Dungeon Siege ชื่อนี้แน่นอนว่าเป็นเกมประเภทอื่นไม่ได้ นอกจาก (Action) RPG
ซึ่งภาคแรกอาจจะสร้างความประทับใจความมันส์ เพราะรูปแบบการเล่นที่แตกต่างจาก Action RPG
ต้นตำหรับอย่าง Diablo เพราะ DS นั้นเน้นการลุย และบู๊กันเป็นหมู่ เพื่อไล่บี้มอนสเตอร์

DS ภาคแรก รูปแบบของเกมจะเป็นในแนว Stream Technology (รูปแบบของสิ่งประดิษฐ์ยุคเรเนซองค์)
ผสมผสานกับ Magic Fantasy ได้อย่างน่าเล่นและลงตัว แต่เมื่อ Dungeon Siege 2 ออกมา
รูปแบบของ Stream Techฯ ก็ได้หายไปเลยและไม่ปรากฏ กลายเป็นรูปแบบของเกม Magic Fantasy อย่างเดียว

ซึ่งจากที่นู่ได้พูดถึงไปแล้วใน Review Dungeon Siege 2 ที่ผู้สร้างปรับเปลี่ยนกันยกใหญ่
ทำให้เสียเอกลักษณ์ของตัวเองไป จนใกล้ที่จะเป็นเกม เลียน Action RPG อย่างเช่น Diablo 2
ไม่ว่าจะเป็นการเซฟที่ใช้ 1 Slot ต่อ 1 ตัวละคร ระบบ Quest และระบบ Skill
แต่ก็ทำให้คนไม่ผิดหวังเช่น เพราะมีเควสค่อนข้างเยอะพอสมควร

หลังจากที่บนภาคหลัก Hero ของเราได้กำจัด Vardis ออกไปจากโลกแล้ว
แต่ยังหลงเหลือตัวร้ายและตัวบงการอยู่ นั้นก็คึอ Dark Wizard ที่ได้ไร่ร่อนไปหาคนใจง่าย(คนใจไม่แข่ง)
เพื่อกล่องกลาจิตใจให้เป็นจิตใจที่ชั่วร้าย จนทำให้เกิดผลร้ายแรงตามมา มีพลังที่มากมายไร้ผู้ต่อกร
เพราะฉนั้น เหล่า Hero ของเราก็จึงนิ่งนอนใจไม่ได้
และต้องตามกำจัดสิ่งที่เลวร้ายที่ Dark Wizard ได้ปล่อยออกมา

รูปแบบการเล่นของเกมเหมือนเดิมทุกประการเช่นเดียวกับเกมตัวหลัก
โดยที่มีการโจมตีหลักที่เลือกได้ 4 สาย และ Power ที่ได้มาจากการเลือก อัพ Skill

สามารถนำตัวละครเก่าจากเกมหลักมาเล่นต่อได้ด้วยการ
Convert มาเป็น Dungeon Siege 2 Broken World หรือ
แต่ถ้าไม่มีเซฟเลย และยังไม่เคยเล่น Dungeon Siege 2 มาก่อน
คุณก็สามารถใช้ตัวละครที่สร้างขึ้นไว้แล้วได้ ซึ่งจะเริ่มต้นที่ Level 39
ไม่ว่า Setting ต่างๆของตัวละครจะเป็นยังไง ก็จะได้กลับมาเล่นเหมือนเดิม
สำหรับเกม Action RPG ตอนนี้สิ่งที่ทำให้ผู้เล่นยอมเล่นหลายๆครั้งมากขึ้น
ก็คือ การ Reset Skill ที่ไม่ว่าคุณจะ อัพ Skill มามั่วขนาดไหนใน ภาคหลัก
ก็สามารถมา Reset ได้ที่ NPC ที่อยู่ในเมืองแรกของเกม เท่านี้ก็จะได้เลือก Skill กันใหม่ได้แล้ว

Broken World เป็นตัวเสริมที่มาถึง 3 Acts แต่อย่าคิดว่าเยอะนะ
เพราะแต่ละ Act บน BW นั้นมีเนื้อเรื่องที่ไม่ถึงครึ่งของ 1 Act บน DS หลัก (สั้น)
และภาระกิจที่ไม่ซับซ้อนนัก ซึ่งรอให้ Hero ไปกำจัดผู้ที่ถูกเปลี่ยนจิตใจ
ซึ่งคุณจะต้องผ่านกันถึง 3 เมืองสำหรับเกมนี้

BW มีมอนสเตอร์ที่ค่อนข้างโหดขึ้นและเวทย์แปลกๆให้ได้พบเจอ เช่น
เมื่อคุณยิงมอนสเตอร์ตายแล้วจะมีพิษกระจายออกมา ถ้าปล่อยตัวละครไว้ให้สูดดมจะก็
ไม่กี่วินาที ตัวละครของคุณก็ตายได้ง่ายๆ และเมื่อพบเจอกับผู้ที่โดนเปลี่ยนจิตใจ (Mini Boss)
แน่นอนว่าจะต้องเจอกับเวทย์ไม้ตายที่โดนไม่กี่วินาทีก็ทำให้ตายได้ง่ายๆเช่นกัน
เพราะฉนั้นการเล่นเกมบนตัวเสริมนี้ จะอยู่นิ่งๆเฉยๆ คอยรุมศัตรูเรื่องไม่ได้

บน Dungeon Siege 2 หลักแล้ว จะมีสายการต่อสู้หลักนั้นก็คือ
Nature, Combat, Fighter และ Hunter ซึ่งเป็น 4 สายหลักที่มีอยู่เดิมนี้

เมื่อศัตรูมีเวทย์ใหม่แล้ว ผู้เล่นเองก็มีเช่นกัน  โดยที่มี Skill อีก 2 Class ให้เลือกเล่นเพิ่ม
สายนักฆ่า และ สาย จากเดิมที่มี 4 Class ตามการต่อสู้หลัก ซึ่งเน้นความเร็วในการโจมตี
ถึงแม้ตัวละครคุณจะสร้างมาด้วย Class หนึ่ง แต่ก็สามารถเรียนรู้อีก Class ตามได้
เพราะเกมจะพัฒนาตัวละครด้วยการฝึกฝนทักษะบ่อยๆ ถ้าต้องการ Level ที่สูงขึ้น ก็ต้องฝึกแบบเดิมมากขึ้น
แต่ถ้าเปลี่ยน Class ในการเล่น เช่น ตัวละครเป็นนักธนูที่เก่ง แต่ไม่เป็นเวทย์มนตร์
แค่ฝึกเวทย์กับศัตรูที่เก่งๆ ก็สามารถ Up Level ได้เร็วแล้ว และนอกจากนี้ยังมีเวทย์ชนิดที่เพิ่มความสามารถ
Status / Skill ที่เหมาะสำหรับผู้เล่น Class ผสมแบบนี้ด้วย
ซึ่งเวทย์เหล่านี้หาซื้อได้ โดยที่จะมีขายพร้อมกับ Nature และ Combat ในร้านค้าของเกม

Graphic สำหรับตัวเสริมนั้นปกติแล้วก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก และยังคงใช้ Engine เดิม
เครื่องเก่าๆ ที่เคยเล่นภาคหลักมาแล้ว ก็ยังสามารถนำมาเล่นกับตัวเสริมนี้ได้ต่อไป

Sound รูปแบบดนตรีประกอบของเกมค่อนข้างน่าประทับใจกับเพลงปลุกใจ ...
แต่เสียง Effect ต่างๆ ยังฟังแล้วโบราณ และใช้ความละเอียดต่ำอยู่ ทำให้ดูเก่าโบราณ
(เพราะใช้เสียงของภาคหลักมารวมกันด้วย )

โดยรวมแล้ว Dunegeon Siege 2 Broken World นั้น
ไม่ใช่ ตัวเสริมที่เปลี่ยนแปลงตัวเกม แต่เป็นการเพิ่มเติมเนื้อเรื่องต่อให้ครบ
ทั้งเควสหลัก (Primary Quest) และเควสรอง (Secondary Quest)
รวมกับ เพิ่มแนวทางการเล่น Class และเวทย์สำหรับผู้ที่เล่น Class ผสมอีกนิดหน่อย

สำหรับผู้ที่รัก Dungeon Siege 2 แล้ว อย่าลืมนำ Broken World ไปเล่นต่อด้วยละ ...
นู๋ขอให้เกมนี้อยู่ในระดับ Medium (3/5)