ผาด พาสิกรณ์ - มือโล้ลม ![]() "มันอิงอยู่กับการท่องเที่ยว แต่เป็นการท่องเที่ยวแบบผม ที่ไม่ได้แนะนำให้ไปไหน เพื่อดูอะไร ทั้งนี้เพราะไม่ใช่นิสัยส่วนตัว" ____________________________________________ ส่วนหนึ่งของคำนำที่ผมเห็นจากโพสต์ของสำนักพิมพ์คเณศบุรี ทำให้ผมต้องตัดสินใจหันมาอ่านซ้ำอีกครั้ง "การท่องเที่ยวที่ไม่แนะนำให้ไปไหนนี่แหละ ต้องมีอะไรสักอย่างที่น่าสนใจกว่าการท่องเที่ยวแบบปกติทั่วไปแน่ๆ" "มือโล้ลม" ผมเพิ่งเคยได้ยินคำนี้เป็นครั้งแรก แต่ชื่อของนักเขียนนามคุณ "ผาด พาสิกรณ์" ผมได้ยินมาเป็นขวบปีแล้ว ก็ด้วยเหตุที่ผมติดตามข่าวสารงานเขียนของคุณปู่พนมเทียนท่าน จากทางเพจสำนักพิมพ์คเณศบุรีนี่แหละครับ สารภาพตามตรงว่าไม่เคยอ่านงานเขียนของคุณผาดมาก่อนเลย ผมจำได้ติดตาก็แต่หนังสือชื่อ "เสือเพลินกรง" เท่านั้น มาคราวนี้ก็สะดุดตรงที่ "การท่องเที่ยวที่ไม่แนะนำให้ไปไหน" ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นนั่นแหละครับ ผมพยายามชั่งใจและหาข้ออ้าง เพื่อที่จะอ่านงานเขียนของคุณผาดเล่มนี้เป็นเล่มแรก คิดในใจ "เอาล่ะ ในนี้ต้องมีเขียนถึงคุณปู่พนมเทียนท่านแน่ๆ" ตัดสินใจทันที... ไม่อยากให้สีชมพูซีดไปตามกาลเวลา เพราะยังไงเล่มนี้ต้องเก็บไว้นานแน่ๆ เอาสีครีมเล่มเดียวก็แล้วกัน __________________________ วันที่ได้รับหนังสือเล่มนี้ เป็นวันที่พระอาทิตย์ส่องแสง ไม่ปรากฏเค้าฝนดังที่เป็นมา ผมเดินไปๆ มาๆ หน้าตู้เย็น เพราะอากาศร้อน ถือหนังสือ "มือโล้ลม" พลิกไปมา เล่มกะทัดรัด ฟอนต์คุ้นตา ดูน่ารักไปเสียหมด พลิกกระดาษไปทีละหน้าสิ่งที่หมายตาก็ปรากฏขึ้น "เห็นข่าวฮาๆ ทีไร พ่อยังเป็นคนแรกที่คิดถึงเสมอ" ค่อยๆ พลิกส่วนคำนำผู้เขียน ผมก็ค่อยๆ เข้าใจชื่อหนังสือขึ้นมา (แล้วก็พลิกกลับไปดูลายเซ็นอีกรอบ) บทแรกที่ผมสุ่มพลิก คือหัวใจแห่งคืนวันศุกร์ จำได้ว่าเป็นวันที่ชอบที่สุดในประดาวันทั้งมวล โดยเฉพาะวันศุกร์ตอนเย็นหลังเลิกเรียน คงด้วยว่าเป็นเพราะห้วงความสุขที่คำนึงถึงล่วงหน้าในวันหยุดที่จะมาถึง แต่ที่ดีใจก็ด้วยในบทแรกมีเรื่องของผัดไทย จำไม่ได้แล้วว่าผมไปอ่านมาจากไหน รับรู้เหมือนว่าใครสักคนเคยเขียนบอก ว่าเห็นคุณปู่พนมเทียนท่านไปซื้อผัดไทยยามดึกประจำ ผมอ่านมาถึงบทเซลีนา ถึงค่อยๆ รับรู้ถึงความงามของงานเขียนของหนังสือเล่มนี้ ทำไมบรรยายได้ชัดเจน ทำให้ขบคิด และทำให้รู้สึกดีได้เช่นนี้ ขณะที่ผมอ่านอย่างช้าๆ พยายามไม่ให้ตกหล่น ความกังวลที่เคยมีในหัวได้หายไปในชั่วครู่ที่จดจ่อกับตัวอักษร พลิกกลับไปอ่านข้อความบนปกหลัง แล้วก็ดองไว้อ่านในยามที่ผมคิดว่าตัวเองควรอ่าน โดยคิดว่าจะดองด้วยระยะเวลาที่นานเท่าที่จะนานได้ เพราะการอ่านอักษรในแต่ละประโยคในครั้งแรก มีความสำคัญกับการขบคิดในครั้งที่สองของผมเสมอ และที่สำคัญไปมากกว่าความสำคัญที่กล่าวมา คือความรู้สึกแรก... ของการรับรู้ถึงความรู้สึกแห่งความรู้สึกของประโยคเหล่านั้น เหมือนดั่งที่ผมได้อ่านประโยคหนึ่งครั้งแรก และหลายๆ ครั้ง ในความรู้สึกที่ต่างกันหลายครั้ง ต่างกันหลายเวลา ทั้งที่เป็นประโยคเดิมๆ เดียวกันว่า... "จิ๊ปดอดจ์ขนาดใหญ่หลายคันเคลื่อนผ่าน..." __________________________________________ ผมอ่านบทเซลีนาจบ ทั้งประทับใจ ทั้งตลกในสองบรรทัดสุดท้ายของบท คงคิดว่าคงชอบบทนี้ที่สุดแล้ว พออ่านไป ผมกลับคิดผิด ผมชอบเกือบทุกบทขึ้นมาดื้อๆ หนังสือเล่มนี้กำลังจะปลุกผมให้อยากเขียนอะไรขึ้นมาอีก แล้วผมก็ไปขีดๆ เขียนๆ เรื่องของผมในวันวานในเวิร์ด อีกไม่เกินสามบทผมก็จะอ่านจบแล้ว ขอดองต่ออีกหน่อย เพื่อที่จะได้อ่านบทสุดท้ายในวาระที่ผมต้องจดจำไปอีกแสนนาน ส่วนสาส์นจากขุนโจร ผมคิดว่า... ควรอ่านพร้อมกับคำนำของการแวะคุยกับผู้เขียนเป็นเป็นอย่างแรกเป็นที่สุด บันทึกไว้ครั้งหนึ่ง ของความประทับใจในหนังสือ... "มือโล้ลม" ของคุณ ผาด พาสิกรณ์ ขอขอบคุณ สำนักพิมพ์คเณศบุรี : Ganeshbury Publishing ที่กรุณาขอลายเซ็นคุณผาดมาให้ด้วยความประทับใจยิ่งครับ ![]()
|
บทความทั้งหมด
|