ขออย่ายอมแพ้ ....อย่าอ่อนแอ ...แม้จะร้องไห้ จงลุกขึ้นสู้ไป จุดหมายไม่ไกลเกินจริง
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
7 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 

ก่อนสิ้นแสงตะวัน

ปีนี้ป้าพนอจันอายุจะครบ 57 ปี เต็ม ย่างเข้าปีที่ 58 ใกล้เวลาที่จะได้ไปพักผ่อนเฝ้าพระอินทร์แล้ว

มีความคิดอยู่ทุกวันว่า เมื่อถึงวันที่เราต้องจากไปโดยไม่ทันได้สั่งเสียลูกหลาน เรามีอะไรไว้ให้เขาระลึกถึงเรา

จึงอยากทำบล็อกส่วนนี้ไว้ให้ลูกหลานได้เก็บไว้ดู ว่าแม่หรือยายของเขา เปรี้ยว ซ่า บ้า แค่ไหน

ป้าเป็นคนแปลกๆ มีความคิดติงต๋องหลายๆอย่างที่ไม่เคยบอกใคร หรือยังไม่มีใครรู้
แต่มีสิ่งหนึ่งที่พอเปิดเผยให้ลูกหลานได้รู้บ้าง คือเรื่องการชอบการแต่งตัว อาจจะเป็นเพราะกรรมพันธ์ส่วนหนึ่ง
และด้วยความชื่นชอบส่วนตัวส่วนหนึ่ง ที่เป็นคนสนุกกับการแต่งตัว ญาติๆและน้องสาวคนเดียว ลูกสาว ก็เป็นคนชอบแต่งตัว

คุณพ่อ คุณแม่ ก็เป็นคนชอบแต่งตัว ป้าคงเป็นต้นไม้ใต้ต้น จึงชอบการแต่งตัว ถึงจะอายุมากแล้ว
แต่ความคิดเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม ยังอยู่ในจิตใจเสมอ ตื่นเต้นที่จะได้ใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ มีความสุขกับการจับเสื้อตัวนั้นมาเมทกับกระโปรงหรือกางเกงตัวนี้




เริ่มชื่นชอบการแต่งตัวตั้งแต่อายุไม่กี่ขวบ เพราะคุณแม่เป็นช่างเย็บเสื้อ จะตัดเสื้อผ้าสวยๆให้ใส่ตั้งแต่เด็กๆ

สมัยก่อนเมื่อห้าสิบปีก่อน จะนิยมตัดเย็บเสื้อผ้าใส่เอง เพราะไม่มีเสื้อผ้าสำเร็จรูปขายเหมือนปัจจุบัน

คุณแม่จะไปซื้อผ้าที่พาหุรัด มาตัดเย็บกระโปรงจีบพองๆรอบตัวให้ใส่







เมื่อห้าสิบปีก่อนไม่ค่อยมีเสื้อผ้าสำเร็จรูปมาขายมากเหมือนสมัยนี้ อยากใส่เสื้อผ้าสวยๆต้องไปจ้างเขาตัดเย็บ
คุณแม่มักพาไปหาซื้อผ้าจากสะพานหันหรือพาหุรัด มาตัดเย็บเสื้อผ้าให้ใส่ ซึ่งก็สวยงามน่ารักมาก

ส่วนรองเท้าก็ต้องเป็นรองเท้าหุ้มส้นสีขาว ถุงเท้าสีขาว เรียกว่าเนียบมาแต่เด็ก





แม่จะพาไปตัดเสื้อที่มิ่งเมือง หรือปัจจุบันคือ ดิโอล์ดสยาม อยากได้เสื้อด่วนภายในไม่กี่ชั่วโมงต้องไปที่นั่น
อยู่ตรงข้ามพาหุรัด พอซื้อผ้าเสร็จก็ข้ามไปให้ช่างตัดได้เลย คงแปลกใจที่ป้าบอกว่าแม่เป็นช่างตัดเสื้อ
แต่ทำไมไปจ้างเขาตัด คุณแม่ก็ตัดให้บ้าง จ้างบ้างแล้วแต่อารมณ์ท่าน เพราะบางแบบต้องใช้ฝีมือที่ดีกว่าปรกติ

ป้าเรียนหนังสือจบแค่มัธยมหก เพราะคุณแม่เสียชีวิตกระทันหัน ทำให้ไม่มีใครส่งเสียให้เรียนสูงๆ

พี่สาวที่รับหน้าที่ดูแลเมื่อคุณแม่เสียชีวิต ก็เลยให้ไปทำงานด้วย ได้ไปเป็นพนักงานพิมพ์ดีด
เงินเดือนเมื่อสี่สิบปีก่อนเริ่มที่ ๖๐๐ บาท ตอนนั้นทองบาทละสองร้อยหรือสามร้อยนี้แหละ
ป้าไม่มีภาระอะไร เงินเดือนออกก็ซื้อผ้าตัดเสื้อตัดกระโปรง รองเท้า ซื้อทุกเดือนแถวร้านแก้วฟ้า บางลำภู
หรือไม่ก็ตัดที่ข้างเฉลิมกรุง ร้านชื้อ อาโก เดี๋ยวนี้ยังอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ มีทุกสี แถมสลับสีกันในคู่เดียว


ไม่อยากจะคุย เมื่อสมัยสาว ป้าผอมมาก แล้วก็นุ่งสั้น มินิเสกิตส์ เขากำลังนิยมทวิกกี้ นางแบบหุ่นกุ้งแห้ง

ป้าจะแต่งตัวเลียนแบบทวิกกี้ ไม่ว่าจะเป็นทรงผมสั้น ทาตาดำๆ ปัดขนตาให้ยาวๆ

พบรักแต่งงานครั้งแรกเมื่อทำงานได้ไม่ถึงปี เราก็แต่งงานกันเลย แต่งงานก็ท้องตอนท้องก็ยังนุ่งมินิสเกิตส์อยู่
ออกลูกแล้วก็อ้วนมาก กว่าจะลดลงก็เป็นปี กลับมาเป็นสาวอีกแบบ เพราะตอนนี้ กำลังฮิตทรงผมแบบเพชรา ชาวราษฎร์
ต้องมีจอนที่ข้างหู ติดกาวให้เป็นหอยหลอด ต้องใส่ขนตาปลอม ทาตาดำๆ ยีผมให้พองๆ หรือเขาเรียกว่า ตีโป่ง




ทำผมทีอยู่เป็นอาทิตย์ นักร้องก็ประเภทคู่แฝด นุ่งสั้นใส่บู๊ทครึ่งน่อง ที่จำได้ก็มี ดวงดาว มนต์ดารา เป็นนักร้องที่สวยน่ารักมาก

ร้องเพลงคู่กับ ไฉไล ไชยทา ทั้งร้องทั้งเต้น อยากเป็นอย่างเขาจังเลย แต่ป้าเป็นคนร้องเพลงห่วยแตก
หลอกตัวเองว่า ร้องเพลงเก่ง แต่จริงๆแล้ว เสียงเหมือนเป็ดเทศ เคยหลอกย่าว่าไปเป็นนักร้อง ความจริงไปติดนักร้อง
คือพ่อของลูกสาวนี่แหละ

ตามเขาไปทุกที่ ตามไปตามมาจนเขาเสกตุ๊กตาเข้าท้อง ก็เลยต้องแต่งงานกัน ใจง่ายไหม แต่ก็เป็นไปตามวัยแหละ
กำลังเจริญพันธ์ อยากรู้อยากเห็นว่ามันสนุกยังไง คนเขาถึงรักกัน กว่าจะรู้ว่าสนุกก็ท้องเสียแล้ว
ไม่ดีอย่าทำตาม แต่เราก็ได้อยู่กินเป็นสามีภรรยากัน ช่วยกันก่อร่างสร้างตัวกันมาถึงสิบสองปี
แล้วก็มีอันให้ได้คอนเวิค ทางใครทางมัน อยากลองของใหม่





ป้าทำงานที่บริษัทย่านราชวงศ์ ทำให้ได้มีโอกาสเดินแถวสำเพ็ง สะพานหัน พาหุรัด ถิ่นคุ้นเคยแต่เยาว์วัย

เงินก็หมดไปกับเครื่องแต่งตัว เสื้อผ้า ไม่ค่อยได้มีเงินเก็บ ทองก็ไม่ค่อยสนใจจะซื้อใส่ มองว่าไม่เก๋

ทำงานอยู่สิบสี่่ปีมีเหตุให้ออกจากงานมานอนอยู่บ้านเฉยๆ เงินก็หร่อยหรอไปเรื่อยๆ
จนมาพบเพื่อนสาว เรากินเที่ยวกันแบบสาวโสด ก็เป็นช่วงชีวิตที่สนุกสนานเต็มที ไม่มีสามีมากวนตัวกวนใจ

ตอนนั้นคิดว่าตัวเองเป็นทอมเป็นดี้ไปเสียแล้ว เพราะติดเพื่อนสาวคนนี้มาก ไม่เห็นหน้าแม้แต่วันเดียวก็ไม่ได้
เช้ามาต้องมาคุยมาเม้าท์ อยู่ด้วยกันจนมืดค่ำ จึงแยกย้ายกันกลับบ้านหาลูกหาสามี(เขายังมีสามีอยู่)
ป้าเลิกกับสามีแล้วแต่อยู่บ้านเดียวกัน แยกห้องกันเท่านั้น ไม่มีหึงหวงกัน ใครอยากทำอะไรทำได้





ช่วงที่เลิกกับสามีคนแรก อายุ ๓๒ ปี คุยกับสามีว่า ถ้าจะเลิกกับฉัน ขอให้เลิกตอนที่ฉันยังสาวอยู่
อย่าเลิกตอนฉันแก่แล้ว เดี๋ยวฉันไปหาผัวใหม่ไม่ได้

ก็ได้เลิกกันตอนช่วงที่เราสวยที่สุดช่วงหนึ่ง อายุ ๓๒ นี่กำลังดี ไม่แก่มาก ยังสามารถหว่านเสน่ห์ได้
ก็ตามประสาสาว ที่ไม่ขี้เหร่มาก ก็มีแมลงภู่ผึ้งให้มาดมมาดอม พอไม่ให้เหี่ยวเฉาเกินไป
แต่ก็ไม่มีใครเป็นตัวเป็นตนเป็นเรื่องเป็นราว เพราะเราก็ไม่อยากไปลำบาก หรือต้องไปรับผิดชอบปัญหาอะไร
อยู่แบบสาวโสด สนุกสนานกับเพื่อนฝูงไม่มีภาระผูกพันกับใครให้รำคาญใจ





พูดเรื่องแฟชั่นทำไมกลายเป็นเรื่องชีวิตรักไปได้ เลื้อยไปเรื่อยเลย วกเข้ามาเรื่องแฟชั่นใหม่

ไม่ทราบคนรุ่นนี้จะรู้จักผ้าที่เขาเรียกว่า ผ้ามองตากูร์ไหม ลักษณะเป็นสีสดๆไม่ยับไม่ย่น ราคาไม่แพง
นิยมนำมาตัดเย็บเป็นชุด หรือตัดกางเกง
พูดถึงกางเกง จะลืมพูดถึง กางเกงปลายบานแปดชิ้นไม่ได้ ตัดที่ร้านตัดกางเกงย่านประตูน้ำ
ใส่กับเสื้อเอวลอย รัดรูป ใส่รองเท้าสูงส้นตึกห้านิ้ว เดินไม่ดี อาจตกตึกขาพลิกขาแพลงได้





คนชอบแต่งตัว อะไรแปลกๆใหม่มา อดไม่ได้ต้องรีบไปหามาใส่มาแต่ง มีอยู่ช่วงหนึ่ง สาวๆเมืองไทยนิยมใส่ชุดแม็กซี่

เป็นชุดยาวเหมือนชุดราตรี นิยมใส่ไปงานเลี้ยงต่างๆ ส่วนทรงผมก็เป็นทรงหยิกหรือม้วนเป็นหลอดๆ
ดัดสวอน เรื่องขนตาปลอมก็เลิกใส่ หันกลับมาแต่งหน้าแบบไม่ใส่ขนตาปลอม ใครใส่ขนตาปลอมถือว่า เชยมาก

เมื่อตอนอายุยี่สิบเก้า เขานิยมกระโปรงเข้ารูป ครึ่งน่อง ป้าก็มีตัวเก่ง ลงทุนตัดร้านฝีมือดีราคาแพง
แต่ทรงสวย แล้วใช้วิธีเปลี่ยนเสื้อไปเรื่อย เพื่อไม่ให้เบื่อ กระโปรงดำ ใส่กับเสื้อผ้าได้สวย เก๋
น้ำหนักตอนนั้นก็กำลังดี ไม่อ้วนไม่ผอมมาก แต่ป้ามาเริ่มอ้วนอีกครั้ง เมื่อสบายใจปลงตกเรื่องคู่ครอง
เลยปล่อยตัวกินอะไรก็อร่อยไปหมด พอกินมากก็อ้วน หน้าตาก็ปล่อยปละละเลยไม่แต่ง ผมก็ใช้ที่คาดผมจนชิน

กลับเป็นป้าแก่ไปอีกครั้งเมื่ออายุได้สี่สิบปี





ตอนนั้นก็ปลงๆกับชีวิต รักใครเขาก็มีครอบครัวแล้ว ดวงไม่ต้องเป็นเมียน้อยใคร มันก็จะไม่ได้เป็น
บางคนมีดวงเป็นเมียน้อยเขาตลอดชีวิต มันก็จะต้องเป็นเมียน้อย
ป้าเดินทางมาเลี้ยงลูกให้เพื่อนที่ญี่ปุ่น ก็มาแบบป้าๆ อ้วนๆ ไปๆมาๆสองสามหนไม่เคยมีหนุ่มญี่ปุ่นสนใจ

เพราะคนญี่ปุ่นไม่ชอบคนอ้วน ป้าก็ไม่อนาทรร้อนใจอะไร ไม่อยากได้สามีญี่ปุ่น จนมาเจอหนุ่มต่างชาติคนหนึ่ง
ก็ชอบๆกัน ทำให้มีกำลังใจลดน้ำหนัก สามารถลดได้สิบกิโลภายในสามเดือน กลับมาเป็นสาวอีกครั้ง

ต้องขอบคุณหนุ่มคนนั้นมาก ที่นำความสาวกลับมาให้ใหม่ เหมือนแมวเก้าชีวิต

การกลับมาสวยใหม่อีกครั้ง นำมาซึ่งความรัก ความหวัง แต่เราก็ไม่ได้มีอะไรคืบหน้า ห่างกันเพราะต้องกลับไทย
เราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย ป้าก็ไม่ได้เสียใจอะไรมาก แต่งตัวเป็นคนใหม่ สดใสขึ้นมาเพราะได้พลังจากความรักครั้งนั้น




เมื่อผอม ความสวยก็มาเยือนเป็นธรรมดา ตอนนี้เขานิยมผ้าไหมจีน กับกางเกงรัดรูปเป็นสีๆสดๆ

ป้าก็มีใส่ไม่ซ้ำสีครบทุกวัน ตอนนั้นอยู่ว่างๆ ก็ไปช่วยเพื่อนขายของแถวราชประสงค์ ขายได้ดีมาก

ได้เพื่อนพ่อค้าแม่ค้า ได้รู้จักคนที่มาจากหลายประเทศที่มาหาซื้อของที่ศูนย์การค้านั้น

ช่วงนั้นแฟชั่นเกาหลีเริ่มเข้ามาเมืองไทย ป้าก็ไม่พลาด มีเงินหกพัน ซื้อชุดเกาหลีไปหนี่งชุด ก็สองพันแล้ว
น้องสาวที่อยู่ญี่ปุ่นส่งกระเป๋าหลุยส์ติงต๋องมาให้ถือ บอกถ้าอยากเก๋ ต้องถือกระเป๋าหลุยส์

ป้าถืออยู่ได้ไม่นาน รุ่นที่เขานิยมกันเดี๋ยวนี้ ชื่ออะไรไม่รู้ ตอนนั้นใบละหมื่นบาท แพงมากๆ

ถือไปขึ้นรถเมล์ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดนโจรมันกรีดกระเป๋าหลุยส์ขาดหมดเลย มันขีดด้านข้าง
เป็นรอยกว้าง แล้วล้วงเอากระเป๋าสตางค์ไปได้ เสียทั้งกระเป๋าและเสียเงิน

ตั้งแต่นั้นก็ไม่ได้ถือกระเป๋าหลุยส์อีก เห็นแล้วแสลงใจ




 

Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2551
16 comments
Last Update : 15 ธันวาคม 2555 9:48:24 น.
Counter : 5147 Pageviews.

 

เจ๊หลีอ่านเรื่องของป้าต้อยมา....เจ๊หลีรู้สึกว่าป้าต้อย เปิดเผย ตรงไปตรงมาดีค่ะ เลยตามอ่านมาเรื่อย

วันนี้ ที่ 1 ซะด้วยดีใจจัง

 

โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ 7 กุมภาพันธ์ 2551 20:38:44 น.  

 

เปรี้ยวมากเลยค่ะป้า

 

โดย: Anny (ga_tan_u ) 7 กุมภาพันธ์ 2551 21:01:49 น.  

 

คุณป้ายอดซิ่ง

รักจัง

 

โดย: ตา (ta/'o-o/' ) 7 กุมภาพันธ์ 2551 21:47:48 น.  

 

เปรี้ยวมากๆ เลยคะ ป้าพนอจัน เห็นบ่อย ที่พันทิพทู้ใกล้บ้านแต่ไม่ได้ทักทายค่ะ วันนี้เลยแวะมา หวัดดีปีใหม่จีนด้วยนะค่ะ

 

โดย: Aiko (Yushi ) 7 กุมภาพันธ์ 2551 22:09:30 น.  

 

แวะมาทักทายค่ะ
มาดูแฟชั่นและอ่านเรื่องเพลินดีค่ะ

 

โดย: khun jim IP: 61.124.64.224 9 กุมภาพันธ์ 2551 4:29:42 น.  

 

ชอบในความเปรี้ยว ความมั่นใจ และความเป็นตัวของตัวเองของป้าพนอจันค่ะ

ปล. แวะเข้ามาดูบ่อย ๆ แต่ไม่ค่อยได้แปะชื่อ

 

โดย: JC2002 IP: 151.196.165.133 15 มีนาคม 2551 2:50:22 น.  

 

ตอนนี้หนูที่อายุ 19
ก็ยังชอบทวิกกี้อยู่เลย
ถามเพื่อนก็ไม่มีใครรู้จัก
ป้าน่ารักมากเลยค่ะ
เปรี้ยวได้ใจหนูจริงๆ

 

โดย: MJ IP: 222.123.243.110 30 พฤษภาคม 2551 11:37:15 น.  

 

อ่านเรื่องของคุณพี่แล้วสนุกมากค่ะ

(เพิ่งเริ่มอ่าน)

จะติดตามอ่านจนจบนะคะ

^___^

 

โดย: น.ส.พังพอน IP: 125.26.32.170 9 กุมภาพันธ์ 2552 18:05:27 น.  

 

สุดยอดคะ

 

โดย: แอนนี่ IP: 117.47.110.187 5 ตุลาคม 2552 15:50:14 น.  

 

ดีมากชอบค่ะ

 

โดย: ลินดา IP: 213.219.94.139 29 ตุลาคม 2552 19:03:32 น.  

 

ชอบป้ามาก มั่นใจสุดๆ อยากเห็นภาพถ่ายปัจจุบันคุณดวงดาว มนต์ดาราบ้างนะคิดถึงค่ะ

 

โดย: ครูตุ่ม IP: 125.26.248.90 3 พฤษภาคม 2553 22:45:09 น.  

 

พี่น่ารักดีครับ เปิดเผย และยิ้มรับโลก ผม 53 ......จะถือพี่เป็นตัวอย่าง
อยากทำไรทำเลย ใช่ไหมครับอย่ายอมแก่

 

โดย: นนทิชัย IP: 180.180.177.29 26 กรกฎาคม 2553 20:44:54 น.  

 

อ่านสนุกดีจังเลย ชอบมากเพราะรุ่นใกล้ๆกัน บางอย่างมันนานก็ลืมบ้างแล้ว อ่านไป มีรูปประกอบก็ดีนะคะ
จะได้นึกภาพวันเวลาเก่าๆออก

 

โดย: หมี ซอยหลังสวน IP: 91.45.10.141 3 มกราคม 2554 0:19:30 น.  

 

เห็นป้าแล้ว สดชื่นจังค่ะ อยากเป็นแฟนคลับแล้วหละค่ะ

 

โดย: หมูแหม่ม IP: 175.105.53.64 29 กันยายน 2554 23:54:58 น.  

 

ป้าน่ารักมั๊กๆๆๆๆ ถึงร่างกายจะเปลี่ยน แต่หัวใจยังเหมือนเดิมค่ะ ชอบป้ามากๆ ขอเป็นแฟนคลับด้วยคนนะคะ...

 

โดย: น้อยหน่า IP: 63.229.195.65 10 ธันวาคม 2554 1:12:51 น.  

 

ป้าน่ารักมั๊กๆๆๆๆ ถึงร่างกายจะเปลี่ยน แต่หัวใจยังเหมือนเดิมค่ะ ชอบป้ามากๆ ขอเป็นแฟนคลับด้วยคนนะคะ...

 

โดย: น้อยหน่า IP: 63.229.195.65 10 ธันวาคม 2554 1:12:52 น.  


พนอจัน
Location :
กรุงเทพฯ Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 291 คน [?]




ป้าพนอจัน เกิด วันที่ ๒ พฤกษภาคม ๒๔๙๔

เป็นคนกรุงเทพ เกิด ที่ เขตดุสิต ถนนสุโขทัย

ชอบทำอาหาร ชอบดอกไม้ ชอบท่องเที่ยว

ตอนนี้แต่งงาน มาอยู่ประเทศญี่ปุ่น ได้ 16 ปี
New Comments
Friends' blogs
[Add พนอจัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.