กันยายน 2553

 
 
 
2
3
4
5
6
7
8
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
ตัดสินใจยังไงดี?????????

กลับมาแล้ว กลับมาเฉยๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


ทำเหมือนกับว่าเขาออกบ้านไปทำงานเฉยๆ


ไม่ได้เดือดร้อนใจ อะไรเลย เพียงแต่เงียบไปเท่านั้น


เราก็ไม่ถามนะ จะไม่ถาม เพราะสิ่งที่เฝ้าพยายาม


สิ่งที่เฝ้าภาวนามาตลอดมันไม่เกิดผล ทนกับทนก็แค่นั้น


ครอบครัวคงจะแตกแล้วล่ะ ครอบครัวของฉันคงไม่ใช่ครอบครัวที่มีความสุข


อีกต่อไปแล้ว คงหล่นหายไปตามกาลเวลาแล้วล่ะ


ฉันพาลูกออกจากบ้านแล้ว หลังจากที่เขากลับมา


ปล่อยให้เขาอยู่ไปคนเดียวสักพักคงดีขึ้น นั่นเป็นเพราะฉันคิดเอง


พอถึงตอนเย็นฉันไปรับลูกที่โรงเรียน ลูกฉันไม่อยู่ที่นั่น


คุณครูบอกว่า พ่อเขามารับไปแล้ว เขากำลังเล่นตลกกับฉัน


เขารู้ว่าฉันขาดลูกไม่ได้ เขาเอาลูกมาเป็นข้อต่อรองกับฉัน


เขาบอกว่าถ้าจะเลิกกัน เขาคงต้องเอาลูกไปด้วย


เพราะคนอย่างฉันไม่มีวันที่จะให้ลูกได้เข้าโรงเรียนที่ดีๆได้


คงไม่มีเงินพอที่จะเลี้ยงลูกของฉันได้อย่างสมบูรณ์แบบ


นั้นคือสิ่งที่ออกจากปากของเขา และนั่นก็คือความจริง


เพราะทุกวันนี้เกือบทุกอย่างของลูกเขาเป็นคนจ่ายเสมอ


ทั้งค่า นม แพมเพิส ค่าโรงเรียน ขนม นมเปรี้ยว


เดือนๆนึงสำหรับลูกก็เกือบห้าหกพันแล้ว


แต่คุณลืมคิดไปว่า ทุกคำพูดที่ลูกพูดได้ ลูกอ่านได้


ลูกรู้จักไหว้ รู้จักเกือบทุกอย่าง นั่นมาจากฉันไม่ใช่เหรอ


สิ่งที่คุณไม่เคยให้ลูกเลยไง ลูกไม่ได้เติบโตมาแค่เงินเท่านั้นนะ


ลูกเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของฉันเป็นหัวใจ เป็นความรู้สึกรัก


เป็นตัวแทนของคุณ เป็นสิ่งที่ทำให้ฉันตัดคุณไม่ขาด


แม้ว่าคุณจะทำกับฉันมากมายขนาดไหน


แค่คืนเดียวที่ฉันไม่มีลูก ฉันเหมือนคนจะเป็นบ้า


ยิ่งกว่าที่คุณหายไปซะอีกเทียบกันไม่ได้เลยละ


คุณยังกล้าที่จะเอาลูกไปจากฉันอีกเหรอ


คุณไม่ยอมถ้าเราเลิกกัน นั้นก็หมายถึงคุณไม่ยอมปล่อยฉัน


คุณบอกว่า คุณยังรักฉัน ยังรักลูกเหมือนเดิม


บ้าไปแล้ว คุณมันบ้า เห็นแก่ตัวที่สุด


คนรักที่ไหนเขาทำกันแบบนี้ ไม่มีแน่ๆ


ฉันจะทำยังไงต่อไปดี จะหนีก็หนีไม่ได้เขาไม่ยอมปล่อยฉันง่ายๆ


เขาไม่ยอมเลิกกับฉัน เขาบอกว่ารักฉัน ขาดฉันจริงๆไม่ได้เลย


ก็ไม่รู้พรุ่งนี้ชีวิตจะเป็นยังไงต่อไป ทำไงดีล่ะ


เขาบ้าไปแล้วแน่ๆ แล้วยังยืนยันทั้งๆที่ฉันไม่ได้ถามอีกนะ


ว่าไม่มีใคร เฮ้อ  น้ำตาผู้ชายไหลง่ายๆ เพียงแค่ฉันขอเลิก


เขาบอกว่า ขอโทษ อีกแล้ว แต่ไม่สัญญาว่าไม่ไปอีก


นั่นไง ฉันเดาได้ แต่คราวนี้มีน้ำตานะ แปลกๆจริง


คงรู้ว่าฉันเอาจริงแล้วล่ะ  ฉันควรทำไงดีค่ะ ฉันควรทนต่อไปอีกไหม


และฉันจะทนต่อไปเพื่ออะไรดี ไขว้เขวเหลือเกิน


ตัดสินใจไม่ได้ เพียงแค่น้ำตาของเขา


แต่ถ้าจะเลิกก็ใจหายเหมือนกันนะเนี่ย









Free TextEditor



Create Date : 11 กันยายน 2553
Last Update : 11 กันยายน 2553 10:51:05 น.
Counter : 735 Pageviews.

13 comments
  
เป็นกำลังใจให้นะคะชีวืตคู่มีปัญหาแทบทั้งนั้น ให้โอกาสเขาและเรา อย่าใช้อารมฌ์และทิถิเป็นใหญ่ ใจเย็นๆๆปล่อยวาง เวลาผ่านไปจะช่วยเราได้
โดย: nuase ฟ้าใส IP: 172.16.1.99, 182.52.222.101 วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:11:13:16 น.
  
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:11:34:03 น.
  
ถ้าคุณยังรู้สึกผูกพันอย่าเพิ่งเลิกค่ะ เพราะมันยังไม่ถึงที่สุด อดทนเพื่อลูกค่ะ และอดทนจนกว่าคุณจะรู้จักคำว่า " ร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา " และคำว่า " เจ็บจนเกินเจ็บ " เมื่อถึงเวลานั้นแหล่ะค่ะถึงจะเรียกว่าถึงที่สุด...
เพราะมันเจ็บ จนชางัยคะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ วางแผนชีวิตในอนาคตไว้ เตรียมไว้เผื่อได้ใช้...ค่ะ
โดย: JOY IP: 125.25.33.214 วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:12:42:04 น.
  
ถึงกับมาเอาลูกไปเลยเหรอคะ
ลองดูกันไหม ลองเอาจริงกันสักตั้ง โมโหแล้วนะนี่
เฉพาะสองสามวันนี้นะ
ไม่ต้องตามไม่ต้องถามอยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะเอาลูกไปเลี้ยงยังไง
ผู้ชายอยู่กับเด็กได้กี่วันกันเชียวถ้าไม่เอาไปให้ญาติผู้ใหญ่เลี้ยง
ถ้าเอาไปให้ญาติผู้ใหญ่เลี้ยงเราก็ไปเอามาได้เพราะพ่อแม่เขาไม่มีสิทธิ์อยู่แล้ว

โดย: แม่อาเดียว IP: 110.49.193.241 วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:13:34:41 น.
  
เป็นกำลังใจให้ค่ะ แต่ละคนมีปัญหาชีวิตไม่เหมือนกัน

ต้องอดทน อดกลั้นเข้าไป

แต่ยังไง ขอให้ผ่านพ้นปัญหาด้วยดีค่ะ
โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:14:19:27 น.
  
เป็นกำลังใจให้นะคะ
โดย: LoveLovePangHom วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:14:26:57 น.
  
สวัสดีค่ะ

การตัดสินใจยังงัยดี...
ก็ขึ้นอยู่กับว่า ..
เป้าหมายสูงสุดในชีวิตของคุณแม่จ๋า คืออะไร..
ความสุขที่สุดของคุณคืออะไร

แน่นอน การได้สมหวัง ครองรัก มีครอบครัวที่อบอุ่น
มีพ่อแม่ลูก ที่รักและผูกพัน.. ย่อมเป็นเป้าหมาย เป็นความสุขที่สุดของชีวิตเรา

แต่..

ต้องยอมรับว่า ปัจจุบัน ณ วันนี้ มันไม่ใช่
เราสามารถได้ในสิงที่เราคาดหวัง..
เราไม่สามารถมีครอบครัวที่อบอุ่นได้ ไม่สามารถมีสามีที่รักเรา เท่ากับที่เรารักเขาได้

ก็คงต้องปรับทัศนคติ ปรับความต้องการ และความสุข ที่เคยตาดหวังจากเขา ให้เป็น ความสุขที่สามารถ ให้ตัวเองได้

หากปรับไม่ได้ ก็มีทุกข์ ซึ่งจะไม่มีวันสิ้นสุด

ณ วันนี้
อย่าเรียกร้อง อย่าโหยหาความรักจากเขา เพราะ เขาไม่มีให้แล้ว...
อย่าเรียกร้อง ความสนใจจากเขา เพราะเขาไม่มีให้อีกแล้ว..

ใจเย็น ๆ
แล้วค่อย ๆ คิด ...

สมมติ นะคะ
หากให้คุณควักลูกตาตัวเองออกสองข้าง ตัดแขน ตัดขา ตัวเองทิ้ง เพื่อแลก กับการให้เขามาอยุ่กับคุณ มารักคุณเหมือนเดิม คุณจะยอมรึเปล่า...

หากตอบว่ายอม .. เหตุผลเพราะอะไร.. คุณจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร...

หากตอบว่า ไม่ยอม .. เหตุผลเพราะอะไร.. คุณจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร..

ณ วันนี้
ขณะที่เขาไม่กลับบ้าน .. คุณกับลูก มีที่นอนที่อบอุ่นและปลอดภัยรึเปล่า

ขณะที่เขาไม่กลับบ้าน..คุณกับลูก มีอาหารที่มีประโยชน์ทานครบสามมื้อรึเปล่า..

ขณะที่เขาไม่กลับบ้าน.. คุณกับลูก มีกิจกรรมอะไรที่ต้องทำรึเปล่า มีทีวีดูมั๊ย มีเพลงฟังรึเปล่า.. คุยกัน หยอกล้อเล่นกันกับลูกได้มั๊ย..

ลูก เป็นเด็กสุขภาพแข็งแรงรึเปล่า..
ลูก เป็นเด็กสมบูรณ์ไม่ได้พิการใช่มั๊ย..


แล้วมีอะไรที่คุณทนไม่ได้
แค่ผู้ชายที่ไม่ได้รักคุณ ไม่กลับมาบ้าน..
แค่ผู้ชายที่ไม่ได้รักลูกจากใจ ไม่กลับบ้าน..

เขาให้ความสำคัญตัวเองแค่ไหน
ก็ให้เขาสำคัญแค่นั้น..

เขาเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย..เขาจ่ายค่าต่างๆเกี่ยวกับลูก ก็นับว่าเป็นพ่อที่ดี ถึงแม้จะไม่ดีที่สุดก็ตาม

คุณ ควรอยู่เฉยๆ ให้เขาเป็นฝ่ายตัดสินใจ..
อย่าพยายามสร้างปัญหาเพิ่ม..
การหอบลูกหนี ไม่ใช่การแก้ปัญหา

..

นิ่งๆ ให้มากที่สุด..
ค่อยๆ ฝึกจิตใจตนเอง ให้คิดในแง่ดี
คิดในเรื่องที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขได้

เข้าใจว่ายาก และทำได้ยาก มากๆ

แต่จำเป็นต้องฝึก ต้องทำ..

ไม่งั้น ก็จะทุกข์ใจอยู่แบบนี้
ไม่งั้น ปัญหาก็เพิ่มขึ้นเรือยๆ

..
เป็นกำลังใจให้นะคะ
โดย: LoveTurJang วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:20:27:28 น.
  
สวัสดีค่ะ

จะตัดสินใจยังงัยดี...
ก็ขึ้นอยู่กับว่า ..
เป้าหมายสูงสุดในชีวิตของคุณแม่จ๋า คืออะไร..
ความสุขที่สุดของคุณคืออะไร

แน่นอน การได้สมหวัง ครองรัก มีครอบครัวที่อบอุ่น
มีพ่อแม่ลูก ที่รักและผูกพัน.. ย่อมเป็นเป้าหมาย เป็นความสุขที่สุดของชีวิตเรา

แต่..

ต้องยอมรับว่า ปัจจุบัน ณ วันนี้ ไม่ใช่
เราสามารถได้ในสิงที่เราคาดหวัง..
เราไม่สามารถมีครอบครัวที่อบอุ่นได้ ไม่สามารถมีสามีที่รักเรา เท่ากับที่เรารักเขาได้

ก็คงต้องปรับทัศนคติ ปรับความต้องการ และความสุข ที่เคยคาดหวังจากเขา ให้เป็น ความสุขที่สามารถ ให้ตัวเองได้

หากปรับไม่ได้ ก็มีทุกข์ ซึ่งจะไม่มีวันสิ้นสุด


ใจเย็น ๆ
แล้วค่อย ๆ คิด ...

สมมติ นะคะ
หากให้คุณแม่จ๋าควักลูกตาตัวเองออกสองข้าง ตัดแขน ตัดขา ตัวเองทิ้ง เพื่อแลก กับการให้เขามาอยุ่กับคุณ มารักคุณเหมือนเดิม คุณจะยอมรึเปล่า...

หากตอบว่ายอม .. เหตุผลเพราะอะไร.. คุณจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร...

หากตอบว่า ไม่ยอม .. เหตุผลเพราะอะไร.. คุณจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร..

ณ วันนี้
อย่าเรียกร้อง อย่าโหยหาความรักจากเขา เพราะ เขาไม่มีให้แล้ว...
อย่าเรียกร้อง ความสนใจจากเขา เพราะเขาไม่มีให้อีกแล้ว..


ณ วันนี้
ขณะที่เขาไม่กลับบ้าน .. คุณกับลูก มีที่นอนที่อบอุ่นและปลอดภัย ใช่หรือไม่

ขณะที่เขาไม่กลับบ้าน..คุณกับลูก มีอาหารที่มีประโยชน์ทานครบสามมื้อ ใช่หรือไม่

ขณะที่เขาไม่กลับบ้าน.. คุณกับลูก มีกิจกรรมอะไรที่ต้องทำ มีทีวีดู มีเพลงฟัง.. คุยกัน หยอกล้อเล่นกันกับลูกใช่หรือไม่..

ลูก เป็นเด็กสุขภาพแข็งแรงใช่หรือไม่..
ลูก เป็นเด็กสมบูรณ์ไม่ได้พิการใช่หรือไม่..


หากตอบว่าใช่ ของคำถามทั้งหมด
แล้วมีอะไรที่คุณทนไม่ได้
อะไรที่มีความสำคัญมากไปกว่านั้น..

แค่ผู้ชายที่ไม่ได้รักคุณ ไม่กลับมาบ้าน..
แค่ผู้ชายที่ไม่ได้รักลูกจากใจ ไม่กลับบ้าน..


เขาให้ความสำคัญตัวเองแค่ไหน
คุณแม่จ๋าก็ให้เขาสำคัญแค่นั้น..

เขาเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย..เขาจ่ายค่าต่างๆเกี่ยวกับลูก ก็นับว่าเป็นพ่อที่ดี ถึงแม้จะไม่ดีที่สุดก็ตาม
มีเขาอยู่ในฐานะสามี เขายังดูแลค่าใช้จ่าย ให้ลูกได้สุขสบาย
ได้มีโอกาสเรียนดีๆ
นี่ก็เป็นเหตุผล ที่จะทำให้คุณแม่จ๋า อดทน และทำเพื่อลูกได้

คุณแม่จ๋า ควรฝึก ปรับเปลี่ยนความคิดของตัวเองใหม่
รักตัวเอง รักลูกให้มาก มากกว่าที่เคยรัก
เห็นแก่ตัว เห็นแก่ลูก มากกว่าที่เคยเห็น

คุณแม่จ๋าควรทำ และตัดสินใจอะไรที่มีผลกระทบกับลูกให้น้อยที่สุด

ระหว่างผู้ชาย กับลูก..คุณแม่จ๋า เลือกอะไร

หาก คุณแม่จ๋า เลือกลูก ให้ลูกมีความสำคัญที่สุดในชีวิต
คุณแม่จ๋า ควรอยู่เฉยๆ

อย่าพยายามสร้างปัญหาเพิ่ม..
การหอบลูกหนี ไม่ใช่การแก้ปัญหา

..

นิ่งๆ ให้มากที่สุด..
ค่อยๆ ฝึกจิตใจตนเอง ให้คิดในแง่ดี
คิดในเรื่องที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขได้
ลดความคาดหวังในตัวเขาลง

ฟังเขาให้มาก พูดให้น้อยลง
พูดเฉพาะเรื่องดีๆ ที่ควรพูด

เข้าใจว่ายาก และทำได้ยาก มากๆ

แต่จำเป็นต้องฝึก ต้องทำ..

ไม่งั้น ปัญหาก็เพิ่มขึ้นเรือยๆ
ไม่งั้น ก็จะทุกข์ใจอยู่แบบนี้
..
เป็นกำลังใจให้นะคะ
โดย: LoveTurJang วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:20:53:44 น.
  
ขอบคุณมากนะคะ ที่เเวะไปเยี่ยมเยียน

ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยเช่นกันนะคะ
โดย: แม่สร้อย IP: 125.27.227.94 วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:16:23:45 น.
  
เป็นกำลังใจให้อีกแรงค่ะ มีคนที่อยู่ในสถานการณ์แบบคุณเยอะค่ะ ผู้ชายเห็นแก่ตัวทั้งนั้น มักมากเห็นแก่ตัว ปากก็บอกว่ารักเรา แต่ก็ทำให้เสียใจได้เสมอ ดิฉันเจอมาหลายยกแล้วค่ะ อภัยแล้ว อภัยอีก ผู้หญิงสมัยนี้ก็หน้าด้านรู้ทั้งรู้ว่ามีลูกมีเมีย แต่ก็จะเอา เหมือนคุณJoy บอกนั่นแหละค่ะ เจ็บจนไม่รู้จะเจ็บอย่างไร ธรรมะ และเวลาจะช่วยได้ เข้มแข็งไว้ค่ะ ตั้งสติให้ได้เร็วๆ
โดย: หัวอกเดียวกัน IP: 114.128.39.111 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:0:24:41 น.
  
อ่านเมนท์ของพี่แฟนต้าแล้วบอกตรง ๆ ว่าโดนมากเลยคะ
แม่จ่าถ้ายังไม่ถึงที่สุดก็อดทนนะ
ส่วนเรื่องงานแม่จ๋าดูตัวอย่างในบล๊อกพี่นะ ที่เขียนนิยานไว้อะคะ แบบนั้นละความยาวเท่านั้น ตัวอักษรแค่นั้น ถ้สามารถเขียนได้ก็ลองเขียนดูจะได้มีรายได้เพิ่มถึงไม่มากมายนัก แต่ก็ทำให้เราไม่ว่างพอจะคิดถึงเร่องไร้สาระแบบนั้น
ดูแลตัวเองนะคะ
เขาคงยังไม่ท้งเราในตอนนี้หรอก
เอาใจช่วยคะ
โดย: ปันฝัน วันที่: 15 กันยายน 2553 เวลา:16:31:21 น.
  
สวัสดีคร้าฟ

โดย: boyalonejang วันที่: 8 ตุลาคม 2553 เวลา:18:31:26 น.
  
ขอโทษจริงๆ นะคะที่หายไปนาน
ยังคิดถึงและเป็นห่วงเสมอ
.. ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ
เพิ่งได้มาอ่านที่บล้อก เป็นห่วงมากนะคะ
..เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ สู้เพื่อลูกนะคะ ..ทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อลูก เพราะลูกคือหัวใจของเราค่ะ
โดย: boonpithak วันที่: 10 ตุลาคม 2553 เวลา:17:01:24 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แม่จ๋ากะฟ้าใส
Location :
เชียงราย  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



อยากมีใครซักคนมาเป็นเพื่อนพูดคุย คลายเหงา
ใครซักคนที่แค่มองตาก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
แค่นั้นจริงๆ เป็นคนไม่อ่อนหวานแต่อ่อนไหว
เป็นคนที่มีความอดทนมากมาย ถูกคนรักทำร้ายอย่างแรง
สิ่งที่ฉันทำ ฉันคิดว่ามันถูกต้องแล้ว แต่คงไม่ดีที่สุด ขอโทษนะที่ทนได้แค่นี้ ไม่มีใครอยากเลิก อยากลาร้างเลย แต่มันจำเป็น เพราะทุกคนก็มีเหตุผลของตัวเอง