ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน เรื่องสวรรค์และนรกยังคงเป็นคำสอนและคำเล่าอยู่
โดยที่อาจมีสงครามศักดิ์สิทธิในตำนานและเรื่องแต่ง metropolis software

ได้จับประเด็นของการสู้รบระหว่าง สวรรค์ และนรกมาเป็นเกม Action (ค่อนข้างไปทาง Sci-Fi)
บู๊ล้างผลานดุเดือดในยุคปัจจุบันโดยที่โลกในเกมจะถูกแบ่งออกเป็น 2 องค์กรใหญ่ๆ
ก็คือ EtherLight จะเป็นฝ่ายสวรรค์ และ Abyss ก็คือองค์กรฝ่ายนรก ที่ได้ต่อสู้กัน
ต่างฝ่ายต่างมีสายสืบ เพื่อล้วงความลับและทำลายกำจัดฝ่ายตรงข้ามให้สิ้นซาก

ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Ryan Lennox ผู้ที่เคยเป็นสายสับให้กับองค์กร Abyss มาก่อน
และได้เลิกลาจากการทำงานนี้ไป แต่ในขณะพักร้อนนี่เองเกิดเหตุการที่ EtherLight
ได้เข้าโจมตีและกำจัดเหล่าสายลับแห่ง Abyss รวมถึงตัว Ryan เองด้วย จึงทำให้ Ryan
ต้องกลับมารับภาระกิจเพื่อสืบสาวต่อไปว่า EtherLight กำลังแอบทำอะไรอยู่ ที่เหนือความคาดหมายนั้น

การเล่นค่อนข้างจะใกล้เคียงกับเกมแนว Action บนเกม PC ทั่วๆไปที่ได้เห็นกันมาล่าสุดๆ
เช่น Max Payne, Rainbow Six Vegas ในเกมจะมีถึง 5 mission เท่านั้น อย่าคิดว่าน้อย..
เพราะแต่ละฉากนั้นค่อนข้างยาวพอตัวเลย และก็เสี่ยงภัยอันตรายอย่างยิ่ง
เกมไม่ใช่แค่เดินหน้ายิงกวาดล้างศัตรูไปให้หมดแค่นั้น แต่ในขณะเดียวกัน
จะต้องใช้ความคิดในการหาทางแก้ปัญหาด้วย

ที่เห็นได้ชัดก็คือประตูที่ล็อคด้วยคอมพิวเตอร์ระยะไกล (Remote Access)
ที่ผู้เล่นเองจะต้องหา Panel ของประตูนั้นเพื่อเปิดประตูนั้นๆให้ได้
บ่อยครั้งที่ Panel ไม่ได้อยู่ให้ใช้อย่างง่ายๆ แต่ผู้เล่้นเองจะต้องหาทางไปใช้ Panel นั้นๆให้ได้
เช่น Panel อาจจะอยู่สูงกว่าตัวละครเอื่อมถึง หรืออาจจะมีอุปสรรค์ เช่นกล้อง CCTV ที่จับตาอย
ทำให้ผู้เล่นจะต้องเลี่ยงและผ่านไปให้ได้ โดยที่อาจจะใช้พลัง Infernal Vision
เพื่อตรวจดูรหัสรับต่างๆที่ซ่อนอยู่ได้ด้วย

พลังเวทย์นั้น จะมีทั้งช่วยให้ Ryan ยิงปืนแรงขึ้น และ มีเวทย์สนับสนุนก็คือ
Teleport (แต่สามารถย้ายตัวเองได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น) และ Telekinesis (ไว้ยกของหนักๆ)
นอกจากนี่ยังมีกฏเล็กๆน้อยๆ เพื่อเสริมให้ความรู้สึกว่า Ryanเป็นฝ่ายของพวก Abyss
ที่ต้องแพ้ แสง หรือ แพ้พลังงานของ EtherLight ทำให้จะถูกเสีย Mana ลงไปเรื่อยๆ
แ่ต่ในทางตรงกันข้ามถ้าหากอยู่ในที่มืดๆหรือได้รับพลัง Demonic ก็จะทำให้ได้ Mana เพิ่มอย่างรวดเร็ว
ที่สำคัญอย่างมากในเกมนี้ Ryan สามารถดูดพลังจากศพได้ด้วย ทำให้สามารถฟื้นพลังต่างๆอย่างง่าย (ซึ่งต้องแลกกับการเสียเวลาแค่ 3-4 วินาที)
ในเกมศัตรูค่อนข้างจะอึด ยิงกัน ต้องยิงกัน 4 ครั้งขึ้นไปถึงจะตายกันไปข้างหนึ่ง
และในขณะเดียวกันตัว Ryan เองก็อึดด้วย แ่ต่ถ้าหากปล่อยไว้ให้รับกระสุนมากเกินไป
ก็อาจจะทำให้กลับไปโหลดเซฟเก่ามาเล่นใหม่ได้เลย

ทุกอย่างมีจุดอ่อนหมดในโลกของเกมInfernal ซึ่งถ้าหากผู้เล่นสามารถจับจุดนั้นและ
สามารถสู้กับจุดอ่อนนั้นได้ทำให้เกมง่ายมากๆไปเ้ลยทีเดียว ซึ่งในเกมจะมีฉากที่ผู้เล่นจะต้องสู้กับ
Boss ของฉาก (ที่ค่อนข้างอลังการ) ดังนั้น ถ้าหากรู้จุดอ่อน และแก้ไขได้ถูกต้อง เชื่อได้เลยว่า
ไม่ถึง 1 นาที บอสบางตัวตายแล้ว  (แต่บางตัวก็ต้องใช้เวลาหน่อยละ)
เพราะฉนั้นจึงเป็นตอกยำให้ได้ใช้ความคิดมากกว่าที่จะยิงแหลกสำหรับในเกมนี้

แล้วยังมักจะชอบแอบตามจุดกำบังจนค่อยๆออกมายิง แต่ก็มีบางครั้ง
ศัตรูมักจะออกเดินมายิงต่อหน้าอย่างอย่างโง่
ทำำให้ผู้เล่นต้องรับมือกับการยิงในระยะเผาขนด้วยเพราะค่อนข้างทำให้ Ryan
เสียชีวิตได้เร็วขึ้น และ ศัตรูอาจจะค่อนข้างซ้ำซากในบางฉากด้วย (มีออกมากันเยอะ)

Ryan เองก็สามาารถแอบตามผนังและกล่องหรือขอบตึกได้ แต่การปรับแต่งปุ่มใน
การสั่งให้เข้าชิดกำแพงนั้นยังมีปัญหาใช้งานได้ยาก การแอบเข้ากำแพงนั้น
ไม่ได้กดปุ่้มเดียวครั้งเดียวแล้วเข้าได้เลย (แบบเกม R6 Vegas)
ซึ่งทำไม่ค่อยจะเป็นประโยชน์นักในการแอบ ประกอบกับศัตรูยิงแม่น
ไม่ว่าคุณจะแอบแล้วออกมายิงยังไงก็จะโดนยิงสวนกลับมาได้อยู่ดีละ

Graphic ฉากต่างๆมีความละเอียดอย่างมากที่เห็นได้ชัดเลย เช่น เสื้อผ้าของตัวละครที่มีจุดที่สะท้อนแสง Glow และไม่สะท้อนแสงด้วย,
ละเอียดพอควรตามวัตถุต่างๆ ทั้งที่ทำการสะท้อนแสงหรือเรืองแสงออกมาทำได้อย่างละเอียด, เงาสะท้อนบนพื้นเล็กๆน้อยๆ, การแสดงผลแบบ HDR, Depthof Field
และฉากอันค่อนข้างกว้าง เหล่านี้ยังใช้ System Memory ได้ไม่เกิน 500MBเลย ยังไม่รวมหน้าตา Menu ที่ทำได้ค่อนข้างดูลื่นตา (Smooth)ทำให้น่าเล่นขึ้น
ถือว่าเป็นเกมหนึ่งที่ใช้ความสามารถของการแสดงผลได้อย่างเต็มที่ถึงแม้ว่าผู้พัฒนาเกมจะไม่ได้ใช้ Engineชื่อดังอะไรก็ตามแต่คุณภาพของภาพนั้นเป็นที่น่าประทับใจมาก

Soundดนตรีประกอบนั้นเปลี่ยนไปตามฉาก และเน้นดนตรีแนว Rockเพื่อความมันส์บ่อยครั้ง แต่สำหรับ 3D Positional Effectนั้นยังไม่ค่อยได้ยินชัดเจนหรือแยกออกชัดเจนนัก

โดยรวมInfernal เป็นเกม Action ที่้สลับกับต้องใช้ความคิด(ไม่ใช่แค่เดินยิงๆไปแล้วก็จบแน่นอน)ในแต่ละฉากคุณจะต้องสังเกตุและหาทางผ่านมันไปให้ได้
ฉากมีหลายรูปแบบและเหตุการณ์ ที่ต้องแก้ปัญหา

ข้อดีที่น่าชื่นชม

• ภาพสวยงาม และพิถีพิถัน ใช้เครื่องในระดับกลางๆก็สามารถเล่นได้
• รูปแบบการแก้ปัญหาในแต่ละฉาก รวมทั้งในการต่อสู้ Boss
• เรื่องน่าสนใจ และ ฉาก Cut-Scene ที่ใช้ Game Engine แสดงผลเอง (ดูแล้วเกือบจะใกล้เคียงกับ CG ในบางเกม)

ข้อเสียที่ไม่น่าเล่น

• การควบคุมมีปัญหาในหลบและแอบ
• ศัตรูยิงค่อนข้างแม่น ไม่ว่าจะเล่นในที่ระดับไหน และ ถึงแม้จะหลบและแอบแล้วก็ตาม