ตอนที่ 9 "จดหมายถึงนายมูรัต" ตอนที่ 9 "จดหมายถึงนายมูรัต" วาเลนไทน์ผ่านมาอีกปีแล้วนะมูรัต ถึงแม้คุณจะอ่านภาษาไทยไม่ออก แต่หากคุณรู้ ว่าตอนนี้มิตรรัก นักอ่านในห้องไกลบ้าน ต่างก็รู้จักคุณกันหมดเลย เกย่าคิดว่า คุณคงจะเขินน่าดูนะ เกย่านึกภาพออกเลยล่ะ ว่าคุณจะทำหน้าอย่างไร ดวงตาสีน้ำตาลอมเขียว อันหวานซึ้งของคุณนั้น จะเต้นระยิบระยับ และใบหน้าของคุณก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เวลาคุณเขิน คุณไม่กล้าจะสบตาใครหรอก สายตาของคุณจะเสมองไปที่พื้นทุกที น่ารักมาก ๆ เลย มิตรรักนักอ่านหลาย ๆ ท่าน พยายามจะคาดเดาเรื่องราวของเราว่าจะเป็นไปในรูปใด ซึ่งเกย่าก็ไม่ได้บอกให้ใครทราบเลย และหลายท่านเห็นเกย่าเขียนเรื่องราวสไตล์ตลกขบขัน ก็คิดว่าเรื่องราวชีวิตของเกย่าน่าจะมีแต่ความบันเทิงเริงใจ ซึ่งในชีวิตจริง เรื่องราวขบขันต่าง ๆ ที่เกย่าถ่ายทอดผ่านตัวหนังสือ ซึ่งได้รับการอ่านครั้งแล้วครั้งเล่าจากพี่ ๆ น้อง ๆ ในห้องไกลบ้านนั้น เป็นเพียงส่วนเสี้ยว เล็ก ๆ ในมุมหนึ่งของชีวิต เกย่า เกย์ไทยในต่างแดนคนนี้เท่านั้นเอง ระยะเวลา กว่า พันห้าร้อยวัน ที่ชีวิตได้เดินทางอยู่ในแผ่นดินเยอรมันนั้น ถ้าหากจะเขียนถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องราวให้ครบถ้วน ทุกตัวอักษร กระบวนความ ความยาวของมัน ก็คงจะมากกว่า นิทานพันหนึ่งราตรี อันมีต้นกำเนิดจากดินแดนบรรพบุรุษร่วมศาสนาและความเชื่อของคุณ นะมูรัต เกย่าได้พยายามเลี่ยงไม่กล่าวถึงความแตกต่างทางศาสนา และความเชื่อของเราทั้งสองคน เสมอมา แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ที่เกย่าหาหัวใจของตัวเองไม่เจออีกต่อไป และเกย่ารู้อยู่เต็มอกว่า ใจของเกย่าได้ไปอยู่ที่มูรัตจนหมดสิ้น ไม่ว่าจะพยายามเฆี่ยนตี ความปรารถนาจากส่วนลึกของตัวเองเพียงไร โดยยกความแตกต่างทางความเชื่อ และวิถีการดำเนินชีวิตมากางกั้น โดยหวังเพียง ลม ๆ แล้ง ๆ ว่า วันหนึ่ง ความรู้สึกที่มีต่อมูรัตจะบรรเทาเบาบางลง และค่อยเจือจางหายไป ตามกลไกเทพแห่งกาลเวลา ซึ่งใครต่อใครพากันบอกว่า เป็นผู้เยียวยาจิตใจอันประเสริฐสุด เท่าที่มนุษยโลกพึงมี แต่ความเชื่อดังกล่าว กลับไม่เป็นจริง ในชีวิตของเกย่า ยิ่งเกย่าพยายามจะหักห้ามใจของตัวเองมากเท่าไร เปลวไฟแห่งความปรารถนาก็ยิ่งลุกโชนขึ้นเท่านั้น ความทุกข์ทรมานยามมีเค้าอยู่ใกล้ ๆ แต่กลับสัมผัสไม่ได้นั้น มันสร้างความกดดันต่อจิตใจ มากกว่าการที่เค้าอยู่ห่างไกลทั้งกายและใจยิ่งนัก ก็แล้วทำไมถึงไม่บอกความรู้สึกของตัวเองออกไปตรง ๆ เล่า บางคนอาจจะคิดอย่างนี้ ซึ่งเกย่าก็คิดเหมือน ๆ กัน คิดอยู่เป็นร้อย เป็นพันครั้ง แต่ปัญหาใหญ่ก็กลับมาอยู่ตรงหน้าทุกครั้งร่ำไปเช่นกัน ศาสนา และความเชื่อของเค้าไม่ยอมรับเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ห่างไกลจากแดนดินถิ่นมารดรของเค้ามากเพียงไรก็ตาม แต่ความรู้สึกที่หวาดเกรงต่อเรื่องที่แตะต้องไม่ได้ดังกล่าวก็คุกคามความนึกคิดและจิตใจของเกย่าอย่างสุดจะทัดทาน วันแล้วคืนเล่า ที่เกย่าเฝ้านับเวลาระหว่างเราที่ลดน้อยถอยลงไปเรื่อย ๆ เกย่ายังจำวันนั้นได้ดี วันที่สามของการเรียนในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม ปี 2002 วันนั้นอาจารย์ได้พูดถึงสถานภาพของการพำนักของนักเรียนในชั้นแต่ละคน เมื่อคำถามเวียนมาถึงมูรัต คำตอบที่ได้คือ เค้ามาเยอรมันด้วยวีซ่าเยี่ยมเยียนเพียง 3 เดือน จึงถือโอกาสนี้เรียนภาษาเยอรมันไปด้วย และวีซ่าของเค้าก็จะหมดหนึ่งสัปดาห์ ก่อนที่ชั้นเรียนของเราจะจบลงในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ นั่นหมายความว่า มูรัตไม่อาจจะอยู่ร่วมฉลองการจบชั้นภาษาเยอรมันชั้นต้น กับเพื่อน ๆ ชวนเค้าไปเที่ยวสิ เอ่ยปากสิ อ้ำอึ้งอยู่ทำไม ในสมองของเกย่ามีแต่เสียงนี้ย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ อยู่ หลายครั้งหลายครา ที่เกย่าเอ่ยปากเรียกมูรัต แต่บัดดลที่สายตาอันหวานเชื่อม และรอยยิ้มตรึงใจนั้นหันมา เกย่าก็กล้ำกลืนประโยคที่คิดไว้ลงไปในคอจนหมด "มีอะไร เกย่า" มูรัตมักจะถามประโยคนี้เสมอ "มีอะไรให้ช่วยไหม บอกมาสิ" แต่คำที่หลุดออกจากปากของเกย่า ก็จะมีแต่ "เปล่า เรียกเฉย ๆ น่ะ" ให้มูรัตฟังทุกครั้งไป จนในที่สุด กุมภาพันธ์ก็ย่างกรายเข้ามา เกย่าเริ่มมีอาการหวาดผวา คล้ายประสาทหลอนเลยล่ะ เอายังไงดี อีกไม่กี่วัน เค้าจะต้องกลับไปตุรกีแล้ว จะได้พบกันอีกเมื่อไรก็ไม่รู้ ถ้าไม่บอกไปตอนนี้ ก็อาจจะไม่ได้บอกอีกแล้วนะ คิดและเดินวนเวียนอยู่ในห้องนอนเป็นเสือติดจั่น ในที่สุดเกย่าก็ตัดสินใจเด็ดขาดว่า ไม่บอกด้วยวาจา ก็อาศัยตัวอักษรนี่แหละ ครั้งนั้นจึงเป็นครั้งแรกที่เกย่าเขียนจดหมายด้วยภาษาเยอรมัน และไม่ใช่จดหมายธรรมดา หากแต่เป็นจดหมายสารภาพความนัยทั้งหมด อันเก็บกดอยู่ในใจตลอดระยะเวลาสองเดือนครึ่งที่ผ่านมา เกย่าคิดว่าตัวเองบ้าไปแล้วที่ไปเขียนจดหมายสารภาพรักไปแบบนั้น แต่เมื่อคิดว่าตัวเองไม่มีอะไรจะให้เสียอีก ก็ปลุกใจให้ฮึกเหิมทำตามที่หัวใจเรียกร้อง เย็นวันนั้น เกย่าไปถึงโรงเรียนก่อนเวลาเช่นเคย และเกย่าก็รู้ว่าจะหามูรัตได้ที่ไหน ที่เดิม มุมเดิมของเค้าล่ะ ขอบคุณสวรรค์ที่มูรัตอยู่ในห้องพักเพียงลำพัง มือของเค้ากอดอก หลังพิงเสา สายตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างเช่นเคย ทุก ๆ ครั้ง เกย่าจะเฝ้ามองภาพนี้อยู่เงียบ ๆ แต่ครั้งนี้ เกย่าเรียกชื่อมูรัต เมื่อเค้าหันมามอง และส่งยิ้มให้ เกย่าก็บอกเค้าว่า "มันอาจจะดูงี่เง่าไปหน่อยนะ แต่โปรดอ่านจดหมายนี่ด้วยเถอะ เกย่าคิดว่าท่าที่เกย่าส่งจดหมายให้มูรัตด้วยสองมือ และศีรษะที่ก้มผงกนั้น ช่างไม่แตกต่างจากหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นในนิยายรักนักศึกษา เวลาสารภาพรักเลยล่ะ แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือ ทันทีที่จดหมายไปอยู่ในมือของมูรัต เกย่าก็หันหลังเดินออกไปจากห้องพักอย่างรวดเร็ว ไม่ได้ยืนรอผลชี้ชะตาอนาคตความรักของตนเหมือนในภาพยนตร์รักกุ๊กกิ๊กวัยรุ่นญี่ปุ่น "เค้ายิ้ม ตอนรับจดหมายจากมือเรานะ, เค้าไม่ได้ทำหน้างงนะ, เค้าไม่ได้หัวเราะเยาะเราด้วย" ความคิดเหล่านี้ วนเวียนมาชูใจเกย่า ขณะเดินกลับมาที่ห้องเรียน แต่..... "เค้ายังไม่ได้อ่านเนื้อความนี่นา, มูรัตก็ยิ้มอย่างนี้ทุกทีล่ะ, เค้าคงไม่ทันตั้งตัวล่ะมั้ง" ความคิดที่พรั่นพรึงจิตใจอีกด้านหนึ่งก็ถาโถมเข้ามา "ถ้าหากเค้าจะโกรธเราล่ะ ถ้าหากเค้าทำท่าทีเหินห่างและขยะขยงเราล่ะ จะสู้หน้าเรียนอยู่ห้องเดียวกันอีกไหวเหรอ ถึงจะอีกแค่ไม่กี่วันก็เถอะ" "ตายแน่ ๆ เกย่า เขียนสารภาพไปทำไมนะ จะวิ่งไปฉกจดหมายคืนมาก็ไม่ทันแล้ว เป็นการตัดสินใจที่โง่มาก ๆ เลย ทำไมไม่ใช้สมองคิดนะ ทำอะไรลงไปน่ะ เค้าเป็นผู้ชายนะ ร่างกายเราก็เป็นผู้ชาย เค้าต้องรังเกียจเราแน่ ๆ เลย ทำไมถึงทำอะไรได้คืบจะเอาศอกแบบนี้ แค่มิตรภาพอันงดงามที่เค้ายื่นให้มาตลอด ยังไม่พออีกหรือ" ความคิดแล่นไหลวนเวียนอย่างควบคุมไม่ได้ เกย่ารู้สึกราวกับว่าศีรษะกำลังจะระเบิดออก ตอนที่ก้าวเข้าไปในห้องเรียน และเจอ มาริทรินี่ นาตาเลีย และชิกเด็มนั่งอยู่ เกย่าทำได้แค่กล่าว กูเทน อาเบ้นด์สั้น ๆ และนั่งเงียบอยู่กับเก้าอี้ และที่ว่างบนโต๊ะตรงหน้า ใจเต้นแรงเป็นกลอง ถึงแม้ว่ามือนั้นจะเย็นเฉียบ แต่เหงื่อก็ออกจนฝ่ามือเปียกชื้นไปหมด มูรัตไม่ได้ปล่อยให้เกย่าต้องรอผลการชี้ชะตาอยู่นานเกินจะทน ไม่กี่อึดใจต่อมา เค้าก็เดินกลับเข้ามาในห้อง เกย่าทราบเนื่องจากเสียงผู้หญิงในชั้นกล่าวทักทายมูรัต และได้ยินเสียงเค้าทักทายตอบ เกย่านั่งตัวแข็งทื่อ ไม่กล้ากระดุกกระดิก หน้าก็ไม่หันไปมองด้านหลังแต่อย่างใด เดี๋ยวมูรัตก้ต้องเดินอ้อมโต๊ะไป และมานั่งตรงที่นั่งของเค้าตรงหน้าของเรา เราต้องพร้อมที่จะเผชิญกับสายตาของเค้าแล้วนะ อึดอัดจริง ๆ เลย แต่ถ้าเค้าไม่มองหน้าเราล่ะ นั่นก็แสดงว่า สิ่งที่เราทำไปเมื่อครู่ได้ทำลายมิตรภาพลงขาดสะบั้นแล้ว แต่มูรัตไม่ได้เดินอ้อมโต๊ะไป ผู้หญิงก็คุยกันอยู่ต่อเป็นปกติ เกย่ารออยู่อึดใจหนึ่ง ก็ไม่เห็นมูรัตจะเดินมา จึงตัดสินใจหันกลับไปมองด้านหลัง แต่ทุกอย่างก็ว่างเปล่า ไม่มีเงาของมูรัตอยู่ตรงนั้น เกย่าแน่ใจตัวเองแล้วว่า มูรัตต้องรับไม่ได้กับจดหมายสารภาพรักจากเกย์อย่างเกย่า เอาล่ะ ต้องเข้มแข็งแล้วนะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เราตัดสินใจทำลงไปแล้ว ก็ต้องรอรับผลการกระทำนั้นล่ะ เกย่าสูดลมหายใจยาว และพยายามสลัดความคิดออกจากหัว ทันใดนั้นเกย่าก็กรี๊ดออกมาด้วยความตกใจสุดขีด กรี๊ดแบบไม่ทันได้ปกปิดอารมณ์สาวของตัวเองเลยล่ะ ก็จู่ ๆ มีเสียง บูวววววววววว์ ดังสนั่นมาจากทางด้านหลัง ความรู้สึกเหมือนหัวใจตกลงไปที่ตาตุ่ม เกือบช็อคตายไปจริง ๆ เวลาที่คนเราปล่อยความคิดอยู่ แล้วมีอะไรมากระชากความรู้สึก ทำให้ตกใจกระทันหันนี่ มันช็อคจริง ๆ นะ เคยเจอกันบ้างไหมฮะ .......เหล่าผู้หญิงหัวเราะเสียงใส เพราะเกย่ากรี๊ดดังมาก ๆ ลืมตัวสุด ๆ ........"อะไรกัน คิดถึงใครอยู่เหรอ แค่นี้ก็ตกใจซะ" เสียงนุ่มทุ้มคุ้นเคย ดังขึ้นจากข้างหลัง "เย็นนี้เลิกเรียนแล้ว เจอกันที่ป้ายรถประจำทางนะ" เจ้าของเสียงกล่าวนั้นกล่าวต่อ ก่อนที่จะเดินอ้อมโต๊ะไป และมานั่งลงตรงเก้าอี้ตัวนั้น ตรงกันข้ามกับเกย่า............ สุขสันต์วันวาเลนไทน์ 2006 ©2006 Gay-ya. All Rights Reserved. สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 โหๆๆๆๆ
หุหุหุ ดีจังเลย ผมก็เคยแบบนี้แต่ว่ามันไม่สมหวังเหมือนคุณเกย่าอ่ะดิ อ่ะอ่ะ เปนกำลังใจคับ โดย: notake วันที่: 8 เมษายน 2549 เวลา:15:04:55 น.
ดีคับ เกย่าจัง
เราเคยคุยกัยทาองเกย์โรมิโอ 2-3 ครั้งน่ะ โพรไฟล์ mikeggth คงจำไม่ได้มั้ง กลับมาอ่านบล็อกเกย่าแล้วสนุกเหมือนเดิมเลย โดยเฉพาะอันนี้ รู้สึกลุ้นตามมาก ๆ เพราะเคยทำคล้าย ๆ แบบนี้ตอน ม.3 ยินดีด้วยนะครับที่ผลออกมาเป็นบวก จะติดตามบ่อย ๆ นะ (บุ๊คมาร์คบล็อกของเกย่าไว้แล้ว) ไมค์ จุ๊บ ๆ โดย: Mike IP: 58.9.198.197 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2550 เวลา:3:08:29 น.
|
บทความทั้งหมด
|
ลุ้นตาม
happy valentine's month นะคะ