ตอนที่ 16 องก์ 2 สวัสดีรับราชินีหิมะฮะ เธอกลับมาตกทั้งวันอีกแล้ว เซ็งจิต..... เคยสับสนกับทางออกสถานีรถไฟใต้ดินไหมฮะ เกย่าล่ะให้เป็นงงกับเหตุการณ์นี้ประจำเลยนะ คราวนี้ก็ไม่ต่างจากหลาย ๆ deja-vu ที่เกิดขึ้น (คือหลงประจำ จนสมองมันตอกย้ำว่า เป็น deja-vu อิอิ) เกย่าพอนำชายไทยทั้งสามก้าวออกมาจากประตูรถไฟแล้ว ก็เกิดความไม่แน่ใจว่า ทางออกที่จะพาเราไปร้านไส้กรอกแสนอร่อยนั้น ซ้ายหรือขวากันแน่ และก็เป็นเช่นดังทุกครั้ง นังหัวลูกข่างอย่างเกย่า ก็พากระทาชายทั้งสาม เดินไปออกผิดทางอะ (อายมั่กมาก) ยังดีที่ ตรงทางออก (ซึ่งผิด) นั้น เป็นที่ตั้งของอาคารที่ว่าการเขต เกย่าเลยเฉไฉไปว่า มาถ่ายรูปกันไหมฮะ สามเกลอชาวไทยไม่ได้เฉลียวใจ ต่างก็งัดอาวุธประจำตัว (กล้อง) ออกมากดชัตเตอร์กันวูบวาบ เดินย้อนกลับไปยังร้านไส้กรอกแบบเพิ่มระยะทางโดยใช่เหตุ (แต่หนุ่ม ๆ ไม่รู้) พอถึงหน้าร้าน ซึ่งมีลูกค้าต่อคิวยาวออกันอยู่เต็มทางเท้า สามหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองป้าย ซึ่งมีรายการเมนูยาวเหยียด ก่อนที่จะชะโงกหน้าเข้าไปดูตรงจุดจำหน่าย ซึ่งคนขายวุ่นวายอยู่กับการรับคำสั่งอาหารจากลูกค้า ภายในตู้กระจกใสซึ่งกั้นระหว่างผู้ขาย กับคนมากินนั้น มีไส้กรอกนานาชนิด และอาหารพื้นถิ่นแบร์ลินอยู่หลายหลาก กลิ่นน้ำมันเดือด ๆ น่ากินของไส้กรอกทอดคละเคล้ากับกลิ่นฉุนชวนหิวของผงกะ-หรี่หอมฟุ้งขจรขจาย สามหนุ่มแอบกลืนน้ำลายไปตาม ๆ กัน สายตาก็หันมามองเกย่าอย่างพร้อมเพรียง เป็นเชิงถามว่า จะสั่งอะไร ยังไงล่ะ ตามธรรมเนียมแล้ว เราจะต้องสั่ง ไส้กรอกมีหนัง 1 อัน และไส้กรอกไร้หนัง 1 อัน เอ่อ ลักษณะนามของไส้กรอกนี่ คนไทย เรียกเป็นอัน หรือ แท่ง หรือดุ้นฮะ เกย่าจำไม่ได้แล้ว ไส้กรอกมีหนัง ก็คือไส้กรอกที่บรรจุอยู่ในไส้หมูแท้ ส่วนชนิดไร้หนังนั้นคือ ไส้กรอกที่ไม่มีไส้หมูห่อหุ้ม รูปลักษณ์คล้าย ๆ หมูยอ นอกจากจะสั่งไส้กรอก 2 แบบแล้ว ก็ต้องสั่งมันฝรั่งทอดด้วย ส่วนซอสที่จะราด ก็เลือกได้ว่าจะเอาซอสมะเขือเทศ มายองเนส หรือทั้งสองอย่างเหยาะมาเคียงกัน หรือถ้าจะให้ทันสมัยที่สุด ก็เลือกซอสขาวแดง ซึ่งมายองเนส และซอสมะเขือเทศ พันกันเป็นเกลียว บีบออกมาจากหลอดรูปร่างคล้ายยาสีฟัน นอกจากนี้คนที่นี่ยังนิยมสั่งหอมใหญ่สับนึ่งมาทานพร้อม ๆ กันไปด้วย แต่เกย่าไม่เคยลองเพราะกลิ่นของมันทำให้นั่งยิ้มไม่ออกเวลาอยู่ต่อหน้ากิ๊กขณะกระบิดกระบวนจีบกัน และแน่นอนเครื่องดื่มแกล้มอาหารเยอรมัน ก็ต้องเบียร์เยอรมันเท่านั้นฮ่ะ หลังจากคนทั้งสามฟังคำอธิบายจากเกย่า ต่างก็เจรจาพาทีกัน จากนั้นก็ขอให้เกย่าสั่งอาหารดังนี้ คุณติ่ง ไส้กรอกมีหนัง 1 อัน ไส้กรอกไร้หนัง 1 อัน มันฝรั่งทอด และซอสมะเขือเทศ คุณปุ่น ไส้กรอกไร้หนัง 2 อัน หมูสับหมักเครื่องเทศทอด และมายองเนส คุณด้น ไส้กรอกมีหนัง 2 อัน และซอสขาวแดง ฟังเมนูที่ท่านชายสั่งกันแล้ว เกย่าก็แปลกใจนิดหน่อย ที่แต่ละคนเลือกซอสไม่เหมือนกันเลย เกย่าก็ไปยืนต่อคิว ซึ่งมีอยู่ 2 แถว คนขายเป็นสองศรีพี่น้องหญิงสาวอายุคราวป้าแล้วล่ะ ทั้งสองคนเป็นเจ้าของร้านด้วย เกย่าเห็นพวกเธอในรายการทีวีบ่อย ๆ คนขาย.... บิทเท่ ชุ้น ( ในที่นี้ หมายถึง กรุณาสั่ง) เกย่า... เริ่มที่เมนูคุณติ่งก่อน อายน์มาล เคอรี่ ว้วสท์ มิท ดาร์ม อุนด์ อายน์มาล เคอรี่ ว้วสท์ โอ๊เน่ ดาร์ม, พอมเม้ส อุนด์ เค้ทชั่พ (ไส้กรอกมีหนัง 1, ไร้หนัง 1 มันฝรั่งทอด และซอสมะเขือเทศ) คนขาย....คีบไส้กรอกมาทอดตรงหน้า (ลักษณะแผ่นโลหะร้อนที่ใช้ทอด โปรดนึกภาพอาบังขายโรตีประกอบ) ระหว่างที่คนขายหั่นไส้กรอกฉับ ๆ ด้วยลีลาอันช่ำชอง เกย่าก็สั่งเมนูต่อไป อุนด์ ซวายมาล เคอรี่ว้วสท์ โอ๊เน่ ดาร์ม, อายเน่ะ บุลแล้ทเท่ะ มิท มายองเน้สเซ่ะ (รายการของคุณปุ่นเค้าฮ่ะ) และรายการของคุณด้นตามไปติด ๆ ซวายมาล เคอรี่ว้วสท์ มิทดาร์ม อุนด์ โฮร้ท-ไว้ซ์ โซสเซ่ะ คุณด้นนั้นมายืนอยู่ข้างหลังเกย่าทีเดียว ขณะที่มองคนขายตบท้ายกระป๋องผงกะหรี่ ป๊าบ ๆ อยู่เหนือจานกระดาษรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ไส้กรอกร้อน ๆ ควันฉุย นอนเคียงคู่อยู่ในนั้น เกย่าเค้ามีพริกเผ็ด ๆ ไหม ....คุณด้นถาม มีสิฮะ จะให้เค้าโรยหน้าใช่ไหม ... เกย่าถามกลับ ครับ ผมชอบอะไรเผ็ด ๆ .... คุณด้นบอก ฟังคำตอบจากคุณด้นแล้ว เกย่าก็หันไปบอกหญิงคนขายว่า ให้โรยผงพริกแห้งป่น ลงไปในจานคุณด้นด้วย แต่คนขายเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่า จานไหน เกย่าจึงกรีดนิ้วข้ามตู้กระจกไปชี้ เพียะ ! ไวยิ่งกว่าสายฟ้าฟาด ขนาดเต่าที่งับนิ้วอยู่ ยังอ้าปากคายไม่ทัน เจ๊คนขายตีมือเกย่าเข้าให้ ฟิ้งเก้อร์ เวก !! เสียงดังจนเกือบจะเป็นตวาดดังออกมาจากปากหล่อน คือเกย่าลืมตัวไปไงฮะ ปกติ เขตแบ่งระหว่างคนขายอาหารและคนซื้อ ตามกฏอนามัยของเยอรมันนั้นชัดเจน และเคร่งครัดมาก ด้วยเหตุผลเน้นเรื่องความสะอาดเป็นสำคัญ เกย่าไม่สามารถยื่นนิ้วข้ามตู้กระจกไปชี้อย่างนั้นได้ รู้ตัวว่าผิดเต็มประตู จึงได้แต่หน้าจ๋อยและกล่าวคำขอโทษขอโพยไป จากนั้น ก็หันไปถามสามหนุ่มว่า จะดื่มอะไร เกย่าแนะนำให้สั่งเบียร์เบ๊คส์ รสมะนาวจากเบรเมน เพราะกำลังป๊อบ แต่ตัวเกย่าเองไม่เคยดื่ม เพราะไวต่อแอลกอฮอล์ทุกชนิด ดื่มเข้าไปแค่ครึ่งแก้วก็คออ่อนคอพับหลับเป็นตาย ทั้งสามชายเห็นดีด้วย ก็สั่งเบียร์ในขวดสีเขียวมะนาวใสแสนสวยมา 3 ขวด หลังจากสั่งทุกอย่างครบ คุณติ่งก็ยื่นธนบัตร 20 ยูโร (ใบละสิบ 2 ใบ) ให้เกย่าเพื่อชำระค่าของกินราคาราว 13 ยูโร กับเศษอีกไม่กี่สิบเซ็นต์ เกย่าถามว่าทั้งสามจะยืนรับประทานด้านนอกร้าน หรือข้างใน ซึ่งจะเป็นตรงไหน ก็ต้องยืนกินนะฮะ คนทั้งสามตกลงใจว่าจะกินกันข้างใน ซึ่งเป็นบริเวณที่ทางร้านจัดพื้นที่ด้านข้าง กว้างราวเมตรครึ่ง ยาวราวสี่เมตร เอาไว้ตั้งโต๊ะสามสี่ตัว สำหรับลูกค้า ส่วนบริเวณหน้าร้านนั้น ได้จัดโต๊ะแบบเดียวกันแต่หลายตัวกว่า เกย่ารับจานกระดาษใส่ไส้กรอกมาจากคนขาย แล้วทยอยส่งต่อไปให้สามชายไทย เบียร์นั้น เราต้องไปรับจากมุมตู้เครื่องดื่ม เกย่าเดินตามไปสมทบคณะสามหนุ่มหลังจาก ได้เงินทอน จากคนขายและเอาไปยื่นคืนให้คุณติ่ง คุณติ่ง .อ้าว แล้วเกย่าไม่สั่งอะไรทานเหรอครับ เกย่า . เกย่ากินไส้กรอกบ่อยแล้วฮะ วันนี้เลยไม่นึกอยากกิน เกย่ายืนอยู่ข้าง ๆ อย่างเงียบๆ สังเกตการกินของสามหนุ่ม พวกเขาเอาจานกระดาษทั้งสามมาตั้งตรงกลาง แล้วยืนล้อมวงกัน คนนี้ใช้ส้อมเสียบไส้กรอกจากจานคนนั้น แล้วเอาไปจิ้มซอสจากจานคนโน้น สลับกันไป พลางหัวเราะร่าอย่างสนุกสนาน เกย่าก็อยากจะขำไปด้วย ถ้าไม่เผอิญตาไวเหลือบไปเห็น สายตาดูแคลน จากเจ้าของร้านไส้กรอก ที่หันมาชำเลืองเป็นระยะ คุณด้น เวียนกันกินอย่างนี้แหละดี เราจะได้ลองทุกอย่าง สั่งอะไรต้องอย่าให้ซ้ำกัน .น้าติ่ง ไส้กรอกมีหนังนี่เด้งดีว่ะ ประโยคหลังนี่คุณด้นหันไปพูดกับคุณติ่ง คุณปุ่น ใช่ ๆ ผิวมันกรอบ ยืดหยุ่นดีนะ บอกไม่ถูก ไส้กรอกเมืองไทยมันจะแฟบ ๆ พอกัดก็ยุบยวบลงไป คุณด้น เด้งได้เหมือนนมสาวรึเปล่า น้าปุ่น . พูดจบคุณด้นก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก ชอบใจ เบียร์รสมะนาวนี่อร่อยดีนะครับ .ประโยคหลังนี้ คุณติ่งหันมาพูดกับเกย่า เกย่าปล่อยให้ทั้งสาม สำราญใจกับการกินอาหาร โดยสายตาตัวเองหันออกไปด้านนอกร้าน แถว Mehringdamm เขต Kreuzberg นี่มีคนตุรกีอาศัยอยู่ค่อนข้างเยอะ สายตาสอดส่ายของเกย่า ก็หวังว่าจะเจอะเจอหนุ่มหล่อ ๆ อย่างนายมูรัตเดินผ่านไปมา เป็นอาหารตาบ้าง อย่าลืมขอใบเสร็จให้ด้วยนะ .เสียงคุณด้น เอ่ยขึ้นทำลายสมาธิของเกย่า เกย่า ใบเสร็จอะไรเหรอฮะ คุณด้น ก็ใบเสร็จค่าไส้กรอก กะเบียร์นี่ไง จะเอากลับไปเบิกบริษัท เอ่อ .นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตนะฮะ เกย่าพาใครต่อใครหลายคนมาทานไส้กรอกร้านนี้ ไม่เคยมีครั้งไหน ที่มีคนบอกให้ขอบิลมาก่อน โดยไม่สนใจสีหน้างุนงงของเกย่า คุณด้นก็พูดต่อไป เอาใบเสร็จแบบสมบูรณ์ อย่างบิลเงินสดนะ ให้เค้าเขียนมาด้วย ว่าอะไร ราคาเท่าไร จำแนกมาเป็นอย่าง ๆ เกย่าเข้าใจใช่ปะ เกย่าไม่รู้นะฮะ ว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร แต่สำหรับเกย่า มันเป็นสิ่งที่น่าอายมาก ๆ เลย อย่างไรก็ตาม เกย่าก็ตากหน้าเดินกลับไปที่คนขายซึ่งง่วนอยู่กับลูกค้าแน่นขนัด ตะโกนแทรกไปว่า ขอโทษฮะ ขอบิลเงินสดด้วย คนขายหันมามองเกย่าด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ตะโกนกลับมาด้วยภาษาเยอรมันว่า Moment mal ! เกย่าฝืนใจถามต่อไปว่า จำได้หรือเปล่า ว่าโต๊ะเราสั่งอะไรไปบ้าง คนขายก็ตะโกนกลับมาดังกว่าเก่า คราวนี้เป็นภาษาอังกฤษว่า SURE !!! เกย่าถอยหลังกลับไปที่โต๊ะ คุณด้นถามขึ้นทันทีว่า เค้าจะให้ใบเสร็จหรือเปล่า รอสักครู่ฮะ คนขายยุ่งอยู่ .เกย่าตอบเสียงเรียบ ราว 5 นาทีผ่านไป คนขายก็ตะโกนบอกให้เกย่าไปรับบิลเงินสด ซึ่งเขียนรายการอาหารที่สั่งไปอย่างละเอียด คนขายถามว่าจะต้องประทับตราร้านไหม เกย่ารู้สึกว่า หน้าตัวเองแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ บอกคนขายว่าขอบคุณมาก ก่อนจะนำกระดาษใบนั้นไปยื่นให้คุณด้น ซึ่งรับไปดู แล้วยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะพับเก็บใส่กระเป๋าสตางค์อย่างบรรจง เกย่าไม่ได้หลุดปากถามไปว่า จะต้องให้ทางร้านประทับตรา ด้วยไหม เพราะกลัวว่าคุณด้นจะตอบว่า ดีสิ เอาไปให้เขาทำเลยนะ หลังจากสามหนุ่มทานกันเสร็จแล้ว เกย่าก็บอกให้พวกเขาเอาจานกระดาษไปทิ้งลงถังให้เรียบร้อย แล้วก็เดินออกมาที่หน้าร้าน เตรียมจะกลับไปสถานีรถไฟใต้ดิน เดี๋ยว...เกย่า ร้านนี้อร่อยที่สุดในแบร์ลินใช่ไหม ถ่ายรูปพวกเราสามคนให้หน่อย คุณด้น ซึ่งนับจากบรรทัดนี้ไปเกย่าจะขอเรียกใหม่ว่า นายด้น พูดขึ้น นอกจากจะเป็นไกด์จำเป็นแล้ว เกย่าต้องเป็นตากล้องให้อีกเหรอเนี่ย โอเค ถ่ายก็ถ่าย นายด้นนั้นยืนอัดวีดีโอไปด้วย พูดใส่ลงไปว่า ร้าน Curry 36 ไส้กรอกอร่อยที่สุดในแบร์ลิน ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า มาทำอับอายไว้แค่ไหน กับการขอบิลเงินสด ระหว่างที่เดินกลับไปสถานีรถไฟ ขนอุยของนกพิราบบางเบา ก็ปลิวลงมาจากด้านบน นายด้นอุทานว่า ดูสิ ๆ หิมะตกแน่ะ คุณปุ่นซึ่งอีกไม่นาน เกย่าก็จะเรียกว่านายปุ่น รีบปรี่เข้ามาดู แต่คุณติ่งนั้นเคยเห็นหิมะมาบ้างแล้วจึงไม่ตื่นเต้นอะไร เกย่าไม่อยากทำลายความหวังและความฝันจะเห็นหิมะครั้งแรกของสองชายไทย จึงไม่ได้ว่าอะไร แค่เดินนำไปสถานีรถไฟล่วงหน้า โดยมีคุณติ่งซึ่งต่อไปจากนี้ เกย่าจะเรียกว่าพี่ติ่ง เดินตามมาติด ๆ "น้องเกย่าครับ" เสียงพี่ติ่งเรียกเกย่า เป็นครั้งแรกนับจากเวลาที่อยู่กันมาสองชั่วโมงครึ่ง ที่พี่ติ่งเปลี่ยนสรรพนามเรียกเกย่า จากคุณมาเป็นน้อง "ครับผม มีอะไรฮะ" ดูเกย่าตอบเข้าสิ แมนซะ "เราจะไปที่ไหนกันต่อครับ" พี่ติ่งถาม "แล้วแต่พี่นะฮะ ถ้าชอบวัฒนธรรม วัตถุโบราณ เกย่าก็ว่าจะพาไปพิพิธภัณฑ์ แต่ถ้าชอบเรื่องสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ เกย่าก็จะพาไปโซนี่เซ็นเตอร์ที่ Potsdamer Platz แหล่งโปรโมทภาพยนตร์ฮอลลีวูดในแบร์ลิน ที่ดารานำจากภาพยนตร์กี่เรื่อง ๆ ก็จะมาปรากฏตัวที่นี่ ก่อนฉายรอบปฐมทัศน์ หมู่อาคารทันสมัยภายใต้โค้งสีขาวของเต็นท์ขนาดมหึมานั้น เป็นแหล่งรวมความบันเทิงทางภาพยนตร์ของคนแบร์ลิน แต่ถ้าพี่อยากจะดูชีวิตไทย ๆ ในแบร์ลิน เกย่าก็จะพาไปที่ไทยพาร์ค ซึ่งเป็นสวนสาธารณะ ที่ทางการแบร์ลินอนุโลมให้แม่ค้าชาวไทยไปปูเสื่อแบกะดินจำหน่ายอาหารบนพื้นหญ้า เลียนแบบหน้าสถานีรถไฟหัวลำโพง แม่ค้ามีมากหน้าหลายตามาก และร่มคันใหญ่สีสันหลากสีที่แม่ค้าเตรียมกันมากันแดดกันฝน ตัดกับพื้นหญ้าสีเขียวนั้น ให้บรรยากาศไทย ๆ ยิ่งนัก " ว้า ไม่ใช่หิมะอะ ขนอะไรก็ไม่รู้ " เสียงบ่นด้วยความผิดหวังของนายด้นดังมาจากด้านหลัง เกย่าลืมบอกไปว่า ทั้งสามคนแบกกระเป๋าเดินทางกันมาเต็มยศนะฮะ เพราะตามแผนเดิมเหล่าคุณชายทั้งสามกะกันว่าจะนั่งรถไฟไปหาพี่จีน่า ซึ่งเป็นพี่สาวของพี่เจด้า ซึ่งเป็นพี่สาวของพี่จานี่ นั่นล่ะ แต่มาเปลี่ยนใจเพราะสู้ราคาค่ารถไฟไม่ไหว (ก็เบิกบริษัทไม่ได้นิ การออกนอกสถานที่ไม่ได้อยู่ในแผนดูงาน) แต่เกย่าคิดว่าสาเหตุที่พวกเค้าไม่ไปกันนั้น เป็นเพราะกลัวจะหลงตอนเปลี่ยนรถไฟ 6 ขบวนมากกว่า เพราะพี่ติ่งเล่าว่า ได้คืนห้องที่โรงแรมไปสองห้อง กะจะเอาค่าห้องโรงแรมมาจ่ายค่ารถไฟ อย่างไรก็ตาม ค่ารถไฟที่แพงก็อาจจะมีส่วนอยู่บ้าง เพราะค่าโรงแรมที่คืนไปสองห้องดังกล่าว รวมกันยังไม่ถึงครึ่งของค่ารถไฟเลย ส่วนคนที่คิดว่าทำไมพวกเค้าคืนโรงแรมไปแค่สองห้อง แทนที่จะเป็นสาม ก็เพราะห้องที่เหลืออยู่ เค้าเอาไว้เก็บของที่ไม่ได้เอาติดกระเป๋ามาน่ะสิ เห็นชายสามคนลากกระเป๋าถูลู่ถูกังแล้วก็นึกสงสารขึ้นมาตะหงิด ๆ แต่พอคิดไปถึงว่า เกย่าต้องจ่ายค่ารถไฟใต้ดินเอง ทั้ง ๆ ที่นายด้นบอกว่าจะรับผิดชอบทุกอย่าง ความสงสารในใจเกย่า ก็ถูกหารครึ่งไป............... ไปอ่านต่อ องก์ 3 กันฮ่ะ โหทำอย่างนี้ได้ไง พ่อ 3 องค์นะ บอกจะออกให้แล้วทำเฉย แต่ไม่เป็นไรสงสัย เพราะค่ารถไฟใต้ดินเบิกไม่ได้ เค้าเลย ไม่ยอมออกให้ไง ยังไงก็ทำใจ แต่ สู้ต่อไป นะ เกย่า
โดย: Jiguli IP: 84.230.128.124 วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:0:08:42 น.
หยี รายเนี่ย ชักจะเริ่มมีกลิ่นตงิด ๆ เนอะ
โดย: ญ พี่ (naughty sugar ) วันที่: 2 กันยายน 2549 เวลา:11:01:08 น.
มันมากเลยคะ เป็นแฟนคุณเกยามานานแล้วคะ อยากระบายบ้างน่ะค่ะ เพราะเพื่อนมันทำแสบคะ เราช่วยมันทุกแม้แต่หาสากกระบือยัดรูมันมันยังบอกว่าเราไม่ได้ทำเพื่อมัน ตอนนี้อยู่สุขสบายแล้วลืมเราไม่ว่า แต่มาขี้เหนียวกับเรานี่สิ ไม่มีนำ้ใจเลยตอนนี้ก็เลยเลิกคบมันแล้ว ไม่ใช่หวังจะได้อะไรจากเพือนหรอกคะขอแค่นำ้ใจเล็กๆน้อยๆก็ชื่นใจแล้วคะ
โดย: คนไกลบ้าน IP: 165.21.154.8 วันที่: 3 กันยายน 2549 เวลา:21:25:33 น.
อับอายขายขี้หน้าจริง สามชาย น่าจะให้ไปขอบิลเอง หรือไม่ก็ให้ไปกินเคบับ แล้วให้ไปขอกะพี่เติร์ก
โดย: Salami IP: 87.160.242.229 วันที่: 17 ธันวาคม 2549 เวลา:4:53:14 น.
|
บทความทั้งหมด
|