เมย์มีเรื่องเล่า เพราะทุกที่มีเรื่องเราจึงเก็บมาเล่า บล็อคนี้เป็นบล็อคบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ และวรรณคดีทั้งไทยและต่างประเทศ
|
|
แนะแนวหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ (TEPE TU) แนะแนวหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต ภาคภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TEPE TU) ในบทความที่แล้วเราได้แนะนำโครงการวิศวกรรมสองสถาบัน หรือโครงการTEP ไปแล้วเรามาแนะนำอีกโครงการเพราะเนื่องจากถ้าหากนึกถึงโครงการ TEP ก็มักจะนึกโครงการTEPEต่อท้ายอยู่เสมอเพราะว่าโครงการนี้ก็เป็นเหมือนโครงการคู่แฝดกัน จนทำให้คนหลายคนอาจจะเกิดความสับสนได้ค่ะ เนื่องจากในส่วนของการเรียนการสอนของทั้งโครงการ tep และ tepe นั้นนอกจากจะมีการสอนภาษาอังกฤษทั้งคู่แล้ว ทั้งสองโครงการเองยังมีการแบ่งการเรียนการสอนออกเป็น5 เอก คือ วิศวกรรมไฟฟ้า ,วิศวกรรมอุตสาหการ วิศวกรรมโยธา, วิศวกรรมเคมี, วิศวกรรมเครื่องกล แต่ข้อแตกต่างกันระหว่างโครงการTEP และ TEPE คือผู้ที่ศึกษาในโครงการTEPEนั้นจะไม่ได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีในต่างประเทศแบบหลักสูตรTEP โดยนักศึกษาจะต้องศึกษาตามภาควิชาที่ตนเลือกตลอดระยะเวลาสี่ปี ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิทยาเขตรังสิต และนักศึกษาที่ศึกษาในโครงการTEPEนั้นจะได้รับปริญญาแค่เพียงใบเดียว คือปริญญาทางวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่ข้อดีของโครงการนี้ก็คือในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างจะต่ำกว่าหากเทียบกับโครงการTEP เพราะว่าไม่ต้องไปเรียนยังต่างประเทศ แต่ถึงอย่างไรก็ตามถ้าเทียบกันตามตรงแล้วสำหรับเนื้อหาวิชาพื้นฐานต่างๆนั้นสองวิชาค่อนข้างจะมีการเรียนที่เหมือนกัน แถมวิชาการเรียนการสอนที่เป็นภาษาอังกฤษทั้งสองโครงการ จึงไม่น่าจะเป็นการแตกต่างในเรื่องของการเรียนมากนัก และดังที่บอกไว้ว่าการเรียนโครงการTEPE นั้นจะแบ่งการเรียนออกเป็น5ภาควิชา อันได้แก่ ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าจะมีการเรียนการสอน 145หน่วยกิต โดยเนื้อหาทางการเรียนจะเรียนในคณิตศาสตร์ประยุกต์ และการจำลอง องค์ความรู้ที่เกี่ยวเนื่องในด้านกลศาสตร์ องค์ความรู้ที่เกี่ยวเนื่องกับอุณหศาสตร์และกลศาสตร์ของไหล องค์ความรู้ที่เกี่ยวเนื่องทางเคมีและวัสดุ องค์ความรู้ที่เกี่ยวเนื่องทางพลังงาน องค์ความรู้ที่เกี่ยวเนื่องกับไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ องค์ความรู้ที่เกี่ยวเนื่องกับการบริหารจัดการระบบ และองค์ความรู้ที่เกี่ยวเนื่องทางชีววิทยา สุขภาพและสิ่งแวดล้อม การวัดและระบบควบคุม การแปลงรูปพลังงาน ระบบไฟฟ้ากำลัง ทฤษฎีการสื่อสาร การประมวลผลสัญญาณ ระบบไฟฟ้าสื่อสารและเครือข่าย ภาควิชาต่อมาคือ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ จะเรียนกันที่147หน่วยกิต เนื้อหาทางการเรียนจะเรียน ในเรื่องเกี่ยวเนื่องกับความรู้ด้านวัสดุและกระบวนการผลิต ความรู้ด้านระบบงานและความปลอดภัย ความรู้ด้านระบบคุณภาพ ความรู้ด้านการจัดการการผลิตและดำเนินงาน รวมไปถึงกลุ่มความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์และการเงิน และกลุ่มความรู้ด้านการบูรณาการวิธีการทางวิศวกรรมอุตสาหการ ภาควิชาที่สามคือภาควิชาวิศวกรรมโยธา จะมีการเรียนการสอน 149หน่วยกิต เนื้อหาทางการเรียนจะเรียนเรื่อง เกี่ยวกับงานด้านวิศวกรรมโยธา เช่น การออกแบบ กฎระเบียบ และการก่อสร้างสมัยใหม่ รวมถึงการลดผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมและผลกระทบจราจรอันเนื่องมาจากพัฒนาที่ดิน ภาควิชาที่สี่คือ ภาควิชาวิศวกรรมเคมี โดยภาควิชานี้จะมีการเรียนการส อน 147 หน่วยกิต และมีเนื้อหาทางการเรียนเกี่ยวกับพลศาสตร์ความร้อน (เธอร์โมไดนามิกส์) ปฏิกิริยาเคมี,วิชาสิ่งแวดล้อม, ความปลอดภัยทาง ชีวเคมี,วิชากลศาสตร์ของไหล ถ่ายโอนมวล กระบวนการแยกสาร,วิชาวัสดุศาสตร์,วิชาการถ่ายเทความร้อน การเผาไหม้ รวมทั้งวิชาคณิตศาสตร์ วิชาการจัดการ การออกแบบ และภาควิชาสุดท้ายคือ ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล ซึ่งมีหน่วยกิต 146 หน่วยกิต เนื้อหาทางการเรียนจะเรียนในเรื่องของด้านการออกแบบเชิงกล (Mechanical Design) ,ด้านอุณหศาสตร์และของไหล (Thermal Science and Fluid Mechanics) และ ด้านระบบพลศาสตร์และการควบคุม (Dynamic systems and Control) โดยทั้ง5ภาควิชานั้นจะ ใช้ระบบการศึกษาแบบทวิภาค โดย 1 ปีการศึกษา แบ่งออกเป็น 2 ภาคการศึกษาปกติ 1 ภาคการศึกษาปกติมีระยะเวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 16 สัปดาห์ และแบ่งเป็น วิชาบรรยาย (ภาคทฤษฎี) , วิชาฝึกหรือทดลอง (ภาคปฏิบัติ) 2 หรือ 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ,การฝึกงานหรือฝึกภาคสนาม (ภาคฝึกงานอาชีพ) ใช้เวลาฝึก 3-6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ตลอดภาคการศึกษาปกติรวม 45-90 ชั่วโมง และSpecial Project นักศึกษาใช้เวลาฝึกปฏิบัติ (ภายใต้การควบคุมของอาจารย์ที่ปรึกษา) 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ตลอดภาคการศึกษาปกติรวม 45 ชั่วโมง โดยแบ่งภาคทางการเรียนการสอนออกเป็น ภาคการศึกษาที่ 1 เดือนมิถุนายน – กันยายนหรือตุลาคม ภาคการศึกษาที่ 2เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์หรือ มีนาคม ภาคฤดูร้อน เดือนมีนาคม – พฤษภาคม ซึ่งจะมีการจัดการศึกษาภาคฤดูร้อน ในการเรียนชั้นปีที่ 3 หลักสูตรฺ TEPE TU เป็นอย่างไร และเรียนอะไรบ้าง สำหรับหลักสูตรของ TEPE TU นั้น จะแบ่งออกเป็นย่อยๆ 5ภาควิชา ซึ่งแต่ละภาคจะมีการเรียนเหมือนกันในส่วนของวิชาศึกษาทั่วไป30หน่วยกิต วิชาบังคับเลือก 1 วิชา ไม่น้อยกว่า 2 หน่วยกิต รวมทั้งวิชาแกน 24 หน่วยกิต ซึ่งแบ่งออกเป็น วิชาพื้นฐานทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ 17หน่วยกิต และ วิชาพื้นฐานทางวิศวกรรม7หน่วยกิต และจะเรียนแตกต่างกันเมื่อนักศึกษาแต่ละภาควิชาเริ่มลงเรียนในวิชาเฉพาะ ซึ่งแต่ละภาควิชาแบ่งออกดังนี้ ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า 145หน่วยกิต 1) วิชาศึกษาทั่วไป 30 หน่วยกิต 2) วิชาเฉพาะ 108 หน่วยกิต 2.1) วิชาแกน 24 หน่วยกิต 2.1.1.) วิชาพื้นฐานทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ 17 หน่วยกิต 2.2.2.) วิชาพื้นฐานวิศวกรรม 7 หน่วยกิต 2.2) วิชาบังคับ 63 หน่วยกิต 2.3) วิชาบังคับเลือก 21 หน่วยกิต 3) วิชาเลือกเสรี 6 หน่วยกิต ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ 147หน่วยกิต 1) วิชาศึกษาทั่วไป 30 หน่วยกิต 2) วิชาเฉพาะ 111 หน่วยกิต 2.1) วิชาแกน 24 หน่วยกิต 2.1.1 วิชาพื้นฐานทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ 17 หน่วยกิต 2.1.2 วิชาพื้นฐานทางวิศวกรรม 7 หน่วยกิต 2.2) วิชาบังคับ 66 หน่วยกิต 2.3) วิชาบังคับเลือก 21 หน่วยกิต 3) วิชาเลือกเสรี 6 หน่วยกิต ภาควิชา วิศวกรรมโยธา 149 หน่วยกิต 1. วิชาศึกษาทั่วไป 30 หน่วยกิต 2. วิชาเฉพาะ 113 หน่วยกิต 2.1 วิชาแกน 24 หน่วยกิต 2.1.1 วิชาพื้นฐานทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ 17 หน่วยกิต 2.1.2 วิชาพื้นฐานทางวิศวกรรม 7 หน่วยกิต 2.2 วิชาเฉพาะสาขา 89 หน่วยกิต 2.2.1 วิชาบังคับ 77 หน่วยกิต 2.2.2 วิชาบังคับเลือก 12 หน่วยกิต 3. วิชาเลือกเสรี 6 หน่วยกิต ภาควิชาวิศวกรรมเคมี 147 หน่วยกิต 1) วิชาศึกษาทั่วไป 30 หน่วยกิต 2) วิชาเฉพาะ 111 หน่วยกิต 2.1) วิชาแกน 24 หน่วยกิต 2.1.1) วิชาพื้นฐานทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ 17 หน่วยกิต 2.1.2) วิชาพื้นฐานทางวิศวกรรม 7 หน่วยกิต 2.2) วิชาบังคับ 66 หน่วยกิต 2.3) วิชาบังคับเลือก 9 หน่วยกิต 2.4) วิชาเลือก 12 หน่วยกิต 3) วิชาเลือกเสรี 6 หน่วยกิต ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล 146 หน่วยกิต 1) วิชาศึกษาทั่วไป 30 หน่วยกิต 2) วิชาเฉพาะ 110 หน่วยกิต 2.1) วิชาแกน 24 หน่วยกิต 2.1.1 วิชาพื้นฐานทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ 17 หน่วยกิต 2.1.2 วิชาพื้นฐานทางวิศวกรรม 7 หน่วยกิต 2.2) วิชาบังคับ 74 หน่วยกิต 2.3) วิชาบังคับเลือก 12 หน่วยกิต 3) วิชาเลือกเสรี 6 หน่วยกิต จบมาแล้วเป็นอะไรได้บ้าง สำหรับการเรียนในโครงการTEPE ที่มีหลายเอกนั้นจะขอแบ่งออกเป็นเอกย่อยๆดังนี้สำหรับ วิชาชีพด้านวิศวกรรมเคมี นั้นสามารถประกอบอาชีพ อย่างเช่น วิศวกรกระบวนการผลิต (Production Engineer) วิศวกรออกแบบกระบวนการผลิต (Design Engineer) ,นักวิชาการในองค์กรราชการและเอกชน, นักวิเคราะห์โครงการ,ผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีและกระบวนการทางเคมี, วิศวกรความปลอดภัยกับงานสิ่งแวดล้อม, นักวิชาชีพในสถานประกอบการที่มีการใช้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางเคมีและเครื่องมือวิเคราะห์ต่าง ๆ , งานด้านบำบัดสิ่งแวดล้อม ทั้งในอากาศและในน้ำ, การปิโตรเลียมฯ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ฯลฯ ส่วนวิชาชีพด้านวิศวกรรมเครื่องกล นั้นสามารถประกอบอาชีพได้ อย่างเช่น วิศวกรเครื่องกล โดยสามารถออกแบบ ควบคุม และซ่อมบำรุงเครื่องจักรกล ควบคุมการผลิตและกระบวนการต่างๆในโรงงานอุตสาหกรรม ออกแบบและควบคุมงานระบบต่างๆ เช่น ระบบปรับอากาศ ระบบ การลำเลียงน้ำในอาคาร รวมทั้งการวิเคราะห์และปรับปรุงการใช้พลังงานในโรงงาน อาคาร และหน่วยงานต่างๆ ได้ , นักวิจัยในสาขาวิศวกรรมเครื่องกลและสาขาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่น พลังงาน อากาศยาน หุ่นยนต์ หรือ ครูอาจารย์ในสถาบันการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และวิชาชีพด้านวิศวกรรมโยธานั้นสามารถประกอบอาชีพได้ อย่างเช่น วิศวกร,นักวิชาการ, ที่ปรึกษาโครงการ,ผู้บริหารโครงการ, นักวิจัย วิชาชีพทางด้านอุตสาหการนั้นสามารถประกอบอาชีพได้ อย่างเช่น วิศวกรในส่วนต่างๆ ภาคการผลิต, วิศวกรในส่วนต่างๆ ภาคการบริการ,ผู้วิจัย หรือผู้ช่วยวิจัย, นักวิเคราะห์และออกแบบระบบการทำงาน ,งานด้านการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการ,งานทางด้านการเงิน, งานทางด้านการวางแผนการผลิต และสุดท้ายงานทางด้านวิชาชีพวิศวกรรมไฟฟ้านั้นสามารถประกอบอาชีพได้ อย่างเช่น ทำงานกับบริษัททางด้านระบบไฟฟ้า ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบงานคอมพิวเตอร์ ระบบการสื่อสารและโทรคมนาคม เช่น โทรศัพท์ วิทยุ ดาวเทียม หรือทำงานใน บริษัทผู้ผลิตแผงวงจรไฟฟ้า วงจรหรือชิ้นส่วนทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงบริษัทผู้ผลิตกระแสไฟฟ้า ผู้ผลิตหม้อแปลงไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ การไฟฟ้าฯ ทั้งส่วนนครหลวงและภูมิภาค เรียนโครงการ TEPE TU ใช้ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ โครงการนี้เป็นโครงการภาคพิเศษค่าใช้จ่ายจะแบ่งออกเป็น ค่าเทอมสำหรับการเรียนช่วงชั้นปีที่1-4 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตกประมาณเทอมละ80,000บาทต่อเทอม ตกแปดเทอมจะประมาณ640,000บาท โดยค่าใช้จ่ายนี้ยังไม่นับรวมค่าใช้พวกการกินอยู่อื่นๆเช่นค่าหอพัก หรือว่าค่าใช้จ่ายปลีกย่อย อย่างอาหาร ข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ ถ้าอยากเข้าโครงการ TEPE TU ต้องทำอย่างไร 1. ต้องสำเร็จการศึกษาหรือกำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายสามัญ เน้นวิทย์ - คณิต 2 เกณฑ์การใช้เกรดเฉลี่ยรวม 5 ภาคเรียนในรายวิชา Mathematic และ Science ได้ไม่ต่ำกว่า 3.00 หรือตั้งแต่ 70% ขึ้นไป เกณฑ์การใช้คะแนนมาตรฐานในการยื่นสมัครสอบ ซึ่งผู้ที่สมัครด้วยเกณฑ์นี้จะต้องมีผลคะแนนผ่านเกณฑ์ 3 กลุ่มคือ 1 กลุ่ม Mathematics ผู้สมัครต้องเลือกยื่นคะแนน 1 ข้อจากแบบทดสอบที่กำหนดไว้ดังต่อไปนี้ คะแนนสอบ PAT 1 ไม่ต่ำ 35% คะแนนสอบ SAT II: Math (Level 1 or 2) ไม่ต่ำกว่า 600 คะแนนสอบ GCSE หรือ IGCSE ในวิชา Math ไม่ต่ำกว่า B คะแนนสอบ GCE A Level หรือ GCE AS Level ในวิชา Math ไม่ต่ำกว่า C คะแนนสอบ IB Diploma: Math ไม่ต่ำกว่า 5 คะแนนสอบ GED: Math ไม่ต่ำกว่า 650 คะแนนสอบ AP: Calculus AB ไม่ต่ำกว่า เกรด 3 2 กลุ่ม Science ผู้สมัครต้องเลือกยื่นคะแนน 1 ข้อ จากแบบทดสอบที่กำหนดไว้ดังต่อไปนี้ คะแนนสอบ PAT 2 ไม่ต่ำกว่า 35% คะแนนสอบ SAT II: Physic หรือ Chemistry ไม่ต่ำกว่า 600 คะแนนสอบ GCSE หรือ IGCSE ในวิชา Physic, Chemistry หรือ Coordinated Science ไม่ต่ำกว่า B คะแนนสอบ GCE A Level หรือ GCE AS Level ในวิชา Physics หรือ Chemistry ไม่ต่ำกว่า B คะแนนสอบ IB Diploma: Physic หรือ Chemistry ไม่ต่ำกว่า 5 คะแนนสอบ GED: Science ไม่ต่ำกว่า 650 คะแนนสอบ AP: Physic หรือ Chemistry ไม่ต่ำกว่า เกรด 3 3 กลุ่ม English ผู้สมัครต้องเลือกยื่นคะแนน 1 ข้อ จากแบบทดสอบที่กำหนดไว้ดังต่อไปนี้ คะแนนสอบ IELTS ไม่ต่ำกว่า 5.0 โดยในแต่ละทักษะไม่ต่ำกว่า 4.0 คะแนนสอบ TOEFL iBT ไม่ต่ำกว่า 61 คะแนนสอบ TU-GET ไม่ต่ำกว่า 450 คะแนนสอบ CU-TEP ไม่ต่ำกว่า 60 คะแนนสอบ SAT Critical Reading ไม่ต่ำกว่า 400 สามารถปรึกษาเรื่องการแนะแนวการศึกษาต่อในหลักสูตรอินเตอร์ได้ที่ แนะแนวเรื่องการศึกษาต่อ และged by pure https://1ab.in/PC2 |
Group Blog มกราคม 2564 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31
All Blog
Link |
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |