นว่าทำไมเราควรซื้อกล้องจากตัวแทนจำหน่ายโอลิมปัสประเทศไทย ในขณะที่ซื้อกล้องประกันร้านคุ้มกว่าด้วยประการทั้งปวง
หรือจะให้ดีกว่านี้ รออีกสัก 6 เดือน ให้มันลดราคาลงอีกสัก 5 พัน หรือหมื่นนึง ความน่าใช้จะดีกว่านี้อีกมาก



เพิ่มเติม

ความคิดเห็น หลังเปิดตัว E-P5 ในประเทศไทย
//pantip.com/topic/30499644

ไปลอง Olympus E-P5 อีกที คราวมีโฟโต้สตอรี่
//pantip.com/topic/30687072

พา E-P5 ไปเที่ยวมาครับ
//pantip.com/topic/30755010

P7220032



Create Date : 02 สิงหาคม 2556
Last Update : 2 สิงหาคม 2556 8:42:11 น.
Counter : 5002 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Mister-gray.BlogGang.com

อะธีลาส
Location :
Sydney  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 44 คน [?]

บทความทั้งหมด