Blog No.3 : Slow Write (ตอน 1) ... หายหัวไปไหนมา ?
... ถึงแม้จะไม่มีใครอยากรู้นักแต่อยากเขียนครับฮ่าๆๆ อยากเล่าว่าที่หาย(หัว)ไปหกเดือนเพราะอะไร แล้วทำไมถึงตัดสินใจกลับมาเขียนบล็อก เลยขอเริ่มก่อนว่า 6 เดือนที่หายไปจากการเขียนเพจไปทำอะไรมาบ้าง (1) ดูซีรี่ส์ได้ยาวเลยครับ ภายในสองเดือนผมสามารถดู Lost ทั้ง 6 ซีซั่นได้อีกหนึ่งรอบ ต่อด้วยไล่ดู The Walking Dead จนถึงซีซั่นล่าสุด นี่ยังไม่นับ How to get away with murder , โอ๊ย อีกเพียบ ฯลฯ (2) ปลูกต้นไม้ เพาะเมล็ด กลายเป็นงานอดิเรกชิ้นใหม่ที่ช่วยอะไรได้หลายอย่าง (3) อ่านหนังสือมากมายที่ซื้อไว้ (4) ปลุกปั้นโปรเจคต์หนังสือใหม่ เป็นต้นฉบับที่ปั้นมาเป็นปีๆแล้วครับแต่ไม่ถึงไหนดูเป็นน้ำเป็นเนื้อสุดก็ช่วงหกเดือนที่ผ่านมานี่แหละครับ (ตั้งใจว่าอยากให้คลอดปีหน้า แต่แบบว่า ยังเขียนไม่เสร็จ แล้วก็ยังหาสำนักพิมพ์ไม่ได้ด้วย) (5) หยิบต้นฉบับหนังสือเล่มเก่าเล่มนึงมารีไรท์ เตรียมออกในงานหนังสือตุลาฯนี้ พิเศษตรงไม่ใช่พิมพ์ใหม่แค่เปลี่ยนปก เปลี่ยนอาร์ต แต่ เรียบเรียงเขียนใหม่ เพิ่มบทใหม่ *****
... เหตุผลที่หายหัวไปง่ายๆเลยครับคือผมรู้สึกว่า passionกับ creativity ในการเขียนเพจลดลง ตอนแรกก็ว่าจะตั้งสเตตัสขอพักลาแต่จากประสบการณ์ที่เคยเห็นๆมาการพิรี้พิไรร่ำลาประหนึ่งว่าตัวเองสำคัญนอกจากจะโดนหมั่นไส้ส่วนใหญ่ก็ไปได้ไม่นานก็กลับมาอีก จึงตัดสินใจหยุดอัพเดตแบบหักดิบครับ ยังคงเล่นเฟซโดยไม่ดีแอคติเวทแต่ควบคุมลมปราณไม่ให้อัพเดตแม้จะอยากมากก็ตาม ซึ่งการหยุดพักแล้วกลับมาสำรวจตัวเองแบบนี้ก็ทำให้ได้คำตอบอะไรหลายอย่าง อย่างแรกมาจากที่ค้นคว้าไปกับการเขียนหนังสือเล่มใหม่ผมก็ได้คำตอบนึงว่าสิ่งที่ผมลืมคือเรื่องของ Mental Energy (คิดคำไทยไม่ออก มันคือพลังอย่างหนึ่งแต่ไม่ใช่แรงแบบยกข้าวของแต่เหมือนพลังที่ต้องใช้ในการคิด ในการมีสมาธิ ฯลฯ) แต่ละวัน มนุษย์เราผลิตสมาธิ ผลิตความคิดสร้างสรรค์ได้ในปริมาณจำกัดนะครับ หรือสมองคุณผลิตสเตตัสที่โคตรจะคมอุดมไปด้วยพลัง อัดแน่นไฟแรงเฟร่อโอกาสที่คุณจะเขียนสเตตัสแบบนั้นออกมาใกล้ๆกันในวันเดียวกันเป็นเรื่องยากแล้วครับ เพราะงานเขียนชิ้นแรกใช้พลังงานไปเยอะแล้ว แล้วมันก็ทำให้นึกถึงวงจรการออกหนังสือของบ้านเราที่คนอ่านนิยมซื้อเฉพาะในงานหนังสือ นักเขียนจึงต้องผลิตงานให้ทันงานหนังสือปีละ 1-2เล่ม ซึ่งที่ผ่านมา มันเผาผลาญพลังงานชีวิตมากที่จะต้องรีดเค้นงานที่เราอยากให้ดี ออกมาให้ได้อย่างน้อยปีละหนึ่งถึงสองเล่ม ซึ่งต่างจากนักเขียนเมืองนอกที่ไม่ต้องมีเส้นตาย มาบีบมากขนาดนี้ แล้วผมก็มานั่งนึกถึงงานตัวเอง ในแต่ละ 1 ปี ต้องมีหนังสือ 1-2 เล่ม ในแต่ละ 1 เดือน ต้องส่งต้นฉบับทั้งหมด 4 ชิ้น คือ คอลัมน์นิตยสารFilmax 2 บทความ , คอลัมน์นิตยสาร All 1 บทความ , คอลัมน์นิตยสาร Happy อีก 1 บทความ แถม 3 ใน 4 นี้ก็เป็นเรื่องหนัง ในแต่ละ 1-2 วัน อัพเดตสเตตัสที่คิดว่าไม่ซ้ำกับที่มีคนเขียนไปแล้ว ความพยายามที่จะเขียนงานให้ดีเขียนสเตตัสให้ดี จึงเป็นเรื่องที่เหนื่อยสาหัสจริงๆ ***** ... นอกจากนี้ หกเดือนที่ผมถอยออกมานั่งอ่านนั่งติดตาม feed ในเฟซบุ้ค ผมก็ยังได้คำตอบอีกว่าไม่ใช่แค่เรื่องของ Mental energy ที่เป็นเหตุของปัญหาแต่กลไกของเฟซบุ้ค นี่แหละมาทำให้ผมเองเปลี่ยนไปโดยที่ตัวเองไม่เอะใจ คือเดิมเคยคิดว่า social media จะเป็นเครื่องมือที่ดีที่ช่วยให้เข้าถึงคนอ่านมากขึ้น สะดวกขึ้น เร็วขึ้น แต่เล่นไปนานๆเข้ากลายเป็นว่า ตัวเรากลับถูกมันเปลี่ยนแปลงไปทีละนิด แล้วก็มีผลกับการเขียนงานด้วย มันเปลี่ยนตัวเราได้อย่างไร ไว้ต่อบล็อกหน้านะครับ และจะตอบด้วยว่าทำไมเลือกกลับมาสู่วิถีบล็อกทั้งๆที่คนอ่านส่วนใหญ่หันไปสู่วิถีแห่งsocial media แล้ว คอยติดตามคุณหมอครับ
โดย: วรวิทย์ พิทักษ์พลรัตน์ IP: 223.206.121.4 วันที่: 23 กันยายน 2558 เวลา:16:35:32 น.
welcome back นะครับ ก็นึกอยู่ว่าหายไปไหนตั้งนาน ผมเข้าใจเลยเรื่องหมด Mental Energy เพราะเคยเกิดขึ้นเหมือนกันครับ เป็นกำลังใจให้นะครับคุณหมอนักเขียนคนโปรด :)
โดย: Mark Wongsakorn IP: 27.55.201.75 วันที่: 26 กันยายน 2558 เวลา:21:58:42 น.
ยินดีมากๆครับที่คุณหมอกลับมาเขียนบล็อกอีก
ผมติดตามงานเขียนคุณหมอใน blog มาตั้งแต่หลายปีก่อนแล้วครับ ชอบที่เวลาหาซื้อหนังมาดูแล้วย้อนมาอ่านบทวิเคราะห์ดีๆที่นี่ว่าเขียนว่าอย่างไรบ้าง ซึ่งการเขียน FB ด้วยระบบต่างๆ การจัดหมวดหมู่อะไรเอยมันไม่เป็นระเบียบ และอบอุ่นเหมือน blog นะครับ ผมเป็นคนนึงที่นานๆทียังแวะมาเยี่ยม blog คุณหมอเรื่อยๆแม้จะร้าง ไม่มีการเขียนใหม่ไปนานแล้ว :) โดย: ST IP: 171.96.181.135 วันที่: 27 กันยายน 2558 เวลา:2:46:52 น.
ยินดีที่คุณหมอกลับมาเขียนอีก ติดตามอ่านมาจากหนังสือตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้ จะตามอ่านต่อไปเรื่อยๆค่ะ
โดย: Kooong IP: 171.98.227.92 วันที่: 27 กันยายน 2558 เวลา:12:08:33 น.
เย้ ดีใจที่กลับมาเขียนต่อนะคะ
ช่วงที่ผ่านมา refresh ให้วุ่นทั้งใน bloggang ทั้งใน facebook ตามหาว่าหายไปไหนๆๆ โดย: kipkipkip วันที่: 27 กันยายน 2558 เวลา:13:46:32 น.
ติดตามอ่านบล็อกหน้าด้วยความตื่นเต้น :)
โดย: Gonz IP: 1.10.254.13 วันที่: 27 กันยายน 2558 เวลา:19:11:25 น.
คุณหมอหักดิบ แฟนๆ ลงแดง T T
โดย: Gonz IP: 183.89.32.65 วันที่: 27 กันยายน 2558 เวลา:21:33:41 น.
ดีใจที่ได้อ่านบทความของคุณหมออีกครั้ง ยังติดตามอยู่เสมอค่ะ
โดย: Tazerine IP: 1.4.220.61 วันที่: 9 ตุลาคม 2558 เวลา:4:17:12 น.
งานเขียนของคุณหมอโดนใจทุกชิ้นเลย ชอบมากค่ะ คอยติดตามและเป็นกำลังใจให้คุณหมอเสมอค่ะ
โดย: Ning IP: 192.99.14.34 วันที่: 12 ตุลาคม 2558 เวลา:9:16:42 น.
สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาเยี่ยมนะจ้ะ ^____^ สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ โดย: peepoobakub วันที่: 13 มีนาคม 2560 เวลา:17:00:36 น.
|
บทความทั้งหมด
|