อาทิตย์นี้ที่อ่างทอง 1) หลวงปู่ทวด..ณ พุทธอุทยานมหาราช บางปะหัน พระนครศรีอยุธยา 2) วัดขุนอินทประมูล 3) วัดท่าอิฐ 4) วัดต้นสน 5) วัดป่าโมกวรวิหาร โดยวันอาทิตย์ เราออกจากบ้านกันสายนิดนึง เพราะผมคิดว่ามันไม่ไกลมาก ก็ประมาณ 9โมงเช้า หลังรับประทานอาหารเช้าเสร็จ โดยใช้เส้นทางมอเตอร์เวยฒ ไปออกถนนพหลโยธินแล้วขับย้อนกลับมาหน่อยเพื่อเข้าสู่ถนนสายเอเซีย วิ่งยาวเลยทางเข้าตัวเมืองอยุธยา ขึ้นไปทางอ่างทองประมาณกิโลเมตรทีเท่าไหร่ผมเองก็จำไม่ได้ครับ รู้แต่ว่าเลยทางเลี้ยวที่จะเข้าไปป่าโมกไปอีก แต่รับรองว่าไม่หลงหรอกครับ เพราะว่าจะเห็นองค์หลวงปู่ทวดเป็นสีทองๆ เด่นเป็นสง่า อยู่ทางซ้ายมือก่อนจะถึงครับ และซักพักก็จะเห็นป้ายบอกทางว่าหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ พอถึงทางเข้าก็จะมีหลักกิโลเมตรอันใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย จะบอกว่าอุทยานมหาราชนี้ ยังสร้างไม่เสร็จทั้ง 100% น่าจะประมาณ 50-60% จะเห็นว่าจะมีสร้างเป็นตลาดย้อนยุคสมัยรัชกาลที่ 5 ด้วยแต่ก็ยังไม่เสร็จดี แต่ก็พอที่จะเดินดู แวะถ่ายรูปได้ครับ แต่คิดว่าอีกไม่นานเกินรอ น่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอย่างแน่นอน เราแวะกราบหลวงปู่ทวดแล้ว ก็เดินถ่ารูปกันซักพัก ก่อนที่จะเดินออกมานั่งดื่มกาแฟกันคนละแก้ว ก่อนเดินทางต่อไปยังสถานที่ต่อไป นั่นก็คือวัดขุนศรีฯ โดยตั่งใจจะขับเลยไปเข้าทางอ่างทอง แต่พอดีคุยเพลินไปหน่อยขับรถเลยทางเข้าจังหวัดอ่างทอง แต่ลูกสาวบอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวเลยขึ้นไปจะมีทางเข้าอื่นอีก แต่อาจจะอ้อมนิดหน่อยประมาณ 8กม. โดยดูจากแผนที่กูเกิ้ลในโทรศัพท์มือถือของเขา อะไรจะไฮเทคอะไรจะขนาดนั้น แต่ลูกสาวเขาก็พาผมกับแม่ไปจนถึงวัดได้ครับ เราใช้เวลาอยู่ที่วัดนี่ประมาณ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่ถ่ายรูปกับพระนอนองค์ใหญ่ เดินวนอยู่รอบๆ องค์พระแล้วก็เดินต่อไปที่โบสถ์ 100ล้าน ซึ่งมีอยู่ 2ชั้น ซึ่งจะมีทั้งบันไดเลือน และลิฟท์เอาไว้บริการอยู่ข้างใน ซึ่งที่ชั้น 2 จะเปิดเครืองปรับอากาศด้วย ทำให้อากาศเย็นสบาย วันที่ไปมีนักเรียนไปทัศนศึกษาจำนวนมาก เลยทำให้รู้สึกดีมากว่าเดี๋ยวนี้เด็กไทยก็ยังเข้าวัดกันอยู่ แต่ผมมาสะดุดตรงกระท่อม(หรือเปล่า...)อยู่ตรงทางเดินที่จะไปเข้าห้องน้ำ มีตู้กระจกและมีโครงกระดูกที่อยู่ในท่าถูกเอามือไพล่หลังเข่าคุก นอนคว่ำหน้าอยู่ บนตู้กระจกเหมือนมีหมวกของขุนนางสมัยโบราณวางอยู่ 1ใบ มีป้ายบอกว่าเป็นโครงกระดูกของ ขุนอินทประมูล ซึ่งตามประวัติเล่ากันว่า เป็นนายอากรผู้สร้างพระพุทธไสยาสน์ โดยยักยอกเอาเงินของหลวงมาสร้างเพื่อเป็นปูชนียสถาน ครั้นพระมหากษัตริย์ทรงทราบรับสั่งถามว่าเอาเงินที่ไหนมาสร้าง ขุนอินทประมูลไม่ยอมบอกความจริงเพราะกลัวส่วนกุศลจะตกไปถึงองค์พระมหากษัตริย์จึงถูกเฆี่ยนจนตาย วัดนี้จึงได้ชื่อว่า วัดขุนอินทประมูล จากนั้นเราก็ไปต่อที่วัดท่าอิฐ ประมาณ 3 กิโลเมตรจากวัดขุนอินทประมูล วัดท่าอิฐนี้จะมีเจดีย์สวยๆ อยู่ดูจากในอินเตอร์เน็ต เลยอยากมาให้เห็นกับตาตัวเอง เจดีย์มี 11ชั้น ดูจากภายนอกแล้วสวยจริงครับ แต่ทว่าภายใน ดูเหมือนว่าจะยังสร้างไม่เสร็จดีเลยครับ ความจริงการท่องเที่ยวอ่างทองน่าจะของบประมาณมาสร้างให้เสร็จ เอาแบบสวยๆ ทุกชั้นเหมือนอย่างที่อื่นๆ จะได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดเลย อาจจะทำเป็นพิพิธภัณท์เลยก็ได้ จากวัดท่าอิฐ เราก็มุงหน้าเข้าตัวจังหวัดอ่างทอง เพื่อไปยังวัดต่อไป และก็หาข้าวเที่ยงกินกันด้วยครับ เพราะว่าตอนนั้นมัก็เกือบจะบ่ายโมงแล้ว วัดต้นสนนี้เป็นวัดที่อยู่กลางเมืองอ่างทอง และตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งก็จะมีร้านอาหารอยู่ภายในวัด เป็นร้านอาหารธรรมดาๆ ขายอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยวราคาประหยัด หลังจากที่อิ่มแล้วก็ต้องเดินเพื่อย่อยอาหารครับ ก็เดินชมวัด และให้อาหารปลา จากนั้นก็ต้องมานมัสการหลวงพ่อโต องค์ใหญ่มากคล้ายๆ กับพระพุทธชินราช ที่อยู่ที่พิษณุโลกเลย หลังจากที่ได้นมัสการองค์หลวงพ่อโตแล้วเราก็ เดินทางกลับบ้าน โดยเวลาประมาณบ่าย 2โมงเกือบบ่าย 3โมง กลับถึงบ้านก็ประมาณ 4โมงเย็นนิดๆ อิ่มบุญ By : K.C.A.N thx u crab
โดย: Kavanich96 วันที่: 29 กันยายน 2557 เวลา:2:43:46 น.
|
บทความทั้งหมด
|