จากพี่สู่น้อง เกือบจะม่องที่ดอยเชียงดาว
เดือนธันวา ช่วงวันพ่อ ปีกลาย เราเก็บข้าวของกระโดดขึ้นรถ ไม่คิดหน้าคิดหลัง เราจะเอาเสื้อผ้าไปแจกเด็กบนดอย หุหุ แค่หัวเรื่อง ก็เท่แล้ว เกิดมานอกจากเข้าข่าย เนตรนารี สามัญรุ่นจิ๋ว ตอน ป. 5 ป. 6 ก็ไม่เคยไปข่ายกะเค้าเลย อยู่มหาลัย กิจกรรมก็วนเวียนอยู่ตามโรงหนังซะส่วนมาก อย่ากระนั้นเลย เป็นพลขับให้น้องๆ ดีกว่า เราเอาใจไปฝากน้องเต็มเปี่ยม
ออกเดินทางขึ้นเหนือ ตอนเย็นๆ คิดว่าขับกลางคืนดีกว่า เราแก้ง่วงกันด้วยการเม้าแตก หนังเกาหลีล้วนๆ เนื่องจากนั้นตอนนั้นกำลังอิน เปิดเพลง Full House ไปประมาณ 8 รอบ นินทา ท่าเต้นน้องเรน จบด้วยประเด็น ปริศนาเร้นรัก พี่ชาย แห่งออธั่ม กะน้องชาย จีซบ เราอยากละอยากจะกดปุ่ม อีเจค คนต้นเรื่องนักเชียวชอบจิ้นประเด็น ล่อแหลมเรื่อยเชียว ตอนนั้นเราก็ถึงอุตรดิษฐ์ กันแล้วหละ รู้สึกเพลียแล้วเหมือนกัน ไม่ได้ง่วงหรอก แต่ เครียด เรื่องน้องขีด สุดเลิฟ เอาหละ ปุเลงๆ ไปถึงเชียงใหม่ ได้ 2 โมงของวันใหม่ ตีสองน่ะ เราขอบอกว่า เชียงใหม่ เนี่ย ไปบ่อยมาก หลงประจำ ไม่เคยจำอะไรได้ โดยเฉพาะ ในคูเมือง บอกน้องที่พาไปว่า นัดกันแถวๆ ไฮเวย์นะ เพราะใกล้บ้านที่หมายน่ะ ก็ขับๆไปเกร็งซะ จ๊ะเอ๋ นั่นไง ประตูช้างเผือก กรูว่าแล้ว เดจาวู หลงซิครบ กลับหัวหางไม่ถูกแล้วคราวนี้ เลี้ยวยังไงวะตรู จอดที่ 7/11 ทุกสาขา ช่วยท่านได้ 24 ชม. ลงไปซื้อน้ำดื่ม ซาลาเปาไม่รับ ขอแผนที่เจียงใหม่ 1 อัน แล้วก็ถามน้องคนขาย เปิ้นคงช่วยเฮาได้ น้องๆ พี่จะไปอาเขตอ่ะน้อง ไปทางไหน พี่งงกะคูเมืองมากเลย น้องเซเว่น ปี้ก็ จุด จุด จุด ปะกะถนน จุด จุด จุด........" เอ่อ น้องๆ ช่วยอย่าอู้คำเมืองได้ก่ ปี้มากจากกุงเตบเจ้า เฮ้อ สมาชิก งง เอ๋อกว่าเดิม น้องเขาอ่อนภาษากลางมากเลย เราไม่ได้ปรับหู ง่วงก็ง่วง แต่โง่มากกว่า จากที่เห็นป้าย ยินดีต้อนรับเข้าเขตจังหวัดเชียงใหม่ มาก็จะชั่วโมงนึงแล้ว ยังออกนอก ถนน คูเมืองไม่ได้เลย ในที่สุดก็จอดรถแถวโรงบาลเชียงใหม่ราม โทรตาม คุณน้าของเพื่อนน้องคนที่พาเรามาตอนเกือบตีสาม ให้เขาขี่มอร์ไซค์ มานำฝูง นกเอี้ยงไปที่บ้านเขา เพราะเราไม่สามารถหาอาเขต ขนส่งเชียงใหม่ได้ เวรกรรม จริงๆ น้าคร้าบป๋มสูมาเต๊อะเจ้า
ไปถึงบ้านเขาก็ ขอนอนหนึ่งคืน น้องที่เป็นหลานเจ้าของบ้านเขาไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก เขาฝากว่าจะมีเพื่อนมาจาก กทม 4 ตัว ส่วนเขาจะมาจากแพร่ ไปเจอเราที่อาเขต นัดกัน 9 โมงเช้า พวกเราได้นอนเอาแรงตอนตีสี่เห็นจะได้ คร่อกๆๆ สงสารเจ้าของบ้านจริงๆเอย เช้ามา ลูกเจ้าของบ้าน ตื่นมาเจอ กองมนุษย์ 4 ตัวนี้ นอนเขลงในบ้านเขาหน้าตาแป้นแล้นที่สุด เขาดูงงงๆ เราก็ไม่งงหรอก เพราะด้าน หุหุ พอพร้อมก็ให้เขาไปส่งเราที่อาเขต เหตุการณ์งุนงงสับสนมาก กว่าจะได้สมาชิกครบ เราก็วนรถทั่วเมืองเชียงใหม่ ได้ไปที่สันกำแพงด้วย ออกเดินทางจริง ร่วม 11 โมง เป้าหมายคือ ดอยอ่างขาง.......ตามที่เราเข้าใจนะ เราทิ้งรถยนต์ไว้ที่บ้านน้าคนนั้นแหละ จะไปกับสมาชิกคนอื่นๆ
ใครเคยไปดอยนี้มั่ง อืมม เรานี่แหละเคย สมาชิกอีก 3 คน ยังไม่เคยไป อืมมม ก็แก่กว่าเขานี่นะย่อมผ่านโลกมามากกว่า หุหุ เราหายใจไม่ทั่วท้องเลย ตอนที่เห็นยานพาหนะที่จะพาเราขึ้นดอย แต่มัน หลังชนฝาแล้วอ่ะ น้องๆเจ้าของโครงการ มาไกล จากแพร่ เป็นนักเรียน ม. 6 ส่วนนึง เจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานสำนักข่าวเด็ก และเยาวชน จังหวัดแพร่ และเจ้าหน้าที่จาก โรงพยาบาลแพร่ มี ขาจรอย่างพวกเราบางคน ไม่มากนะ ทุกชีวิต ประมาณ 30 คนได้ บวกของส่วนตัว แล้วก็ของที่จะเอาไปบริจาค อัดกันเข้าไปในรถ 6 ล้อ ออกเดินทางได้ ล้อหมุนแล้วคร้าบ
ผ่านไป 3 ชั่วโมง เราก็แวะทานข้าวที่ อำเภอเชียงดาว โดยแวะทานที่ สำนักงานอำเภอ มีรถบัสคณะอื่นจอดด้วย เราหนังตากระตุกนิดๆ อีกกี่ ชม. หนอ จะถึงอ่างขาง รถวิ่งไปเรื่อยๆ น้องๆในคณะ คุยกันสนุกสนานมากเลย แต่พวกเรายังไม่คุ้น ก็เขาอู้คำเมืองกันตลอดทาง แต่ฟังสนุกนะ แต่เราก็ขำตามเขาไม่ค่อยได้ หาปุ่มซับไตเติ้ลไม่เจออ่ะ ถึงแม้จะนั่งเบียดกันแทบจะหนุนตักกันเลยอะนะ น้องๆแต่ละคนยิ้มหัวไม่มีทีท่ากังวลแม้แต่น้อย รถเริ่มเลี้ยวออกนอกตัวเมือง ลดเลี้ยวขึ้นสู่ที่สูงเรื่อยๆ รถเราเริ่มวิ่งอย่างเดียวดาย นานๆจะมีมอร์เตอร์ไซค์แม้ว วิ่งสวนมั่ง วิ่งแซงมั่ง เราเริ่มแปลกใจ เพราะจำได้ว่าทางขึ้นดอยอ่างขางมันเป็นถนนใหญ่นี่หว่า เอ๋ เราจะไปไหนกัน
ทนไม่ไหวออกปากถามน้อง หัวหน้าทีม ซึ่งเป็นเพื่อนกับน้องที่ชวนเรามาหละ เขาบอกว่า ที่อ่างขาง มีทีมอื่นไปแล้ว ก็เลยเปลี่ยนเป็นโรงเรียนที่บ้านแกน้อย บนดอยเชียงดาวแทน โอเช เราสบายใจได้ว่าเขาไม่หลงซักกะหน่อย โล่งอกได้ไม่ทันไร ได้ยินเสียงกึกใหญ่ รถกระตุกนิดนึง ทั้งคณะ กรี๊ดกัน เล็กน้อย แล้วก็ฮา ต่อ แต่เราได้กลิ่นไหม้ๆแล้วหละ ตากระตุกเป็นครั้งที่สอง บอกตามตรงตอนนั้นเราเริ่มมองข้างทาง เวลารถไต่ขึ้นเนิน นึกภาพเรา กลิ้งงับๆลงไปตามไหล่เขา แค่คิดก็เสียวแล้ว
มีน้องที่ไปกะเรา มันเป็น เมกคะนิก มันกระซิบบอกว่า พี่ๆ ผมว่า เพลา มันไปแล้วหละ แป๊บเดียว ตอนขึ้นเนิน เราต้องลงวิ่งตามรถ เพราะลากไปไม่ไหว ในที่สุดเครื่องก็เงียบ จากเราไปอย่างสงบ ไปดีเถอะนะ พาขึ้นมาได้ขนาดนี้ก็เมกาเพาเวอร์แล้ว ดูรูปประกอบก็แล้วกัน
ระหว่างนั้นเราก็ ตามคุณครู ที่โรงเรียน พา ตชด มาช่วย ช่วงรอ เราก็เก็บรูป แถวๆนั้นมาหละ มีเด็กชาวเขาเดินกลับจากโรงเรียนมาดูเป็นพักๆ บรรยากาศดีนะ ทุกคนไม่เครียดเลย สบายๆมาก ไม่มีใครบ่น ยกเว้นคนขับรถที่ ก็บ่นนิดๆ เขาไม่รู้ว่าเช่ารถมาขึ้นดอย อย่างนี้ จากที่เราเคยไปเที่ยวเหนือ รถที่ใช้ขึ้นดอยสูง ถ้าไม่ใช่ โฟร์วิล ก็จะต้องเป็นรถตู้ที่โมเครื่องให้แรงสุดยอด ผ้าเบรกต้องเช็คสภาพตลอด แต่รถ ลุงคนนี้ ปกติวิ่งในตัวเมืองแพร่เท่านั้นอ่ะ ขึ้นมาถึงนี่ได้ ใจครับใจ
เราไปถึง บ้านแกน้อย ประมาณ 4 โมงเย็น เด็กๆวิ่งเล่นเรอพี่ๆ ตั้งแต่โรงเรียนเลิก ประมาณ 3 โมงเย็น น้องๆ น่ารักมากเลย อุตส่าห์รอ ว่าแล้ว เจ้าหน้าที่เค้าก็เริ่มกิจกรรม กล่าวแนะนำตัว เล่นเกมส์ ร้องเพลง น่ารักมาก มีแข่งเตะบอล ระหว่างทีมเด็ก มอหก จาก แพร่ แล้วก็เด็ก ปอห้า โรงเรียนแกน้อย แต่ละคนไม่ธรรมดา เตะกันเท้าปล่าวเลย จำไม่ได้แล้วว่าใครชนะ แต่ทุกคนหน้าเปื้อนยิ้ม มอมแมม ซะไม่มีหละ
ระหว่างนั้น ก็มีเด็กเล็กๆ ที่ยังไม่ได้เข้าโรงเรียนมาแจมครับ ขอโทษ เด็กแนว นะเด็กแนว ไม่เชื่อดูรูป นั่งกันเป็นแนวมั๊ยล่ะ ไม่ต้องขอเลยนะ น้องโพสท์ท่า แบบมืออาชีพ ขอบอกว่าเด็กดอย ไม่กลัวใครแล้ว ตั้งแต่มี อัลบั้ม ของรุ่นพี่ มายด์ ใจดี เนี่ย แหม ช่างภาพอย่างเราชักรูปใจสั่นหวิวๆ ดูน้องลายทหารซะก่อน เซ็กซี่ไม่ใช่เล่น
จากนั้นเราก็ผลัดกันมอบของให้โรงเรียน เราก็เลยรู้ว่าตัวแทนมาจากหลายกลุ่ม คนเริ่มโครงการ เป็นเจ้าหน้าที่ประจำ ส่วนคนอื่นๆก็เป็นเพื่อนสมัยเรียนบ้าง บอกต่อๆกันไปบ้าง น้องๆนักเรียนเขารู้เพราะเป็นกลุ่มลูกค้าร้านนม หน้าโรงเรียน ของเจ้าหน้าที่นั่นแหละ กลุ่มเราก็ได้มอบของกะเขาเหมือนกันนะ รู้สึกเป็นเกียรติ มากเลย เพราะเราตามๆน้องเขามาเอง ไม่ได้รู้จักโครงการแบบนี้มาก่อน
เราหายเหนื่อยเลยนะ เข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงมากันไกลได้ขนาดนี้ บางคนมาจาก นราธิวาสอ่ะ มาวันเดียวแล้วก็นั่งรถไฟกลับวันรุ่งขึ้น ถ้าไม่ใช่ใจจริงๆ เขาเอาเงินไปเที่ยวกะทัวร์ก็ได้
ซักประมาณ หกโมงครึ่งก็ เสร็จสิ้นพิธีแล้ว รถ คุณครูกับ ตชด พาเราไปที่พักที่ ศูนย์ เพาะพันธ์พืชเชียงดาว เขาเตรียมเต้นท์ไว้ให้เรียบร้อย พวกแขกดอยอย่างเราไม่ต้องทำอะไร แค่ไปอาบน้ำเราหม่ำมื้อเย็น อ้อ คืนนั้นไฟดับทั้งหมู่บ้าน แหม มันมาพร้อมฟามเดือดร้อนจิงๆ วิ่งผ่าน้ำแบบมืดๆ เสร็จก็ไฟมาพอดี เราไปกิน หมีเกาหลู ฟรีๆ กันเถอะ ปรากฏว่า ไม่เคยกิน บุฟเฟ่ ที่ไหนซะใจ อย่างนี้มาก่อน ขอบอกว่าว่า พยาบาล เมืองแป้ เนี่ย เยี่ยมยอด ทำอาหารรำแต้ๆ รำขนาดเจ้า เล่นตลก แลกหมูกันเลยงานนี้ กินไป คุยไป อากาศหนาวๆ น้องๆก็ร่ำสุรากัน คุย ฮา สนุกมากๆ ไม่ได้เหน็ดเหนื่อยกันเล้ย อายุน้อยมันก็ดีแบบเนี้ยนะ ว่าแล้วป้าก็ขอลาไปนอนก่อนละ เท้ายังไม่ทันพ้นประตูเต้นท์ ก็หลับเป็นตาย อากาศดีมากๆ คิดถึงบรรยากาศจัง
เช้ามา ตื่นไม่สายมาก หุหุ แขกดอย ขี้ยา ถามหากาแฟกันมือสั่น งันงก ต้มน้ำชงเองงานนี้ เด็กๆ แก็งหมูเกาหลีเมิ่อคืน เพิ่งจะลุกไปนอนได้ซัก 2 ชั่วโมงก่อนละมั้ง แล้วก็ ยังมีข้าวต้มยามสายให้อีกชุดหญ่าย โอย อิ่มจังตังค์ครบ ไปเที่ยวมาหลายแพ็กเกจ ไม่เคยสบายขนาดนี้เลย ให้ตายเถอะ เดินเล่นถ่ายรูปยามเช้าได้หลายใบอยู่ เจ้าหน้าที่โครงการมาบรีฟ ให้ฟังเรื่องโครงการหลวง กับความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเขา เขาจะรับพันธ์ไปปลูกแล้วเอาผลผลิตมาแลกพันธ์ใหม่ ในหลวงท่านไม่ให้แจก บอกว่าไม่มีใครได้ของฟรี ต้องไปปลูกมาแลกเท่านั้น ท่านสร้างอาชีพ หาตลาดให้ ถ้าใครไม่ทำกินท่านก็ช่วยไม่ได้ สินค้าจากชาวบ้านนี่เองกลายเป็น แบรน ดอยคำ ให้เราซื้อหาได้ทั่วไปนี่เอง
เราอยู่บนดอย จนประมาณ บ่าย สองโมงรถก็ซ่อมเสร็จแล้ว แต่พวกเรากลับลงมาก่อน พร้อมๆ กับทีมที่จะกลับใต้ ขาลงรู้สึกว่าไม่นานนัก เพราะลงมากะรถ เจ้าหน้าที่ เขาส่งลงที่ตลาด เชียงดาว แล้วพวกเราก็นั่งรถแดงๆ กลับเข้าเชียงใหม่เอง ระหว่างทางมีตรวจคนเข้าเมืองด้วย เราต้องสำแดงบัตรประชาชน นะ เสียดาย ไม่ได้ร้องเพลงชาติ ประ เท ประ ไท รัว เรือ เนื้อ ม่ะเบื่อ รึงะ .........จบแล้วจ้า ทริบนี้ สนุกแบบไม่ได้คาดหมาย ถ้ายังมีแรง ป้าจะเตรียมของไปให้หลานๆอีกเน้อ ผ่อกันใหม่ปีหน้านะเจ้า
Create Date : 30 ตุลาคม 2549 |
|
4 comments |
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2549 12:03:48 น. |
Counter : 992 Pageviews. |
|
|
|
ชอบเพลงเด็กดอยใจดีอ่ะ น่ารักดี
อยากบอกว่าเค้าเต้นท่าน้องมายด์ได้ด้วย 555