
ไปอ่านตอนที่แล้ว Go Japan 2 เยี่ยมหลาน ไปผับที่ Uguisudani หนุ่มวงดัง Yoshida brother พบ Tomoko
ที่นี่หลังจากตระเวนทัวร์ ชมนั่นชมนี่ ก็นั่งรถไฟมาถึงสถานี ชินจูกุจนได้ ถึงที่ชินจูกุก็ราว 3 ทุ่มจะครึ่งแล้วล่ะ แต่ว่าหาทางออกไม่เจอนี่สิ เราต้องไปออก B4
แต่เดินมาทาง west exit ตามที่พี่เป๋อบอกแล้ว ก็หา B4 ไม่เจอ ถามคนเดินผ่านไปมา ก็วิ่งหนีไปซะงั้น

เอาล่ะ ลองถามร้านค้าดีกว่า
หนุ่มร้านค้าก็แสนใจดี แทบจะปิดร้านมาส่งเลยทีเดียว วาดแผนที่ให้อีกตะหาก โห ขอบคุณมาก ๆ (ร้านเขาขายเบเกอรี่ที่สถานีรถไฟ หลังเดินมาตามทาง west exit จะขึ้นกระได ทางเดินไปเพื่อออก B4 ค่ะ)
ออกมา อิเซตันปิดแล้ว ต้องเดินขึ้นกระไดธรรมดาออกมาข้างนอก เลี้ยวผิดแยกอีก หลงไปไกลมาก (เกือบโลมั๊ง) แวะถามตำรวจ ต้องเดินกลับมาอิเซตันเหมือนเดิม

กว่าจะเดินถึงโรงแรมก็ 4 ทุ่มเกือบครึ่ง ดีนะที่ฝนหยุดแล้ว ไม่งั้นได้ขึ้น taxi แน่

เช้าวันนี้ เรามีนัดกันกับแม่พี่ชิฮารุตอนบ่ายโมงค่ะ ช่วงเช้าฉันเลยขอตัวไปเก็บตกซื้อของฝากที่ฮาราจูกุ น้าไฝตอนแรกก็ทำท่าจะไปด้วย แต่ฝนตกปรอย ๆ เลยขอนอนพักดีกว่า
เนื่องจากประสบการณ์หลงเมื่อคืน ทำให้คราวนี้เดินทางไปฮาราจูกุไม่ยากเลย 55 จริง ๆ จากชินจูกุ มาฮาราจูกุมันไม่ยากหรอก ขึ้นรถไฟมา 2-3 ป้ายเอง ถึงแม้ที่สถานีชินจูกุจะมีรถไฟหลายสาย เราก็มองป้าย JR เอา
ไม่นานก็มาถึงสถานีฮาราจูกุ หาทางออก Takeshita exit เพื่อไปยัง Takeshita street อ่ะถึงแล้ว...

ดูป้ายกันชัดๆ

ช้อปๆๆๆ ซื้อนั่นซื้อนี่ ร้านสีเหลืองทางซ้ายนั่นเราเดินอยู่นานมาก มันคือร้าน Mutsumoto Kiyoshi ขายของพวกเครื่องสำอาง มี 2 ชั้น มีขายทุกยี่ห้อเลย โปรโมชั่นเพียบ จัดของได้ล้นหลามน่าซื้อมาก

จริง ๆ จากปากซอยก่อนถึงร้านนี้คือ Daiso ก็เหมือนร้าน 60 บาทที่ไทย แต่เป็นสาขาญี่ปุ่น (จริง ๆ ญี่ปุ่นไปเปิดสาขาที่ไทย

) daiso ที่นี่ 100 เยนคือราว 30 บาทนิด ๆ เราก็ซื้อซะหมดแรงถือ อะไร ๆ ก็ 30 บาท ได้กล่องข้าวพร้อมถุงใส่แบบเก็บความร้อนอีกตะหาก แถมเครื่องใช้ เครื่องเขียนกระจุกกระจิกเต็มไปหมด
แต่ละร้านที่นี่ก็แต่ง display ได้สวยงามจริงค่ะ

เดินฮาราจูกุอยู่นาน หาซีดีนักร้องญี่ปุ่นให้เพื่อน หาเท่าไหร่ก็หาไม่ได้ เลยถอดใจ
เสร็จจากฮาราจูกุ ก็นั่งรถไฟไปโอคุโบะ นัดพี่เป๋อไว้หน้าร้าน ดองกิ โอ๊ย กว่าจะถึงดองกิ เอวิก็คีบตุ๊กตาได้มา 7-8 ตัว (แหม เรามันเซียนอยุ่แล้วโฮะๆ

) เท่านั้นไม่พอ แวะซื้อเครื่องเขียนเครื่องสำอางมาเพียบ มาเจอพี่เป๋อตามเวลาเป๊ะ เราก็ไปกินข้าวที่ร้าน "บ้านริมป่า" สาขาโอคุโบะกัน
กินกันราว 1 ชั่วโมงกว่า ๆ ก็ร่ำลากัน ฝนตกปรอย ๆ อีกแล้ว พ่อกับแม่ขอกลับไปนอนก่อน ที่เหลือก็ไปเดินเมืองชินจูกุทิ้งทวนเพราะจะกลับพรุ่งนี้แล้ว
เดินจากโอคุโบะไปก็ไม่ไกลค่ะ (ถ้าคิดว่ามันไม่ไกล

) ระหว่างทางเจอหนุ่มเล่นบาสเก๊ตบอลเหมือนในการ์ตูนเลยแฮะ

ไม่นานก็ถึงแดนสวรรค์ของฉันนั่นก็คือ คาบูกิโช มีตุ๊กตาให้คีบเยอะมาก อิอิ
จริง ๆ คาบูกิโช เป็นแหล่งบันเทิงกลางคืน เหมือนพัฒน์พงศ์บ้านเรา
แต่ฉันไปตอนกลางวัน (คราวที่แล้วมาตอนกลางคืนนั่งกินในผับอยู่เหมือนกัน)

คีบคราวนี้กลับได้แต่พวงกุญแจเล็กๆ
แล้วเราก็มุ่งหน้าไป
Tokyu hands กันต่อ
ที่ชินจูกุนี้มีถึง 8 ชั้น แต่คนต่อคิวจ่ายตังแต่ละชั้น แต่ละแผนกเยอะมาก จนไม่กล้าซื้อ
ป้าพนอจัน แห่งห้อง @japan แนะนำ tokyu hands ว่ามีของน่ารักน่ารักเยอะ เช่นที่หุงข้าวใส่เข้าไปหุงในไมโครเวฟด้วย ดูทู้ป้าพนอจัน
คลิกโอยเหนื่อย....
ไม่ได้อะไรเลยที่ tokyu hands
แต่ก่อนกลับก็เจอศิลปินริมทาง ให้แช่มชื่นหัวใจ อิอิ

เดินขาลาก แวะกินบะหมีหยอดเหรียญ แถว ๆ อิเซตันนั่นแหละ

ชามละประมาณ 700 เยน ตัวสูบอย่างฉันยังกินไม่ไหมดเลย อาหย่อย...
จากนั้นก็แวะไปร้าน Sanrio ที่ชินจูกุ ไม่กล้าซื้อ แพง!!! (ขนาดที่ญี่ปุ่นนะเนี่ย)
กลับมาสลบที่ห้องก็ราว 1 ทุ่มแหละค่ะ
พรุ่งนี้จะกลับแล้ว....โปรดติดตามตอนจบ
ที่นี่ ค่ะ