Khantī paramam tapo tītikkhā [Buddhist Proverbs]
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
11 ธันวาคม 2549
 
All Blogs
 
บทหนัง PPU ในทัศนะของผม ตอนที่ 3

คำถามที่ถกกันมากคือ หลังจากที่จอมพรานรพินทร์ฟังข้อเสนอของคณะนายจ้างผู้สูงศักดิ์ แล้วขอเวลาไปคิดดูก่อน จากนั้นวันรุ่งขึ้น เขากลับมาด้วยข้อเสนอรับงานสี่ข้อ มีเหตุผลอะไรที่รพินทร์ตัดสินใจเช่นนั้น?

1) ให้คณะนายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมด เหตุผลนี้ปกติ
2) เงินค่าจ้างสองแสนบาท ในช่วงปี2500ต้นๆ ก็ไม่มากไม่น้อย แต่รพินทร์ก็บอกเองว่าคุ้ม
3) ถ้ามีของมีค่าสิ่งใดได้จากการเดินทาง เขาต้องมีส่วนแบ่งด้วย ข้อนี้น่าคิด
4) ถ้าเขาตาย ให้จ่ายเงินเดือนให้แม่ของเขาตลอดชีวิต ข้อนี้น่าคิดมาก


มีความเห็นต่างกันไปในสองแนวทางครับ
- แนวทางแรก รพินทร์รับงานไปงั้น เพราะคิดว่าคณะนายจ้างคงถอดใจไปได้ไม่ไกล
- แนวทางที่สอง รพินทร์กะรับงานนี้แบบเอาชีวิตเข้าแลก

ในสองแนวนี้จะทำให้การดีไซน์รายละเอียดในหนังที่ต่างกันครับ ซึ่งก็ถกกันต่ออีกจนได้ข้อสรุปครับ


แต่เดี๋ยวก่อน แล้วคุณคนอ่านล่ะครับ คิดว่าอย่างไร


Create Date : 11 ธันวาคม 2549
Last Update : 11 ธันวาคม 2549 2:27:38 น. 7 comments
Counter : 753 Pageviews.

 
คงรับไปงั้นมั้งคับ


โดย: PutterZ (ToppuT ) วันที่: 11 ธันวาคม 2549 เวลา:3:18:26 น.  

 
คิดว่า...รพินทร์เองก็ชายชาญคนหนึ่ง

การเสี่ยงเป็นเรื่องคู่กับผู้ชายผู้พิสมัยชีวิตแบบนี้
เหตุผลที่รพินทร์ไป วราวิเคราะห์ประมาณนี้ค่ะ
1.เขาเป็นนายพรานที่เก่งมาก ถ้าไม่ใช่เขาแล้วจะใครไป
2.น้ำใจก็มีเพราะได้รู้ว่าคนที่ตามหามีตัวตนจริง
3.สิ่งที่เขาห่วงก็คือแม่ ถ้าเขาเป็นอะไรไปก็มีคนรับดูแลอยู่แล้ว แต่ถ้าเขาไม่เป็นอะไร แถมฟลุคได้ของมีค่ากลับมา (ซึ่งจริงๆ แล้ว ชีวิต น่าจะมีค่ามากที่สุด) เขาก็จะภาคภูมิใจ รวมทั้งมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

แหะๆ ประมาณนี้ค่ะ

อ่อ...หรือจะคิดง่ายๆ เป็นบุพเพสันนิวาสและกรรมที่มีต่อกัน


โดย: วรา (แฟนไท ) วันที่: 11 ธันวาคม 2549 เวลา:16:13:21 น.  

 
ตกลงว่าสร้างใช่ไหมครับ ฟังข่าวแล้วยังเดาไม่ถูก

ส่วนความเห็นในฐานะเป็นแฟนรพินทร์เช่นกัน
ผมเห็นด้วยกับคุณแฟนไท ครับ

ส่วนที่เพิ่มเติมครับ

- รพินทร์ไม่เชื่อว่าคุณชายกลาง เดินทางไปถึงมรกต
นครจริง ลึกๆแล้วรพินทร์คิดว่าจะพาคณะนายจ้างไปดู
หลักฐานว่า คุณชายกลางไปเสียชีวิตที่ไหนมากกว่า
จะได้เลิกกังวล เพียงแต่รพินทร์ก็ไม่ทราบว่าจะใช้เวลานานเท่าใด จึงต้องเรียกเป็นเงินก้อนที่ไม่น้อย( แค่พอชดเชยกับการเสียเวลาและรายได้)

- ในการร่างสัญญาทางกฏหมายจำต้องระบุ เงื่อนไขผลประโยชน์อันพึงมีพึงได้ ให้ครอบคลุมอยู่แล้วครับ ไม่ว่ารพินทร์จะเสนอหรือไม่ และแม้ว่าจะไม่ใช่สาระสำคัญของสัญญาจ้างก็ตาม ดังนั้นไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายเสนอ ก็เพียงแต่เป็นความรอบคอบตามปกติเท่านั้นครับ

- ข้อ4 เป็นข้อที่ทำให้รพินทร์ตัดสินใจได้เด็ดขาดครับ
ในความคิดผม และรพินทร์ก็ทราบดีว่านายจ้างสามารถปฏิบัติตามสัญญาได้จริงโดยเต็มใจ

โดยสรุปผมเห็นว่า รพินทร์เอาชีวิตเข้าแลกในการเดินทางครั้งนี้แน่นอนครับ

เหตุผลประกอบที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง
คือ รพินทร์มักพูดอยู่เสมอถึงความไม่แน่นอนในการทำอาชีพนายพรานของเขา โดยเฉพาะในแง่ของความเสี่ยง
ชีวิตที่อาจจะพลาดพลั้งได้ตลอดเวลา ชีวิตการทำงานของเขาจึงต้องพร้อมเอาชีวิตเข้าแลกกับสัตว์ที่ต้องล่าโดยปกติอยู่แล้ว

ดังนั้นเมื่อเขารับหน้าที่พิเศษในการนำทางที่ต้องพิทักษ์ชีวิตคนทั้งคณะ
รพินทร์จะไม่เอาชีวิตเข้าแลกได้อย่างไร

โดยเฉพาะกับการที่รู้ทั้งรู้ว่าคณะเดินทางนี้เป็นบุคคลสำคัญ และไม่ใช่คนที่มีความชำนาญกับป่าเป็นอาชีพ

และถึงแม้จะมีประสบการณ์อย่างทั้งคุณชายใหญ่ และคุณไชยยันต์ แต่เอาเข้าจริงรพินทร์ ก็ทราบดีว่าการเดินทางไปในป่าที่ไม่เคยเข้าไปนั้น มีอันตรายกว่าปกติเพียงใด

แม้กระทั่งคุณหญิงดาริน ที่ว่าเก่งเกินหญิง(ชึ่งตอนแรก
รพินทร์เองก็เป็นกังวลมากที่สุด) ก็ยังมีประสบการณ์เดินป่าน้อยกว่ามาเรียเสียอีก

อันนี้รพินทร์ทราบแน่นอนอีกเช่นกัน ว่าคงต้องเป็นภาระแก่เขามากขนาดไหน ดังนั้นเมื่อเขารับปากจะนำทางให้
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาย่อมยินดีเข้ารับความเสี่ยงอย่างเอาชีวิตเข้าแลก(เพื่อป้องกัน)เป็นแน่แท้ครับ

ไม่ต้องว่าเป็นคณะบุคคลสำคัญหรอกครับ กระทั่งกับพรานพื้นเมือง หรือชาวบ้าน รพินทร์แกก็ช่วยอย่างไม่ได้คิดถึงตัวเองอยู่แล้ว

แม้ว่าท่าทีภายนอกจะปฏิเสธและดูแล้งน้ำใจไปบ้าง
เพราะการเป็นผู้นำทีมต้องคำนึงถึงองค์ประกอบรอบด้านให้เกิดความเหมาะสมมากที่สุด พร้อมๆไปกับเพื่อความปลอดภัยมากที่สุดกับชีวิตคนด้วยครับ

ขออภัยที่ความเห็นยาวเกินไปสักหน่อย แต่ในเรื่องนี้ผมพิจารณาหลายครั้งแล้ว ประทับใจคุณรพินทร์แกจริงๆครับ


โดย: P Q BOY วันที่: 11 ธันวาคม 2549 เวลา:23:15:45 น.  

 
แปลกใจว่าทำไมถึงสรุปเหตุผลแค่ 2 แนวทาง

โดยส่วนตัวคิดว่า รพินทร์ ไม่ใช่แค่นายพรานนำทางธรรมดาทั่วไป เขามีจิตวิญญาณของนักสำรวจ มีศักดิ์ศรีของพรานใหญ่ และมีวิจารณญาณที่เฉียบคม เห็นถึงความตั้งใจจริงของคณะผู้ติดตาม

เงื่อนไขที่เขาตั้งขึ้นนั้น เป็นเพียงรูปธรรมที่เขาสร้างขึ้นเพื่อผลประโยชน์ที่พึงได้ในฐานะของมนุษย์คนหนึ่ง รวมทั้งเหตุผลที่คุณวรากล่าวถึง ก็มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ด้วย

ความเห็น 2 แนวที่ตั้งไว้ ดูจะเป็นแรงจูงใจที่ทื่อไปหน่อยหรือเปล่าสำหรับตัวละครแบบรพินทร์ ซึ่งไม่เคยคิดชั้นเดียวแบบธรรมดาๆ เขาเป็นคนที่มีการศึกษาเยี่ยม มีความซับซ้อนทางความคิด ซ่อนอารมณ์ได้ลึก ถึงจะมีปมในชีวิต แต่จริยธรรมในอาชีพและการใช้ชีวิตของเขานั้นมั่นคงและชัดเจน

ไม่คิดว่าควรสรุปแค่เหตุผลง่ายๆ สองแนวนั้นนะครับ..แต่ถ้าจะถามลงลึก คงต้องขอกลับไปอ่านใหม่อีกรอบ เพราะตั้งแต่อ่านหนแรก (และหนเดียว) นั้น คือสมัยยังเป็นหนังสือพ็อกเก็ตบุคเล่มบางๆ ของผ่านฟ้าพิทยาหรือไงเนี่ย


โดย: Bkkbear (Bkkbear ) วันที่: 12 ธันวาคม 2549 เวลา:0:26:16 น.  

 
รพินทร์รับงานนี้เพื่อที่ต้องการได้มาซึ่งเงินที่มีความคุ้มค่ามากที่สุด
*ตามเงื่อนไข
1. ไม่ต้องการให้ครอบครัวของลูกน้องต้องลำบากภายหลังหากเกิดอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง เนื่องจากลูกน้องที่มาเป็นลูกหาบนั้นล้วนมาจากลูกบ้านของเขาที่มีน้ำใจรักรพินทร์ทั้งสิ้น (ไม่อยากทำร้ายคนที่รักเขาทางอ้อมด้วยการพาไปตายโดยไม่รู้อนาคต)

++ นี่คือความคุ้มของเงินค่าจ้างสองแสนบาท กับความรับผิดชอบของเขา

2. ให้นายจ้างรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด
เพราะการเดินทางครั้งนี้ยาวไกลอาจข้ามเขตแดนก็ว่าได้
(มองไม่เห็นอนาคตเลย คนที่ตามหาอาจไม่มีชีวิตแล้วด้วย เป็นการเสี่ยงที่ไม่คุ้มค่า แต่ต้องการพิสูจน์ว่าเหล่านายจ้างนั้นมีจิตใจเป็นเช่นไร มุ่งมั่นแค่ไหน)

++เป็นการท้าทาย/เรียนรู้จิตใจ

3. ของมีค่าที่ได้จากการเดินทางนั้นเมื่อรพินทร์เป็นพรานคงไม่คิดเกินเลยมากกว่า เขา หนัง เนื้อที่สามารถนำกลับมาได้ มันจะมีราคาเมื่อขายต่อพ่อค้าคนเมือง คงนำความสุขสบายเล็กๆ น้อยๆ ให้กับชุมชนหนองน้ำแห้งได้ (เมื่อเดินทางไกลต้องเข้าป่าลึกอาจต้องเจอสัตว์ใหญ่ที่หายากบริเวณชายป่า)

++แสดงว่าฉันเป็นพรานเป็นลูกน้องแต่ก็มีศักดิ์ศรี เมื่อร่วมเป็นร่วมตายกันแล้ว มีอะไรก็ต้องปันกัน เหมือนกับที่เราต่างต้องช่วยเหลือชีวิตซึ่งกันและกันในอนาคต (มิตรภาพ)

4. ถ้าเขาตายต้องจ่ายเงินเลี้ยงดูแม่ของเขาตลอดชีวิต
เขาเป็นผู้ดูแลแม่เมื่อต้องการให้เขาทำงานเสี่ยงชีวิตเพื่อนำทาง (เชิงลึกคือต้องปกป้องทุกคนในคณะ) ประกอบเขามีโรคประจำตัว เขาไม่มีห่วงใดเลยนอกจากแม่ ถ้ารับประกันว่าจะดูแลแม่ของเขาได้ตลอดไปเหมือนหน้าที่ที่เขาต้องทำอยู่แล้ว ก็โอเค หมดห่วง

++ เป็นการแลกหน้าที่กันมากกว่า ฉันมิตรพึงกระทำต่อมิตร(สงครามจบ ส่งศพ แทนคุณ)

**เพิ่มเติม**ประกอบกับก่อนหน้านี้นายรพินทร์มีความทดท้อใจในเรื่องความรักอยู่เป็นทุนเดิมจึงอยากจะหาที่สงบทางใจด้วยการทำสิ่งที่ดี รวมถึงเขามีความเห็นใจอย่างมากต่อคณะนายจ้างที่ออกตามหา น้อง เพื่อน พี่ อันเป็นที่รัก

ปล.สงสัยต้องนำมาอ่านอีกรอบจ้า


โดย: ชีพชีวิน วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:15:09:52 น.  

 
ครื้นเครงยิ่ง..


โดย: podduang-pk วันที่: 23 ธันวาคม 2549 เวลา:12:21:58 น.  

 
น่าจะติดใจเรื่องแผนที่ที่ได้มามากที่สุด และต้องการพิสูจน์ เพราะะเก็บแผนที่ติดตัวขนาดนั้นแสดงว่าเชื่ออยู่ค่ะ เอมาตอบช้าไปเปล่าค่ะ


โดย: ่jittra (jittra ) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:10:53 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

อุปนิกขิต
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




อุปนิกขิต น. คนสอดแนม, จารบุรุษ



Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
New Comments
Friends' blogs
[Add อุปนิกขิต's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.