พระอาจารย์อารยเทวะมหาเถระ
ท่านอาจารย์มีหลายชื่อเรียกดังนี้คือกาณเทวะ,ปิงคลากษ,นีลเนตร,เทวะ เป็นศิษยเอกและเป็นผู้สืบทอดคำสอนต่อจากพระนาคารชุนมหาเถระ ท่านเป็นหนึ่งในคณาจารย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิดแนวคิดแบบมหายาน
ท่านอาจารย์เทวะมีชีวิตอยู่ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๒-๓ (ราว ๑๘๐ ปีหลังคริสตกาล) ท่านถือกำเนิดในวรรณะกษัตริย์เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าปัญจศรงคะ ผู้ทรงเป็นประมุขแห่งเกาะสิงหล (ลังกา)
สละชีวิตทางโลกออกบวช ตำนานธิเบตอ้างว่า ท่านถืออุบัติภายในดอกบัว ณ อุทยานของกษัตริย์แห่งเกาะสิงหล กษัตริย์จึงทรงรับท่านเป็นพระโอรส ไม่ว่าข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร
เท่าที่เราทราบก็คือ ท่านได้ศึกษาพระไตรปิฏกทั้งหมดในดินแดนเกิด จากนั้นก็ธุดงค์มายังประเทศอินเดียเพื่อหาโอกาสสักการะสถานที่ศักดิ์ต่างๆ ท่านอาจารย์จันทรกีรติ ได้ประมวลหลักฐานที่เชื่อถือได้ที่สุดเกี่ยวกับเหตุการณ์ชีวิตสำคัญของท่านอาจารย์เทวะ
ในบทนำของอรรถา จตุศตกะ ว่า ท่านอาจารย์อารยเทวะเกิดในเกาะสิงหล และเป็นโอรสของพระราชาของเกาะนั้น หลังจากได้รับสถาปนาเป็นรัชทายาท ท่านก็สละโลก มายังอินเดียใต้และขอเป็นศิษย์ท่านอาจารย์นาคารชุน
ตามประวัติกล่าวว่า (อ้างจากหนังสือเรื่อง ประวัติศาสตร์พุทธศาสนาของพระตารนาถะ) ท่านพบกับพระนาครชุนที่วัดศรีปรวตะ (ศรีบรรพต) และได้ขอศึกษาอยู่ด้วย
ท่านศึกษาศาสตร์ต่างๆ รวมทั้งปรัชญาทั้งแบบเก่าแบบใหม่ ภายหลังการดับขันธ์ของท่านนาคารชุน ท่านอารยะเทวะเป็นผู้รับผิดชอบเผยแผ่หลักการว่าด้วยทางสายกลาง โดยคงปฏิบัติภารกิจและศึกษาธรรมอยู่ในบริเวณวัดศรีปรวตะ แต่ท่านได้สร้างวัดเพิ่มเติมอีกขึ้นอีก ๒๔ แห่ง
และทำให้ทั้งหมดกลายเป็นศูนยกลางของพระพุทธศาสนาแบบมหายานด้วย อารยะเทวะได้พำนักอยู่ที่นาลันทาเป็นช่วงเวลาที่พระเจ้าจันทรคุปตะ(หรือ จันทรคุปต์) ซึ่งเป็นพระราชโอรสแห่งกษัตริย์ศาลจันทระ (หรือ ศาลจันทร์) เรืองอำนาจ
งานชิ้นสำคัญๆ ของท่ารอารยเทวะได้แก่ จตุหศตกะ งานเขียนชิ้นนี้ต้นฉบับภาษาสันสกฤตสูญหาย แต่เนื้อหาบางส่วนได้ถูกคัดลอกและเก็บในในภาษาจีน-ธิเบต
พระธรรมปาลได้เขียนฏีกาอธิบายไว้ครึ่งหนึ่ง (ครึ่งหลัง) ส่วนท่านจันทรกีรติเขียนฏีกาอธิบายไว้ทั้งหมด เนื้อหามีทั้งสิ้น ๔๐๐ โศลกจัดเป็น ๑๖ บท ครึ่งแรกเป็นบทอธิบายหลักการมัธยมกะ ครึ่งหลังเป็นการปฏิเสธแนวคิดและความเชื่อที่เอียงไปในขั้วต่างๆ
ศตศาสตร์ (มีแปลไทยแล้ว) เป็นงานประพันธ์อีกชิ้นหนึ่งของท่านอารยเทวะ แต่ผู้รู้เห็นว่าเป็นบทหลังๆ ของจตุหศตกะที่สลับเนื้อหาไปมา พระกุมารชีพได้แปลไว้เป็นภาษาจีนเมื่อปี ค.ศ. ๔๐๔
นอกจากนี้ยังมี หัสตวาลปรกรณะ ชญานสารสมุจจยะ จิตตวิศุทธิปรกรณะและอักษรศตกัม เล่มหลังนี้สันสกฤตหายเหลือแต่พากย์จีน-ธิเบต เนื้อหาส่วนมากจะเน้นการปฏิเสธแนวคิดของสำนักนอกพุทธเช่นไวเศษิกะ
จุดยืนทางปรัชญาของท่านอารยเทพไม่แตกต่างอะไรกับท่านอาจารย์นาคารชุน แต่งานของท่านจะเน้นสำนักนอกพุทธ โดยเฉพาะแนวคิดแบบสางขยะและไวภาษิกะ
ท่านอาจาย์เทวะกับอาจารย์นาคารชุนมีความเห็นตรงกันว่า ทางสายกลางเป็นแก่นคำสอนแท้จริงของพระพุทธศาสนา.
สามเณรศุภโชค ตีรถะ เรียบเรียง
ขอนมัสการด้วยเคารพ
วุธวารสิริสวัสดิ์-มานมนัสรมณีย์ที่มาอ่านมงคลนี้ค่ะ
Create Date : 01 กันยายน 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 2 กันยายน 2552 1:16:25 น. |
Counter : 1740 Pageviews. |
|
|
|