ว่าด้วย"องศาที่ 361" และหนังสือที่เหมาะแก่การให้เป็นของขวัญ

สวัสดีค่ะ เราหายหน้าหายตาจาก bloggng มาตั้งเกือบปีแน่ะ ยังจำกันได้มั้ยคะ

รู้สึกหนักใจเวลาต้องเลือกซื้อของขวัญกันบ้างมั้ยคะ สำหรับเรานี่รู้สึกว่ามันยากชะมัดในการที่จะหาของให้ถูกใจทั้งตัวเองและคนรับ มีวันนึงที่ไปเดินเลือกกับเพื่อน เพื่อนเราบอกว่า อยากหาของที่function และน่าตื่นเต้น เห็นด้วยเลยค่ะ เป็นคำจำกัดความที่ตรงใจเป๊ะๆเลย แต่ตอบเพื่อนไปว่า "หายากนะนั่น หายากพอๆกับผู้ชายที่ function และน่าตื่นเต้นเลยล่ะ"(ฮา)

ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก และคนรอบๆตัวเราก็รู้ แต่เราก็ไม่ค่อยได้เลือกซื้อหนังสือเป็นของขวัญให้ใคร รวมทั้งไม่ค่อยได้รับหนังสือเป็นของขวัญซักเท่าไหร่ค่ะ เรารู้สึกว่าการเลือกหนังสือเป็นของขวัญนี่ยากนะคะ ถ้าให้คนที่ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือ ก็ต้องหาหนังสือที่น่าสนใจพอ ไม่น่าเบื่อจนทำให้อยากวางตั้งแต่แรก ส่วนถ้าให้คนที่ชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว ก็จะเจอประเด็น"มีแล้วรึยังหว่า"

เคยได้รับหนังสือเป็นของขวัญแค่ 2 เล่มเองค่ะ เล่มแรกคือเรื่องว้าวุ่นของคุณปินดา โพสยะจากเพื่อนสนิทที่มันรู้อยู่แล้วว่าเราชอบเรื่องนี้และยังไม่มี อีกเล่มคือ วันแรกของวันที่เหลือ ของคุณวินทร์ เลียววาริณ ได้จากน้องรหัส และเป็นของขวัญที่ถูกใจมากที่สุดชิ้นหนึ่งเลยค่ะ ชอบขนาดที่ซื้อเล่มเดียวกันนี่แหละเป็นของขวัญให้เพื่อนอีกคน(เรียกอีกอย่างว่าไม่ยอมคิดเอง ) และเรารู้สึกว่าหนังสือชุดนี้ของคุณวินทร์ คือ หนึ่งวันเดียวกัน วันแรกของวันที่เหลือ โลกด้านที่หันหลังให้ดวงอาทิตย์




เป็นหนังสือที่เหมาะกับการให้เป็นของขวัญมากๆค่ะ เพราะเป็นหนังสือที่ให้ข้อคิดในการดำเนินชีวิต ที่ไม่ได้ยัดเยียด แต่ปล่อยให้คิดและตีความเอาเอง บวกกับความ creative และภาพประกอบสุดเก๋ไก๋ รวมทั้งเนื้อหาแต่ละบทที่สั้นมากๆ ทำให้ไม่ต้องอ่านรวดเดียวจนจบ น่าจะเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือเท่าไหร่นะคะ
เคยเขียน review วันแรกของวันที่เหลือไว้ที่นี่ค่ะ

และตอนนี้ เราก็เจอหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่เหมาะกับการให้เป็นของขวัญค่ะ

องศาที่ 361 โดย"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"

คงไม่ต้องแนะนำผู้เขียนนะคะ น่าจะเป็นที่รู้จักกันดีใน pantip และ bloggang อยู่แล้ว นี่เป็นหนังสือเล่มที่สองต่อจากหนังสือรัก และในความคิดเรา นี่เป็นพัฒนาการแบบก้าวกระโดดค่ะ (ขออาจเอื้อมวิจารณ์นะคะพี่ ถือซะว่าช่วยโฆษณาหนังสือละกันน้าาา )

หนังสือรักเป็นหนังสือที่ว่าด้วยหนังรัก/โรแมนติก 25 เรื่อง โดยหยิบยกเรื่องราวความรัก-ความสัมพันธ์ในหนังแต่ละเรื่องมาเล่าให้คนอ่านฟังในแบบที่แถมข้อคิดให้นำไปปรับใช้กับชีวิตของตัวเองได้ โดยเขียนร้อยเรียงให้เชื่อมโยงกันในระหว่างหนังแต่ละเรื่องค่ะ







ส่วนองศาที่ 361เป็นหนังสือที่พูดถึงมุมมองในการดำเนินชีวิต การเผชิญหน้ากับปัญหา การใช้ชีวิตให้มีความสุข โดยแบ่งเป็น 9 บทแยกจากกัน ในแต่ละบทมีสารที่ผู้เขียนต้องการสื่อชัดเจน โดยหยิบยกหนัง 3-4 เรื่องที่มีประเด็นใกล้เคียงกันมาพูดถึงในแต่ละบท(ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องเป็นประเด็นหลักของหนังหรือไม่) หนังบางเรื่องอาจจะถูกพูดถึงมากหน่อย ขณะที่บางเรื่องถูกหยิบยกมาแค่ไม่กี่บรรทัด แต่เป็นการเรียบเรียงเรื่องราวที่ลงตัวดี ทำให้อ่านได้ไหลลื่น ไม่สะดุด และสื่อสารออกมาได้ชัดเจนดีค่ะ (ยกตัวอย่างเช่น บทโลกหมุนได้ด้วยมือเรา พูดถึงว่า เราสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตตนเองได้, บทI like U very much, just as you are พูดถึง การเป็นตัวของตัวเองและการเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเองเป็น, บทความฝันที่เป็นไปไม่ได้ พูดถึง การไล่ตามความฝันโดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค และบทที่เราชอบที่สุดคือ พื้นที่ชีวิต ที่พูดถึง เรื่องราวต่างๆในชีวิตที่เราให้ความสำคัญ) ซึ่งแม้เรื่องเหล่านี้จะฟังดูเป็นเรื่องง่ายๆ ธรรมดาๆที่ใครๆก็รู้ แต่อาจเป็นเรื่องที่ใครหลายๆคนไม่สามารถทำได้ และเป็นสิ่งที่สร้างปัญหาและความทุกข์ในชีวิตให้โดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้นะคะ

นอกจากเนื้อหาข้างในแล้ว องค์ประกอบภายนอกและรูปเล่มนี่เราชอบมากกว่าหนังสือรักเยอะเลยค่ะ ตั้งแต่ชื่อเรื่องที่ เท่กว่า น่าสนใจกว่า ไปจนถึงภาพประกอบข้างในที่น่ารักและดูต่อเนื่องกันดี รวมทั้งหน้าปกที่อาจจะเรียบไปนิด แต่เราก็ยังชอบมากกว่าปกของหนังสือรักนะคะ

ถ้าเปรียบกับหนังแล้ว หนังสือรักก็คงเป็นหนังโรแมนติกสุดซื้ง ส่วนองศาที่ 361 ก็เทียบได้กับหนังดราม่าชั้นดีที่ดูแล้วกระตุ้นให้คิดตาม สำหรับเราแล้ว ตอนอ่านหนังสือรักจบ ความรู้สึกคือ อยากดูหนังพวกนี้จัง ส่วนตอนอ่านองศาที่ 361 จบนั้น ความรู้สึกกลับเป็น อยากดูชีวิตของตัวเอง ว่ามีอะไรที่เราจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือทำความฝันให้เป็นจริงได้บ้างค่ะ

ก่อนที่จะหลุดธีมของ blog ไปไกล ขอชวนมาคุยถึงหนังสือที่เหมาะจะให้เป็นของขวัญกันค่ะ มีใครเคยให้เล่มไหน หรือมีเรื่องไหนจะแนะนำบ้างเอ่ย

Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2551 Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2551 23:44:58 น. Counter : 1706 Pageviews.		15 comments
Share Tweet