ผมและเพื่อนๆ ไม่มีใครจำได้หรือรู้จักชื่อพะตี้ ทั้งชื่อกะเหรี่ยงและชื่อจัดตั้ง พวกเราทั้งหมดเรียกเขาว่า พะตี้ ในฐานะผู้อาวุโส
ในยุคสงครามประชาชน พะตี้ ประจำกองร้อย 911 กองกำลังหลักของจังหวัด บุคลิกและนิสัยส่วนตัวของเขาเป็นที่ประทับใจของผู้ร่วมงาน เขาคอยดูแลเอาใจใส่เพื่อนทหาร ทำงานมากกว่าคนอื่น ทุกข์หน้า สุขอยู่หลัง เขาเป็นคอมมิวนิสต์แบบฉบับของเหมาเจ๋อตง
อดีตสหายนักศึกษายุคนั้นชื่นชอบเขามาก จนช่วงหวนกลับเขาเป็นคนแรกที่อดีตนักศึกษาเดือนตุลาถามหาเสมอ
หลังจากการวางอาวุธ พะตี้ไปอยู่ที่บ้าน ทิจอชี เขายังคงขันแข็งทำงาน ทั้งงานส่วนตัวและงานส่วนรวม จนวัย 70 ปี เขาสามารถหารายได้จากความสามารถด้านช่างไม้ ในการวางเสาและคานบ้าน
พะตี้ดำรงชีวิตอย่างสมถะ ไม่ได้แสวงหารายได้จากการปลูกพืชเชิงพาณิชย์ เขาทำไร่หมุนเวียนตามแบบบรรพบุรุษ ที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี รายได้ก็มาจากพริกในไร่ข้าว ขายข้าวให้เพื่อนบ้านเพราะพะตี้มีข้าวเหลือกินทุกปี
เขายังใช้ชีวิตเหมือนในอดีตด้วยจิตใจรับใช้ส่วนรวมและแบ่งปัน เช่น ปลูกกะหล่ำปลีในที่นา หรือพื้นที่ว่าง แล้วให้คนในหมู่บ้านไปเก็บกินได้ตามสะดวก แต่ทว่าชาวบ้านก็มองเขาอย่างไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องออกแรงทำงานให้คนอื่น แม้กระทั่ง ลูกของเขาก็ยังบ่นว่า ปลูกทำไมเยอะแยะ กินจนเบื่อแล้ว
เมื่อลุงพินิจฟื้นฟูวิถีฤๅษีประมาณปี 2545 พะตี้เป็นกำลังสำคัญในการจัดงานบุญปีใหม่กะเหรี่ยง ที่จะมีการฉลอง 7 วัน 7 คืน ตั้งแต่ขึ้น 8 ค่ำ ถึง 15 ค่ำเดือน 4 และเชิญชวนคนเข้าร่วม
การรวมตัวของกลุ่มฤๅษีบ้านมอทะ ได้เป็นฐานสำคัญของการฟื้นฟูวิถึดั่งเดิมของจะเย่ หรืออดีตผู้ใหญ่สมหมาย ถึงได้กลายเป็นกลุ่มต้นทะเล
พะตี้หนึ่งในนักรบฤๅษีองค์ที่ 7 ที่เข้าโจมตีกองทหารพม่า ชาวกะเหรี่ยงลุ่มแม่จันร่ำลือว่า นักรบฤๅษีมีคาถาคงกะพัน จึงมีความมั่นใจและกล้าโจมตีกองทหารพม่าด้วยดาบ
เรื่องเล่าว่า สองครั้งแรก นักรบฤๅษีเข้าโจมตีแบบประชิดตัว ใช้ดาบไล่ฟันทหารพม่า บาดเจ็บล้มตายหลายคน จนกระทั่งครั้งที่สาม ฝ่ายทหารพม่าเห็นพวกเขาก่อนจึงยิงกลุ่มนักรบฤๅษี จนบาดเจ็บล้มตายหลายคน
เมื่อมีโอกาสพบกับพะตี้ ที่มาร่วมงานบุญที่บ้านมอทะ ผมถามเขาว่า นักรบฤๅษียุคนั้นมีแต่ดาบอย่างเดียว และมีคาถาคงกะพันจริงหรือเปล่า
พะตี้เล่าว่า ไม่มีคาถาคงกะพันหรอก ส่วนอาวุธเราก็มีปืนบ้าง อย่างการรบที่เจด่ง เขาใช้ปืนเซกาลัง ครั้งนั้น ทหารพม่าเห็นพวกเขาก่อน จึงเปิดฉากยิงใส่พวกเขา มีคนบาดเจ็บมาก และตายจำนวนหนึ่ง
ผมถามต่อว่า ความเสียหายที่เจด่ง ทำให้พวกเขาเลิกรบกับพม่าหรือ
พะตี้เล่าต่อว่า พวกเขากลับไปรวมตัวที่เลตอคุ หลังจากนั้นไม่นาน กอซูเล่ หรือเคเอ็นยู มาจับฤๅษีองค์ที่ 7 ไป พวกเขาจึงได้แต่รอคอย มิตรจากตะวันออก
พะตี้ บอกว่า เมื่อลุงพินิจไปพา มิตรจากตะวันออก มาถึง เขาก็สมัครร่วมกับ กองทัพปลดแอกประชาชนไทย (ท.ป.ท.) ของพรรคคอมมิวนิสต์ทันที
ปีนี้ พะตี้และจะเย่ พาอดีตนักศึกษา 6 ตุลา ไปเยี่ยมหลุมฝังศพของสหายนักศึกษาที่เสียชีวิตที่นี่ จากการป่วยเป็นมาเลเรียลงตับ เมื่อเดินกลับจากที่ฝังศพต้องเดินลงตามทางลาดชัน พะตี้พูดกับจะเย่ว่า ผมยังเดินป่าเก่งมาก ทำให้รู้สึกภูมิใจอย่างยิ่ง