..Don't find love, let love find you. That's why..it's called..falling in love..because you don't force yourself to fall..you just fall..
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
31 ตุลาคม 2548
 
All Blogs
 

เพศเป็นเรื่องที่ต้องเรียนหรือต้องเลี่ยง


จากรายการ U-Life ออกอากาศที่ช่อง UBC 7
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2548 เวลา 21.00 น.
ดำเนินรายการโดย
นาำยแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน

วิทยากรรับเชิญ
ดอกเตอร์อมรวิทย์ นาครทับ
นายแพทย์ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ จิตแพทย์ที่ดูแลเรื่องการศึกษา



นพ.ทวีศิลป์
ข่าวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีหลายเรื่องทีเดียวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ เป็นเรื่องที่เราต้องหยิบยกขึ้นมา เพราะว่าความสำคัญของเรื่องเพศ เราเรียนรู้กันได้ในทุกข่าว โดยเฉพาะในหน้าหนังสือพิมพ์ นี่คือข่าวที่ปรากฎในหนังสือพิมพ์ครับ โวยบิ๊กบราเทอร์ส่อมั่วกาม นี่ก็ขึ้นหนังสือพิมพ์ได้ จากการออกรายการทางทีวี ซึ่งเป็นที่สนใจของประชาชน ขณะเดียวกันร้านสะดวกซื้อ ก็จะมีปัญหาอย่างนี้เช่นเดียวกันครับ โวยร้านเซเว่น ขายหนังสือโป๊ ผู้บริหารสั่งเก็บ จะเห็นอย่างนี้เป็นรายวันเลยก็ว่าได้กับปัญหาที่เกิดขึ้น จะเรียกว่าเราอยู่ในสังคมของยุคข่าวสาร เรื่องอย่างนี้หลายคนบอกว่า ถึงเวลาแล้วครับ ที่เราจะต้องจัดการ แต่การที่พูดอย่างนี้ หลายๆคนก็บอกว่า เรื่องเพศเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ถ้าจะจัดการ ส่วนหนึ่งของการที่จะให้การศึกษา หลายคนบอกว่าอาจจะเป็นการชี้โพรงให้กระรอก อาจจะเป็นการทำให้เด็กจากที่ไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้ เป็นเด็กที่บริสุทธิ์ กลับกลายว่าเขาอยากจะไปลิ้มลองรสชาติที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุด ผู้ใหญ่บอกใช้วิธีเดิมแหละครับ เลี่ยงไม่ต้องไปเจอ ไม่ต้องไปพบซะดีกว่า เรื่องอย่างนี้มีข้อถกเถียงเกิดขึ้นว่า เพศเป็นเรื่องที่ต้องเรียน หรือต้องเลี่ยง วันนี้เราจะมาพูดคุยวิเคราะห์ประเด็นนี้กันอย่างเจาะลึก จากสองมุมมองของสองนักวิชาการที่ทำการวิจัยเรื่องนี้โดยเฉพาะ และเป็นนักการศึกษาที่เป็นจิตแพทย์ด้วยครับ ท่านผู้ชมมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องเพศ ต้องเรียนหรือต้องเลี่ยง ก็โทรเข้ามาที่ 0-2615-9045 เช่นเคยครับ ใครที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพจิต อยากจะพูดคุยซักถาม เรามีจิตแพทย์จากกรมสุขภาพจิต คอยรับทุกสายโทรศัพท์ของท่านอยู่ครับ วันนี้เราได้เรียนเชิญอาจารย์จากคณะคุรุศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ท่านทำงานเกี่ยวข้องกับเรื่องของการเฝ้าระวังเด็กต่างๆ ท่านดูแลและวิจัย ที่ท่านสนใจมากก็คือ ปัญหาเรื่องเพศของวัยรุ่น อีกท่านหนึ่งเป็นจิตแพทย์อยู่ที่กรมสุขภาพจิต ขณะเดียวกันอาจารย์ก็ได้ช่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการศึกษาของเด็ก อยู่ที่กระทรวงศึกษาธิการด้วย นายแพทย์ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ สวัสดีครับ ต้องขอมุมมองจากทั้งสองท่านด้วยครับ เพราะดูเหมือนจะเป็นปัญหาที่อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์สื่อให้ความสำคัญเยอะแยะเหลือเกิน อาจารย์อมรวิทย์รู้สึกอย่างไรบ้างกับภาพรวมที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องของกระป๋องกางเกงในและการฉีดเจ้าโลกที่เป็นปัญหากัน เขาบอกต้องเริ่มสอนเพศศึกษาให้เด็กแล้วถึงจะดี อาจารย์มีความเห็นว่ายังไงครับ

ดร.อมรวิทย์
ไม่ใช่ฐานะนักวิชาการอย่างเดียวนะครับ ในฐานะที่เป็นพ่อด้วย สมัยนี้เลี้ยงลูกยากขึ้นเยอะ พ่อแม่ตามไม่ทันกระแสว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในชีวิตลูก ที่เข้ามายั่วยุทางเพศ เห็นใจคุณพ่อคุณแม่จริงๆ รวมทั้งเห็นใจตัวเองด้วยครับ

นพ.ทวีศิลป์
อาจารย์มีลูกสาวหรือลูกชายครับ

ดร.อมรวิทย์
ลูกชายครับ

นพ.ทวีศิลป์
อายุเท่าไหร่ครับ

ดร.อมรวิทย์
ประมาณ10ขวบครับ

นพ.ทวีศิลป์
เริ่มสนใจใคร่รู้แล้วครับ

ดร.อมรวิทย์
ใช่ครับ เริ่มมี ถ้าการวิจัยถูกต้องนะครับ เรื่องพวกนี้เริ่มเข้ามาประมาณม.ต้น อายุ11-12ก็เรียกว่าจวนเต็มทนแล้ว ต้องเตรียมเหมือนกันว่าจะคุยกับเขายังไงดี เพราะว่าแต่ละวันนี้ หนังสือพิมพ์เอย ทีวีเอย มันพาแรงยั่วยุทางเพศเข้ามามหาศาลเลย มาทุกรูปแบบ มาหลากหลายแนวทาง ครูก็ตามไม่ทันเหมือนกัน ไล่สอนไม่ทัน ไม่รู้จะสอนยังไง สงสารเด็กก็สงสารครับ เพราะท่ามกลางแรงยั่วยุแบบนี้ จะเรียนไปเพื่อรับมือกับอารมณ์และแรงยั่วยุอย่างนี้จะรับมือยังไง พ่อแม่ก็ไม่รู้ว่าจะตามไปสอนยังไง ครูก็ไม่รู้ว่าจะสอนยังไง เพราะฉะนั้นประเด็นที่คุยกันวันนี้ น่าคุยมากครับ จะเป็นประโยชน์กับหลายๆฝ่าย

นพ.ทวีศิลป์
ที่ผมอยากจะถามอาจารย์ เพราะที่เราตั้งชื่อว่า ต้องเรียนหรือจะเลี่ยงดี ซึ่งจะเป็นประเด็นใหญ่ แต่ขอโปรยถึงปัญหาสังคมตรงนี้สักนิดนึง โดยเฉพาะเรื่องของข่าวที่เกิดขึ้นก็คือ เรื่องของเด็กผู้ชายที่ฉีดน้ำมันมะกอก เพราะเขามีความเชื่อว่า ถ้าฉีดให้เจ้าโลกโตขึ้นแล้ว จะทำให้เขาเป็นชายสมชาย ก็เลยแห่กันไปฉีดมากมายก่ายกอง จนกระทั่งเป็นปัญหาและมีข้อสรุปออกมาว่า ตอนนี้เป็นแฟชั่นของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่อยุธยา และทำให้เกิดปัญหา ซึ่งหนังสือติดตามลงกันมาทั้งสัปดาห์ ขอถามอาจารย์ในฐานะแพทย์ เพื่อให้ความรู้กับประชาชน ทุกๆคนต้องหวงแหนอวัยวะส่วนนี้มากเลย แต่ปรากฎว่าวัยรุ่นไทย ฉีดให้กันเฉยๆเลย โดยมีความเชื่อว่ามันทำให้ใหญ่ขึ้นและทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีกับเขา แล้วก็ทำตามกันต่อได้ เกิดอะไรขึ้นกับจิตใจของเด็กครับ

นพ.ยงยุทธ
เป็นประเด็นที่เด็กคงไม่ได้เกิดการเรียนรู้ว่า ค่าของเราในเรื่องของความเป็นชายและความเป็นหญิงมันอยู่ที่ไหน สิ่งที่เด็กได้เรียนรู้ในปัจจุบันก็คือ เด็กผู้ชายเรียนรู้ว่า ต้องมีเพศสัมพันธุ์ได้บ่อย ต้องอวัยวะเพศโต ในขณะที่เด็กผู้หญิงต้องขาว สวย หมวย อึ๋ม เพราะฉะนั้นภาพลักษณ์ที่มันออกมาจากเพื่อนก็ตาม เด็กผู้หญิงอาจจะเห็นจากโฆษณา เกือบจะทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของเด็กผู้หญิงจะแสดงภาพลักษณ์แบบนี้ เพราะฉะนั้นเด็กจะเรียนรู้ไปในทางลบมาก ผมอยากให้ผู้ชมลองนึกง่ายๆว่า สมองของเด็กวัยรุ่น ประกอบด้วยสองส่วนทีกำลังเปลี่ยนแปลง สมองส่วนหนึ่งเราเรียกว่า สมองส่วนคิด อีกส่วนหนึ่งเราเรียกว่าสมองส่วนอยาก คุณหมอสุกมลให้จินตนาการง่ายๆว่า กำปั้นเรา ถ้าเราเอานิ้งโป้งไว้ข้างใน อันนี้คือสมองส่วนอยาก อีกสี่นิ้วคือสมองส่วนคิดที่คอยคุมอยู่ข้างนอก เด็กวัยรุ่นสมองส่วนอยากกำลังถูกกระตุ้นด้วยฮอร์โมนเพศ ก็ทำให้สนใจเรื่องเพศ ส่วนสมองส่วนอยาก โดยเฉพาะส่วนคิดที่ต้องพัฒนามาเพื่อที่จะควบคุมตัวเองมันเพิ่งจะเริ่มพัฒนา โดยเฉพาะส่วนหน้าสุดของส่วนคิด มันเกี่ยวข้องกับวิจารณญาณการควบคุมตัวเอง กว่าที่มันจะพัฒนาเต็มที่ มันใช้เวลาจนกระทั่งถึงอายุ 25 เพราะฉะนั้นก็คืออีก 12-13 ปีให้หลัง หลังจากที่เริ่มมีความรู้สึกในเรื่องเพศ ทุกวันนี้ที่เรามานั่งกังวล เพราะว่าเรามากระตุ้นแต่เรื่องของสมองส่วนอยาก ไม่ว่าจะด้วยถูกกฏหมาย เช่น โฆษณา ค่านิยมในสังคม หรือผิดกฎหมาย เช่น วีซีดีลามก ก็ล้วนแต่กระตุ้นสมองส่วนอยาก ถามว่าสมองส่วนคิดพ่อแม่คุยกับลูกได้มั้ยเรืองเพศ โรงเรียนสอนเรื่องเพศให้เด็กสามารถที่จะเรียนรู้ และเข้าใจเรื่องเพศได้อย่างถูกต้องได้มั้ย ยังไม่มี เพราะฉะนั้นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากก็คือว่า เขาลองพยายามถามตอบเรื่องเพศในหนังสือ ที่คนชอบเขียนมาถามในคอลัมภ์ทางหน้าหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ผ่านมา 20ปีคนไทยยังถามเรื่องเพศเหมือนเดิม คือ ยังสนใจว่าจะทำยังไงให้อวัยวะเพศใหญ่ ทั้งที่โดยหลักแล้ว คนตอบก็ตอบซ้ำๆซากๆมา 20ปีจนเบื่อแล้ว ที่จริงแล้วขนาดอวัยวะเพศที่คนเราได้รับมาจากพ่อแม่เป็นกรรมพันธ์ติดตัวมา 99.99%ไม่มีใครมีขนาดเล็ก และขนาดที่ทุกคนมีก็ไม่เกี่ยวข้องกับการทำให้คู่เพศสัมพันธุ์มีความสุขหรือไม่

นพ.ทวีศิลป์
อันนี้สำคัญครับ เพราะว่ามีคำถามเยอะแยะ อาจารย์ฟันธงได้เลยใช่ไหมครับ ว่าขนาดกับความสามารถทางเพศมันเกี่ยวข้องกันด้วยหรือไม่ครับ

นพ.ยงยุทธ
จริงๆแล้วขนาดที่ทุกคนมีเป็นขนาดที่เหมาะสมแล้วครับ ความพึงพอใจทางเพศไม่ได้เกิดจากขนาดแน่นอนครับ

นพ.ทวีศิลป์
เทคนิคดีกว่าขนาดใช้ไหมครับ ไม่จำเป็นต้องใช้ขนาดดึงดูดความสนใจ แต่เขาเชื่อว่าถ้ามีขนาดใหญ่จะมัดใจสาวได้ ตรงนี้แสดงว่าความเชื่อถ่ายทอดรุ่นต่อรุ่นหรือไงครับ

นพ.ยงยุทธ
ความเชื่อพวกนี้มาจากอิทธิพลเพื่อนมาก เพราะว่าอิทธิพลที่ทำให้เกิดการเรียนรู้เรื่องเพศอย่างถูกต้อง หรือสมควรคิดนั้นไม่ค่อยได้ผล ไม่ว่าจะในรูปแบบการเรียนการสอน ค่านิยมประเภทนี้เป็นค่านิยมที่กระตุ้นสมองส่วนอยาก มันกระตุ้นให้คนเกิดความรู้สึกคล้อยตามได้ง่ายครับ

นพ.ทวีศิลป์
เรื่องของเรียนกับเรื่องของเลี่ยง ที่เราจะคุยกันเป็นประเด็นใหญ่ในวันนี้ ซึ่งเป็นประเด็นที่หลายๆท่านคงจะอึดอัดใจ โดยเฉพาะคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ มีหลายๆคนบอกว่า เวลาลูกมาถามเรื่องเพศ อึดอัดใจ ต้องขอถามอาจารย์ในฐานะที่เป็นพ่อของลูกและเป็นอาจารย์ด้วย ความอึดอัดใจเกิดขึ้นหรือไม่ครับ เวลามีใครมาถาม และมีหนทางที่จะจัดการตรงนี้อย่างไรดีครับ

ดร.อมรวิทย์
แน่นอนครับ ประเด็นเรื่องเรียนหรือเลี่ยง ตอบได้ตั้งแต่ต้นรายการแล้วว่า ต้องเรียนแน่ๆ ยังไงก็ต้องเรียนครับ ที่กลัวว่าเรียนแล้วจะไปชี้โพรงให้กระรอก อย่าไปเป็นห่วงอย่างนั้นครับ อย่างที่คุณหมอยงยุทธบอก เด็กถูกรุมด้วยสิ่งเร้ามากขนาดนี้ เป็นความรู้ผิดๆก็เยอะ ความเชื่อผิดๆก็มาก วิธีมองเพศตรงข้ามอย่างไม่สมควรก็เยอะ แต่ไม่มีใครไปสอนเขาเลยว่า ความรู้เรื่องเพศคืออะไร ควรจะคิดยังไง ควรจะมองเพศตรงข้ามอย่างให้เกียรติยังไง ไม่มีหรือมีก็มีไม่พอ แต่ในขณะที่สิ่งยัวยุมันมหาศาล มีทั้งผู้หญิง มีทั้งผู้ชาย เป็นป้ายโฆษณานุ่งกางเกงในอยู่บนทางด่วน หรือผู้หญิงนอนทับผู้ชายอยู่บนทางด่วน เด็กเห็นอย่างนี้ และรายการทางทีวีอีกเยอะแยะ ถ้าไม่สอนจะทำยังไง ในฐานะพ่อต่อให้ไม่มีสิ่งเร้าเหล่านี้เราก็หนักใจอยู่แล้วครับ

นพ.ทวีศิลป์
มีหลายๆคนบอกว่าให้เลี่ยงไปเลย ถ้าเขาถามเรื่องนี้ เราต้องเฉไฉไปเรื่องอื่นแทน หรือขับรถมาเราต้องพยายามเลี้ยวไปทางอื่น อย่างให้ผ่านตรงนี้ อะไรต่างๆพวกนี้ เขาบอกว่าถ้าเราพยายามให้ลูกเราอยู่ในกรอบ เด็กก็จะไม่เจอกับเรื่องพวกนั้น เขาก็จะไม่เป็น อาจารย์มีความเชื่อในเรื่องนี้ยังไงครับ

ดร.อมรวิทย์
มันเป็นปฏิบัติการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ครับ

นพ.ทวีศิลป์
ไม่เห็นซะก็ไม่เป็นไร บางทีเห็นรูปภาพ เขาอยากจะรู้ต่อ สมมุติว่าอยู่ในสมุดเรียนของลูก เขาอาจจะกังวลหรือเปล่า

ดร.อมรวิทย์
ถ้าผู้ปกครองมีลูกอยู่ในสายตลอด 24 ชั่วโมงก็ว่าไปเถอะ แต่มันเป็นไปไม่ได้ครับ ปัจจุบันนี้เด็กอยู่ในสายตาพ่อแม่ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง หรือแม้แต่เวลาเขาอยู่ในห้องนอน เข้าใจว่าเขาหลับ แน่ใจหรือว่าเขาหลับ ไม่ได้ไปเปิดเน็ทดูอะไร เพราะฉะนั้นนอกจากแน่ใจว่า ท่านคุยกับลูกได้และลูกยอมอยู่ในสายตาท่านตลอด 24 ชั่วโมง ผมว่าสอนความจริงเขาเถอะ อย่าไปสอนในแบบซึ่งไปครอบงำเขา อย่าไปสอนในแบบซึ่งบังคับให้เขาเชื่อตามเรา เราต้องให้ข้อเท็จจริงเขา ผมว่าหลักของการสอนเพศศึกษาคือ

1.ให้ข้อเท็จจริงเขา เด็กไทยยังขาดข้อเท็จจริงอีกมหาศาลเลย เช่น เขาไม่รู้หลอกว่าการมีเพศสัมพันธุ์ต่อให้ใช้อุปกรณ์คุมกำเนิดมันก็ยังติดโรคติดต่อบางชนิดได้ หรือโอกาสที่จะตั้งท้องก็มี งานวิจัยของต่างประเทศก็มีใช่ไหมครับ โอกาสพลาด 5-10%จากถุงยางเสื่อมหรือใช้ไม่เป็น เขาก็ไม่ทราบ หรือคนที่มีเพศสัมพันธุ์เร็วมีแนวโน้มจะเป็นโรคจิตซึมเศร้ามากกว่าวัยรุ่นปกติ อันนี้ก็เป็นงานวิจัยของอเมริกา วิธีสอนเขาผมเชื่อว่าเด็กเก่ง พอจะคิดเองได้ แต่ให้ข้อมูลเขาที่ตรงๆ และให้อย่างให้เกียรติด้วยนะครับ ไม่ใช่บอกเขาว่าต้องทำอย่างนี้ เรื่องนี้ถูก เพราะว่าพ่อเป็นคนพูดมันต้องถูก แต่บอกเขาว่าเป็นอย่างนี้ คิดเอาเอง อยากจะเอาชีวิตไปเสี่ยงกับโรค กับเอดส์ กับอะไรก็เอา

2.ผมคิดว่าเป็นยุทธศาสตร์สำคัญมาก สอนผ่านกลุ่มเพื่อนด้วยกันจะได้ผลดีกว่าผู้ใหญ่ไปสอน เมืองนอกใช้ยุทธศาสตร์เอากลุ่มเพื่อนที่เป็นเด็กโตกว่ามาสอน เช่น รุ่นพี่ม.5-6 ไปงานปาร์ตี้มา กินเหล้าเมาเกือบจะเสียตัว มาเล่าประสบการณ์เฉียดให้น้องๆฟังหน่อย น้องม.2-3ที่คิดจะซ่า มาเล่าเลยครับ อย่างนี้ไปต้องระวังนะ พี่ไปก็เกือบอย่างนี้แล้วนะ มันมีอย่างนั้นอย่างนี้ เด็กฟังจะเข้าใจกันเองมากกว่าที่ผู้ใหญ่จะไปเทศนาว่า คุณอย่าไป คุณต้องรักนวลสงวนตัว คุณต้องอย่างนู้น คุณต้องอย่างนี้ ให้ข้อเท็จจริงเขา ใช้กลุ่มเพื่อน กลุ่มพี่ให้เป็นประโยชน์ มันมีทางครับ

นพ.ทวีศิลป์
ผมกังวลว่า เวลาที่เขาไปพูดกัน เห็นมีบางเรื่อง โดยเฉพาะบางคนบอกว่า เล่ากันกลายเป็นเรื่องสนุกสนานและกลายเป็นเรื่องที่ ฉันมีอย่างนี้ ฉันกลายเป็นผู้ใหญ่ ฉันเท่ห์ พอคนหนึ่งเล่าอีกคนก็อยากจะเป็นตามหรือเปล่าครับ

ดร.อมรวิทย์
กิจกรรมอย่างนี้คงจะปล่อยตามยถากรรมไม่ได้ครับ นี่เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเพศศึกษาในโรงเรียนที่มีครูดูแล ไม่ใช่เด็กเล่าให้ฟังกันเอง คงไม่ใช่ครับ การสอนยังคงอยู่ในโรงเรียน แต่แทนที่ครูจะเป็นผู้สอนแต่เพียงผู้เดียว มีผู้ช่วยสอนเป็นรุ่นพี่ที่คุยกันมาว่า เราเจตนาจะให้อะไรกับน้องๆ

นพ.ทวีศิลป์
แสดงว่าเรื่องพวกนี้ อย่างน้อยก็เป็นประเด็นที่เด็กพูดคุยกันอยู่แล้ว แต่แทนที่จะอยู่นอกห้องเรียน หยิบยกเอามาให้อยู่ในห้องเรียนซะเลย ให้มีประเด็น ให้มีคนคุมเกม

ดร.อมรวิทย์
มีเป้าหมาย ทำเรื่องนี้ให้เป็นรูปธรรม

นพ.ยงยุทธ
ผมว่าการชวนเพื่อน ในงานวิจัยพบเลยว่า เป็นสาเหตุหลักของการที่เด็กจะมีพัฒนาการทางเพศไปทางบวกหรือลบ ถ้าเราปล่อยให้เป็นไปเอง พฤติกรรมจะเป็นลักษณะที่ว่า เด็กที่มีพฤติกรรมทางลบ เช่น มีเพศสัมพันธุ์ก่อนจะชักชวนเพื่อนๆ และสร้างขึ้นมาเหมือนเป็นบรรทัดฐาน ตรงนี้จะมีผลกับเด็กอื่นๆที่อยู่รอบๆเด็กกลุ่มนี้ จะเริ่มมีเพศสัมพันธุ์กันเร็วขึ้น ซึ่งการมีเพศสัมพันธุ์เร็วขึ้นจะเห็นเด่นชัดมากในกลุ่มเด็กผู้หญิง ในงานวิจัยส่วนใหญ่เราจะพบว่า พฤติกรรมทางเพศของเด็กผู้ชายในสองทศวรรษที่ผ่านมา อาจจะไม่เปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่ คือ อายุเริ่มการมีเพศสัมพันธุ์ ทัศนคติในเรื่องเพศ แต่ตัวที่เปลี่ยนแปลงมาก และเป็นตัวที่น่าจะสังเกตว่าเป็นตัวสะท้อนถึงปัญหาของวัยรุ่นได้ดีก็คือ เพศสัมพันธุ์ในฝ่ายหญิง แนวโน้มในเด็กผู้หญิงคือ ทันทีที่เขามีเพศสัมพันธุ์ทัศนคติทางเพศจะเปลี่ยน จะมีเพศสัมพันธุ์ได้เร็วขึ้น จะมีลักษณะเป็นเพศสัมพันธุ์ในลักษณะสำส่อนมากขึ้น การมีเพศสัมพันธุ์ของเด็กผู้หญิงจะไม่เหมือนกับเด็กผู้ชาย เพราะเด็กผู้ชายผลักดันด้วยเรื่องของฮอร์โมนเพศ ทัศนคติทางเพศจะสำรวจและมีกิจกรรมทางเพศ เช่นช่วยตัวเอง แต่เด็กผู้หญิงพฤติกรรมทางเพศจะถูกกำหนดจากเรื่องทางด้านสังคมมากเลยครับ

1.เพื่อนๆเป็นยังไง ในเด็กบางโรงเรียนหรือบางลักษณะ เด็กจะมีเพศสัมพันธุ์กันเร็วมาก เพราะอิทธิพลเพื่อนไปในทางที่เหมือนกับสนับสนุนให้มี เด็กจะมีเพศสัมพันธุ์กันเร็ว ตั้งแต่อายุ 15-16ปี หรือก่อนหน้านั้นซะอีก

2.ท่าทีทางสังคม ทัศนคติในสังคม สังคมหมายถึง นอกจากเพื่อนที่ใกล้ชิดแล้ว อย่างเช่น บรรยากาศในโรงเรียน ในชุมชน ในสังคม มันยอมรับการมีเพศสัมพันธุ์เร็วหรือไม่ ถ้ายอมรับการมีเพศสัมพันธุ์เร็ว ก็จะนำเด็กไปสู่การมีเพศสัมพันธุ์ที่เร็วมากขึ้น ตรงจุดนี้เป็นสิ่งที่เราควรจะใช้ทั้งกิจกรรมในหลักสูตร

นพ.ทวีศิลป์
อาจารย์กำลังจะพูดว่า เด็กผู้หญิงเป็นตัวแปรสำคัญ

นพ.ยงยุทธ
ที่จะเป็นตัววัด ว่าปัญหาวัยรุ่นในเรื่องเพศมันไปไกลมากน้อยขนาดไหน

นพ.ทวีศิลป์
แต่อาจารย์ครับ ในสมัยก่อนเป็นสาวได้ไม่กี่ปีก็ออกเรือนกันแล้ว ซึ่งตรงนี้เรากำลังพยายามที่จะยืดระยะ เวลาของการมีเพศสัมพันธุ์ครั้งแรกของทั้งเด็กชาย เด็กหญิง ออกไปให้มันยาวมากขึ้น สมัยก่อนบางบ้านมีลูก 9-10 คน แสดงว่าช่วงชีวิตวัยเจริญพันธ์ของเขายาวกันมากมาย ก็ไม่เห็นมีใครเสียคนกันซะที เราจะไปเปลี่ยนแปลงธรรมชาติเพื่ออะไร มันควรหรือไม่ ต้องขอถามความเห็นจากอาจารย์ก่อนครับ

ดร.อมรวิทย์
เรื่องนี้เป็นความเปลี่ยนแปลงทางสังคม ซึ่งผมคิดว่าสังคมไทยตามไม่ทัน มันมาเร็ว มันมาแรง เรื่องเพศมาจากวัฒนธรรมหนัง วัฒนธรรมสื่ออะไรเยอะแยะเลย ในปีที่ผ่านมาเราก็รู้สึกว่าค่อยๆเห็น รุ่นผมจะเห็นว่ามีหนัง มีสื่ออะไรมากขึ้นเรื่อยๆ ทัศนทางเพศก็ค่อยๆเปลี่ยนทางสังคม ยอมรับได้มากขึ้น แต่ปัญหาไม่ได้จบแค่นั้นครับ ในระดับผู้ใหญ่เห็นหนังมีบทเลิฟซีนมากขึ้น แต่ด้วยความเป็นผู้ใหญ่ก็รู้ว่ามันก็แค่หนัง แต่เด็กบางทีเขาอ่อนวัย ดูพวกนี้เขาอ่อนไหว เด็กไม่มีตัวกรอง ไม่มีเครื่องรับที่จะไปบอกเขาว่าอะไรถูก อะไรผิด เพราะฉะนั้นพฤติกรรมหลายเรื่องที่เป็นปัญหาก็เลยเกิดขึ้น สิ่งที่ผมรู้สึกเป็นห่วงก็คือ เรื่องการมีเพศสัมพันธุ์เร็ว หรือการมีทัศนคติทางเพศที่ไม่ค่อยดี มันไม่ได้จบแค่การมีเพศสัมพันธุ์เร็วหรือมาก มันไปจบที่ปัญหาทางสังคมมากมาย วันก่อนมีหมอท่านหนึ่ง เอารายชื่อสตรีที่มาทำคลอดที่โรงพยาบาลให้ผมดู ผมก็ถามว่าเยอะขนาดนี้เลยหรือ คุณหมอบอกว่านี่แค่ส่วนเดียว ทั้งปีมาทำคลอดเก้าพันราย ปึกนี้คือเฉพาะอายุต่ำกว่า 19 ปี มีอยู่ประมาณเก้าร้อยราย ที่อายุต่ำกว่า 15 ปี มีประมาณห้าสิบราย อายุ 12 ปีห้าราย ที่น่าเศร้าในอายุต่ำกว่า 15 ปีลงมา มีบางรายเป็นการทำคลอดครั้งที่สอง อย่างนี้ถึงบอกว่าจะปล่อยให้เป็นไปตามกระแสไม่ได้ เพราะมันมีปัญหาเกิดขึ้นกับเด็ก กับสังคม กับครอบครัว กับใครเยอะแยะ เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่ติดความรู้ ทัศนะที่ถูกต้องให้เด็ก แค่เด็กอย่างเดียวก็อาจจะไม่พอครับ เรื่องนี้ต้องไปคุมทั้งเรื่องสื่อต่างๆที่ไม่ค่อยเหมาะสม ที่ยั่วยุเด็ก

นพ.ทวีศิลป์
ประเด็นของการสอนเพศศึกษา มีการบอกว่าจะบรรจุลงไปถึงระดับประถมต้น ซึ่งหลายคนก็บอกว่า ป.1-2 ให้เขารู้เรื่องนี้ทำไม รู้ไปก็ใช่ว่าจะไปมีเซ็กซ์ ไม่ต้องให้รู้หลอก ยิ่งรู้อยู่ที่บ้านพ่อแม่ยิ่งอึดอัด เวลาจะตอบก็ลำบากใจ

ดร.อมรวิทย์
มันมีลำดับครับ เด็กเล็กๆก็เรียนเรื่องเพศศึกษาได้ อาจจะเริ่มด้วยการดูแลความสะอาด อาจจะเรียนเรื่องการให้เกียรติเพศตรงข้าม การเป็นสุภาพบุรุษตัวน้อย การเป็นสุภาพสตรีตัวน้อย รู้จักให้เกียรติเพศพ่อ เพศแม่ เข้าใจบทบาทที่แตกต่างกันระหว่างหญิงชาย พอโตขึ้นประถมปลายหรือม.ต้นก็ไปอีกขั้นหนึ่ง อาจจะเป็นการเรียนรู้เรื่องระบบสืบพันธุ์อะไรต่างๆ หรือการเข้าสู่วัยรุ่นก็ได้ครับ

นพ.ทวีศิลป์
เดี๋ยวเราจะมาเจาะในแต่ละช่วงว่า การที่เราจะสอนลูกเรื่องเพศจะเป็นยังไง ส่วนเรื่องเลี่ยงมันก็คงต้องมี แต่มันจะเป็นช่วงไหนที่ควรจะเลี่ยงดี เพราะแน่นอนครับ ถึงเวลาจริงๆแล้ว อย่างที่บอกว่า เพื่อนกระซิบว่ามีแล้ว เขามากระซิบถามคุณพ่อว่าอยากจะมีบ้าง ต้องถามเทคนิคจากอาจารย์ว่า จะตอบเขาอย่างไร ท่านผู้ชมมีความคิดเห็นอย่างไร โทรเข้ามาที่ 0-2615-9045 ในประเด็นของเรื่องเพศ จะเรียนรู้หรือว่าจะเลี่ยงอย่างไร เทคนิคที่ดีๆของท่านผู้ชม อาจจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆด้วย แต่ตอนนี้เราลองไปฟังความเห็นจากผู้ที่เราไปสัมภาษณ์มา ว่าเรื่องอย่างนี้เขาคิดเห็นกันอย่างไร ใน U-LIFE

-เพศศึกษาเกี่ยวกับโรงเรียนหรือนักเรียนระดับม.ต้น เป็นสิ่งที่สมควรเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย

ข้อดีก็คือให้เด็กมีความรู้ท่องแท้เลยว่า มีความรู้ไปสามารถปฏิบัติหรือมีการครองชีวิตกันได้อย่างไร จะได้เข้าใจ

ข้อที่ไม่ดี เขาเห็น เขาเรียนแล้ว บางครั้งอาจจะกระตุ้นเด็ก เด็กอาจจะไปทำสิ่งที่ผิดๆก็ได้ แต่มีสิ่งที่ป้องกันคือ ครูเป็นตัวสำคัญ ที่จะต้องออกเงื่อนไขหรือข้อจำกัด ข้อระมัดระวังให้กับเด็กว่า สิ่งนี้จะทำกันอย่างไร ให้ความรู้กันอย่างไรดี

-สมควรบอกให้รู้ เพราะถึงไม่บอกเด็กก็ต้องเรียนรู้จากสื่ออื่นอยู่ดี สมัยนี้มันมีเยอะมาก และอีกอย่างมันเหมือนกับเป็นค่านิยมของเด็กไปแล้วค่ะ

-ควรจะมีการสอนในโรงเรียนครับ ผมรู้สึกว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวเรามาก ผมว่ารู้ดีกว่าไม่รู้ครับ เพราะอย่างแรกถ้าเรารู้ เราจะรู้จักระวังตัวทั้งผู้ชายและผู้หญิง ทำให้เราไม่เชื่อข่าวโคมลอยหรืออะไรก็ตามที่เป็นข่าวอยู่ทุกวันนี้ อย่างการฉีดน้ำมันมะกอก ซึ่งเหมือนเป็นความรู้ที่ควรจะรู้ ผมคิดว่าน่าจะให้รู้ตั้งแต่ชั้นประถมไปเลย ถ้าเขาโตมาเขาจะได้มีความรู้เรื่องตรงนี้ เขาจะได้ระวังตัวครับ

-ให้เขารู้ในสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเขา กับวัยของเขา เพราะถ้าเราพยายามปิดบังเขา ผมรู้สึกว่าเขาอาจจะไปได้ข้อมูลมาด้วยการหาของเขาเองในสิ่งผิดๆ ซึ่งอาจจะกลายเป็นปัญหาและเป็นปัญหาสังคมด้วยครับ

ทางบ้าน
มีรายการทางทีวีรายการหนึ่ง เผยภาพไม่เหมาะสม ทั้งๆที่บอกว่ามีการแยกห้องนอนผู้ชายผู้หญิง แต่ปรากฏว่ามีผู้ชายคนหนึ่งเข้าไปในห้องนอนผู้หญิง แล้วนอนอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกันเลย เป็นภาพที่ไม่เหมาะสม ไม่ควรเอามาฉายให้ดูกันเลย ซึ่งตอนนี้ก็ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์แล้วครับ

นพ.ทวีศิลป์
ผมเองไม่อยากจะพูดเรื่องนี้บ่อยเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเป็นวิธีการหนึ่งของการดึงความสนใจด้วยหรือไม่ แต่อย่างน้อยวันนี้เราก็หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมา เพื่อที่จะมาพูดคุยกันในแง่มุมของวิธีการเอามาเรียน เราสรุปได้ประเด็นหนึ่งก็คือ เราคงต้องเรียนครับ แต่เรียนรู้อย่างไรถึงจะเหมาะสม เรียนรู้อย่างไรให้เข้ากับวัยของเขาด้วย เราจะมาพูดกันต่อว่า เด็กเล็กๆพอเรียนรู้ขึ้นมาด้วย แน่นอนครับ ปัญหาคือเด็กโตครับ พอเวลาเขารู้ขึ้นมาแล้วอยากจะรู้เยอะๆ อาจารย์มีหลักการณ์ยังไงครับ

นพ.ยงยุทธ
เราสอนเรื่องเพศศึกษาเพื่อให้เด็กสามารถป้องกันตัวเองได้ คือ มีภูมิคุ้มกัน ถ้าสอนเร็วเกินไปก็ไม่เกิดประโยชน์ ถ้าสอนช้าเกินไปก็ไม่ได้เอาไปใช้ประโยชน์ เด็กม.ต้นส่วนใหญ่ยังไม่มีเพศสัมพันธุ์ เพราะฉะนั้นการสอนส่วนใหญ่จะเน้นให้ตระหนักรู้ รู้ว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องใกล้ตัว ความใกล้ชิดนำไปสู่การเกิดเพศสัมพันธุ์ แอลกอฮอล์ที่เราดื่มนำไปสู่การมีเพศสัมพันธุ์ หรือการดูภาพโป๊มีผลกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของเด็กวัยรุ่น เพราะเรายังมีความสามารถในการควบคุมอารมณ์ทางเพศจำกัด ก็จะนำไปสู่การมีเพศสัมพันธุ์ แต่ทั้งหมดที่เล่ามามันไม่ใช่เป็นการสั่งสอน เพราะว่าวิธีการสั่งสอนสมองส่วนคิดมันไม่ชอบ และสมองส่วนอยากก็จะต่อต้าน มันก็เลยไม่ได้ผลทั้งคู่

นพ.ทวีศิลป์
บอกว่าไม่ดีๆ ทำไมผู้ใหญ่ยังมีกัน ผมว่าเด็กต้องคิดครับ ทำไมต้องมาห้ามกันนักหนา

นพ.ยงยุทธ
หรือสอนไปไม่รู้ว่าครูจะเป็นยังไงหรือเปล่า เพราะฉะนั้นวิธีการโดยหลักที่จะทำให้สมองส่วนคิดมันคิดได้

1.วิธีการสอนแบบให้เด็กมีส่วนร่วม เช่น มีกรณีศึกษาจากข่าวในหนังสือพิมพ์ แล้วให้เด็กได้คุยกัน ทำให้การสอนน่าสนใจ มีสื่อ มีกรณีศึกษาที่น่าสนใจ

2.ต้องเป็นลักษณะที่ชวนให้เด็กคิด โดยไม่ไปผูกขาดความคิดเขา การที่เด็กบางคนอาจจะซ่าหน่อย บอกว่าฉันว่าอย่างนี้แหละ มันไม่ตรงกับความคิดของเรา การที่ครูบอกว่าครูคิดอย่างนี้นะ แต่อาจจะไม่ตรงกับเธอก็ไม่เป็นไร ยังดีกว่าการที่ครูไปบอกว่าคิดอย่างนั้นผิด เพราะถ้าเราบอกว่า เราคิดต่างจากเขา เขาจะเก็บเอาสิ่งที่เราบอกว่าต่าง อย่างเช่น เราบอกว่าการดื่มเหล้าไม่ถูก แล้วทำไมผู้ใหญ่ถึงดื่มเหล้ากันล่ะ เราก็บอกได้ว่า ในความเห็นของครูคิดว่าอย่างนี้ เราก็บอกไป เด็กก็จะกลับไปคิด แต่ถ้าเราไปตำหนิว่า เธอพูดอย่างนี้ไม่ถูก สิ่งที่เราพูดไปเด็กจะไม่กลับไปคิดเลย เพราะฉะนั้นการที่เรายอมรับ เด็กอาจจะมีความเห็นต่างจากเรา แล้วทำให้เด็กเอากลับไปคิด ยังดีกว่าการที่เราจะพยายามยัดเยียดความคิดที่เราคิดว่าถูก แต่จริงๆเด็กเขาไม่รับ

นพ.ทวีศิลป์
อาจารย์ครับ มันควรจะเปิดเผยขนาดไหน ถึงจินตนาการ ถึงรูปภาพในหนังสือ มันควรจะมีแค่ตัวหนังสือ หรือควรจะมีภาพประกอบด้วย คำว่าเพศสัมพันธุ์ที่เคยได้ยินมาตั้งนานมันคืออะไร ส่วนไหนของผู้ชายไปอยู่กับส่วนไหนของผู้หญิง อะไรขนาดนั้นเลยหรือไม่ครับ หรือมันเป็นเพียงแค่ให้เขาจินตนาการณ์ไปตามความคิดของเขา โดยหลักการศึกษามันควรจะเป็นยังไงดีครับ

ดร.อมรวิทย์
โดยหลักการศึกษา สิ่งที่เราจะให้เด็กหรือสอนอะไรต้องมี 3 เรื่อง 1.ความรู้ 2.ทัศนคติ 3.ทักษะ ไม่ว่าจะสอนอะไรก็สามเรื่องนี้แหละครับ

นพ.ทวีศิลป์
เรื่องเพศสัมพันธุ์ อันหลังก็...

ดร.อมรวิทย์
ยังไม่ถึงขั้นนั้นครับ ทักษะอาจจะหมายถึง ทักษะการปฏิเสธก็ได้ ทักษะการดูแลอารมณ์

นพ.ยงยุทธ
การตัดสินใจและแก้ไขปัญหา

ดร.อมรวิทย์
การอยู่ในสถานการณ์เสี่ยง ประเมินความเสี่ยงอะไรต่างๆ

นพ.ทวีศิลป์
อันแรกคือ

ดร.อมรวิทย์
ความรู้ ซึ่งมันจะไล่ลำดับไป เด็กเล็กก็เรียนอย่าง อาจจะเป็นการดูแลร่างกาย การดูแลความสะอาด อวัยวะส่วนนั้น เด็กโตก็เรียนอย่าง อาจจะเป็นระบบสืบพันธุ์ เรื่องโรคเอดส์ แต่ที่สำคัญคืออันที่สอง ทัศนคติ เด็กเล็กๆควรจะเรียนรู้ว่า ผู้ชายผู้หญิงไม่เหมือนกัน มันมีบทบาทหน้าที่ในสังคมต่างกัน มันต้องให้เกียรติกัน ทั้งเพศพ่อเพศแม่เป็นยังไง เรียกว่าเป็นเพศศึกษาเชิงจริยธรรม ตอนนี้ผมเข้าใจว่า คุณพ่อคุณแม่ที่ดูรายการ ถ้าพูดถึงเรื่องเพศศึกษาจะนึกถึงการสอนเรื่องระบบสืบพันธุ์ และการมีเพศสัมพันธุ์ มันไม่ใช่แค่นั้น เป็นเพศศึกษาเชิงจริยศึกษาและสำคัญมากด้วย ควรจะคิดยังไงกับเพศตรงข้ามดี คิดอย่างให้เกียรติ มองเขายังไงดี เรื่องชีวภาพมันมาทีหลังครับ

นพ.ยงยุทธ
เรื่องทัศนคติบางทีแฝงอยู่ในคำสอนที่สำคัญมาก อย่างเช่น เด็กผู้หญิงในปัจจุบันนี้ เข้าใจว่าการแต่งตัวให้เซ็กซ์ซี่มันเป็นเรื่องทันสมัย แต่จริงๆเวลาเราสอน เราเอาภาพผู้หญิงแต่งเซ็กซ์ซี่ แล้วให้เด็กผู้หญิงอธิบายตามความคิดของตัวเอง เด็กผู้ชายอธิบาย แล้วเอามาแลกเปลี่ยนกัน เด็กผู้หญิงยังตกใจเลย เพราะพบว่าสิ่งที่ตัวเองเห็นว่าสวยทันสมัย ผู้ชายคือเห็นว่ายั่วยวน

ดร.อมรวิทย์
เห็นว่าเป็นคนให้ท่า เป็นคนง่าย

นพ.ยงยุทธ
อันนี้เป็นการทำให้เด็กได้เรียนรู้ทัศนคติของคนอื่น

นพ.ทวีศิลป์
ก็หนังสือพิมพ์เอย หรือไม่ก็หนังสือดาราภาพยนตร์ทั้งหลาย เดี๋ยวนี้อึ๋มกันไว้ก่อนครับ

นพ.ยงยุทธ
นี่แหละครับ ประเด็นการสอนเรื่องเจตคติถึงสำคัญ สอนให้รู้ว่าสิ่งที่เด็กเชื่อด้วยความเข้าใจง่ายๆของตัวเองว่า ผู้หญิงในสื่อที่ไหนก็ล้วนแต่อึ๋มทั้งนั้น ผู้ชายเขารับรู้ว่ายังไง ต่อไปถ้าเขาจะแต่งตัวแบบนั้น เขาต้องคิดว่าสิ่งที่เขาคิดว่าทันสมัย ผู้ชายถือว่าเป็นเรื่องที่เชิญชวนทางเพศนะ

นพ.ทวีศิลป์
เด็กหลายๆคนเวลาเรียนรู้เรื่องเพศ เมื่อไหร่จะได้เห็นภาพที่อยากจะเห็น เราเปิดเผยได้แค่ไหนครับ

นพ.ยงยุทธ
เปิดเผยได้นิดหน่อยเพื่อการเรียนรู้

นพ.ทวีศิลป์
ควรจะเป็นรูปภาพ ตัวหนังสือหรือเป็นแค่รูปวาด มันมีความแตกต่างกันยังไงครับ

นพ.ยงยุทธ
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ครูถูกวิจารณ์หาว่าไปเปิดสื่อลามกให้เด็กดู ที่จริงเป็นการเปิดเพื่อนำไปสู่การพูดคุยกับเด็ก อันนี้คือปกติของครูที่สอนเพศศึกษาเก่งๆ เขาก็ต้องรู้จัก อย่างที่หมอยกตัวอย่างเรื่องการเอาภาพผู้หญิงที่แต่งตัวเซ็กซ์ซี่มา เราไม่ได้เอามาเพื่อบอกว่าให้ผู้หญิงทุกคนแต่งตัวเซ็กซ์ซี่ แต่เรานำสู่การอภิปรายแลกเปลี่ยนความเห็น เพราะฉะนั้นการนำเสนอภาพที่เป็นวิถีชีวิตจริง ที่เด็กวัยรุ่นเจอกันประจำ ครูที่สอนเก่งเขาต้องถือมาเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ เพื่อนำไปให้สมองส่วนคิดได้วิเคราะห์และคิด แต่เราไม่ได้ใช้สื่อพวกนั้นเพื่อมากระตุ้นสมองส่วนอยาก มันทำหน้าที่คนละแบบ ถามว่าสื่อพวกนี้จำเป็นหรือไม่ มันก็มีส่วนในการเรียนการสอนที่นำไปสู่การคิดต่อไปครับ

นพ.ทวีศิลป์
ดึงดูดความสนใจของเด็ก อาจารย์ครับ ในต่างประเทศคณิตศาสตร์ยังมีหลักสูตรข้างนอก เราก็หยิบเอามาใช้ได้ เพศศึกษามีการทำแบบที่เราดึงเอามาใช้ได้หรือไม่ครับ

ดร.อมรวิทย์
มีครับ ที่จริงเมืองนอกปวดหัวกับเรื่องเพศศึกษาเท่าๆเรา หรือมากกว่า เขามีปัญหามากกว่าเราก็เยอะครับ อเมริกาเด็กผู้หญิงวัยรุ่นตั้งท้องปีหนึ่งหลายแสนคน เขาก็ปวดหัวเรื่องนี้มาก ถึงต้องมารณรงค์กัน การสอนของเขามีหลายแบบ คงตอบได้ยากว่าสอนแบบไหน เพราะมีการกระจายอำนาจกันเป็นรัฐๆ แต่ละรัฐก็สอนไม่เหมือนกัน บางรัฐก็อาจจะอนุรักษ์นิยมหน่อย บางรัฐอาจจะบอกว่าเรื่องนี้พยายามชะลอสอนให้ช้าๆหน่อย บางรัฐก็สุดขั้วไปเลย อะไรที่เด็กเห็นในสื่อ เขาก็คิดว่าถ้าเราไม่สอนเขา เขาก็ไปหาดูเอาเองตามเว็บต่างๆ ทำไมเราไม่เผชิญความจริง โดยการหยิบเอาบางส่วนที่พอจะรับได้ เอามาเป็นสื่อประกอบการสอน ให้เขาเผชิญหน้าคู่กับเรา โจทย์อยู่ตรงนี้ครับ จะให้เขาเผชิญหน้าเดี่ยวๆ โดยที่ไม่ได้ตั้งตัว หรือจะให้เผชิญหน้าโดยมีเราอยู่ข้างๆ

นพ.ทวีศิลป์
สมมุติคืนนี้เขานั่งเปิดอินเทอร์เน็ทดูอยู่ เราควรจะนั่งดูกับลูกเราหรือว่ายังไงดีครับ

ดร.อมรวิทย์
อาจจะไม่ต้องถึงขนาดนั้นครับ ผมคิดว่าที่สำคัญคือ การรับสื่ออะไรต่างๆของเด็กมันมาเร็วมาก จากการวิจัยบอกว่า เด็กประถมปลายเริ่มเข้าถึงสื่อลามกพวกนี้แล้ว แต่ผมก็คงไม่เชียร์ให้คุณพ่อคุณแม่ไปดูหนังโป๊กับลูก คงไม่ถึงขนาดนั้น แต่ว่าในโรงเรียนการใช้สื่อ ซึ่งอาจจะเป็นภาพหรือเป็นอะไรที่พิจารณาแล้ว มันก็คือสิ่งทีเด็กอาจจะได้เห็นทั่วๆไป ก็พอรับได้ ไม่ถึงกับลามกอนาจารเป็นสื่อประกอบบ้าง อย่างที่คุณหมอยกตัวอย่าง เช่น ผู้หญิงแต่งตัวอาจจะโป๊หน่อย มำทำการศึกษากันซิ คุณอยากรู้มั้ยว่าผู้ชายคิดยังไง เวลาคุณแต่งอย่างนี้ หรือเป็นกรณีของวัยรุ่นซึ่งตั้งท้องไปทำแท้งอะไรต่างๆ ซึ่งมันก็พบเห็น ตรงนี้เอามาเป็นกรณีศึกษาได้ อย่าไปปิดกั้นเด็ก เพียงแต่ต้องเลือกหน่อย มันมีตัวอย่าง มีประเทศหนึ่งทางสแกนดินีเวียเขาก็สุดขั้วไปนิดหนึ่งก็คือ เขาไปจ้างบริษัทเอกชนทำสื่อประกอบวิชาเพศศึกษา ปรากฏว่าบริษัทนี้เขาเอาเรื่องการมีเซ็กซ์หมู่มาเป็นส่วนหนึ่งของสื่อการสอน ปรากฏว่ากระทรวงศึกษาของประเทศนี้สั่งห้ามเลย เขาบอกว่าเอามาได้ยังไง แต่คำแถลงการณ์ของโฆษกบริษัทเขาก็พูดน่าฟังครับ เขาบอกว่าถ้าไม่มีสื่อที่สอนเด็กเรื่องนี้ตรงๆ เด็กก็ไปเปิดตามเว็บดูเองนั่นแหละ เพราะเด็กก็อยากรู้ว่าเรื่องนี้มันเป็นยังไง เพราะฉะนั้นทำไมเราไม่เอาเรื่องนี้มา

นพ.ทวีศิลป์
แล้วจะสอนยังไงครับ

ดร.อมรวิทย์
เอามาให้รู้ว่ามันคืออะไร และมันไม่ดียังไง หรือมันอาจจะนำไปสู่ความปลอดภัยยังไง

นพ.ยงยุทธ
เป็นกรณีศึกษาก็ได้ครับ เอาเหตุการณ์ข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ เอากรณีศึกษาของชีวิตคู่ แล้วให้เด็กแบ่งกลุ่มวิจารณ์

นพ.ทวีศิลป์
ไม่จำเป็นต้องเอาภาพเซ็กซ์หมู่แบบนู้ดมารวมกัน

ดร.อมรวิทย์
สิ่งที่ยากที่สุดคือ การเอาชนะความกลัวและความระแวงของผู้ใหญ่เองครับ

นพ.ทวีศิลป์
รู้สึกว่ามันยากครับ

ดร.อมรวิทย์
เพราะรู้สึกว่าจะเป็นการชี้โพรงให้กระรอกหรือเปล่า แต่ในขณะเดียวกันจริงมั้ยจริง ถ้าเราไม่สอนเขา ไม่เผชิญกับมันตรงๆ เขาก็ไปหาดูที่อื่นได้ เขาก็ไปรู้เอง

นพ.ยงยุทธ
แต่เราก็ต้องเคารพในประเพณีของแต่ละกลุ่มครับ ตัวอย่างเช่น ในชุมชนอิสลาม เขาจะมีความรู้สึกที่อ่อนไหวต่อเรื่องนี้มาก เพราะฉะนั้นการที่เราจะจัดหลักสูตรการเรียนการสอนต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่ไม่ได้แปลว่าไม่สอน คุณเพียงแต่ระมัดระวังในการนำเสนอเรื่องราว นำเสนอสื่ออะไรอย่างนี้

นพ.ทวีศิลป์
ขออนุญาตแทรกถามตรงนี้ด้วยครับ การสอนเพศศึกษาในโรงเรียน ควรจะเน้นเกี่ยวกับโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเพศสัมพันธุ์เลยดีมั้ย ผมนึกถึงภาพบนซองบุหรี่ครับ เอาภาพปอดมีปัญหาถุงลมโปร่งพองหรือใกล้ตายมา เพื่อให้เด็กมาดูและรู้จักป้องกัน ไม่ต้องสอนเทคนิคกิจกรรมทางเพศอะไรเลย อย่างนี้จะดีหรือไม่ดีครับ

นพ.ยงยุทธ
เรียกว่าใช้วิธีการขู่ การขู่ในวัยรุ่นใช้ไม่ค่อยได้ผลครับ เพราะว่าเวลาที่เขาจะทำอะไรก็ตาม เขาจะคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ถ้าให้เขาเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ตัวอย่างเช่น เล่าถึงชีวิตคนที่ติดเชื้อเอดส์ ว่าเขามีความเจ็บปวดยังไง ในการดำเนินชีวิตที่มีคนรังเกียจเขา กับการขู่ว่าคุณจะตายเพราะเอดส์ ถ้าคุณไปมีเพศสัมพันธุ์ วิธีแรกในงานวิจัยได้ผลดีกว่าเยอะ อย่างที่ผ่านมาความล้มเหลวของการให้การศึกษาเรื่องยาเสพติดมากที่สุดก็คือ การพยายามขู่ว่า คุณติดยาเสพติดแล้วคุณจะตาย คุณจะถูกจับ แต่ยาเสพติดก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตลอด

นพ.ทวีศิลป์
มันก็ไม่ได้ช่วยอะไร

นพ.ยงยุทธ
วิธีการขู่กับวัยรุ่น สมองส่วนคิดไม่ค่อยโตครับ และสมองส่วนอยากก็จะต่อต้าน เพราะฉะนั้นมันเป็นมาตรการที่ไม่ค่อยได้ผลครับ แต่คนเราชอบคิดว่าขู่เข้าไปเยอะๆจะได้กลัว จริงๆแล้วเรื่องเพศผมว่าใช้ข้อเท็จจริง สอนเรื่องเจตคติ โดยใช้ขบวนการกลุ่ม ใช้กรณีศึกษาให้มากๆ ที่จริงแล้วหัวข้อทีพูดในวันนี้ที่จริงถูกครับ ที่บอกว่าเพศศึกษาเรียนหรือเลี่ยง คือต้องทั้งเรียนและเลี่ยงด้วย เลี่ยงที่สำคัญที่สุดก็คือ ชีวิตวัยรุ่นถ้าเราให้เขาแต่ข่าวเรื่องเพศเสร็จแน่ๆ เพราะฉะนั้นต้องหากิจกรรมให้เด็กวัยรุ่นทำ ถ้าเด็กวัยรุ่นได้กิจกรรม ได้ใช้เวลาอย่างมีความหมาย แทนที่จะมาทุ่มเทสนใจหมกมุ่นเรื่องเพศมันจะน้อยลงครับ แต่ถ้าตรงกันข้าม โรงเรียนวัยรุ่นของเรา ห้าโมงเย็นปิด กิจกรรมไม่มี กิจกรรมมีเฉพาะที่ทำชื่อเสียงให้โรงเรียน กิจกรรมไหนที่ไม่ทำชื่อเสียงให้โรงเรียน ฉันไม่มี คือไม่ได้เอาเด็กเป็นศูนย์กลาง โรงเรียนอย่างนี้เด็กจะสนใจเรื่องเพศมากเลย เพราะว่าสามโมงเย็นก็ออกจากโรงเรียนแล้ว ไม่รู้จะไปไหน

นพ.ทวีศิลป์
ก็นั่งลูบลคำกันอยู่ในห้องเรียนกวดวิชา

นพ.ยงยุทธ
ก็นำไปสู่การสนใจเรื่องเพศ แต่ถ้าเราจะให้เด็กเลี่ยงวิธีดีที่สุดก็คือ เรื่องกิจกรรม ให้เด็กมีกิจกรรมเยอะๆ กิจกรรมนั้นอยู่ในสายตาของเรา อยู่ในโรงเรียน กิจกรรมมีหลากหลายแล้วแต่ความสนใจของเด็ก ตรงนี้จะช่วยได้มากครับ

นพ.ทวีศิลป์
ถ้ากำกับด้วยหน้าที่ศีลธรรมหรือพลเมือง ก่อนที่จะสอนเพศศึกษา

ดร.อมรวิทย์
ความจริงเพศศึกษามันไปแทรกอยู่ในวิชาต่างๆได้นะครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นวิชาซึ่งอยู่เดี่ยวๆ จะสอนในวิชาภาษาไทยหรือวิชาอะไรก็ได้ ให้เด็กเขียนเรียงความ ให้เด็กทำงานกลุ่ม ร่วมมือกันเป็นกลุ่มหญิงชาย รู้จักแบ่งหน้าที่กัน ให้เกียรติกัน มันก็แทรกการให้เกียรติเพศไปในตัวได้ครับ

นพ.ยงยุทธ
ผมเคยไปดูในประเทศหนึ่ง ในวิชาภาษาอังกฤษ เขาจะตัดเอาข่าวพวกนี้มาให้เด็กอ่านทำความเข้าใจ

นพ.ทวีศิลป์
ได้ภาษาด้วย ในขณะเดียวกันได้เนื้องเรื่องเกี่ยวกับเรื่องเพศด้วย เป็นการสอนไปในตัว

นพ.ยงยุทธ
ในชั่วโมงเดียวกัน เขาก็สอนทักษะการปฏิเสธ ผมว่าน่าสนใจมากครับ

ดร.อมรวิทย์
จริงอยู่เรื่องเพศถึงเราจะพูดยังไงก็แล้วแต่ พ่อแม่หรือครูจำนวนหนึ่งจะรู้สึกกลัวๆกล้าๆ ว่าจะสอนวิธีไหน ผมว่ามันต้องสี่เส้าเลยครับ เราต้องช่วยกันครับ โรงเรียน นักวิชาการ ผู้ปกครอง ถ้ากลัวว่าผู้ปกครองจะรับได้หรือไม่ได้ ต้องดึงเข้ามาช่วยเลยครับ บอกว่าเราจะสอนกันในโรงเรียนอย่างนี้ดีหรือไม่ พ่อแม่เห็นด้วยหรือไม่

นพ.ยงยุทธ
การสอนเพศศึกษาในโรงเรียนโดยไม่ให้ผู้ปกครองรับรู้จะเกิดปัญหามาก เพราะผู้ปกครองจะพบเห็นนิดๆหน่อยๆ หรือเด็กมาเล่า หรือเกิดไปรู้มาว่าครูเอาภาพเซ็กซ์ซี่มาให้ดู

นพ.ทวีศิลป์
ทะเลาะกันแน่ๆเลยครับ

ดร.อมรวิทย์
ในทางกลับกัน สิ่งที่เราตกลงกันแล้ว พ่อแม่ก็เอาไปใช้ที่บ้านได้ ไปสอดแทรกไปคุยกับลูกที่บ้านได้ ก็สองแรงแข็งขัน อันที่สี่เด็กเองครับ เด็กน่าจะมีส่วนร่วมในการกำหนดว่าอยากเรียนอะไร ผมรู้สึกอย่างนั้นครับ

นพ.ยงยุทธ
อย่างที่อาจารย์พูดไว้ในตอนต้นอันหนึ่งที่สำคัญคือ การใช้กิจกรรมชมรมที่เป็นอิทธิพลเพื่อนทางบวกเข้าไปช่วย

ดร.อมรวิทย์
เด็กมีส่วนร่วมตลอดโครงการสอนเพศศึกษา หลักการสอนพื้นฐานคือ 1.ต้องโดนใจเด็ก จะสอนวิชาอะไรก็ต้องโดนใจเด็ก เพราะฉะนั้นเด็กควรจะมีส่วนร่วม ที่พูดนี่ในบางประเทศเขาทำนะครับ อย่างที่เมืองจีน เขาเพิ่งเปิดตัวตำราเพศศึกษาเล่มแรกในรอบหลายศตวรรษ

นพ.ทวีศิลป์
มีแล้วหรือครับ

ดร.อมรวิทย์
มีแล้วครับ หลังจากดำมืดมานาน

นพ.ทวีศิลป์
แล้วเราล่ะครับ

ดร.อมรวิทย์
ตอนนี้ทีมทำงานของกระทรวงที่ทำหนังสือเพศศึกษาออกมา มีที่ปรึกษาเป็นนักเรียนสิบคน ให้นักเรียนมาคอยบอกว่าอย่างนี้โดนหรือยัง แต่คงต้องมาชั่งน้ำหนักพอดีๆ โดนใจเด็กด้วย พ่อแม่ก็รับได้ด้วย ผมว่าเด็กมีขบวนการตั้งแต่ต้น จนมาสร้างกลุ่มเพื่อน แลกเปลี่ยนช่วยกันคุย ครูช่วยคุมกติกาหน่อย สี่เส้าตรงนี้จะช่วยลดความเป็นห่วงเรื่องจะเรียนตรงไหน เลี่ยงตรงไหนได้นะครับ

นพ.ทวีศิลป์
ได้หลากหลายทีเดียวครับ นี่คือเรื่องที่ใกล้ตัว และท่านสามารถนำไปใช้ได้ในบ้านเลยครับ เรื่องเพศศึกษาเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากๆ ลูกโตขึ้นมาเขาต้องถามเราอยู่แล้ว ขณะเดียวกันเรื่องของตรงนี้เป็นพัฒนาการเรื่องหนึ่งที่เด็กจะต้องเผชิญ แต่เรื่องเรียนควรมาก่อนเรื่องเลี่ยง แต่ขณะเดียวกันเรื่องเลี่ยงก็ต้องเหมาะสมกับช่วงของวัย และในเรื่องของการให้เด็กได้เผชิญหน้ากับสิ่งที่ถูกต้อง นี่คือสิ่งที่เราพยายามสกัดมาให้ท่านผู้ชมได้รับทราบ การนำเอาเรื่องใกล้ๆตัว ไม่ต้องรอในห้องเรียน สามารถที่เอามาใช้ได้ในบ้านเราเลย แม้กระทั้งข่าววันนี้ ถ้าท่านผู้ชมเห็นประโยชน์ หยิบยกมาพูดคุยกับลูกได้ทันที ไม่ต้องรอวันพรุ่งนี้ไปโรงเรียนให้ครูสอน สอนตั้งแต่ในบ้านได้เลยครับ วันนี้เราได้ข้อมูลที่เยี่ยมยอดทีเดียวจากวิทยากรรับเชิญทั้งสองท่าน ต้องขอกราบขอบพระคุณกับทั้งสองท่านเป็นอย่างยิ่งที่ให้เกียรติกับรายการ กราบขอบพระคุณครับ




 

Create Date : 31 ตุลาคม 2548
6 comments
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2548 17:36:15 น.
Counter : 810 Pageviews.

 

อื่อ...มีประโยชน์มากเลยครับ...

 

โดย: ครีเอทีฟ หัวเห็ด 31 ตุลาคม 2548 12:19:05 น.  

 

ขอบคุณค่ะ

 

โดย: VSr. 31 ตุลาคม 2548 12:21:48 น.  

 

ลดน้ำหนักง่าย ๆ อยู่ที่บ้าน ผ่านอย.มา 60 ประเทศทั่วโลก ดูแลโดยทีมงานแพทย์รับประกันผล
แก้ไขปัญหารูปร่างให้สมส่วน และดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ด้วยวิธีง่ายๆ คุณไม่ต้องเตรียมอาหารให้ยุ่งยากเสียเวลา
โปรแกรมของเราได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลกกว่ากว่า 35 ล้านคน ในระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา รวมถึงในประเทศไทยนานกว่า 8 ปี มีเจ้าหน้าที่ติดตามผลการดูแลระหว่างคุณเข้าโปรแกรมกับเรา
ไม่ต้องอดอาหารที่คุณอยากทาน
ไม่ต้องออกกำลังกายหักโหม
ให้สารอาหารที่ร่างกายต้องการครบถ้วน
ใช้ได้กับทุกเพศทุกวัย รวมถึงสตรีมีครรภ์ และเด็ก
ปลอดภัย เพราะเป็นโภชนาการที่มีสมุนไพรและพืชผักธรรมชาติ
ไม่มีส่วนผสมของยา สารเคมี หรือส่วนผสมที่ได้มาจากสัตว์
ได้รับการรับรองจาก FDA ของสหรัฐอเมริกา,ญี่ปุ่น ล่าสุดคือ สิงค์โปร์
ด้วยระบบรับประกันความพอใจภายใน 30 วัน
ปลอดภัยเพราะเป็นอาหารที่คิดค้นโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการระดับโลก
เป็นสารอาหารที่สกัดจากธรรมชาติบริสุทธิ์ 100%
คุณจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและสร้างความสมดุลให้แก่ร่างกาย
ร่างกายได้รับสารอาหารที่ดี ทำให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล
ช่วยให้ไขมันส่วนเกินที่สะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายถูกนำมาใช้
เสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพื่อทำให้รูปร่างกระชัด ได้สัดส่วน
สมุนไพรช่วยล้างสารพิษตกค้างในร่างกาย
ดักจับไขมันใหม่ที่มากับอาหารจานโปรดของคุณ
ต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของริ้วรอยแก่ก่อนวัย และช่วยลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง
ช่วยยับยั้งอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล ไม่ให้เป็นไขมันสะสมในร่างกาย
สนใจติดต่อ วรวุฒิ 01-6865995 หรือnbcoach@yahoo.com ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโภชนาการและความงามโดยทางเราจะติดต่อกลับภายใน 1 วันทำการหลังจากทราบปัญหาของคุณ

 

โดย: worawut IP: 58.11.98.46 31 ตุลาคม 2548 21:25:04 น.  

 

 

โดย: VSr. 12 พฤศจิกายน 2548 16:46:19 น.  

 

มีเพศสัมพันธุ์ครั้งแรกเปณยังงัย

 

โดย: ฟ้า IP: 118.172.69.115 3 กุมภาพันธ์ 2551 10:21:25 น.  

 

มีประโยชน์มาก

 

โดย: n*my* IP: 58.9.33.12 12 สิงหาคม 2552 10:40:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


VSr.
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]














There are
so many stars
in the sky..
only some get noticed.
Among those....
you choose to ignore
is the one
which was
willing to shine
for you
forever
even if..
your glance
remained
elsewhere...



my comment : I'm so sorry..
I'm not good as above.










.....GuestBook.....












S w a y : Bic Runca



Don't stray, don't ever go away
I should be much too smart for this
You know it gets the better of me
Sometimes, when you and I collide
I fall into an ocean of you, pull me out in time
Don't let me drown, let me down
I say it's all because of you

● ● ●

And here I go, losing my control
I'm practising your name so I can say it to your face
It doesn't seem right, to look you in the eye
Let all the things you mean to me
Come tumbling out my mouth
Indeed it's time to tell you why
I say it's infintely true

● ● ●

Say you'll stay,
don't come and go like you do
Sway my way,
yeah I need to know all about you

● ● ●

And there's no cure,
and no way to be sure
Why everything's turned inside out
Instilling so much doubt
It makes me so tired.
I feel so uninspired
My head is battling with my heart
My logic has been torn apart
And now it all turns sour
Come sweeten every afternoon

● ● ●

Say you'll stay,
don't come and go like you do
Sway my way,
yeah I need to know all about you
Say you'll stay,
don't come and go like you do
Sway my way,
yeah I need to know all about you
It's all because of you,
it's all because of you

● ● ●

Now it all turns sour, come sweeten every afternoon
It's time to tell you why
I say it's infinitely true

● ● ●

It's all because of you,
it's all because of you
It's all because of you



Friends' blogs
[Add VSr.'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.