Dark Messiah of Might & Magic ชื่อแบบนี้ แน่นอนแล้วว่าต้องเป็นเกมแนว Fantasy
เป็นผลงานของบริษัท Arcane Studio และ Kuju Entertainment
โดยที่ Arcane รับหน้าที่ทำ เกม Single Player และส่วน Kuju ได้รับทำ Multi Player
ตัวเกมได้ขุมพลังจาก Source Engine ของ Valve ที่ทำเกมอันโด่งดังนั้นก็คือตระกูลของ Half Life นั้นเอง
(Review นี้พูดถึงแค่ Single Player)

เรื่องของเกมนั้นเกิดขึ้นบนเรื่องของ Might of Magic อยู่บนดินแดนที่เรียกว่า Ashan
เริ่มต้นด้วย Sareth ได้เป็นลูกศิษย์ของ Phenrig ที่ได้ฝึกฝนทักษะการต่อสู้มานาน
และ Sareth ได้รับมอบหมายให้ไปค้นหา Shantiri Crystal จากนั้นต้องนำไปส่งให้กับ
เพื่อนของอาจารย์ตนนั้นก็คือ Menelag ในขณะที่มาถึงหน้าเมือง Stonehelm นี่เอง
ก็ได้มีเหล่ามอนสเตอร์เข้าโจมตีเมืองพอดี จึงตัดเข้าเกมให้ผู้เล่น

เนื่องจาก Arcane เคยได้ทำเกมแนว Action ความเป็น RPG มาก่อนหน้านี้ที่ชื่อ Arx Fatalis
และเมื่อมาเป็น Dark messiah รูปร่างหน้าตาจึงใกล้เคียงกัน
โดยที่ตัวละครเรา (Sareth) นั้นมีความสามารถในการต่อสู้หลายด้าน เช่น ดาบ ธนู และ เวทย์
ส่วนจะเก่งมากแค่ไหนอย่างไรนั้นจะขึ้นกับระบบ Skill กันอีกที
และที่สำคัญนั้นก็คือผู้เล่น เพราะถึงแม้ว่าจะมี Skill ในการสนับสนุนดีเพียงใดแล้ว
แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้เล่นว่าจะต่อสู้ หรือ ใช้ Skill เวทย์ได้ดีเพียงใดด้วย

ไม่ใช่แค่ว่าเกมจะให้ ฟันๆ แทงๆ ยิงๆ แค่นั้นอย่างเดียว เพราะเนื่องจากการใช้ระบบ Physic
ที่สมจริงของ Source Engine ทำให้สิ่งของรอบๆตัวในฉากนั้นมีประโยชน์ขึ้นมา
ของบางอย่างสามารถหยิบจับยกขึ้นมาแล้วคว้างศัตรูได้ ทำให้ศัตรูล้มลง
และบางฉากนั้นจะมีของอยู่ด้านบนที่ใกล้จะตกลงมา แล้วผู้เล่นสามารถสะกิดให้ตกลงมาทับศัตรูได้ด้วย
หรือจะ เตะศัตรูให้ตกลงเหวง่ายๆก็ได้
รวมถึงเวทย์บางอย่าง สามารถนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ร่วมการต่อสู้ได้อีก เช่น Freeze
ที่ทำให้ศัตรูเป็นน้ำแข็ง จากนั้นสามารถเตะจนแตกก็ยังได้ เป็นต้น

ถึงแม้ว่า Dark Messiah จะมีระบบค่าประสบการณ์ Skill Point แต่ก็ไม่ใช่ RPG เต็มตัว
เพราะโดยรวมแล้วเกม ไม่ได้ฆ่ามอนสเตอร์เพื่อ เก็บสะสมค่าประสบการณ์แบบเกม RPG จริงๆ
ผู้เล่นจะได้ค่าประสบการณ์ต่อเมื่อผ่าน Mission ตามเกม (แต่ก็จะได้มากหรือน้อยแตกต่างกันไป)
และยังมี Mission เสริม ซึ่งจะมีอยู่บางฉากเท่านั้น และจะทำให้สำเร็จก็ได้ หรือ เดินหนีไปเลยก็ได้

ระบบ Skill นั้นจะแบ่งออกเป็น 3 หมวด ใหญ่ๆ ได้แก่ สายต่อสู้ สายเวทย์ และสนับสนุนอื่นๆ
สายต่อสู้ นั้นก็จะเน้นทักษะการใช้อาวุธประชิดอย่างดาบหรือมีด และธนู ให้มีประสิทธิภาพให้มากขึ้น
เช่น ฟันดาบเร็วขึ้น ยิงธนูเร็วขึ้น หรือแรงขึ้น
สายเวทย์ ก็จะแบ่งออกเป็น 2 ทางใหญ่ๆ ก็คือ เวทย์โจมตี เช่น Fireball Freeze Lighting Inferno เป็นต้น
โดยที่มีผลต่อการฆ่ามอนสเตอร์บางประเภทที่แพ้ทาง
เวทย์มีผลทางอ้อม เช่น Heal (รักษาพยาบาลตัวเอง), Charm (ทำให้ศัตรูเป็นพวก), Weakness (ทำให้ศัตรูอ่อนแอลง)
ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ไม่เลวโดยเฉพาะ Heal ที่ควรจะมีโดยที่ไม่ง้อ Healing Potion
สายสนับสนุนอื่นๆ ก็จะมีทักษะหลายๆอย่างที่ช่วยให้ Sareth นั้นเก่งขึ้น เช่น health regen (พลังชีวิตสามารถขึ้นได้เอง),
Mana Regen (พลังเวทย์สามารถขึ้นได้เอง), Poison Resistance (ต่อต้านพิษ), Stealth (ย่องแล้วศัตรูไม่เห็น)

ระบบ Inventory นั้นสามารถเก็บของต่างๆได้ เช่น น้ำยาเติมพลัง ดาบ เกราะ และสิ่งของอื่นๆ ซึ่งจะมีเนื้อที่จำกัด
โดยที่สามารถเลือกใช้ของได้เลย หรือจะเอาเก็บไว้ที่ Shortcut Slot เพื่อกดคีย์ลัดก็ได้

Graphic ก็ดูดีเลยทีเดียวสำหรับเกมแนวใหม่ใน Source Engine ที่ Support เครื่องได้ทุกระดับเลย
เกมใช้ HDR Exposure ปรับสมดุลแสงได้ดี ในขณะที่เข้าที่มืดมากจนมองไม่เห็น หรือ ออกข้างนอกสว่างเกินไป
แต่ปัญหาอย่างเดียวและเช่นเดียวกับ Half Life 2 นั้นก็คือ
การที่โหลดฉากบ่อย ย่อย และถือว่ายังนานพอควร ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

Sound ดนตรีประกอบก็ทำได้ดี และเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ เมื่อผ่านไปยังฉากหนึ่งๆ
แต่เสียง Sound Effect นั้น ยังทำได้ไม่จัดจ้าน อาจจะเบาด้วย แต่ก็อาจจะต้องชดเชยด้วยการเปิดเสียงลำโพงเอง

AI ไม่แปลกใหม่และไม่น่าประทับใจสักเท่าไร เพราะผู้เล่นสามารถจับจุดการเดินของ AI ได้
เช่น ถ้าศัตรูจะวิ่งเข้ามารุม แต่เมื่อใกล้จะตายแล้วก็จะวิ่งหนีออกไป ซึ่งสำหรับสายเวทย์แล้วอาจจะไม่มีการเสียพลังเลย
ศัตรูบางตัวเดินแบบโง่ๆ มาหาผู้เล่นเอง ทำให้สามารถล่อไปยังสถานที่ประหารได้ง่ายๆ
แต่ยังไงก็ตามศัตรูบางตัวไม่สามารถโจมตีได้ ดังนั้นเกมจึงใช้ระบบ Script ในการฆ่า
เช่น Cyclops ที่ผู้เล่นเองจะต้องล่อไปยังบางจุดของเกม จึงจะสามารถฆ่าได้

โดยรวมของเกม Dark Messiah นั้นเป็นเกม Action ที่เลือกสายในการเล่นได้
และได้เพิ่มความรู้สึก ความเป็น RPG เข้าไปโดยมีระบบ Skill, ระบบInventory
ส่วนเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างจะเป็นเส้นตรง ไม่ซับซ้อน ผ่านด้วยการบู๊และผสมการแก้ปัญหาไปเรื่อยๆ

ให้คะแนนไปเลย Higher Medium ( 4 / 5 )