สองสาวเดี่ยวเที่ยว JaPan: กวางน่ารักที่ นารา เกียวโต วัดเงิน และหลงทางในสายลมหนาว หนุ่มเกาหลี ความเดิมตอนที่แล้ว สองสาวเดี่ยวเที่ยว JaPan: แสงสีกิออน กับศาลเจ้ายาซากะยามค่ำและฝนพรำกดอ่านจ้ะ ![]() -------------- สวัสดีเช้าวันอังคารที่ 16 มีนาคมค่ะ (ตอนนี้จะยาวและมีรูปเยอะหน่อยนะคะ) วันอังคารแล้วนะ เราจะกลับเมืองไทยวันอาทิตย์ เวลาผ่านไปเร็วจริง ๆ อยากเที่ยวต่อนะเนี่ย แม่นาง cveta ตื่น 9 โมงอีกแล้ว ![]() ที่เกสท์เฮ้าส์ Ks house Kyoto ที่ว่ามีบาร์ ตอนเช้าเขามีบุฟเฟต์อาหารเช้า ราคา 670 เยน อาหารมีไม่มากเหมือนพวกโรงแรมหรอกค่ะ แต่ถ้าเป็นคนกินมาก ออกจะได้เปรียบนะคะ ส่วนใหญ่ฝรั่งกินกันเยอะอยู่แล้ว จะมีแต่เรากับเพื่อนกินได้ปานกลางแหละค่ะ (เราตัวใหญ่กินได้น้อยอ่ะ เซ็ง ขอบ่นหน่อย ไปร้านข้าวในไทย ป้าแกชอบให้ข้าวเยอะ ๆ กินได้ครึ่งเดียว ขาดทุนซะไม่มี เพื่อนยังบอก เด็กกินมากกว่าแกอีก...ที่อ้วนนี่มันอ้วน ขนมว้อยยย) โฉมหน้าอาหารเช้าของฉัน วันนี้จะเริ่มใช้ บัตรรถเมล์ oneday pass นะคะ คือขึ้นรถเมล์ได้ทุกสาย (ยกเว้นสายพิเศษซึ่งไม่ค่อยมีหรอก) ราคาบัตร 500 เยน ใช้ได้ยันเที่ยงคืนรอบเกียวโต เจ้าหน้าที่เกสท์เฮ้าส์น่ารักมาก ให้แผนที่มาเสร็จอย่างละเอียด คุณเพื่อน เหมือนเดิม ทำอะไรไม่เป็น เดินตามอย่างเดียว (ดีแล้วล่ะ อย่าวุ่นวายเลย) ![]() วันนี้ช่วงเช้า (จริง ๆ คือสาย) เราจะไป นารา กันค่ะ (ตามคำขอของคุณเพื่อน) ประเดิมบัตร oneday pass โดยการขึ้นรถเมล์ไป สถานีรถไฟเกียวโตกันค่ะ (ทีตอนมาล่ะเดินมาได้) ขึ้นสาย 106 2 ป้าย เราก็ถึงสถานี ใช้สูตรเดิม งัด JR Pass ขึ้นมา เดินไปหานายสถานี พูดว่า "นารา" แล้วเดินไปตามคำบอก ไปขึ้นรถไฟสาย Nara line มาทันรถไฟไปนาราพอดี เวลาขณะนั้นน่าจะ 10 โมง ขึ้นไป หาที่นั่ง รถไฟให้อารมณ์แบบโบราณนิดนึง เราไปเมืองเก่ากันนี่เนอะ (แต่รถไฟไม่เก่าน๊า...เขาดูแลรักษาอย่างดี ฮีตเตอร์อุ่นสบาย อากาศถ่ายเทสะดวก) ไม่นานก็ถึงสถานีนี้ อ่านเผิน ๆ เหมือน ทิรามิซึ อิอิ อันนี้ถ้ามาจากเกียวโตน่าจะ 20 นาที ระหว่างทาง ชมทิวทัศน์ไปเรื่อย ๆ ค่ะ บ้านเรือนระหว่างทาง แล้วเราสองคนก็หลับกันซะงั้นแหละค่ะ ![]() ... .. .. หนึ่งชั่วโมงจากต้นทาง ที่นี่สถานี นารา มาเจอแผนผังรถไฟอีกแล้ว งง ![]() ![]() ตรงดิ่งไปที่ information ก่อนเลย เห็นมีฝรั่งต่อแถวอยู่ เขามีอธิบาย และวงตรงแผนที่ให้ว่าควรจะไปไหนบ้าง ![]() คุณป้าที่ information พูดภาษาอังกฤษเก่งมาก ประเมินเอาเองน่าจะอายุเกิน 60 แน่ ๆ ในเมื่อมีความสามารถ คนญี่ปุ่นเขาสนับสนุนนะคะ มีการจ้างงานผู้สูงอายุ เมื่อ 2 ปีที่แล้วไปอาตามิ เข้าร้านอาหาร มีคุณยายตัวเล้ก ๆ มาเช็ดโต๊ะอาหาร คอยเชิญลูกค้าไปที่โต๊ะ พี่เล่าให้ฟังว่างานแบบนี้ เขาส่งเสริมผู้สูงอายุ ที่ไม่มีภาระอะไรแล้ว ลูกเต้าโตหมดแล้ว มาทำงานแค่ 2-3 ชั่วโมงต่อวัน รับค่าจ้างเป็นรายชั่วโมง ให้รู้สึกมีคุณค่าในตัวเอง และเป็นรายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะคนญี่ปุ่นเขาแต่งงานก็แยกบ้านไปหมดนะคะ คุณป้าถามก่อนว่ามาจากประเทศไหนกัน แล้วติ๊กในใบเก็บสถิติของเขา คุณป้าบอกเก็บเป็นรายวัน แอบมอง วันนี้คนไทยมาก่อนหน้าเรา 3 คน คงเดินอยู่แถวนี้มั๊งคะ ![]() คุณป้าบอกว่า ถ้าเที่ยวสั้น ๆ ระยะทางประมาณ 7 กิโล แต่เราบอกเพื่อนว่า ยังไงมาเกียวโต ขอชั้นไปวัดซัก 2-3 วัดเถอะ ฉะนั้นเราต้องกลับถึงเกียวโตภายในบ่าย2 ไม่เกินนี้ เพื่อนเริ่มงอแง แต่พอถามว่าอยากไปไหนก็ไม่รู้อีก ![]() เอ้า ออกเดินทาง ![]() ดอกไม้ที่นารา เห็นดอกไม้ไม่ได้ ขอถ่ายหน่อยเหอะ ![]() นาราเป็นเมืองหลวงเก่า ยังรักษาบรรยากาศไว้ได้อย่างดีเยี่ยม เห็นร้านแบบนี้ชวนนึกไปถึงเรื่อง อิคคิวซังเลยค่ะ ![]() ![]() ร้านเกม คีบตุ๊กตาก็มีค่ะ ขอแวะนิดนะ ![]() ไปต่อ ![]() เดินตรงตามถนนตามที่คุณป้า information บอก ก็มีวัดทางซ้ายมือ ขอโทษจริง ๆ จำชื่อไม่ได้ Kofukuji Temple อะไรทำนองนี้มั๊งคะ อันนี้ป้ายอะไรอีกแล้ว ![]() ชมบรรยากาศค่ะ ขออภัย เจ้าของบล๊อกไม่มีความรู้พอจะบรรยาย ![]() มีต้องเดินขึ้นกระได ท่าจะเดินไม่ไหว หันไปเห็นทากน้อย ![]() น้องทากสู้ เราก็สู้เหมือนกัน ฮึบๆ ![]() อ๋อยยยยย ![]() ![]() คนชอบไหว้พระอย่างเราสมใจ แต่คุณเพื่อนหน้าเบ้ อย่า ๆ แก request มาเอง ![]() ตู้จุดเทียน (ปิดซะขนาดนี้ เทียนไม่ดับแน่นอน) ![]() ซื้อเทียนหน่อย 100 เยน ตรงก้นเขาทำรูไว้เสร็จเสียบได้ทันที บ้านเราลนแล้วลนอีก ล้มซะนี่ ![]() สาธุ ![]() สาธุอีกที ![]() ที่ Kofukuji Temple นี้ก็มีกวางนะคะ ![]() ทำไรอ่ะ ![]() สู้กล้องซะด้วย ![]() มานี่ๆ ![]() เดินหนีซะงั้น ![]() บริเวณโดยรอบ ![]() Five Story Pagoda ![]() Kofukuji Temple สร้างในสมัยปี 730 และบูรณะอีกครั้งปี 1426 The Eastern Golden Hall ![]() พอเห็นสาวสวยก็ไปกับเขาซะงั้น ไม่มองป้าเลย ![]() รอบ ๆ ![]() รถลาก ซึ่งโดยสัญชาตญาณ บอกว่าแพง ![]() ระหว่างทาง เจอพระห่มผ้า ![]() เดินไปสุดถนน ก่อนถึง Nara national museum (ซึ่งเราไม่เข้าไปเพราะมีเวลาจำกัด และไกลพอควรอยู่) ก็เจอเจ้านี่ ![]() ขนาดเสา ยังทำเป็นรูปกวางเลย ![]() มีป้ายระวังกวางอีก เห็นเสาแดง ๆ ไหมคะ นั่นคือ เป็นสวนด้านหน้าทางเข้า Nara national museum ![]() นี่คือโรงแรมนะเนี่ย ถ้ามีโอกาสก็อยากพักแบบนี้บ้าง แต่ดูท่าน่าจะแพง ![]() นี่คือสวนด้านหน้าทางเข้า Nara national museum ![]() ป้ายคำแนะนำในการชมกวาง ![]() แผนที่รอบเมือง ![]() เห็นสิ่งต่าง ๆ แล้ว ประทับใจ หลงเสน่ห์เมืองเก่าซะแล้ว ![]() มีขายอาหารเลี้ยงกวางด้วย สุดท้ายโดนรุมแน่ ![]() เป็นไงล่ะป้า ฮ๊อตขึ้นมาทันที ![]() อากาศแบบนี้ ธรรมชาติแบบนี้ ![]() ซากุระตูม ยังชมพูขนาดนี้ น่าจะอีกไม่กี่วันก็จะบานแล้วค่ะ ![]() สวยๆๆๆๆ ![]() นี่คือ สวนด้านหน้าทางเข้า Nara national museum ก็คือสุดทางที่เราสองคนเดินมาแล้วค่ะ เวลาบ่ายโมงแล้วต้องรีบกลับ ไม่งั้นไม่ได้ชมเมืองเกียวโต ![]() แง ต้องกลับแล้ว บ๊ายบาย นารา ![]() เดินกลับละนะ ![]() เดินกลับยังพบซากุระตูม ![]() ชมวิว ![]() อากาศวันนี้ไม่หนาวมาก น่าจะ 10 กว่าองศา ![]() ถ้าลมแรง คงหนาวแย่ ![]() เดินผ่านร้านนี้ในช่วงบ่ายโมงกว่า ง่าาาา ![]() อันนี้มันอะไรล่ะเนี่ย ปลาหมึก ? ![]() ชมเมืองก่อนกลับ ![]() อีกสักนิด ![]() ถึงสถานีรถไฟแล้ว บ๊าย บายนารา คราวหน้ามาอีกแน่ ๆ ![]() สุดท้าย อาหารกลางวันก็แค่นี้ กินบนรถไฟ ซิ้อจากร้านสะดวกซื้อ บอกคนขายเอาไส้อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ นัตโตะ (เข็ดแล้ว) ราคา 140 เยน ![]() ขึ้นรถไฟได้ก็หลับ รวดเดียวถึงเกียวโตเลย พอมาถึงเกียวโต บ่ายสองแล้ว เรามีเวลา 2-3 ชั่วโมงสำหรับก่อนที่วัดจะปิด ไม่ไปวัดเงินก็วัดทอง แต่คุณเพื่อนแง๊ว ๆ จะไปปราสาทนิโจ เราบอกว่าห้ามโอ้เอ้ เพราะมาเกียวโตไม่ได้ไปดูวัดดัง ๆ ที่เขาไปกันล่ะก็ อย่ามาดีกว่า คุณเพื่อนสัญญา ว่าจะไม่งอแง อ่ะ ไปปราสาทนิโจ ดูป้ายขึ้นรถเมล์เลย เขียนไว้อย่างชัด ![]() ในรถเมล์ ตอนนี้เรายังใช้ one day pass กันนะคะ ![]() ระหว่างทาง ![]() ถึงแล้วปราสาทนิโจที่ป้ายรถนี้ และเป็นเวลา 15.00 ![]() ด้านหน้าทางเข้า มีนักเรียนเยอะแยะ ![]() ค่าผ่านประตู 600 เยน ![]() เพื่อนเจอค่าผ่านประตู เปลี่ยนใจ ไม่เข้าซะงั้น ![]() ![]() ยังไงคราวหน้าต้องมาที่นี่ให้ได้ รูปนี้เป็นด้านนอกของปราสาทนิโจ ![]() คราวหน้าจะมานะจ๊ะ ![]() เสียเวลาเวิ่นเว้อ ที่ปราสาทนิโจ จนตอนนี้ 15.20 และ เราเปลี่ยนแผนอีก (ไม่ใช่เราหรอก กรูคนเดียวนี่แหละ เพราะคุณเพื่อนมันไม่มีแผนอะไร) ตกลงไม่ไปวัดทองแล้ว เพราะไกล ไปถึงอาจจะปิดพอดี ไปวัดเงินก็ได้วะ ดีกว่าไม่ได้ดูอะไร วัดทองปิดสี่โมงเย็น วัดเงินปิด 5 โมงเย็นนะคะ ชมวิวบนรถ ![]() มีบอกตลอด ป้ายหน้าอะไร ![]() ใกล้ถึงแล้ว ต้นไม่เป็นแบบนี้คือเดี๋ยวจะผลิดอกหรือเปล่า ![]() พอมาถึงทางขึ้นไปวัด Ginkakuji ก็จะเห็นคนเดินเยอะ ๆ เลยขึ้นเขาไป นั่นแหละค่ะ มาถูกทางแล้ว ระหว่างทางขึ้น เห็นร้านนี้น่ารักมากๆ (เห็นในหลายรูปหนังสือท่องเที่ยวเลยค่ะ) ![]() ยังไม่ทันถึงวัด ร้านรวงเร้าใจจริง ๆ ![]() ถนนหนทาง ![]() เกือบแระๆ ![]() ![]() เป็นประตูปากทางเข้าค่ะ ผ่านประตูเมื่อกี้เข้ามา จะมีป้ายคำแนะนำ ![]() ภาพจำลองบริเวณวัด ![]() บัตรเข้าชม 500 เยน คราวนี้บอกเพื่อนเลย ถ้าแกไม่เข้า นั่งรอ ชั้นจะเข้ามันเลยยอมเข้าด้วย ![]() ตามมา ๆ เห็นผู้หญิงในชุดกิโมโนก็อึ้งแล้วค่ะ ![]() เจอแค่ต้นไม้ ก็ทึ่งในความอลังการแล้ว ![]() เรางี้เห็นแต่ละอย่างถึงกับอ้าปากค้าง ใครเล่น the sims 2 ภาค vacation คงเลยเล่นตอนที่มีสวน zen เนอะ เราไม่เคยรู้จักสวน zen มาก่อน พอมาเจอที่นี่ สุดยอดดด ไม่เสียชาติเกิดที่ได้มาเห็น ![]() ![]() ขอบอกว่าต้องไปดูเองจริงๆ ไม่เสียดาย 500 เยนเลย ![]() ถ้าได้ไปญี่ปุ่นอีก จะต้องไปอีกแน่ ๆ ![]() คุ้มนะ 500 เยนเนี่ย ![]() คราวนี้เพื่อนเลิกบ่นไปเลย บอก สวย ๆ แหมทีแรกจะไม่ยอมเข้ามา ![]() อีกมุมนึง สวยแบบ zen ![]() ![]() ขายเทียน แท่งละ 300 เยน (ที่นารา 100 เดียว) ![]() งามทุกมุม ![]() เสร็จแล้วเราต้องเดินขึ้นเขาไปตามทางที่เขากำหนดค่ะ พอไปมองจากอีกมุมมองนึงก็สวยไปอีกแบบ ![]() อ่ะชมวิว (ถ่ายภาพไม่เก่งต้องขออภัยด้วยค่ะ) ![]() สวยแบบธรรมชาติ 555 ![]() มักจะมีใครถามว่าไปญี่ปุ่นแล้ว ไปทำไมอีก มันอาจจะเป็นเพราะความสวยอะไรแบบนี้ก็ได้ รูปนี้คล้าย ๆ เมืองไทย แต่อากาศคนละแบบเลย เย็นสบาย ![]() ชักจะบรรยายไม่ค่อยถูกแล้ว บ่อนี้มีคนโยนเหรียญลงไปเต็มเลย ![]() ศาลเล็ก ![]() เดินตามไม้ระแนงไปเลย เป็นทางเดินขึ้นไปบนเขา ![]() พอขึ้นมาบนเขา เห็นได้ไกลเชียว ดูสวย ดูเย็นสงบ ![]() มองลงไปข้างล่าง ![]() ตอนเดินขึ้นคิดในใจ สงสัยปีนี้แก่ เดินไม่ค่อยไหว แต่พอขึ้นมา คุ้ม จริง ๆ หลังคายังสวย ![]() ค่อย ๆ เดินลงมาจากเนิน ![]() ถ้าซากุระบานพรึ่บคงสวยกว่านี้แน่ ![]() เดินลงเขากันค่ะ (แค่เนินเขา ไม่ใช่เขาสูงหรอกค่ะ) ![]() มีน้ำไหล สายน้อยๆ ![]() เราจะออกจากวัดแล้วค่ะ ใกล้ 5 โมงแล้ว เจอสองสาวใส่ กิโมโนสวยเชียว ![]() เพื่อนบ่น อยากถ่ายด้วย เราเลยหน้ามึน ไปขอเขาถ่ายเลย เขาก็ใจดีให้ถ่าย ยิ้มแย้มดีเลย ![]() ด้านได้อายอด ![]() เอาล่ะ กลับกันเหอะ ทางเดิมเลย ![]() กินไอติมกันนะ 200 เยน รสชาเขียวกะวานิลลา ![]() ของฝากน่ารักๆ ก็มิใช่จะถูก ![]() เดินออกมาจากซอยทางเข้าวัดก็เจอคูน้ำ (ทำไมชอบถ่ายคูน้ำจังเนอะ) ![]() ซากุระตูม สวยไปอีกแบบ ![]() รถลากท่องเที่ยว ยิ้มหวานเชียว ![]() เดินตรงไปเรื่อย ๆ คือวัด Ginkakuji นะคะ แต่ตอนนี้เรากำลังจะกลับกันค่ะ (คือถ่ายย้อนขึ้นไป) เราเดินทางกลับโดยรถเมล์สาย 100 ![]() ชมเมืองเกียวโตยามเย็น ![]() ช่วงรอรถเมล์นี่เอง มีหนุ่มมาถามทางกับเพื่อน คุณเพื่อนก็ไม่รู้(คือจะรู้สักอย่างไหมเพื่อน) เขาเลยมาถามเรา ได้ความว่าจะไปกิออน ![]() คุยไปคุยมาเป็นหนุ่มอเมริกัน (หล่อมากกกกก ขอโบก หน้าตาออกแนวลาติน) คุณเพื่อนมาบอกทีหลังว่าไม่ชอบฝรั่งอีก ไม่ค่อยอยากคุย (เอ๊ะอีนี่) เลยชวนขึ้นรถเมล์ไปด้วยกันเพราะสายนี้ผ่านกิออน ![]() พอผ่านหน้าศาลเจ้า ยาซากะ เขาก็ลงไป เราสองคนนั่งรถต่อมาลงที่สถานี เกียวโตค่ะ (ผ่านหน้าเกสท์เฮ้าส์ แต่ดันเป็นป้ายที่เขาไม่จอด กรี๊ดดด เลยไปถึงสถานีจนได้) ![]() ที่สถานีมีห้างอิเซตัน ไปหาอาหารเย็นกินดีกว่า มีของหลายอย่าง โดยเฉพาะอันนี้น่าตื่นตาตื่นใจสุด ๆ (พรุ่งนี้ก็ได้กิ๊นนน) ![]() ซื้อของกินตามแต่อยากกันแล้วก็ออกมารอรถเมล์ป้ายเดิม วันนี้รถเมล์เป็นหลักเพราะซื้อ 1 day pass ![]() ถ้าจำไม่ผิดขึ้นสาย 206 แค่ 2 ป้ายถึงเกสท์เฮ้าส์ 2 ป้าย ก็แล้ว 3 ป้ายก้แล้ว ทำไมชื่อแต่ละป้ายมันไม่เหมือนในคู่มือเลยวะ เลยปรึกษากัน ดังไปหน่อย ประชาชีแถวนั้นก้เลยบอกว่า "ผิดป้ายแล้วเจ๊" ทีนี้สองสาวเดี่ยวก็ลงรถมาเสะ ที่นี่ที่ไหนวะ จะนั่งรถต่อก็กลัวหลงไปใหญ่ เดินไปเรื่อย ๆ ก่อน ![]() ดูตามแผนที่ นี่คือ Honganji Temples แม้ว่าซ้ายมือเราจะเป็นวัดที่ว่านี้ แต่เราอยู่มุมไหนของวัดล่ะ ถ่ายรูปมามืด ๆ ![]() ตอนนี้ทุ่มกว่า ๆ อากาศเริ่มหนาว ถามเพื่อน มันบอกมันไม่รู้ (ก็แหงล่ะ คนถือแผนที่ยังเป็นเราเลย มันบอกมันดูไม่เป็น เอวินำเหอะ) จริง ๆ จากวัด เดินมาอีกแยก ก็ถึงเกสท์เฮ้าส์แล้ว แต่เราเดินออกไปอีกทาง ทำให้ไกลกว่าเดิม ![]() ![]() ในภาพคือเท่าที่กล้องดิจิตอลของปี 2010 ราคาไม่แพง พอจะถ่ายได้ เราหลงกันอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง หนาวก็หนาว หิวก็หิว มือที่ถือถุงอาหารชาไปหมดแล้ว (จะปล่อยเหรอ ถุงอาหารน่ะ) แง..... หลงทางในสายลมหนาว ![]() ในที่สุดก็กลับที่พักได้สำเร็จโดยการถามทาง เจ้าบ้านผู้ใจดี 5-6 คน บอกทางให้ ขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ มาถึงห้อง ก็แกะของกินทันที ที่ห้องยังไม่มีใครกลับมาเลย ดู ๆ ทีมเก่าน่าจะออกไปหมดแล้ว เพราะดูเตียงเรียบ ๆ เลยค่ะ ![]() อะไรอยู่ในกล่่อง ![]() เรากินได้นิดเดียว คุณเพื่อนเห็นเหลือ take over ไปอีกแล้ว ไอ้เราก็กลัวรังเกียจ แต่ชีบอกไม่เป็นไร ว่าแล้วก็เก็บเรียบ ![]() สักพัก มีหนุ่มเกาหลี 2 คน เป็นสมาชิกใหม่ของห้อง พูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย แต่พยามคุยเหลือเกิน ฮาดี คุยกันแบบไม่รู้เรื่องนี่แหละ หนุ่ม ๆ ชวน มา ๆ กิน(โชจู?) กันดีกว่า (ของฟรีมีหรือจะพลาด) ![]() ขนมจากร้าน 100 เยน อภินันทนาการโดยหนุ่มเกาหลี ![]() ระหว่างนี้มีสาวเกาหลี ที่นอนเตียงตรงข้ามกะเราอีกคนนึงเข้ามา กลายเป็นว่ามันส์กันใหญ่ หนุ่ม ๆ พูดอังกฤษไม่ได้ สาวเกาหลี พูดญี่ปุ่นได้ เพื่อนเราพูดญี่ปุ่นได้ ดังนั้นถ้าเราจะคุยกับหนุ่มเกาหลี........ เรา------------>.....(อังกฤษ)....---->เพื่อน เพื่อน--------->.....(ญี่ปุ่น)....------->สาวเกาหลี สาวเกาหลี---->.....(เกาหลี)....----->หนุ่มเกาหลี เฮ้อ ![]() ตามธรรมเนียมเกาหลี ต้องให้ผู้อาวุโสกินก่อน นับกันดู หนุ่มเกาหลี 2 คน อายุ 25 สาวเกาหลีกับเพื่อนเราชาวอังกฤษ อายุ 28 เรานั้น...... กรี๊ดดดด แก่สุดดด ![]() เอาล่ะน๊าาา กินก่อนเลย ![]() เชียร์สสส เอ้าถ่ายรูป ก่อนนอนคุณเพื่อนเอารูป sticker ที่ถ่ายด้วยกันมาดู ไม่เห่อแล้วย่ะ เมืองไทยมีมาแล้ว 10 กว่าปีก่อน อิอิ ได้เวลานอนซักที วันต่อไป ไป Hamamatsu ค่ะ กินสตรอเบอรี่กันนะ ![]() นู๋เอวิ ไปญี่ปุ่นเมื่อไรอย่าลืมลองชวนป้านะ ยิ่งอ่านยิ่งมันส์สสสสสส รับรองป้าไม่โอ้เอ้ ตื่นเช้าก็ได้ สายก็ได้ ตามแต่โอกาสอำนวย
โดย: ป้าน้อย IP: 110.168.202.192 วันที่: 26 กรกฎาคม 2555 เวลา:21:16:47 น.
เอวิไปอยู่บ่อย ๆ นะคะ ได้ข่าวเมื่อไหร่วิ่งมาบอกได้เลยจ้า
โดย: honeynut
![]() |
บทความทั้งหมด
|