อ่า ... เข้ามานั่งเป็นเพื่อนข้างๆ นะคะ

  

เราเคยเป็นแหล่ะ ร้องจดหมดแรงเลย แต่วันหนึ่งก็จะหยุดเอง ความเจ็บปวดมันอยู่กับเราไม่นานหรอก ทุกคนเจออะไรผ่านเข้ามาแต่สุดท้ายเราก็ต้องก้าวต่อไป แล้วสิ่งดีๆก็จะเกิดขึ้นได้

  

เวลาจะเยียวยาทุกความรู้สึกที่เจ็บปวด แล้ววันนึงเราจะรู้สึกว่า นี่ฉันผ่านมันมาแล้วหรอเนี่ย ฉันก็ยังไม่ตายนี่นา

  

สวัสดีค่ะ

ใจเย็นๆ นะคะ

ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ถ้าจะทำจริงๆ

อยากให้แม่จ๋า นำพาตัวเองออกจากปัญหานั้นซะ..

ง่ายๆ แค่เปลี่ยนเรื่องที่กำลังคิด สังเกตความคิดของตัวเอง สังเกตุความรู้สึกของตัวเอง

ทันทีที่เริ่มทุกข์ ทันทีที่เริ่มคิดเกี่ยวกับคนที่ทำให้เราทุกข์ก็เปลี่ยนไปคิดเรื่องอื่นๆ

คุณแม่จ๋า ชอบดูหนังมั๊ย.. หาหนังสนุกๆ มานั่งดู
คุณแม่จ๋า ชอบฟังเพลงมั๊ย.. หาเพลงเพราะ สร้างสรร มาฟัง
คุณแม่จ๋า ชอบอ่านหนังสือมั๊ย.. หาหนังสือดีๆ มาอ่าน..
คุณแม่จ๋า ชอบจัดบ้านมั๊ย.. มาจัดบ้านใหม่ ให้น่าอยู่
คุณแม่จ๋า ชอบเล่นกับลูกมั๊ย.. เล่นกับลูกดีกว่า..

คุณแม่จ๋า ...
พี่เป็นห่วงนะ
พี่คอยเป็นกำลังใจให้ค่ะ

  

เหนื่อยนักก็พักบ้าง
ฝากความห่วงใยและกำลังใจ
มานั่งเป็นเพื่อนข้างๆค่ะ

  

หายใจเข้าลึกๆ ใจเย็นๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ คิดถึงคนที่เขาแย่กว่าเราไว้มันจะได้รู้สึกดีขึ้น รวมทั้งคนรอบข้างที่รักเรา หนูเองก็เพิ่งผ่านเรื่องร้ายๆมา แฟนที่คบกันตั้งแต่สมัยเรียน ตกลงปลงใจจะสร้างครอบครัวด้วยกันอยู่แล้วเร็วๆนี้ ติดต่อไปมาหาสู่กันตลอด เพราะทำงานอยู่คนละจังหวัด วันนึงเดือนส.ค. 53 มีผู้หญิงโทรมาบอกว่าท้องกับเขาและก็อยู่กินด้วยกันมาแล้ว 1ปี ก่อนหน้านี้ก็ทำคนอื่นท้องมาแล้ว2 หน และเขาให้ไปทำแท้ง ทุกคน รวมแล้ว 3ชีวิตที่สูญเสีย ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า โอ้แม่เจ้า ช็อกๆๆๆ นี่เราโง่เพราะไม่รู้เหรอ เพราะเขาดีกับเราและครอบครัวมาก ไม่เคยคิด ไม่มีเวลาเตรียมใจ ร้องไห้นะสิ ไม่หยุด หนีงาน หนีออกจากบ้าน ไปหามันแต่มันไม่ยอมอยู่คุย เครียดมาก ข้าวปลาไม่กิน เรี่ยวแรงหายหมดไม่มีแม้แรงจะพยุงตัวเดิน กำลังจะโดดตึกที่ห้องพักมันนั่นแหละ อยู่ดีดีก็เกิดความรู้สึกคิดถึงคนที่บ้าน ก็เลยหยุดร้องไห้ บอกกับตัวเอง กลับบ้านเราเถอะ เพราะฉะนั้น อย่าเสียเวลาอีกเลย สงสารลูก เอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์กับตัวเองและคนรอบข้างนะ เข้มแข็ง เดี๋ยวก็หาย เชื่อสิ ถ้าเขารักเรา รักครอบครัว เวลาจะพาเขากลับมาเอง ถึงตอนนั้นเราต่างหากต้องถามตัวเราเองว่ายังต้องการเขารึเปล่า

  

****** ความสุขซ่อนไว้ที่ไหน *******



มีมารน้อย 3 ตน แอบมาขโมยความสุขของมนุษย์เอาไปแล้วก็
ปรึกษากันว่าจะเอาไปซ่อนที่ไหนดี
ตนแรกก็ว่า “ควรเอาไปซ่อนที่ภูเขาที่สูงที่สุดในโลก”

แต่มารน้อยตนที่ 2 ว่า “เพื่อนเอ๋ย มนุษย์นั้นไม่กลัวความสูงแต่
กลัวหายใจไม่ออก เพราะสังเกตได้ว่า ดำน้ำได้นิดเดียวก็ทะลึ่งพรวด
ขึ้นมาแล้วเพราะกลัวใจไม่ออก แต่บนภูเขาอากาศดี มนุษย์ชอบไป
เที่ยวภูเขา เอาไปซ่อนไว้ใต้บาดาลดีกว่า”

มารน้อยตนที่ 3 แย้งว่า “อย่าเลยเพื่อนเอ๋ย มนุษย์มันเก่งสร้งเครื่อง
มือหาของในทะเล ในอากาศได้ เดี๋ยวมันก็หาเจอ แต่สังเกตได้ว่านัยน์
ตามนุษย์มองไปข้างนอก หูก็ชอบฟังเสียงข้างนอก ชอบไปเที่ยวข้าง
นอก เราควรแอบเอาไปซ่อนไว้ในใจมันดีกว่า มนุษย์หาไม่เจอแน่ ๆ
เพราะว่ามนุษย์ชอบหาความผิดของคนอื่น ไม่ชอบขัดใจตัวเอง ไม่
ชอบดูจิตใจของตัวเอง”

มารน้อยทั้ง 3 ตน ก็ตกลงความเห็นเป็นเช่นเดียว ตั้งแต่นั้นมา
มารน้อยก็เอาความสุขของมนุษย์มาซ่อนไว้ที่ใจ มนุษย์ผู้โง่เขลาจึง
ออกไปหาความสุขที่อื่น ที่ภูเขา ที่ชายทะเล ที่คลับ ที่ร้องเพลง
จึงหาความสุขไม่พบ ต้องออกไปข้างนอกความสุขในที่ผิด ๆ ตลอด
มา คนที่ไปเที่ยวเธคเที่ยวคลับกินเหล้า เพราะว่าเขามีทุกข์ จึงต้อง
ออกไปหาความสุขมากกลบเกลื่อน มาเฉลี่ยเพื่อให้ทุกข์นั้นน้อยลง
แต่พอเมาแล้วกลับบ้านหายเมาตื่นเช้ามาทุกข์นั้นก็ยังคงมีอยู่เหมือน
เดิม โดยหารู้ไม่ว่าความสุขที่เฝ้าติดตามเฝ้าหา อยู่ที่ใจตัวเองนั่นเอง
ใยต้องออกไปหาความสุขที่อื่น ต่อให้หาเท่าไหร่แต่ใจยังร้อน
รุ่ม ไม่สงบ ก็หาสุขนั้นไม่พบหรอก จริงๆนะคะ



****** ความสุขซ่อนไว้ที่ไหน ******* คำตอบคือ อยู่ที่ใจค่ะ ****



มาเป็นกำลังใจให้นะคะและมานั่งเป็นเพื่อนไม่ขอร้องไห้ค่ะแต่จะขอเป็ฯที่ให้พักพิงแล้วกันนะคะ สู้ สู้ เข้มแข็งและอดทนค่ะ