จัดการเรื่องที่ค้างคา ที่ค้างไว้ครั้งก่อน
เรื่องราวเก่าๆอันล่าสุดที่ผมเคยอัพเอาไว้ คราวนี้ก็คงจะต้องถึงเวลาที่ต้องจัดการแล้ว อิอิ ดองเค็มไปนานเรยนะคับเนี่ย - -"ต่อจากคราวที่แล้วคือเริ่มวันที่สองของการไปทริปครับคราวนี้พวกเราไปหนองคายอ่ะคับแต่ก่อนอื่นเราต้องเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมใช่ป่ะครับ แล้วทีนี้ตอนเช้าก็มีข้าวกินด้วย จะบอกว่าอร่อยดีครับ ส่วนเพื่อนมันเอาเงินให้ผมเป็นค่าน้ำเปล่าที่มันเปิดดื่มอ่ะครับ ผมก็ไปเช็คเอ้าท์ให้มัน แต่พนักงานบอกว่าค่าน้ำฟรีค่ะ ให้ฟรี2ขวดต่อวัน(อ้าวไหงป้าทำความสะอาดบอกว่าคิดเงินเราเลยไม่กล้าดื่ม แถมยังมีใบราคาแปะไว้อีก โถ ต้องเอ๊ย เสียของฟรีเลย)ที่แรกที่ไปดูงานกัน เป็นหมู่บ้านครับ แหมเป็นหมู่บ้านที่ได้รับรางวัลซะด้วย แถมยังใจดีพาเราไปดูการผลิดสินค้าของเขาอีก แถมมีให้ชิมด้วยนะครับ เอาล่ะเหล่านักล่าของฟรีทั้งหลายแหล่ก็มะรุมมะตุ้มรุมทึ้งกันคราวนี้แหล่ะครับเขาก็พาไปทัวร์ที่ต่างๆของหมู่บ้านเลยครับไม่ว่าจะเป็น โฮมสเตย์ของเขา ลานทอผ้า อะไรทำนองนี้อ่ะครับทีนี้ผมกับเพื่อนก็เดินกันรั้งท้ายสุดปิดขบวน เดินชมนกชมไม้ไปเรื่อยๆเขาก็พากันไปที่ปะรำพิธีอ่ะครับ เพื่อเลี้ยงข้าวกลางวันให้กับเรา(ใจดีจังเยย)เพื่อนผมมันอยากเอาของไปเก็บบนรถก่อนอ่ะครับ เราเลยเดินไปขึ้นรถเพื่อเก็บของกันก่อน แล้วจึงเดินเท้าสมทบกับเพื่อนเพื่อกินข้าวกันแต่ทว่า....... เพื่อนตัวดีมันทำกระเป๋าใส่เครื่องสำอางหายอ่ะดิ มันบอกว่าเมื่อกี้ที่เดินๆกันอยู่ยังอยู่เลยอ่ะ คราวนี้ผมไม่อยากเดินไปหากับมันอ่ะดิ ก็มันเดินไกลนี่หว่า กรูเหนื่อยนี่ มันเลยใจกล้าหน้าด้านขอยืมจักรยานของเหล่าชาวบ้านมาปั่นหาของกันครับ ผมกับเพื่อนคนนี้กัน2คนปั่นทั่วหมู่บ้าน ทุกแห่งที่เราผ่านเพื่อหาของ ใจนึงผมก็อยากหาให้เร็ว เพราะหิวข้าววว แต่ว่าหาแล้วไม่เจอนี่สิเศร้าเรยกรูสุดท้ายบอกให้มันไปดูบนรถอีกครั้งสิ เพราะว่าครั้งแรกขึ้นไปหาแล้วไม่เจอครับ มันก็บอกว่าก็เมื่อกี้หาแล้วนี่ไม่เจออ่ะ ผมก็ว่าให้ลองดูอีกครั้งคราวนี้มันหาเจอครับ เพราะว่ามีพวกผ้าห่มบนรถทัวร์ครับแค้นมันเจงๆ เสียเวลาแด๊กเรยกรูและแล้วเราก็ออกจากสถานที่ดูงานก็เกือบบ่ายครับ กล่าวคำอำลากับแนะแนวจุดที่ควรแก้ให้กับกลุ่มแม่บ้านแล้วครับ ทีนี้พอถึงบนรถจะออกไปดูงานอีกที่นึงอาจารย์ก็บอกว่าเออนี่เขาคิดว่าเข้าชมงานเขานะ แล้วข้าวกลางวันเราก็ต้องเสียด้วย คนละ30กว่าบาท อ้าวนี่ไม่ฟรีเหรอว๊าฮือๆๆ นึกว่าจะได้กินฟรี อ่ะเรา แต่ช่างเถอะเราชิม+กินคุ้มเงินแร่ะ อิอิอิสถานที่ดูงานแห่งที่ 2 นี่ก็โซไฮมากครับ แห่งสุดท้ายของวัน ทว่าพวกเรามากันซะบ่าย เลยทำให้ดูไลน์การผลิตได้น้อย เพราะว่างานนี้ส่วนใหญ่เขาทำกันแต่เช้า เพราะเกษตรกรมาส่งวัตถุดิบกันตอนเช้าเลยครับ แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะผู้บรรยายให้ความรู้เราดีมากจนเข้าใจเลย แถมยังพาไปดูงานบางส่วนอีกนิดหน่อย ถือว่าโอเคครับ อิอิคราวนี้ถึงเวลาไปช็อปตลาดอินโดจีนแว้ว(ใช่ป่าววะเนี่ย ดองนานจนเกือบลืม)แต่อาจารย์ที่แสนดีท่านก็ให้เวลาในการเดินน้อยเหลือเกินครึ่งชั่วโมงครับพี่น้อง เอาล่ะสิเดินให้สนุกเรยนะเนี่ย แต่ก็ไม่ได้อะไรมากหรอกครับ เพราะของส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไร แต่ทีเด็ดของวันนี้คือโรงแรมครับโรงแรมช่างวไฮควอลิตี้ม๊ากมาก ประชดนะเนี่ย เพราะว่าเพื่อนเขาว่าโอเค แล้วตกลงกับทางโรงแรมแล้วผ่าน เพราะบางห้องต้องนอน 3 คน คือต้องได้3เตียงใช่ป่ะ แต่ว่ามันกลายเป็น 1 เตียงกับฟูก 2 อัน อ้าว เวรแล้วไงห้องเพื่อนกรู กลายเป็นว่าพวกเราไม่ประทับใจโรงแรมนี้เท่าไร เพราะว่าอย่างห้องพักของผมก็ไม่ค่อยโอเคนัก ต้องเรียกช่างมาเปลี่ยนหลอดไฟบ้าง เช็คเครื่องทำน้ำร้อนบ้าง แต่เราถือว่าช่างเถอะจ่ายเงินแล้วนี่หว่า อีกใจก็เคื้องเคืองโรงแรมตกกลางคืนก็กินข้าวกับเพื่อนครับกะว่าจะไปกินแหนมเนือง แต่ว่ามันหมด เลยไปนั่งกินร้านอาหารข้างๆแทน ร้านช่างเงียบเหงาม๋าหงอยเหลือเกิน ไม่ค่อยคึกครื้นเลยครับ แต่อาหารผ่าน คงเป็นเพราะว่าที่เราไปมันไม่ใช่ช่วงเทศกาลแล้วก็เราไปกันดึกหน่อยล่ะมั้ง เกือบทุ่มล่ะมั้งทีนี้ก็ถึงเวลากลับโรงแรมแล้วครับ พวกเราก็ต้องหารถกลับกันล่ะ เพราะว่าขามาพ่อเพื่อนที่อยู่จังหวัดนี้มาส่ง เขาคิดเราเท่าไรก็จำไม่ได้ แต่เพื่อนที่แสนดีก็แหลเขาไปว่าขึ้นมาราคานี้นะคะ ทั้งๆที่กรูเพิ่งขึ้นรถเหล่านี้ครั้งแรก แต่ความแหลอันเป็ฯประโยชน์ทำให้เราจ่ายเงินน้อยลง ^^ตกดึกมาสิมา มาเล่นไพ่ กัน คราวนี้มี 2 วงครับไอ้เราก็ว่อนทั้ง 2 วงเลยครับ วงแรกได้ได้เอาๆจนเพื่อนให้เป็นเจ้ามือ ไม่ทันจบการเป็ฯเจ้ามือตาที่ 2 ครับ ผมก็ต้องเผ่นกลับห้องทันทีครับไม่ใช่ตำรวจมาไม่ใช่อาจารย์ท่านจับได้ รู้ว่าแกน่าจะรู้ว่าเราทำไรกัน แต่แกไม่ว่าแต่ว่าผมเสียอ่ะดิ ขาดทุนๆๆจนต้องกลับไปห้องตัวเองเอาเงินมาใช้หนี้ โฮๆๆ เล่นได้ตองบ้าง ได้ 5 เด้งบ้างกันทั้งวงนู๋ก็ซวยจิคับกลางดึกก็birthday เพื่อนเจ้าบ้านกันแยกย้ายกันนอนกำลังฝันอยู่ดีดี เพื่อนสาวที่แสนดีคนเดียวกับที่ทำเครื่องสำอางหายอ่ะครับมันมาปลุกผม เราก็มึนๆว่ามันมาได้ไงวะ คนละห้องนี่หว่า ได้ความมาว่า ยัยเนี่ยมันโดนผีหลอก ได้ยินเสียงทุบประตูเสียงดังมากครับ หลายครั้งเรื่องของเรื่องคือมันจะมาขอนอนด้วย แต่ว่ายังมีเพื่อนร่วมห้องอีกคน ยัยเนี่ยก็กลัวผีครับ แต่ว่ามันหลับไปแล้ว แถมปลุกบยากด้วย เอาล่ะสิ มันก็กลัวไม่อยากนอนที่ห้องต่อแล้ว เลยลำบากผมกับรูมเมทอ่ะดิครับ เราก็เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ ก็รีบปลุกเพื่อน ปลุกเท่าไรก็ไม่ตื่น อ้าว Eนี่ขี้เซา เอาล่ะวะ ช่วยกันห้อยปีกมันคนละข้าง แต่ระหว่างจะยกเพื่อนเนี่ย ได้ยินเสียงทุบประตูอีกแล้ว ตายแว้วๆๆๆๆ มันมาแล้ว รีบเผ่นกันเร้ว คืองี้ครับขอเล่าถึงห้องเพื่อนหน่อย คือเหมือนกับห้องผมแร่ะครับ(อย่าเพิ่งด่าว่าเรากวนน๊า) แต่สิ่งหนึ่งที่ต่างกันคือ ห้องมันติดริม แถมมีระเบียงด้วยสิเนี่ย แล้วก็มีประตูซะด้วย แต่ตอนนี้เขาปิดไม่ให้เปิดครับ ตรงระเบียงเลยเอาต้นไม้มาปลูกแทน แล้วต้อนเสียงก็มาจากประตูที่ว่านั่น น่ากัวๆๆๆผมก็พาเพื่อนขี้เซามานอนเตียงเดียวกับผม ส่วนอีกครก็นอนกับเมทผม เอาล่ะสิชายกะหญิง กรี๊ดดดดว้ายตายสลบม่ายช่ายอย่างนั้นนะ มันมีเหตุผลอ่ะ คือเรากะเมทตัวโตทั้งคู่น ขืนนอนเตียงเดียวกันล่ะก็ตกเตียงทั้งคู่แน่ ทางเดียวที่จะนอนด้วยกันได้คือต้องรวมร่างกับมัน อิอิส่วนยัยขี้เซามันนอนดิ้นด้วยอ่ะดิ อีกคนตัวมันโตหน่อยอ่ะนะ สรุปคือผมนอนกะขี้เซาครับ ไม่กลัวแฟนมันว่าครับ เพราะเรากิ๊กกาน เหอๆๆๆจะหลับอยู่แล้วมันดันเอาแขนมาพาดเราอ่ะดิ ทำไงดีๆๆ เรากยกแขนมันออกโดยไว หลายครั้งมากครับสุดท้ายก็หลับกันอย่างปกติสุข แถมตื่นกันสายอีก เกือบกินข้าวเช้าไม่ทันแน่ะแล้วตอนตื่นยัยขี้เซามันก็งงมากครับว่าเหตุใดมันมานอนกะต้องได้ไงเนี่ย แก๊ทำอะไรช๊านรึเปล่า ฉานไม่ได้ทำอารายแกหรอกเว้ย ชิๆๆๆ เอาล่ะครับ คราวนี้วันนี้ฟรีไทม์เที่ยวลาวทั้งวัน ยู้ฮูๆๆๆแต่ว่าจะได้ขึ้นรถทัวร์เที่ยวลาวแบบวันเดียวจบก็ปาไปตั้ง10โมงกว่า แถมยังนัดรถฝั่งไทย4โมงเย็นด้วยสิเนี่ยเอาล่ะสิ แถมมีดิวตี้ฟรีที่ต้องไปกระจายรายได้ด้วยครับ ทำไงดีๆๆๆๆ จะทันมั้ยว๊า กลุ้มๆๆๆบนรถทัวร์ไปบรรยายอย่างสนุกสนาม ถ้าจำไม่ผิดไกด์เราคือพี่น้อยครับ สาวชาวลาว แกบอกว่าถ้าวันไหนมาอีกเรียกใช้งานน้อยดำนะค๊ะ จะได้เจอกันอีกพี่แกบรรยายสนุกดีครับ ไปกันที่วัด(อะไรก็จำไม่ได้) เขาบอกว่าถึงลาวไม่ได้ไปวันนี้ถือว่าไม่ได้มาก่อนที่จะได้ไหว้พระท่านอ่ะครับ เขามีกุศโลบายให้เราๆนักท่องเที่ยวเนี่ย ถือธูปเทียนดอกไม้เดินวนรอบโบสถ์ก่อน1รอบ รอบใหญ่มากๆๆ ระหว่างทางก็มีรูปภาพให้ชม เป็นแกลลอรี่เลยครับ ทุกภาพขายหมด(ล่ะมั้ง) แล้วแต่ว่าเราต้องการภาพไหน กอ่นจะจบรอบก็มีศิลปินท่านนึงนั่งกับกองรูปภาพที่จะขาย แล้วก็กำลังวาดรูปด้วยแหละ แต่เราไม่ซื้อหรอก เพราะมะมีเงิน หุหุไหว้พระเสร็จกินไอติมโบราณครับ ผมขอกินกับเพื่อนเพราะไม่อยากถือกิน กลัวเลอะ แต่อยากกินฟรีไปซื้อของต่อครับ ไปที่ร้านขายของพื้นเมืองลาว จำพวกผ้าไหม ผ้าพันคอ ราคาไม่เท่าไรเองครับ20-200บาทล่ะมั้ง แล้วก็มีเครื่องเงิน สวยดีครับ แต่ว่าราคาแอบไม่น่ารัก ผมก็เจออันที่ถูกใจแต่ก็แอบเสียดายเงินช๊อป แต่ก็ตกลงใจซื้อมาครับให้อาจารย์ต่อให้ด้วย แตว่าก่อนจ่ายเงินมาลองสินค้าก่อนครับ ปรากฏว่าใส่แล้วคับเกินไป เรยไม่ซื้อซะงั้น อิอิ (อย่างนี้มันงก)ไปดูประตูชัย กินข้าวที่ตลาดกระซิบว่าอาหารที่นี่อร่อยดี แต่จืดไปหน่อย แมราคาแพงกว่าไทยด้วยนะ ปกติเรากิน25ใช่ป่ะตามตลาด ที่นี่ขาย40ครับท่านผู้อ่านไปชมวัดกัน แต่เราก็เร่งอาจารย์ด้วยความที่อยากช๊อปเลยไปดูวัดได้แค่อีกแห่งเดียวเท่านั้นครับ แล้วไปช๊อปเลย อาจารย์แกก็อยากเที่ยวนะ เลยแอบเคืองเล็กน้อยถึงดิวตี้ฟรีครับ มีเวลา45นาทีในการช๊อป ช่างน้อยม๊ากกกเวลาน้อยก็ทำให้ผมได้ของน้อยนิดนึงอ่ะครับ เนื่องจากของที่เราไปดูไม่ถูกใจเราเท่าไรนัก เพื่อนมันก็คอมเม้นท์เราด้วยอ่ะดิ ทำไงดีๆๆ เลยไม่ซื้อครับ เพราะพอคิดๆดู มันก็ไม่ค่อยสวยเท่าไรจริงๆด้วยเลยได้มานิดหน่อย แต่ที่ขาดไม่ได้คือ เบยลาว(เบียร์ลาวอ่ะครับ) ได้มาโหลนึงเอาล่ะโอเคแร่ะกลับได้พี่น้องระหว่างข้ามฝั่งลาว มองๆไป ทางลาวมันดูเงียบๆกว่าไทยดีจังเลย แล้วอากาศเหนือแม่น้ำนานาชาติก็บริสุทธิ์ดีครับ ผมเลยสูดอากาศเข้าไปเยอะๆให้ดีท๊อกซ์ร่างกายเลย แต่เมื่อคืนทางด้านหนองคายอากาศก็ดีนะครับ หนาวดีแถมมลภาวะน้อยด้วยระหว่างกลับก็แวะพตลาดอินโดจีนแว๊บนึง ขออาจารย์เป็นกรณีพิเศษ เพราะว่าจะซื้อแหนมเนืองกับของกินเล็กน้อย คือไม่อยากซื้อก่อนไง กลัวเด๋วของจะเสียซะก่อนได้กินแล้วเดินทางไปอุดรเหมือนเดิมครับเพื่อไปกินข้าวเย็นแล้วก็ไปส่งเพื่อนบางคนขึ้นเครื่องบินกลับบ้านข้าวเย็นหอยทอดอะไรมากร้านนี้ขี้นชื่อมากครับ แล้วตอนกินเสร็จผมก็เหลือบไปเห็นป้ายเล็กๆแปะโฆษณาร้าน ถ้าคิดลามกหน่อยก็ประมาณว่า อย่าลืมนึกถึงหอย อะไรประมาณนี้อ่ะครับ ก็ขำขำดีแล้วเราก็กลับถึงมหาลัยอย่างสวัสดิภาพกันตอนตี4ผมก็ไปพักผ่อนก่อนอ่ะครับ 9โมงเช้าจึงได้ฤกษ์กลับบ้านคราวนี้ถึงอีกเรื่องที่ต่อไว้ในหัวเรื่องครับ เกี่ยวกับ สีลมจะอะไรซะได้ล่ะครับ คือเรื่องเป็นงี้วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ครับ หลังจากทริปประมาณอาทิตย์นึงวันนั้นเป็นวันล้างแค้นบอลไทยสิงคโปร์ครับ ที่สนามศุภฯ 4ก.พ.ไงล่ะครับ จำได้แม่นเลย เหอๆๆๆคืนนั้นจะไปงานเลี้ยงอำลาปี4ครับ เป็นปีที่พวกผมจัด คอนเซ็ปคือนานาชาติ แต่ผมจะไม่แต่งตามนั้นเพราะว่าขี้เกียจอ่ะนะ แค่เสื้อเชิ๊ตกับยีนส์ก้พอแร่ะ ถึงวันนี้ก็แอบเสียดายเล็กน้อยอ่ะเนอะ น่าจะใส่ไปสนุกกับเพื่อน แต่เราเขินไง กลัวไม่กล้าออกจากบ้าน(จริงๆแล้วที่โรงแรมเพื่อนเขาจองห้องไว้แต่งตัวด้วย)ออกจากบ้าน ผมก็ไปร้านทำผมเลยครับ ให้ช่างเซ็ทให้ สระเซ็ทครับ บอกเขาว่าจะไปออกงานอ่ะพี่ เซ็ทให้ไฮๆเลยนะ><ทรงนี้ผมว่าก็โอเคนะ ออกจากร้านได้ไม่อายใคร แต่ว่าพอเราขึ้นแท็กซี่อ่ะดิ บอกว่าจะไปบีทีเอสหมอชิต เขาถามว่า หนูๆๆ จะไปสีลมเหรอ อ้าวเวรกำๆๆๆ นี่กรูออกขนาดนั้นเรยเหรอวะเนี่ยแอบเสียเซลฟ์เล็กๆ บอกลุงไปว่าม่ายช่ายค๊าบ จะไปงานเลี้ยงรุ่นที่นานครับ ถ้าจะไปสีลม ผมต้องขึ้นรถใต้ดินแล้วค๊าบ มะช่ายบีทีเอสอ่ะเขินเลยกรู