ชีวิตวัยเรียน+วัยทำงาน ปฐมบทชีวิต เฟสที่ 1 ของผมเอง ตอนที่ 1
ผมเป็นเพียง ชายไทย อายุ 22 ปี กับมุมมองในชีวิตที่ว่า เราช้าไปแล้วหรือยัง วัยเลย 20 ปี มาตั้ง 2 ปีแล้ว แต่ยังต้องอาศัยเงินจากทางบ้านอยู่ ...ตอนวัย 18 จากเด็กบ้านนอกตอนเหนือของประเทศไทย เดินทางสู่ภาคกลางเพื่อเล่าเรียนหนังสือในรั้วมหาวิทยาลัย โดยที่ยังไม่รู้ว่าเรียนไป แล้วยังไงต่อ
ปี 1 ปีแรก เฟรชชี่ แฮปปี้มีความสุข ใช้ชีวิตไปวันๆ เรียนๆ สอบๆ เล่นไปวันๆ จนกระทั้งมาถึงจุดหนึ่งที่ทำให้ผมฉุกคิด ...เมื่อได้เห็นเพื่อนหลายคนในมหาวิทยาลัย มีของใหม่ล่อตาล่อใจ ได้เที่ยวเล่น เที่ยวทะเล เที่ยวๆ แดะเหล้า เคล้านารี ว่ากันไป ...คำถามในใจ เขาเอาเงินที่ในมาใช้มากมาย สรุปด้วยคำตอบง่ายๆ ...เงินจากทางบ้าน
เฮ้ย!!! เขา (ทางบ้าน) ส่งมาให้เรียน ให้กิน ให้ใช้ปกตินาว้อย มีบางเคส ที่น่าตกใจ คือ เพื่อนผมคนหนึ่ง
เพื่อน : แก แกได้เงินเดือนละเท่าไร ผม : เต็มที่ก็ 5000 บาท เพื่อน : โอ้! อยู่ได้ยังไง ฉัน 10,000 นึง ต่อเดือน ยังไม่รู้จะพอไหม
จะบอกว่า ถ้าทางบ้านดีมีฐานะพอตัว ก็ได้สบายไป ทำไปเถอะ แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ผมยังคิดเสมอว่า เราก็ใกล้จะเป็นผู้ใหญ่แล้ว อายุตอนนั้นก็ 18 จะ 19 เรามาลองหาหนทางทำอะไร เป็นทั้งรายได้ให้เราดีกว่าไหม หาเงินเองระหว่างเรียน เจ๋งออก...
แรกเริ่ม ไม่ได้คิดอะไรมาก เปิดหางานทำทางเว็บนั้นแล เห็นมีโฆษณาแท็กๆ มาเยอะแยะ ทำแล้วง่าย ทำแล้วได้เงิน ว้าว! ลองดูไม่เสียหาย กดสมัครไปซะ (มาถึงตรงนี้ บอกก่อนน่ะว่าไม่ได้มาโฆษณาอะไรน่ะครับ แค่มาเล่าชีวิตเฉยๆ)
รู้สึกว่า พอกดสมัครไปไม่นาน โทรศัพท์ก็สั่น ก็ดังเป็นเจ้าเข้าทั้งวัน
"สวัสดีครับ คุณ... ใช่ไหมครับ เราติดต่อมาจาก (ปัจจุบันเป็น บีฮิป) อยากให้มาพบประชุมกันที่..." สารธยายจน จับใจความสำคัญแล้วไม่ได้อะไร มีแต่จะลากไปประชุมอย่างเดียว จากที่เคยอ่านๆมา มันหลอก มันเล่นเราแน่ๆ สุดท้าย ไม่ไป แต่ก็ยังคะยั้นคะยอ โทรมาหาเรื่อยๆ
เพื่อนชวนทำ ธุรกิจเครือข่ายชื่อดาว ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ชอบเดินทาง ไม่ชอบนั่งรถ ไม่อยากพบปะผู้คน วิ่งตามเครือข่าย จนเพื่อนคนนึงที่ทำอยู่มาถาม
เพื่อน : มึงจะทำอยู่ไหม ผม : ยังไม่รู้ว่ะ เพื่อน : มึงดูกูซิ กูน่ะ ได้เป็นระดับมงกุฏทองแล้ว เพื่อนก็ไม่ต้องห่วง มีเพียบ ไปเที่ยวกันสนุก
ใช่คุณมีเพื่อน มีเป็น 100 เป็น 1000 แต่ ผมไม่สามารถที่จะติดต่อกับใครได้ตลอด ผมมีโลกส่วนตัวพอสมควร ทำงานอะไร อารมณ์ไม่มา ทำไม่ได้
จนสุดท้าย จากการได้ลองผิด ลองถูกหลากหลายต่อหลายอย่าง จนในที่สุด ก็ลองมาคิดนำเอาความชอบส่วนตัว มาทำเป็นรายได้ดีไหม เล่นเกมส์ไง เราชอบเล่นเกมส์ ...งั้นเรามาเขียนบทความเกี่ยวกับเกมส์ดีกว่าไหม ...แต่ก็น่ะ ไม่เคยจับงานเขียนมาก่อน ทุกอย่างออกมาไม่เป็นสับปะรด ข้อมูลก็ยากที่จะแน่นได้
พอได้เริ่มศึกษาหาหนทาง หารายได้ ...แต่รู้ไหมสิ่งที่ล้ำค่าคืออะไร โดยที่ตัวผมเองยังไม่รู้เลยซักนิดว่าได้มันมาตอนไหน สิ่งที่ว่านั้นคือ ประสบการณ์ อย่างที่เคยได้ยินมา ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อที่ว่า ประสบการณ์ เราต้องหาเรียนรู้เอง
หลีกเลี่ยง สิ่งที่ไม่เป็นจริง จาก บีฮีป การพบปะผู้คน การมองคน เจรจา จาก ดาว เขียนบทความ การเขียน สำนวน จาก พี่มือเขียนบทความเกมส์ หนังสือ กลายเป็นคนชอบอ่านหนังสือ เพราะ จะได้มองมุมมองแนวคิดคนอื่น ที่ประสบความสำเร็จ แล้วนำมาปรับใช้กับตัวเรา
เมื่อเริ่มหลบหาย จากเพื่อน จนเป็นที่โดนตั้งคำถามต่างๆนาๆ ผมทำอะไร หายไปไหน ทำไมมุดหัวอยู่แต่ในหอสมุด งมอะไรอยู่กับคอม ไม่ค่อยออกไปไหนมาไหน แต่พออธิบายสิ่งที่จะทำให้เพื่อนเหล่านั้นฟัง สิ่งที่ได้กลับมาคือ "มึงว่างมากเหรอ ทำไมไม่เรียนหนังสือ" สะอึกไปพักใหญ่ อืม ที่เราทำอยู่ มันใช่แล้วเหรอป่าว
แต่คำว่า ว่าง ก็กลายมาเป็นสิ่งที่ทำให้ผมฉุกคิดขึ้นมาได้เป็นคติใหม่ ที่เตือนใจเสมอ
"ก็เพราะ เวลาในมหาวิทยาลัยมันว่าง และมันเยอะยังไงล่ะ ผมถึงขออุทิศเวลาว่างนั้น ทำอะไรเพื่อตัวเราเอง สร้างอะไรก็ได้ให้มันเป็นฐานเอาไว้ หาประสบการณ์เอาไว้ พอเราจบออกจากรั้วมหาวิทยาลัยเราก็เริ่มต้นทำต่อในสิ่งที่เราคิดเอาไว้ตอนเรียนได้ ไม่ต้องเริ่มต้นใหม่หมด"
แม้จะมีคติแบบนี้ขึ้นมาในใจ แต่ถามว่าทุกอย่างยังมืดมนอยู่ไหม กับเด็กวัย 18 จะขึ้น 19 ยังมืดมนอยู่ เพราะเรายังไม่รู้จะทำอะไรดี เพื่อให้ออกมาเป็น คติที่เรามีอยู่ในใจเสมอ...
เราจะทำอะไร เพื่อให้ชีวิตเราออกมาดี ลดภาระจากทางบ้านได้ ออกค่าใช้จ่ายเองได้ ได้ซื้อของที่อยากได้ แล้วภูมิใจเพราะเป็น เงินที่เราหามา เราจะทำยังไง...
เอ๊ะ! ยังมีอีกอย่างที่ผมชอบ ผมชอบดูหนังไม่ใช่เหรอ...
To be continue...
Create Date : 27 กันยายน 2555 |
|
4 comments |
Last Update : 27 กันยายน 2555 21:14:34 น. |
Counter : 836 Pageviews. |
|
|