|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
คุณคะ วันนี้หนูโดนท็อปที่เซ็นทรัลทำร้ายจิตใจค่ะ ฮือๆ
คุณคะ ถุงพลาสติกเนี่ย ต้นทุนการผลิตมันสูงมากไหมคะ
เข้าใจนะคะเรื่องต้องช่วยกันลดโลกร้อนเนี่ย
แต่คุณคะ ให้ถุงเพิ่มอีกซักใบจะมีใครตายหรืองัยคะ
เป็นคนที่นานๆจะเข้าไปซื้อของในท็อปที่เซ็นทรัลลาดพร้าวซะทีนึง เพราะขี้เกียจแบกขึ้นรถเมล์ ตามประสาคนจนๆไม่มีรถขี่ และไม่มีหนุ่มๆมาช่วยแบก ฮ่าๆๆ 
เมื่อหลายเดือนมาแล้ว คุณแคชเชียร์เธอใส่ของรวมๆมากะให้ประหยัดถุงมากที่สุด ของเพียบเลยพี่แกใส่รวมให้เป็น 2 ถุง และ 1ในถุงนั้น มีโค้กลิตร 1 ขวด น้ำผลไม้กล่องใหญ่ 1 กล่อง น้ำยาทำความสะอาด น้ำยาปรับผ้านุ่มแบบเติม ไข่ไก่แพ็ค ซึ่งขอบถุงของน้ำยาต่างๆกับกล่องไข่ไก่เนี่ย มันจะแหลม ด้วยความที่ถุงมันบาง แล้วน้ำหนักของมันเยอะ เลยขอถุงเค้าใส่ซ้อนเพิ่มอีกใบ ทันทีทันใด คุณแคชเชียร์เธอมองมาด้วยสีหน้าหยามเหยียดมาก แล้วเปล่งวาจาอันศักดิ์สิทธิ์ว่า "คุณจะใส่ซ้อนกันทำไม มันไม่ขาดหรอก" (กรุณาทำเสียงหนักแน่นตรงคำที่เน้น) สาบานได้ว่าวันนั้นหน้าคุณแคชเชียร์น่ากลัวมาก มากขนาดที่คนขี้วีนแบบฉัน ยังต้องยอม ฮ่าๆ
เออ เอ็งเจ๋ง ยอมก็ได้ฟระ

ปรากฏว่า เดินไปแค่พอพ้นประตูห้าง ไอ้ที่บอกว่าไม่ขาดนี่ ไม่เหลือ 
แล้วสมองอันแสนฉลาดน้อยก็คิดได้ว่า ซื้อไอ้พวกแบบนี้ในเซเว่นแถวบ้านก็ได้นี่หว่า ราคาก็ไม่ได้ถูกกว่ากันเท่าไหร่หรอก หนอยแน่ะ แล้วก็แบกถุงขาดๆขึ้นรถเมล์กลับบ้าน ชดใช้กรรมที่ไปขอถุงคุณแคชเชียร์เอาไว้
อีกไม่กี่เดือนถัดมา คราวนี้เข็ดไม่ซื้อของหนักๆที่เซเว่นไม่มีขาย ซื้อแต่พวกของกิน จำได้ว่าซื้อพวกเนื้อสัตว์ ผัก อาหารกระป๋อง และผ้าอนามัย!!! คุณแคชเชียร์ของที่นี่เค้าเทรนกันมาดี พี่แกเล่นใส่มันทุกอย่างอยู่ในถุงเดียวกัน ขนาดเซเว่นยังแยกผ้าอนามัยออกจากของกินเล้ย แม่เจ้า ตอนนั้นเหนื่อยๆ รีบๆก็เอาวะ ช่างมัน 
วันนี้ ...วันนี้นี่เอง ฉันไม่เจียมอีกแล้ว คุณแคชเชียร์เธอใส่ของลงถุง 2 ถุง มีอยู่ใบนึงที่ของหนักและขอบแหลมอีกเช่นเคย ฉันขอถุงจากคุณแคชเชียร์เพิ่ม 1 ใบ ได้ผล ดั่งคำถามฉันไปสะกิดต่อมอะไรของพี่แกเข้า หันมาตอบฉันด้วยสีหน้าหงิกสุดยอด ประหนึ่งว่า สามีเปียแชร์มาให้ไม่ได้ แล้วชีก็เปล่งวาจาออกมาด้วยเสียงตะคอกๆว่า "ทำไมคะ" "ก็รวมของให้แล้วงัย" (ถ้าชีเปล่งออกมาว่า แล้วจะเอาอะไรอีก ได้ ชีคงทำแล้ว) อารมณ์นั้นฉันอยากจะตอบกลับเหลือเกิน นี่เจ๊ ขอดีๆอ่ะ ไม่ให้ก็เออ ไม่เอา ไม่เห็นต้องมาตะคอกเลยนี่หว่า ฉันเป็นลูกค้าไม่ใช่เหรอฟระ และแล้ววันนี้ฉันก็ได้แบกถุงขาดๆที่ยัดของที่ไปซื้อหรือไปขอเขามาก็ไม่รู้ขึ้นรถเมล์กลับบ้าน 
เคยทำงานบริการมาเหมือนกัน จำได้ขึ้นใจว่า ถ้าเราให้อะไรลูกค้าไม่ได้ 1 ในคำที่ห้ามเด็ดขาด ห้ามพูดเนี่ย คือ "ทำไมคะ" ยิ่งอารมณ์ตอนนั้นเป็นยังงัยก็ยิ่งต้องไม่ชักน้ำเสียงหรือสีหน้าเด็ดขาด เพราะเราอยู่ได้ด้วยลูกค้า
หรือ มันมีแค่บริษัทเก่าฉันบริษัทเดียวที่ทำงานด้วยหลักการแบบนี้
หรือมันเป็นความผิดของฉันกันแน่ ที่เรื่องมาก
คุณคะ จำไว้นะคะ พนักงานแคชเชียร์ของที่นี่ ดุมาก ถ้าไม่จำเป็น ห้ามขอถุงเพิ่ม ไม่ว่าของจะหนักหรือแหลมจนบาดถุงอันแสนบางให้ขาดขนาดไหนก็ตาม เดี๋ยวจะหาว่าคนสวยไม่เตือน หุหุ
Create Date : 17 เมษายน 2552 |
Last Update : 17 เมษายน 2552 20:56:09 น. |
|
10 comments
|
Counter : 902 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: น้องกระชาย (กระชายน้อย ) วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:21:28:53 น. |
|
|
|
โดย: ตะวันเจ้าขา วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:21:33:04 น. |
|
|
|
โดย: ตะแง๊ว IP: 58.8.208.12 วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:22:03:04 น. |
|
|
|
โดย: beuysliv วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:22:20:40 น. |
|
|
|
โดย: gor_gai วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:23:33:45 น. |
|
|
|
โดย: โยเกิตมะนาว วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:13:19:13 น. |
|
|
|
โดย: โสดในซอย วันที่: 31 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:29:28 น. |
|
|
|
โดย: B.B.P. (boybangplee ) วันที่: 28 มิถุนายน 2552 เวลา:12:20:48 น. |
|
|
|
โดย: พัดลม IP: 125.25.122.2 วันที่: 29 มิถุนายน 2552 เวลา:21:58:28 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ผมรบกวนขอให้พนักงานที่กำลังจัดองุ่น เลือกช่อองุ่นที่เขากำลังยืนจัดให้หน่อยเพราะเขายืนขวางตรงนั้นอยู่นานมาก แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียง และโทนเสียงที่สุภาพมากๆด้วย ซึ่งผมกำลังรอองุ่นเพื่อจะไปจัดตะกร้า
พนักงานที่อยู่ตรงนั้นสองคนก็ทำทองไม่รู้ร้อน หลังจากได้ยินก็เฉยเมย คุยกันเรื่อยเปื่อยใจเย็นอยู่ ซึ่งผมก็ใจเย็นยืนรอจับเวลารวมอยู่ได้ห้านาที
เมื่อมั่นใจแล้วว่านอกจากเธอ(แค่)จัดองุ่นบนชั้นให้เรียบร้อยเพียงไม่กี่ช่อด้วยเวลาถึงห้านาทีแล้วนั้น แล้วยังยืนขวางชั้นที่ลูกค้าต้องการจะมาซื้อของ แถมยังทำทองไม่รู้ร้อนเพียงแค่หยิบช่อองุ่นที่อยู่ในมือพวกเธอส่งให้
ผมเลยตัดสินใจใช้โทรศัพท์มือถือโทรเข้าศูนย์บริการลูกค้าท๊อปเพื่อร้องเรียนขณะที่ยืนอยู่ตรงนั้นเลยครับ จากนั้นเขาก็โทรลงมาให้เจ้าหน้าที่รีบมาตรวจสอบและดูแลให้
หลังจากนั้นไม่พอ พอกลับถึงออฟฟิศก็อีเมล์เป็นภาษาอังกฤษไปร้องเรียนกับท๊อป ซึ่งก็ได้เมล์ตอบขอโทษกลับมาจากฝรั่งคนนึงจำชื่อไม่ได้แล้ว
ปล. ฉะนั้นอย่าลืมนะครับว่า Market Voice สำคัญมากสำหรับธุรกิจการบริการ
กรณีคุณอย่าทนลำบากข้าวของหกหล่นกระจัดกระจายต่อไปอีกเลยครับ ลำบากตัวเองเปล่าๆ ถ้าเขาอยากจะช่วยลดโลกร้อนก็หาถุงที่ผลิตด้วยผลิตภัณฑ์ธรรมชาติมาใส่ของให้เราสิ เพราะค่าถุงเขาก็ชาร์ทในราคาสินค้าเราอยู่แล้ว