space
space
space
<<
สิงหาคม 2566
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
space
space
5 สิงหาคม 2566
space
space
space

แฉคนละหมัด ชูวิทย์ VS เศรษฐา งานนี้มีเบื้องหลังหรือไม่?
หลังจากที่ คุณ “ชูวิทย์” แฉ “แสนสิริ” เลี่ยงภาษีที่ดิน 521 ล้านบาท ว่าเข้าข่ายนิติกรรมอำพราง และตนเชื่อว่า ในขณะนั้น นายเศรษฐา ขณะดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ และต้องรู้เห็นเรื่องนี้อย่างแน่นอน

กระแสตีกลับหลังสื่อพบปมปัญหาบาดหมางในอดีตของทั้งคู่ !!!
หลังจากที่ คุณชูวิทย์ ออกมาแฉได้ไม่นาน ก็มีแหล่งข่าวออกมาตั้งคำถามว่า “แฉเพื่อใคร”
เพราะดันปรากฏข้อมูลว่า ทั้งคู่มีเรื่องกันในสมัยที่คุณชูวิทย์ต้องการขายที่ดินย่านสขุมวิท 24  ซึ่งมีพื้นที่กว่า 500 ตารางวา บริเวณหลังโรงแรมเดวิส บางกอกนั่นเอง ซึ่งในขณะนั้นมีการเจรจาขายให้กับบริษัทแสนสิริ จำกัด มหาชน เมื่อกลางปี 2565ที่ผ่านมานั่นเอง แต่ไม่สามารถปิดดิวได้
เนื่องจากแสนสิริเองไปพบว่าที่ดินผืนดังกล่าวยังมีปัญหาผูกมัดด้านกฎหมาย ที่ดินผืนนี้เคยเสนอขายให้กับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่งและวางมัดจำให้นายชูวิทย์แล้วเป็นจำนวน 400 ล้านบาท และต่อมาบริษัทดังกล่าวไม่สามารถชำระเงินที่เหลือได้ นายชูวิทย์จึงได้ริบเงินมัดจำส่วนนั้นและหันมาเจรจาขายให้กับ แสนสิริต่อนั่นเอง แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้จบไม่ดีนั่นก็เพราะ แสนสิริตรวจพบว่า นายชูวิทย์ต้องไปยกเลิกสัญญาเดิมกับบริษัทที่เจรจาซื้อขายก่อนหน้า เพราะหากไม่ได้ยกเลิกสัญญา ก็จะมีปัญหาภายหลัง เพราะนายชูวิทย์เป็นคนแจ้งยกเลิกสัญญาแต่บริษัทดังกล่าวไม่มีหนังสือตอบรับใดๆซึ่งในทางกฎหมายเท่ากับการยกเลิกสัญญานั้นยังไม่สมบูรณ์ และประเด็นใบอนุญาตก่อสร้างที่ได้มากว่า 20 ปี และจำเป็นต้องต่อทุกปี แต่ไม่มีเอกสารยืนยันแต่อย่างใด เรื่องนี้ทำให้บริษัทอย่างแสนสิรินั้นไม่ตกลงซื้อขายที่ดิน จนทำให้เกิดความบาดหมางระหว่างสองนักธุรกิจในตอนนั้น จึงเกิดการตั้งคำถามว่า การออกมาแฉในครั้งนี้เกิดจากการที่ตนเองนั้นมีปมบาดหมางกับนายเศรษฐา มาก่อน หรือต้องการแฉเพื่อชาติอย่างแท้จริง 
 

 
ภาพลับถูกโยงอีกครั้ง!!!
ทั้งนี้ยังมีการเปิดเผยภาพถ่ายที่นายชูวิทย์ร่วมวงกับลุงตู่และนักการเมืองชื่อดังอีกหลายท่าน เผยแพร่ออกมาอีก ทำให้กระแสตีกลับอีกครั้งว่า การแฉครั้งนี้มีใบสั่งหรือไม่ 
 
หากมองในมุมที่ไม่มีเบื้องหลังบอกเลยว่านายชูวิทย์มาถูกทางแล้วที่ช่วยประเทศชาติ รักษาผลประโยชน์นั้นถือเป็นเรื่องดีที่หน้ายกย่อง แต่หากมีเบื้องหน้าเบื่องหลังก็อาจจะทำเพื่อการชิงพื้นที่บนหน้าสื่อก็เป็นได้ 
 


Create Date : 05 สิงหาคม 2566
Last Update : 5 สิงหาคม 2566 17:43:13 น. 166 comments
Counter : 686 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณ**mp5**


 
“นักธุรกิจการเมือง”(บางคน)เขาไม่เคยคิดว่า จริงๆประชาชนส่วนมากดูลักษณะความ”เหลี่ยมกล”จากใบหน้า,ท่าทาง,แววตาของเขาออกทั้งหมด แต่อาจมีเพียง”นักธุรกิจการเมืองบางคน”ที่พอฉลาดรู้ได้บ้าง แต่เพราะเขาคิดว่า เขามีกลุ่ม,มีพวก,มีทรัพย์,มีอิทธิพลมากพอ เขาจึงไม่ได้คิดแคร์ต่อความรู้สึกของประชาชนแต่อย่างใดเลย “คนการเมืองบางคนนี้”.. เขาอาจคิดประมาณว่า.. ถึงประชาชน”อ่านใจ”ฉันออกว่า"ฉันมุ่งหมายอะไร?” แต่ฉันก็ไม่แคร์ไง? ก็ประชาชนต่อให้รู้เท่าทันฉัน แล้วจะมาทำอะไรฉันได้ ก็เป็นแค่ประชาชนทั่วไป ประมาณนั้น.. เรา(และอีกหลายๆคน)ก็”รู้เท่าทันนักธุรกิจการเมือง”ได้เท่าๆกับ”ชูวิทย์” แต่เพราะ”ชูวิทย์”มีทั้งประสบการณ์จริง,มีเทคนิค,มีไหวพริบ,มีทรัพย์เพียงพอที่จะต่อสู้,และยังมีความกล้าสูงมาก เขาจึง”แฉเพื่อชาติ”ได้อย่างน่ายกย่อง.. ต้องขอขอบคุณ”คุณชูวิทย์”ที่คุณช่วยทำหน้าที่แทนเราหลายๆคน ที่ไม่มี”กำลัง,ความพร้อมต่างๆ”พอที่จะทำแบบคุณได้..


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.134 วันที่: 17 กันยายน 2566 เวลา:6:24:39 น.  

 
หลังจากดูข่าว”กำนัน”(บางท่าน)และ”ลูกน้องกำนัน”(บางคน)แล้ว. ก็ได้ข้อคิด,ข้อวิตก,ข้อวิเคราะห์,วิจัย,วิจารณ์ดังนี้..
(1)“สังคมไทยเสื่อม”เพราะ”ผู้ใหญ่ทรงคุณวุฒิในสังคม”(บางส่วน)ต่าง”เอาหูไปนา,เอาตาไปไร่?”กันซะมาก?.. ไม่มีใครอยากยุ่ง,สนใจกับเรื่อง”อาชญากรรม”และ”ความฉ้อฉล”ในสังคมเรา.. ว่าเกิดมาจากอะไร?(เช่น.. จากสุรา,ยาเสพติด,การพนัน,คอร์รัปชั่น,อื่นๆ,แล้วมีการ”ฟอกเงิน”กันอย่างกว้างขวาง?..ใช่หรือไม่?).. พอมี”ข่าวอาชญากรรมบางข่าว”.. เช่น.. พ่อไปทำอาชญากรรม,โซเชี่ยลวิจารณ์พ่ออย่างหนัก,ลูกก็เลยพาลไม่กล้าไปโรงเรียนไปเลย.. นี่คือผลกระทบในสังคม,จริงๆลูกอาจไม่ได้มีส่วนกับสิ่งที่พ่อได้ทำไป,ที่สังคมประณาม.. แต่ถ้าคิดเรื่อง”กรรมของพุทธ”,ก็คืออาจมี”กรรมร่วมกับพ่อ”จึงมาเกิดกับ”ครอบครัวนี้”,จึงต้องร่วมรับผลด้วย..ประมาณนั้น.. โดยเฉพาะถ้าเป็น”เพศหญิง”.. สังคมไทยโดยมาก,”เพศหญิง”มัก”ถูกครอบงำ”ทั้งทาง”ความคิด”และ”เชิงอำนาจ”จาก”เพศชาย”ที่เป็นคนใกล้ชิดกันทั้งนั้น.. ในเชิงวัฒนธรรมสังคมในยุคที่ผ่านมา,จึงไม่นิยมที่จะให้”หญิงเป็นหัวหน้าหน่วยงาน”ที่ต้อง”ควบคุมอำนาจ”ใน”ระดับสูงต่างๆ”(เพราะมองว่า..”จิตหญิงไม่เที่ยง,ไม่หนักแน่น,มักโอนเอียงตามคำพูดของเพศชายที่ใกล้ชิดได้ง่าย)..นั่นไง(?).. โดยมาก..สังคมไทยมัก”ให้เกียรติ,ยกย่อง,กระทั่งเกรงกลัว”ต่อ”คนมีเงินมาก”หรือ”มีฐานะร่ำรวย”.. คนจึงพากัน”แสวงหาทรัพย์”ไว้มากๆ,เพื่อให้คน”เคารพยำเกรง”หรือ”เกรงใจ”.. เฉพาะ”ผู้ชาย”หาทรัพย์มาเพื่อ”เอาใจหญิง”(ที่เป็น”คู่ครอง”),ซี่งบางส่วนก็เป็น”ทรัพย์สีเทาๆ?”.. บางทีก็มี”ภรรยาหลายคน”,บางคนก็มีไว้เพื่อ”ฟอกทรัพย์นั้น?”(และ”สื่อบางส่วน”อ้างว่าเป็น”เรื่องส่วนตัว”,ไม่ขอยุ่งเกี่ยวหรือวิเคราะห์วิจารณ์ใดๆ,แต่จริงๆไม่มีอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย,เพราะ”เด็ดดอกไม้ย่อมสะเทือนถึงดวงดาว”..นั่นไง?)..(ต่อที่2)


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.134 วันที่: 17 กันยายน 2566 เวลา:6:50:55 น.  

 
(2)ส่วน”หญิง”(บางส่วน,จำนวนไม่น้อย)มักไม่ได้ดู”ผู้ชายที่จะมาแต่งงานด้วย”อย่างละเอียด,ขอแต่”ผู้ชายมีทรัพย์,มีสถานะทางสังคม”,ก็มักจะ”ยินดี,ปรีดา”,แม้รู้ว่าเขามีภรรยาอยู่แล้ว,และจะไม่”จดทะเบียนสมรสกับตัวเอง”ก็ยังยอม(?).. คือเชิงการมองของสังคม,มักมองว่า”เพศหญิงไม่ได้มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมเพศชาย”(เหมือนดังที่”หลักสิทธิมนุษยชน”เขากำหนดไว้).. คือขอให้”ผู้ชาย”มีปัญญาหาเงินมา”เลี้ยงดูเธอและลูก”ให้”มีความสุข,มีหน้ามีตา,ต่อสังคมแวดล้อม”(ไม่ว่าเงินนั้นจะได้มาอย่างไรก็ตาม?..),เธอก็มักยินดี,ไม่ปริปากพูดอะไร?(ตามคติ..ประมาณว่า..”ภรรยารังแกฉัน?”..ประมาณนั้น?).. เราจึงพบว่า..”อาชญากรรมที่เกิดขึ้นในสังคม,โดยมาก..”ผู้ก่ออาชญากรรม”มักมี”ภรรยา”เป็นตัวเป็นตนกันทั้งนั้น.. ซึ่งก็จะมีคำถามว่า..แล้วทำไม”หญิง”จึงยอมให้กับ”สามี”?,หรือยอม”อยู่ร่วมชีวิตกับสามี”ที่เป็นคนยุ่งเกี่ยวกับ”อาชญากรรมต่างๆ”เช่นนั้น?..(แม้กระทั่ง..”เซเล่บบางท่าน”,และ”ดาวระยิบฟ้าบางดวง?”ด้วยก็ตาม..ก็ยังมีปรากฏตาม”หน้าข่าว”อยู่บ่อยๆ?) นั่นเพราะ”ชายมีอำนาจครอบงำหญิง”ให้”ยอมรับตนเองได้”..นั่นเอง(?).. และ”หญิง”(บางส่วนหรือส่วนมาก)เมื่อ”คลุกคลี,หรือทำงานร่วมอยู่ใกล้ชาย”,ก็มักตกอยู่ภายใต้”อำนาจการชี้นำของชาย?”ไปโดยอัตโนมัติ,ตามธรรมชาติ(ของ”หญิง-ชาย?”)..นั่นเอง????..


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.134 วันที่: 17 กันยายน 2566 เวลา:6:55:17 น.  

 
ช่วงนี้ดู"ข่าว2ข่าว"คล้ายกันคือ"จับคอร์รัปชั่น"..1.เจ้าหน้าที่ใช้กฎหมายท่านหนึ่ง 2.ผู้นำทองถิ่นท่านหนึ่ง.. รู้สึกประทับใจ"ตำรวจในยุคนี้"จังเลย.. อยากยกย่อง"ตำรวจไทยยุคนี้".. ไม่รู้ว่าใครเป็นคนแรกที่พูดคำว่า.."ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีสิ่งใดที่ตำรวจไทยทำไม่ได้".. เรายอมรับว่า.."คำพูดนี้..น่าจะจริงที่สุด".. ขอสดุดี.."พึงรักษาความดีนี้..ประดุจดั่งเกลือที่รักษาความเค็ม"(นะจ๊ะ)..


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.134 วันที่: 22 กันยายน 2566 เวลา:20:52:08 น.  

 
อยากขอเสนอกับ”สส.ในสภา”ว่า.. ให้ช่วยแก้ไข”ข้อกฎหมาย”.. เฉพาะสำหรับ”ผู้(เคย)ให้สินบน”แก่”เจ้าหน้าที่ต่างๆบางส่วน”และ”นักการเมืองบางส่วน”.. โดยขอให้แก้กฎหมายว่า.. ให้"ยกเว้นโทษ"เฉพาะกับ"บุคคลใด”ที่มีสำนึก"อยากช่วยชาติ”ให้ปราศจาก”การคอร์รัปชั่น”.. ถ้าท่านเคย”ให้สินบน”มาก่อน..แต่ถ้าเข้ามา”แจ้งเบาะแส”,ก็จะถูกกันไว้เป็นพยาน..โดยจะ”งดการลงโทษใดๆ”กับ”ผู้ที่เคยให้สินบน”กับ”เจ้าหน้าที่บางส่วน”หรือ”นักการเมืองบางส่วน”นั้นๆ.. อย่างนี้ดีมั้ยครับ?..


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.134 วันที่: 22 กันยายน 2566 เวลา:21:09:49 น.  

 
และอยากขอให้”นักจิตวิทยา”เข้ามาช่วย”เสนอกฎหมาย”แก่”สภา”ว่า.. ให้”เจ้าหน้าที่และนักการเมืองทุกภาคส่วน”(ควร)ต้องมี”หลักจริยธรรมสำคัญ”คือต้องมี”ภรรยาเพียงคนเดียว”(ไม่ว่าจะ”ปกปิด”หรือ”เป็นที่เปิดเผย”ก็ตาม).. เพราะจะเห็นว่า..ตามข่าวที่พบเห็นในสังคม.. อาจสามารถสรุป(โดยพิจารณาตาม”หลักจิตวิทยามนุษย์”ในเรื่อง”ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูภรรยา”ที่ต้อง”เพิ่มมากขึ้น”,เมื่อมี”ภรรยาหลายคน”ด้วย)ได้หรือไม่?.. ว่า”การมีภรรยาหลายคน”มี”ความสัมพันธ์”กับเรื่อง”การทุจริต,คอร์รัปชั่น(?)”ใน”วงราชการ(?)”และ”ทางการเมือง(?)”อย่างมี”นัยสำคัญ”..ด้วยหรือไม่?..


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.134 วันที่: 22 กันยายน 2566 เวลา:21:33:48 น.  

 
จะสังเกตว่า..“สังคมไทย”มี”ข่าวและข้อครหา”ในการใช้การ”ตัดสินใจ”ของ”เจ้าหน้าที่บางตำแหน่ง”เสมอมาว่า.. การใช้”ดุลพินิจ?”ของ”บุคคลเพียงคนเดียว”ซึ่งเป็น”ระบบเจ้าหน้าที่กลางน้ำ”นั้นเป็น”ต้นเหตุ”หรือ”ถูกใช้เป็นข้ออ้าง”กับ”ผู้ทำผิดกฎหมาย”ในการ”เรียกรับเงิน”เพื่อ”ตัดตอน,ล้มเรื่องต่างๆ”หรือไม่?.. แล้วจะเช็ค”ความถูกต้อง”ของ”ระบบเจ้าหน้าที่กลางน้ำ”ได้อย่างไร?.. เมื่อวันก่อนที่มีการจับ”เรียกรับเงินผู้ทำผิดกฎหมาย”จาก”เจ้าหน้าที่บางท่าน”ก็ได้ใช้”ข้ออ้าง”ว่าจะเอาไปเคลียร์กับ”เจ้าหน้าที่กลางน้ำ”เช่นเดียวกัน(?).. แล้วอย่างนี้”สังคมเรา”จะทำอย่างไรกันดี?.. เราอยากเสนอให้ใช้”ระบบคอมพิวเตอร์”ซึ่ง”ยุคนี้”มีความพัฒนาให้”ทำงานแทนมนุษย์”ได้สูงมาก(ซึ่งปลอดจากอคติ?,และคอร์รัปชั่น?),โดย”ป้อนข้อมูลเรื่องคดีความ”ให้”ละเอียด”เพื่อใช้แทน”ดุลพินิจ”ของ”ตัวบุคคลแค่บุคคลเดียว”..จะทำได้หรือไม่?.. และจะดีกว่าใช้”ตัวบุคคล”หรือไม่?.. ขอฝากให้”สังคม”ช่วยกันคิดด้วยครับ?..


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.134 วันที่: 22 กันยายน 2566 เวลา:22:44:22 น.  

 
(“ความไม่เท่าเทียม”ใน”สิทธิที่จะมีชีวิตอยู่”ของ”สังคมไทย”).. เราได้ดูรายการ”สามัญชนฯ,17-9-66”ตอน”ชานชราสุดท้าย”ของ”ช่องสาธารณะ”.. มีภาพของ”ยายอายุ56ปี”,ผมสีดอกเลาแล้ว,ไปรอ”รับแจกเงิน”ใต้”ทางด่วน”เพียง”เงิน50บาท”เท่านั้น.. ดูแล้วชวนให้คิด.. ถ้า”สังคมมีระบบดี?”.. ประชากรต้องไม่เป็นอย่างนี้(เพราะ”ประเทศไทย”มี”ทรัพยากรร่วมกัน”อยู่มากมาย?).. มีคนพูดถึง”ชาวสแกนดิเนเวีย”,มองว่า..”ระบบเขาดี”,คนของเขาค่อนข้าง”เท่าเทียมกัน”,มี”สวัสดิการรัฐ”ที่ดี,มีเงินให้ไปท่องเที่ยวในแต่ละปี.. แต่”สังคมไทย”ทำไมจึงมี”คนรวยที่รวยล้นฟ้า”เพียงแค่”ไม่กี่คน?”( =”ยอดปีรามิด”),แต่”คนที่รอรับเงินแจก”แค่”50บาท”มีอยู่ทั่วประเทศ?( =”ฐานปีรามิด”).. เคยมี”นักบวชพุทธบางสำนัก”พูดถึงประมาณว่า.. “ไม่มีคนที่มีฐานะร่ำรวยคนใด(?),ที่จะไม่มีกิจการหรือบรรพบุรุษที่ได้เปรียบจากสังคมมาก่อนเลย(?)”..ประมาณนี้.. และหลายครั้ง,หลายกรณี.. มีข้อน่าคิดว่า..”คนที่มีปัญหาชีวิตหลายคน”(บางคนถึงกับตัดสินใจ”คิดไม่ยาว,ตัดช่องน้อย”ไปแล้วก็มี?),ที่ทำไมต้องรอให้”สื่อบางสื่อ”เอา”ชีวิตที่ลำเค็ญ?หรือพิการ?”มา”นำเสนอต่อสาธารณะ”,แล้ว”เปิดบัญชีขอรับบริจาค?”.. แล้ว“คนไทย”ก็ล้วนใจดี,พากัน”บริจาคผ่านบัญชี”ไปให้,จน”บางราย”ได้รับ”เงินบริจาค”อย่างมากมาย,ยังกับ”ถูก”รางวัลที่หนึ่ง”จนอาจ”เปลี่ยนแปลงฐานะ”รวยกว่า”ผู้ที่บริจาคให้”เสียอีกไปเลย(?).. แต่กลับไม่มีใครคิดว่า..ยังมี”คนลำบาก?”หรือ”คนพิการ?”(รวมทั้ง”ผู้ป่วยติดเตียง”,และ”คนไร้บ้าน”ที่อยู่ใต้สะพาน,ทางลอดต่างๆ”ที่ยัง”ไม่เป็นข่าว”ยังคงไม่ได้รับ”ส่วนเฉลี่ย”จาก”เงินบริจาค”ที่ให้กับเฉพาะ”บางรายที่เป็นข่าว”มาให้กับพวกเขาบ้างได้หรือไม่?.. เราอยากให้”ออกกฎหมาย”ว่า..ให้”คนที่ประสงค์อยากบริจาค”ให้กับ”ผู้ทุกข์ยาก”,ให้”บริจาคได้เฉพาะใน”บัญชีของรัฐ”แบบ”รวมศูนย์”ได้เท่านั้น(?)(ห้าม”เปิดบัญชีเฉพาะรายใดรายหนึ่ง”โดยเด็ดขาด?).. และให้นำไปเฉลี่ยให้”ผู้ทุกข์ยากลำบาก,พิการ,จรจัด”อย่าง”ทั่วถึง,เป็นธรรม”..ดีหรือไม่?..(เพราะเราไม่อยากเห็นว่า..”สังคมนี้”ตรงกับ”คำพังเพย”ที่ว่า”ฝนตกไม่ทั่วฟ้า”..นั่นเลย?)..


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.134 วันที่: 23 กันยายน 2566 เวลา:4:39:46 น.  

 
(ความคิดเห็นส่วนตัว).. ช่วงนี้”สังคมไทย”มักมีการฟ้องร้องกันมาก.. เรามองว่า.. “สังคมใด”ก็ตาม.. ที่มี”การฟ้องร้อง?”กันมากเกินไป?..(โดยเฉพาะเรื่อง”หยุมหยิม,สัพเพเหระ,มโนสาเร่?”ซึ่งควรมองแบบ”ใจนักเลง”ว่า”ขอกันกินมากกว่านั้น?”น่าจะดีกว่า?)(ส่วนหนึ่งอาจมาจาก”ความนิยม”ในการติดตามดู”ซีรี่ส์ละครต่างๆ”ใน”สื่อบางส่วน”ที่ต้องคอย”ติดตามดู,ติดตามลุ้น”ว่าเมื่อไหร่”ฝ่ายพระเอก,นางเอก”จะได้รับ”ชัยชนะในตอนจบ”จากการ”ถูกกลั่นแกล้ง”เสียที?..ก็เป็นได้?).. ซึ่งจะทำให้”สังคมนั้น”ไม่เจริญรุดหน้าเท่าที่ควร? ,เสียเศรษฐกิจ?(อาจได้ประโยชน์เฉพาะ”ผู้รับงานด้านกฎหมาย?”ทั้งหลายเท่านั้น(?),ที่จะมี”ฐานะดีขึ้น?”และ”มีงานมากขึ้น?”..หรือไม่?).. แต่”เศรษฐกิจโดยรวม”น่าจะแย่ลง(?).. เพราะ”การฟ้องร้องแต่ละคดี”เสียเวลามากๆ,เสียค่าใช้จ่าย,เหน็ดเหนื่อยกับการต้อง”เดินทางไปศาล”แล้วๆเล่าๆ,เป็นปีๆ,และเสีย”สุขภาพจิต”ในการ”รอผลของคดี”ซึ่งมีถึง”3ชั้น”ซึ่งอาจใช้เวลาใน"บางคดี"ถึง”10-20ปี”ก็ยังมี(?)[“สังคมเรา”จึงไม่ควร”ส่งเสริม,เร่งเร้า",หรือมีการ”ถามนำ”โดย”สื่อบางส่วน”เพื่อให้มี”การฟ้องร้อง”ใน”เรื่องเล็กๆน้อยๆ”(เช่น..การ”พูดหมิ่นกันไป-มา?”)มากจนเกินไป(?)].. จะสังเกตว่า.. “คนเชื้อสายจีนแต่ดั้งเดิม”,ทำไมเขาจึงมีความ”เจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ”มากกว่า”คนไทย”.. เพราะ”DNAทางสมองของเขา”ได้รับ”การปลูกฝังจากบรรพบุรุษ”มาดังนี้คือ.. “ถ้าจะให้เป็นความกัน..สู้กินอุจจาระดีกว่า”..ประมาณนี้ครับ.. “คดีที่อาจจำเป็นต้องมีการฟ้องร้อง”คือ”คดี”ที่เกี่ยวกับ”การคอร์รัปชั่น”ซึ่งเป็น”ผลประโยชน์ของส่วนรวม”,และ”คดี”ที่เป็น”อาชญากรรม”และ”อาชญากรรมต่อเนื่อง”ที่มี”ความรุนแรง”และ”ร้ายแรง”,สร้าง”ความเสียหายต่อสังคม”เท่านั้น.. แม้แต่”คดี”ที่เกี่ยวกับการ”ละเมิดลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตรต่างๆ”,เราก็ไม่อยากให้มี”การฟ้องร้อง”กันเลย(?).. เพราะมีส่วน”บั่นทอนความคิดริเริ่ม?”ของ”เด็กรุ่นใหม่”ในการ”เริ่มทำมาหากิน”ของ”คนไทย”(ซึ่งเป็นการ”บั่นทอนเศรษฐกิจโดยรวม”เป็นอย่างมาก?).. แต่ถ้ามีการ”ละเมิดจริง?”.. น่าจะใช้หรือให้มี”หน่วยงาน”ที่เข้าไป”ชี้แนะก่อน”(โดยยังไม่ต้องเอาโทษ?)..โดยขอให้”ยุติ”หรือ”เปลี่ยนแปลงรูปแบบ”ให้ต่างจาก”ต้นแบบของผู้ริเริ่ม”,ดูน่าจะสร้างสรรค์กว่า,ซึ่งไม่ควรให้มี”กฎหมาย”ที่เอื้อให้”เกิดประโยชน์?”กับ”เจ้าของลิขสิทธิ์?”ที่มากล้นจนเกินไป?,จนอาจกลายเป็น”การคิดหารายได้?”เพื่อ”สร้างความร่ำรวย?”อีก”วิธีการหนึ่ง(?)”..ไปนั่นเลย?..หรือไม่?..ใช่หรือไม่?.. ...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.196 วันที่: 24 กันยายน 2566 เวลา:13:29:32 น.  

 
“สังคม”ที่”ผู้ใหญ่ๆในสังคม”ไม่ค่อยกล้า”แสดงความเห็นใดๆ”,เพราะ”กลัวเปลืองตัว?”หรือ”กลัวทัวร์ลง?”.. แล้วคุณจะคิดอย่างไร?.. ถ้า”ยุคการเมืองกีฬาสี”,อาจมี”บางคน,บางกลุ่ม”ไป”เป่านกหวีด”เพื่อขับไล่”คนบางคน”ที่อยู่”คนละข้างทางการเมือง",และกรณีที่มี”คนบางคน”ไล่”คนบางคน”ออกจาก”ร้านอาหาร”เพราะ”เหตุผลทางการเมือง”.. ว่ามันก็ดูเป็น”บริบทคล้ายๆกัน”?..หรือไม่?(มี”สื่อบางท่าน”ของ”บางช่อง”พูดเหมือนมองเรื่อง”จริยธรรม”ประหนึ่งว่า.. “ตนเองพูดอย่างเป็นกลาง?”,แต่ไม่สำรวจ”ตนเอง”ว่า..ที่”ตนเอง”มักวิเคราะห์เพื่อ”ประโยชน์”ให้กับ”การเมืองบางฝ่าย”นั่น..เพราะ..ตนเองยังต้องพึ่งพา”ค่าจ้าง”จาก”เจ้าของสื่อบางสื่อ”ที่อิง,เกี่ยวพันอยู่กับ”กลุ่มการเมืองบางฝ่าย?”..หรือไม่?.. ธรรมดา”การรับค่าจ้าง”จาก”ใคร?”,ก็ต้องพูดอวย”นายจ้างคนนั้น?”..จะพูดอย่างไร?,ก็ดูจะไม่มีน้ำหนักซักเท่าไรหรอก?.. ใช่หรือไม่?).. เช่นเดียวกัน.. การที่”บางคน”มักอ้างว่า..จำเป็นต้อง”ประกอบอาชีพ?”ใน”บางอาชีพ?”ที่”สังคมไทยไม่ยอมรับ?”นั่นเพราะเหตุผลว่า..ต้อง”ดิ้นรน,หาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว?”สารพัดเหตุผล?นั้น.. เป็นสิ่งที่”ผู้ใหญ่ในสังคม”ควรออกมา”แสดงเหตุผล”ว่า”ควรยอมรับได้หรือไม่?”?.. แต่ทำไมไม่คิดว่า.. น่าจะออกมาเรียกร้องให้”รัฐบาล”(ไม่ว่า”คณะรัฐบาลไหนๆ?”ก็ตาม)ว่า..ควรจัดสรร”ระบบรัฐสวัสดิการ”แบบ”กลุ่มสแกนดิเนเวีย”ที่แม้”ตกงาน,ไม่มีรายได้?”ก็สามารถทำเรื่องขอ”เบิกเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ”จาก”รัฐ”เนื่องจาก”การตกงาน”จาก”ทางรัฐบาล”ได้[[โดยไม่จำเป็นต้องอ้างว่า.. ต้องยอมทำ”อาชีพที่ไม่ถูก(ผิด)หลักศีลธรรม?”(บางอาชีพ)นั้นๆ.. ที่ทำให้”ค่านิยมทางศีลธรรม”เสื่อมถอยลงไป?,และยังอาจเป็น”ตัวอย่าง”ให้แก่”ลูกหลาน”,หรือ”เยาวชนรุ่นหลัง”ที่จะทำตาม,เพราะมี”ต้นแบบ”ที่ทำให้ดูไว้ก่อนอยู่แล้ว?]].. อย่างนี้ดีหรือไม่?..(ยังคงอยากย้ำเรื่อง”ความเหลื่อมล้ำ”ของ”สังคมไทย”.. ขณะที่”คนบางคน,บางกลุ่ม”ต้อง”ประกอบอาชีพที่ไม่เหมาะกับหลักศีลธรรม”เพราะเหตุอ้าง”ความยากจน,ไม่มีทางออก?”.. แต่อีก”หลายคน,หลายกลุ่ม,หลายตระกูล?”ซึ่งอยู่”ยอดปีระมิด?”,กลับมี”สถานะรวยล้นฟ้า?”,ใช้อีก10ชาติก็ไม่หมด?.. “สังคม”จึงควรช่วยกัน,หาทางลด”ความเหลี่อมล้ำเหล่านี้?”ลงบ้าง?บางส่วน?..ดีหรือไม่?)..


โดย: สมจิต IP: 124.122.15.47 วันที่: 1 ตุลาคม 2566 เวลา:16:43:32 น.  

 
วันนี้ได้ชมรายการ”เรื่องเล่าฯ”(13-10-66)เรื่อง”ยันฝึกตามหลักสูตร”.. เราอยากบอกว่า..เรารู้สึกส่วนตัวว่า.. “ระบบของสังคมเรา”มีความไม่เท่าเทียมจริงๆ.. เพราะเราไม่เคยเห็นว่า.. “ลูกของเซเล่บ?”หรือ”ดาราหนุ่มๆ?”(บางส่วนหรือส่วนมาก)ทั้งหลาย,จะเคยมีปัญหาจากการ”เข้ารับการฝึกต่างๆ”ใน”ระบบของรัฐ?”แต่อย่างใดเลย(?) .. “ส่วนมาก”,ผู้ที่มี”ปัญหาในการฝึกหนัก”ถึงเจ็บ,ถึงเสียชีวิตนั้น,มักเป็นกับ”ลูกชาวบ้านระดับล่างถึงปานกลาง?”กันทั้งนั้น(?).. เราจึงอยากขอเสนอแนะว่า.. เคยเห็นมั้ย?.. “นักมวย”เวลาชกแล้วล้ม,พอลุกขึ้น,”กรรมการห้ามมวย”จะมีการถามโดยการ”นับ1-10”เชิงถามว่า”ไหวมั้ยๆ?”,ถ้า”นักมวยยังไหว”ก็จะ”ผงกหัวหลายๆครั้ง”ทำนองตอบว่า”ยังไหวหรือไหวครับ”..ประมาณนั้น.. แล้ว”กรรมการ”ก็จึงจะตัดสินใจให้”ชกต่อ”ได้.. แต่ถ้าไม่มีการ”ตอบสนองใดๆ”,ปล่อยให้”กรรมการนับจนครบ10”,”กรรมการ”ก็จะ”ยุติการชก”ไปเลย..ประมาณนี้ครับ.. เราเองก็เคยฝึก”วิชาทหาร”มาเช่นเดียวกัน,จะมีช่วงหนึ่งที่ให้”ข้ามห้วย”ด้วย”สลิงเหล็ก2เส้น”,เราตัวสูงไม่มาก,คนที่สูงกว่าอยู่ขนาบ,เหมือนจะคอย”ยกสลิง”ให้”เหมาะแก่ตัวเอง”,จนทำให้เราเกือบไม่สามารถ”เหยียบสลิงเส้นล่าง”ได้,ตอนนั้นก็เกือบจะตกห้วยไปเลย(ซึ่งก็ว่ายน้ำไม่เป็นด้วยอีก?),แต่ก็โชคดีที่ผ่านมาได้,แต่ระดับ”วิชาทหาร”ก็ดูเหมือน”บทฝึกยากๆ”.. เช่น.. “ว่ายน้ำ”ก็จะมีประกาศว่า.. ถ้าใครว่ายไม่เป็นก็ไม่ต้อง..ประมาณนี้..ก็ถือว่ายังดีอยู่บ้าง.. เราก็จึงเห็นว่า.. “ครูฝึก”(บางส่วน)ควรให้การ”ดูแล,ห่วงใยทหารใหม่”เหมือนกับเป็น”พี่น้องหรือลูกหลาน”,คอยถามไถ่ว่า”ไหวมั้ย?..ถ้าใครรู้ตัวว่าไม่ไหวจริงๆ,ก็ให้ขออนุญาตพักการฝึกได้”..ประมาณนี้ครับ..(เพราะโดยทั่วไป,มนุษย์มีศักดิ์ศรีทุกคน,ที่อยาก”ผ่านการฝึกให้ได้”เหมือนกับเพื่อนๆ,ถ้าไม่หนักจริงๆ,ก็คงไม่มีใครอยาก”ขอหยุดพักกลางครัน?”..หรอกครับ?.. ...ด้วยความเคารพทุกท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.17.205 วันที่: 13 ตุลาคม 2566 เวลา:10:40:33 น.  

 
(A)วันนี้ได้ดู”รายการข่าว”หัวข้อ”สุดช้ำ! ยายอายุ75ปี ถูกหลอกให้รัก”(11-10-66).. มี”ความเห็นและข้อแนะนำ”ดังนี้.. เราส่วนตัวเคยฝึกเกี่ยวกับเรื่องการ”นั่งสมาธิต่างๆ”.. ตอนหลังพยายามฝึก”อ่านจริต,สายตา,ท่าทีของคน”และ”น้ำเสียงในการพูดจาต่างๆ”ก็รู้สึกว่า..ตนเองพอจะอ่านออกว่า..”บุคคลท่าทีอย่างไร?,พูดจาอย่างไร?”,แล้ว”มักจะเป็นคนอย่างไร?”ได้ไม่ยากนัก..


โดย: สมจิต IP: 124.122.17.205 วันที่: 13 ตุลาคม 2566 เวลา:15:29:48 น.  

 
(B)และเมื่อได้ชมข่าวสาร”การล่อลวงต่างๆ”,จึงมานั่งคิดวิเคราะห์”ว่า..ทำไม”คนหลายๆคน”(แม้แต่คนที่อยู่ใน”วงการสื่อสาร,เล่าข่าวต่างๆ”..ก็ยังมีด้วย),ก็ยังสามารถ”ถูกล่อลวง”จาก”มิจฉาชีพ”หรือ”แก๊งคอลฯ”ได้ด้วย(?).. ซึ่งหลายๆกรณี..ก็มักเกิดจาก”ความโลภ(?)”ที่”อยากได้เงินแบบง่ายๆ?”จาก”ผู้ชักชวนลงทุนต่างๆ?”นั่นหนึ่งประการ.. ทำให้คล้ายมึนงง,ตามัวไปชั่วขณะนั่นก็1อย่าง.. และมีบางกรณีถึงกับเป็นเหตุให้เกิดเหตุถึงกับต้อง”ทำร้ายคนในครอบครัวไปถึง3-4คน?”ก็ยังมี..


โดย: สมจิต IP: 124.122.17.205 วันที่: 13 ตุลาคม 2566 เวลา:15:38:32 น.  

 
(C)ซึ่งใน”เค้สบางเค้ส”นี้,จะมีวีธี”การหลอก”ทำนองว่า..ขั้นแรกพอ”เหยื่อ”ลอง”ลงทุนน้อยๆ”แล้ว”ได้เงินคืน”หรือ”ได้กำไรปันผล”(ตามที่บอกไว้)ใน”ระยะเวลาที่รวดเร็ว”ก็เป็น”หลักจิตวิทยา”ที่”จูงใจให้เชื่อถือ”ไว้ส่วนหนึ่งก่อน.. ต่อมาเมื่อเริ่มขยับ”เงินลงทุนสูงขึ้น”,ก็เริ่มจะมี”ผู้ล่อลวง”ที่อ้าง”เหตุนู่นนี่?”เพื่อ”ชะลอการจ่ายเงินตามที่บอกไว้?”,ในเวลาที่”เหยื่อ”ต้องการที่จะ”ถอนเงินออก”ว่า..มีเรื่อง”ทำรายการผิดพลาด?”,จะต้องมี”เงื่อนไขต่างๆ?”ตามมา,ฝ่าย”เหยื่อ”นั้น,เมื่อได้”เสียเงินไปจำนวนเล็กน้อยบางส่วน”แล้ว(แม้”บางราย”จะเริ่มไหวตัว,รู้ว่าน่าจะถูกหลอกแล้วมั้ง?),แต่ก็โดยมากมักจะ”อยากได้เงินลงทุนคืน?”(และมักไม่ยอมแจ้งความ,หรืออาจถูกพูดเชิงขู่ว่า..ถ้าไปแจ้งความ,อาจจะไม่ได้เงินคืนเลย?).. ซึ่ง”ผู้หลอกลวง”มักจะ”รู้จักจิตวิทยามนุษย์”(ของ”ผู้ตกเป็นเหยื่อ”)ข้อนี้ดี..


โดย: สมจิต IP: 124.122.17.205 วันที่: 13 ตุลาคม 2566 เวลา:15:55:59 น.  

 
(D)สุดท้ายจึงคล้ายเป็น”วงจรอุบาทว์?”ที่”เหยื่อหลายราย”(บางส่วน)จึงมักถูกหลอกให้”โอนเงินให้เพิ่ม?”,เพื่อจะ”ปลดล็อค?”เพื่อจะ”เอาเงินเก่ากลับคืนมา?”,และเมื่อยิ่ง”เสียเงินมากขึ้น?”และ”ยังคงไม่ได้เงินกลับคืนมาอีก?”,ก็จะยิ่ง”เสียดายมากยิ่งขึ้น?”(ก็ยิ่ง”หลงกลหลอกต่างๆ?”มากยิ่งขึ้น?).. จึงที่สุดจากถูกหลอก”เงินแค่หลักหมื่น?”ก็ลามไปจนเป็น”เงินหลักล้าน?”.. หรือจาก”หลักแค่แสน?”ก็กลายเป็นหลัก”หลายสิบล้าน?”ไปเลยก็มี?..


โดย: สมจิต IP: 124.122.17.205 วันที่: 13 ตุลาคม 2566 เวลา:16:14:01 น.  

 
(F)จึงอยากแนะนำว่า.. ถ้าเมื่อไหร่ที่เริ่มรู้ว่า”เราคงถูกหลอก?”แล้วล่ะ!?.. ก็ต้องหัด”ทำใจแข็ง,ตัดใจทันที”ว่า..”ต้องตัดการติดต่อ”(ไม่ต้องกลัว”คนในครอบครัว”จะต่อว่า),ไม่ต้อง”อยากได้เงินส่วนน้อยนั้นคืน”ไปเลย,แล้วรีบแจ้ง”อายัดบัญชี”,หรือ”แจ้งความไว้ก่อน”โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้.. โดยไม่ต้องคำนึงว่า”ผู้ที่มาหลอกลวงนั้น”จะเป็นผู้ใด?(แม้จะเป็น”คนสนิทที่ใกล้ชิดเอง?”)ก็ตาม(?).. อย่างนี้ก็จะทำให้”ลดความเสียหาย”จาก”หนักเป็นเบา”ได้ครับ.. ...ด้วยความปรารถนาดีครับและด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.17.205 วันที่: 13 ตุลาคม 2566 เวลา:16:19:06 น.  

 
วันนี้ดูรายการ”เรื่องเล่าฯ”(15-10-66).. “คารมดี,ใช้จิตวิทยาจูงใจได้ดี”อาจไม่ได้แปลว่า”สิ่งที่ทำนั้นต้องถูกต้องเสมอไป?”.. ใช่หรือไม่?.. “คนไทย”(บางส่วน)มัก”ใจอ่อน,เชื่อง่าย,หลงคำหวาน?”(อย่างกรณี”หญิง74ปี”ที่ถูกหลอกจาก”หนุ่มเสียงนุ่ม?”หมดไปราว”18ล้านบาท”..เป็นต้น..นั่นปะไร?..


โดย: สมจิต IP: 27.145.110.55 วันที่: 15 ตุลาคม 2566 เวลา:12:26:32 น.  

 
“คนไทยส่วนมาก”ยังไม่ใช่”คนร่ำรวย”.. การที่”คนไทย”(บางส่วน)จะได้เงินมาด้วย”นโยบายจัดสรรใดๆ”(ที่..ที่สุดก็ต้องมาไล่เบี้ยจาก”เงินภาษีของเขาเอง”,ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม,วิธีใดวิธีหนึ่ง)นั้น.. ไม่ว่าใคร?..ก็ย่อมต้องการทั้งนั้นแหละ?(โดยไม่จำเป็นต้องไปถามก็ได้..ว่า”มีใครต้องการเงินมั้ย?”)..


โดย: สมจิต IP: 27.145.110.55 วันที่: 15 ตุลาคม 2566 เวลา:12:34:28 น.  

 
แต่สิ่งที่”สังคมไทย”(บางส่วน)ไม่มั่นใจ(?).. นั่นก็คือ..”ความโปร่งใส,ตรวจสอบได้?”(แม้แต่”สถานดูแลสุขภาพ?”ของ”บางชั้น?”ก็ยังตรวจสอบได้ยากเลย?.. ใช่มั้ย?)..นั่นต่างหาก(?).. การ”ดูแลสังคมใดๆ?”นั้น.. “ผู้มีอำนาจดูแล?”ต้องไม่คิดแบบ”เชิงธุรกิจ?”ที่คิดว่า.. จะต้องการ”ซื้อใจประชาชน?”ให้ได้?,โดยใช้”นโยบายประชานิยม?”ต่างๆ..โดยไม่ดู”ภาพรวมต่างๆ?”..(แต่สมมุติว่า.. เป็น”เงินส่วนตัวที่เหลือใช้?”ที่เก็บรวบรวมจาก”ผู้ที่เป็นเศรษฐีทั้งหลาย?”,แล้วนำมาแจก..ก็คงไม่มีใครว่าอะไรหรอก?.. ใช่หรือไม่?)..


โดย: สมจิต IP: 27.145.110.55 วันที่: 15 ตุลาคม 2566 เวลา:12:45:36 น.  

 
เหมือนอย่างเรื่อง”นโยบายรับจำนำผลิตผลบางอย่าง?”ของ”บางรบ.?”.. ซึ่ง“ประชาชนหลายภาคส่วน”ก็พึงพอใจกันทั้งนั้นแหละ?.. รวมทั้งผู้ที่”หาช่อง,ลักลอบ?”นำ”ผลผลิต”จาก”เพื่อนบ้านชายแดน”เข้ามา”สวมสิทธิ์ในประเทศเรา?”ตามที่”เคยได้ยินกันมา?”นั่นเขาก็ล้วนพึงพอใจใน”นโยบายนั้นๆ?”ด้วย?.. แต่มีคำถามว่า.. ทำไม”ผู้ที่บริหารนโยบายนั้นๆ?”(บางท่าน)ต้อง”ถูกกักขัง?”อยู่ใน”เรือนจำ?”จนถึงบัดนี้ด้วยล่ะ?.. ตอบได้มั้ย?..


โดย: สมจิต IP: 27.145.110.55 วันที่: 15 ตุลาคม 2566 เวลา:13:00:59 น.  

 
สังคมเรา..บางครั้งก็ต้องโทษประชาชนเรากันเองนั่นแหละ.. ที่ไม่นำเอา”หลักศาสนา”.. เช่น.. “มงคลชีวิตข้อที่1”ที่ว่า.. “อเสวนา จ พาลานัง”.. นั้นเป็น”มงคลชีวิต”อย่างยิ่ง.. ประมาณนั้น.. เพราะสังคมเรา.. บางครั้ง,บางคนก็นับถือศาสนาแค่”สิ่งฉาบพอก”( =”เปลือก,พิธีกรรม”)ของ”ศาสนา”..เท่านั้น.. เช่น.. “หวย,เบอร์,การพนัน”ก็เป็น”อบายมุข”ก็เป็น”ทางเสื่อม”.. แต่”สังคมเรา”ก็มี”ผู้นิยมเรื่องหวย,เบอร์,การพนันขันต่อ?”กันอย่างมาก,ถึงมากที่สุด(?).. ,แม้กระทั่ง”สื่อบางสื่อ?”ก็อยากได้”เรตติ้งผู้ชม?”,ก็ยังพยายาม”นำเลขนั่น,เลขนี่?”มานำเสนอแก่”ผู้ชมรายการต่างๆ”อีกด้วย(?).. เมื่อใช้เงินทางผิด..แล้วจะหวัง”ความเจริญรุ่งเรือง?”แก่”ชีวิตครอบครัว?”และ”ชีวิตของสังคม?”..ได้อย่างไร?..ใช่หรือไม่?..


โดย: สมจิต IP: 27.145.110.55 วันที่: 17 ตุลาคม 2566 เวลา:13:06:51 น.  

 
อยากให้”สื่อดังๆช่องต่างๆ”น่าจะลองไปตามขอสัมภาษณ์บรรดา”เศรษฐี50อันดับ”ของไทย.. จาก”คนในครอบครัวของเขา”หรือ”ตัวเขาเอง”ว่า..”นิยมเรื่องหวย,เบอร์หรือการพนันต่างๆ?”..หรือไม่?.. จะได้พอรู้ว่า.. ที่เขามี”ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ”ขึ้นมาจากเดิม,ที่มีแค่”เสื่อผืน,หมอนใบ?”นั้น.. เพราะเขาใช้ชีวิตกันอย่างไร?.. ...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.110.55 วันที่: 17 ตุลาคม 2566 เวลา:13:14:33 น.  

 
ส่วนตัวเราจริงๆ..(ขอสมมุตินะ).. เราว่า..หรืออยากเสนอแก่”ตัวแทนปชช.ทั้งหลาย”ว่า.. “ผู้ที่เคยทำธุรกิจใหญ่ๆ?”มาตลอดชีวิต(?),หรือมี”เครือญาติใกล้ชิด?”ที่”ทำธุรกิจใหญ่ๆ?”,ควร”ออกกฎหมาย”ให้ไม่มีสิทธิ์”รับตำแหน่ง?”เป็น”ผู้บริหารสังคม?”ใน”ตำแหน่งที่สูงๆ?”..อย่างนี้..จะดีหรือไม่?.. เพราะเราไม่คอยเชื่อหรอกว่า.. “ผู้บริหารสังคม?”(ไม่ว่า”ตำแหน่งไหน?”)ที่”พื้นเพครอบครัว”เคย”ทำธุรกิจใหญ่ๆ?”,แล้ว”แนวคิดต่างๆ?”,เมื่อเริ่มคิดในเรื่องการออก”แนวทางบริหารสังคม?”ใน”เรื่องใดๆ?”ก็ตาม(โดยเฉพาะ”ผู้ที่มีความคล่องแคล่ว,คล่องตัว?”ในการ”บริหารธุรกิจ?”ที่สูงมาก?).. แล้วจะ”ตัดใจได้เด็ดขาด?”,ไม่”วกเวียนความคิด?”ไปถึงเรื่อง”ผลประโยชน์ซับซ้อน?,หรือเงินทอน?,หรือคอมมิชชั่นต่างๆ?”,ที่จะหาทาง”บูมเมอแรง?”ให้เกิดเป็นประโยชน์แก่”ธุรกิจของครอบครัว?”,หรือ”ธุรกิจของเครือญาติ?”ของ”ตัวเอง?”.. ใช่หรือไม่?.. ...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.110.55 วันที่: 17 ตุลาคม 2566 เวลา:13:36:59 น.  

 
มี”เกร็ดตลกในวงกาแฟ”นะ.. มี”คนพูดอยู่หลายคน”ทำนองว่า.. เอ๊..ทำไม”คณะที่มาร่วมทำงานให้กับสังคม”ก็มี”หลายคณะ”.. แต่ทำไมเขาไม่ทักท้วง”คณะที่จะทำเรื่องแจก.....?”นั้นนะ?,ว่าอาจมีนัยยะที่”ไม่ค่อยถูกต้องตามกฎระเบียบต่างๆ?”ที่กำหนดกันไว้?.. ก็ได้พูดสมมุติกันขึ้นมาทำนองว่า.. ก็เช่น.. มี”คนหนึ่ง”เห็น”น้องของเพื่อน”กำลังจะเดินเข้าไปใน”บ่อนพนัน”,ก็ไปกระซิบบอก”เพื่อน”ที่เป็น”พี่ชาย”ว่า.. “เฮ้ย..น้องของลื้อมันเข้าไปเล่นในบ่อนนะ!”..ลื้อทำไมไม่ห้ามปรามวะ?,ยังเรียนหนังสืออยู่,ยังเรียนไม่จบ,เดี๋ยวก็เสียคน,หมดเนื้อหมดตัวหรอก?”.. ฝ่าย”พี่ชายของเด็กคนนั้น”ก็เลยบอกกับเพื่อนว่า.. “เฮ้ย..ช่างมันเถอะ..ชีวิตใครชีวิตมัน.. เพราะข้าเองก็กำลังจะเข้าไปเล่นในบ่อนนี้เหมือนกันว่ะ!”.. !?!?!.. เฉลยคำตอบ..ประมาณว่า.. ก็”คณะ”ที่เห็น”อีกคณะ”ที่เขาทำไม่ค่อยถูกต้อง,แล้วเขาก็พากันเงียบเฉย(?).. นั่นเพราะที่เขาไม่ยอมพากันมาทักท้วง.. เพราะ”คณะของเขา”ที่”อาสาเข้ามาดูแลสังคม?”(และพอดีได้รับเลือก)คณะนี้นั้น,เขาก็มี”แนวทาง,ทัศนะ”ที่มุ่งหวังทำเพื่อ”เงินทอน?,หรือคอมมิชชั่นต่างๆ?”,แก่”คณะของเขา”ที่ได้รับมอบหมาย,ให้เข้ามา”ดูแลงานบางอย่าง?”..เช่นเดียวกัน?..นั่นไง?.. เพราะถ้าขืนไปทักท้วง”อีกคณะ”เข้า,เกิด”อีกคณะ”ไม่พอใจขึ้นมา,ก็มีสิทธิ์ที่จะ”ถูกทักท้วงหรือวีโต้?”ใน”งานที่ได้รับมอบหมาย?”ของ”คณะตนเอง”กลับคืนมาได้เช่นเดียวกัน?..ไงล่ะ?.. เดี๋ยวนี้ใครก็อย่าไปคิดว่า..ปชช.นั้นไม่ฉลาด?”(=”โง่?”).. เพราะยุคสมัยนี้”ปชช.”ต่าง”รู้ทันนกม.?”กันหมดแล้ว?.. เพียงแต่ยังไม่รู้ว่า..จะแก้ปัญหาอย่างไร?กับ”คณะทำงาน?”(บางคณะ)ที่มี”กลฉ้อฉล?”กันอย่างไรดี?..เท่านั้นครับ.. ...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.110.55 วันที่: 17 ตุลาคม 2566 เวลา:15:02:23 น.  

 
ดู”ไล้ฟ์สด”ของ”ช่องอมรินทร์,18-10-66”.. มีความเห็นดังนี้.. เดี๋ยวนี้เรามีเรื่องของ”ดิจิตอลฟุตพริ้นท์”.. ดังนั้น..”ข้อมูลต่างๆ”มีการบันทึกไว้หมด(?).. อยากขอเสนอให้”สื่อช่องต่างๆ”ควรนำ"คลิปบางคลิป"มานำเสนอ.. เช่น..กรณีที่มี”นกม.”(บางท่าน)ที่เคยพูด”รับปากกับปชช.”ประมาณว่า.. “จะยืนอยู่เคียงข้างกับปชต.?”,แต่ภายหลังเมื่อมี”ความผิดพลาดจากการบริหารนโยบาย?”(ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจให้เกิดขึ้น?..ก็ตาม),แต่สุดท้ายก็มีการ”หลบออกไป?”(ของ”บางท่าน”),มีแต่”ลูกน้อง”ที่ยัง”ถูกจำขังอยู่?”เท่านั้น(?)..


โดย: สมจิต IP: 27.145.110.55 วันที่: 18 ตุลาคม 2566 เวลา:12:07:23 น.  

 
จึงอยากให้”สื่อบางส่วน”ลองถาม”ผู้บริหารนโยบาย”สำหรับนโยบาย”แจก.....?”ครั้งใหม่?.. ว่าถ้ามีการ”ผิดพลาด?”ขึ้นมาอีก(?.).. “ผู้บริหารนโยบายทุกระดับ?”จะกล้า”รับปากกับปชช.?”ได้หรือไม่?ว่า.. จะไม่ทำเหมือนกับ”บางท่าน?”ที่อยู่ใน”อดีตคณะบริหารนโยบาย?”(ที่ผ่านๆมา).. คือ.. ขอให้รับปากว่า..”ผู้บริหาร(คณะใหม่)ทุกท่าน”จะไม่มีการ”หลบไป”อยู่ที่อื่น?”ที่เกินกว่า”ขอบเขตการบังคับใช้กฎหมาย?”ของ”กระบวนการยุติธรรมทุกระดับ?”..ได้หรือไม่?.. ...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.110.55 วันที่: 18 ตุลาคม 2566 เวลา:12:10:53 น.  

 
และอยากฝากให้ข้อคิดว่า.. “ปชช.”อย่าเพลินใน”ความที่พูดชี้แจงได้อย่างคล่องแคล่ว?”ของ”ใครก็ตาม?”(?).. เพราะไม่ได้เป็น"เครื่องการันตี?"ว่า.."คำพูดนั้นๆ?"จะต้องถูกต้องเสมอไปจ้ะ?..


โดย: สมจิต IP: 27.145.110.55 วันที่: 18 ตุลาคม 2566 เวลา:12:25:05 น.  

 
เพราะยิ่ง”บุคคลใด?”ที่พูดจาได้คล่องแคล่วมากเท่าใด(?),ยิ่งชี้ว่า”บุคคลนั้น?”ย่อมสามารถ”ปกปิดความในใจ?”,และ”มุมซ่อนเร้นในส่วนตัว?”ได้มาก,ได้เก่ง?..เท่านั้นจ้ะ!? ...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.110.55 วันที่: 18 ตุลาคม 2566 เวลา:12:28:19 น.  

 
(เช่น.. ข่าวของ”คนพูดคล่อง?"(บางคน)ที่ใช้"สารบางอย่าง?"เพื่อทำร้ายคนที่เขาเข้าไปสนิทสนมด้วย?..ตามที่เป็นข่าวเมื่อเร็วๆนี้?..นั่นไง?).. ...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.110.55 วันที่: 18 ตุลาคม 2566 เวลา:12:31:31 น.  

 
ได้ดู”บางรายการ,ของวันที่2-11-66”,เรื่อง”หลอกให้หย่า?”( =”แค่ไว้เผื่อประโยชน์บางอย่าง?”,เพราะอาจมองว่า”อีกฝ่าย”เป็น”คนใจอ่อน,ไร้พิษสง?”).. และมี”ความเห็นส่วนตัว”ดังนี้.. ”คู่ใด?”ที่ได้”คู่ชีวิตที่จริงใจต่อกัน”(ไม่มีเรื่อง”คบซ้อน?,เล่นกิ๊ก?,เล่นชู้?”),ไม่มีเรื่อง”นอกใจซึ่งกันและกัน?”,ถือว่าเป็น”คู่ที่โชคดี”ตลอดชีวิต(?).. แต่อยากบอก,อยากพูดตามประสบการณ์ส่วนตัวว่า.. “หญิงชายที่ครองคู่”(ส่วนมาก,หรือจำนวนไม่น้อย?)มักมาจากเรื่อง”ผลประโยชน์ที่แต่ละฝ่ายคาดหวัง?”(อาจเป็นเรื่อง”รักอยากลอง?”เหมือน”ลองซื้อหวย?”ประมาณนั้น),เมื่อ”หมดประโยชน์?”(หรือ”เริ่มเบื่อ,เพราะจำเจ?”),หรือเพราะ”สาเหตุสารพัด,จิปาถะ?”ก็มักจะหาเรื่องที่จะมี”คนใหม่?”และ”หาทาง(ขอ)เลิกจากคนเก่า?”.. ถ้า”ฝ่ายใดจิตอ่อน?”,ยัง”ผูกพัน,ให้อภัย?”ก็มักจะ”เป็นฝ่ายเสียเปรียบต่ออีกฝ่าย?”,หรือมักทำให้”อีกฝ่าย”เห็นเป็น”ฐานรองบ่อน?”หรือ”ตัวสำรอง?”เพื่อ”ประโยชน์แก่ตัวเอง?”,ยามต้องการ”ประโยชน์ต่างๆ?”(เฉพาะหน้า?),หรือมี”ความต้องการบางอย่าง?”(ประมาณ”แก้ขัด?”)ได้เสมอ(?).. ...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.120.125 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2566 เวลา:20:02:06 น.  

 
“ข้อสรุปส่วนตัว”กรณี”หลอกให้หย่า?”(จาก”ความเห็น,ประสบการณ์ส่วนตัว”)..
1.”ความรักมั่น,รักเดียวใจเดียว?”นั้น,ควรต้องแสดงออกด้วย”การกระทำ?”,มิใช่แค่”คำพูด”เมื่อครั้ง”เริ่มแรก?”ที่แสดงออกว่า”รักกัน?”..เท่านั้น(?).. เพราะมักจะมีผลไปถึง”ระดับDNA?”(ทาง”จิตวิญญาณ?”หรืออาจมีผลไปถึงการเบี่ยงเบน”ดีเอ็นเอทางกายภาพ?”ด้วย?),ที่”ลูกที่เกิดขึ้นมา”มักจะรับการ”ถ่ายทอดพฤติกรรม?”จาก”บุพการี?”.. เช่น.. ถ้าเป็น”ลูกหญิง”,ถ้าเห็น”แม่เจ้าชู้?,คบซ้อน?,หลายใจ?”,เมื่อ”ประสบการณ์เรื่องหญิง-ชาย”มากขึ้น,มักจะ”เลียนแบบตามแม่?”,โดย”มิจำเป็นต้องสอน?”(หรือ”สอนไม่ได้?”),โดยมักอ้างว่า”ในใจตนเอง?”ว่า”ทำตามแม่?”,หรือ”แม่ก็ยังทำ?”.. หรือถ้าเป็น”ลูกชาย”,เป็นธรรมชาติที่”ลูกชาย”มักจะ”อยากเก่งเรื่องทางเพศ?”ตาม”พ่อ”( =มักคิดว่า”บริหารเสน่ห์?,มีหญิงพัวพันหลายคน?,มองว่าเท่?,และภูมิใจในความเป็นชาย?”),โดยที่ถ้า”พ่อมีหญิงเป็นภรรยา?”หลายคน?,ที่สุดเมื่อ”ประสบการณ์ชีวิตมากขึ้น?”,มักจะอยาก”ทำสถิติให้ได้ทัดเทียมกับพ่อ?”(เพราะเห็น”พฤติกรรมเหล่านี้?”อยู่เรื่อยๆ,จนชินตา,จนซึมซับว่าเป็นเรื่องธรรมดาของ”เพศชาย”(?),หรือถ้าเป็นไปได้,ก็อยากทำให้ได้”จำนวนเหนือกว่าพ่อ?”ด้วยซ้ำไป(?)..
2.”ความดี,ความตั้งใจครองคู่,ความมั่นคงในการต้องการเป็นครอบครัว”มักจะเป็นกับ”คู่คนแรก”(โดยเฉพาะกับหญิง), หรือมักจะพูดได้ว่า”ภรรยาคนแรกมักดีกว่าภรรยาที่ถัดๆมาเสมอ”(?)(ประมาณนั้น),โดยเฉพาะเมื่อ”หญิงใด?”ที่รู้ทั้งรู้ว่า”สามี”มี”ภรรยา”อยู่ก่อนแล้ว(หรือเคยมีภรรยามาแล้ว),และยังยอมเป็น”ภรรยารอง?”หรือ”ภรรยาน้อย?”,มักประเมินได้ว่า..จะหา”ความจริงใจที่ยั่งยืน?”จาก”ภรรยาคนถัดมา?”ได้ยาก(?),เพราะมักมุ่งหวัง”ผลประโยชน์อื่นๆ?”(เช่น..เรื่อง”ทรัพย์?,สถานะ?”)จนยอมที่จะ”เป็นน้อย?”หรือ”เป็นรอง?”,หรือ”แย่งคู่คนอื่น?”(โดยมองข้าม”หลักศีลธรรมของศาสนา?”,อาจมองเพียงว่า”ใครดี,ใครได้?”)ก็ยังยอม(?).. เพราะ”หลักคิด”คือ..เมื่อ”เธอกล้าที่จะทำผิดหลักศีลธรรม?”( =”แย่งของรักจากผู้อื่น?”มาได้?),ก็คงยากที่”ผู้ชาย”จะมุ่งหวัง”ความจริงใจ?”ที่จะ”ครองคู่จนตลอดชีวิต?”จาก”หญิงผู้นั้น?”ได้..(เพราะจะให้รัก”ของมือสอง?”มากกว่า”ของมือหนึ่ง?”ได้อย่างไร?).. ...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.120.125 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2566 เวลา:4:53:59 น.  

 
“สังคมไทย”เป็น”สังคมพุทธ”..ใช่หรือไม่?.. ไม่สมควรที่จะเป็นลักษณะของการ”หลิ่วตาข้างหนึ่ง?”หรือ”หลับตาข้างหนึ่ง?”.. แต่ทุกๆฝ่ายควรเอื้อต่อ”ระบบศีลธรรมของทุกๆศาสนา”..(โดย”ไม่สนับสนุนหรือเข้าข้าง?”,หรือ”ให้ท้าย?”ต่อ”คู่ครองบางคน?”ที่มีลักษณะ”ไม่กตัญญู?”ต่อ”ผู้ผลักดัน,สนับสนุน”ใน”หน้าที่,การงาน?”,จนมีผลทำให้”ครอบครัวพังทลาย?”..ใช่หรือไม่?.. เพราะ”หลักกฎหมาย”ก็ยังเคยได้ยินมาว่า..จะมีคดีที่”บุพการีสามารถเรียกคืนทรัพย์ที่มอบให้กับบุตรได้”.. ซึ่งเราเห็นส่วนตัวว่า..น่าจะสังเคราะห์เข้ากับการที่”ภรรยาที่ได้อุดหนุนช่วยเหลือต่างๆ?”(อย่างกรณีที่”ภรรยาเป็นแม่ค้า,ช่วยให้สามีได้เป็นผอ.”..เป็นต้น),จน”สามี”ได้”หน้าที่การงานที่สำคัญ?”,แล้วภายหลัง..เมื่อตน(สามี)ได้”หน้าที่,การงาน?”ที่”สำคัญ,มีเกียรติ,มีหน้ามีตา?”,แล้วกลับมา”ขอเลิกร้างจากภรรยา?”โดย”ไม่มีสาเหตุสำคัญ?”(นอกจากกรณี”ภรรยามีชู้?”).. เราเห็นว่า..”หัวหน้างาน?”หรือ”ผู้ใหญ่ๆของสังคม?”ไม่ควร”เพิกเฉย?,เอาหูไปไร่,ไปสวน?”,หรือปล่อยให้ผู้”กระทำสิ่งเหล่านี้?”(ไม่ว่าจะเป็น”ผู้ใด?”ก็ตาม?)ได้อยู่ใน”หน้าที่,การงาน?”(ที่มีเกียรติ?),ที่เคยได้รับการ”อุดหนุนจากคู่ครองคนเดิม?”อีกต่อไป(?)(คล้ายคำที่ว่า”พอได้ดี..แล้วก็ดันหัวเรือส่ง?”) ประมาณนั้น?..หรือไม่?.. หรือไม่ควรใช้”อำนาจหน้าที่?”เพื่อ”ช่วยเหลือกันเอง?”ให้เป็น”ตัวอย่างที่ไม่ดี?”ต่อ”สังคม”ต่อไปหรือไม่?.. ซึ่งอาจเป็นเหตุที่จะทำให้”สังคมไทย”ขาดไร้ซึ่ง”ความอบอุ่นในครอบครัว?”,ขาด”สัญลักษณ์แห่งความเป็นคนดี?”(อันคือ”ความกตัญญู,รู้คุณผู้มีคุณต่อตน?”)หรือไม่?.. ซึ่งทำให้”สังคมไทย”เต็มไปด้วย”ผลกระทบ?”ซึ่งทำให้เกิด”ปัญหาในครอบครัว?”ตามมาอย่างมากมาย?..หรือไม่?.. ซึ่ง”ลูกบางคน”อาจรู้สึก”น้อยใจ?”,จนอาจ”คิดผิด?”,พาตัวเองเข้าไปข้องเกี่ยวกับ”วงจรยาเสพติด?”หรือ”สังคมเพื่อนฝูง?”ที่อาจ”ชักจูง,นำพา?”ไปสู่”สิ่งที่เลวร้าย?”ตามมา?..ได้หรือไม่?.. ...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.120.125 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2566 เวลา:7:38:21 น.  

 
(กรณีข่าว”หญิงบางคนอ้างถูกหลอกทำคุณไสย,มนต์ดำ?”).. อยากถามสังคมว่า.. สังคมเราจะเอายังไงกันดี?.. สมมุติว่า.. มี”หมอมนต์,หมอเสน่ห์บางคน”อาจอ้างว่าไป”เรียนมนต์?”จากไหนก็ไม่ทราบได้(?)(มี”บางคน”เคยอ้างว่าไปเรียนมาจาก”ประเทศข้างบ้านเรา?”ที่กิตติศัพท์เรื่องการทำ”คุณไสย์,มนต์ดำ?”นั้นลือเลื่อง?),เพราะมักมี”ภาษา”ที่คนไทยฟังไม่เข้าใจ,หรือฟังไม่ออก,ซึ่งอาจมีการเขียนเป็น”ตัวอักษรยันต์?”บ้าง?,มีเรื่อง”การสักยันต์?”บ้าง?.. ประมาณว่า.. ต้องยอมรับว่า..”สังคมเรา”มักชอบอะไรที่เป็นทั้ง”ภาษาพูด?”และ”ภาษาเขียน?”ที่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง?..ว่างั้นเถอะ(?)..ประมาณนั้น..นั่นแหละ,แล้วก็จะมองว่า”ขลัง?”และ”เชื่อ?”.. ที่จริงเราคิดว่าน่าจะเป็น”อุปาทานในจิต?”ที่”เชื่อ,ศรัทธา,ฝังใจ?”ของ”ผู้แสวงหา?”ไปเองมากกว่าหรือไม่?(เพราะ“อุปาทานของคนบางคน?"บางทีมันก็เป็นเรื่อง”เหลือเชื่อ?”และ”พิสดาร?”และยากจะอธิบายให้กระจ่างได้?,ซึ่งถ้า”เชื่อมากๆ?”หรือ”อุปาทานจัดๆ?”,บางทีก็เกิด”อะไรแปลกๆ?”ขึ้นได้(?)(แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะ”เป็นไปได้กับทุกคน?”).. สิ่งนี้อาจเป็นเรื่องของ”เทคนิค?,หรือจิตวิทยา?”ที่”อาจารย์มนต์บางคน?”อาจใช้เพื่อเป็นประโยชน์,เพื่อให้ลูกศิษย์เชื่อถือ(?).. แต่มีข้อท้วงติงสำหรับ”สังคมไทย”,ซึ่งชื่อว่า”สังคมพุทธ”(ซึ่งมี”ชาวพุทธราว95%”)นั้นว่า.. “สื่อบางส่วน?”สมควรส่งเสริม,หรือนำมาพูดถึงแบบ”ให้เกียรติ?”หรือ”ให้คุณค่า?”เกินไปหรือไม่?,และ”สื่อบางท่าน”ก็ยังมีพูดทำนองว่า..ตนเองก็เชื่ออยู่นะ(?),ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมคล้อยตามสื่อได้?..อะไรประมาณนี้..หรือไม่?.. เพราะอยากบอกว่า.. มันไม่ใช่”หลักคำสอนของพุท?”เลย(?).. ยิ่งถ้าเป็น”นักบวชพุทธ”(ที่สวมจีวร)แล้วมาทำ”คุณไสยเหล่านี้?”,ที่เรารู้คือ”ผิดมหาศีล”ของ“พุทธ”แน่นอน(?),แต่การ”ลงโทษนักบวชนี้”,เราไม่รู้ว่าจะต้องใช้”ระเบียบใด?”..อย่างไร?..หรือไม่?.. จึงอยากถาม”สำนักพุทธศาสนา”ว่า.. ทำไมจึงยอมให้”เมืองพุทธ”มีทั้ง”อาจารย์คุณไสย?,อาจารย์มนต์ดำ?,อาจารย์สักยันต์ให้ขลัง?”ที่ทำผิด”หลักมหาศีลของพุทธ?”กันเต็มไปหมด?.. แม้โดยอาจอ้างว่า”เขาไม่ได้เป็นนักบวช?”(ก็ตาม?),แต่การแสดงออกเช่นการใช้”ภาษาบาลี?”ที่ท่องเป็น”มนต์คาถาต่าง?”ที่ฟัง”ไม่รู้ความหมาย?”เพื่อให้”ดูขลัง?”ต่างๆ(?).. ที่เป็นเหตุให้คนเกิดความ”ศรัทธา,เชื่อถือ?”(โดยเฉพาะเป็นมากกับหญิง?)ที่มักมาให้”ลงมนต์นั่น,นี่?”สารพัด(?),ซึ่งมี”หญิงจำนวนมาก”ที่ตกไปในกลของ”บางอาจารย์”ที่มักลามไปสู่เรื่อง”การละเมิดทางเพศ?”(ตามที่เป็นข่าวอยู่เป็นระยะๆ?)มาโดยตลอด(?).. จึงเห็นว่า”สำนักพุทธ”ควร”ออกระเบียบ”,แล้วนำเสนอไปยัง”สภา”,ให้กำหนดให้”ลัทธิบางอย่างเหล่านี้”ที่ไม่ตรงกับ”หลักพุทธ”,ให้ถือว่า..มีส่วนแอบอ้าง”คาถา(ภาษา)พุทธ?”และนำ”พุทธรูป?”มาเป็นลักษณะ”พุทธพาณิชย์?”(หรือ”เครื่องจูงใจ?”),และทำให้”คนหลงใหล,งมงาย?”ในสิ่งอันไม่ใช่”หลักการของศาสนาพุทธ?”..โดยรณรงค์,หาทางแก้ไขกันให้”จริงจัง,และต่อเนื่อง”.. จะดีหรือไม่?.. ...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.120.125 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2566 เวลา:15:18:35 น.  

 
ดูรายการ”เจาะลึกทั่วไป,13-11-66”ได้ข้อคิดดังนี้..
(หลักคิดของเราเอง).. 1.ถ้า”ประชากรเล่นหวยเยอะ”,หรือ”ติดหวย”แสดงว่า..การศึกษา”วิชาคณิตศาสตร์”เรื่อง”หลักความน่าจะเป็น”(Probability)น่าจะล้มเหลว(?).. 2.”การพนัน”(หรือ”ติดพนัน”)จะทำให้”เงินทุกกระเป๋าในกลุ่มพนันลดลง”โดยรวม(ถ้าคิดแบบ”ระบบปิด”),เพราะจะ”เล่นอย่างเดียว,โดยไม่กินอาหารเลย?”คงไม่ได้(?).. ดังนั้น.. “เงินในระบบ”ต้องหมดไปกับอย่างน้อย”ค่าอาหาร”,หรืออาจมี”ค่าไฟ,ค่าแอร์,ค่าเช่าห้อง,ค่าจิปาถะ”เพื่อการดำรงอยู่,สุดท้ายทุกคนจะ”จนลง”(=”เศรษฐกิจโดยรวม”แย่ลง)(แน่นอน)(=เป็น”การลงทุน”ที่ไม่ก่อให้เกิด”ผลิตผลใดๆ”).. 3.”คนจนเล่นหวย,คนรวยเล่นหุ้น”คืออย่างไร?.. เพราะ”คนจนมีเงินน้อย”จึงใช้หวยเป็น”เครื่องเสี่ยงโชค”( =”การพนันชนิดหนึ่ง”),หวัง”รวยทางลัด”,เพราะไม่มีเงินมากพอที่จะ”ซื้อหุ้น”.. ส่วน”คนรวยที่พอมีเงิน”เท่านั้นจึงจะนิยม”เล่นหุ้น”(เรียกสวยๆว่า”การลงทุนที่มีความเสี่ยง?”)(“ความเสี่ยง?”=”การพนันชนิดหนึ่ง?”ก็ว่าได้?)(เช่น.. "บางบริษัท"อาจมีการ”ตกแต่งรายละเอียดทางการเงิน?”ให้ดู”สวยดี,น่าลงทุนด้วย?”,ประมาณนั้น?..เป็นต้น).. แต่จริงๆเป็นเรื่อง”ความเสี่ยง”ที่มี”หลักวิชาการ”ตามสมควร,คือจะมีการ”คาดคะเนอนาคต?”ตาม”หลักการต่างๆ?”,แต่ก็”คาดคะเนผิดได้”,และถ้า”คะเนผิด?”เมื่อไหร่?,ก็มีสิทธิ์”ขาดทุน”(หรือ=เสียพนัน?”)นั่นเอง?,ไม่ต่างกัน(?).. ...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.112.185 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2566 เวลา:11:51:49 น.  

 
กรณีรายการ”โหนฯ,15-11-66”(ตอน”พลังจิต”)..
(ความคิดเห็นส่วนตัว).. 1.ถ้าเป็นแถบ”ชาวตะวันตก”คนมักเชื่อ”วิทยาศาสตร์การแพทย์”มากกว่าเรื่องของ”การรักษาด้วย”พลังจิตต่างๆ”.. เพราะ”ระบบต่างประเทศ”เขามีเรื่องของ"สวัสดิการแห่งรัฐ”คอยโอบอุ้มเกื้อหนุน,เขาจึงไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเรื่องของ”ความเชื่อต่างๆ”.. แต่เรื่องของ”ความเชื่อหรือพลังจิต”มักจะมีมากใน”หมู่ชนทางซีกโลกตะวันออก”,เพราะจัดอยู่ใน”สถานะทางเศรษฐกิจที่ยากจน”,ซึ่ง พอจะคิดถึงว่าต้องการไปรักษาในทาง”วิทยาศาสตร์การแพทย์”,ก็ต้องคิดถึงเรื่อง”ค่าใช้จ่าย”ซึ่งอาจทำให้”เงินที่สะสมมาตลอดชีวิต”ต้อง”หมดไปในชั่วพริบตา”ก็เป็นได้..ประมาณนั้น.. จึงมักอาศัย”การลองผิดลองถูก”ในเรื่อง”วิชาลี้ลับ”ของ”อาจารย์ที่ได้ฝึกฝน”เรื่องของ”วิชาอาคม”และ”พลังจิตต่างๆ”กันเป็นจำนวนมาก.. เพราะอาจคิดว่า..ไปลองดูก็ไม่เสียหาย,คงไม่ได้แย่ไปกว่าเก่า,แต่ถ้าเผื่อ”โรคหายมา”ก็ถือว่า”โชคดี,หรือโชคช่วย”..ประมาณนั้น.. จริงๆมีแง่มุมวิเคราะห์ต่างๆมากมาย.. เช่น.. อาจคล้ายเหมือนกับ”การแก้บน”กับ”รูปบูชาต่างๆ”ก็เหมือนกัน.. จะมองว่า..เป็น”ที่พึ่งของคนบางส่วน”ก็ได้.. แต่บางทีก็ถูกมองว่า..อาจเป็น”ความงมงาย?”หรือเป็นเรื่องของ”จิตวิทยามนุษย์?”( =”สถิติ”)หรือไม่?.. เช่น.. บางทีมีการพูดกันว่า.. อาจมีคนไปขอโชคลาภหรือบนบานอะไรไว้จำนวนมาก,ใน100คน,อาจมีคนที่จับพลัดจับผลูได้ตามคำขอสัก1คน,”คนที่คิดว่าตนได้รับโชค”(ซี่งอาจจะเกิดขึ้นเพราะ”เหตุอื่นๆสารพัด?”ก็เป็นได้,ซึ่งอาจไม่เกี่ยวกับ”องค์รูปปั้น?”ที่ไป”บนบาน,ขอโชคลาภ”แต่อย่างใดเลย?,ก็ได้เช่นกัน?),ก็จะไปแสดงการ”รำแก้บน?”หรือ”นำของมาถวาย?”ซะ”เอิกเกริกใหญ่โต?”,จนคนที่ไปพบเห็น”การแก้บน?”นั้นก็พากันไป”พูดกันปากต่อปาก?”ว่า”องค์รูปปั้น”นี้คงศักดิ์สิทธิ์นะ(?),”คนผู้นี้”คงได้โชค,จึงมาแก้บน”เอิกเกริกขนาดนี้?”..ประมาณนี้.. แต่ลืมคิดไปว่า..”ผู้ที่ไม่ได้รับโชค”ที่มีอยู่อีกถึง”99คน”นั้นเล่า?,ทำไมเขาจึงไม่ออกมาพูดประกาศว่า..”ฉันไม่ได้รับโชคดอกนะ”,เพราะทาง”จิตวิทยา”ก็คือ,เมื่อ”ตนไม่ได้รับโชคตามที่ขอไว้”,ก็ย่อมจะพากันหลบหน้าหนีหายไป,เพราะถ้ามาพูดอะไรมาก,ก็ยิ่งจะอับอาย,เพราะอาจกลัวถูก”ต่อว่า”หรือ”สมน้าหน้า”ว่า..เป็น”คนอับโชค?”เอง?,หรือเป็น”คนไม่มีบุญ?”..อะไรประมาณนั้น..หรือไม่?..นั่นเอง..


โดย: สมจิต IP: 124.122.16.69 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2566 เวลา:18:51:04 น.  

 
2.เราเคยเรียนรู้ทาง”คริสต์”มาบ้าง.. “พระเยซู”เองก็เคยมีการ”รักษาคนป่วยหรือคนพิการ”โดยแค่”ผู้ที่มีความเชื่อ”เข้ามา”สัมผัสถูกตัว”ของ”พระเยซู”,”โรคนั้นๆ”ก็จะหาย,หรือ”อาการพิการ”..เช่น..”คนตาบอดก็หายบอด,คนขากะเผลกก็เดินได้”.. เช่นนี้เป็นต้น.. ส่วนตัวเราเองก็ปกติอยู่คนเดียว,หลายครั้งก็ต้อง”ช่วยเหลือ,เอาตัวให้รอดด้วยตัวเอง”ให้ได้มากที่สุด,โดยอาศัย”ความเชื่อส่วนตัว”กับ”ความเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆ”.. เช่น.. “ปวดท้อง,ปวดหัว,ฯลฯ”..ด้วยเช่นกัน.. โดยการใช้”สะพานพลังจิต”โดยใช้”มือของเรา”นี่แหละไป”ลูบซ้ำๆ”ที่บริเวณที่”กำลังเจ็บปวดต่างๆ”นั้น,และก็จะมี”สวดคาถา”ที่เรา”เชื่อถือหรือยึดถือ”..เช่น..”คาถาเจ้าแม่กวนอิม”ในเวลาที่”กำลังเอามือลูบ”ไปด้วย.. เป็นต้น.. และ99%ก็มักจะได้ผล,คือ”อาการเจ็บปวดต่างๆ”(ที่ไม่รุนแรงมากนักนะ)ก็จะทุเลาเบาบางไปในชั่วระยะเวลาอันไม่นาน.. คือเรามองว่า..”ทุกคนมีพลังจิต”และสามารถ”ใช้พลังจิต”กับ”เรื่องของตัวเอง”ที่ไม่ใช่”เรื่องรุนแรง”ได้แทบทุกคน.. นั่นแหละ..


โดย: สมจิต IP: 124.122.16.69 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2566 เวลา:19:34:26 น.  

 
3.หลายๆปีมาแล้ว.. เราเคยได้ดู”รายการดังรายการหนึ่ง”ทาง”ทีวีโซเชี่ยล”,มี”หญิงคนหนึ่ง”(เป็น”คนไทย”นี่แหละ)ที่มาออกรายการแล้วพิสูจน์เรื่อง”พลังจิต”ให้ดู,โดยการคล้ายๆทำให้”วัตถุเบามากๆชนิดหนึ่ง”ตั้งอยู่บน”สิ่งที่แหลมๆและหมุนได้โดยง่าย”,แล้วเขาก็แสดงการ”ใช้พลังจิต”ให้”วัตถุที่ประดิษฐ์ขึ้นมานั้น”หมุนไปทางซ้ายก็ได้,หรือทางขวาก็ได้,แล้วแต่”มือของผู้ใช้พลังจิต”นั้นจะ”โบกพัดไปทางไหน”,”วัตถุนั้น”ก็จะหมุนตามไปทันที.. อันนี้เราก็เคยลองฝึก,พยายามจะทำตามเช่นเดียวกัน,แต่ทำไม่ได้.. เพราะเคยได้ยินว่า.. “คนเล่นกับพลังจิต”นั้นมักจะมีอายุที่ไม่ยืน,เพราะเกี่ยวกับการต้องใช้”พลังงาน”ของ”ระบบกล้ามเนื้อหัวใจ”ที่มากเกินไป,อาจทำให้”กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนล้า,และชำรุดเร็ว(?)”(เราจึงไม่ได้ฝึกฝนอีกต่อไป,เพราะส่วนตัวเคย”หลอดเลือดหัวใจ”ตีบ,และ”ทำบอลลูนไปแล้ว1เส้น”แล้วด้วย).. เราเพียงอยากบอกว่า..”ธรรมชาติของมนุษย์”โดยเฉพาะ”ชาวตะวันออก”มีแนวโน้มจะ”เชื่อ”หรือ”ถูกสะกดให้จิตใจ”หรือ”อุปาทานจิตส่วนลึกของตัวเอง”(จะโดยรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม)เป็นไปตาม”การกำหนดหรือคำพูด”ของ”ผู้ที่ทำการสะกดจิต”ต่างๆ”ได้ง่าย.. โดย”ผู้สะกดจิต”อาจใช้ทั้ง”เทคนิคเสียงพิเศษ?”,และ/หรือ”แอ็คชั่นการแสดงออกต่างๆ?”(เพื่อ”จูงอุปาทานจิต?”ของ”ผู้ป่วย”ให้คล้อยตามได้โดยง่าย?)ประกอบด้วย,แต่โดยมากมักไม่ยั่งยืน,อาจเป็นๆหายๆต้องกลับมาหา”ผู้สะกดจิต”อีกเรื่อยๆ,แต่”โรคที่รุนแรง”.. เช่น..”โรคมะเร็ง”,หรือ”โรคเก๊าส์,โรคไต,โรคตับ,โรคความดัน,โรคหอบหืด”.. เป็นต้น.. นั้น..เรามองว่าน่าจะรักษาให้หายขาด,โดยอาศัยแค่”ความเชื่อเรื่องพลังจิต”เพียงอย่างเดียวนั้น ..น่าจะเป็นไปได้ยากครับ..


โดย: สมจิต IP: 124.122.16.69 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2566 เวลา:20:38:27 น.  

 
4.เราเคยรู้ว่า.. “การวิจัยเรื่องยาต่างๆ”มักจะมีการใช้”ยาหลอก”(Placebo).. คือเป็นเรื่องของการประเมินผลว่า..”ยามีฤทธิ์ตามประสงค์”มากน้อยแค่ไหน?.. โดยจะไม่มีการบอกกับ”ผู้อาสาทดลอง”ว่า..ตนได้รับยาหลอกหรือไม่?.. เมื่อผลออกมาแล้ว,ก็จะนำมาประเมินว่า.. “ยาตัวนั้น”จะใช้ได้หรือไม่?..ประมาณนั้น.. เช่น.. ถ้า”ผู้ที่ได้รับยาหลอก”จำนวนหลายคน,ก็สามารถ”รู้สึกอาการดีขึ้น”เมื่อได้รับ”ยาหลอก”นั้น,เช่นเดียวกับ”ผู้ที่ได้รับยาจริง”,ก็แสดงว่า..”ประสิทธิภาพของยา”ยังคงต้อง”ทบทวน”หรือมีการ”ค้นคว้าทดลอง”อีกต่อไป.. เช่นนี้เป็นต้น.. คือแสดงว่า..แม้แต่ทาง”วิทยาศาสตร์การแพทย์”ก็ยังยอมรับว่า..”อำนาจของจิตอุปาทานของมนุษย์”นั้นก็มี”ความหมาย”ที่จะทำให้เกิดการ”เข้าใจผิด”ต่อ”บริบทต่างๆ”ของการใช้”เทคนิค,กลวิธีแปลกๆต่างๆ”,เพื่อจะ”หลอกจิตของผู้ป่วย”ให้เกิด”อุปาทานมากพอในระดับหนึ่ง”ที่จะทำให้”ตัวผู้ป่วย”นั้น,รู้สึกว่า”อาการของตนนั้นดีขึ้น”..ก็ได้ด้วย.. แต่ในความเป็นจริงนั้น,อาจจะหายจากโรคได้เพียงระยะเวลาสั้นๆ,และก็จะกลับมาเป็นอีก(เพราะ”ต้นเหตุแห่งโรค”ไม่ได้ถูก”กำจัดออกจากร่างกาย”อย่างแท้จริง),หรือถ้า”การรักษาโดยอาศัย”เทคนิคคำพูดและแอ๊คชั่นต่างๆ”ของ”อาจารย์สะกดจิตต่างๆ”ที่ไปมีผลต่อ”ระบบภายในร่างกายที่ละเอียดอ่อน?”ที่ไม่อาจรู้ได้ใน”ระยะแรก”,แต่ก็อาจก่อ”ผลเสียที่ร้ายแรง”เพิ่มขึ้นใน”ระยะต่อๆมา”ได้,เพราะด้วยการ”รักษาคนป่วยแบบไม่ถูกหลักการทางการแพทย์?”ได้ด้วยเช่นเดียวกัน(?)..


โดย: สมจิต IP: 124.122.16.69 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2566 เวลา:22:28:24 น.  

 
5.สังคมไทยเป็นสังคมประมาณ”ตำนานศรีธนญชัย”ประมาณนั้น(?).. จึงควรต้องระวังเรื่อง”หลักกฎหมาย”ที่มักมี”นักธุรกิจต่างๆ”(โดยเฉพาะทางโซเชี่ยล)มักใช้เป็นช่องทางเพื่อ”หลบเลี่ยงข้อกฎหมาย”อยู่เสมอ.. เพราะเราเห็นว่าช่วงก่อนๆที่ผ่านมา,มักจะมีการ”โฆษณาสินค้า”ที่”เว่อร์วังอลังการ?,ดูวิเศษเกินจริง?”หรือไม่?.. สุดท้าย..”ตอนท้ายโฆษณา”มักจะบอกว่าถ้าใช้แล้วไม่ได้ผล,หรือไม่ถูกใจ,ยินดีคืนเงินให้ภายในกี่วัน,ก็ว่าไป,โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ..ประมาณนั้น.. จริงๆถ้า”ไม่ได้ผลตามโฆษณา”,ก็ย่อมแสดงว่า”โฆษณาเกินจริง?”อยู่แล้ว?หรือไม่?,ซึ่งแสดงว่า..”ความผิดนั้นสำเร็จแล้ว?”,ซึ่งไม่ว่าคุณจะ”คืนเงินหรือไม่?”,ก็ย่อมถือว่า..”ทำผิดกฎหมายฐานโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง?”หรืออาจเข้าข่าย”หลอกลวงประชาชน?”อยู่แล้ว?,ถ้ายิ่ง”ไม่คืนเงิน”,ยิ่งจะต้อง”ผิดอีกหลายกระทง?”มากขึ้นไปอีก?.. เดี๋ยวนี้มีโฆษณาเช่นนี้อยู่มาก,โดยไม่มีสำนึก”รับผิดชอบต่อประชาชน?”.. เช่น..การนำเอา”ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์หรือยารักษาโรคบางอย่าง”มาพูดแบบที่ใช้”มุกเชิงบอกต่อๆกัน?”(ซึ่งเป็นการพยายาม”หลีกเลี่ยงข้อกฎหมาย”เช่นเดียวกัน),ประมาณว่า.. “ตัวลูกค้าเอง”ได้ใช้”ผลิตภัณฑ์หรือยานี้”แล้วรู้สึก”ได้ผลดีอย่างนั้นอย่างนี้?”..เป็นต้น.. ประมาณทำนองจะหลบเลี่ยงว่า..”เจ้าของผู้ผลิต”นั้นไม่ได้”โฆษณาสินค้าหรือยารักษาโรคเอง?”นะ?,แต่เขาใช้แล้วเขามา”พูดโฆษณาให้เอง?”,แต่จริงๆก็เป็นการที่”ผู้ผลิต?”นั่นแหละ?”ที่”เซ็ตทีม?”เพื่อ”ถ่ายคลิป?”นำไปสู่การ”โฆษณาที่เกินจริง?”ด้วย”ความจงใจ?”นั่นต่างหาก?.. หรือไม่?..


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.61 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2566 เวลา:0:29:32 น.  

 
6.เราเคยได้ศึกษา”ความยิ่งใหญ่ของศาสดา”,ก็มี”โมเสส”ที่ยก”ไม้เท้า”ขึ้น,พลัน”ทะเลแดง”ก็แยกตัวออกให้มี”ดินแห้ง”ให้”ชาวอิสราเอล”ข้ามผ่าน,หนี”ทหารฟาโรห์”ที่ขับรถม้าไล่ตามมา,จนพ้นไปได้.. อีกครั้งก็”พระเยซู”ยกมือขึ้น”ห้ามพายุและน้ำทะเลที่กำลังโหมกระหน่ำ”จนทำให้”พายุคลื่นลมสงบลง”ในทันใดได้,และการ”รักษาโรคของพระเยซู”ที่แค่มีคนไป”ถูกตัวท่าน”,โรคที่เป็นอยู่ก็หายได้.. แต่การศึกษาทาง”ฟากพุทธ”,เคยมี”คำพูด”ว่า..”อาจารย์ย่อมไม่แสวงหาศิษย์,แต่ศิษย์ต้องเป็นผู้แสวงหาอาจารย์เอง”.. แต่เราพบว่า..ทุกวันนี้..”อาจารย์คาถาอาคมบางท่าน”กลับดูเหมือนเป็น”ผู้แสวงหาศิษย์”ไว้ให้มากๆ,เพราะเหตุแห่งเรื่อง”เงินๆทองๆ?”,หรือ”อาจารย์บางท่าน”ก็มีการ”เรียกเก็บเงินค่าครู,ค่าวิชาต่างๆ?”,เราจึงมองว่าน่าจะไม่ใช่เรื่องของการใช้”พลังจิตที่แท้จริง?”(จาก”จิตของตัวเอง”)เหมือน”พระเยซู”หรือ”โมเสส”แต่อย่างใด?,แต่น่าจะเป็นเรื่องของ”จิตวิทยามนุษย์?”มากกว่า?..หรือไม่?.. เราเคยได้ยิน”อาจารย์รุ่นเก่าๆ”หรือ”พระเก่าๆสมัยก่อน”มักพูดว่า.. “พระพุทธรูป”นั้นไม่ต้องไปปลุกเสกอะไรมากมายหรอก,ถ้ามีคนไปกราบไหว้เรื่อยๆ,”พระพุทธรูป”ก็จะ”เริ่มลืมตา?”หรือ”เริ่มขลัง?”ขึ้นมาเอง(?).. คล้ายประมาณว่า.. “ผู้ที่ไปเห็น,ไปไหว้กราบ”ก็จะฝากกระแส”กลุ่มก้อนพลังงาน?”แห่ง”ความเชื่อ,ความศรัทธา?”ไว้ที่”องค์พระพุทธรูป”นั้นเองโดยอัตโนมัติ,และเมื่อถึงจุดหนึ่ง,”พระพุทธรูป”ก็จะ”เบิกเนตร?”และ”ปล่อยพลัง?”เพื่อช่วย”ผู้ที่ตกทุกข์”ที่มา”กราบไหว้”นั่นเอง..ประมาณนั้น.. ดังนั้นเรามองว่า.. “อาจารย์รุ่นหลังๆบางท่าน”อาจใช้”พลังงานความเชื่อ?”จาก”ลูกศิษย์?”เพื่อเพิ่ม”พลังงานทางจิต?”ให้กับตัวเอง?(แต่น่าจะไม่ใช่”พลังจิตของตัวเอง?”),และเมื่อมี”พลังงานจากลูกศิษย์ผู้เชื่อ”มากขึ้น,ก็คล้ายมี”พลังงาน(จิต)สะสม?”มากขึ้น,จนทำให้”ก่อผล”เป็น”พลังฤทธิ์เดช”ที่มากขึ้นเรื่อยๆ(?),ขึ้นมาได้เช่นเดียวกัน?..หรือไม่?..


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.61 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2566 เวลา:2:07:26 น.  

 
7.(สมัยนี้ต้องระวัง”ระบบแฟรนไชส์?”,ซึ่งกำลังระบาด,แม้แต่ใน”วงการธุรกิจ?”กับเรื่องของ”ความเชื่อ,ความศรัทธา?”).. เราเองก็เคย”บวชเป็นพระ”(ระยะสั้นๆ)ที่”สำนักหนึ่ง”(แถวทางอีสาน),เราบวชแค่ไม่กี่วัน,”เจ้าสำนัก”ก็บอกให้เราไปช่วย”รดน้ำมนต์”ซึ่งทำเป็น”โอ่งใหญ่”ทั้งตักราด,และใช้สายยางฉีดให้กับ”ญาติโยม”ที่มาสำนักนี้[[ซึ่งเราอ่านตาม”ภูมิส่วนตัว”นะ.. ประมาณว่า..”ผู้ที่บวชนาน”มักจะรู้”หลักจิตวิทยามนุษย์?”หรือ”รู้ธาตุ,รู้ไต๋มนุษย์?”ตรงกันว่า..”สังคมชาวพุทธไทย”มักเป็นคนที่”เชื่อศรัทธา”ใน”ผู้ห่มจีวร?”(หรือ”นุ่งห่มขาว?”,หรือ”ฤาษี?,นักบวช?,ผู้บำเพ็ญพรต?”)ได้ง่ายมาก(?).. เมื่อ”เชื่อ,ศรัทธา”ซะแล้ว,ก็มักจะเกิด”พลังอุปาทาน?”.. ดังนั้น..”บางอย่างที่ดูประหลาดๆ?”ก็อาจเกิดขึ้นได้ไม่ยาก?(เช่น.. เมื่อถูกสัมผัสทางกาย,ก็อาจมีอาการขนลุก?,ซาบซ่าน?,ก่อให้เกิด”จิตปีติ?”,อาการ”ปีติทางใจ?”ก็จะไปหนุนให้เกิดคล้าย”สารเอ็นโดรฟิน?”หรือ”สารสุข?”,ซึ่งเราเชื่อว่า”สารสุข?”นี่แหละ,ที่จะไปช่วยลด”อาการต่างๆที่เจ็บปวดต่างๆ”ได้พอสมควรได้เลยล่ะ?),จึงแม้แต่”พระพึ่งบวชได้2-3วันอย่างเรา”ก็ยังใช้ให้ไป”รดน้ำมนต์”ให้กับ”ญาติโยม”แทน”เจ้าสำนัก”,ซึ่งท่านมองว่า..ก็ย่อมเกิดผล”เป็นฤทธิ์เป็นเดช?”ได้ไม่ต่างกัน?..ประมาณนั้น]],ซึ่งก็มีผู้ที่มาเชื่อ,มาศรัทธา”พระเจ้าสำนักนี้”อยู่จำนวนไม่น้อย,เช่นเดียวกัน.. แต่จริงๆแล้ว,เรากลับเคยเห็นมี”ชายสูงอายุ”ที่น่าจะมีอาการ”ไตวายเรื้อรัง,กดบุ๋ม?”คนหนึ่ง(ซึ่งเราเห็นคาตา)เข้าไปอบ”ไอสมุนไพร”ที่”สำนักที่เราไปบวชนี้”,แต่อบได้ไม่นาน,ก็หมดสติที่ห้องอบนั้น,จึงถูกญาติโยมลากออกมา,”พระเจ้าสำนักนี้”ก็ออกมาดู,มากดที่เท้าแล้วบุ๋มลึก,ปรากฏวว่าสิ้นลมแล้ว.. เราก็เห็นท่านเข้าห้องส่วนตัวไปสวด?,ฟังว่า”ทำพิธีเรียกวิญญาณให้กลับคืนมาเข้าร่าง?”,แต่ทำอย่างไรๆ,”ชายผู้นี้”ก็ไม่ฟื้น,จึงต้องเรียก”เจ้าหน้าที่”ให้มาเก็บร่างไป,คือสรุปว่า”เจ้าสำนักที่มีผู้ศรัทธามาก"นั้น?,จริงๆแล้ว,ก็ไม่ได้ขลังจริง?(ซึ่งก่อนหน้านี้,ก็เคยได้ยินกิตติศัพท์ว่า..มี”ญาติโยม”เอา”ปลาทอด”มาถวาย,พอเปิดฝาปิ่นโตออกมา,กลับกลายเป็น”ปลาเป็น”ที่ยังมีชีวิต,ที่ดิ้นได้ซะอย่างงั้น,แล้วก็นำไปปล่อย,ฟังว่าเช่นนั้น,อย่างนี้ก็มี,คือมี”คนเล่าปากต่อปาก?”..ประมาณนี้).. ดังนั้น..”อาจารย์จอมขลังบางองค์”ทุกวันนี้,จึงน่าจะไม่ได้มี”พลังจิตของตัวเองเป็นส่วนตัวที่ฝึกฝนมา?”ที่เก่งกาจอะไรมากมายนักหรอก?,ส่วนมากมักจะอาศัยผสมผเสไปกับ”พลังงานแห่งความเชื่อ,ศรัทธา?”ของ”ลูกศิษย์”มาช่วย”ผสมโรง”(โดยใช้”เทคโนโลยี่และเทคนิคสื่อสมัยใหม่”มา”ร่วมด้วย,ช่วยโปรโมต?”)ให้ดูว่าท่านมี”พลังจิต?”ที่”กล้าแกร่ง?”มากยิ่งขึ้น?..นั่นแหละ?..มากกว่านะ?..เรามองว่าอย่างนี้นะ?..



โดย: สมจิต IP: 27.145.112.77 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2566 เวลา:3:59:33 น.  

 
(A)กรณีข่าว”ขอทานข้ามชาติ”(เนชั่นทันข่าวค่ำ,20-11-66).. เราให้ข้อเสนอแนะแบบเรานะ(เราชอบคิดให้แตกต่างออกไปนะ)..
1.การพิการด้วยจุดบริเวณที่คล้ายๆกัน,ด้วยรูปแบบเดียวกันทั้งกลุ่ม,ย่อมแสดงว่าไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ(?)..หรือไม่?,น่าจะต้องมี”ผู้คลุมเกมส์อยู่เบื้องหลัง?”อย่างแน่นอน..หรือไม่?..
2.รวมทั้งรูปแบบที่”มีเก้าอี้มานั่ง,แต่งชุดนักเรียน?”ให้ดูน่าสงสาร,น่าช่วยเหลือ(?)..นั่นก็พึงตั้งข้อสังเกตกันด้วยครับ?..
3.การที่มี”หญิงคนไทย?”ที่”ขับรถหรู?”มาคอยติดตามช่วยเคลียร์?,แสดงว่า..”หญิงคนที่มาช่วยเคลียร์ต่างๆ?”นั่นแหละ,ที่อาจมีส่วน?..หรือไม่?(เบื้องต้นไม่จำเป็นต้องรอ”หลักฐานอื่นใด?”เสียก่อนเลยก็ได้?),แต่น่าจะติดตาม,สืบสวนว่าจะต้อง”มีส่วนรับรู้?”ใน”ขบวนการค้ามนุษย์?”เหล่านี้?..ด้วยหรือไม่?,รวมทั้ง”หอพักที่ให้เข้าพัก?”(ถ้ามี)โดยไม่ตรวจสอบที่มาที่ไป?,ไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ”บุคคลน่าสงสัย?”ก็ควรถือว่า”ให้การสนับสนุน?”กับ”ขบวนการขอทาน?”ซึ่ง”ผิดกฎหมาย?”นี้ด้วย?..หรือไม่?(ซึ่งถ้าประชาชนทั่วไปฟังข่าวนี้,ก็ต้องอนุมานว่า..”น่าจะต้องมีส่วนด้วยกัน?”อยู่แล้ว?,และ”ผู้มีหน้าที่ทางกฎหมาย”ควรต้อง”ติดตามตัวมาสอบสวน?”,และ”ออกหมายค้นบ้าน,ที่พัก?”ของ”ผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด?”ด้วย?,อย่างน้อย,ก็ควรให้ประชาชนได้ร่วมรับรู้ว่า..ที่คุณให้เงินเขานั่นน่ะ,เขามีเงินเก็บในบ้านของเขาอยู่เป็นจำนวนเท่าไหร่?(ซึ่งอาจมี”เงินสะสม?”มากกว่า”เงินเก็บของผู้ให้ทาน?”นั้นเสียด้วยซ้ำไป?..ก็เป็นได้?),และรวมทั้งมีการ”โอนเงินในบัญชี?”ไปแล้วเท่าไหร่?..เป็นต้น..


โดย: สมจิต IP: 27.145.114.244 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2566 เวลา:7:59:46 น.  

 
(B)4.ควรมี”รถออกประกาศ,ประชาสัมพันธ์”ในที่มีคนพลุกพล่าน,ที่”ขอทานกลุ่มนี้?”มักไป”นั่งขอเงิน?”.. ว่า..ขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณ,อย่าให้”ความเมตตาของท่าน”กลายเป็นไปสนับสนุน”การกระทำที่ผิดกฎหมายการขอทาน?”ของ”ขอทานเหล่านี้?”,ที่อาจอยู่ใน”ขบวนการค้ามนุษย์?”(สันนิษฐานนะ?)ก็เป็นได้?..
5.ไม่ว่า”ศาสนาใดๆ?”ก็ไม่เคยส่งเสริมให้”คนเกียจคร้าน,ไม่ทำการงานใดๆ,งอมืองอเท้า”,เอาแต่รอคอย”ความเมตตาจากผู้อื่น”แต่อย่างใดเลย?..(ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่า..”คนกลุ่มนี้?”ได้มี”หลักศาสนาใด?”ไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจหรือไม่?)..
6.”การขอทานใดๆ?”ที่ทำเป็น”ขบวนการ?”,มีการ”ชักชวนกันมาเป็นกลุ่ม?”,มี”หัวหน้าทีม?”หรือ”คนคุมเกมส์?”อยู่”เบื้องหลัง?”ถือเป็นการ”ทำลายการท่องเที่ยว?”อย่าง
หนึ่ง?.. ทำให้”ผู้ท่องเที่ยว”ที่เห็น”คนขอทาน”เยอะๆ,ก็อาจอารมณ์บ่จอย?,งานกร่อย?,อาจไม่อยากมาท่องเที่ยวในประเทศไทยอีกเลย?..ก็เป็นได้ครับ..


โดย: สมจิต IP: 27.145.114.22 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2566 เวลา:8:52:25 น.  

 
(C)7.ถ้าเตือนด้วย”รถประกาศ”แล้วยังไม่ได้ผล.. ยังมีคนที่ยังชอบให้เงินกับ”คนขอทานกลุ่มนี้?”อีก,ก็อาจใช้”แผนเผด็จศึก?”เสียเลย?.. ความเห็นส่วนตัวนะ(ตี๊ต่างว่าเราเป็นผู้ดูแลสังคมนะ).. เราก็จะผลักดัน”กฎหมาย”ที่ให้เอาผิดเป็น”เงินค่าปรับ”(อาจ500บาทขึ้นไป?)กับ”ผู้ที่ให้เงินกับขอทาน”(ถือว่าเป็น”ผู้ให้การสนับสนุนคนทำผิด?”ด้วย).. ถ้าทำได้เช่นนี้(ซึ่งเป็นการคิดแบบ”ซ้อนกล?,สวนกระแส?”,ซี่งเรามี”ทัศนะการดูแลสังคม”แบบนี้นะ).. เราก็จะได้ไม่ต้องไป”เสียเวลา,เสียงบประมาณ?”กับการ”ไล่กวดจับ?”กับ”ขบวนการขอทานข้ามชาติ?”ให้เหนื่อยยากมากเกินไป?,ซึ่งถ้ายังมีการ”นิยมให้เงินกับขอทาน?”ที่อาจมีการ”จงใจ?”(หรือยินยอมให้ผู้อื่น)ทำ”ตัวเองให้พิการ?”,หรืออาจมีการ”ตกแต่งผิวหนังแบบนักแสดงหนัง,ละครบางส่วน?”(หรือไม่?)ด้วยก็ได้?.. คือมี”ทัศนะหนึ่ง”ทาง”รัฐ(ยุทธ)ศาสตร์ปกครอง?”คือ”จับผู้ให้ด้วย?”..(โดยอาจใช้”นอกเครื่องแบบ”ไปยืนคุมเชิงอยู่ห่างๆ,พอมีผู้ควักเงินให้ก็เข้าไปจับเลย,และทีสำคัญคือต้อง”สื่อสารคลิปการจับกุมผู้ให้เงินขอทาน?”ไปให้ทั่ว”โลกโซเชี่ยล?”,แบบนี้ก็คงไม่มีใครกล้าให้เงินกับ”ขบวนการขอทานเหล่านี้?”อีกต่อไป?..เราคิดแบบนี้นะ).. เช่นเดียวกับที่มี”บางประเทศในสแกนดิเนเวีย”(เท่าที่เคยได้ยินได้ฟังมานะ).. ที่เขาจะมี”กล้องวงจรปิด”ติดอยู่แทบทุกที่,ถ้ามีภาพว่าใครไป”ซื้อประเวณีกับหญิง?”ที่แสดงตัว”ให้บริการทางเพศ?”กับ”ชายกลัดมัน?”ใน”สถานที่ต่างๆ?”,เขาก็จะมุ่งจับ”ชายผู้ซื้อประเวณี?”ก่อนเป็นเบื้องต้น?.. ซึ่งนานไป,นานไป,เมื่อหญิงไม่มีชายกล้ามาซื้อบริการ,เขาก็จะต้องหลบหายไปเอง?..ประมาณนี้.. หรือ”ขบวนการขอทานต่างๆ?”ก็น่าจะใช้วีธีการในทำนองเดียวกัน?.. ถ้า”จับ,ปรับคนให้?”(เป็นหลักก่อน)ด้วย?..(แล้วเผยแพร่ภาพผ่าน”สื่อมวลชน”ให้ทั่วๆ),เมื่อไม่มีคนให้เงินขอทาน,ขอทานก็ไม่มีรายได้,ก็ย่อมหายสูญไปหมด,ไม่กล้า(หรือไม่อยาก)”พาพวกพ้องข้ามประเทศ?”วนเวียนเข้ามาหากิน”ขอทานในไทย?”อีกต่อไป?.. ท่านเห็นด้วยมั้ยล่ะ?.. ...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.113.8 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2566 เวลา:8:58:29 น.  

 
(a)ได้ชมรายการ”ประจักษ์จับประเด็น,21-11-66”แล้ว.. มี”ข้อเสนอแนะ”ดังนี้ครับ..
1.ถ้าเราทั้งหลายอยากให้”สังคมดี,มีธรรมาภิบาล,โปร่งใสในทุกมิติ”.. ผู้มีส่วนทั้ง”ภาคราชการ,รัฐวิสาหกิจต่างๆและประชาชน”ต้องช่วยกันนำเสนอว่า.. “ข้อมูลข่าวสาร”,รวมทั้ง”วิธีการทำงาน,รายงาน”(คลิปหรือเทป)ของ”การประชุมต่างๆ”ของทั้ง”ภาคราชการ,และรัฐวิสาหกิจ”(อาจรวมทั้ง”บริษัทที่ทำสื่อต่างๆ”ด้วย),ควรต้องมี”ระเบียบ,กฎหมาย”ที่ชัดเจน,เคร่งครัด,ที่จะต้องให้มีการ”เปิดเผยได้”,ทั้งต้องให้มี”แผนกประชาสัมพันธ์”ใน”ทุกๆหน่วยงานในสังกัด”ที่ต้องทำตาม”ระเบียบ”ที่ต้องนำเสนอ,หรือประกาศให้”ประชาชนได้รับรู้”ผ่าน”ระบบสื่อมวลชนต่างๆ”ได้ในทุกเรื่อง..


โดย: สมจิต IP: 27.145.114.160 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2566 เวลา:13:32:41 น.  

 
(b)2.และบางส่วนที่ไม่สำคัญนัก,ถ้ามีประชาชนอยากรู้และมาติดต่อขอทราบ,ก็ให้สามารถเปิดเผยได้ทุกเรื่องเช่นเดียวกัน,(เพราะมี”หลักคิด”ว่า..ใน”ที่แจ้ง,ที่เปิดเผย”,หรือ”ของที่เป็นสารอินทรีย์ที่เปื่อยได้”,เมื่ออยู่ใน”ที่โล่งแจ้ง,มีแดดส่อง,มีลมพัด”ก็ย่อมจะเน่าน้อยลง,กลิ่นเน่าน้อยลงและแห้งไปโดยไร้”เชื้อจุลินทรีย์และเชื้อรา”ได้ในที่สุด).. เพราะ”ที่ที่มีการปกปิดเป็นความลับ”ถ้ายิ่งมีอยู่มากเท่าไหร่?,ก็จะยิ่งเอื้อให้เกิดการ”ทุจริต,คอร์รัปชั่น”ด้วย”วิธีซิกแซ็ก,ไม่ตรงไปตรงมา,มีนอกมีใน”,และมีการ”เอื้อประโยชน์”ให้กับ”บางกลุ่ม,บางฝ่าย”ที่อยู่ใน”ทางการเมืองหรือทางธุรกิจ”,ที่”ผู้ที่มีตำแหน่งทางราชการบางส่วน”(ซึ่งมี”อำนาจในการอนุมัติ”ใน”โครงการต่างๆ”)มี”ประโยชน์เชื่อมกับเขา”แบบลับๆ(แค่เพียงติดต่อ”ฮั้วประโยชน์กัน”ทาง”มือถือ”,ก็สามารถทำได้โดยไม่ยากแล้ว)ได้มากยิ่งขึ้นตามไปด้วย..เท่านั้น..


โดย: สมจิต IP: 27.145.114.160 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2566 เวลา:13:36:01 น.  

 
(c)3.แม้จะอ้างว่าเป็น”ข้อมูลลับ”ที่เกี่ยวกับ”ความมั่นคงทางอธิปไตยต่างๆ”ก็ต้องให้มี”ข้อยกเว้นที่ไม่ต้องเปิดเผย”ให้น้อยที่สุด..และต้องกำหนดว่า..แม้”ข้อมูล”ที่เป็น”ความลับพิเศษ”ก็ต้องอนุญาตให้มี”คณะผู้ทรงคุณวุฒิ”ที่มีคุณสมบัติที่”เชื่อถือ,วางใจได้”โดยเฉพาะ,และเป็นที่”ยอมรับ,เชื่อถือจากประชาชน”เป็นที่ประจักษ์ว่า..เป็น”บุคคลที่ตรงไปตรงมา”อย่างยิ่งยวดมาโดยตลอด,สามารถ”รวมกลุ่ม”(หรือมี”การจัดตั้งทางกฎหมาย”)เพื่อรับมอบ”ภาระจากประชาชนโดยรวม”,เพื่อให้ไป”สอบถามข้อมูลเหล่านั้น”แทน”ภาคประชาชน”,เพื่อ”ความโปร่งใส(และไม่ต้องนำมาเปิดเผยกับสาธารณะ)ได้ด้วยเช่นเดียวกัน..
4.สรุปว่า..ทุกมิติที่อาจ”สุ่มเสี่ยงต่อการทุจริต,ประพฤติมิชอบต่างๆ”ของ”สังคมไทย”,ต้องให้ประชาชนสามารถเข้าไป”ขอข้อมูล”เพื่อ”ตรวจสอบความถูกต้อง”ได้ทั้งหมด,โดยแทบไม่มีข้อยกเว้นเลย..ประมาณนั้นครับ.. ...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.114.160 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2566 เวลา:13:40:45 น.  

 
(A)ได้ชมรายการ”เข้มข่าวค่ำPPTV,22-11-66”ช่วง”จับแก๊งนักเรียนรุนแรง”แล้ว.. มี”ข้อเสนอแนะ”ดังนี้ครับ..
เราเคยไปที่”โรงพยาบาล”หรือ”คลินิกแพทย์ต่างๆ”,มักจะพบว่า..มีการปิดประกาศ”สิทธิของผู้ป่วย”อยู่เสมอ.. เราจึงมี”แนวคิดส่วนตัว”เพื่อประสงค์ช่วยคิด”แก้ไขปัญหาของสังคม”ว่า..
1.ควรออก”กฎระเบียบหรือกฎกระทรวง”ขอให้”แต่ละโรงเรียน”ติด”ป้ายประกาศสิทธิ”ของ”ผู้ที่จะสมัครเข้าเรียนหรือสมัครสอบ”ที่มีเนื้อหาบอก”ประวัติของโรงเรียน”ว่า..เคยมี”ความขัดแย้งรุนแรง?”กับ”สถาบันโรงเรียนที่อยู่ใกล้เคียง?”มาแล้วกี่ครั้ง?,มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง?.. เพื่อให้”ผู้ที่ต้องการสมัครสอบหรือสมัครเรียน”ได้รับรู้เป็นเบื้องต้นว่า..เมื่อได้รับรู้”ประวัติต่างๆของความรุนแรงระหว่างสถาบัน”ของ”โรงเรียนที่ตนต้องการสมัครสอบหรือสมัครเข้าเรียน”แล้ว,จะยังยินดี”สมัครสอบหรือสมัครเข้าเรียน”เช่นเดิมอีกหรือไม่?(คือให้แล้วแต่”ความสมัครใจ”..ว่างั้นเถอะ)..


โดย: สมจิต IP: 27.145.114.90 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2566 เวลา:21:03:56 น.  

 
(B)2.”วิธีที่2”ก็คือถ้ามี”เด็กนักเรียนโรงเรียนใด?”ยังมีปัญหาเรื่อง”ความรุนแรงต่อสถาบันอื่น?”(รวมถึงเรื่อง”การรับน้องใหม่?”ที่มีกรณีที่”ละเมิดต่อสิทธิส่วนบุคคล?”ของ”น้องใหม่?”ด้วย”วีธีพิลึกพิลั่นต่างๆ?”,ที่มีผลจนทำให้”บาดเจ็บ,พิการหรือเสียชีวิต?”..นั้นก็ด้วย).. ก็ให้”ครูหรืออาจารย์ฝ่ายปกครอง”เป็น”ผู้รับผิดชอบ”(โดยตรง),โดยจะ”สั่งย้าย?”หรืออาจ”ปลดออก?,ไล่ออก?”ก็แล้วแต่กรณีว่า..”ครูท่านใด?”ได้ให้การดูแล”นักเรียนในปกครองของตัวเอง”ในระดับไหน?(ได้ดีแค่ไหน?).. ประมาณนี้ครับ..
3.หรือ”อีกวิธี”โดยใช้”การแก้ปัญหา”แบบ”ขุดราก,ถอนโคน?”ไปเลย.. ก็คือ.. เช่น..”ประกาศยุบโรงเรียนหรือสถาบัน”ที่มี”ปัญหาของความรุนแรงอยู่เป็นประจำ”นั้นไปเลย..(โดยอาจเริ่มดำเนินการเพื่อ”ออกกฎหมาย”มาใช้บังคับโดยเร่งด่วน.. คือนับตั้งแต่บัดนี้ไปเลย)..แล้วปัญหาเรื่อง”คู่กรรมต่างสถาบัน?”ก็จะได้หมดลงไปอย่างเด็ดขาดในทันที(ที่กฎหมายผ่านสภา).. ...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.114.90 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2566 เวลา:21:07:00 น.  

 
(A)ได้ชมรายการ”เรื่องเล่าฯ,24-11-66”ช่วง”คนห่มเหลืองให้ฆราวาสสักยันต์ให้”แล้ว.. มี”ข้อเสนอแนะ”ดังนี้ครับ..
1.อย่างถ้ามีการ”สักอะไร?”ที่เป็นเช่น..”ตำนานหนุมาน?”หรือ”รูปลักษณ์คล้ายนิยายรามเกียรติ์?”(ซึ่งจริงๆคือเป็นเรื่องที่มีการ”จินตนาการ,หรือแต่งเรื่อง”ขึ้นมาเท่านั้น,ไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด?).. ถามว่าเวลาผู้ต้องการให้”อาจารย์สัก”สักให้,”ตัวผู้ที่ถูกสักยันต์”เขาย่อมจะต้องพอรู้ว่า..”ตำนานเหล่านี้”คืออย่างไร?..ใช่หรือไม่?.. คือคงไม่ใช่แบบไม่รู้”ประวัติของรูปที่จะให้สัก?”ใดๆมาก่อน?( =”ไม่รู้อิโหน่อิเหน่?”ใดๆ)เลย(?)..ใช่หรือไม่?..
2.ยกตัวอย่างนะ.. ถ้าลองสมมุติๆว่า..ลองทำให้"ผู้อาสาทดลอง"ไม่มีสติเต็ม100(คิดแบบใช้”เทคนิคการทดลองทางวิทยาศาสตร์”นะ),แล้ว”สักรูปบางอย่าง”ให้จนเสร็จ,แล้วปลุกให้มีสติขึ้นมา,แต่ยังไม่ให้รู้เห็น”รูปที่ถูกสักให้”ว่าเป็นรูปอะไร?ใดๆเลย.. คือสรุปว่า..พยายามไม่ให้”เกิดอุปาทานในจิตลึกๆ”มาครอบงำตัวเขาใดๆเลย.. ถามว่าแล้วเขาจะมี”อาการออกฤทธิ์ออกเดช?”ตาม”รูปที่ถูกสัก?”นั้นหรือไม่?..


โดย: สมจิต IP: 27.145.113.102 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2566 เวลา:8:26:40 น.  

 
(B)3.อย่างการ”ออกท่าออกทาง”เหมือนลักษณะ”ลิงลม?”หรือ”หนุมาน?”ตาม”ภาพวาดจินตนาการ?”สารพัดนั้น?.. ถามว่า..”คนไทยเอง”(หรือแม้แต่”ชาวต่างชาติบางคน”ที่นิยมในเรื่อง”การสักยันต์?”ด้วยก็ตาม)เพื่อให้รู้สึกตนเอง”มีฤทธิ์เดชต่างๆ?”นั้น?,จะมีใครบ้าง?ที่ไม่มีภาพนึกเรื่อง”ท่าทางออกฤทธิ์ออกเดช?”ของเรื่อง”ลิงลม?”หรือ”หนุมาน,พญาวานร?”มาก่อนบ้าง?.. ส่วนตัวเราเชื่อว่า..”แต่ละคน”ล้วนแต่มี”ความทรงจำฝังลึก?”เรื่อง”อาการ,บุคลิกของลิงลม?,หรือหนุมาน?”มาก่อนกันแทบทั้งนั้น?.. ใช่หรือไม่?..(เรื่อง”การสักยันต์?”แล้วมี”อาการออกฤทธิ์ออกเดช?”นั้น,อยากเชิญให้”อ.เจษ,จิตแพทย์,พระที่อยู่ในศีล”ควรได้ออกมาวิเคราะห์,และแสดงทัศนะบ้าง,เพื่อให้สังคมไทยควร”ตาสว่าง?”กันได้แล้ว)..


โดย: สมจิต IP: 27.145.113.52 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2566 เวลา:8:47:15 น.  

 
(C)4.และอยากขอให้”สำนักพุทธ,กระทรวงพม.,กระทรวงศึกษา”ได้ออกมาทบทวนเรื่อง”กฎหมาย”ว่า.. ควรให้มีหรือควรยกเลิก(ห้าม)”สำนักสักยันต์”(บางส่วน)ที่เน้นไปในเรื่อง”ฤทธิ์เดช?”,ที่มีลักษณะของการ”ขุดหรือกระตุ้น?”เอา”อุปาทานของมนุษย์?”(หรือรวมทั้งเทคนิค”อุปาทานหมู่?”หรือ”จิตวิทยาสะกดจิตหมู่?”,โดยใช้”บริบทความศรัทธา?”ในตัว”ครูอาจารย์ผู้สักยันต์?”)มาใช้เป็น”ประโยชน์ทางธุรกิจของตนเอง?”(ที่มักมีการแอบแฝงใช้”ภาษาคาถาต่างชาติ?”รวมทั้ง”บาลี,สันสกฤษ?”ที่ปกติคนทั่วไปฟังไม่รู้เรื่อง,ทำให้ง่ายต่อการ”สร้างอุปาทานในจิต?”ของ”ผู้รับการสักยันต์นั้นๆ?”มากยิ่งขึ้น?),รวมทั้งอาจมีเรื่องของการใช้”พระพุทธรูปของพุทธ?”,และการ”สวดเริ่มต้น?”,ที่มักใช้”บทสวดของพุทธศาสนา?”(ซึ่งผิดเรื่อง”มหาศีล”ด้วย),เอามาใช้เป็น”บริบทสร้างภาพ?”ให้ดู”ขลังยิ่งขึ้น?”มาร่วมด้วย?(เพื่อเพิ่ม”ความศรัทธา?”ให้มากยิ่งขึ้น?)ต่อไปอีกหรือไม่?.. ...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.113.52 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2566 เวลา:8:51:44 น.  

 
(a)ได้ชมรายการ”ทุบโต๊ะข่าว,24-11-66”ช่วง”ทลายแก๊งอาชญากรรมขนาดเล็ก”แล้ว.. มี”ข้ออุทาหรณ์”ดังนี้ครับ..
สังเกตว่า..สังคมไทยทั้งๆที่เป็น”สังคมเมืองพุทธ”,แต่นับวันคนยิ่งห่างไกล”หลักศาสนาพุทธ”(ซึ่งสอนเรื่อง”บาปบุญคุณโทษ”),คือยิ่งกลับไม่เชื่อ”เรื่องกรรมหรือวิบากกรรม”,เพราะมองว่า..เป็นเรื่อง”นามธรรมที่พิสูจน์ยาก”.. แต่ส่วนตัวเรา,เราเคยเรียนเรื่อง”กรรม,วิบากกรรม”กับ”บางสำนักพุทธ”(สายสีกรัก)มาก่อน,เราจึงมี”หลักคิดส่วนตัว”ในเรื่อง”กรรม,วิบากกรรม”ที่เกิดจากการสังเกตใน”ประสบการณ์ของตัวเอง”(เป็นการสังเกต,วิเคราะห์ส่วนตัวเท่านั้นครับ)ดังนี้.. 1.อดีตตั้งแต่เด็กมาเลย,เราเคยชอบกิน”ปิ้งปีกไก่”(เทียบได้กับ”แขนไก่”,ซึ่งแม่ค้าจะตัดแยกตั้งแต่ประมาณช่วง”หัวไหล่ไก่”นั่นแหละ),ที่เขา”ปิ้งแห้งๆ,ไม่แฉะ”,มีกลิ่นหอมชวนกิน,จึงติดรสชาติมาก,ซื้อมากินเกือบทุกวัน(หรือบ่อยๆ)ในระยะเวลาเป็นสิบๆปีมา(แต่”ปิ้งขาไก่”,เราไม่ค่อยชอบนะ,ซึ่งก็ไม่ค่อยมีปัญหาเกี่ยวกับ”แข้งขาตัวเอง”สักเท่าไหร่..นั่นเอง),วันหนึ่งเมื่อราว7-8ปีก่อน,อยู่ไม่อยู่,ไม่มีเหตุใดๆ,ก็เกิด”หนองผุด”ขึ้นมาที่”หัวไหล่ด้านซ้าย”ที่อยู่ด้านหลังเอาดื้อๆ(ซึ่งเรามองว่าน่าจะเป็น”วิญญาณแขนหรือปีกไก่?”มาดลให้เป็น”โรคจากกรรมวิบาก”เป็นแน่?),เพราะ”หนองเป็นหลุมลึก”,จึงต้องไปหาหมอ,หมอก็ดูแล,และให้ไปล้างแผลที่รพ.ทุกวัน,และเปลี่ยนสำลีที่ยัดเข้าไปในรู,และปิดผ้าพลาสเตอร์ให้,หลายวันกว่าแผลจะเริ่มแห้ง,แต่พอแผลสมานตัวกลับกลายเป็น”ไตแข็ง?”นูนขึ้นมาที่”จุดที่เคยเป็นหนอง”นั้น,พอมือลูบไปถูก”ไตแข็ง”นั้น,ก็จะรู้สึกรำคาญ,อยากไปผ่าออก,แต่ก็ดันเคยเป็น”เส้นเลือดหัวใจตีบ,ทำบอลลูนอยู่1เส้น”,จึงกังวลว่า..ถ้าผ่า,อาจมี”เกล็ดเลือดและเม็ดเลือดขาว”มาออ,มาคั่งที่บริเวณ”หัวไหล่”,ซึ่งใกล้จุดที่”เส้นเลือดเคยตีบ”มาก่อนนั้น,และอาจมีผลทำให้”เส้นเลือดเกิดตีบ"ขึ้นมาเพิ่ม”อีกจุดหรือจุดเดิม”ก็เป็นได้ ,ก็จึงยอม”ทนรำคาญเช่นนี้”อยู่ต่อไปจนถึงปัจจุบัน..


โดย: สมจิต IP: 27.145.114.204 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2566 เวลา:22:59:54 น.  

 
(ก.)ขอแทรก"ข้อคิด"ต่อ”เรื่องสำคัญที่กำลังเป็นข่าว”กันอย่างเอิกเกริกอยู่2-3ข่าวในช่วงนี้ก่อนนะ)..
“ข้อเสียของระบบอุปถัมภ์(?)”(หรือความเป็นคนที่รู้จักมักคุ้น,เคยสนิทสนม,หรือเคยมีนั่นมีนี่กันกับ”คนเป็นจำนวนมาก”มาก่อน)ซึ่ง”สังคมไทย”มักมีเรื่องทำนองนี้อยู่มากถึงมากที่สุด..ก็ว่าได้(?).. เราเคยศึกษาเรื่อง”การมีกิเลส”และ”การตัดกิเลส”ของ”พุทธศาสนา”มาก่อน.. เราแทบจะไม่อยากมี”คนรู้จักคุ้นเคยมากๆ”เลยนะ.. เพราะ”จริต,นิสัย,อารมณ์,การแสดงออก”ของ”จิตวิญญาณต่างๆ”นั้นมีหลากหลายรูปแบบ,และควบคุมได้ยากมาก(?).. ซึ่งเราแทบจะสรุปส่วนตัวเลยว่า..ไม่ว่ายุคไหนๆโดยเฉพาะยิ่งยุคนี้แล้ว,การรู้จักสนิทกับ”คนจำนวนมากๆ”ยิ่งเป็น”สิ่งที่ไม่ดี?”หรือ”อาจมีผลร้าย?”ต่อตัวของ”ผู้ที่มีตำแหน่งแห่งที่?”หรือ”มีอำนาจในหน้าที่การทำงาน?”เพื่อ”บริหารสั่งงาน,อนุญาต,อนุมัติในเรื่องต่างๆได้?”ไปกันใหญ่?..(เพราะอาจปฏิเสธ”การขอให้ช่วยเหลือนั่นนี่?”กับ”คนที่เคยคบคุ้นกันมาก่อน?”ที่”อาจโทรมาหา?,หรือ”มาหาเองเลย?”นั้นไม่ค่อยจะได้?..ประมาณนั้น).. เช่น..


โดย: สมจิต IP: 27.145.113.140 วันที่: 1 ธันวาคม 2566 เวลา:6:03:03 น.  

 
(ข.)ถ้า”เขา?”(ผู้ใดผู้หนึ่ง?)ถ้าไม่รู้จักคุณ(ที่มี”ตำแหน่งหน้าที่”ใน”การงานสำคัญ”)เลย.. แล้วเขาจะกล้ามาขอใน”เรื่องเทาๆ?”กับคุณโดย”ไม่มีปี่มีขลุ่ย?”(โดยใช้”สำนวนการพูด?”แบบคล้ายเคย”รู้จัก,คบหา,คุ้นเคย?”กันมาก่อน?)..ได้หรือไม่?..(ซึ่งมักมีคำถามแบบ”ป้องกันตัวเอง?”ประมาณว่า”ตอนนี้..คุณอยู่คนเดียวหรือเปล่า?”..ประมาณนั้น..เพื่อนำร่องไว้ก่อนเสมอ?)..
2.ยุคสมัยนี้..”โทรศัพท์”มีการ”บันทึกเสียง”ไว้ได้,ไม่ว่าจะเป็นจาก”ผู้โทรมา”หรือ”ผู้รับสายเอง”ก็ตาม.. ซึ่งอาจ(แอบ)”บันทึกไว้?”,เพื่อไว้ทวงถามเมื่อ”อีกฝ่ายไม่ทำตามคำพูดที่ตกลงกันไว้?”ก็ตาม,หรืออาจใช้เพื่อ”เล่นกลับ?”เมื่อถูก”อีกฝ่ายเล่นไม่ซื่อ?”มาก่อน?..ก็ตาม(?)..
3.”การโทรศัพท์”ที่”ติดต่อกันส่วนตัว?”,โดยอาจพูดเรื่อง”จะช่วยค่าใช้จ่ายนั่นนี่,กันเป็นน้ำหนักกิโลๆ?”,โดยไม่ยักพูดถึงว่า..”จะให้โอนไปยังชื่ออะไร?”,หรือจะให้ส่งเป็น”น้ำหนักสดๆ?”เลย?,ณ สถานที่แห่งใด?.. นั่นยิ่งเป็น”เครื่องชี้?”ว่า.. อาจเคยมี”การตกลงยื่นเป็ดพะโล้,ยื่นไก่อบฟาง?”กันมาแล้วหลายครั้ง?,หรืออย่างน้อยก็ต้อง(เคย)มีซัก1ครั้ง(มาก่อน)แน่ๆ?..หรือไม่?..ใช่หรือไม่?..


โดย: สมจิต IP: 124.122.17.104 วันที่: 1 ธันวาคม 2566 เวลา:6:31:17 น.  

 
(ค.)4.”ผู้มีหน้าที่”ที่มี”อำนาจสำคัญต่างๆ”ที่มักต้อง”ชี้แจงเรื่องราวต่างๆ”ต่อหน้า”สื่อมวลชนและประชาชน”,พึงต้องตระหนักว่า..”ประชาชนหรือสื่อมวลชน”นั้นเขาก็”กินปลา”(ที่มี”โอเมก้า3”)กันเยอะ,เขาอ่านคุณออกได้เสมอ(?),แต่ที่ไม่พูดอะไรต่อหน้าคุณ(?),ก็เพราะอาจกลัวคุณฟ้องเขา(?)..เท่านั้นเอง(?)..(ซึ่งถ้าคุณคิดจะอยากเข้ามา”ทำงานรับใช้ประชาชน?”หรือ”ทำงานภาครัฐ?”,คุณจะต้องพูดแบบ”ตรงไปตรงมา?”อย่างเดียวได้เท่านั้น(?),และควรต้อง”ชำระตน?”หรือ”ตรวจสอบตนเอง?”เมื่อ”ครั้งอดีต?”ให้”บริสุทธิ์?”เสียก่อนด้วย?.. หรืออย่างน้อย”คน(ปชช.)จำนวนมาก?”ก็อยู่กับ”คนด้วยกัน?”,คุ้นเคยกับ”อากัปกิริยา?”ของ”ผู้คนต่างๆ?”มาตั้งแต่เกิดอยู่แล้ว(?).. บางครั้ง..คุณอาจแถลง”ชี้แจงต่อสื่ออย่างหนึ่ง?”,แต่จับฟังดู”สำนวนการพูด,แววตา,สีหน้า,ท่าทาง?”แล้ว,เขา(หรือ”ประชาชนผู้ชมการชี้แจง?”)ก็อาจไปพูดกันเองว่า..”ดูท่าทางเชื่อไม่ค่อยได้?”,เขาอาจพูดกันทำนองว่า..อาจ”มีนั่น,มีนี่อะไรบางอย่าง?”ต่อ”บางบุคคล?”,เพราะ”เคยรู้จัก?”หรือเพราะอาจเพื่อไม่ให้”พาดพิง?”,จนทำให้”เรื่องลาม?,ขุดคุ้ย?”มาสู่”อะไรที่สีเทาๆ?”ของ”ตัวเอง?”(จึงต้องพูดเชิง”เบี่ยงเบน?,ยับยั้ง?”เรื่องราว?..ไว้ก่อน?)ด้วยก็เป็นได้?,จึงรีบชิงพูดเพื่อปกป้อง”คนที่อยู่ในหน้าที่ใกล้ๆกัน?”ไว้ก่อน?..ประมาณนั้น(?)..(ใช่หรือไม่?)..


โดย: สมจิต IP: 124.122.15.144 วันที่: 1 ธันวาคม 2566 เวลา:7:31:22 น.  

 
(ง.)เพราะในเชิง”จิตวิทยามนุษย์”นั้น.. การสังเกตว่า..”คนไหนเป็นคนซื่อตรง?,คนไหนเป็นคนบุคลิกมีนอก,ใน?”นั้น.. ก็โดยทั่วไป,คนทั่วๆไป,ก็พอที่จะมี”เซ้นซ์รับรู้ได้”ทาง”แววตา,สีหน้า,ท่าทาง,สำนวนคำพูด”พอสมควรอยู่แล้ว(?).. หรือเหมือนถ้าเราเดินผ่าน”คนที่มีอาการเมาหนักๆ?”,ก็น่าจะพอสัมผัสรู้ได้?..ใช่หรือไม่?..ก็ประมาณนั้น?..นั่นแหละ?.. ถึงแม้”ประชาชนทั่วไป”จะ”ไม่มีอำนาจ”หรือ”ไม่มีหลักฐาน”พอที่จะกล่าวหา”ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งหน้าที่”ก็ตาม,แต่ในเรื่องการสังหรณ์”เรื่องเซ้นซ์สัมผัส?”ว่า”ใครบริสุทธิ์?”หรือ”ใครไม่ตรงไปตรงมา,เหลี่ยมเยอะ?”,เขา(ปชช.+นักข่าว)ก็น่าจะพอจับสังเกตรู้ได้นะว่า”ใครเป็นอย่างไร?”เราว่า?.. ดังนั้น..ต้องคิดว่า..”ประชาชนหรือสื่อมวลชน”เขาก็กิน”ข้าวปลาอาหาร,มีสารอาหารเลี้ยงสมอง”เช่นเดียวกับเราเหมือนกัน(?).. ดังนั้น..”ประชาชนหรือสื่อมวลชน”เขาก็น่าจะ”รู้เท่าทัน?”ต่อ”ผู้ที่มีตำแหน่ง,หน้าที่การงานสำคัญ?”กันทั้งนั้นแหละ(?).. อยู่ที่ว่าเขาจะกล้าแสดงออกแค่ไหน?..เท่านั้น?.. ...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.15.238 วันที่: 1 ธันวาคม 2566 เวลา:8:02:57 น.  

 
(A)ได้ชมรายการ”Suthichailive,5-12-66”แล้ว.. มี”ข้อคิดเห็น”ดังนี้ครับ..
(อุทาหรณ์การ”ฝากปลาย่างกับแมวเหมียว?”ของ”สังคมไทย”)สังคมเราต้องคิดกันให้เป็นนะ(?).. ถ้าคุณคิดจะเอา”เจ้าแมวเหมียว?”(ที่อาจ”จับหนูเก่ง?”)ที่ว่างๆก็ชอบเข้ามาทำทีตีสนิท”ไซ้แข้งไซ้ขา?”ของคุณ(”วุ้ย..น่าเอ็นดู๊?”),แล้วคุณลองสั่งว่า”นี่..เหมียว..เฝ้าปลาย่างให้ดีๆนะ”.. ถ้าสมมุติ”คุณเหมียว”พูดได้,และพูดว่า”เหมียวจะเฝ้าปลาย่างไม่ให้มีรอยขูดขีดเลยแม้แต่นิดเดียวค่ะ”.. ถามว่า”คุณจะเชื่อคำพูดของเหมียวนี้ได้หรือไม่?”.. เพราะ”สัญชาตญาณ?”ของ”นักธุรกิจใดๆ?”ที่ทั้งชีวิตมุ่ง”แสวงหาคำตอบ?”ของคำว่า”กำไร-ขาดทุน?”(ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม?)จะสามารถสละ”สมองและหลักคิด?”ของ”ความเป็นนักธุรกิจ?”แล้วมา”ทำงานแบบเสียสละเปล่าๆ?”(เพื่อ”ช่วยเหลือสังคม?”)ได้ล่ะหรือ?.. เพราะ”สัญชาตญาณของแมว?”ซึ่งมี”คำพังเพย”ว่า”อย่าฝากแมวไว้กับปลาย่าง?”(โดยเด็ดขาด)นั้น.. คงเป็นจริงเสมอ”ตราบโลกแตก?”นั่นแหละ.. เพราะถ้าคุณขืนคิดจะฝืน”บริบทของธรรมชาติ?”.. เช่น.. คิดจะ”จับ(ดึง)แมวทางหาง?”,หรือ”เอาเชือกผูกหางแมวไว้?”, คุณจะเห็นมัน”ต่อสู้ดิ้นรนแบบไม่คิดชีวิต?”เลยล่ะ.. หรืออีกที..ถ้าคุณ”จับหางแมวไม่แน่น?”หรือ”ไม่มีวิธีป้องกันที่ดี?”, มันอาจ”สลัดหลุด?”และพุ่งกระโจนขึ้นมาบน”ตัวคุณ?”จนถึง”ใบหน้าและศีรษะของคุณ?”ด้วย”เล็บคมๆของมัน?”จนคุณอาจถึงกับมี”รอยขีดข่วนจากเล็บแมว?”ไปทั้งตัวได้เลยเชียวแหละ(?).. ...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.15.250 วันที่: 5 ธันวาคม 2566 เวลา:15:12:26 น.  

 
“ประเด็น”ที่”นักแฉ”(บางส่วน)ต้องตื่นตัวกันให้มากนะ..คือ.. สิ่งที่”นักการเมือง”(บางส่วน)และ”นักแฉ”(บางส่วน)ต้องตระหนักว่า.. เมื่อจะทำ,จะพูดอะไรก็ตาม?..ก็คือ”ดิจิตอลฟุตปริ้นซ์”ซึ่งอาจทำให้ท่าน”ดิ้นไม่หลุด?”.. ดังนั้น..ต้องเปลี่ยนทัศนะให้เป็น”คนพูดตรงไปตรงมา”เสมอ(?),เพราะถ้า”พูดความจริงเสมอ?”,จะได้ไม่ต้องคอยกังวล?,จะพูดกี่ครั้งก็จะเหมือนกันทุกครั้ง?,เวลาจะพูดจะได้ไม่ต้องคิดนาน?,เพราะธรรมชาติ..เรามักไม่จำสิ่งที่เราได้โกหกใครไปแล้ว?,แต่ถ้าเราเคยพูดโกหกอะไรกับใครไป?,เวลาเราจะพูดเรื่องนั้นอีกครั้ง?,เราจะตะกุกตะกัก?,และตอบคำถามได้ช้าลง?,เพราะมามัวนึกว่า..ครั้งก่อนเคยโกหกว่าอย่างไรไปแล้วนะ?,ก็จะต้องพยายามพูดให้เหมือนเดิม?,เดี๋ยวถ้าพูดครั้งนี้ไม่ตรงกับครั้งที่แล้ว?,ก็จะถูกจับโกหกได้?,และรวมทั้ง”การตอบคำถาม?”แบบ”ไม่กล้าสบตากับผู้สื่อข่าว?”,หรือไม่กล้า”มองกล้องตรงๆ?”อีกด้วย?..
ดังนั้น..ประเด็นไม่ได้สำคัญอยู่ตรงคำว่า”....เถื่อน?”หรือ”....ไม่เถื่อน?”.. แต่”ประเด็นที่สังคมและนักข่าวสนใจ?”คือ..
1.มีพูดว่า..”อยู่คนเดียวหรือเปล่า?”..
2.ค่าบริหารจัดการที่เป็นกิโล?..
3.มีย้ำ..”ให้ปล่อยตู้ใช่มั้ย?..ปล่อยตู้....ตู้,ให้....โลนะ?”..
4.มีพูดว่า..”เรื่องนี้เรารู้กัน...คนนะ?,ไม่ต้องไปเล่าให้ใครฟังก่อนนะ?”..
5.ถ้าเป็นเรื่องที่”ถูกกฎหมาย?”.. น่าจะไป”พูดติดต่อกัน?”อย่าง”เปิดเผย?”,แบบ”มีคนกลาง?”(เช่น.. “เจ้าหน้าที่รัฐ?”)ร่วมเป็น”พยานบุคคล?”ร่วม”รับรู้,รับเห็น?”(โดยไม่ต้องกลัวว่า..จะมีการ”แอบบันทึกเสียง?”ทาง”โทรศัพท์”?หรือไม่?),เพราะไม่มี”ความลับที่ต้องปกปิด?”อยู่แล้ว?..ใช่หรือไม่?..
6.ถ้าเป็นเรื่องตรงไปตรงมา.. แล้ว"อัดคลิป,ปล่อยคลิป?"..เพื่อ...?..
...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.15.250 วันที่: 5 ธันวาคม 2566 เวลา:16:34:53 น.  

 
(A)วันนี้ได้ดูข่าวเกี่ยวกับ”เซเล่บ”(บางท่าน)ถูกสามีนอกใจ.. จึงมี”ความคิดเห็น”ให้กับสังคมดังนี้..
“สังคมไทย”ควรพิจารณาเรื่อง”การตั้งชื่อ”(โดยเฉพาะ”ชื่อเล่น”),และการ”มีศีลธรรมในบ้านเมือง”ให้ดีๆ.. “สังคมเรา”(รวมทั้ง”ผู้ใหญ่ๆทั้งหลาย”),เรามักไม่คำนึงถึง”เรื่องชื่อ”กันสักเท่าไหร่?.. เช่น..อย่างถ้าเป็นเราเป็น”ผู้ดูแลสังคม”นะ.. อย่างเช่น..
1.ถ้าเคยมี”ข่าวดังอื้อฉาว”และมี”หนังบางเรื่อง”ที่นำเสนอ”คดีรุมข่มขืนโทรมหญิง”(ที่เป็น”เรื่องราวที่ควรถูกประณาม”)โดยใช้”ชื่อหนัง”เป็นชื่อของ”ท้องถิ่นหนึ่ง”ในประเทศไทย,ที่เป็นที่ที่เกิด”เหตุการณ์ดังกล่าว”,เราก็จะ”ระงับการฉายหนังเรื่องนั้น”ทันที,เพราะมองว่าอาจ”ชี้นำสังคม?”ไปในทางที่”ผิดศีลธรรมทางเพศ?”เพื่อมุ่งหวัง”ผลกำไร?”ใน”ทางธุรกิจ?”เท่านั้น?..หรือไม่?.. และจะจัดการเปลี่ยน”ชื่อท้องถิ่นนั้น”ทันที.. แต่เราเห็นว่า”ผู้ใหญ่ๆ?”ใน”สังคมไทย”แทบไม่มีใครแสดง”ความเดือดร้อน”หรือเสนอ”การแก้ไขชื่อเหล่านี้?”แต่อย่างใดเลย?..


โดย: สมจิต IP: 27.145.113.234 วันที่: 5 ธันวาคม 2566 เวลา:20:22:17 น.  

 
(B)2.หรือแม้แต่การมีชื่อของ”สถานท่องเที่ยวบางแห่ง”ที่มีชื่อ”....ตา,.....ยาย”,ที่ฟังดูแล้วกลายเป็นไปนำเสนอเรื่องที่ชวนให้ไปนึกถึงเรื่อง”อวัยวะเพศของชายและหญิง?”,เราก็จะหาทางเปลี่ยนแปลงแก้ไข”ชื่อสถานที่นั้น?”ทันที,และหาทางไม่ทำให้”เรื่องราวทางเพศ?”กลายมาเป็น”จุดขายของสังคมไทย?”,เพราะเรามองว่า..อาจมีผลไปถึง”DNA”ของ”สายพันธุ์ของคนไทย?”ที่อาจ”กลายพันธุ์?”เป็น”เชื้อสาย?”ที่”กร้านต่อการทำเรื่องผิดศีลธรรม?”ในอนาคตอันยาวไกล?ได้ด้วย?.. เช่นนี้เป็นต้น..
3.เราเองยังเคยแนะนำ”เด็กหญิงคนหนึ่ง”(ที่”สำนักสีกรักแห่งหนึ่ง”)ที่มี”ชื่อเล่น”ที่มีความหมายของคำว่า”คู่ซ้อน,คบซ้อน”(ประมาณ=คำว่า”ชู้”)ว่าควรเปลี่ยน”ชื่อเล่นคำนี้”เป็น”คำอื่น”นะ.. เพราะเป็นคำที่คล้ายทำให้นึกถึงเรื่องที่”ผิดศีลธรรมทางเพศ?”(ดูไม่เป็น”มงคลกับชีวิต”,ซึ่งอาจก่อเกิด”ภัยทางเพศ?”ให้กับ”ตัวเอง”ได้ด้วยนะ?),แต่ไม่รู้ว่าเขาได้ไปแก้ไขหรือเปล่า?..


โดย: สมจิต IP: 171.97.112.102 วันที่: 5 ธันวาคม 2566 เวลา:20:48:25 น.  

 
(C)4.ส่วนตัวเราเชื่อ”เรื่องกรรม”(ของ”หลักศาสนาพุทธ”)ว่า..น่าจะ”มีผลต่อชีวิตของเรา”อยู่บ้างนะ(?).. เช่น.. เราเคยให้”ความเห็น”ทาง”FB.”(เพจหนึ่ง)ทำนองว่า.. ถ้ามีคนที่เป็น”คนที่ไม่ค่อยดี?”ก็ตาม,แต่ถ้าเขาไปเจอกับ”คนกินเจหรือนักมังสวิรัติ”,หรือ”ร้านอาหารเจ”,เขาจะอยากไป”ทำร้าย?”หรือ”จี้ปล้น?”หรือไม่?..(เพราะเราว่า”คนเรา”มักมี”จิตสำนึกที่ดี”ซ่อนอยู่ใน”จิตใจส่วนลึก”ของเขาอยู่เสมอ),แต่เรามักเห็นว่าหรือมักมีแนวโน้มตามข่าวว่า.. “คนที่ถูกทำร้าย”(ในหลายๆเหตุการณ์ตามข่าวต่างๆ)มักเป็นคนที่มี”วิถีชีวิต”ที่”ไม่ถูกหลักศีลธรรมของศาสนา?”ด้วย?..แทบทั้งนั้น(?).. เช่น.. “คนร้ายบางคน”มักไป”ปล้นหรือทำร้ายคนที่เลี้ยงวัว?”บ้าง?,หรือ”เลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง?”เป็นอาชีพบ้าง?,เพราะเขาอาจคิดว่า.. เอ็งก็ไม่ใช่”คนดี?”ซักเท่าไหร่?,เพราะก็ยังเอาเปรียบสัตว์อยู่เลย?.. ประมาณนี้เป็นต้น..หรือไม่?..
5.หรือคนที่มัก”ผิดศีลข้อ5”ที่ชอบ”สังสรรค์ดื่มสุราอยู่เป็นนิจ?”,หลายครั้งก็มักจะ”เจอเหตุร้ายกับตัวเอง?”,เพราะอาจเกิดจากความรู้สึกว่า..เขาก็ไม่ใช่”คนที่เป็นคนดิบดี?”อะไรนัก?..ประมาณนี้?..หรือไม่?..


โดย: สมจิต IP: 124.122.17.52 วันที่: 5 ธันวาคม 2566 เวลา:21:01:10 น.  

 
(D)5.ดังนั้น.. เรามักสังเกตว่า.. “ผู้ที่มีอาชีพร้อง,เต้น?”ที่มี”ร้อง?และเต้น?”ไปในเนื้อหาที่ไม่ส่งเสริม”จริยธรรมทางเพศ?”สักเท่าไหร่?,และ/หรือรวมทั้ง”ผู้ที่มี”ชื่อเล่น”ที่ทำให้”ผู้ได้ยิน”เขาแว็บไปนึกถึงเรื่องการมี”คู่ซ้อนหรือการคบซ้อน?”ดังกล่าวไปแล้วข้างต้น.. “หลายคู่,หลายคน?”มักจบลงด้วยการที่มีการ”แยกทางกับคู่ของตน?”ให้เห็นอยู่เสมอ(?).. ดังนี้เป็นต้น.. เพราะโดยมาก..”ผู้ชาย?”นั้น(ซึ่งเราก็เป็น”ผู้ชาย”เช่นกัน.. ซึ่งเราคิดว่า..”เราเข้าใจผู้ชาย?”ได้พอสมควร),ถ้าให้ได้”สัมพันธ์กับผู้หญิงชั่วครั้งชั่วคราว?”หรือ”วันไน้ท์สแตนด์?”(=”สัมพันธ์คืนเดียว?”),หรือ”ชั่วระยะเวลาหนึ่ง?”เพื่อ”เสพสุขทางเพศ?”นั้น,เขาย่อมยินดี,ถ้าเกิดจาก”ความยินยอม?”,และ”ไม่มีข้อผูกมัดใดๆ?”นะ?.. แต่พอเขาคิดว่า.. ถ้าจะให้เลือกที่จะเป็น”คู่ชีวิต?”ตลอดชีวิต?นั้น,เขามักจะต้องคิดมากขึ้น?.. เพราะ”คู่ต่างๆช่วงโปรโมท?”นั้น,”ชีวิตชีวา”ยัง”สด,ใหม่,ใสปิ๊ง?”,ก็มัก”อยู่กันดี,หวานชื่น?”กันทั้งนั้นแหละ(?),แต่พออยู่กันนานๆซักหน่อย,อาจเห็น”ข้อบกพร่องบางอย่าง?”เมื่ออยู่ร่วมกันขึ้นมา,เขา(ผู้ชายบางคน)ก็มัก”มีเหตุผลมาสมทบ?”ใน”ความคิดของตัวเอง?”ประมาณว่า.. นี่แหละ..ก็ดันเอาคนที่มีลักษณะคล้าย”กล้า,ก๋ากั่นทางเพศ?”มาเป็นแฟน?,แล้วจะหวังให้เป็น”หญิงที่มีคุณภาพทางความคิด?”และ”ทางศีลธรรมจรรยาที่สมบูรณ์?”ได้อย่างไร?.. และนี่แหละ..ย่อมเป็นเหตุสนับสนุนให้เขา(ผู้ชายบางคน)อาจอยากหาเรื่อง”นอกใจ?”ไปหาคบ”ผู้หญิงคนใหม่”..นั่นเอง(?)..
...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.112.88 วันที่: 5 ธันวาคม 2566 เวลา:21:33:14 น.  

 
(a)(ความเห็นส่วนตัว)..
“ข้อคิด,ข้อเตือนสติ,เตือนใจ”ใน”ยุคเทคโนโลยี่สื่อสารเฟื่องฟูและทันสมัย”..
1.ทั้ง”ประชาชน,นักร้องเรียน,นักการเมืองทุกๆท่าน”,ควรตระหนักให้ดีว่า.. ไม่ควรติดต่อกับ”เจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจหน้าที่”(ที่เป็นผู้”บังคับใช้กฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ”)หรือ”กระบวนการยธ.”เป็น”ส่วนตัว”(หรือ”ลับเฉพาะ”),โดยถือ”ความสะดวก”โดยใช้”โทรศัพท์”,เพราะ”โทรศัพท์แทบทุกระบบ,ทุกชนิด,ทุกเครือข่าย”(ในปัจจุบัน)ล้วนมี”เทคโนโลยี่อัดเสียงไว้ได้”,จนอาจเป็นเหตุให้นำมาใช้”แบล็คเมล์?,หักหลัง?,เรียกร้องค่าปิดปาก?”,ซึ่งอาจทำให้”เสียชื่อเสียง?”ได้ในภายหลัง(?),เมื่อเกิดการ”พลิกล็อค?,เปลี่ยนใจ?,ไม่สมประโยชน์?”,หรือ”ไม่เป็นไปตามที่ตกลงกัน?”,ซึ่งทำให้”แต่ละฝ่าย?”หรือ”บางฝ่าย?”เสียทั้ง”เครคิตหรือความน่าเชื่อถือ?”ได้ในภายหลังอีกด้วย(?)..


โดย: สมจิต IP: 171.97.112.10 วันที่: 7 ธันวาคม 2566 เวลา:12:23:39 น.  

 
(b)2.ถ้า”สิ่งที่ต้องการตกลงกัน?”นั้นเป็นเรื่องที่ปกติ,ไม่มีนอก,ใน?,ไม่มีเรื่อง”การติดสินบน?”.. ก็ควรติดต่อกันอย่างเปิดเผย,มี”พยานของแต่ละฝ่าย”ร่วมรับฟัง,หรือติดต่อขอให้”เจ้าหน้าที่ในกระบวนการยธ.”ร่วม”รับรู้,รับเห็น”ด้วยก็จะยิ่งดีมากครับ..
3.ถึงอย่างไร?.. ประชาชนต้องคิดว่า..ทำไมต้องพูดถึง”สิ่งที่จะจัดให้?”ด้วยคำว่า”กิโล?”,ถ้าเป็นเรื่องที่บริสุทธิ์,ควรพูดด้วยภาษาตรงๆ.. เช่น.. ขอค่า”วิชาชีพทนายความ?”กี่พัน?,กี่หมื่น?,กี่แสน?,กี่ล้าน?,ก็พูด”ตัวเลข?”กันไปตรงๆเป็น”เงินบาท?”ไปเลยน่าจะดีกว่าหรือไม่?,และยังไม่เป็น”ข้อพิรุธ?”ให้ประชาชนนึกระแวง,สงสัยอีกด้วย?.. ใช่หรือไม่?..
4.และประชาชนมักต้องนึกว่า.. ถ้า”แต่ละฝ่าย?”สามารถตกลงลับๆกันแล้ว?,เผอิญลงตัว?,เรียบร้อย?,ไม่มีเรื่อง?,เพราะ”สมประโยชน์กันทุกฝ่าย?”ไปแล้ว?,เรื่องต่างๆก็คงเงียบหายไปแบบ”คลื่นกระทบฝั่ง?”?,โดยอาจไม่มีใครสามารถล่วงรู้ถึง”ความไม่ชอบมาพากล?”หรือ”ความไม่ตรงไปตรงมา?”ของ”สังคมไทย”ได้เลย?..หรือไม่?..ใช่หรือไม่?..
...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.112.10 วันที่: 7 ธันวาคม 2566 เวลา:12:35:39 น.  

 
ได้ชมรายการ”เนชั่นทันข่าวค่ำ,1-12-66”แล้ว.. มี”ข้อคิดเห็น”ดังนี้ครับ..
เราได้ดู”ข่าวนักเรียนขอทุนกยศ.”ที่เป็น”มุสลิมและปิดแม้ซ”,ทำให้เกิด”จินตนาการ,แนวคิดส่วนตัว”ดังนี้..
“โลกทั้งผองล้วนพี่น้องกัน”,มาจาก”อีวาและอาดัม”เป็น”จุดเริ่มต้น”เมื่อครั้ง”พระเจ้าเริ่มต้นสร้างโลก”.. เราเคยศึกษาทั้ง”พุทธและคริสต์”มาก่อน.. เราเห็นว่า..จะเป็นไปได้มั้ย?..ถ้าจะมีการตั้ง”ศาสนารวม”ของ”คนทั้งโลก”,โดยดึงเอา”จุดดี,จุดเด่น”ของ”แต่ละศาสนาใหญ่ๆ”มาหลอมรวมกันเป็น”ศาสนาโลก”?.. เพราะ”ทุกศาสนา”ล้วนมี”จุดดีของตน”ที่แตกต่างจาก”ศาสนาอื่น”ทั้งนั้น.. เช่น..
1.เอาเรื่อง”เชื่อหลักกรรมและวิบากกรรม”และ”การบำเพ็ญลดละกิเลส”ของ”พุทธ”..
2.เอาเรื่องการมี”จิตสำนึก”ที่”รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”ของ”คริสต์”ที่มี”จุดเด่น”ในเรื่องการ”สงเคราะห์สังคม”,ช่วยเหลือ”ผู้ตกทุกข์ได้ยาก”เป็นหลัก(อย่างตัวอย่าง”แม่ชีเทเรซ่า”..เป็นต้น)..
3.เอาเรื่องของการ”คลุมฮิย้าบ”ของ”หญิงมุสลิม”(โดยเฉพาะเมื่อ”ปิดแม้ซ”ใน”ยุคโควิด”ด้วยแล้ว),ดูแล้วจะไม่มีลักษณะการ”ยั่วยวนทางเพศ”ใดๆเลย.. ซึ่งจะช่วยให้โลกเราลดการก่อ”อาชญากรรมทางเพศ”ลงไปได้มากด้วย..
ถามว่า..ถ้าเอา”หลัก3ข้อ”ของ”3ศาสนา”มาผูกรวมกัน.. น่าจะช่วยให้โลกนี้ร่มเย็นลงมากกว่านี้หรือไม่?..ใช่หรือไม่?..
...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.154 วันที่: 10 ธันวาคม 2566 เวลา:19:28:12 น.  

 
(A)วันนี้ได้ชมรายการ”ข่าวช่อง8,11-12-66”ช่วง”นักมวยดังกับสาว17”แล้ว.. มี”ข้อคิดเห็น”ดังนี้ครับ..
สังคมไทยน่าเป็นห่วง.. บอกว่าเป็น”พุทธ95%”(แต่ไม่เคร่งศาสนาเท่า”ชาวมุสลิม”).. “กระดุมเม็ดแรกที่ติดผิด”ก็คือ.. การปล่อยให้มีการจำหน่าย”แอลกอฮอล์”แบบค่อนข้างอิสระ(ซึ่งเป็น”เครื่องดื่ม”ที่ทำให้”สติคุ้มครองตนเอง”ลดลง,การ”ตัดสินผิดถูก”จะถูก”ทำให้เบลอ”,มีความ”กล้าและคะนอง”มากกว่าปกติ)..
ถ้าจะบอกว่า..เอ้า..”ประเทศฝรั่ง”เขาก็มี”ดื่มสุรา”กันเหมือนกัน.. แต่เราต้องอย่าลืมว่า..”พื้นฐานของคนฝรั่ง”นั้น,”ระเบียบบ้านเมือง”เขาสอนให้ประชากรของเขา”มีวินัย”ไงล่ะ.. เช่น.. ถ้าเมาแล้วจะไม่ขับรถเอง..เป็นต้น..
ดังนั้น.. สำหรับ”สังคมไทย”,เมื่อ”สติไม่เต็มที่”ก็ง่ายที่จะ”กล้าทำความผิดต่างๆ”ตามมา.. อยากบอกว่า..ถ้าเอาจริงๆนะ.. ช่วยรณรงค์ให้”สังคมไทยไร้แอลกอฮอล์”[ไม่ใช่มีแต่คำขวัญว่า”งดเหล้าเข้าพรรษา”หรือ”ให้เหล้าเท่ากับแช่ง”เท่านั้น,ซึ่งไม่สู้จะเป็นประโยชน์เท่าใดนัก(?)..ใช่หรือไม่?]..
เพราะ”อาชญากรรมต่างๆ”มักมี”จุดเริ่มต้น”ที่การ”สังสรรค์ดื่มสุรา(?)”กันก่อนเสมอ,อะไรทำให้”คนไทย”ชอบทำลาย”สติสัมปชัญญะของตัวเอง”,จะสังเกตว่า..”คนเชื้อสายจีนในไทย”,เราไม่ค่อยเห็นเขา”ติดการดื่มสุรา?”กันซักเท่าไหร่นะ?,เราว่า?..
ส่วน”คนขาย”เขาก็โทษ”คนกิน”,เขาบอกว่า..ถ้า”คนไทยไม่กินสุรา”,เมื่อ”โรงงานผลิตสุราออกมา”แล้ว”จำหน่ายไม่ได้”ก็ต้องเลิกผลิตไปเอง..ประมาณนั้น..


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.182 วันที่: 12 ธันวาคม 2566 เวลา:0:17:14 น.  

 
(B)แล้วก็อยากถามว่า.. การ”เที่ยวเตร่,ไน้ท์คลับ,ผับ,บาร์,คาราโอเกะ,ฯลฯ”นั้น?.. “ผู้ใหญ่ๆทั้งหลายในสังคม”ท่านไม่รู้หรือว่ามันผิด”หลักอบายมุข6”ของ”พุทธศาสนา”อยู่โต้งๆ(?).. แล้ว”ท่านผู้ดูแลสังคม”(ทุกยุค)ท่านปล่อยให้”เปิดกันเต็มบ้านเต็มเมือง”ได้อย่างไร?.. ซึ่งที่สุดก็มักไปสู่การ”ล่วงละเมิดทางเพศ?”,ทั้งยินยอมบ้าง,ถูกล่อลวงบ้าง,ลามไปถึง”ความอบอุ่นในครอบครัว”ก็หมดสิ้นไป..
”ลูกที่เติบโตขึ้นมา”ก็”ไม่ภูมิใจ?”ในตัว”พ่อและแม่?”.. โดย”พ่อ”มักเป็น”ผู้เที่ยวกลางคืน?”,ส่วน”แม่บางคน”ก็มีอาชีพของ”คนกลางคืน?”,ที่มักไม่พ้นไปจากการ”ละเมิดศีลข้อ3”กันเป็นจำนวนไม่น้อย,ซึ่งยากที่จะหลุดพ้นจากปลักตมเหล่านี้ได้(?).. ทำให้สังคมไทย,”ครอบครัวไทยล่มสลาย”ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้,เพราะ”ลูกหลานคนไทยจำนวนหนึ่ง”ไม่มี”ตัวอย่างที่ดีของบุพการี”ให้”ดูเป็นแบบอย่าง”,และ”เดินรอยตาม”..นั่นเอง.. ...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.182 วันที่: 12 ธันวาคม 2566 เวลา:0:23:11 น.  

 
(a)วันนี้ได้ชมรายการ”ลุยชนข่าว,ช่อง8,12-12-66”ช่วง”เปิดภาพวงจรปิดในโรงแรม”แล้ว.. มี”ข้อคิดเห็น”ดังนี้ครับ..
การ”แก้ปัญหา”เรื่อง”การประพฤติผิดทางเพศ”,ควรแก้ที่”ต้นเหตุ”,ซึ่ง”สื่อส่วนมาก”มักพูดถกเถียงกันแค่ว่า.. “ถ้าอายุต่ำกว่า18,จะยอม,ไม่ยอม,ก็ผิดอยู่ดี”..เท่านั้น,เหมือนว่าจะ”ส่งสัญญาณกลายๆ”ว่า.. “ถ้าอายุเกิน18,ก็สามารถทำอะไรได้ตามสบายนะ(?)”..ประมาณนั้น..หรือไม่?,เพราะจริงๆแม้อายุเกิน18ไปแล้ว,ถ้ายึดตาม”หลักศาสนา”ก็คือยังถือว่าผิดเรื่อง”ล่วงประเวณี”(ศีลข้อ3)อยู่ดีนั่นแหละ(?)..
ซึ่งถ้า”สังคมเรา”เอื้อต่อ”หลักศาสนา”(อันเป็นเครื่อง”จรรโลงโลก”)โดยเฉพาะ”ศีลข้อ3”(ซึ่ง”ชาวพุทธทุกคน”รู้จักกันดี),ซึ่งเราเคยนำเสนอใน”เพจบางเพจ”มาก่อนหน้านี้แล้ว..ว่า..
1.”โรงค้างแรม?”(ควรยกเลิก”โรงค้างแรมแบบปิดม่าน?”,ซึ่งเท่ากับส่งเสริมการทำผิด”ศีลข้อ3“หรือไม่?)ต้องแบ่งส่วนเป็น”เขตหญิง-เขตชาย”(แยกกัน),”หญิง”ไม่สามารถเข้า”เขตชาย”,และ”ชาย”ไม่สามารถเข้า”เขตหญิง”,โดยให้มียามเฝ้าอยู่..
2.ถ้าจะ”พักแบบครอบครัว”ต้องมี”ทะเบียนสมรส”(ตัวจริง)มายืนยันด้วย..


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.182 วันที่: 13 ธันวาคม 2566 เวลา:0:36:30 น.  

 
(b)3.”หญิง-ชาย”จะมี”เพศสัมพันธ์”กันได้,จะต้อง”จดทะเบียนสมรส”อย่าง”ถูกกฎหมาย”กันก่อนแล้วเท่านั้น..(เพื่อเริ่มต้นปรับปรุง”DNA”ให้เป็น”DNAที่มีศีลธรรม”ในอนาคต)..
4.”หญิง,ชาย”ที่ไม่ใช่”คู่สมรส”หรือ”สามี,ภรรยา”จะไปไหนด้วยกัน”ตามลำพัง2ต่อ2”ไม่ได้โดยเด็ดขาด..
5.ควรนำเรื่อง”หลักอบายมุข6”ของ”พุทธ”มาใช้เป็น”หลักกฎหมาย”อย่างเคร่งครัด..
6.โดยเฉพาะ”หญิง”ต้องไม่”สัญจร,เที่ยวเตร่”ใน”สถานบันเทิงยามค่ำคืน(?)”,เพราะก็ต้องรู้อยู่แล้วว่า..”หญิง,ชายนักเที่ยวบางส่วน”ไป”พบปะ,สังสรรค์”กันด้วยจุดประสงค์อะไร?,เพราะ”หญิง”ควรรู้ว่า..”ชาย”ย่อมไม่ประสงค์จะหวังแสวงหา”หญิงนักเที่ยว(?)”มาเป็น”ภรรยา?”อยู่แล้ว?,เว้นแต่เพื่อ”ความสุขทางเพศ?”เพียง”วันไน้ท์สแตนด์?”เท่านั้น..
7.สรุปว่าควรศึกษา,นำเอา”หลักศาสนาของมุสลิม”ในเรื่องการ”ประพฤติตัวต่อกัน”ของ”หญิงและชายชาวมุสลิม”มาใช้เป็น”กฎระเบียบ”หรือ”กฎหมาย”ของ”สังคม”ด้วย..
...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.182 วันที่: 13 ธันวาคม 2566 เวลา:0:40:33 น.  

 
(c)(ข้อคิดเห็น,ข้อเสนอแนะ)..
“สื่อสารมวลชนทั้งหลาย”ควร”เสนอข่าว”พร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางในเชิง”หลักศาสนา”กันบ้าง(?),คือไม่พูดแต่เฉพาะเพียง”หลักการทางกฎหมาย”เท่านั้น(ซึ่งหลายครั้งเหมือนเป็นการช่วย”ชี้โพรงฯ”ช่วยเหลือ”บางฝ่าย?”ไปนั่นเลย?)ทำนองว่า..ใครจะ”ผิดน้อย,ผิดมาก?”อย่างไร?(เช่น.. ควรนำเสนอว่า..ผู้ที่ถือว่าเป็น”ผู้ใหญ่”หรือ”ผู้มีชื่อเสียงในสังคม”ควรวางตัวกันอย่างไร?,เพื่อให้เป็น”แบบอย่างที่ดี”ให้กับ”เด็กรุ่นหลัง”มากกว่าหรือไม่?..
“หลักการสำคัญ”คือ..สังคมที่มี”พุทธศาสนา”เป็น”ศาสนาหลัก”ของ”คน95%”,แล้วปล่อยให้มี”สถานที่บันเทิงเริงรมย์?”(อโคจร?)อันเปิดโอกาสให้”หญิง-ชาย”ซึ่ง”ไม่ใช่คู่สมรส?”ได้มีโอกาสมา”พบ,ปะ?”(เสี่ยงทาย”หาคู่ชั่วคราว?”)กัน?,โดยมี”สุรา?”(“เครื่องบั่นทอนสติ?,ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี?”และ”การยับยั้งชั่งใจ?”)เป็น”ตัวกลาง?”ในการ”สังสรรค์กัน?”ได้อย่างไร?.. ซึ่งถ้าไม่แก้ไขที่”ต้นเหตุ”,ก็คงยากที่”สังคมไทย”จะพ้นไปจากเรื่องราวทำนองนี้ได้(?)..ใช่หรือไม่?..


โดย: สมจิต IP: 124.122.17.156 วันที่: 15 ธันวาคม 2566 เวลา:19:20:29 น.  

 
(d)”ข้อสำคัญ”.. คือ..
1.“พุทธ”สอนเรื่อง”ศีลข้อ3”(ไม่ประพฤติผิดในกาม)และ”ศีลข้อ5”(ไม่ดื่มสุราเมรัย),ให้มี”หิริ,โอตตัปปะ”(ซึ่งเป็น”ธรรมคุ้มครองโลก”)..
2.”คริสต์”สอนเรื่อง”ให้รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”(“แปลความ”ก็คือ.. ต้องมองเห็น”หญิงอื่น”เหมือนดั่ง”ญาติพี่น้อง”หรือ”ลูกสาว,หลานสาวของตนเอง?”..ใช่หรือไม่?.. เราทุกคนต้องคิดไว้เสมอว่า.. ถ้าสมมุติว่า..เห็น”พี่สาว?,น้องสาว?,ลูกสาว?”เข้ามาอยู่ใน”สถานที่บันเทิงอโคจร?”เช่นนั้น.. เราจะต้องแสดงออกอย่างไร?.. อาจต้องรีบไปบอกให้ออกจาก”สถานที่แห่งนั้น?”..หรือไม่?..[เคยมี”โฆษณาชิ้นหนึ่ง”,ซึ่งน่าประทับใจ,คือมี”เด็กนักเรียนหญิงวัยรุ่นคนหนึ่ง”ขึ้นรถเมล์,นั่งท้ายรถ,แล้วถูก”วัยรุ่นชายกลุ่มหนึ่ง”ลวนลาม,ทำท่าจะกระชากลงรถ,และมี”หญิงสว.ท่านหนึ่ง”เห็นแล้วทนไม่ได้,รีบลุกขึ้นพูดว่า”ทำอย่างนี้ได้อย่างไร?,รังแกผู้หญิงได้อย่างไร?”(ประมาณนี้).. แล้ว”คนอื่นๆ”ก็เริ่มลุกขึ้น,ช่วยกันพูดประณาม,ตำหนิ”ชายกลุ่มนั้น”,และ”กระเป๋ารถเมล์”ก็มาช่วยไล่”วัยรุ่นชายกลุ่มนั้น”ให้ลงจากรถไป,”เด็กนักเรียนหญิงวัยรุ่นคนนั้น”ก็ปลอดภัยจาก”ภัยทางเพศ?”อย่างหวุดหวิด?.. ใช่หรือไม่?]..
3.ส่วน”มุสลิม”เขาก็ให้”เพศหญิงของศาสนาเขา”ต้อง”คลุมฮิย้าบ”เพื่อไม่ให้”ยั่วยวนทางเพศ?”,และ”ไม่ให้หญิงเข้าไปในสถานที่บันเทิงอโคจรเช่นนั้นอยู่แล้ว?”..ใช่หรือไม่?..
...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.17.156 วันที่: 15 ธันวาคม 2566 เวลา:19:45:01 น.  

 
(e)(“ข้อมูลเพิ่มเติม”ใน”หลักการของพุทธ”)..
“สังคมไทย”เป็น”สังคมชาวพุทธ”(95%).. ถ้าจะเอา”หลักศาสนา”มาพิจารณาร่วมด้วย.. ก็เคยฟัง,เคยอ่านว่า..”พระไตรปิฎก”มีพูดถึงว่าแค่”องคชาติชาย”ล่วงล้ำใน”อวัยวะเพศสตรี”ประมาณแค่”1เมล็ดงา”ก็ถือว่า”ผิดปาราชิกข้อ1”สำหรับ”ภิกษุ”แล้ว.. ซึ่ง”อวัยวะเพศสตรี”ไม่ใช่พื้นเรียบเหมือน”พื้นกระเบื้อง”.. ดังนั้น..แค่”อวัยวะเพศสัมผัสกัน”ก็น่าจะ”เกิน1เมล็ดงา?”แล้วหรือไม่?..ใช่หรือไม่?.. ดังนั้น.. ใน"บางเค้ส"จะมองอย่างไร?.. ก็ลองพิจารณากันดูครับ..
...ด้วยความเคารพครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.17.156 วันที่: 18 ธันวาคม 2566 เวลา:2:07:33 น.  

 
(A)วันนี้ได้ชมรายการ”ข่าวเด่นประเด็นฮอต,ช่องมติชน,19-12-66”ช่วง”ดราม่าเดือด!เชื่อมจิต”แล้ว.. มี”ข้อคิดเห็น”ดังนี้ครับ..(“ขอคิดด้วยคน”นะ).. “หลักศาสนายุ่ง
เหยิง?”เพราะ”จิตมนุษย์ช่างปรุงแต่งไปเอง?”เป็นหลักนั่นแหละ..
อย่างแม้แต่”หลักศาสนาใหญ่ๆ”(บางศาสนา)ก็มี”วิธีคิด”ที่”ขัดแย้งกันเอง”(อย่าง”พุทธ”เอา”หลักการหมดตัวตน?”,ซึ่งเรามองว่าไม่ใช่”เรื่องของศาสนา?”,แต่อาจเป็นเพียง”ปรัชญาส่วนบุคคล?”เท่านั้น,และก็พิสูจน์ไม่ได้ด้วย(?),อย่างที่กำลังเป็นข่าวดังนี่ไงล่ะ?,และอย่าง”บางศาสนา”ก็สอนประมาณว่า.. “ถ้าจัดการคนนอกศาสนา,ไม่ถือเป็นบาป,แต่พระเจ้าจะยอมรับ(?)”..ประมาณนั้น.. เป็นต้น..)..
เราจึงมี”แนวคิดส่วนตัว”,คิดว่า”องค์กรโลก”น่าจะเข้ามาจัดการให้มี”หลักศาสนารวม”โดยเอา”ศาสนาใหญ่ๆ”.. เช่น”พุทธ,คริสต์,อิสลาม”ที่มี”จุดเด่นที่ดี”มาผูกรวมกันนั่นไง?..
เช่น.. “พุทธเด่นเรื่อง”ศีลข้อ3,ข้อ5,หิริโอตตัปปะ(ธรรมคุ้มครองโลก)”..
ส่วน”คริสต์”เด่นเรื่อง”ให้รักคนทั้งโลก”,และ”ให้รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง(ถ้ารักคนทั้งโลก,แล้วจะมีสงครามได้อย่างไร?)..
ส่วน”มุสลิม”ก็มีเรื่องการ”คลุมฮิย้าบ”คือ”ไม่ให้ผู้หญิงแต่งตัวยั่วยวนทางเพศ?”,อันทำให้”สังคมเร่าร้อน?”,และทำให้ลามไปสู่การ”ทำผิดหลักศีลธรรมข้ออื่นๆ?”ตามมา?.. ใช่หรือไม่?(เช่น กรณี”ข่าวนักมวยดังบางท่าน”..เป็นต้น)..


โดย: สมจิต IP: 124.122.17.156 วันที่: 20 ธันวาคม 2566 เวลา:14:39:07 น.  

 
(ฟังรายการ”โหนฯ10-10-67”,และมาฟัง”เล่าข่าวข้น,ช่องท็อปฯ,10-10-67”วิเคราะห์เพิ่มอีก)..
จึงมีคำถามเพื่อให้ข้อคิดกับสังคมไทย,ที่ทุกตารางนิ้วของสังคมเต็มไปด้วยเรื่องซิกแซ็ก,ไม่ตรงไปตรงมา,ใหญ่เอาเปรียบเล็ก,เงินทุนมากล่อลวงเงินทุนน้อย,อำนาจมากสั่งการครอบงำอำนาจที่น้อยกว่า,กินเลือดเนื้อพี่น้องร่วมชาติกันเอง(เพราะหลงใหลใน”การมีทรัพย์”เป็นเรื่องใหญ่),อย่างที่ฉายา”เมืองแห่งศาสนา”ไม่น่าจะเป็นเช่นนี้เลย..
1.หลายๆคดีที่”ปชช.เป็นผู้เสียหาย”ที่ผ่านๆมา.. ทำไมเมื่อมี”สัญญาณทางสังคม”,หรือจาก”ชนชั้นล่างทางสังคม”ว่า..กำลังมีเรื่องถูกเอาเปรียบ,ถูกล่อลวง,ทำไม”ผู้มีหน้าที่”(บางส่วน)จึงไม่รีบดำเนินการทางลับโดยอายัดทรัพย์ไว้ก่อน,ก่อนที่โต้โผใหญ่,หรือโต้โผรองจะไหวตัว,และเคลื่อนย้ายทรัพย์หนีไปเสียก่อน?..
2.ทำไม”ผู้เกี่ยวข้อง”(บางส่วน)จึงดำเนินการช้า,หรือต้องมีการให้ข่าวส่งสัญญาณออกสื่อเสียก่อน,จนทำให้ประชาชนบางส่วนมองว่า..อาจเท่ากับเป็นการทำให้”ผู้ถูกกล่าวหา”ได้ล่วงรู้ก่อน,แล้วรีบขนย้ายทรัพย์หลบซ่อนก่อนที่จะมีการเข้าตรวจค้น..หรือไม่?..
3.ทุกๆคดีที่มีการ”หลอกลวงปชช.”,ควรรีบอายัดทรัพย์ไว้ก่อนโดยด่วน,ไม่ชักช้า,แล้วจึงค่อยให้ข่าวกับสื่อในภายหลัง,หลังจากอายัดได้เป็นส่วนมาก,หรือเกือบทั้งหมด,จะดีกว่าและได้ใจประชาชนกว่าหรือไม่?..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 11 ตุลาคม 2567 เวลา:4:32:48 น.  

 
4.ต้องยอมรับว่า..”สังคมเมืองพุทธ,ชาวพุทธเรา”ยังมีความไม่สมดุลอยู่มาก(บางทีก็อาจจะตรงกับคำว่า”ฝนตกไม่ทั่วฟ้า”ประมาณนั้น,หรืออาจใช้คำว่า”ลักลั่น”ก็ได้)..
สมัยนี้เราไม่ค่อยได้ติดตาม”บางรายการ”,แต่ในสมัยก่อน..ถ้า”สื่อบางรายการ”ไปพบเจอ”บางเค้ส”ที่ดูแล้วน่าเวทนา,จะมีการระดมความช่วยเหลือ”ผ่านบัญชี”,หรือช่วยโดยตรงบ้าง,รวมๆแล้ว”บางเค้ส”อาจเท่ากับ”ถูกรางวัลที่1”1-2ใบก็ยังมี,จนต้องขอปิดรับบริจาคเองก็มี..
จนเรามองว่า..”ผู้บริจาคหลายราย”อาจมีฐานะที่จนกว่า”ผู้ได้รับบริจาค”ที่ได้รับการโปรโมตจาก”รายการดังๆ”ด้วยซ้ำไป.. คือสรุปว่า..คนไทยมักจะไประดมบริจาคให้แต่กับเฉพาะ”ผู้ที่มีการนำเสนอ”ใน”รายการดังๆทางทีวีหรือโลกโซเชี่ยล”เท่านั้น..
แต่อีกจำนวนมากที่มี”เค้สทำนองเดียวกัน”,ที่ถูกมองข้าม,เพราะไม่ถูกนำเสนอผ่าน”ทีวี,หรือโซเชี่ยล”ก็ยังมีอยู่อีกเป็นจำนวนมาก.. เรายังเคยมองว่า..ควรจะเฉลี่ยจาก”คนที่ได้รับบริจาคจากการออกรายการ”แผ่ไปยัง”คนที่น่าเวทนาคนอื่นๆ”บ้าง,ไม่ควรจะไปกองอยู่กับเฉพาะ”บางคน,บางเค้สที่ถูกนำเสนอ”เท่านั้น..
(และควรตามตรวจสอบด้วยว่าได้ใช้เงินอย่างสมควรหรือไม่?,เพราะก็เคยมีข่าวว่า..”บางคน”ก็ใช้เงินไปในทางที่ไม่ถูกต้อง..ก็มีอยู่เช่นกัน).. แต่เค้สที่ออก”รายการโหนฯ”นี้,ที่มี”หญิงแม่เลี้ยงเดี่ยว”ที่เคยโดดน้ำฆ่าตัวตายทั้งๆที่กำลังตั้งท้องอยู่,แต่มีคนช่วยไว้ทัน.. เราเห็นว่า.. เฉพาะหน้าในปัจจุบัน,เธอควรได้รับการเยียวยาจากสังคมเป็นพิเศษ,เพื่อให้เธอมีกำลังใจที่จะ”ต่อสู้ชีวิต”ต่อไปนะ(เราว่า).. ฝากทุกๆคนที่มี”กำลังทรัพย์”ช่วยพิจารณาเค้สนี้ด้วยนะ..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 11 ตุลาคม 2567 เวลา:5:57:32 น.  

 
5.แง่คิดของ”ชีวิตยุคIT”,หรือยุคสำรวจดาวอังคาร,โดรน,รถยนต์ไร้คนขับ,หุ่นยนต์คล้ายคน,และเราเชื่อว่าอีกไม่นานก็จะมี”ยาน(บิน)ขนาดเล็ก”ขับเคลื่อนแทนรถยนต์,บินไปมาได้ในอากาศเหมือนใน”หนังฝรั่งบางเรื่อง”นั่นแหละ..
แต่เฉพาะเหตุการณ์ในปัจจุบัน.. ที่กำลังมีเรื่องทลาย”แก๊งดวงดาว?”ที่รวมทีมกันเพื่อเป้าหมาย”ดูดเอาทรัพย์?”ของ”ชนชั้นล่าง”ให้มาเป็นของ”กลุ่มตน”เพราะมีทัศนะแบบ”มิจฉาทิฐิ”ที่”ไร้คุณธรรมความเมตตา”ที่ต้องการสร้างความร่ำรวยให้กับ”ตนเอง”มากเกินคำว่า"พอเพียง?"..เกินไป..
เราจึงรู้สึกดีใจมากที่เกิดปรากฏการณ์ที่ไม่น่าเชื่อ,ที่”ทนายหลายคู่”ที่เคยเป็น”คู่ขัดแย้ง”หรือ”อยู่คนละฝ่าย”กลับเริ่มมีแนวโน้มที่จะมาร่วมมือกัน,ทำเพื่อ”ผลประโยชน์”ของ”ประชาชนผู้ทุกข์ยาก”อย่างผิดสังเกต,ซึ่งเรารู้สึกร่วมยินดีด้วยมากๆ..
เพราะแทนที่จะไปขัดแย้ง,รบรา,ปะหมัดกันเองก็สู้เอา”ภูมิความรู้ด้านกฎหมาย”มาช่วยเหลือ”ประชาชนผู้ทุกข์ยาก”น่าจะเป็นบุญแก่ประชาชนอย่างมาก..
เช่น.. คู่ของ”ทนายต.และท่านอ.” //”ทนายป.และทนายด.”//”ทนายเมียหลวงและทนายเมียน้อย”//”ทนายร.และทนายด.”//”คุณตอ.และอดีตเพื่อนรัก”//”คุณตอ.และทนายต.”.. ซึ่งเรามองว่า..”รากฐาน”ของ”บุคคลเหล่านี้”ล้วนเป็น”ผู้ที่มีจิตสำนึก”ที่เป็น”แก่นลึกในใจ”.. คือ..ล้วนแต่เป็นผู้ที่”รักความถูกต้อง,เป็นธรรม”และอยาก”ช่วยเหลือปชช.”ที่เป็น”ชนชั้นล่าง”ที่มักถูกเอาเปรียบจาก”คนบางกลุ่ม?”กันทั้งนั้น..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 11 ตุลาคม 2567 เวลา:14:35:09 น.  

 
6.(ข้อคิด)..”ดิจิตอลฟุตปริ๊นซ์”ที่”น่าสะพรึง?”,และ”เป็นประโยชน์เพื่อการตรวจสอบความจริง”สำหรับ”คนยุคนี้”.. คือ..
การพูดของ”พรีเซ็นเตอร์บางท่าน”ที่บอกว่า”ตนเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์”,และ”อีกคลิป”ที่บอกว่า”ตนไม่ใช่เป็นเพียงแค่พรีเซ็นเตอร์”,ซึ่งใน2คลิปนั้น”สาระเนื้อหาไม่ตรงกัน?”.. เพียงแค่”ดิจิตอลฟุตปรินซ์”ที่ปรากฏออกมาดังนี้ .. ก็เท่ากับ.. คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรต่อไปอีกแล้ว(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 13 ตุลาคม 2567 เวลา:1:24:21 น.  

 
7.สังคมเรานี้..ต้องยอมรับว่าใน”ภาครัฐเอง”ในทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมา,ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อ”ภาคศาสนา”.. คือพูดสรุปเลยว่า..ยังมีการส่งเสริมเรื่อง”หวยต่างๆที่ถูกกฎหมาย”(รวมถึงการพยายามจะมีนโยบายเรื่อง”สถานพนันที่ถูกกฎหมาย?”ด้วยซ้ำ?..หรือไม่?).. ซึ่งก็ต้องถือว่า..เป็นเรื่องของการผิดในเรื่อง”อบายมุขข้อการพนัน”,ซึ่งเป็น”หลักของศาสนาขั้นพื้นฐาน”อย่างมาก,ซึ่งจริงๆรัฐไม่ควรส่งเสริมเลย,แต่ก็กลับมีการส่งเสริมใน”มิติหรือรูปแบบต่างๆกัน?”ตลอดมาทุกสมัย(?)..
ดังนั้น.. จึงทำให้คล้ายสังคมโดยรวมและรัฐเองก็ช่วยกันเพาะบ่ม”DNAของประชากร?”ตั้งแต่ในอดีตให้หมกมุ่นในการ”ได้ทรัพย์มามากๆ?”(แบบ”ไม่เลือกวิธีการ?”ที่จะได้ทรัพย์มา?),โดยไม่คำนึงถึง”หลักคุณธรรม”ว่าจะถูก”หลักการทางศีลธรรมของศาสนา?”หรือไม่?..
ดังนั้น.. เมื่อ”DNAเริ่มผิดเพี้ยน?”จาก”หลักศีลธรรม”มาเรื่อยๆ.. ก็ต้องยอมรับว่า..บรรดา”ดวงดาว?”ทั้งหลายนั้นก็(อาจ)ได้รับการ”ถ่ายทอดDNAที่ผิดเพี้ยนต่างๆ?”นั้นมาด้วย(?)..จึงมักมี”ความฉลาด?”มากกว่าเหล่า”ชั้นกลาง,ชั้นล่าง?”(ที่มักไม่ฉลาดเท่า?)เป็นธรรมดา.. เพราะไม่เช่นนั้นบรรดา”ดวงดาว?”คงไม่สามารถ”เล่นตามบท?”จนเป็น”บทละครดราม่า?”ที่ทำให้”คนจำนวนมาก?”พากันหลงใหล,ติดตาม,ชื่นชมใน”บทบาท,ตัวตนต่างๆ”ของบรรดา”ดวงดาว?”ได้..


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 13 ตุลาคม 2567 เวลา:3:03:01 น.  

 
8.ดังนั้น..เมื่อประชาชนเห็นบรรดา”ดวงดาว?”เป็น”ไอด้อล?”ของเขา,”ดวงดาวบางดวง?”จึงมักหยิบฉวยเอาบุคลิกความเป็น”ดาวระยิบฟ้า?”มาใช้ประโยชน์เพื่อสร้าง”ความน่าเชื่อถือ?”ในการไปรับรอง”ผลิตภัณฑ์สินค้าต่างๆ?”กับเหล่า”ชั้นกลาง,ชั้นล่าง?”(บางส่วน)ประมาณว่า.. ถ้ามาร่วมทีมกับ”ดวงดาว?”(บางส่วน)นี้,ก็ย่อมจะสามารถเลื่อน”ระดับสถานะทางเศรษฐกิจ?”และ”ความมีหน้ามีตาทางสังคม?”ให้ใกล้เคียงกับบรรดา”ดวงดาว?”(บางส่วน)ได้เช่นเดียวกัน(?)..นั่นไง?..
นี่แหละ.. จึงเป็น”กลเกมส์?,กลเหลี่ยม?”ทาง”ระบบการค้าที่แยบยล?”(ที่”ไร้คุณธรรม?”)(ที่ไปดัดแปลงให้คล้ายๆ”ระบบไดเร็ค?”)จนที่สุด..ก็ดูจะกลายเป็น”ขายค่าสมาชิกร่วมทีม?”แทนการ”ขายสินค้า?”,และจะได้กำไรส่วนต่างจาก”ค่าแพ็คเกจ?”หรือ”ค่าซื้อตำแหน่ง?”มาก,น้อยแบบ”ลดหลั่นลงมาเป็นทอดๆ?”จาก”บนลงล่าง(ซึ่งเรามองว่า.. เป็นการ”กินเปอร์เซ็นต์?”แบบ”หัวคิว?”เป็นทอดๆ,ที่ได้เปรียบกับ”สมาชิกชั้นล่างๆ?”แบบ”ไร้คุณธรรม?,ความเมตตา?”อย่างมาก?).. ที่ทำให้เหล่า”ชั้นกลาง,ชั้นล่าง?”ซึ่งอาจ”สติปัญญา?,ความรอบคอบ?”มีน้อยกว่า(?),ก็จึงมักจะเป็นคล้าย”แมงเม่า(ที่ถูกล่อด้วยแสงสี,ศิวิไลซ์,ที่ถูกบิ๊ลท์ขึ้นมา?จน)บินเข้าในกองไฟ?”กันเป็นส่วนมาก?..ในที่สุด?..นั่นเอง?..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 13 ตุลาคม 2567 เวลา:3:07:53 น.  

 
9.”โลกยุคIT “ที่มีทั้ง”อันตราย?”ถ้ารู้ไม่เท่าทัน(?),และทั้งมีคุณต่อ”ผู้ที่กำลังถูกเอาเปรียบ?”อย่างมหาศาลเช่นกัน(?).. อยากฝากว่า.. ยุคนี้แล้ว.. อย่ายอมเป็น”คนไม่ฉลาด(โง่)?”(ที่”ถูกเอาเปรียบ?”หรือ”เป็นเบี้ยล่าง”อยู่เสมอ?).. และ อย่ายอมให้ใครมา”เติบโต,ล่ำซำ,ร่ำรวยอย่างมหาศาลในชั่วพริบตา?”อยู่บน”ศีรษะของเรา?”ด้วย”เทคนิควีธีการขายสินค้าแบบต่างๆ?”ที่”โฆษณาคุณภาพเว่อร์เกินจริง?”และ”ราคาแพงลิ่ว?”จาก”ฐานต้นทุนแรกเริ่มที่ต่ำสุด?”เป็นอันขาด(?)..
และรวมทั้งยังมีการ”โมดิฟาย?,แอ๊พพลาย?”จนกลายร่างเป็นคล้ายๆ”DNAไดเร็ค?”ที่มีการ”ขายระบบ?”มากกว่าการ”เน้นขายสินค้า?”,ที่ล่อ”คนอยากรวยเร็ว?”(จนกระทั่งมี”พระดังบางรูป?”ยังไปช่วยชี้ช่อง,ซึ่ง”พระพุทธเจ้า”ส่งเสริมให้”คนตัดกิเลส”,แต่ไม่ได้มุ่งส่งเสริมให้”คนมารวย”,แล้วอำพรางว่าจะได้เอา”เงินที่ร่ำรวยจากการเอาเปรียบ?”นั้นมาใช้”ทำบุญ?”แต่อย่างใดเลย?),ให้”ติดกับดักความโลภ?”แบบ”เป็นทอดๆ?”,แล้วพากันเข้ามาสมัครมากๆ(โดย”ผู้สมัคร?”ต้อง”อย่าหยุดมาสมัครเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ?”นะ,ถ้ามีการ”สะดุด?”หรือ”หยุดลง?” ณ จุดใด,จุดนั้นก็จะคือ”จุดเริ่มต้นแห่งจุดจบ?”ในทันทีเสมอ..เสมอ..และเสมอ..)..
จนดูแล้วมีลักษณะไม่ต่างจาก”ระบบแชร์ลูกโซ่?”ที่แทบไม่ให้”ความสำคัญ?”กับ”ตัวสินค้าจริง?”,แต่มุ่ง”กินหัวคิว?”(แบบสำนวนไทยที่ว่า”เสือนอนกิน?”)จากผู้ที่หลงเข้ามาเป็น”ลูกทีมระดับล่าง?”ลงไปเรื่อยๆเสียมากกว่า(?).. โดยแค่นำ”บริบทเรื่องการขายสินค้า?”มาใช้”พรางตา?”จาก”เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง?”(ที่ไม่ชอบ”การทำงาน”แบบ”เชิงรุก?”)กับการ”ตรวจสอบระบบธุรกิจ?”ที่ดู”ไม่ค่อยชอบกลต่างๆ?”เหล่านั้น(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 14 ตุลาคม 2567 เวลา:21:35:32 น.  

 
10.แก้ไขใน”ข้อ9ช่วงประโยคท้าย”จาก”ชอบกล”เปลี่ยนเป็น”ชอบมาพากล”ด้วยนะครับ..
และขอเสริมอีกว่า.. จริงๆคำว่า”หัวใจเศรษฐี”(หรือ”อุ.อา.กะ.สะ”)นั้น,จริงๆมีความหมายแค่ว่า..เน้นให้ใน”ฆราวาส”นั้นต้องถือว่า..ถ้าอยากให้”ชีวิตเจริญ”(ในทางที่ถูกธรรม),ต้องยึดหลัก”ขยันหา,รักษาไว้,ได้มิตรดี,ใช้ชีวีเหมาะสม”(หรือ”อุ-อา-กะ-สะ”)นั่นต่างหาก..
แต่ดันมามีคำภาษาไทยว่า”หัวใจเศรษฐี”,จึงมีแต่คนมุ่งจะเป็นเศรษฐีกันจนไม่ลืมหูลืมตา,ไม่รู้ผิดหรือถูก,ไม่เลือกกระทั่ง”วิธีการที่ได้มาซึ่งทรัพย์”ว่า.. จะถูกตาม”ครรลองของศีลธรรม”หรือไม่?กันไปเลย(?)..
จริงๆ..”หลักการของพุทธ”(รวมทั้ง”คริสต์”และ”อนุตตรธรรมสายจี้กง,กวนอิม”ก็ด้วย)หรือ”หัวใจสำคัญของพุทธศาสนา”คือจะพูดถึงการ”มักน้อย”และ”สันโดษ”.. คือ..ให้ใช้ชีวิตแบบ”เรียบง่าย”(หรือ”พอเพียง”)ไม่ฟุ่มเฟือย(ให้นึกถึง”คนที่จนกว่า”),ไม่”เอาเปรียบหรือได้เปรียบ”จากสังคมมากจนเกินไป,ที่สมัยนี้มักใช้คำว่า”มีภาวะร่ำรวยผิดปกติ”นั่นแหละ(?)..
(เพราะโดยหลักแล้ว,ถ้าไม่เพราะการ”รับมรดก”จาก”รุ่นพ่อ,แม่”มาก่อนแล้วเท่านั้น.. โดยมาก..”ผู้ที่ร่ำรวยมากๆ”ก็มักเกิดจากการ”ได้เปรียบสังคม?”หรือ”ได้เปรียบคนส่วนมาก?”ใน”ชั้นกลาง,ชั้นล่าง?”กันมาก่อน”ด้วยระบบ,วิธีการ,ช่องโหว่,ช่องว่าง,ช่องทางต่างๆ?”แทบทั้นนั้น?..นั่นแหละ?)..
ที่จึงมักมีบริบทที่ดูแปลกๆ.. คือ..นิยมอวดร่ำ,อวดรวย,โชว์สถานะตนเอง,จาก”ข้าวของ,เครื่องใช้,เครื่องประดับ.ยานพาหนะ,บ้านช่อง”,ซึ่งก็บังเอิ๊ญมาถูกจริตกับ”สังคมไทย”( =สังคมที่”นิยมดราม่า?”แบบ”ละครหลังข่าว2ทุ่ม?”),ที่คนไทย”(บางส่วนหรือส่วนมาก)ก็มักชอบ(หลงใหล)การเป็น”ผู้มีหน้ามีตา?,มีคนเชิดชู?,มีผู้อิจฉา?”( =”ติดการได้รับการสรรเสริญเยินยอ?”)ใน”สายตาของสังคม?”กันมาก(?)..
ประมาณว่า..”ถูกจริตนิสัย?”หรือ”ถูกกับกิเลสของคนไทย?”กันเสียด้วย(?)..(ซึ่งเรามองว่า”ฝรั่ง”เขาไม่ค่อยเป็น..แบบว่า”ติดการมีหน้าตา?”แบบ”คนไทย”เรานะ?).. ประมาณว่า”สมกิเลสคนไทย?”,จึงเป็นเหตุให้”ชั้นกลาง,ชั้นล่าง?”มักถูกหลอกล่อให้”ถ่ายเทเงินที่มีสะสมไว้บ้าง?”,ไปสู่”กระเป๋า?”ของ”ชั้นที่สูงกว่า?”อยู่เป็นประจำ?,ทุกยุคทุกสมัย?..นั่นแหละ(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 14 ตุลาคม 2567 เวลา:22:50:50 น.  

 
11.เท่าที่เราดูจาก”บางรายการทางทีวี”จะมีคำว่า..”มีบ้านขายบ้าน,มีที่ขายที่,มีรถขายรถ?”(เพื่อ”นำมาลงทุน?”).. ยอมรับว่า..เคยได้ยินจาก”วิธีการชักจูงใจ?”จากกรณีของ”หลายๆเค้ส”,หรือจาก”หลายๆธุรกิจ?”ที่คล้ายๆจะก๊อปปี้”วิธีการจูงใจสมาชิก?”จาก”หลักการ”ที่คล้ายๆ”ระบบไดเร็ค?”ที่เราเคยรู้จักจากในอดีตที่ผ่านมา(?)..
ที่ส่วนตัวเราเอง,เราอยากขอฟันธงได้เลยว่า.. “คำพูดแบบนี้?,ประมาณนี้?”(ถ้าใครไปเผอิญได้ยินมา),มักจะเป็น”คำพูดที่มาจาก”ธุรกิจบางระบบ?”แบบที่”ไม่ชอบมาพากล?”,และมี”กลเหลี่ยม?,กลล่อ?”ให้”ตกหลุม?”แทบทั้งสิ้น(?).. ซึ่งเราเห็นว่าเป็น”คำพูดจูงใจที่อันตราย?”หรือ”น่ากลัว?”(อาจถึงขั้น”ล่อลวง?”).. แต่ก็ยังมี”สมาชิกบางคน”ที่ภูมิฉลาดและไหวตัวทัน?”ที่เมื่อฟัง”คำพิรุธๆ?”เหล่านี้,ก็ยังพอรู้ว่า..มันคงไม่ใช่ที่”ตนจะไปร่วมหัวจมท้าย?”ด้วย?.. จึงรีบถอนตัวออกมาทันที(?)..
เหมือนที่”สำนักจาน....?”ที่เคยเป็นข่าวในสมัยหนึ่ง,ที่เคย”โปรโมต?,โฆษณา?”ให้คนมา”ทำบุญกับสำนัก?”ด้วยการใช้คำพูดประมาณว่า..”ปิดบัญชีโลก,เปิดบัญชีธรรม,โป้งรวย,โป้งเละ?”..ประมาณนั้น(?),ในความหมายประมาณว่า.. มีเงินฝากในบัญชีเท่าไหร่?,ก็ให้ถอนออกมาให้หมด?,แล้วนำมา”ทำบุญ?”,เพื่อจะได้”ตำแหน่ง,ชั้น,ยศในสวรรค์?”..ประมาณนั้น?..นั่นแหละ(?)..
[ซึ่งแม้แต่ใน”คริสต์”ของ”บางแนวนิกายความเชื่อ?”ที่ผิดแปลก(ดัดแปลง)เพี้ยนจาก”หลักความเชื่อเดิมๆ”ที่มีมาแต่ในอดีต,ที่ตอนนั้นที่เราจำได้,ก็มี”บุคคลมีชื่อเสียงทางสังคม?”รวมทั้ง”ดารา,นักร้อง?”(บางคน,ซึ่งมีหลายคน?)ก็หลั่งไหลไปเข้าร่วม,จนมี”คนทั่วไป”เข้ามาศรัทธาร่วมด้วยอย่างมากมาย,ล้นหลาม,ในยุคหนึ่งที่ผ่านมา(?)..
ซึ่งก็พยายามใช้วิธีการแบบ”ทรงไดเร็ค?”(แบบมี”ลูกทีม,แม่ทีม?”,ซึ่งสมัยนี้อาจเรียกว่า”ไลน์กลุ่ม?”,ซึ่งอาจผูกสัมพันธ์,นำ”ผลงานแต่ละคน?”มาอวดโชว์กัน?),มีการให้มี”เงินถวายต่อองค์กร?”,และการพยายามให้เกิด”มีเกียรติเรื่องหน้าตา?,ตำแหน่ง?,หน้าที่รับผิดชอบ?”,แล้วมีการ”แข่งขันกันกลายๆ?”แบบเชิงใช้”จิตวิทยาหมู่”,เพื่อกระตุ้นให้เกิดการ”บากบั่น,มานะ?”,เพื่อถีบตัวเองขึ้นมาเป็น”ระดับผู้นำแนวหน้าขององค์กร?”,และภายหลังก็มี”ผลทางลบ?”(เพราะ”แรงกดดัน?”และ”ความเครียด?”)ใน”ชีวิตส่วนตัว?”กับ”บางบุคคล?”ที่ตกหลุมไปเข้าร่วม(?)..เช่นเดียวกัน(?)..
ซึ่งครั้งหนึ่ง..เราเคยไปเข้าร่วมมาก่อน,และมี”คำถาม”(ใน”เอกสารแบบสอบถาม”ให้กาตอบ)ที่แปลกๆ(?),กระทั่งต้องการล่วงรู้”ประวัติส่วนตัว”ประมาณว่า..”คุณเคยคิดฆ่าตัวตายมาก่อนหรือไม่?”ก็ยังมี(?).. คล้ายว่า.. “บางองค์กร”พยายามที่จะรู้”ข้อมูล,ประวัติส่วนตัวเชิงลึก?”และ”จุดอ่อน,จุดด้อยของชีวิต?”ของ”ผู้ที่เข้ามาสมัครเป็นสมาชิก?”เพื่อ”ประโยชน์บางอย่าง?”ให้กับ”องค์กรในระดับกลุ่มผู้บริหารระดับสูง?”กระนั้นแหละ?..นั่นด้วย(?)..เช่นนี้ก็ยังมี(?),ที่พยายามจูงใจให้”คนทุ่มเทถวาย?”ให้กับ”องค์กรความเชื่อแบบของตน?”ให้มากๆถึงมากที่สุด?..ก็เคยมีมาก่อน(?),และมีอยู่แม้ที่”กรุงเทพ,ประเทศไทย”และใน”ต่างจังหวัด”ด้วยก็ตาม(?).. แต่ภายหลัง”องค์กรคริสต์นิกายนี้”ก็ดูเหมือนจะเงียบๆซาๆไป.. แล้วเราจึงไม่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวต่อไปอีก]..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 15 ตุลาคม 2567 เวลา:2:01:25 น.  

 
12.เราส่วนตัวมองว่า.. สังคมไทยหา”คนที่ดีแท้”ได้น้อยมาก,และถ้ายิ่งหา”คนดีที่มีความกล้า”,และกล้ากระทั่งยอมเป็น”สิ่งบูชายัญ”,เพื่อ”บูชาความถูกต้อง”,ยิ่งหาได้ยากยิ่งกว่า(?)..
บางคนพูดว่า.. คนอย่าง”พันท้ายนรสิงห์”ที่ยอม”สละตัวเอง”เพื่อ”บูชาหลักกฎหมาย”เพื่อ”ถวายเกียรติแก่กษัตัริย์”,เพื่อไม่ให้เกิด”ข้อครหา?”หรือทำให้”สถาบันกษัตริย์”เสียหายนั้น,ไม่มีอีกต่อไปแล้ว..(ส่วนมากหรือแทบทั้งหมด,มีแต่คนที่ไม่กล้าเปลืองตัว,หลบหลีกภัยที่จะมาถึงตัวกันเป็นส่วนมาก..กันทั้งนั้น?..หรือไม่?)..
หรือคนอย่าง”คุณสืบ,ทนายสมชาย”,หรือแม้กระทั่ง”คุณนวมทอง”คงไม่มีอีกแล้วเช่นกัน(?).. ส่วนตัว.. เรามองว่า..คนที่มีจุดยืนเรื่อง”ความดี,ศีลธรรม”และ”ความเป็นธรรม,การซื่อสัตย์”และ”การไม่คดโกง”,มักจะทนไม่ได้เมื่อมี”เค้สสำคัญ”เรื่อง”การทุจริต”ไม่ว่า”ทางการเมือง”หรือใน”ทางธุรกิจภาคสังคม”.. เช่น..”กรณีบางบริษัท”ที่กำลังเป็นข่าวอื้อฉาวอยู่ก็ตาม..
ที่ตามหลักควรจะต้องออกมาแสดงความคิดเห็น,ตักเตือน,ติเตือน,ท้วงติง,กล่าวโทษ,ชี้ถูกผิดให้กับสังคม,ในเรื่อง”ความถูกต้อง,ชอบธรรม”กันบ้าง.. เช่น อย่างที่คุณ”มหาจ.”เคยแสดงออกอยู่เสมอในอดีตที่ผ่านมาในหลายๆเหตุการณ์..เป็นต้น..
แต่นี่เราเห็นว่า..”คนสำคัญๆในบ้านเมือง”แทบไม่มีใครออกมาพูดถึงอะไรเลย(?).. นั่นแหละ..ที่เรามองว่า..สรุปว่า..”คนดีแท้”ในสังคมเรามีอยู่น้อยมาก..นั่นเอง.. คือเรามองว่า..คนที่ไม่แน่ใจว่า”ตนเองเป็นคนดีแท้”ก็มักจะไม่ค่อยกล้าพูดเรื่อง”ความดี”หรือเรื่อง”หลักศีลธรรม”กันซักเท่าไหร่?,เพราะคล้ายว่ามันอาจรู้สึกย้อนแย้งต่อ”ความรู้สึกในใจตนเอง”จน”พูดไม่ออก”..ประมาณนั้น..
หรือเพราะมันอาจเป็นภาวะของ”น้ำท่วมปาก”,อาจเพราะกลัวถูกขุด”เรื่องที่ไม่ดีต่างๆของตนเอง?”ขึ้นมาฉีกหน้าต่อ”สื่อมวลชนต่างๆ?”บ้าง?..ก็เป็นได้?,และโดย”จิตวิทยามนุษย์”ก็มักเป็นเช่นนั้น.. เราเองคอยตามสังเกตว่า.. “คำขวัญวันเด็ก”ของ”หัวหน้าของผู้ดูแลสังคม”ในแต่ละสมัย,แต่ละปีเป็นอย่างไรบ้าง?.. เราพบว่า..”คนที่ค่อนข้างขาว”มักจะออก”คำขวัญ”ที่เกี่ยวกับ”ความดี,ความซื่อสัตย์,ความรักชาติ”เพื่อมา”อบรมเด็ก”กันเป็นส่วนมาก..
แต่คนที่”ภาพลักษณ์ขุ่นๆ,ไม่ชัดเจน?”ก็มักจะออก”คำขวัญวันเด็ก”ที่ไปในทาง”ความสามารถนั่น,นี่?”อ้อมๆแอ้มๆไปเป็นปีๆ,โดยไม่ค่อยกล้าพูดอย่าง”แข็งขัน,หนักแน่น”ในเรื่องของ”ความดีหรือศีลธรรม”..ในมุมตรงข้ามเช่นเดียวกัน(?)..(ซึ่งถ้าไม่เชื่อ,คุณก็ลองสังเกตดู”คำขวัญวันเด็ก”ของแต่ละปี,นำมาเทียบกันดูสิ?)..
เพราะความจริงคือ.. มนุษย์มักมี”จิตสำนึกส่วนลึก”ที่รู้ว่า”ผิด-ถูก-ชั่ว-ดี”คืออย่างไร?.. เมื่อรู้ว่า”ตัวเองไม่ดีพอ”จึงมักไม่กล้า”พูดเรื่องเหล่านั้น”(เพราะ”คนดี”มักจะนิยมพูดถึงเรื่อง”ความดี,ความซื่อสัตย์,หลักศีลธรรม”กันอยู่เนืองๆ,เมื่อมีโอกาส..อยู่เสมอ)เพราะอาจเกิดความกระอักกระอ่วน,รู้สึกว่าจะเกิดอาการ”ฟ้องผิดในใจตนเอง?”นั่นกระมัง?..
ดังนั้น.. สรุปว่า..สังคมไทยมี”ผู้หลัก,ผู้ใหญ่”ที่เราดูว่าน่านับถืออยู่มากมาย,ที่อาจยังไม่เคยมี”ประวัติของท่านในทางลบ”ก็ตาม,แต่การที่ท่าน”ปิดตัวเอง”,ไม่ค่อยออกมาแสดง”บรรทัดฐาน”ของ”ความรู้สึกผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี”.. เราจึงคิดว่า..ท่านเหล่านั้น(ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก)คงรู้ว่า”ตัวเอง”น่าจะมีความ”พัวพันทางลับ?”หรือ”ล่วงรู้เรื่องไม่ชอบมาพากล?”ในหมู่”คนสนิท?”หรือ”เครือญาติใกล้ชิด?”ใน”มิติต่างๆ?”อยู่ด้วย(?)..
และจึงกลัวว่า..ถ้าพูดเรื่อง”ผิด-ถูก-ศีลธรรม”ออกไป,ก็เกรงว่าจะมีคนตาม”สืบค้น,ย้อนศร,เปิดเผย,แฉความทุจริต?”ในหมู่”คนสนิท?”และ”เครือญาติใกล้ชิด?”ของ”ตนเอง?”,และที่สุดอาจโยงมาถึงตนว่า..อาจมีส่วนใน”ความทุจริตนั้นๆ?”ด้วยเช่นเดียวกัน?..หรือไม่?..นั่นเอง?.. เราแค่คิดส่วนตัวเท่านั้นนะครับ(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 15 ตุลาคม 2567 เวลา:4:28:04 น.  

 
13.”สังคมไทยปัจจุบัน”เป็นสังคมที่”ทำผิด?”แล้วไม่มีการสอนเรื่อง”การสำนึกผิด?”,แต่สอนเรื่อง”การเอาตัวรอดเฉพาะตัว?”,หรือ”เอาตัวรอดเฉพาะหน้า?”,หรือ”รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี?..(แล้วดันบอกว่า”เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ?”,หรือ”คนไทยเป็นคนจิตใจดี?”)..
ซึ่งผิดกับ”ญี่ปุ่น”ซึ่งเมื่อมี”เหตุกระทบกระทั่ง”แม้ว่าไม่ตั้งใจ,เขาจะแย่งกัน”โค้งคำนับซึ่งกันและกัน”ไปเรื่อยๆหลายรอบ,โดยต่างฝ่าย,ต่างแย่งกันละล่ำละลักเพื่อบอกว่า”ผมเป็นผู้ผิดเองครับ”..ประมาณนั้น(ที่เราเคยได้ยินมา),จึงไม่แปลกว่า..ทำไม”สังคมบ้านเมืองญี่ปุ่น”จึงเจริญรุดหน้ามากมายกว่าเราเกิน50เท่าขึ้นไป(?)..นั่นเอง(?)..
จึงอาจมีคำพูดประมาณนี้.. คือ..


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 15 ตุลาคม 2567 เวลา:6:20:02 น.  

 
14.“ผมเป็นหัวหน้า,คุณเป็นลูกทีม ถ้าคุณไม่พอใจ,หรือคุณคิดว่าคุณไม่รู้เท่าทันในระบบวิธีการของเรา.. เอางี้..ถ้าคุณต้องการเงินคืน,คุณก็ใช้วิธีการแบบเดียวกันนี้ไปหาลูกทีม,เพื่อขายสินค้าให้กับลูกทีมต่อไปเรื่อยๆเป็นทอดๆก็แล้วกัน..โอเคนะครับ”..?!?..
นี่เท่ากับแปลไทยเป็นไทยว่า.. “ถ้าคุณคิดว่าคุณถูกหลอก,คุณก็ต้องแก้ปัญหาของคุณด้วยตัวคุณเอง,โดยการไปหลอกลูกทีมของคุณอีกต่อหนึ่ง,และก็ต้องหลอกต่อกันไปเป็นทอดๆ,ก็แล้วกัน?”..


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 15 ตุลาคม 2567 เวลา:6:21:42 น.  

 
15.ทำให้เรานึกถึง”หนังโรงใหญ่”นานมากแล้ว,แต่เราจำชื่อหนังไม่ได้,แต่เราจำแม่นเลย,เป็นแบบว่า”ตลกร้าย?”(ถ้าคิดว่าเหตุการณ์นั้นมาเกิดกับเรานะ),ที่มีคน”ชาวแขกๆ”ร่วมแสดง.. คือ..”ฝรั่งคนหนึ่ง”(พระเอก)ไปเป็นคล้าย”สายลับ”ใน”เมืองแขกๆ”นี้..
และก็คล้ายๆไปถูก”วัยรุ่นแก๊งค์วิ่งราวทรัพย์?”,เขาสร้างบท(ซึ่งอาจอิงกับ”เรื่องจริง”อยู่บ้าง?)ประมาณว่า.. “วัยรุ่นโจรคนหนึ่ง”ฉวยเอา”นาฬิกาที่มีค่า”ของเขาไปต่อหน้า,เขาก็เห็นตัวอยู่,และก็วิ่งไล่ตามไปติดๆ,เมื่อ”วัยรุ่นโจร”จวนจะหนีไม่ทัน,ก็ส่งต่อ”ทรัพย์นั้น”ให้กับ”วัยรุ่นคนถัดไป”ซึ่งรอรับช่วง,วางแผนกันไว้แล้ว,เป็นทอดๆเกือบ10ทอด,เหมือนว่าหลอกล่อไปมา,จนคนวิ่งตาม(พระเอก)หอบแฮ่กๆ,เหนื่อยจนแทบจะตามต่อไม่ไหว..
ที่สุดจึงต้องยอมรับสภาพ,ให้”เด็กวัยรุ่น”(ที่”ฉลาดแกมโกง?”)มีพฤติกรรม”หลอกล่อ?”และ”เชิดเอาทรัพย์ไปต่อหน้าต่อตา?”,โดยที่”ตัวพระเอก”ไม่สามารถทำอะไรได้เลย,ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ็บปวดอย่างมาก..ประมาณนั้น..


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 15 ตุลาคม 2567 เวลา:6:23:42 น.  

 
16.ประมาณว่า.. “สังคมของเขา”(กลุ่มนี้,เมืองนี้)มี”ธรรมเนียมปฏิบัติ”ที่เมื่อเห็น”ชาวต่างชาติมาเที่ยว”ก็จะทำ”พฤติกรรมเช่นนี้”,จนถือเป็นการ”ประกอบอาชีพ”เช่นนี้เป็นปกติ.. ส่วนถ้า”พระเอก”คิดว่าจะไป”แจ้งตำรวจให้ตามจับ”ก็คงจะทำอะไรไม่ได้มาก,เพราะ”ตำรวจ”ก็เป็น”คนชนชาติเดียวกัน”กับพวก”โจรวัยรุ่นเหล่านั้น”..นั่นเอง(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 15 ตุลาคม 2567 เวลา:6:25:26 น.  

 
17.ดังนั้น..”ภาครัฐ”และ”ภาคศาสนา”จึงต้องร่วมกันอบรม”ภาคปชช.”กันอย่าง”จริงจัง,ต่อเนื่อง,และเข้มงวด”ว่า.. ต้องอย่าให้”ประชากรทุกภาคส่วน”เกิดการ”หลงผิด”(มิจฉาทิฐิ)ว่า.. การต้องการ”อยากรวยเร็วๆ”ด้วย”วิธีง่ายๆ”แบบ”เสือนอนกิน?”,ด้วยการ”ได้เปรียบทางฐานะเศรษฐกิจ”และ”ทางเทคนิควิธีการ”ต่อ”ชนชั้นล่าง,ชั้นกลางทางสังคม”(ซึ่งอาจ”ฉลาดน้อยกว่า?”)ซึ่งเป็นบริบทของ”ปลาใหญ่กินปลาน้อย..สัตว์ใหญ่กินสัตว์น้อย..เป็นกฎเกณฑ์...ไม่ใช่คน”.. แต่กลับมองว่าเป็น”สิ่งที่ดีงาม,น่าเคารพ,เทิดทูน,ยกย่อง,ป้อยอ”,หรือคิดว่าเป็น”สิ่งที่ถูกต้อง”..ไปเช่นนั้นเลย(?)..
เพราะ”บริบท,ประวัติที่ผ่านมา”ของ”คนที่ร่ำรวยเร็ว”(หรือ”ร่ำรวยผิดปกติ”)ล้วนมาจากการ”ได้เปรียบ”ต่อ”คนชั้นกลางและชั้นล่าง”มาก่อนเป็นส่วนมาก..แทบทั้งนั้น(?)..
ซึ่งไม่ว่าจะเป็น”ศาสนาพุทธ,คริสต์,อิสลาม”ล้วนสอนตรงกันว่า..”ไม่ให้มนุษย์เอาเปรียบต่อกันและกัน”.. แต่สอนให้”ประชาชาติทั้งหลายเอื้อเฟื้อ,เกื้อกูลกัน,แจกแบ่งปันกัน”..นั่นต่างหาก..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 15 ตุลาคม 2567 เวลา:7:03:35 น.  

 
18.เนื้อเพลง ปลาใหญ่ ปลาน้อย
ในห้วงมหาสาครใหญ่
กว้างไกลสุดหูสุดตา
ชีวิตนานับที่เกิดมา
เวียนว่ายตายเกิดเป็นธรรมดา
ล้มหายตายจากเป็นธรรมดา
เป็นกฎเกณฑ์ เป็นกฎเกณฑ์

สัตว์หนึ่งร่างกายใหญ่กล้า
เรี่ยวแรงแกร่งมหาทั้งดุร้าย
กัดกินสัตว์เล็กให้ตายไป
เป็นกฎธรรมชาติให้เป็นไป
ปลาใหญ่กินปลาน้อย
สัตว์ใหญ่กินสัตว์น้อย
เป็นกฎเกณฑ์.....ไม่ใช่คน

เหลียวมองดูสังคมของคน
มีมือที่มากล้นด้วยคุณธรรม
ผู้คนมีสัจจะส่องนํา
แสงธรรมนําพาดังแสงทอง

เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เถิดพี่น้อง
เมตตาคํ้าจุนโลกนะพี่น้อง
ไม่เป็นคนรกโลกต่างเป็นเพื่อนเป็นพ้อง
หัวใจจะอิ่มเอิบเป็นสีทอง
ศรัทธาก็จะมาเป็นก่ายเป็นกอง

ปลาใหญ่เป็นเพื่อนปลาน้อย
สัตว์ใหญ่เป็นเพื่อนสัตว์น้อย
เป็นกฎเกณฑ์.....สร้างกฎเกณฑ์กันเถิดคน
อ้างอิง https://www.siamzone.com/music/thailyric/444


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 15 ตุลาคม 2567 เวลา:7:12:06 น.  

 
19.จากการที่เราดู”ข่าวจากหน้าจอ”ต่างๆ.. เราขอสรุปว่า.. ในข่าวดังที่เป็นข่าวช่วงนี้นั้น.. จะมีคนระดับ”ชั้นบริหารธุรกิจ”อยู่ท่านหนึ่ง,ที่เรามองส่วนตัวจาก”โหงวเฮ้ง,การแสดงออก”ที่ปรากฏ.. คือ..เป็น”คนที่ฉลาด,มีเหลี่ยม?”[หน้าตาจะดูมี”หมอกแห่งความลับ?”เพื่อ”ปิดบังตัวตนที่แท้จริง?”มาปกคลุมอยู่มาก,เหมือนว่าเรามองเห็น”ความกระหยิ่มของเขาอยู่ในใจ?”,คล้ายเขารู้สึกว่า..ตนเองสามารถกระดิก,ดีดนิ้ว,คลุมเกมส์อยู่ในใจ,เพื่อดำเนินตามแผนที่ตั้งไว้ในใจได้เลย,โดยที่ไม่ได้รู้สึกวิตกใดๆ,และไม่ได้เห็นแก่”ความถูกต้องชอบธรรมของสังคม”ใดๆด้วย?,โดยที่กล้าพูดเต็มปากทำนอง”ขอไม่เปิดเผย”ในส่วนที่น่าจะเป็น”ประโยชน์ต่อประเทศชาติ?”อีกด้วย?(ซึ่งเห็นได้ค่อนข้างชัดเลยครับ?),ซึ่งเราอยากบอกส่วนตัวว่า..”ความไม่ชอบมาพากล”ของ”มนุษย์ทุกคน”(โดยเฉพาะที่ต้องเผชิญหน้ากับสื่ออยู่เป็นประจำ)สามารถแสดงออกมาได้ทาง”กล้ามเนื้อใบหน้า?”..เช่น..”ความหนาขึ้นมาของโหนกแก้ม?”ของ”ผู้ที่เคยชิน”อยู่กับการต้อง”ปกปิดการได้เปรียบของตน?”ต่อ”ประชาชนส่วนมาก?”อยู่เป็นเวลานาน?,ซึ่งต้อง”รับหน้า,พูดจากับประชาชน?”ที่ตนเองเป็น”ผู้ได้เปรียบเขาเหล่านั้น?”อยู่เป็นประจำ(ซึ่งอย่าคิดว่าจะสามารถ”ปกปิด?”ผ่าน”ใบหน้าและแววตา?”ของ”ตนเอง?”ได้),ซึ่งธรรมชาติจะเริ่มสร้าง”หนังตรงโหนกแก้ม?”ให้ต้อง”หนาตัวขึ้นเรื่อยๆ?”,ซึ่งเป็น”หลักของพุทธ”,ซึ่งเชื่อเรื่อง”จิตบงการกายภายนอก”,เพราะเชื่อเรื่อง”จิตเป็นใหญ่กว่ากายภายนอก”,หรือ”จิตเป็นนาย,กายเป็นบ่าว”(ซึ่ง”กายต้องทำตามจิตบงการ”เสมอ)นั่นเอง(?),โดยจะปรากฏภาพได้อย่างชัดเจน,สำหรับ”ผู้ที่ดูออก”,เมื่อ”บางคนนั้น?”กำลังอยู่”ต่อหน้าสื่อ?”,ที่ถ้าสังเกตดีๆ,จะสามารถรับรู้ได้ไม่ยากครับ].. และ”บางคนนี้”ยังสามารถ”สร้างเกมส์?,สร้างภาพ?”(เหมือนกับ”หญิงผู้ดูแลสังคมท่านหนึ่ง?”ที่ได้หนีออกไปอยู่ต่างประเทศแล้ว),ที่มี”ลีลา,ชั้นเชิง?”ได้อย่างแนบเนียน,และรวมทั้งมีการ”วางแผนเชิงรุก,รบ,รับ?”ได้อย่างแยบยลมากอีกด้วยครับ(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 15 ตุลาคม 2567 เวลา:13:54:42 น.  

 
20.สมมุติว่ามี”ใครบางคน?”ที่ปรากฏชัดว่า..ได้รู้,ได้เห็น,ได้ยินว่า..ใครคือ”ผู้เรียกตบทรัพย์?”?,เพื่อช่วยเหลือในการ”หลีกเลี่ยงการตรวจสอบทางกฎหมาย?”,กับ”ธุรกิจของตน?”,โดยการต้องจ่ายเป็นเงินจำนวนหนึ่ง,และต้องจ่ายประจำอีกทุกเดือน,แล้วก็อ้างว่า..ไม่ขอ”พาดพิงหรือเปิดเผยตัวผู้ที่มาเรียกตบทรัพย์นั้น”,ทั้งๆที่คุณรู้จักกันกับเขาเป็นอย่างดี(ซึ่งเท่ากับไม่ประสงค์จะให้ความร่วมมือกับทางราชการ?),อย่างนี้จะทำได้ใช่มั้ย?..
เพราะถ้าคุณเปิดเผย”ตัวบุคคล”ที่มาเรียกตบทรัพย์คุณ,คุณก็อาจถูก”กันเป็นพยาน?”เฉพาะในคดีนั้น(?),แต่ถ้าคุณมีเจตนา”ร่วมปิดบังผู้ทำผิด?”,จะมองได้มั้ยว่า..คุณกำลัง”เอื้อประโยชน์?”ต่อ”คนโกง?”ที่มีเรื่องทำผิด”กฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคงฯ”ด้วยหรือไม่?..
คือเท่ากับไม่ให้”ความร่วมมือ?”เพื่อ”ขจัดคนโกง?”ที่ร่วมสร้าง”ความเสียหาย?”ให้กับ”ระบบรัฐโดยรวม?”,และที่สุดคุณอาจจะต้องรับ”โทษหนัก?”ในเรื่อง”กฎหมายความมั่นคง?”หรือไม่?,ซึ่งถ้าเป็นคนมี”เชื้อสายต่างชาติ?”อาจถึงขั้น”ถูกเนรเทศออกจากประเทศไทย?”ไปเลยก็เป็นได้ด้วยหรือไม่?.. ใช่หรือไม่?..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 16 ตุลาคม 2567 เวลา:0:07:22 น.  

 
21.ฝากไปยัง”นักธุรกิจแบบพิสดารซับซ้อน?”(บางส่วน)ว่า.. ทุกครั้งที่คุณหยิบ”นาฬิกาหรูมาสวมในข้อมือ?”,และทุกครั้งที่คุณก้าวขึ้น”รถหรู?”.. คุณไม่รู้สึกเลยหรือว่า..”นาฬิกาหรู?”และ”รถหรู?”ที่คุณใช้เพื่อ”อวดโชว์สังคม?”อยู่นั้น?,คุณได้มาจาก”หยาดเหงื่อ?,เงินสะสมก้อนสุดท้าย?”ของ”ชนชั้นกลาง,ชั้นล่าง?”ที่”ไม่รู่เท่าทันเกมส์ของคุณ?”,และ”ฉลาดน้อยกว่าคุณ?”กันทั้งนั้น(?)..
คุณไม่ได้วางตัวแบบ”ใกล้ชิด,เป็นเพื่อนแท้?”กับ”คนรากหญ้า?”,รวมทั้ง”คนชั้นกลาง?”แต่อย่างใดเลย(?).. คุณพยายาม”สร้างภาพตัวเอง?”ให้ดูแล้ว”ชวนหลงใหล?”ที่ทำให้ทั้ง”คนระดับรากหญ้า?”และ”คนชั้นกลาง?”เกิด”ความฟุ้งฝัน?”ที่จะเป็นให้ได้อย่าง”พวกคุณ?”ได้บ้างเช่นกัน?..เท่านั้นเอง(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 16 ตุลาคม 2567 เวลา:0:45:42 น.  

 
22.“คุณณวัฒน์”พูด(ในบางคลิป,ช่อง”Lady Society”,13-10-67)เรื่อง”ซีโร่ซัมเกมส์”ได้เข้าใจง่ายมาก.. ประมาณว่า.. มันต้องมี”คนเสียเงิน”(ชั้นล่างสุด),มันถึงมีคนได้เงิน(ชั้นบนสุด).. คือ..”เงินจากสมาชิกข้างล่าง”จะมาดัน”ผลประโยชน์”ให้กับ”ทุกคนที่อยู่ข้างบน”จนถึง”ตัวเจ้าของกิจการสูงสุด?”..ประมาณนี้ครับ(?)..
ซึ่งเราขอ”ตีความแบบของเรา”เพิ่มเติม.. คือ.. ถ้าไม่มี”คนฐานรากปีรามิด?”จำนวน(กว้าง)มาก,ที่เป็น”ผู้สูญเสีย?”หรือ”ถูกเอาเปรียบ?”หรือ”ไม่ได้รายได้อะไรเลย?”,ก็จะไม่มี”คนระดับยอดปีรามิด?”เพียง”นิดเดียว?”ที่ใช้ชีวิตอย่าง”อู้ฟู่,หรูเริ่ด?”ซึ่งcontrastกับ”คนระดับฐานปีรามิด?”ราว”ฟ้ากับดิน?”ได้?..เช่นเดียวกัน(?).. ประมาณนี้ครับ(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 16 ตุลาคม 2567 เวลา:1:49:13 น.  

 
23.ขอสรุปเป็นส่วนตัว(เฉพาะ ณ วันนี้).. คือ..
(1)คนที่ฉลาดแบบprogress,advanceที่สุดในยุคนี้..คือ.. “ณวัฒน์,กรรชัย,ทนายตั้ม”..ครับ..
(2)ส่วนคนที่กล้าพูดแบบตรงไปตรงมามากที่สุดของยุคนี้.. คือ..”ทนายเดชา”และ”ทนายตั้ม”ครับ..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 16 ตุลาคม 2567 เวลา:2:24:35 น.  

 
24.(วิเคราะห์กรณีที่”ท่านว.”พูดส่งเสริมให้”ฆราวาสมุ่งอยากรวย?”จนถูกวิพากษ์วิจารณ์,และท่านยังพูดเรื่องคำว่า”หัวใจเศรษฐี”ด้วย)..
เราเห็นว่า..”สังคมชาวพุทธไทย”มันน่าปวดหัว,ตรงที่ไม่ว่า”ประชาชนทั่วไป”หรือ”นักธุรกิจ,นักการเมือง”ก็ล้วนแต่มุ่งแสวงหา”ความมีทรัพย์มากๆ”มาเพื่อ”บำรุงบำเรอกิเลสให้ตน”,จึงไม่ค่อยสนใจ”หลักการสำคัญของพุทธศาสนา”กันสักเท่าไหร่?..
จะคบหาพระ,ก็มุ่งแต่จะให้พระมา”อวยชัย,ให้พร”ให้ตนเองเป็น”เศรษฐี”ไวๆเท่านั้น.. ตามจริงเรามองว่า..คำว่า”เศรษฐี”น่าจะแปลเอา”ความหมาย”คือ”ผู้ที่มีความพร้อมทางเศรษฐกิจ”ที่จะ”เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผู้ยากไร้”ได้มากกว่า”ผู้อื่น”..นั่นมากกว่า(?)..
แต่”พระ,เจ้า”ก็ไปมุ่งใช้คำว่า”หัวใจเศรษฐี”(เพื่อจูงใจให้คนมาฟัง,เพราะรู้”จิตวิทยา”ว่า..”มนุษย์มุ่งหวังแต่ความร่ำรวยด้วยทรัพย์”,เพื่อจะใช้ทรัพย์นั้นมา”สนองกิเลสของตน”,จึงคล้ายว่า”พระมุ่งเอากิเลสมาล่อคน?”นั่นแหละ),ซึ่งทำให้นัยยะผิดเพี้ยนไป..
เพราะหัวใจของ”พุทธศาสนา”ไม่ได้มุ่งเน้น,เสริมส่งให้คนมา”มุ่งแสวงหาความรวย”(ซึ่งเป็น”นัยยะของกิเลส”โดยแท้)แต่อย่างใด?..
มี”คำสอนพุทธ”บอกชัดเจนว่า..”ผู้ที่ร่ำรวยด้วยทรัพย์แล้ว,ที่จะไม่ทำผิดต่อผู้อื่น,สัตว์อื่นด้วยทรัพย์ของตนนั้นหาได้ยาก”,และพระพุทธเจ้ายังชี้บอกสาวกด้วยว่า"เงินคืออสรพิษ?"ด้วย..นั่นไง?.. แต่”หลักพุทธ”นั้นมุ่งให้คนมาอยู่อย่าง”มักน้อย,สันโดษ,พอเพียง,พอประมาณ”นั่นต่างหาก(?)..
ดังนั้น.. พระจึงไม่ควรพูดคำว่า”หัวใจเศรษฐี”เพื่อ”ล่อให้กิเลสคนเฟื่องฟู?”กันให้มากนัก(?).. เพราะ”ความหมาย”(หรือ”อัลกอริทึ่ม”)มันเปลี่ยนไปแล้วครับท่าน..
จริงๆ..คำว่า”เศรษฐี”ที่”ชาวพุทธไทย”ทุกวันนี้เข้าใจ,มันไปตรงกับคำว่า”กระฎุมพี”(ซึ่งแปลว่า”ผู้มีเงินมากแต่ไร้ธรรมะ,ใจดำ”,ดังเนื้อเพลง”ที่บอกว่า”กระฎุมพีกินแรงแบ่งชนชั้น”นั่นไง?)นั่นต่างหากครับ..
แต่ที่จริงควรเปลี่ยนใช้คำว่า”หลักที่สร้างความเจริญที่ถูกหลักศีลธรรมสำหรับเพศฆราวาส”นั่นจึงน่าจะตรงกับ”ความหมาย”ที่”พุทธศาสนา”เจตนาส่งเสริม..มากกว่าครับ..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 16 ตุลาคม 2567 เวลา:5:00:43 น.  

 
25.เรามองว่า”สังคมพุทธไทย?”ผิดพลาดมาแต่ไหนๆ(?).. เพราะไม่พยายามถามไถ่,ซักซ้อม,ตรวจสอบกันให้ถูกต้อง(?).. เช่น..ติดนิสัยแบบ”ศรีธนญชัย”ที่ชอบ”ซิกแซ็ก?”(?).. เช่น.. “เอาเงินบาปมาทำบุญถวายพระ?”.. ส่วน”พระบางรูป”ก็หลับตาข้างหนึ่ง?,หรือไม่มีปัญญาที่จะปฏิเสธเงินที่เขานำมาทำบุญนั้น(?),ทั้งๆที่ก็อาจจะพอรู้ว่า”เงินนั้นไม่บริสุทธิ์?”(?),แต่ก็อาจเกรงบารมี”ผู้ใหญ่ที่มียศบางคน?”,ก็เลยไม่กล้าท้วงติง(?)..
จริงๆ.. “พระที่รับเงินที่ไม่บริสุทธิ์?”,ก็เท่ากับ”ช่วยฟอกเงิน?”นั้นๆด้วย(?),แทนที่จะเป็น”เรื่องบุญ?”กลับกลายเป็น”เรื่องบาป?”ไปซะอย่างงั้น?,เกิดเป็น”คดีความ”ฐาน”ร่วมฟอกเงิน?”หรือ”รับของโจร?”ไปเสียอีก(?)..ประมาณนั้น(?)..
อย่างกรณี”บางวัด”ที่มีประวัติว่า..สร้างโดย”หญิงคณิกา”หรือ”หญิงงามเมือง”ในอดีต,ซึ่งถ้าศึกษาธรรมให้ดีๆ,ตามหลักก็ไม่ถูกต้อง(?).. คือ”การทำบุญ,ทำทาน”,”ทางพุทธ”ถือว่า”ทรัพย์ที่ได้มาต้องบริสุทธิ์”เป็นอันดับแรก,ถ้า”ทรัพย์ไม่บริสุทธิ์?”ก็จะมีสภาพที่”ไม่เต็มบุญ?”,พาให้เกิด”ความมัวหมอง?”ได้ในหลายบริบท(?)..
เช่น.. อาจถูกครหาในภายหลัง,ทั้ง”ผู้ให้”และ”ผู้รับ”ก็อาจ”เศร้าหมอง,ไม่สบายใจ”ได้ในภายหลังเสียอีกด้วย(?).. จึงเท่ากับ”ทำความดี”แล้วก็ยัง”ไม่สบายใจ?,ตะขิดตะขวงใจ?”เหมือนเท่ากับตกไปใน”หลุมของความบาป?”ที่”ตนเอง?”ได้”ทรัพย์ที่นำมาทำบุญ?”โดยไม่ถูกต้อง(?)..นั่นเอง(?)..
ดังนั้น.. ถ้าหมุนเวลากลับได้,ทานจาก”เงินโสเภณี?”ก็ไม่ควรจะนำมาสร้างวัดนะ?..เราว่า(?),ส่วนจะหลบเลี่ยงไปให้”ทานทั่วไป?”.. เช่น.. “ซื้อสัตว์มาปล่อย”,หรือ”ซื้ออาหารมาเลี้ยงปลา”อย่างนี้ก็พอได้(?),เพราะสัตว์ไม่รับรู้ว่า”เงินที่นำมาปล่อยสัตว์?”นั้นได้มาจากไหน?.. เช่นนี้เป็นต้น(?).. ตีว่า..แค่นำ”เงินไม่บริสุทธิ์?”นั้นมาไถ่บาปไปได้บ้างบางส่วน?..เท่านั้น(?)..
ดังนั้น.. พระจึงต้องตรวจสอบ”เงินที่ฆราวาสนำมาทำบุญกับวัด?”ให้ดีๆ(?).. ถ้ารู้ว่า”บางบริษัท?”นั้นได้เงินมาอย่าง”ไม่บริสุทธิ์,มีลักษณะล่อลวง,จูงใจ?”,แล้วจะมานิมนต์หรือบริจาค,เพื่อ”สร้างภาพ?”ให้แก่”กิจการบาปของตนเอง?”ใดๆก็ตาม(?),แม้เป็นพระ,จะปฏิเสธทานนั้นก็ยังได้(?)..
และยังสามารถสั่งสอน,อบรม,สำทับให้”หยุดการกระทำนั้น?”(?),และให้รีบ”หยุดกิจการบริษัท?”ที่มีลักษณะ”เอาเปรียบประชาชนผู้เป็นรากหญ้า?”ที่”หวังรวยเร็ว?”นั้นเสียก็ยังได้(?)..
แต่ไม่ใช่ว่า..แล้วยังจะมา”โหนพระ?”(“สังคมไทย?”,ทำไมจึงมีแต่”คนชอบโหน?”,แปลกนะ?),เพื่อให้”บริษัทของตน?”ดูดี?,และจูงใจให้คนที่ไม่รู้เท่าทัน”เกมส์โปรโมตบริษัทของตน?”อยากมาเข้าร่วมงานกับ”บริษัทของตน?”เพิ่มมากขึ้นอีกซะเนี่ย?.. เช่นนี้..”พระที่รู้เท่าทันเกมส์?”ก็ไม่ควรแสดงตนเป็น”ผู้สนับสนุน?”ให้”บางบริษัทนั้นๆ?”ใช้เป็น”เครื่องมือโฆษณา?”โดยเด็ดขาด(?).. ประมาณนี้ครับ(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 16 ตุลาคม 2567 เวลา:7:49:38 น.  

 
26.เราดู”เอกสายไหม,ทนายตั้ม”ร่วมแถลงข่าวใน”คลิปข่าว”ของ”ช่องอมรินทร์,16-10-67”แล้ว,รู้สึกตลกมากๆครับ.. แต่เป็น”ตลกร้ายของประเทศไทย”..(เราว่าแก้คอร์รัปชั่น,แก้ไม่ได้หรอกครับ?,ตราบใดที่”ฝ่ายการเมือง”มีอำนาจ”แต่งตั้ง,โยกย้ายข้าราชการ”ครับ?)..
เพราะไม่ว่าจะแตะไปที่จุดไหน?.. “โมเดล?”(ที่เป็นเหมือนตึกราม)ของ”จุดนั้น?”,จะอ่อนยวบ,พังพาบลงไปเป็นทอดๆ,เหมือนกับ”โดมิโน?”ทันที,โดยที่ไม่รู้ว่า”โดมิโน?”ที่ล้มตามๆกันนั้น?,จะไปสุด,หยุดลงที่ตรงไหน?..
เราเคยเสนอว่า.. ควรแก้ไข”ระบบการเมือง”ไม่ให้”ฝ่ายการเมือง”มามีอำนาจในการ”แต่งตั้ง,โยกย้ายข้าราชการประจำ”,รวมถึงอาจยกเลิก”ระบบพรรค?”(พวก?),โดยให้มีแต่”สส.อิสระ”เป็น”ผู้ตรวจสอบรัฐบาลในภาพรวม”และ”อนุมัติงบประมาณ”..เท่านั้น(?)..(ซึ่งก็มี”สว.”และ”องค์กรอิสระ”และ”ศาลต่างๆ”เป็นผู้คอย”ตรวจสอบอีกชั้นหนึ่ง”อยู่แล้ว)..
เพราะถ้ายังเป็น”ระบบเดิม”,จะทำให้”ฝ่ายการเมือง”มาครอบงำเรื่อง”ผลประโยชน์ในทางมิชอบ?”( =”ผลประโยชน์ทับซ้อน”และ”คอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย”)ผ่าน”ระบบการแต่งตั้ง,โยกย้าย”ได้แทบทุกจุด,ใน”ระบบราชการ”(?)..
คือเราอยากให้”แก้กฎหมาย”ให้”ฝ่ายการเมือง”เป็นแค่”ผู้เสนอแนะนโยบาย”,แต่ไม่มี”อำนาจแต่งตั้ง,โยกย้ายใดๆ”,แต่ให้”ระบบราชการ”เขารันเรื่อง”ตำแหน่งต่างๆ”กันเอง,เพราะเขาก็สามารถทำงานของเขาได้เรื่อยๆอยู่แล้ว,แม้ช่วงที่ไม่มี”รัฐบาล”,หรือมีแค่”รัฐบาลรักษาการณ์”เท่านั้นก็ตาม..
แล้วเราก็เคยเสนอว่า.. ให้”คณะกรรมการภาคประชาชน”เป็น”ผู้คอยตรวจสอบ,สังเกต”(เพราะสายตาของ”ประชาชนจำนวนมาก”,มักไม่ผิดพลาดอยู่แล้ว),อาจมีเป็นหลัก”100-500คน”โดย”การสุ่ม”หรือ”ต่อคิว”เวียนกันเข้ามา(รอบละ3-6เดือน)แบบ”ไม่ซ้ำคนเดิม?”(และไม่มีเงินเดือน,มีแค่อาหารเลี้ยงเท่านั้น)..
เพื่อเป็นเหมือน”คนดูข้างสนาม?”ที่คอยดูว่า”กรรมการ”(หรือ=”คนทำงานในระบบราชการ”และ”คณะรัฐบาล”)ในสนาม,ตัดสินผิดพลาดใดๆหรือไม่?,และมี”อำนาจยับยั้ง”(วีโต้)ในสิ่งที่เห็นว่า”ไม่ถูกต้อง”ได้ทันที(?),และให้”หน่วยงานนั้นๆ”หาคนใหม่มาทดแทน(?).. คือสรุปว่า..”ภาคการเมือง”มีหน้าที่แค่”เสนอแนะนโยบาย”เท่านั้นครับ(?)..ประมาณนี้ครับ(?).. จึงจะป้องกัน”การทุจริตในประเทศไทย”ได้ครับ(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 16 ตุลาคม 2567 เวลา:15:12:57 น.  

 
27.(ฟังรายการช่องของ”หมาแก่-แมวสาว”,16-10-67)..
ประเทศไทยนี่น่าเวียนหัว,ชวนสับสนมาก.. ทุกวันนี้มีทั้ง”เทวดาชั้น18”บ้าง?,”เทวดาคุ้มครองบ.ขายตรง”บ้าง?,”เทวดารอรับเครื่องเซ่นจากบางหน่วยราชการ?”บ้าง(?)..
อยากขอให้”เปิดช่องทางกฎหมาย”ให้”สื่อมวลชนต่างๆ”สามารถ”พูดชื่อตรงๆ”ได้เลย,โดยมี”กฎหมายคุ้มครอง,ไม่ต้องถูกฟ้องร้อง?”ได้ไหม?.. แต่ให้เปิดโอกาสให้”ผู้ถูกกล่าวหา”สามารถมา”แก้ข้อกล่าวหาผ่านสื่อนั้นๆ”ก็ได้ด้วย(?).. เท่านั้น(?).. เพราะประชาชนรู้สึก”ปวดหัว?”,ในขณะที่”ดูข่าว”ที่มีพูดถึง”ชื่อย่อ,นามแฝง”..เช่น..”เทวดา”บ้าง?,”ลูกกรอก”บ้าง?,อะไรสารพัดเหล่านี้นี่น่ะ?.. ได้โปรดเถอะ(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 16 ตุลาคม 2567 เวลา:17:14:06 น.  

 
28.(พระบางองค์..ถูกมารหลอก..สอนพลาดแล้ว?)..
(1)“พระบางองค์”เคยพูดว่า”ฆ่าเวลาบาป(ยิ่ง)กว่าฆ่าคน(?)”..ฮือฮาไปทั่วประเทศในชั่วพริบตา,เสียงวิจารณ์อื้ออึงไปทั่ว.. ว่า..”มันใช่หรือครับท่าน?”..(เพราะต้องระวังว่า..”ก่อนพูดเราเป็นนายของคำพูด”.. แต่พอ”พูดออกจากปากแล้ว,คำพูดนั้นจะมาเป็นนายของเรา”???)..
(2)“พระกิตติวุฑโฒ”เคยพูดว่า”ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป(?)”.. ก็”ชื่อดับ?”นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้.. จนท่านก็เสียชีวิตไปแล้ว..
(3)“คนดังบางคน?”ในอดีต.. มีคนหนึ่ง(นามสกุล”รักษากวาง”)ที่เป็นนักพูด”ชวนฮา”(คล้ายๆกับ”คุณโน้ตเดี่ยว”ในสมัยนี้..นั่นหละ?),ที่สังคมไทยให้การยอมรับ,ต่อมาก็ได้รับเลือกเป็น”สส.”,ภายหลังพลาดแค่แสดง”มุกตลก?”ที่ใช้”สำบัดสำนวน?”มากล้นเกิน?..ทั้งๆที่กำลังอภิปราย”เรื่องสำคัญของบ้านเมือง”อยู่ใน”สภาผู้แทน”,ซึ่งเท่ากับ”ขุดหลุมฝังตัวเอง?”?..
หลังจากนั้น..”ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ”ใน”พฤติลีลาการพูด?”แค่ครั้งเดียวนั้น(?).. จึงต่อมา..จึงพาตัวเองหายเข้ากลีบเมฆไปเลย(?)..จนถึงทุกวันนี้(?)..
เราขอยืนยันตาม”ประสบการณ์ส่วนตัว”ที่เคยศึกษา”ทางพุทธ”(รวมทั้ง”ศาสนาอื่นๆ”)มาบ้าง.. ว่า..
“มุ่งรวยนั้นไม่ใช่พุทธ”.. แต่..
”มีเงินมาก,มีเงินเหลือ,ได้เงินมามากด้วยบารมีส่วนตัว..แล้วแจก,แจก,แจก..นั่นคือพุทธ(แท้)”..(นั่นต่างหาก)..
ดังนั้น.. พระที่ส่งเสริมให้”ฆราวาส”มุ่งไขว่คว้า,แย่งชิง”ความร่ำรวย?”..จึงไม่ใช่”ความถูกต้อง,ชอบธรรม”ของการเป็น”พระของพุทธ?”,ซึ่งมีหน้าที่สอนให้”คนตัดกิเลส,ลดความเห็นแก่ตัว,ลดการเอาเปรียบต่อสังคม,และต่อผู้ที่ฉลาดน้อยกว่าตนเอง?”..แต่อย่างใดเลย(?)
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 17 ตุลาคม 2567 เวลา:20:14:30 น.  

 
29.(เราได้ชม”ช่องสถาบันทิศทางไทย”,18-10-67).. มีความคิดเห็นส่วนตัวว่า..
ถอดรหัส..”อาร์ต พศุตม์”พูดได้ดี.. “ถ้ามันรวยง่ายๆขนาดนั้น(โดยไม่มีเรื่องซ่อนแฝง),เขาจะบอกเราง่ายๆมั้ย?,เขาก็ต้องบอกญาติของเขาสิ.. และเพราะผลประโยชน์ตอบแทนมันผิดปกติ(?)(ซึ่งถ้าไม่โลภอยากได้เงินมาง่ายๆ..ก็จะไม่ตกหลุมกับดักของคนที่ฉลาดกว่าหรอกนะ?)..
เราขออธิบายเพิ่มประมาณว่า.. เขาก็ต้องบอกแต่”ญาติๆที่ใกล้ชิดของเขา”,เขาจะมาบอก”คนอื่น”ให้มา”ร่วมตักตวงด้วย?”ทำไม?.. แค่นี้ก็ชัดแล้วสำหรับธุรกิจแนวคล้าย”ไดเร็ค?”และ”แชร์ลูกโซ่?”,ว่าจะหวังดีกับ”คนรากหญ้า?”และ”ชนชั้นกลาง?”..จริงหรือไม่?..
คือ..การพยายามหาคนมาเป็น”สมาชิก”ของ”บางธุรกิจ”.. ก็คือ.. เขาย่อมหวังประโยชน์แห่งการได้”กินหัวคิวเป็นทอดๆ?”,ซึ่ง”คนที่อยู่หัวปีรามิด?”ย่อมจะอิ่มที่สุด,และได้รับเกียรติสูงที่สุด(แบบคล้ายส่งเสริม”ระบบเสือนอนกิน”หรือ”ระบบเอาเปรียบคนชั้นล่างและคนชั้นกลาง?”)นั่นเอง..
แต่”คนต้นทาง”หรือ”เจ้าของบริษัท”มักจะได้”เปอร์เซ็นต์?,ส่วนต่าง?,หรือหัวคิว?”ที่มากกว่า”ผู้อื่น”อยู่แล้ว?..แน่นอน?).. นั่นเอง(?)..ใช่มั้ยล่ะ?..
ซึ่งเป็น”ทฤษฎีแห่งความโลภ?”สอนคนให้โลภ?(ประมาณว่า.."สอนลูกให้รวย?,สอนรวยให้ลูก?",หรือ"พ่อรวยสอนลูก?",หรือ"มอมสมองคนให้คิดแต่เรืองรวยๆๆ?").. หรือเอา”ความโลภของมนุษย์?”มาเป็น”ตัวล่อ?”,ซึ่งทาง”ศาสนาพุทธ”,จะไม่มี”หลักคำสอน?”ที่เสี้ยมสอนทำนองนี้เลย(?)..
แม้แต่เรื่อง”หัวใจเศรษฐี”.. ก็มี”พระดังบางรูป?”ก็อุตส่าห์นำมาอธิบายอย่างผิดๆ(?)(เพราะท่านดูจะปราดเปรื่องมากเกินไป?)..
จริงๆ..ไม่ควรพูดหรือใช้คำว่า”หัวใจเศรษฐี?”มาสอนลูกศิษย์เลย(?).. จริงๆ..ควรใช้คำว่า..”หลักวิธีที่ทำให้ชีวิตสู่ความเจริญในบริบทของฆราวาส”..น่าจะเหมาะสมกว่าครับ(?).. ซึ่งที่จริง..การ”สอนให้คนมุ่งอยากรวย?”ก็เป็นเรื่องของการ”กลัดกระดุมเม็ดแรก?”ที่”ผิดพลาดตั้งแต่ต้น?”แล้ว(?)..ไม่ว่าจะเป็น”หลักศาสนไหนๆ?”..ก็ตาม(?)..เราว่าอย่างนี้นะ(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 19 ตุลาคม 2567 เวลา:2:58:28 น.  

 
30.จริงๆ..หลายเรื่องในสังคมไม่มีคำว่า”ส่วนตัว”เลยเสียทีเดียว(?).. มักมีเรื่องกระทบกับ”บริบทของสังคม”ไม่มากก็น้อยเสมอ(?).. เหมือนที่เคยได้ยินว่า”เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว?”..นั้นไงล่ะ?..
ตอนนี้..กำลังมีเรื่องที่”2ทนาย”ไปพูดถึง”1ทนาย”ในเรื่อง”ส่วนตัวของเขา?”,และมี”พิธีกรบางช่อง?”ออกมาช่วย”แก้ต่าง?”ให้ฝ่าย”ทนายหญิง?”ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ใน”เรื่องส่วนตัว?”นั้น(?).. ซึ่งเรามองว่า.. ไม่มีเรื่องใดที่เป็นเรื่อง”ส่วนตัว?”จริงๆหรอก?..(แม้แต่คุณไม่ดูแลเรื่องอาหาร,แล้วไปปล่อยลมกลิ่นเหม็นเกินไป,ก็ทำให้อากาศเสีย,รบกวนสุขภาพของคนที่อยู่ใกล้เคียงได้เช่นเดียวกัน?..นั่นแหละ?)..
แม้แต่”พระพุทธเจ้า”เอง..ก็ยังเคยบอกว่า.. “คนที่กล้าโกหก(โดยเฉพาะ’โกหกต่อสังคมส่วนรวม?’หรือต่อ’คนจำนวนมาก?’นั้น)ที่จะไม่ทำชั่วอื่น(หรือที่จะ’ไม่กล้าทำชั่วอื่นๆอีก?’นั้น)ไม่มี”.. ประมาณนี้..นั่นไง?..
เช่น.. สมมุติว่า..ถ้าคุณพบ”ตัวแทนปชช.”(บางคน)ที่”เอาเมียเพื่อนมาเป็นเมียตน?”(โดยที่ไม่รู้สึก”ละอายต่อสังคม?”).. แล้วภายหลังก็ออกมาเป็นผู้นำคนมากมาย(?)(แม้อ้างว่า”เพื่อช่วยสังคม?”ก็ตาม?).. ซึ่งภายหลังก็มีเรื่อง”ความไม่บริสุทธิ์ในเรื่องเงินๆทองๆ?”(ที่รับบริจาคในระหว่างการ”ประท้วงชุมนุม”)ที่ดู”ไม่ค่อยโปร่งใส?”,และคล้ายมีข่าวว่า..เคยมีการไปพูดนัดแนะนั่นนี่?,กับ”ผู้ที่ทำการเปลี่ยนแปลงสังคม?”มาก่อนเกิดเหตุ?,ซึ่งทำให้อื้อฉาวและเสียชื่อเสียงมาก(?).. ออกมาเป็นข่าวมากมาย?..เป็นต้น?.. แล้วอย่างนี้.. จะว่า”เรื่องส่วนตัว?”(เช่น.. เรื่องการมี”ภรรยาน้อย?”,หรือการ”แย่งสามีชาวบ้าน?”)จะไม่มาเกี่ยวข้องถึง”เรื่องส่วนรวม?”เลย?..ก็ไม่ได้(?)..ใช่หรือไม่?..
หรือคนที่มี”โลกหลายใบ?”(ซึ่ง”ผิดศีลธรรมข้อ3,กาเมสุมิจฉาฯ”),ก็มีเหตุ”ตรรกะชวนคิด?”ว่า..เขาก็ต้องที่จะ”ต้องการเงินจำนวนมากกว่าปกติ?”,เพื่อมา”เลี้ยงดู,ปรนเปรอ,เอาอกเอาใจ?”ต่อ”โลกหลายใบของเขา?”อยู่แล้ว?..ใช่หรือไม่?.. ถ้าเขามีช่องที่จะ”ทุจริต?,คอร์รัปชั่น?”ใน”ทางการเมือง?”,เขาก็อาจจะต้องคว้าไว้ก่อน?,โดยไม่คำนึงถึงการ”ผิดศีลธรรมในข้อ2?”ด้วย?..ใช่หรือไม่?..นั่นไง?..
ดังนั้น.. การที่”สื่อบางช่อง?”จะมา”แก้ต่าง?”ให้ว่า..ไม่ควรเอา”เรื่องส่วนตัว?”มา”ทำลายกัน?”นั่นก็ดูจะ”ไม่ถูกต้อง?”เสียทีเดียว(?).. เราเองยังมองว่า..”การนินทาของสังคมไทย?”นั้น?..จริงๆ..ก็เป็นประโยชน์อยู่มิใช่น้อย?,ที่ช่วย”ผดุงสังคม?”,เพื่อไม่ให้”คนเลว?”นึกกระหยิ่ม,ยิ้มย่อง,ในการทำ”สิ่งที่เลวร้าย,ผิดศีลธรรม?”ไปมากกว่านี้?(?)..
เหมือนอย่าง”ตัวแทนสภาบน?”(บางคน)ก็เคยมีเรื่องที่ไปเกี่ยวข้อง,สนับสนุน,ไป”เอื้อตำแหน่งทางการเมือง?”ให้กับ”หญิงบางคน?”ที่มี”พฤติกรรมโหดร้ายต่อลูกจ้าง?”,แล้วจะบอกว่า”เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา?”..ได้มั้ย?.. เช่นนี้เราก็ไม่ไว้ใจต่อ”ผู้ชาย”ที่เป็น”ตัวแทนสภาบนท่านนี้?”แล้วใช่ไหม?..
หรืออีก”บางท่าน?”ก็ไปมีเรื่องพัวพันกับ”ยาเสพติดตามชายแดน?”,แล้วเขาพยายามจะตัดออกให้เป็นเรื่องของ”ญาติใกล้ชิด?”,โดยที่ตัวเองอ้างว่า”ตนไม่มีส่วนใดๆเลย?”นั้น?.. ขอถามว่า.. แล้วประชาชนหรือสังคม,เขาจะ”เชื่อถือคำพูดท่าน?”ได้มั้ย?..เช่นนี้เป็นต้น(?)..
แม้แต่.. “หญิงค้าบริการในรูปแบบต่างๆ?”.. เรายังเคยได้ยินว่า..”คนพวกนี้”ก็ยังมี”คติส่วนตัว”ว่า”เพื่อนผัวไม่เอา”,และ”ผัวเพื่อนไม่เอา”อย่างเด็ดขาด(?)..ด้วยนะ(?),ไม่ยุ่งด้วย(ในเรื่อง”เพศสัมพันธ์?”)..เลยนะ(?)..
สรุปว่า..”การผิดศีลธรรมในทุกมิติ?”ล้วนมี”ผลกระทบ?”ใน”ทางลบ?”ต่อ”สังคมส่วนรวม?”,รวมทั้ง”ภาคการเมือง?”ด้วย?..แทบทั้งนั้น(?).. จะอ้างว่า..เป็นแค่”เรื่องส่วนตัว?”,แล้วจะห้าม”นำมาพูดถึง?”หรือ”วิพากษ์วิจารณ์ถึง?”เสียเลย?..ก็ไม่ได้นะ?..เราว่า(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 19 ตุลาคม 2567 เวลา:20:15:44 น.  

 
31.ไปกันใหญ่กับเรื่อง”พระผิดหรือไม่ผิด?”.. เราเห็นว่า.. ถ้าคุณ”พอรู้,อันควรรู้”,หรือ”เจตนาเล็งเห็นผล”,คุณก็ต้องร่วมรับผิดด้วยอยู่แล้ว(?)..ใช่หรือไม่?.. เหมือนกับทีเวลา”ประชาชนธรรมดา”ทำผิด,และไม่รู้กฎหมายจริงๆ,แต่คุณก็ยังบอกว่า..”ผู้ใดจะปฏิเสธว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้?”..นั่นไงล่ะ?..
แต่พอกับ”ผู้ที่ดูมีบารมีหน่อย?”,ก็มีบางกระแสไปพยายามช่วย”ปกป้อง?”หรือ”แก้ต่าง?”ว่า.. “ถ้าไม่มีเจตนาก็ไม่ผิด?”,แต่กลับลืมคำว่า”กรรม(หรือ’บริบทแวดล้อม’)เป็นเครื่องส่อเจตนา?”ไปซะอย่างงั้น?.. ซ้ำยังอ้าง”หลักธรรม”เรื่องที่”พระพุทธเจ้า”บอกว่า”เรากล่าวเจตนาว่าเป็นกรรม?”(ถ้าไม่มีเจตนาก็ไม่ผิด?)อีกด้วย(?)..
ซึ่งเราไม่เห็นด้วยเลย?.. เพราะ”กฎหมาย”จะต้องปฏิบัติกับ”พลเมืองทุกคน”อย่างเสมอหน้ากัน(?)..ใช่หรือไม่?.. ยังมี”หลักของพุทธ”ที่บอกว่า..”ไม่ให้ภิกษุไปประจบคฤหัสถ์?”,เพื่อหวัง”ประโยชน์บางอย่าง?”อีกด้วย(?)..ใช่หรือไม่?..
“ยุคนี้”เป็น”ยุคที่มีคนเล่ห์เหลี่ยม?”หวังแต่เรื่อง”รวยๆๆ?”,ซึ่งสวนทางกับ”คำสอนพุทธ”,ซึ่งสอนให้”มักน้อย,สันโดษ,ให้ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง”อยู่เยอะมาก(?),ซึ่งมักนิยม”การโหน?”กับ”กระแสศรัทธา?”,ไม่ว่าจะเป็นโหนไปกับ”ดาราบางคน?”,หรือแม้แต่โหนไปกับ”พระที่มีผู้นับถือมากๆ?”(บางองค์)ให้มา”รองรับ?”หรือ”รับรองสินค้า?”หรือ”กิจการของตน?”,เพื่อ”ผลประโยชน์ทางธุรกิจ?”อีกด้วย(?)..
“ระดับนักบวช?”,ถ้าไม่มี”ทัศนะคติที่ผิดพลาด?”(หรือ”มิจฉาทิฐิ?”)ก็ควรที่จะต้องไม่ไปส่งเสริม”ธุรกิจบางอย่าง?”ที่เน้น”เงินต่อเงิน?”( =”มิจฉาอาชีวะ5”คือ”กุหนา,ลปนา,เนมิตตกตา,นิปเปสิกตา,ลาเภนะลาภังนิชิคิงสนตา”),ซึ่ง”บริษัทที่เป็นข่าว?”น่าจะ”ผิดรวมทั้ง5ข้อ?”,โดยเฉพาะ”ข้อที่5”คือ”ใช้เงินต่อเงิน?”,หรือ”ใช้ลาภแลกลาภ?”..นั่นไง?.. ซึ่ง”นักบวชพุทธ”ก็ยังไม่ควรไป”พูดส่งเสริม,โน้มน้าว,จูงใจ?”ใดๆเลยด้วยซ้ำไป(?)..ใช่หรือไม่?.. โดยเฉพาะระบบคล้าย”ไดเร็ค?”หรือละม้ายคล้าย”ระบบแชร์ลูกโซ่?”(ซึ่งมุ่งหา”ลูกทีม?”ถัดจากตัวเองไปเรื่อยๆ,เป็นทอดๆ,โดยที่ไม่ได้”มุ่งขายสินค้าเป็นหลัก?”อยู่แล้ว?)..
ซึ่งเรามองว่า”พระบางองค์”ที่ท่านจะไม่รู้"กลเกมส์?"ของ"ระบบ?"คล้าย”ไดเร็ค?”นี้?,ย่อมเป็นไปไม่ได้เลย?.. เพราะแม้แต่”สายสันติอโศก”ยังพูดอย่างชัดเจนว่า..ห้ามลูกศิษย์ทุกคนไม่ให้ไปข้องเกี่ยวกับ”ระบบไดเร็ค?"หรือ"แชร์ลูกโซ่?”(ที่เป็น”ระบบธุรกิจที่เห็นแก่ตัวที่สุด?”อย่างเด็ดขาด(?)..ด้วยซ้ำไป(?)..นั่นไง?..


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 20 ตุลาคม 2567 เวลา:2:19:12 น.  

 
32.เราอยากบอกว่า..”อาชีพที่ค่อนข้างบริสุทธิ์?”(มีบาปน้อย)ใน”สายตา”หรือใน”หลักการทางพุทธศาสนา”ก็คือ”อาชีพกสิกรรม?”,ที่ต้อง”ใช้แรงงาน,ออกแดด,ออกเหงื่อ”,เพื่อ”สร้างผลผลิต”,เพื่อนำมาเป็น”อาหาร,เครื่องนุ่งห่ม,ยารักษาโรคและที่อยู่อาศัย”..เท่านั้น(?)..
ส่วน”อาชีพธุรกิจ?”แบบ”กินกำไร?,กินส่วนต่าง?”ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเป็น”มิจฉาอาชีวะ5?”ได้”ทั้ง5ข้อ?”เป็นอย่างมาก(?),ซึ่ง”นักบวชพุทธ”ต้องรู้,หรือควรรู้,หรือเล็งเห็นผล(?)..ว่าจะไปช่วย”สร้างภาพ?,แสดงตัวใกล้ชิด?”,หรือแม้แค่การไป”เจิมป้าย?”เพื่อ”ให้พร?”,ก็ยังต้องระวังให้มาก(จะปฏิเสธไม่รับนิมนต์ไปเลย?..ก็ยังได้?)..
เพราะถ้า”บางบริษัทนั้นๆ?”ทำ”ธุรกิจ?”แบบที่”ค้ากำไรเกินควร?,ขายของด้อยคุณภาพ?”,หรือ”โฆษณาเกินจริง?,หรือ”เอาเปรียบผู้บริโภคในบริบทต่างๆ?”(ที่ประชาชนอาจไม่รู้เท่าทัน?),ก็แน่นอนว่า..ท่านต้อง”ติดกรรมบาป?”(หรือ”ติดบ่วงกรรม?”),ที่ไปร่วมสนับสนุน”ให้พรเขา?”,ในการ”ทำอาชีพที่เอารัดเอาเปรียบประชาชน?”อีกด้วย(?)..ใช่หรือไม่?..
ดูแต่”ท่านพ.”แห่ง”วัดสวนแก้ว”,แค่ท่านเปิดโอกาสให้”ฝ่ายการเมืองบางสี?”ไปไช้”สถานที่ของท่าน”เพื่อ”ชุมนุมทางการเมือง?”,ท่านก็ยังถูก”แอนตี้?”มาอย่างยาวนานว่า..”ท่านเอียงไปทางกลุ่มการเมืองบางฝ่าย?”..ไม่ใช่หรือ?..ใช่หรือไม่?..
ดังนั้น.. “การเป็นพระ”จึงต้องสงวนท่าทีในการที่จะไป”ใกล้ชิดกับฆราวาสในบริบทต่างๆ?”ที่”เกินขอบเขตของความเป็นพระ?”,และต้องระวังอย่าให้”ฆราวาส”(บางคน,บางกลุ่ม?)มา”ใช้ท่านมาเป็นเครื่องมือ?”ในการ”หากินของเขา?”..ให้มากๆ(?).. ดูแต่”ลัทธิเชื่อมกล้วย”,ยามมีปัญหา,ยังหวัง”เกาะโหนท่าน?”เพื่อ”สร้างภาพบวก?”ให้กับ”ตัวเอง?”เลย?..ใช่หรือไม่?..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 20 ตุลาคม 2567 เวลา:2:43:24 น.  

 
33.เราเห็นว่า..ตราบใดที่ท่านยัง”สวมจีวร?”ซึ่งเป็นดุจ”ธงชัยของพระอรหันต์”.. ตราบนั้น..ท่านคือ”สัญลักษณ์แทนพระพุทธศาสนา”.. “ทุกอิริยาบถของท่าน”ที่ปรากฏต่อ”สาธารณะ”(หรือแม้”อยู่ในที่ส่วนตัว?”ก็ตาม?),ย่อมจะไม่มีคำว่า”ส่วนตัว?”?.. แต่ท่านต้องมี”สมณะสัญญา?”อยู่ตราบเท่าที่ท่าน”มีสติ,ตื่นรู้ตัวอยู่?”?.. “การปฏิบัติใดๆของท่าน”,ท่านต้องตระหนักเสมอว่า.. จะมีผล”ชี้นำ,ชี้ถูก,ชี้ผิด?”,พา”ศาสนิก?”ให้”ขึ้นสวรรค์?”หรือ”ลงนรก?”ไปด้วยกับท่าน?..ได้เสมอ(?)..
“สังคมไทย”(ไม่มี”ปราชญ์ที่แท้จริง?”)จึงมักพูดกันอยู่มาก?(โดยเฉพาะ”ภาคการเมือง?”)ว่า.. การ”ทำผิดศีลธรรมบางอย่าง?”ของ”บุคลากรทางการเมือง?”(บางคน)ถือเป็น”เรื่องส่วนตัว?”,ที่ไม่ควรไป”ว่าหรือตำหนิเขา?”.. จริงๆแล้ว”นักการเมือง?”และ”นักบวช?”หรือ”นักการศาสนา?”มี”บริบทบางอย่าง?”ที่คล้ายๆกัน?.. คือต่างแสดงตัวว่าจะ”ทำเพื่อประชาชนส่วนรวม?”เหมือนกัน(?)..
ดังนั้น.. เท่ากับ”บุคคล2ประเภทนี้”เปรียบเป็น”บุคคลสาธารณะ?”เช่นเดียวกัน(?).. คือท่านเท่ากับเป็น”คนของประชาชน”,จะทำอะไรต้องรู้ว่า..”ท่านอยู่ในสายตาของประชาชน?”.. ดังนั้น..จึงต้องระวังการจะใช้คำว่า..”เป็นเรื่องส่วนตัว?”กันอย่างพร่ำเพรื่อ?,ให้จงหนัก?..
เพราะไม่ใช่เพราะพากันคิดเช่นนี้หรือ?.. จึงทำให้”ภาคการเมือง?”กลายเป็นแหล่งสะสมแห่ง”บุคคลคอร์รัปชั่น?,โกงกินบ้านเมือง?”,และ”เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว?”กันอย่างมากมาย(?).. และแม้แต่”ภาคศาสนา?”ก็เต็มไปด้วย”อลัชชี,สมี,ผู้ฉวยประโยชน์จากพุทธศาสนา?”,ที่แม้”ภาครัฐ?”ก็”จับไม่ได้,ไล่ไม่ทัน?”,มีอยู่แทบ”ทุกพื้นที่?,ทุกจังหวัด?”เต็มไปหมด(?)..เช่นเดียวกัน?..ใช่หรือไม่?..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 20 ตุลาคม 2567 เวลา:3:53:07 น.  

 
34.(ชมรายการสัมภาษณ์”ทนายด.”,ช่องPPTV”,20-10-67)..
(ณ วันนี้).. เรายอมรับว่า”ทนายด.”พูดให้สัมภาษณ์ให้สติแก่ปชช.,ที่จะไม่หลงใหล,คลั่งไคล้ต่อ”เหล่าดวงดาว?”(บางส่วน)ได้ดี..สุขุม,สุดยอดจริงๆ..
เพราะแม้แต่”พระดังบางรูป?”ก็ยังอุตส่าห์ไปช่วยพูดทำนองว่า.. อย่าถึงกับจะเอา”พระบ๊อซ?”สึกเลยนะ(?),โดยมองว่า..”เขาเป็นกำลังของพุทธศาสนา?”..ซะอย่างงั้น?.. เพราะ”ปชช.บางส่วน?”,เขาก็อาจมองว่า..ก็ท่านเป็น”พระในระดับที่มียศชั้น?”เหมือนกัน?,ก็อาจจะเข้าข้างกัน?.. ท่านจึงอาจมองไม่ออกว่า..”พระที่สร้างภาพ?”หรือ”พระหิวลาภ,ยศ,สรรเสริญ?”(ที่ชอบ”อวยฆราวาสที่มีเงิน?”,และ”ประจบคฤหัสถ์ที่มีฐานะ?”นั้นมี”บุคลิก,ท่าที,การแสดงออก,การวางตัว?”อย่างไร?..
จริงๆ.. จากอดีตที่ผ่านๆมา,แม้”พระบางรูป”จะไม่ผิดถึง”ขั้นปาราชิก?”ก็ตาม,แต่แค่”โลกะวัชชะ?,โลกติเตียน?,ปชช.ติฉิน?”,แม้”พระผู้ใหญ่”ที่เป็น”พระสังฆาธิการ?”หรือ”ตำรวจพระ?”ก็สามารถใช้ดุลพินิจ?,เพื่อจัดการให้สึกออกไป?,ก็เคยมีให้เห็นอยู่?..ไม่ใช่หรือครับ?..(ใช่หรือไม่?)..
(แม้จะมีข่าวลือว่า..”สื่อบางส่วน?,ทนายบางส่วน?,สว.บางคน?”ชอบ”แทงสวน?”ใน”บางเรื่อง?”,ที่ดู”ค้านสายตาปชช.?”,ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมา,”สายตาปชช.ส่วนมาก”ถ้ามองเรื่องใด?,มักไม่ผิดพลาดอยู่แล้ว?.. คล้ายว่า..พยายามจะช่วยหา”ช่องทางรอด?”ให้แก่”บางฝ่าย?”,ซึ่งอาจถูก”ปชช.บางส่วน?”มองว่า..”รับงานบางฝ่าย?”มาก็เป็นได้?..หรือไม่?.. ใช่หรือไม่?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 21 ตุลาคม 2567 เวลา:2:41:48 น.  

 
35.มี”พระดัง2รูป?”,พยายามมาพูดเข้าข้างกัน(?)(และมีโผล่”สส.บางท่าน?”,ที่เราเองก็เคยนับถือ”จุดยืนบางเรื่องของท่าน”,แต่มาวันนี้กลับมาถือข้าง”พระดังบางรูป?”เสียนี่(?)..น่าผิดหวังมากๆ?)..
จากประสบการณ์การ”ศึกษาพุทธจากหลายสำนัก?”มาก่อน.. อยากบอกว่า..เราเห็นว่า..”หลักการพุทธ”ไม่ได้มุ่งให้คนสะสมกิเลส,มุ่งหาเงินให้รวยมากๆ,หรือมุ่งมาเป็น”เศรษฐี?”,เพื่อเอาใจ,ตามใจต่อ”กิเลสมนุษย์?”?แต่อย่างใดเลย?.. เพราะ”หลักศาสนาพุทธ”คือ..”การฝึกฝน,ขัดเกลาตนเอง”เพื่อให้รู้จักกับการ”มักน้อย,สันโดษ,อยู่อย่างพอเพียง”..นั่นต่างหาก(?)..
ไม่เคยมี”คำสอนในพตปฎ.”ว่า..”จงมารวยๆๆ?”เหมือนกับ”สำนักชิตังเมโป้งรวยในอดีต?”ที่เดี้ยงไปแล้ว?..นั่นไง?..แต่อย่างใดเลย?.. เพราะถ้า”พระพุทธเจ้า”หลงใหล,หรือยินดี,หรือ”ส่งเสริมความร่ำรวย?”,แล้วท่านจะทิ้ง”สมบัติมหาศาล?”ใน”ฐานะลูกกษัตริย์?”,แล้วออกบวช,เพียงแค่ขอ”อาหารบิณฑบาต?”จาก”ฆราวาส?”มา”เลี้ยงชีพ?”..มาทำไม?..ได้อย่างไร?..(แต่ท่านสอนให้”คนเห็นทุกข์”จากการ”หลงโลก,หลงวัตถุ,หลงการมีเงินมากๆ?”..นั่นต่างหาก(?)..(ใช่หรือไม่?)..
เราต้องมองโดย”ตรรกะที่ถูกต้อง?”ว่า.. “โลกนี้?”,ไม่ว่า”สังคมใด?”ย่อมไม่สามารถจะทำให้”ทุกคนเป็นเศรษฐี?”ได้(?).. เพราะการ”มีเงินมากๆกว่าผู้อื่น?”,ก็ย่อมเกิดจากการได้เปรียบโดย”ชั้นเชิงต่างๆ?”,ไม่ว่าจะ”สีเทาๆ?”หรือถึง”สีดำ?”เลยก็ยังมี(?).. ดังนั้น.. “คนจำนวนมาก?”ซึ่งเป็น”เบี้ยล่าง?”,หรือ”ถูกเอาเปรียบเป็นประจำ?”,ก็ย่อมจะไม่มีทางจะไป”รวยเท่ากับคนที่อยู่ยอดปีรามิด?”ได้อยู่แล้ว(?)..
ดังนั้น.. “คนบางส่วน?”ที่มี”ทัศนะมิจฉา?”(ที่ไม่ใช่”หลักการพุทธ?”),ที่มุ่งหวัง”รวยมากๆ?”ถ้ามีเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่?,ก็จะต้องมี”คนจนกว่ามากๆ?”ที่อยู่”ส่วนล่างของปีรามิดของเขา?”(ที่เป็น”เบี้ยให้เขาเอาเปรียบ?”หรือ”กินส่วนต่าง?”)เพิ่มมากขึ้นอีกเป็น”หลายร้อย,หลายพันเท่า?”,หรืออาจเป็น”ล้านๆเท่า?”ก็เป็นได้(?)(ถ้าเขาสามารถ”หลอกล่อคนได้มาก?”,โดยที่ยังไม่มีใคร”จับผิด?”,หรือ”เอาผิด?”เขาได้?).. นี่เป็นแค่”ตรรกะ(หรือ”สมการ?”)ทางคณิตศาสตร์?”แบบ”พื้นฐาน?”,หรือแค่ตื้นๆเท่านั้นครับ(?)..


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 21 ตุลาคม 2567 เวลา:4:49:50 น.  

 
(36.)ดังนั้น..”พระพุทธเจ้า”ย่อมจะ”เอื้อเฟื้อ,เมตตาต่อคนหมู่มาก”อยู่แล้ว(?),จึงอนุมานได้ว่า..”พระพุทธองค์”ย่อมไม่มีทางสนับสนุนให้เฉพาะ”คนบางส่วน?”(กลุ่มเล็กๆ)มุ่งมารวยจากการ”ได้เปรียบคนส่วนมาก?”(ที่รู้ไม่เท่าทัน”กลเกมส์ที่ฉลาด?”ในเรื่อง”เงินต่อเงิน?”อย่างแน่นอน?)..แน่ๆ?..
และเราเชื่อว่า..คำว่า”หัวใจเศรษฐี?”น่าจะเป็นการแปลที่ไม่ตรง”ความหมายของพระพุทธเจ้า”จาก”อาจารย์รุ่นหลังจากพุทธกาล?”,ซึ่งน่าจะไม่ใช่”ความหมายที่ถูกต้อง?”,เพราะ”พระพุทธเจ้า”สอนอย่างชัดเจนว่า..”เงินคืออสรพิษ?”(ที่อาจฉกกัดเราได้?)..นั่นไง?..
ซึ่งเรามองว่า..คำว่า..”อุ-อา-กะ-สะ?”เป็น”หลักการเพื่อสู่ความเจริญในฐานะฆราวาส”(ทั้งทาง”กายภาพ”และทาง”จิตวิญญาณ”)..นั่นต่างหาก(?).. ไม่ใช่ที่จะมา”แปลลวกๆ?”ว่า”ทางสู่ความรวย?”(หรือ”หัวใจเศรษฐี?”)แต่อย่างใด?..นั่นดอก?(?)..
แต่เรามองว่า.. อาจเกิดจาก”อาจารย์รุ่นเก่า?”(หลังจากพุทธกาล?)ที่มองแบบ”บริสุทธิ์ใจ”ที่รู้ว่า”มนุษย์มีกิเลส?”,จึงดึงเอาเรื่อง”กิเลสอยากรวย?”มา”ล่อไว้เล็กน้อย?”ไว้ก่อน(?)..คล้ายว่าเป็น”กุศโลบาย?”,เอา”ขนมอมยิ้มมาล่อเด็กเล็กๆ?”..นั่นแหละ?..
หรือเหมือนที่”พระพุทธเจ้า”ก็ยังใช้วิธี”ดึงเช็ง?”(ถ่วงเวลา)ต่อ”เจ้าชายนันทะ”,ซึ่งกำลังจะ”เข้าเรือนหอ?”.. ประมาณว่า..ให้”เจ้าชายนันทะ”เห็นว่า..มี”นางสวรรค์?”ที่สวยกว่า”นางชนบทกัลยาณี”(ที่เป็น”คู่สมรส”)นี้อีกเยอะ(?),และที่สุดก็ดึงให้”เจ้าชายนันทะ”รับปาก”บวช”,และฝึกฝน,เคี่ยวกรรมท่าน,จนที่สุดท่านก็บรรลุเป็น”พระอรหันต์?”..นั่นไง?..
นั่นก็เพื่อ..ประสงค์”ดึงคนมาฟังธรรม?”เพื่อ”เข้าถึงเนื้อแท้?”..คือ..”การหลุดพ้น”จาก”ความมีอัตตา,ตัวตน?”และ”ความวนเวียนอยู่ในวัฏสงสารอันยาวไกล?”,อันเต็มไปด้วยความ”ทุกข์มหาศาล?”..นั่นต่างหาก(?).. จึงอย่าพากันไปแปล”อุ-อา-กะ-สะ?”(หรือ”หัวใจเศรษฐี?")ให้เกิด”ความหมาย”ที่ไป”ส่งเสริมกิเลส?”,อันไม่ใช่”แนวทางของพุทธ?”แต่อย่างใดเลย?(?)..กันเลย?(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 21 ตุลาคม 2567 เวลา:4:56:58 น.  

 
37.ขอฝากข้อมูลนี้.. ไปยัง”ท่านพ.”แห่ง”วัดสวนแก้ว”และ”ท่านว.”..ด้วยครับ..
หลัก”การตัดสินพระธรรมวินัย ๘ ประการ”.. มีดังนี้คือ..

ธรรมเหล่าใดเป็นไปเพื่อ..

๑.วิราคะ ความคลายกำหนัด,ไม่ติดพัน,มิใช่เพื่อความกำหนัดย้อมใจ,การเสริมให้ติด
๒.วิสังโยค ความหมดเครื่องผูกรัด,ความไม่ประกอบทุกข์,มิใช่เพื่อผูกรัดหรือประกอบทุกข์
๓.อปจยะ ความไม่พอกพูนกิเลส,มิใช่เพื่อพอกพูนกิเลส
๔.อัปปิจฉตา ความมักน้อย,มิใช่เพื่อความมักมาก
๕.สันตุฏฐี ความสันโดษ,มิใช่เพื่อความไม่สันโดษ
๖.ปวิเวก ความสงัด,มิใช่เพื่อความคลุกคลีอยู่ในหมู่
๗.วิริยารัมภะ การประกอบความเพียร,มิใช่เพื่อความเกียจคร้าน
๘.สุภาตา ความเป็นคนเลี้ยงง่าย,มิใช่เพื่อความเลี้ยงยาก

ธรรมเหล่านี้พึงรู้ว่า..เป็นธรรม, เป็นวินัย, เป็นสัตถุสาสน์(คำสอนของ”พระศาสดา”)..
ตรงข้ามจากนี้พึงรู้ว่า..ไม่ใช่ธรรม,ไม่ใช่วินัย,ไม่ใช่สัตถุสาสน์(ไม่คำสอนของ”พระศาสดา”)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 21 ตุลาคม 2567 เวลา:5:39:33 น.  

 
38.(“ข้อมูลคำสอน”เรื่อง”เงินคืออสรพิษ”)..(ดังนั้น.. “พุทธบุตร”จึงไม่สมควรไปพูดเทศนา,ส่งเสริมให้”ฆราวาส”มุ่ง”หาเงินมากๆ”,หรืออ้างเรื่อง”อุ-อา-กะ-สะ,หัวใจเศรษฐี?”แบบผิดๆ..นะครับ?)..

เราอาจเคยทราบมาบ้างว่า ในศาสนาพุทธนั้น นักบวชหรือพระภิกษุสงฆ์ มีข้อห้ามที่ต้องถือปฏิบัติในเรื่องเงินทองอยู่ข้อหนึ่งนั้นคือ ห้ามรับเงิน หรือมีทรัพย์สินในครอบครอง เวลาใส่บาตร ญาติโยมก็ไม่สมควรที่จะถวาย เงิน หรือที่เรียกว่า "ปัจจัย" ให้แก่ท่าน เพราะหากท่านรับไป จะทำให้ท่านต้องอาบัติได้..

แต่เราอาจไม่รู้ว่า.. เพราะเหตุใด?.. พระพุทธเจ้าจึงตรัสมิให้ภิกษุรับปัจจัย(?).. เรื่องนี้มีปรากฏใน”พระไตรปิฎก”อยู่ว่า...

พระพุทธเจ้าเปรียบเงินทอง เหมือนดั่งอสรพิษสำหรับภิกษุ ซึ่งปรากฏใน”คำภีร์ อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท พาลวรรคที่5” ความว่า...

เช้าวันหนึ่งในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้เสด็จออกบิณฑบาตโปรดสัตว์ ไปพร้อมด้วยพระอานนท์ พระองค์เสด็จผ่านชาวนาทีกำลังไถนาอยู่ ชาวนาพักการไถนาแล้วถวายบังคม
พระพุทธองค์ทอดพระเนตรเห็นถุงเงิน ตกอยู่ไม่ไกลจากชาวนาจึงตรัสกับพระอานนท์ว่า “อานนท์ นั่นอสรพิษ เธอเห็นไหม”
พระอานนท์ ตอบ "เห็น พระเจ้าข้า อสรพิษร้าย"
ชาวนาได้ยินพระพุทธดำรัส ที่ตรัสกับพระอานนท์ คิดว่ามีงูอยู่แถวนี้ ต้องฆ่าให้ได้ ทิ้งไว้จะทำอันตรายตน ว่าแล้วเราก็ถือปฏักไป สอดส่ายตามองหางู แต่ไม่เห็นมีงู ดูไป เห็นแต่ถุงเงินมากมาย เขาดีใจ รีบโกยดินกลบไว้ แล้วไถนาต่อไป
ถุงเงินนั้น ที่แท้โจรปล้นมาแล้วทำตกไว้ เจ้าของเงินเสียดาย เกณฑ์บ่าวไพร่ออกติดตาม สะกดรอยตามรอยเท้าชาวนา พาไปจนพบถุงเงิน จึดคิดว่าชาวนานี่แหละคือเจ้าโจรตัวดี จึงรีบจับไปส่งเจ้าหน้าที่ ทำตามกฎหมายเคร่งครัด ชี้โทษชัดให้ประหารชีวิต
ก่อนจะนำไปประหาร ชาวนาพร่ำพรรณาอยู่หลายหนว่า
“อานนท์ เธอเห็นอสรพิษไหม…เห็นพระเจ้าข้า”
“อานนท์ เธอเห็นอสรพิษไหม…เห็นพระเจ้าข้า”
เจ้าหน้าที่มีความประหลาดใจไต่ถาม “ทำไมเจ้าออกนามพุทธอนุชา อสรพิษนั่นล่ะ อยู่ไหน”
ชาวนาเล่าแจ้งแถลงไข อ้างพระพุทธเจ้าให้เป็นพยาน เจ้าหน้าที่จึงงดการประหารไว้ พาชาวนาไปเฝ้าพระราชา
พระราชาจึงไปกราบทูลพระพุทธองค์ว่าชาวนาอ้างพระพุทธองค์เป็นพยาน พระพุทธองค์จึงทรงเล่าเรื่องราวให้ฟัง ชาวนาจึงพ้นจากความตายโดยอาศัยพระกรุณา

...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 21 ตุลาคม 2567 เวลา:6:16:45 น.  

 
39.”คำพูดเป็นนาย?”.. ไม่ว่า”ฆราวาส”หรือ”พระสงฆ์,นักบวช”ก็ต้องระวังให้ดี(?).. โดยเฉพาะ”เพศนักบวช?”ยิ่งต้องระวังให้มากเป็นพิเศษ.. สมมุติว่า..”ข่าวบางข่าว?”เป็นจริง(?)..ที่”พระอาจารย์ท่านหนึ่ง”ไปบอก”พระลูกศิษย์”ให้บอกกับ”ชาวบ้านหรือสื่อ”ว่า..”เดินลงมาจากเขานะ?”(ทั้งๆที่นั่งรถมา,แล้วมาลงก่อนถึงหมู่บ้าน?),อย่างนี้ก็เท่ากับ”โกหก?”(?)..
ซึ่งไม่ว่า”อาจารย์ท่านนั้น?”จะมีเจตนาอย่างไรก็ตาม?.. อย่างน้อย”อาจารย์ท่านนั้น?”ควรต้องรีบออกมา”ขอโทษต่อสาธารณชน?”ว่า”ทำผิดไปแล้ว?” ,และต้องรีบ”ชี้แจงเหตุผล”ด้วยว่า”มีเจตนาอะไร?”ที่ต้อง”โกหกเช่นนั้น?”,หรือเป็นการ”สร้างภาพ?”ให้”คนเกิดศรัทธา?”หรืออย่างไร?..
เราเห็นว่า.. “คำพูด”นี่นับเป็นสิ่งที่สำคัญมาก,ถ้า”พูดเป็น?”,หรือ”พูดหลบเลี่ยงเป็น?”ก็อาจทำให้พ้นผิดได้เช่นกัน(?).. แต่เป็น”นักบวช”ควรต้อง”รักษาคำพูด”ให้ตรงไปตรงมาให้มากที่สุด(?).. “บางคน”ก็อ้างว่าเป็น”ศิลปะในการพูด?”,บางทีก็บอกว่าเป็น”ศิลปะจูงใจคน?”.. ส่วนเรามองว่า..คำว่า”ศิลปะ?”กับ”เล่ห์เหลี่ยม,เล่ห์กล?”,บางทีก็แยกยาก(เหมือนเส้นบางๆ)(?)..
เคยมีครั้งพุทธกาล.. “พระพุทธเจ้า”มีเจตนาไปโปรด”องคุลีมาล”ให้”เลิกทำบาป?”,จึงใช้อิทธาภินิหาร(เฉพาะกิจ),ไปเดินออกหน้า”องคุลีมาล”,แล้วทำให้”องคุลีมาล”วิ่งตามอย่างไรก็ไม่ทัน(?).. ”องคุลีมาล”จึงตะโกนบอกว่า..”พระหยุดก่อนๆๆ”,ส่วน”พระพุทธเจ้า”ก็ตอบกลับมาว่า..”เราหยุดแล้ว..แต่เธอยังไม่หยุด”..
”องคุลีมาล”จึงพูดต่อว่า”พระพุทธเจ้า”ประมาณว่า.. เป็น”สมณะ?”มา”พูดโกหกพกลม?”ได้อย่างไร?,ก็เห็นท่านเดินอยู่,แล้วมาบอกว่า”เราหยุดแล้ว?”ได้อย่างไร?.. ”พระพุทธเจ้า”จึงจะต้องรีบ”แก้ความสงสัยในทันที?”ว่า.. ที่บอกว่า”เราหยุดแล้ว”คือ”หยุดทำบาป”,แต่ที่บอกว่า”เธอยังไม่หยุด”นั้นก็คือ”เธอยังไม่หยุดทำบาป,ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต?”..นั่นไง?..ประมาณนี้ครับ?..
คือถ้าเจตนาใช้”คำพูดเป็นศิลปะ?”(ให้”คนฟังฉุกคิด?”),เพื่อช่วยคน,ก็จะต้องรีบ”ไขความจริงของคำพูดนั้น?”โดยไม่ชักช้า(?),จะให้เข้าใจผิดไปนานไม่ได้(?),เพราะจะเสียหายมาก(?)..ประมาณนี้(?)..ซึ่ง”พุทธสุภาษิต”กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า..

“นตฺถิ อการิยํ ปาปํ มุสาวาทิสฺส ชนฺตุโน”.. ซึ่งแปลว่า..
“คนที่ชอบพูดโกหก จะไม่พึงทำชั่วนั้นไม่มี”..

...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 21 ตุลาคม 2567 เวลา:15:52:36 น.  

 
40.เราได้ชมรายการ”คุยข้ามช็อต”(21-10-67)เฉพาะ”คลิปทนายกุ้งและคุณอี้”.. มีความเห็นส่วนตัวดังนี้ครับ..
(เฉพาะ”คุณกุ้ง”,เราดูว่าเป็น”หญิงแกร่ง,มีหลักการชัดเจน”,จึงสามารถร่วมทีมกับ”ทนายเด”ได้นะ..เราว่า.. ณ วันนี้)..
“คลิปดังกล่าวนี้”ถือว่า”เจ๋งมาก”,เป็นการคุยกันแบบ”ผู้มีปัญญา”(หรือเป็น”ผู้เป็นปัญญาชน”),แบบสุภาพและมีมารยาทต่อกัน,นั่งอยู่ใกล้ๆกัน,แต่ไม่ใช้อารมณ์,วางท่าทีต่อกันได้ดีมาก,ทั้งๆที่ยืนอยู่คนละข้างของความเห็นเกี่ยวกับกรณี”นักบวชบางท่าน?”(ส่วน”คุณเสถียร”,วันนี้ก็เป็น”พิธีกรที่ถามได้ดีมากๆ”..เช่นกัน)..
มีกรณีให้คิดว่า.. “บางท่าน”อาจมองบวก,แต่อาจมองใกล้,ไม่มองไกล(?)..(“ขงเบ้งมีเหลี่ยม,กวนอิมมีเมตตามาก,แต่กวนอูยึดหลักเกณฑ์,หลักการ,ถูก-ผิด,ไม่โยกคลอน,คล้ายเปาบุ้นจิ้น”.. ถามว่า..กรณีมอง”ประโยชน์ยาวไกล?”ควรยึดกับ”บุคคลใด?”?).. เพราะแม้แต่”ประวัติศาสตร์ไทย”ยังมีคนอย่าง”พันท้ายนรสิงห์”ผู้ยอม”เสียสละชีวิตตน”,เพราะ”คิดการณ์ไกล?”,เพื่อ”ประโยชน์ในภายหน้าของบ้านเมือง?”เลย?..ใช่หรือไม่?..
ซึ่ง”ทางพุทธ”มีเรื่องของ”อคติ4”,ที่อาจเกิดขึ้นได้(?).. เช่น..อาจ”พูดมุมบวกอย่างเดียว?”กับ”ผู้ที่ตนเคารพ?”,หรือพยายามปกป้อง”นักบวชบางท่าน?”,เพราะเคยสัมพันธ์เชิง”ให้ความศรัทธากับท่าน?”มาก่อน?..ก็เป็นได้?,จึงอาจเห็นแต่”คุณของท่าน?”,จนลืม”มองไกล?”ถึง”ความเสียหาย?”,ที่”อีกบางฝ่าย?”.. เช่นที่”ทนายเด”อาจมองมุมต่างว่า.. “นักบวชบางท่าน”อาจเป็น”ตัวอย่างที่ไม่เหมาะสม?”,ที่อาจสร้าง”ความเสียหาย?”ต่อ”สังคมพุทธในอนาคต?”ได้?..เช่นเดียวกัน(?)..หรือไม่?..
เพราะอาจต้องคิดว่า.. ที่บางกรณีว่า..”ผู้เสียหายบางคน”ที่ถึงขั้น”ฆ่าตัวตาย,ซึมเศร้า,ท้อแท้ท้อถอยในชีวิต,ครอบครัวแตกแยก?”,แต่กลับมี”นักบวชบางท่าน?”ยังมีภาพไปสนับสนุน,รับรอง,ซึ่งท่านเป็น”นักบวช”ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นระดับ”ปัญญาเยี่ยมยอด”,รู้เรื่อง”โลกจินตา”(โลกทัศน์)เยี่ยมยอด..
แล้วท่านจะไม่รู้เชียวหรือว่า.. “องค์กรธุรกิจ?”(บางองค์กร?),ที่ท่านไป”รับนิมนต์,กล่าวชมเชยนั่นนี่นู่น?”,พูดเป็นนัยว่า..”อยากตื่นมารวย..ก็ต้อง....?”(รวมทั้งรับ”เงินบริจาคจำนวนมาก?”,และยังมีการ”ถ่ายรูปรับรอง?”ด้วยนั้น?),อาจจะ(หรือน่าจะ)เป็นธุรกิจ”ทรงไดเร็ค?”,หรือ”ทรงลูกโซ่?”,ที่เป็นธุรกิจเทาๆแบบ”เงินต่อเงิน?”แน่นอน(?)..หรือไม่?..
และ”ย่อมรู้?”,หรือ”อันควรรู้?”,หรือเป็น”เจตนาเล็งเห็นผล?”ว่า..เขาน่าจะต้องนำ”คลิปบางส่วน?”เพื่อเป็นการไป”แสดงภาพสนับสนุนธุรกิจของเขา?”ต่อ”ประชาชน?”อย่างแน่แท้?..หรือไม่?..(ใช่หรือไม่?)..
และอีกอนึ่ง..”เนื้อหาที่นักบวชบางท่านเทศน์?”,ก็น่าจะไม่ถูก”หลักการ?”,ที่ไปส่งเสริมให้คนมุ่งมาแสวงหา”การมีทรัพย์มากๆ?”(รวยๆๆ),ทั้งๆที่ท่านก็ต้องพอรู้ว่า..”พระพุทธเจ้า”เคยชี้บอก”พระอานนท์”ว่า..”เงินคืออสรพิษ?”อยู่แน่ๆ?..อยู่แล้ว?.. แต่ท่านก็ยัง”พูดส่งเสริม?”ให้”ฆราวาส”ไป”หมกมุ่น?”ในเรื่องการ”ต้อง(ขวนขวาย)อยากรวย?”,หรือกระตุ้นให้ต้อง”อยากมีเงินมากๆ?”,ซึ่ง”ผิดหลักการของพุทธแท้ๆ?”อย่างสิ้นเชิง(?)..ด้วยทำไม?..
แต่เราเห็นว่า.. ท่านควรพูดส่งเสริมให้คนมา”ใช้ชีวิตแบบพอเพียง,พอประมาณ,มักน้อย,สันโดษ,อยู่อย่างขัดเกลา,ไม่เอาเปรียบผู้อื่นที่มากเกิน”,จึงจะเป็น”หลักการหรือวิถีทางของพุทธ”นั้นมากกว่า?..หรือไม่?..(ใช่หรือไม่?)..
ซึ่งเราเห็นว่า..”ทนายเด”(เฉพาะ ณ วันนี้)เป็น”ผู้ที่มักพูดแบบค่อนข้างตรงไปตรงมา”,และ”คุณอี้”ก็เคย”อยู่ฝ่ายเดียวกัน”,กรณีต่อต้าน”ลัทธิเชื่อมกล้วย?”มาก่อน?..นั่นไง?.. แต่มาวันนี้.. เราไม่เข้าใจว่า..ทำไมจึงเหมือน”ยืนอยู่คนละฝ่าย?”ที่เห็นไม่ตรงกัน”สุดกู่?”(ในบางเรื่อง?)ไปเสียได้?..(เราก็เคยสนใจติดตาม”คุณอี้”,ตั้งแต่เมื่อครั้งสัมภาษณ์”ท่านพุทธอิสระ”มาก่อนด้วยนะครับ)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 22 ตุลาคม 2567 เวลา:4:17:58 น.  

 
41.เราขอสรุปว่า.. “สังคมที่คลั่งไคล้?”(บ้า?)ในเรื่อง”วัตถุนิยม?”.. ที่..ชีวิตนี้..มุ่งแต่ที่จะ”ต้องมีรถหรู,ต้องมีบ้านหลังใหญ่,ต้องใช้ของแบรนด์เนม,ต้องมีเงินมากมาย,ต้องมีคนชื่นชมในความสำเร็จ?”.. ก็คือ..
การต้องพยายามไป”หลอกล่อ?”ให้”คนอื่นๆ?”(แม้แต่”คนที่ใกล้ชิดกับเรา?”),ให้มาเป็น”สมาชิกหรือลูกทีม?”ที่ต่อจากเราไปเรื่อยๆเป็นทอดๆ,เพื่อให้เราได้”ส่วนต่าง?,เปอร์เซ็นต์,หรือหัวคิว?”จาก”เขาเหล่านั้น?”,ด้วย”เทคนิคการจูงใจ?”,ด้วยการ”สร้างโปรไฟล์?”ที่”หวือหวา?,พิสดาร?”,เพื่อที่สุดให้เขา”เชื่อ?,ศรัทธา?”,และยอมมาร่วมเป็น”ลูกทีมของเรา?”,แบบ”เงินต่อเงิน?”,ในจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ?..
โดยไม่คำนึงถึงว่า..”ลูกทีมเหล่านั้น?”จะมีความสามารถไปหา”ลูกทีมต่อจากตัวเขา?”,ด้วย”วีธีตามแบบของเรา?”ได้หรือไม่?..(คือ..ถ้าคุณทำเหมือนฉันไม่ได้..นั่นเป็นเรื่องของคุณ..ที่คุณต้องดิ้นรนแก้ปัญหาด้วยตัวคุณเอง.. หรือคุณก็ต้องรับกรรม,รับสภาพของคุณเอง..ซึ่งเราก็ไม่อาจจะรับผิดชอบใดๆกับชีวิตของคุณได้?..ประมาณนี้?..นั่นเอง?)..
ซึ่ง”สังคม”แบบ”หลงวัตถุนิยม”(Materialism)มักเป็นเช่นนี้เหมือนกันหมดทั้งโลก(?).. และเป็น”สาเหตุสำคัญอย่างหนึ่ง?”,ที่ทำให้เกิดแนวโน้มของ”การฆ่าตัวตาย?”,ที่มี”สถิติสูงขึ้นเรื่อยๆ?”,ในแต่ละประเทศในโลกด้วย(?)..
ปล.การจูงใจแบบลวกๆ,ไม่รับผิดชอบ.. มักอาจได้ยิน”คำโฆษณาชวนเชื่อ?”ประมาณว่า..”ฉันก็คน,คุณก็คน.. ถ้าฉันทำได้..คุณก็ต้องทำได้เช่นกัน?”(ซึ่งตรรกะเช่นนี้..ไม่จริงเลย?).. ซึ่งไม่ว่าใครก็ไม่ควรหลงเคลิ้มกับ”คำเหล่านี้?”โดยเด็ดขาด(?).. อยากบอกว่า..”กลับสู่ทางเกวียนสายเก่ากันเถิด”..พี่น้องเอ๊ยยยย..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 171.97.73.202 วันที่: 22 ตุลาคม 2567 เวลา:6:44:03 น.  

 
42.ปกติเราจะไม่ค่อยประเมินใครล้ำไปถึงอนาคต,เพราะมนุษย์อาจทำผิดพลาดในวันใดวันหนึ่งได้(โดยมากเราจะประเมินตั้งแต่อดีตจนถึง”ณ วันนี้”..เท่านั้น).. ซึ่งเราเคยโพ้สต์(เมื่อ16-10-67)ว่า.. ณ วันนี้.. คนที่เราเห็นว่า”ฉลาดที่สุด”(ในเรื่องสติปัญญา,ไหวพริบ,การพิจารณาเรื่องราว,การรอบคอบ)ในยุคนี้..ก็คือ”คุณณวัฒน์”.. และจนถึงวันนี้(ที่เขาให้สัมภาษณ์”ช่อง1”,23-10-67).. “คุณณวัฒน์”ก็ยังคงครอง”ตำแหน่งนี้”สำหรับเรา..เช่นเดิม.. คือ..
กรณีที่”สื่อหลายช่อง”ชอบหาประเด็นถาม”ผู้ที่เชิญมา”.. เช่นว่า.. เขาบอกว่า..”คนล้มอย่าข้าม?”(ซึ่งจริงๆ.. การถามเช่นนี้..”ประชาชนบางส่วน”อาจเกิดคำถามว่า.. คุณ”รับงาน?”หรือ”รับ....?”มาจากใครหรือไม่?.. จึงชอบถามแบบ”เอื้อประโยชน์?”หรือ”เข้าข้างคนผิด?”..เช่นนี้?).. แต่”คุณณวัฒน์”ตอบประเด็นนี้ได้ดี,ใช้การเปรียบเทียบแบบย้อนศรเข้าตัวผู้ถามได้ดี,ชัดคม,ตรงใจเรามาก..(ซึ่งบางครั้ง.. การจัดการกับ”โรคร้าย?”,ก็อาจต้องใช้”ยาแรง?”,จึงจะหายโรคได้ไงล่ะครับ?)..
ซึ่งเราอยากขอเสริม”มุมคิดเพิ่มเติม”บางอย่างว่า.. เช่น.. “โทษบางอย่าง”ของ”ผู้ที่ทำผิด”ที่เป็น”เรื่องเสียหายร้ายแรง”.. แม้แต่”คนในยุคประวัติศาสตร์ชาติไทย”ที่เป็น”บรรพบุรุษของเราทุกคน”,เขายังมี”ภูมิปัญญาที่ฉลาดมาก”(ที่รู้เท่าทัน”จิตนิสัยของมนุษย์?”)..
ซึ่งแม้”วิทยาศาสตร์”จะยังไปไม่ถึงเรื่องของ”DNAมนุษย์”,แต่คนสมัยก่อนก็สามารถหยั่งรู้”ธรรมชาติของDNAมนุษย์”(โดย”ภูมิปัญญาที่ลึกซึ้งทางจิต”),จนมี”บทลงโทษ”ต่อ”โทษที่ร้ายแรง”,ถึงขั้น “7ชั่วคน?”..นั่นไง?..(แต่เพราะสากลสมัยใหม่,โลกไม่ยอมรับ,จึงต้องถูกยกเลิกไป)..
นี่แหละ..จึงเป็นคำตอบว่า.. บางครั้ง..คำว่า..”คนล้มอย่าข้าม?”..บางทีก็ใช้ไม่ได้กับ”ทุกๆกรณี?”เสมอไป(?).. เพราะ”มนุษย์บางคน”มีความ”กินลึก?,เห็นแก่ตัวจัด?”ไปจนถึง”ระดับDNA?”,จนไม่อาจแก้ไขอะไรได้ใน”ชาติปัจจุบันนี้?”อีกแล้ว?..ก็เป็นได้(?)..
เพราะ”สังคมไทย”เป็น”คนจิตใจอ่อน,ขี้สงสาร,ลืมง่าย,ชอบให้อภัยคนทำผิด”,ซึ่ง”คนฉลาดแกมโกง?”มักจะ”ฉลาดอ่านรู้จิตใจคนไทยดี”,จึงถือเป็นช่องทางให้”กล้าทำผิดต่อคนส่วนรวม”,ไม่ว่าจะอยู่ใน”ภาคการเมือง,ภาคสังคม,และภาคศาสนา”อยู่เรื่อยๆ..อย่างไม่สิ้นสุด,จึงทำให้มี”คนที่กล้าทำผิด?”แบบ”ไร้จิตสำนึก?”ต่อ”ผู้ถูกเอาเปรียบ?”มากขึ้นเรื่อยๆในสังคมไทย(?)..นั่นไง?..
แม้ใน”พุทธศาสนา”เอง.. ก็ยังมี”โทษปาราชิก”(สำหรับ”ภิกษุที่ทำผิดร้ายแรง”).. คือ..”ห้ามผู้ที่ทำผิดมหันต์กลับมาบวชใหม่ในชาตินี้อีกต่อไป”..นั่นไงครับ?..(คือต้องรอไป”เกิดใหม่ชาติหน้า”,จึงจะบวชใหม่ได้..นั่นไง?)..
เพราะ”การทำผิด”ต่อ”คนจำนวนมาก”,ซึ่งเป็นคนที่”ฐานะด้อยกว่า”,จนเป็นเหตุให้”ครอบครัวของเขาเสียหาย”หรือ”ล่มสลาย”,ถือว่าเป็นคนที่มี”จิตวิญญาณที่อำมหิตมาก?”(ใจดำ?).. น่าจะแก้ไขให้ดีขึ้นอีกไม่ได้แล้วในชาตินี้(?)..ประมาณนั้นครับ(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.112.174 วันที่: 24 ตุลาคม 2567 เวลา:6:18:46 น.  

 
43.สรุปได้เลยว่า.. “เงิน”(หรือ”การเห็นแก่เงินมากๆ?”)ทำให้”คนทุกอาชีพ,ทุกสถานะ”(ไม่ว่า”ฆราวาส”หรือ”นักบวช”),ที่ไม่ยึด”หลักสัมมาทิฐิแบบพุทธ”,ที่สุดจะกลายเป็น”เสียคน,เสียเครดิต,เสียชื่อเสียง”ได้แทบทั้งหมด(?).. เราเห็นมีแต่อาชีพ”กสิกร”(ระดับชาวบ้าน)เพียง”อาชีพเดียว”ที่เป็น”อาชีพที่ค่อนข้างบริสุทธิ์ในทางศีลธรรม”..เท่านั้น..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ


โดย: สมจิต IP: 27.145.208.175 วันที่: 30 ตุลาคม 2567 เวลา:22:32:07 น.  

 
44.”ปัญหาสังคมไทย”..คือ.. การที่มี”ตำนานกึ่งนิยาย”เรื่อง”ศรีธนญชัย”และ”สามก๊ก”(ซึ่งตรงกับ”จริตนิสัยของคนไทย”ตั้งแต่ในอดีตที่ผ่านมา),ที่จึงมักเรียนรู้”นิยาย2เล่มนี้”,เพื่อที่จะนำมา”เลียนแบบ(?)”ใน”มุมความคิดชื่นชม?”,มากกว่าการเรียนรู้เพื่อ”ประณาม(?),ต่อต้าน(?)”และ”ที่จะต้องไม่ทำตาม(?)”อย่างเด็ดขาด(?)..
ในมุมวิเคราะห์.. เราต้องยอมรับความจริงว่า.. “คนไทย”มี”รากฐานความคิด”ของ”กระบวนการซิกแซ็ก?,เล่ห์เหลี่ยม?,ไม่ตรงไปตรงมา?”(โดยเฉพาะ”คนไทยเชื้อสายจีนบางกลุ่ม?,บางคน?”,ยิ่งมี”คติซิกแซ็ก?,เล่ห์กล?”ที่มีเชิง”ซับซ้อน?,ซ่อนเงื่อนมาก?”,แบบที่”คนไทยโบราณ”ตามไม่ค่อยทันหรอก?)..
ซึ่ง”สื่อบางสื่อ?”ที่เคยเป็น”ผู้นำประท้วงขับไล่นักการเมืองดังบางคน?”(บางคน)และ”ทนายมีปีก?”(บางคน),ที่เวลาออก”รายการผ่านสื่อ”ก็มักโจมตี”ฝรั่ง”(โดยเฉพาะ”ฟากเมกา?”)โดยพูดแทรกร่วมในรายการไปด้วย(?)..อยู่เป็นประจำ(?),ทำนองว่า..”เมกา”เป็น”ประเทศที่เล่ห์เหลี่ยมเยอะ?”,ไม่มีความจริงใจต่อ”ประเทศใดๆ?”..เลย(?)..(ประมาณนั้น?)..
[ประมาณว่า..”หมาเล็ก?”,ที่กล้าผยองเห่า”หมาใหญ่?”,ก็ให้ค่าว่า”หมาเล็กตัวนั้น?”มีเกียรติ,มีความกล้า(?)..ประมาณนั้น(?).. แต่จริงๆก็ไม่รู้ว่ามี”วาระซ่อนเร้นส่วนตัว?”อะไรหรือเปล่า?.. เพราะอย่าง”ผู้นำนักประท้วงบางคน?”ก็มี”เชื้อสายจีน?”(แบบเข้มข้น)ก็อาจลำเอียง”เชียร์จีน?”ซึ่งเป็น”ประเทศเชื้อสายเดียวกับตน?”,จนออกสไตล์”อคติต่อเมกา?”อย่างเห็นได้ชัด(?),แต่กลับ”มุ่งเชียร์จีน?”ซึ่งมักผลิต”สินค้า20บาท?”มาถล่ม”ตลาดเมืองไทย”,โดยไม่มี”ความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค?”ใดๆเลย(?).. เพียงแค่หวัง”ทำธุรกิจเพื่อค้ากำไร?”,เพื่อส่งเงินกลับไปยัง”ประเทศตนเอง?”..เท่านั้น(?)..นั่นต่างหาก(?).. และนี่คือ”สไตล์จีน?”..ที่”สมองคิดแต่เรื่องธุรกิจค้ากำไร?”เพื่อหวัง”ความร่ำรวย?”ให้กับ”เฉพาะกลุ่มเชื้อสายของตนเอง?”..เท่านั้น(?)..หรือไม่?(?)]..
ทั้งๆที่..เท่าที่ผ่านมาในอดีต,”เมกา”ก็”ทำประโยชน์ที่เป็นคุณ”หรือ”มุมบวก”(แม้เช่น..กรณีช่วยต่อต้าน”ลัทธิคอมมิวนิสต์?”เพื่อรักษา,ประคอง”สถาบันเบื้องสูงของไทย”ให้ไปต่อได้?..นั้นก็ด้วย?)ต่อไทยอยู่เป็นจำนวนมาก..(หรืออย่างกรณี”ทับหลังนารายณ์ฯ”..ที่สุดก็ส่งให้ไทยคืน..นั่นไง?)..
ซึ่งเราสังเกตว่า.. “เมกา”เขาจะไม่ค่อยอยาก”ถือสาต่อประเทศไทย”,ซึ่งเป็น”ประเทศเล็ก”ที่เขาจะมาตั้งป้อม,เอาเรื่องเอาราวแบบจริงจังกับไทยอะไรมากมาย(?).. เรามองว่า..”เมกา”นั้นมี”จิตใจต่อไทย”เปรียบเหมือน”สุนัขพันธ์เซ้นเบอร์นาร์ดตัวใหญ่?”ที่มีต่อ”สุนัขพันธุ์ไทยที่ตัวเล็กกว่า?”,ในมุมของ”ความเมตตา,เอ็นดู?”,และ”ไม่ค่อยอยากถือสาอะไร?”..นั้นมากกว่านะ(?)..เราว่า(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.208.175 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2567 เวลา:21:07:28 น.  

 
45.”คนใด?”ที่รู้ว่าตนเองก็”ไม่ใช่สะอาดแท้?”,ก็ไม่ควรไป”โจษท้วงผู้อื่น?”ว่า”เลว?”.. แต่ถ้าต้องการ”ช่วยสังคม?”จริงๆ?.. ก็ควรไปกระซิบให้”ผู้ที่ดูบริสุทธิ์กว่าตน”ให้เป็น”ผู้ดำเนินการโจษท้วง?”ให้แทนจะดีกว่า(?)..หรือไม่?..
ซึ่งถ้าจะมี”ความประสงค์”ของ”สื่อบางสื่อ?”,ที่มุ่งไปร้องเรียนให้”สภาทนายความ”,เพื่อให้เร่งรีบจัดการกับ”ทนายความบางคน?”ว่า”ทำผิดมรรยาททนายความ?”หรือไม่?.. ก็อยากบอกว่า.. ก็ควรไปร้องเรียนกับ”สภาหรือสมาคมสื่อสารมวลชน?”ด้วยว่า.. ให้ช่วยดูแล”สื่อบางสื่อ?”ว่าใช่”สื่อแท้?”ที่มี”จรรยาบรรณสื่อ?”สมกับการเป็น”สื่อ-ฐานันดรที่4”อย่างแท้จริง(?)..ด้วยหรือไม่?..ด้วยนะครับ(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.208.175 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2567 เวลา:23:45:06 น.  

 
46.(“จุดบอดสังคมไทย”..อย่า”กลัดกระดุมเม็ดแรกผิด?”)..
“ประชาชนทุกคน”.. เราอยากขอให้”ภาครัฐ”ควรให้ได้”รู้กฎหมายที่สำคัญ”(ผ่าน”การเรียนรู้”เริ่มจาก”การอบรมกฎหมาย”ใน”ระดับหมู่บ้าน”),เพื่อจะได้ไม่ถูกใครมากลั่นแกล้งได้..
แต่”ไม่ว่าใครก็ตาม?”,ไม่ควรใช้”ความรู้(มาก)ทางกฎหมาย?”(หรือ”เทคนิค,ช่องว่างทางกฎหมาย”)(เช่น..จาก”นักร้องเรียนบางคน?”,หรือ”ทนายความบางคน?”,หรือ”เนติบริกรบางคน?”,หรือ”นักทำบัญชีการเงินให้กับบางกิจการ,บางธุรกิจ,บางคน?”,หรือ”สื่อมวลชนบางค่าย?,บางคน?”),เพื่อไปหาช่อง”หลบเลี่ยงข้อกฎหมาย?”ในการ”ทำทุจริต?”,หรือเพื่อ”กลั่นแกล้ง?,ฉ้อโกงผู้อื่น?”..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.208.175 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2567 เวลา:0:39:39 น.  

 
47.”วิถีแมลงวัน?”หรือ”การทำสื่อ?”(บางส่วน?).. ประชาชนก็ต้องระวังว่า.. อย่าไปหลงใหล”บุคลิกการนำเสนอข่าว?”แบบ”ขยี้ข่าว?”ว่า.. เป็น”พิธีกรสื่อที่เยี่ยมยอด?”อะไรมากนัก(?).. คือ..
1.”สื่อ?”(บางส่วน?)ก็ถูกเปรียบเทียบว่า..คือ”แมลงวัน?”,ที่ชอบ”ตอมของเหม็น?”นั้นก็ไม่ผิด(?),เพราะ”อาชีพเขา?”มี”มุมมอง?”ที่ต้องเป็นเช่นนั้น(?)..หรือไม่?.. แต่”อีกคำพูดหนึ่ง”ที่มีการพูดกันถึง..ก็คือ..”แมลงวันย่อมไม่ตอมแมลงวันด้วยกันเอง?”,หรือ”สื่อมักจะไม่โจมตีผู้ที่ทำสื่อด้วยกันเอง?”..ประมาณนั้น(?)..นั่นแหละ(?)..
2.”สื่อบางส่วน?”มักจะชอบ”อวยพิธีกรสื่ออื่น?”ที่มี”บุคลิกขยี้ข่าว?”เช่นเดียวกับตน(?)(แต่เขาอาจเป็น”นักวิชาการที่ดูสุภาพในการขยี้ข่าว?”มากกว่าตน,ที่มักออก”สไตล์เฟี้ยวฟ้าว,น่าตื่นเต้น?”มากกว่า?..เท่านั้น?),หรือก็มัก”อวยบุคคลอื่น?”(เช่น..”อวยทแนะที่ชื่ออ.”ว่า”ข้อมูลแน่น?”เพื่อต้องการอ้างอิง”ข้อมูลจากเขา?”,เพื่อนำมาเป็น”ประโยชน์เสริม?”,ในการทำ”คอนเท้นต์ข่าวของตน?”..เป็นต้น?..นั่นเอง?..เช่นกัน?)..ด้วยนั้น(?)..
แต่เชื่อเถอะว่า.. ถ้าเมื่อไหร่ที่มีข้อมูลว่า”ท่านนั้นๆ?”(ไม่ว่าเป็น”ใครก็ตาม?”)ที่ตนเองเคยนำมาเป็น”คอนเทนต์?”มาก่อน?.. แต่ดันไป”หลุดข้อมูล?”ว่า..ก็เคยทำ”สิ่งที่ไม่เข้าท่า?”หรือ”ไม่ชอบมาพากล?”มาก่อน(?)เช่นกัน(?)..เมื่อไหร่(?).. เราเชื่อว่า.. “สื่อบางท่านนี้?”,ก็จะลืมไปว่า..”ตนเคยอวยเขามาก่อน?”,แต่ตอนนี้..กลับจะนำมา”ตี?,ขยี้ข่าว?”ต่อ”บุคคลที่ตนเองเคยอวย?”,แบบ”ไม่เลี้ยง?”,เพื่อต้องการ”เรตติ้งคนดู?”ของ”รายการของตนเอง?”อยู่เช่นเดิม?..นั่นแหละ?..(เราว่านะ?)..
3.เหมือนกับที่"พิธีกรสื่อบางคน?"ก็เคยให้เกียรติต่อกรณี”ทนายต.”,โดยอ้างว่าเคยรู้จักมักคุ้น(สนิทสนม)ในการทำข่าวมาก่อน,แต่มาวันนี้เมื่อ"เขามีข่าวฉาว?",ก็ทำเป็นพูดว่า..”อย่าหาว่าไปพูดปกป้องเขา(‘ทนายต.’)เลยนะ?”..
แต่เท่าที่เราฟังดู”กระแสเสียง?”แล้ว?..ก็จริงๆไม่ได้ไปปกป้องอะไรหรอก(?),แต่แค่ต้องการแซะหา”ประเด็นข่าวในมุมต่างๆ?”ของ”ทนายต.”แบบ”ไม่ต้องเกรงใจ?”มากกว่า?..(เช่น.. บอกว่า”แต่เขายังไม่ผิดนะ”,แต่”สำนวน,สำเนียง?”นั้น,ดู”รุกขยี้มุมลบของเขา?”อย่างจริงจังมากเลยนะ?..เราว่า?)..
เพียงแต่(อาจ)ต้องการทำให้”ประชาชนหลงทาง?”ว่า.. ตนเองก็พยายาม”ออกตัวให้ทนายต.?”ทำนองว่า”เกรงใจทนายต.?”อยู่นะ(?).. แต่”เนื้อหาข่าว?”นั้น,กลับเลือก”ขยี้แต่มุมลบ?”,แบบคล้ายๆจะ”ไม่ให้ได้ผุดได้เกิด?”กันเลย?..ว่างั้นเถอะ?..(หรือไม่?)..
แต่”อีกฝ่าย?”ทีมีนัยยะที่คล้ายว่า..”ต้องการหาช่องที่จะเสียภาษีให้น้อยที่สุด?”..หรือไม่?(ซึ่งภาษาชาวบ้านจะบอกว่า”หลบเลี่ยง......?”)..นั้น(?),ก็ไม่เห็นจะ”พูดขยี้ในประเด็นนี้?”(?)..แต่อย่างใดเลย?..(ใช่หรือไม่?)..
เพราะถ้ามองแต่มุมว่า..”ทนายต.”เป็น”ทนายสีเทา?”.. ก็ควรจะ”ตั้งประเด็นถาม?”หรือ”ขยี้อย่างเป็นธรรม?”ให้”เสมอกันทั้ง2ฝ่าย?”ด้วยว่า.. ดังนั้น.. “คนที่ร่ำรวยมากๆบางคน?”(เช่น.. จากประเด็นที่”บางคนถูกหวยล็อตโต้ต่างประเทศ?”,ที่ยังไม่มีใครไปตามสืบสวน”การได้มาซึ่งรางวัลนั้นๆ?”นั้น?..เป็นต้น?)นั้น?.. ทำไม?..ถ้า”ตนเอง?”เป็น”คนมีจิตใจที่บริสุทธิ์,งดงามจริง?”.. แต่ทำไมจึงเลือกที่จะไปใช้บริการกับ”ทนายที่ตนเองมองว่าสีเทาๆหรือเอาทุกช็อต?”,โดยคบหากันและบอกว่า”รักมากๆ?”(ซึ่งไม่ได้เป็นสามีภรรยากัน?)มาเป็นเวลาตั้งหลายปีด้วยเล่า?.. ใช่หรือไม่?..
ดังนั้น.. เราจึงมองว่า..”สื่อบางท่านนี้?”ก็ไม่ได้”sin….?”กับ”ผู้เป็นข่าวคนใด?”อย่างถาวร(?)..หรอก(?),เพียงแค่ต้องการ”ทำเพื่อเรตติ้ง?”ให้กับ”รายการของตน?”,เพื่อให้”คนสนใจเข้าชมมากๆ?”เท่านั้นมากกว่า(?)..หรือไม่(?)..
4.สมัยหนึ่ง..”บางพิธีกรสื่อนี้?”ก็พยายามไปโจมตี”คุณตอ.”ซึ่งเป็น”ผู้หญิงต่อสู้ชีวิตตัวเล็กๆ,หนัก40กว่าโล?”(แบบ”ไม่เผาผี?”)อย่างหนักนาสาหัส(?)..เช่นเดียวกัน(?).. ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้..ก็เคยคบหา”ทำคอนเท้นต์ข่าวเรื่องของเธอ?”อย่างมากมายมาก่อน(?)..เช่นเดียวกัน(?)..(ใช่หรือไม่?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.208.175 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2567 เวลา:8:42:40 น.  

 
48.(“สังคมไทย?”เป็น”สังคมที่โสโครก?”ที่มีอยู่ใน”แทบทุกวงการ?”,แทบไม่มีละเว้นเลย?,แตะตรงจุดไหน?,มักจะเจอตรงจุดนั้นเสมอ?.. ซึ่ง”พระพุทธเจ้า”บอกอย่างชัดเจน.. ว่า.. คบคนเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น”.. และเราอยากบอกว่า..”คบสัมพันธ์กับกิจการเช่นไร?.. ก็จะเป็นคนที่มี”อุปนิสัยที่ใกล้เคียง?”กับ”กลุ่มกิจการเช่นนั้น?”ด้วยเช่นกัน?..นั่นแหละ?)
“ข้อสังเกต”.. คือ.. ถ้า”สื่อ2สื่อ?”จริงใจต่อ”สังคมและประชาชน?”อย่างแท้จริง?.. คือ.. 1.สื่อที่มี”พิธีกรที่เล่าข่าว?”แบบ”เฟี้ยวฟ้าว,ตื่นเต้น?”.. 2.สื่อที่มี”พิธีกรที่เป็นนักวิชาการเด่น?”,ที่รู้กฎหมาย,มีการระวังตัว,และพูดจาแบบสุภาพ..
ซึ่งจะมีการนำเสนอ”เรื่องรปภ.?”ที่ให้ข่าวว่า.. “รถเบ๊นซ์13ล้าน?”ที่”พวกจีนเทา?”เคยขับมาใช้บริการ(?).. ซึ่งตอนแรก..”พิธีกรบางคน?”จะให้ข่าวแบบ”เต็มปาก?”ว่าเป็น”จีนเทา?”(?),แต่เพราะ”เขารู้กฎหมายดี?”,จึงพูดตามหลังประมาณว่า.. “รปภ.เป็นคนพูด?”,แต่”ตัวพิธีกร?”ยังไม่ได้สรุปว่า..เป็น”จีนเทา?”อย่างแน่นอนนะ?.. เพราะเกรงว่า..จะเป็นการพูดข่าวแบบ”กล่าวหาบางฝ่าย?”,โดยยัง”ไม่มีหลักฐานชัดเจน?(เพราะอาจเกรงว่า”ตนเองอาจถูกฟ้องร้องได้?”)นั้น(?).. เพราะเป็นแค่”รปภ.?”แล้วจะไปรู้”รายละเอียด?,ล้วงลึก?”ถึงขั้นเป็น”จีนเทา?”ประมาณว่า.. ถ้า”พูดจีน?”,แล้วจะต้องเป็น”จีนเทา?”เสมอไป?..ด้วยหรือ?.. ประมาณนั้น?..
เพราะถ้าทั้ง”2ค่ายสื่อ?”นั้น?.. ถ้าคุณจะต้องการเป็น”สื่อที่ดี,มีคุณธรรม”,ที่มุ่งทำ”เพื่อประโยชน์,เพื่อสังคม,และเพื่อประชาชน”อย่างจริงใจ(?).. คุณก็ต้องไปตามต่อเนื่องด้วยว่า.. ที่”รปภ.?”อ้างว่าเป็น”จีนเทา?”นั้น?..จริงหรือไม่?..แค่ไหน?.. และถ้าเป็นจริง,และทาง”ผู้ให้บริการ?”ยอมให้มา”ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง?”,และเขารับรู้ว่าเป็น”จีนเทา?”,และยังคงให้บริการต่อไปเรื่อยๆ?.. “ทางผู้ให้บริการ?”นั้นอาจเท่ากับเป็น”ผู้ให้การสนับสนุน?”ต่อ”จีนเทาที่ไม่บริสุทธิ์นั้นๆ?”..ด้วยหรือไม่?..
และต้องตาม”ขุดคุ้ย?,ขุดค้น?”ไปถึงระดับ”โรงแรมที่มีม่าน?”(เพื่อมีเจตนาช่วยปกปิด”คู่หญิง,ชาย?”ที่มา”ใช้บริการ?”ที่มีลักษณะสนับสนุน,เอื้อให้มีการทำผิดต่อ”หลักศีลธรรม?”คือ”ศีลข้อที่3กาเมฯ”,ซึ่งมักจะลามไปถึงการมีส่วนทำให้”สถาบันครอบครัวไทยล่มสลาย?”.. ที่”ทุกสื่อ?”อาจต้องร่วมกันรณรงค์ให้ต้องให้”ยกเลิกโรงแรมเช่นนั้น?”?..ด้วยหรือไม่?..
รวมถึงการต้องให้ยกเลิก”รถติดฟิล์มสีดำสนิท?”,รวมถึง”กิจการอาบอบนวดทั้งหมด?,และการ”นวดทุกรูปแบบ?”ที่แอบแฝงไปด้วยการ”ค้าประเวณี?”,และ”การมีเพศสัมพันธ์?”ที่ไม่ถูกต้องตาม”หลักศีลธรรม?”(ศีลข้อ3กาเมฯ)นั้นด้วย?..หรือไม่?..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.208.175 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2567 เวลา:10:12:18 น.  

 
48.เรางงกับ”ข่าวทนายต.”ที่”บางสำนักข่าว?”(มากกว่า1สำนักข่าว)พยายามตีข่าวประมาณว่า.. “รถเบ๊นซ์13ล้าน?”โยง”จีนเทา”.. ประมาณว่า.. “ทนายต.”เอารถของ”เศรษฐีหญิงคนหนึ่ง?”ไปปล่อยให้”จีนเทา?”เช่า?..หรือไม่?..
เสร็จแล้ว”อีกสำนักข่าวหนึ่ง”ก็มาขุดว่า..ไปเห็น”เบ๊นซ์ตัวเป็นๆคันนี้,ทะเบียนเดียวกัน?”อยู่กับ”บ้านส.”,ซึ่งเป็น”ภรรยา?”ของ”นายน.”อยู่เลย(?)..เมื่อไม่กี่วันนี้(?),ซึ่งพยายามโยงว่า..”นายน.”เป็นเพื่อนกับ”ทนายต.”(?).. แต่ข่าวก่อนหน้านี้(ไทม์ไลน”สไตล์โคนัน”)ก่อนที่”บางช่อง?”จะไปพบว่า”รถอยู่ที่บ้านส.”(ซึ่งเป็นเมีย”นายน.”)นั้นน่ะ?.. แต่”อีกช่อง?”ก็ไปนำเสนอว่า..”เศรษฐีหญิงดังกล่าว?”บอกว่า”ได้รถมาคืนแล้ว?..นั่นไง?.. และยังขับไปมาในช่วงนี้อยู่เลย(?)..
ดังนั้น.. ถ้าจะพยายาม”เกี่ยวความสัมพันธ์?”เชิง”ไทม์ไลน์ของข่าว?”.. ดังนั้น..”เศรษฐีหญิง?”น่าจะ”สัมพันธ์เชิงรถเบ๊นซ์คันดังกล่าว?”(ที่ใช้งานกันอยู่?)กับ”นายน.?”หรือ”นางส.?”มากกว่า”ทนายต.?”,ซึ่งตอนนี้”รถ?”ก็ไม่ได้อยู่กับ”ทนายต.?”(จาก”ไทม์ไลน์ข่าว?”)แล้ว?..หรือไม่?..
แล้วทำไมจึงพยายามสืบเสาะให้”รถคันนี้?”ไปพัวพันกับ”ทนายต.?”ซะเป็นตุเป็นตะ?.. ซึ่งมัน”ไม่เม้คเซ้นซ์?”ตามหลักของ”ไทม์ไลน์ ณ ปัจจุบัน?”..เลยนะ(?)...เราว่านะ(?)..(คือ..เราแค่อยากช่วย”เรียงไทม์ไลน์?”ให้มันถูกต้องตามจริง?..เท่านั้นนะครับ?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.208.175 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2567 เวลา:11:46:14 น.  

 
49.”สังคมไทย”..
1.จำนวนคนฉลาดทั้งหมดมีเป็นจำนวนมาก..
2.แต่คนที่ฉลาดแกมโกง(Fake)มีอยู่จำนวนหนึ่ง..
3.และคนฉลาดแกมโกงที่รอบคอบมีน้อยลงมาอีก..
4.แต่คนฉลาดแกมโกงที่รอบคอบ,ที่ทำเนียน,สร้างภาพว่า..”ตนเองเป็นคนดี,นับถือคนดี,เป็นคนตรงไปตรงมา,ไม่เอาเปรียบใคร?”นั้น..มีน้อยที่สุด(?)..
5.ส่วนคนฉลาดที่ดีสุด,เสียสละอย่างเดียว,ไม่เอาเปรียบใครเลย,มีชีวิตดุจดั่ง”พระอรหันต์”นั้น..แทบหาไม่ได้เลย(?)..ใน”สังคมยุคนี้”(?)..
6.แม้แต่”อรหันต์”ที่ยัง”ไม่ละสังขาร”ก็ถือว่า..ยังมี”กิเลส”ที่ต้อง”ดูแล,ปกป้อง,ห่วงใยสังขารตนเอง”อยู่เล็กน้อย,ที่เรียกว่า”สอุปาทิเสสนิพพาน”( =”นิพพานที่ยังมีเศษเหลือ”)นั่นไง(?)..
7.ส่วน”อรหันต์”ที่”หมดสิ้นกิเลสอย่างสินเชิง”,ก็คือ”อนุปาทิเสสนิพพาน”( =ไม่เหลือเชื้อกิเลสใดๆเลย),ก็คือ..”อรหันต์ที่ละสังขารแล้ว?”เท่านั้น(?)..นั่นเอง(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.208.175 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2567 เวลา:14:37:00 น.  

 
50.สังคมนี้ช่างวุ่นวายเสียจริง.. “อดีตแกนพธม.”ก็ทำท่าจะไปเปิดศึกกับ”ทนายด.”.. เรามองว่า..”อดีตแกนพธม.”ฉลาดแบบ”คนจีน”,เพราะ”สมองคนเชื้อสายจีน?”มักคิดได้”ซับซ้อน?,ซิกแซ็ก?”มากกว่า”สมองคนเชื้อสายไทย?”นะ?..เราว่า?.. เราเองก็”เชื้อสายจีน”,แต่เราชอบพูดตามตรง,ไม่ชอบเข้าข้าง”เชื้อสายตัวเอง”,เราจึงค่อนข้างที่จะ”อ่านสมอง,ความคิด?”ของ”บางคน?”ออก(?),แต่พูดมากไม่ได้เดี๋ยวจะถูกฟ้องเอา(?).. เอาเป็นว่า..พูดกว้างๆก็แล้วกัน(?)(“แกนพธม.ท่านนี้”เคยปฏิบัติธรรมสาย”มหาบ.”,เราเองก็เคยปฏิบัติธรรมสาย”สีกรักคลองกุ่ม”..เช่นกัน)..
ส่วน”ทนายด.”นั้น..เรามองว่า..แกค่อนข้างตรงไปตรงมา(แกติดกินไวน์),บางทีคนก็มองว่า..”คนเมาไม่ค่อยโกหก?”(เพราะสมองคน,เวลาเมาไม่สามารถคิดหรือสั่งการแบบซับซ้อนได้,คิดอะไรก็มักจะพูดออกมาเลย).. แต่สังเกตว่า..”ทัศนะของทนายด.”จะมีลักษณะ”อยู่กับความเป็นจริง”.. ซึ่ง”ความเป็นจริง”ก็คือ”สังคมมีทั้งเรื่องที่เข้าท่า?”และ”ไม่เข้าท่า?”,แต่ก็ต้อง”ยอมรับตามสภาพ?”(เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดให้ได้).. คือ..”ทนายด.”แกไม่ชอบ”ดราม่า?”ว่างั้นเถอะ(?)..ซึ่งแกไม่ได้มี”อุดมคติ”อะไรมากมาย?,แกพูดตาม”ประสบการณ์ของแก”,ซึ่งฟังไว้ก็ไม่เสียหลาย,นำมาใช้เป็น”ข้อมูล”เพื่อให้รู้เท่าทัน”เรื่องราวในสังคม”ได้..เช่นกัน)..
ส่วน”สายคลองกุ่ม”อย่าง”ท่านจ.”ก็ไปซัดกับ”อ.เบียร์”และ”แพร์รี่”.. เรามองว่า..”สายคลองกุ่ม”มีทัศนะที่สุดๆไปอีกแบบหนึ่ง(?).. ซึ่ง”อ.เบียร์”มองว่า..”กิน-ซื้อ-ขายเนื้อสัตว์,ที่เราไม่ได้เห็น,ไม่ได้ยิน,ไม่ได้สงสัยว่าเขาฆ่าสัตว์นั้นๆมาเพื่อเรา”นั้นกินได้,ไม่ผิดตาม”หลักคำสอนของพระพุทธเจ้า”..
แต่”สายคลองกุ่ม”มองว่า..”แปลคำสอนพุทธผิด?”,ที่จริงต้องแปลว่า..”ไม่เห็น,ไม่ได้ยิน,ไม่สงสัยว่าสัตว์นั้นถูกฆ่ามา?”(ไม่มีคำว่า”เพื่อเรา”).. ดังนั้น..”สัตว์ที่ขายในท้องตลาด?”นั้น,”สายคลองกุ่ม”มองว่า”กินไม่ได้เลย?”ประมาณนั้น(?).. และยังบอกว่า..”ศาสนาพุทธนั้นสอนเมตตา,ถ้ามีเมตตามากพอ,จะกินเนื้อเพื่อนได้อย่างไร?”.. นี่เป็น”ทัศนะที่ต่างกัน?”.. แล้วใครจะเป็นผู้ตัดสิน(?)..
และ”พระพุทธเจ้า”ก็ดันเปิดช่องว่า.. “สัตว์ตายเองกินได้?”(ทำไมไม่บอกไปเลยว่า..”ชาวพุทธห้ามกินเนื้อสัตว์เด็ดขาด?”,ไปเปิดช่องไว้ทำไม?,ให้”ชาวพุทธรุ่นหลัง?”มาทะเลาะกันเอง?,ซึ่งเราก็งงเหมือนกัน?).. และสมัยนี้มีเรื่อง”โรคระบาดสัตว์?”ด้วย?.. ถ้า”สัตว์ตายเอง?”ใครจะกล้ากิน?(?)..(ใช่หรือไม่?)..
อีกกรณี.. เราเห็นด้วยว่า..”ชื่อเบียร์?”นั้นไม่เป็น”มงคล?”,เพราะฟังคำว่า”เบียร์?”เมื่อไหร่?,ก็จะนึกถึงการ”ทำผิดศีลข้อ5”ทันที?..(หรือ”ชื่อกิ๊ก?”ก็ไม่เป็น”มงคล?”,เพราะจะทำให้นึกถึง”การเล่นชู้,ผิดศีลข้อ3กาเมฯ”ทันที?..เช่นกัน?).. ซึ่งก็ไม่มีใครตั้งชื่อให้”ตัวเอง”หรือ”ลูกหลาน”ว่า”นายเข่นฆ่า”,หรือ”นายขี้โกง”,หรือ”นายโกหก”,หรือ”นายขี้เมา”อยู่แล้ว?..ใช่หรือไม่?.. ประเด็นนี้..เราว่า”ท่านจ.”พูดถูก,แต่ถ้าเน้นเรื่อง”สิทธิส่วนบุคคล?”,ก็ถือว่า”อ.เบียร์”ก็ถูกเช่นกัน(?).. อย่าง”กฎจราจร”ถ้า”ฝ่าไฟแดง”ก็ต้อง”ผิดกฎหมาย”,แต่”ทางศีลธรรม”ก็ไม่ถือว่าผิด(?)..นั่นไง?..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.208.175 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2567 เวลา:2:20:34 น.  

 
51.อย่าง”ท่านจ.”เห็นด้วยว่า..”ควรให้พระถีบจักรยานได้”,แต่เราก็ไม่เห็นด้วยกับ”ท่านจ.”(ซึ่ง”แพร์รี่”ก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน),เพราะมองว่า.. มันจะงอกไปเป็น”พระขับมอไซค์?”,และ”พระขับรถเก๋ง?,รถปิ๊คอั๊พ,รถบรรทุก,รถแบ๊คโฮร์?”วุ่นวายเต็มไปหมด.. คือ”สายคลองกุ่ม”เขาคิดละเอียด(?)(ซึ่งบางทีก็ลักลั่น,”ถี่ลอดตาช้าง..ห่างลอดตาเล็น?”,อย่าง”ท่านพ.คลองกุ่ม”บางทีก็ยัง”ร้องเพลง”อยู่เลย,ยัง”ขับรถแบบสวนสนุก”,ยัง”รับเงิน”ทั้งๆที่”แอนตี้พระที่รับเงิน”อยู่เลย),ซึ่งบางที..สังคมก็มองว่า”สายคลองกุ่ม”ถือเคร่งไป(?)..
อย่างเรื่อง”เพศหลากหลาย?”นั้น,คุณ”แพร์รี่”ก็มองว่า”ไม่ควรเหยียดเพศ?”ซึ่งเป็น”สิทธิส่วนบุคคล”.. แต่”ท่านจ.”ก็มองตาม”หลักคลองกุ่ม”ว่า..”คนผิดเพศ,ทางพุทธห้ามบวช?”.. แต่เราก็มองว่า.”โลกนี้มันแปลก?”.. สังเกตมั้ยว่า..”คนผิดเพศ?”ที่เป็น”พิธีกรเด่นๆ,ฉลาดเกินคนทั่วไป”,และ”ประสบความสำเร็จในชีวิต”(แบบเด่นดัง)มีอย่างมากมายใน”สังคมไทย”.. ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น(?)..
แต่”คลองกุ่ม”ปฏิเสธเด็ดขาด,ไม่ให้บวชเลย,แทบจะไม่อยากคลุกคลีคบหาด้วย(?).. ไม่ว่า”คนเหล่านี้?”จะพูดดี,มีเหตุผล,และเป็นที่ยอมรับจากสังคม?..อย่างไรก็ตาม?.. “สายคลองกุ่ม”จึงมีมิตรน้อยลง,เพราะปฏิเสธที่จะร่วมเสวนากับ”กลุ่มคนเหล่านี้?”..นั่นไง?..
อย่างกรณี”ท่านจ.”เคยขึ้น”เวทีพธม.”,และมีครั้งหนึ่ง..ก็เคยถูก”มหาจ.”ขอให้ลงจากเวที,เพราะพูดเนื้อหาที่ไป”ขวางลำ?”กับ”แนวทาง”ของ”กลุ่มพธม.”,ซึ่งอาจทำให้วงแตกได้(?).. แต่”ท่านจ.”ก็พยายามแสดงออกว่า..”ไม่ได้ถือสา,ถือโกรธอะไร?”.. และอย่าง”แกนพธม.คนสำคัญ”ที่”มหาจ.”เคยไปร่วมด้วย,ภายหลัง”แกนพธม.คนดังกล่าว”ก็มี”คดีความ”เกี่ยวกับ”ธุรกิจส่วนตัว?”,แล้วก็”ถูกจำขัง”,ซึ่งบัดนี้ก็พ้นโทษไปแล้ว..
บางทีคนก็แปลกใจว่า..”ท่านพ.แห่งคลองกุ่ม”,ซึ่ง”ลูกศิษย์”ยกให้ว่า”บรรลุสูงสุดแล้ว?”,แต่ทำไมจึงไปถูก”คนแดนไกล?”พูดให้เชื่อ,จนไปให้การสนับสนุน,จนได้เป็น”ผู้นำ?”,จนเป็นเรื่องมาถึงทุกวันนี้,ก็ยังไม่จบเลย(?).. รวมทั้ง”มหาบ.”ที่”ลูกศิษย์”รวมทั้ง”แกนพธม.คนสำคัญ”ยอมรับว่าเป็น”อรหันต์”,ก็ยังพลอยถูก”คนแดนไกล?”หลอกให้ไปสนับสนุนด้วย?..เช่นกัน(?)..
แล้วภายหลัง..ทั้ง”มหาบ.”และ”ท่านพ.คลองกุ่ม”ก็มาชี้ซึ่งกันและกันว่า..”อีกฝ่ายยังไม่ได้บรรลุอรหันต์?”,แต่ที่สุดก็กลับถูก”คนแดนไกล?"หลอกให้เชื่อว่า”เขารวยแล้วไม่โกง?”ทั้ง2องค์(?).. ส่วน”แกนพธม.คนสำคัญ”,เวลาทำรายการ,ก็จะมี”รูปของทั้ง2องค์?”,มาเป็นแบ๊คกราวน์(ทั้งๆที่ทั้ง2องค์ทะเลาะกันเอง)ด้วย.. เราจึงงงมากกับ”บริบทสังคมไทย?”ว่า..มันช่างยุ่งเหยิงจน”จับหลักไม่ได้?”ว่า..”ใครถูก?”หรือ”ใครผิด?”กันแน่?.. อ้อ..ยังมีครั้งหนึ่งที่”แกนพธม.คนสำคัญ”ก็เคย”ส่งเสียงทะเลาะกัน”กับ”ท่านพ.คลองกุ่ม”แบบ”ส่งเสียงไปทางอากาศ?”..ด้วยนะครับ(?)..
ส่วนทางโลก.. “ทแนะอ.”วันก่อนเห็นไปจับมือ,ตกลงคืนดีกับ”ทนายต.”,แต่เพียงไม่กี่วัน,ก็กลับมา”ทำซี่รี่ส์เปิดโปงทนายต.”เหมือนเดิมอีกแล้ว(?)(ซึ่งสื่อก็พากันงงมากๆว่า..”ตกลงจะคืนดีกัน?”,หรือ”จะทะเลาะกันรอบใหม่?”..กันแน่?)..
ส่วน”หญิงร่ำรวยคนหนึ่ง?”,วันก่อนๆบอก”รักกันมากๆ?”กับ”ทนายต.”,แต่วันนี้มองว่า..”เอาทุกช็อต?”.. ซึ่งไม่รู้ว่าถูก”พิธีกรบางสื่อ?”ที่”ยอดฉลาดแบบนักวิชาการ?”บางคน?,ถามนำแบบ”เสี้ยมเขาควายให้ชนกัน?”หรือเปล่า?.. จึงบอกว่า..”สายไปที่จะให้อภัย?”..
แต่ถ้ามองว่า..”คนเคยรักมากๆ”นั้นจริงๆ”เป็นสีเทาๆ?,เอาทุกช็อต?”,แล้วเรายังยอมคบกับ”คนเทาๆ?”มาตั้งหลายปีนั้น.. แล้วเราน่าจะเป็น”สีอะไรเหมือนเขา?”ด้วยหรือไม่?..(จึงมาคบกันได้แบบกลมกลืนมาก?).. และถ้า”เศรษฐีบางคน?”เป็น”คนที่เลิศประเสริฐจริงๆ?”,ทำไมจึงมีชีวิตที่”วุ่นเวียน,สาละวน?”อยู่กับ”เรื่องหวยๆ?”หรือ”สลากออนไลน์?”(ทั้งๆที่เป็นเรื่อง”อบายมุข?”ที่”ต้องห้าม?”ตาม”หลักของศาสนาพุทธ”).. นี่เป็นแค่”คำถาม”,สำหรับ”สื่อบางสื่อ?”ที่ชอบเลือก”อวยเฉพาะบางฝ่าย?”แบบยอม”ปิดตาข้างหนึ่งไว้?”..เท่านั้นนะครับ?..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 27.145.208.175 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2567 เวลา:3:18:08 น.  

 
51.”ฐานันดร4บางค่าย?”ชอบใช้”พลังของการส่งสาร?”,เพื่อเลือกโจมตีเฉพาะต่อ”ผู้เป็นข่าวบางท่าน?”,โดยมักจะโจมตีแบบ”เลือกข้าง?”(แต่ไม่ยอมพูดถึง”มุมลบของอีกฝ่าย?”เลย?,แต่จะหา"มุมชม"เพียงอย่างเดียว?)อย่างน้อย2ค่ายขึ้นไป(?)..
แต่ในบรรดา”ฐานันดร4”ทั้งหลาย.. เราขอชื่นชม”คุณภาคภูมิ”(ณ วันนี้)ที่ให้ข้อมูล,ให้ความเป็นธรรมกับ”ทุกฝ่ายที่เป็นข่าว”แบบ”ข้อมูลค่อนข้างครบ”และ”ไม่มีอคติ”และ”ไม่ใช้อารมณ์ส่วนตัว”(ซึ่งต่างจากบางค่าย)ครับ.. (ซึ่งเราติดตามและชื่นชม”คุณภาคภูมิ”มานานมาก,เพราะคุณเป็นคนที่พยายาม”ยืนตัวตรง”อย่างน่านับถือมาโดยตลอด)..
ซึ่ง”บางเม้นท์”ที่คุณเล่าเองว่า..แซะ”คุณภาคภูมิ”ว่า..”กำลังฟอกขาว”ให้กับ”บางคนที่เป็นข่าว”.. ซึ่งเรามองคะเนว่า..อาจมาจาก”บริวารของบางค่าย?”(ที่ชอบ”เลือกข้าง?”โจมตี”ผู้เป็นข่าว”ที่เป็น”ฝ่ายตรงข้าม?”อยู่เป็นประจำ),และสังเกตว่าจะชอบใช้คำว่า”ฟอกขาว?”,เพื่อกล่าวหา”ผู้อื่น”อยู่เรื่อยๆ(?)..ก็เป็นได้ครับ..(เพราะคนไทยไม่ได้กินหญ้า.. แต่คนไทยกินข้าว.. ดังนั้น..”คนไทย”จึงอ่าน”เกมส์ของบางค่าย”,และ”จิตริษยา?”ของ”พิธีกรที่เล่าข่าวบางคน?”ออกได้ไม่ยากครับ)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.16.152 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2567 เวลา:4:40:18 น.  

 
53.(วิเคราะห์”ลักษณะ,ท่าที”ของ”ทนาย1คน”และ”ทแนะ1คน”)..
1.”ทนายที่เป็นข่าว”(คนหนึ่ง):- มีลักษณะเป็นคนที่เชื่อมั่นตัวเองสูง,บุคลิกดี,พูดจาดี,สมองดี,จดจำดี,พูดเร็ว,พูดชัด,พูดคล่อง,พูดต่อเนื่อง,พูดแบบสบายๆ,หน้าตาไม่เคร่งเครียด,ไม่ติดขัด,รู้จักการพูดให้กระชับ,ให้คนทั่วไปฟังเข้าใจง่าย,ชัดเจนในข้อกฎหมาย..
แต่ก็เป็นคนที่มี”จุดยืนบางอย่างเฉพาะตัว”[คือไม่ใช่ว่าจะต้องเป็น”คนดีบริสุทธิ์แบบสายธรรมะ”เลยเสียทีเดียวนะ,คือเขามี”แนวคิดบางเรื่อง”เป็น”เฉพาะตัวของเขา”(เช่น..วิธีการได้เงิน,ได้งาน,ซึ่งคิดว่าทำได้,ไม่ผิด,เป็นเทคนิคชั้นเชิงทางวิชาชีพ..เป็นต้น),ซึ่งอาจแตกต่างจากคนอื่นมาก]..
และกล้าเผชิญหน้ากับสื่อ,และตอบคำถามสื่อได้ดี,ได้ตลอด,แบบไม่ค่อยหลบสื่อ,ไม่กลัวสื่อ,(มีลักษณะชอบพูดตามจริง,พูดกี่ครั้งก็จะได้เหมือนเดิม,เพราะเรียนรู้ว่าถ้าพูดโกหก,พูดหลายครั้งมักจะไม่ตรงกัน,จะพูดตะกุกตะกัก,และที่สุดสื่อจะจับโกหกได้..ประมาณนั้น),เวลาพูดกับสังคมไม่มีทีท่าตกประหม่า,หรือเก้อยาก,ไม่อวดตัว,สายตาจริงใจ,มีเจตนาที่จะพยายามสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจให้ถูกต้องตามความเป็นจริงให้มากที่สุด,และเรามองเห็นความพยายามของเขาที่จะพูดให้ตรงตามจริงให้มากที่สุด..
แต่เป็นคนจริงจังในการทำงาน,ไม่มีลักษณะดราม่า,หรือมโนสาเร่,ไม่มีลักษณะแอ๊คติ้งหรือFake,แต่สู้ด้วยหลักฐาน,เก็บหลักฐานเก่ง,รู้จิตวิทยาว่าควรจะจัดการกับเรื่องใด?,บุคคลใด?,เวลาใด?,อย่างไร?,จึงจะดีที่สุด,เพื่อให้กระทบ,หรือสร้างความบอบช้ำ,ขุ่นเคืองใจต่อบุคคลอื่นให้น้อยที่สุด..
มีความคมชัด,แม่นประเด็น,สมองไว,คิดลำดับวีธีการดำเนินเรื่องราวต่างๆได้แบบ”คล่องตัว”,แบบมีความ”อัจฉริยะเฉพาะตัว”อย่าง”หาตัวเปรียบได้ยาก”..
คือเหมือนคนไม่มีแผนการซับซ้อนอะไรเลย,แต่เหมือนเห็นแนวทางจัดการในเรื่องต่างๆได้อย่างปลอดโปร่งชัดแจ้งแทงตลอด,จังหวะที่ไม่ควรปะทะก็จะไม่ปะทะ,และดูจะไม่ผูกพันพยาบาทกับใครเป็นพิเศษ,หรือพยาบาทต่อเนื่องยาวนาน,ถ้าจบเรื่องได้โดยง่าย,ก็จะรีบจบเช่นกัน.. เป็นคนที่เรียกว่า”Born to be”(หรือมี”พรสวรรค์เฉพาะตัว”)..ประมาณนั้น


โดย: สมจิต IP: 124.122.16.152 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2567 เวลา:7:31:46 น.  

 
2.”ทแนะ?”(บางคน):- มีบุคลิกเชื่อมั่นตัวเอง,สมองดี,ท่าทางเซอๆ,พูดจาเนิบๆไปเรื่อยๆ,แต่บางครั้งก็พูดเสียงรัวๆ,คล้ายลิ้นพันกัน,ฟังไม่ค่อยชัด,บางช่วงก็พูดเสียงเบา,สายตาเหมือนมีม่านปกปิดความคิดภายใน(?),คล้ายกำลังกลบเกลื่อนบางสิ่ง(?),คล้ายมีลักษณะ”เก็บซ่อนข้อมูล,ความลับของผู้อื่น”(?),เพื่อรอเวลา”ชำระบัญชี?”(?)..
(ซึ่งแต่ก่อนเราเคยชื่นชอบว่า”บุคคลบางคนนี้?”ทำเพื่อประโยชน์ต่อสังคม,แต่หลังจากที่เคยมีข่าวว่าไปทำบางเรื่องที่ไม่เข้าท่า,ที่เคยเป็นข่าวดัง,ที่ไป”บุก....?”,เมื่อหลายปีก่อน,เราก็เลยคลายความศรัทธาไปเลย),และเป็นคนคล้ายมีแผนการบางอย่างซ่อนเร้น(?),แต่พยายามโฆษณาตัวเองว่าโปร่งใส(?)..
ซึ่งแต่ก่อน..เคยเป็น”ผู้ถูกเบียดเบียน?”จาก”ความเลวร้ายของระบบ,ระเบียบของสังคมไทย?”,ก็เลยพัฒนาตัวเองมาจนกลายเป็น”ทแนะผู้รู้กฎหมาย?”,จนเป็น”นักร้องเรียนระดับแนวหน้าคนหนึ่ง?”.. แต่มาวันนี้..กลับมีสิ่งที่ชวนให้ประชาชนสงสัยหลายเรื่อง(?),ซึ่งตนเองเคยเป็น”ผู้ถูกเบียดเบียนอย่างอยุติธรรม?”มาก่อน(?).. แต่พอเรียนรู้ประสบการณ์ใน”มุมเหลี่ยมทางกฎหมาย?”มากเข้า,กลับเห็น”ช่องว่าง?,จังหวะ?,เทคนิคทางกฎหมาย?”บางอย่าง?.. เลยอาจพลิกตัวมาเป็น”ผู้เบียดเบียนผู้อื่น?”แทน?..เสียเอง?..(หรือไม่?)..
ซึ่ง”บางบุคคลนี้?”มีบุคลิกแปลกๆแบบ”คนจีน20ปีแก้แค้นไม่สาย?”,ซึ่งมีอาการ(ลมเพ)”เดี๋ยวเป็นมิตร?”,(ลมพัด)”เดี๋ยวเป็นศัตรู?”(กับ”บางคน?”),เดี๋ยวจับมือ(?),เดี๋ยวปล่อยมือ(?),เดี๋ยวคืนดี(?),เดี๋ยวเป็นศัตรูรอบใหม่(?),ทำให้ประชาชนสับสนใน”จุดยืนของคุณ?”มากๆ,ทำให้”ขาดความน่าเชื่อถือ?”(?),ใน”จุดยืนที่ไม่มั่นคง?”(?)ของคุณ(?)..
(ซึ่งที่ผ่านๆมา.. ก็มี”ระดับทนายบางคน?”หรือ”นักร้องเรียนบางคน?,ที่แต่เดิมก็ดูจะเป็นคนที่มี”อุดมการณ์เพื่อประชาชน?”,หรือ”เพื่อความถูกต้องเป็นธรรม?”มาก่อน,แต่ภายหลัง..เมื่อเข้าสู่”วงจรอุบาทว์ของสังคมไทย?”,ก็เริ่มเห็น”ช่องทาง?”,ที่จะมีโอกาส”ได้เงินมาสู่ตัวเอง?”.. เช่น..กรณี”เงินติดรั้ว?”,กรณี”เงินเรียกเก็บเป็นกิโล?”,กรณี”เรียกเปอร์เซ็นต์,หัวคิวจากการช่วยเหลือ?”,ฯลฯ..เพื่อให้”ยุติเรื่องร้องเรียนต่างๆ?”..มาก่อน?..อยู่จำนวนไม่น้อยเช่นกัน?..ใช่หรือไม่?)..
แม้แต่”ทแนะบางคนนี้?”ก็เคยมีข่าวลือทำนองว่า..ชอบเคาะกะลาว่า..วันนั้น,วันนี้..จะแถลงเรื่องนั้น,เรื่องนี้..ไว้ล่วงหน้าหลายๆวัน(?).. คล้ายมีนัยยะเพื่อรอให้”บุคคลเป้าหมาย?”โทรมาเคลียร์เพื่อให้เรื่องจบ(?).. เพราะประชาชนก็ไม่ได้โง่นะ(?).. เขาฟังดู”ท่าที,สำนวนการสื่อสาร?”ออกว่า..มีนัยยะ,วัตถุประสงค์อะไรซ่อนอยู่(?).. แต่บางทีพอถึงวันก็เงียบ,ไม่แถลงไปดื้อๆ(?),และไม่ยอมบอกเหตุผลอะไรด้วย(?).. จึงชวนให้คนสงสัยว่า..อาจมี”น้ำหนักวัตถุเป็นกิโลๆ”ไปตกอยู่”ณ ที่บางแห่ง?”..หรือไม่?..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.16.152 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2567 เวลา:8:34:28 น.  

 
54.”อินฟลูเอ็นเซ่อร์หลายคน”กำลังเต้นกันใหญ่?..เ พราะใครที่เลือกอยู่”ฝ่ายผิด?”จะต้องกลัวว่าจะ”ขายหน้า?”.. ต่างฝ่ายต่างเชียร์คนที่ตนเชื่อมั่นว่าเป็น”ฝ่ายถูก?”.. แต่หนทางยังอีกยาวไกล?,(หวย30ล้าน,แม้จนบัดนี้ก็ยังไม่เสร็จสิ้น,สะเด็ดน้ำ?,”คดีดิไอคอน”เงียบเป็นเป่าสากไปเลย,หลังจาก”ข่าวอ้อย-ตั้ม”ระเบิดขึ้น?)..
ดังนั้น..”ยุติธรรมที่ดีคือยุติธรรมที่รวดเร็ว?”,เพราะ”ชีวิตคนสั้นนัก?”,แค่ราว60-70ปีเท่านั้น,ยุติธรรมที่ล่าช้าคือความอยุติธรรม”,”กระบวนยุติธรรม”ต้องอย่าให้ช้านักเลย?..
“สังคมไทย”กำลังถูกเขย่าแบ่งพวกว่า..ใครจะอยู่กับฝ่ายไหน?..”ฝ่ายอ้อย”หรือ”ฝ่ายตั้ม”?.. ”งานนี้”..คนบางคนอาจต้องเสียคน?,ทนายบางคนอาจต้องเสียทนาย?,สื่อบางสื่ออาจต้องเสียสื่อ?.. และเราจะได้รู้ว่า..ใครจะเป็น”เพชรแท้?”,หรือใครจะเป็น”ก้อนถ่าน?”?.. หรือจะกลายเป็นดุจ”ขี้เถ้า?”ทั้ง2คน?..
“ทางคริสต์”จะใช้คำว่า..”พระเจ้ากำลังฝัดร่อนมนุษย์?”, สังคมต้องถูกเขย่า?,”เกลือ”ต้องถูกคนให้ปั่นป่วน,ละลายตัวอย่างเต็มที่,หลังจากนั้น..ก็จะเริ่ม”ตกผลึก?”เป็น”ก้อนผลึกทรงสี่เหลี่ยม?”ที่”สวยงาม?”..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.16.152 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2567 เวลา:11:27:21 น.  

 
55.”งานนี้”ใครเข้าข้าง”ฝ่ายผิด?”เพราะอิงตามกระแส?.. คนนั้นต้อง”หน้าแตก?”?.. “คัมภีร์ของคริสต์,บทปฐมกาล”เตือนสติมนุษย์ว่า.. “พระเจ้า”สร้างโลก,สร้างมนุษย์,สร้าง”อีวา”และ”อาดัม”.. และ”อีวา”เป็น”หญิง”(และ”หญิง”คือ”ธาตุมาร?”)( =มารดา,มารยา,มายา),”หญิง”จึงมักเชื่อง่าย,”หญิงอีวา”จึงไป”เชื่องูในสวนเอเดน”,จึง,โดนงูหลอกเรื่องให้เด็ด”ผลไม้พิเศษ”(ซึ่ง”พระเจ้า”สั่งห้ามไว้)มากิน..
“อีวา”จึงไปบอก”อาดัม”ต่อ,”อาดัม”เพราะเห็นแก่ภรรยาคือ”อีวา”,จึงทำตามที่”อีวา”บอก.. ภายหลัง”พระเจ้า”รู้เข้า,จึงสาปทั้ง”อีวา”และ”อาดัม”ให้ต้องมีชีวิตที่”ทนทุกข์อยู่ในโลก?”จนกว่าจะตาย.. และสาปให้งูว่า..เมื่อไหร่ที่เจอกับคน,คนก็จะบี้หัวงูเสีย..นั่นไง?.. ดังนั้น..จึงอย่ามองว่า.. จะต้องคล้อยตาม”คำพูดของหญิง”ว่าต้อง”ถูกต้อง”หรือ”เพศหญิง”ต้องเป็น”คนดี”เสมอไป(?)..เพราะ”หญิงทั้งหลาย”สื่อถึง”อีวา”ที่ถูก”งู”(คือ”สัญลักษณ์ของมาร”)หลอกเอาแบบง่ายๆ?..นั่นเอง?..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.16.152 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2567 เวลา:12:12:31 น.  

 
56.”นักกฎหมายบางคน?”ออกมาให้สัมภาษณ์ใน”บางรายการ?”โดยมีเนื้อหาโจมตี”นักกฎหมาย?”ด้วยกันเอง(?).. เรามองว่า..”นักกฎหมายบางท่านนี้?”อาจไม่เคยได้”ปฏิบัติธรรม?”,หรืออาจ”ปฏิบัติธรรมแบบไม่ลึกซึ้ง?”,รวมทั้ง”พิธีกรบางรายการ?”นั้นๆด้วย(?)..
เขาเรียกว่า..”มองคน-มองธรรมะ?”แบบ”ไม่ลึกซึ้งถึงแก่น?”,เพราะรีบด่วนไปสรุปว่า..”ใครที่มีเงินจำนวนมาก?”และ”เจียดแค่เงินบางส่วน?”เพื่อ”บริจาคแก่ส่วนรวม?”,แล้วจะต้องเป็นคนที่ดีเลิศเสมอไป(?)..(ซึ่ง”คริสต์ศาสนา”นำเสนอว่า..”เงิน2สตางค์แดง?”ของ”หญิงม่ายที่ยากจน?”(ในข้อพระธรรม”มาระโก12:41-44”),ที่เต็มใจ”บริจาคให้กับศาสนา?”,ย่อมมีค่ายิ่งกว่า”เงินจำนวนมากของเศรษฐี?”ซึ่งเจียดมาบริจาคให้กับ”ศาสนาหรือส่วนรวม?”แค่เพียง”บางส่วน?”เท่านั้นเสียอีก?..นั่นไง?)..(https://www.bible.com/th/bible/174/MRK.12.41-44.THSV11)
ซึ่งทั้ง”คริสต์และพุทธ?”สรุปตรงกันว่า..ต้องไม่ประกาศชื่อ”ผู้บริจาค?”(อาจบอกแค่ว่า”ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม?”,จึงจะนับว่า”ค่อนข้างบริสุทธิ์?”).. หรือต่อให้”ไม่บอกชื่อเลย?”ก็ตาม?.. แต่ถ้า”ผู้ที่ได้ปฏิบัติธรรมลึกซึ้งพอ?”,ก็ต้องมองว่า..อาจเป็นเพราะ”การได้มาซึ่งเงินของบางคน?”นั้น?,อาจมีเรื่อง”เทาๆ?”ที่ไม่ต้องการให้ใครไปสืบค้นต่อ(?),ก็เป็นได้ด้วย(?)..
แต่เขาอาจแค่ต้องการ”ทำบุญให้กับตัวเอง?”,เพื่อประสงค์จะได้”วิบากบุญในชาติหน้า?”,ซึ่งแม้แต่”พระพุทธเจ้า”ก็ยังบอกว่าไม่ใช่”ทานที่บริสุทธิ์?”( =”ทานที่ยังมีความมุ่งหวังประโยชน์มาสู่ตน?”หรือ”สาเปกโข”..นั่นเอง?)..
โดยเฉพาะ..”พระพุทธเจ้า”จะพูดถึง”ทรัพย์ที่ทำทาน”ต้องเป็น”ทรัพย์ที่บริสุทธิ์?”,ถ้า”ทรัพย์ที่ได้มาจากอบายมุข?”.. เช่น..การ”ถูกรางวัลล็อตเตอรรี่?”(ซึ่งเป็นเงินที่”ร่วมสมทบมาจากคนหมู่มาก?”),ซึ่งเป็นเรื่องของ”อบายมุข,การพนัน?”(เสี่ยงโชค?),ซึ่ง”ศาสนาพุทธ”ไม่เคยสนับสนุน”อบายมุข?”เลยด้วยนั้น(?),ยิ่งย่อมถือว่าจะ”ไม่ได้บุญทานอะไรมากมาย?”,หรืออาจ”ไม่ได้เลยสักนิดเดียว?”ก็เป็นได้(?)..
เปรียบดั่งไปปล้นเอา”เงินของประชาชนจำนวนมาก?”( =”เงินบาป?”),มาไว้แก่ตน?,แล้วจึงเจียด”บางส่วน?”ซึ่งเป็น”เงินส่วนน้อย?”,เพื่อมา”สร้างภาพ?,โปรโมต?”ว่า..”ตนเป็นคนที่มีจิตใจที่เป็นบุญ?,น่ายกย่อง?”เท่านั้น(?)..ก็เป็นได้(?)..(เปรียบเหมือน”วัดโสเภณาราม?”( =”วัดสมมุติ?”)ที่”หญิงโสเภณี?”หรือ”แม่เล้า?”ร่วมกัน”เอาเงินบาปมาทำบุญสร้างวัด?”,ก็อาจถือว่า..เป็น”ทรัพย์ที่ได้มาโดยไม่บริสุทธิ์?”,ที่ไม่ควรไป”ยกย่อง?,ให้เกียรติ?”อะไรมากมาย(?)..ประมาณนั้น(?)..นั่นแหละ(?)..(ใช่หรือไม่?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.16.152 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2567 เวลา:14:29:36 น.  

 
57.”การให้ทานที่มีผลและอานิสงส์มากเป็นอย่างไร (ทานสูตร): หลักการทำทานที่ชาวพุทธส่วนมากไม่เคยได้ยิน”..
ขอขอบคุณ...
https://www.youtube.com/watch?v=pTIdRvJR6B8
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.16.152 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2567 เวลา:14:40:07 น.  

 
58.”สัจธรรม”ของ”ทนาย-ทแนะ”(บางส่วน)ในยุคนี้(?).. คือ.. “ไม่มีใครที่จะรักคนอื่นยิ่งกว่ารักตนเอง”(พากันกระโดดหนีโม้ด?,ลืมความเป็นเพื่อนแทบทั้งหมด?).. ตรงกับ”พุทธวจนะ”ว่า..”ความรักอื่นเสมอดัวยความรักตนเองนั้นไม่มี”( =”นัตถิ อัตตะ สมัง เปมัง”)..นั่นแล(?)..
น่าสมเพท”มนุษย์ในโลกนี้?”(โดยเฉพาะ”มนุษย์ในประเทศไทยบางส่วน?”จังเลย?.. ดู”หนังฝรั่ง”ยังพอหา”มิตรแท้”ได้.. เช่น..”คนเหล็ก”..นั่นไง?).. จึงมี”คำกลอนสอนใจ”(ไม่รู้ใครแต่งไว้)ว่า..
...เมื่อมั่งมีมากมายมิตรหมายมอง...
...เมื่อมัวหมองมิตรมองเหมือนหมูหมา...
...เมื่อไม่มีหมดมิตรมุ่งมองมา...
...เมื่อมอดม้วย(หรือหมดท่า)..แม้หมูหมา(ยัง)ไม่(อยาก)มามอง...
หรือเขาว่า..”เพื่อนกิน(สังสรรค์,เฮฮา)นั้นหาง่าย..แต่เพื่อน(ร่วม)ตายนั้นหา(ได้)ยาก”จริงๆ(?)..
หรือจะ”รู้น้ำใจเพื่อนแท้?”,ก็ต้องดูตอนที่เรา”อับเฉา,ตกยาก?”นี่แหละครับ(?).. และ”โคลงบทหนึ่ง”ก็บอกว่า..
...เพื่อนกินสิ้นทรัพย์แล้ว...แหนงหนี...
...หาง่ายหลายหมื่นมี...มากได้...
...เพื่อนตายถ่ายแทนชี-...วาอาตม์...
...หายากฝากผีไข้...ยากแท้จักหา...
ปล..สาบานได้.. ทุกวันนี้.. เราจึง”ไม่อยากคบมิตรเลย”แม้แต่สักคนเดียว.. เพราะทุกคนล้วน”เห็นแก่ประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก”ก่อนสิ่งอื่นใด?(แทบ)ทั้งสิ้น(?)..เชื่อเราเถอะนะ(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.16.152 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2567 เวลา:0:34:37 น.  

 
59.”สังคมไทย”ต้องยอมรับว่า..เป็นสังคมที่ถูกมอมเมาด้วย”ฤทธิ์สุรา?”มาแต่โบร่ำโบราณ,เป็นหลายร้อยหลายพันปี(?).. จึงทำให้”DNAของคนไทย?”อาจผิดเพี้ยน,จนทำให้”จิตใจคนไทยอ่อนไหว?,นิยมเฮละโลตามกระแส?,ไม่มั่นคง,แต่โงนเงน,โอนเอน,ไปมาได้ง่าย(?)..เหลือเกิน(?)..หรือไม่?..
ดูแต่มักมีเรื่องแปลกๆอยู่เสมอ(?).. เช่น.. วันหนึ่งที่”ทนายบางคน”,ตอนทำเรื่อง”หวย30ล้านครูปรีชา”,สังคมไทยก็ช่วยกันเชียร์”ทนายบางคน”,จน”ลุงจรูญ”เป็นฝ่ายชนะในที่สุด(?).. แล้วก็พากันหลงใหลได้ปลื้มกับ”ทนายดังกล่าว”กันอยู่พักใหญ่(?)..
และต่อมาก็มีเรื่อง”ผู้กำกับถุงดำ?”,ก็”ทนายคนเดิมนี้”ก็ได้รับความชื่นชมอีก(?).. แต่พอทิ้งระยะอีกไม่นาน,พอเกิดคดีกับ”ทนายดังกล่าว”ใน”มุมลบ?”(ซึ่ง”ศาลยังไม่ได้ตัดสินถึงที่สุด”).. ความที่เคย”หลงใหลได้ปลื้ม”กับ”ทนายคนนี้”ก็กลับตกวูบหายไปหมด(?)( =”อารมณ์ลมเพลมพัด,ไม่ชัดเจน?”ใน”จิตใจของคนไทย?”เอาเสียเลย?,คล้ายรักง่าย?,พอผิดใจก็เลิกรักง่ายๆ?)..
เราดูแล้ว..”อารมณ์คนไทย?”ช่างเป็นคนที่อ่อนไหว?,เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา?,ไม่คงที่?,ไม่มั่นคง?,ได้ง่ายเหลือเกิน(?).. ทำไมจึงไม่คิดว่า.. คนที่เคยทำสิ่งที่ทำให้”คนไทยชื่นชม?”มาใน”หลายๆคดี,หลายๆเรื่อง?”,แล้ววันนี้..พอเขามีเรื่อง”มุมลบบางเรื่อง?”เกิดขึ้นนั้น(และ”สื่อบางสื่อ?”ก็พากัน”รุมขยี้?”อย่าง”เมามัน?,ไม่ยั้งมือ?”..อีกด้วยนั้น?)....
ก็เลยมีคำถามว่า.. แล้ว”วันก่อนๆ?”และ”วันนี้?”,คุณ”ทนายคนนี้”เขาใช่”คนคนเดียวกันกับวันก่อนๆ?”,ที่มี”คดีที่ทำให้คนไทยชื่นชม?”ใน”เรื่องก่อนๆ?”..ด้วยหรือไม่?.. แต่ถ้ามองสรุปไปเลยว่า..วันนี้”ทนายคนนี้เลวโดยสันดานมาตั้งนานแล้ว?”.. ก็แสดงว่า..วันก่อนๆ..”คนไทย”ก็ไม่ได้ตรวจสอบ”ทนายคนดังกล่าว”ว่า..ในกรณีที่เขาได้เคยทำ”สิ่งที่น่าชื่นชม”,เหมือนที่”คนไทย”พากันรีบรู้สึกชื่นชมเร็วเกินไป(?)(แบบ”มงคลตื่นข่าว?,อารมณ์หวือหวา?”),โดยที่”คนไทย”น่าจะไม่ได้”ตรวจดูคนให้นานๆ?”อย่างหนักแน่น?(ก่อนรีบพากันแสดงความ”ชื่นชม,เชียร์?”)เสียก่อน?.. แล้วกีรีบไป”ชูเชิด,เชียร์?”ไปก่อน?..หรือไม่?..(ใช่หรือไม่?)..
แต่มาวันหนึ่ง.. เมื่อเกิด”คดีความในมุมลบ?”[โดยเฉพาะยิ่งถูกกระตุ้น,โจมตีจาก”สื่อบางสื่อ?”(ที่มี”วาระเคืองแค้นส่วนตัว?”),และจาก”อินฟลูเอ็นเซ่อร์บางคน?”(ที่มีลักษณะ”เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง?”)],ก็มาพลิกกระแส,ให้กลับกลายเป็น”หน้ามือ-หลังมือ?”,คล้ายว่า..”อารมณ์คนไทย?”ช่างถูกปลุกปั่น,ให้แปรปรวนได้ง่ายเหลือเกิน(?)..
จึงเป็นข้อน่าคิด?.. ที่แสดงว่า.. “อารมณ์คนไทย?”ก็ผิดพลาดมาตั้งแต่เดิม(?),ที่รีบด่วนไปชื่มชม”ทนายดังกล่าว”(ตอน”คดีหวย30ล้าน?”และตอน”คดีผู้กำกับถุงดำ?”),โดยไม่”ตรวจสอบให้ชัดเจน?”ใน”เทคนิค,ชั้นเชิง?”ในการ”ทำคดีดังกล่าว?”(ของ”ทนายคนนี้”),ว่า”บริสุทธิ์,โปร่งใส?”อย่างแท้จริงหรือไม่?..เสียก่อน?..ด้วย?..ใช่หรือไม่?..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.16.152 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2567 เวลา:6:01:31 น.  

 
60.เรามองว่า..”กฎหมายไทย”ยังมี”ช่องว่าง?”(ซึ่งอาจต้องมีการแก้ไขในภายภาคหน้า)อีกเยอะ?).. เช่นคำว่า..”ผู้ร้องไม่ใช่ผู้เสียหาย?”นั้นบ้าง.. หรือ”ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย?”..เป็นต้น(?).. นั่นคือ.. ไม่ได้แปลว่า”จำเลยบริสุทธิ์?”หรือ”ไม่ได้ผิดเลย?”..ใช่หรือไม่?.. แต่อาจแปลว่า..”หลักฐานยังไปไม่ถึง?,จึงยกประโยชน์ให้ไปก่อนเฉพาะหน้า?”..ก็เป็นได้?..หรือไม่?..
ซึ่งถ้าเป็น”นิยายเปาบุ้นจิ้น”,เท่าที่เราเคยดูมา.. “เปาบุ้นจิ้น”มักจะ”หาหลักฐานเอง?”จนสะเด็ดน้ำ(?),จนจำเลยยอมจำนน?,และต้องยอมสารภาพออกมาเอง?ว่า..”ตนเองได้กระทำผิดจริง?”เสียก่อน(?).. “เปาบุ้นจิ้น”จึงจะตัดสินลงโทษ..แทบทั้งนั้น(?)..ใช่หรือไม่?..
ซึ่งก็มีข้อสงสัย..อย่างกรณี”หวย30ล้าน”ซึ่งได้ตัดสินไปแล้วว่า”หวย30ล้าน”ไม่ใช่ของ”ครูปรีชา”,แต่ถ้าวันนี้.. ถ้า”ครูปรีชา”สามารถหา”หลักฐานใหม่”.. เช่นสมมุติว่า..มีการทำลายหลักฐาน(?).. เช่น..”เรื่องซองพลาสติกที่ใส่ล็อตเตอรี่?”,หรือ”เรื่องเบสโทรศัพท์?”,หรือ”บริบทเรื่องกล้องวงจรปิด?”ว่า..”ตนเองได้ไปที่ตลาดจริง?”ขึ้นมา(?).. แล้วจะขอ”รื้อฟื้นคดีหวย30ล้าน?”ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง(?)..จะได้หรือไม่?..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.16.152 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2567 เวลา:2:33:57 น.  

 
61.สรุปถึงวันนี้..
1.ในสมัยที่ผ่านๆมา.. “เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับกฎหมาย?”(บางส่วน,บางคน)มักถูกกล่าวหาว่า..ทำตัวเป็นคล้าย”มาเฟีย?”เรียกทรัพย์จากพวกที่มีพฤติกรรม”สีเทาๆถึงสีดำ?”.. ซึ่งมักตกเป็นข่าวมาโดยตลอด(?)..
2.มาถึงวันนี้.. “ทนาย?-ทแนะ?-นักร้องเรียน?”(บางส่วน,บางคน)ก็เริ่ม”ถูกแฉ?”หรือ”ถูกเปิดโปง?”ว่า.. เริ่มมีลักษณะคล้าย”มาเฟีย?”ที่มักจ้องเรียกทรัพย์จากทั้ง”ผู้เสียหาย?”(เหยื่อ?),และทั้งจาก”ผู้ถูกข้อกล่าวหา?”ที่มีลักษณะ”สีเทาๆ ถึงสีดำ?”..เช่นเดียวกัน(?)..
3.อนาคต,อาจไม่นาน.. “ฐานันดร4?”(บางส่วน?,บางค่าย?),ก็อาจถูกกล่าวหาว่า.. เป็น”แหล่งซ่องสุม?”ของบรรดา”นักวิชาการผู้ตีเนียน?”,และ”รอบคอบเพื่อปกป้องตัวเอง?”,และ”เลือกข้าง?”(บางคน),และ”นักรู้กฎหมาย?”(บางคน)ที่มารวมตัวกัน?,เพื่อแสดงความเป็น”ฐานันดร4?”ผู้”ทรงอิทธิพล?”(ที่”ทุกองคาพยพ?”ในสังคม,ต้อง”เกรงกลัวจนหัวหด?”ไปหมด?,ไม่กล้าไปตอบโต้,ต่อสู้,หรือไปมีเรื่องใดๆด้วย),โดยมีพฤติกรรม”ชี้นำ?,ครอบงำสังคม?”ใน”เรืองราวต่างๆ?”,เพื่อ”ประโยชน์บางอย่าง?”ทั้ง”ทางธุรกิจของกลุ่มตน?”,และ”ทางการเมืองในภาพรวมต่างๆ?”,ให้เกิดขึ้นกับเฉพาะ”กลุ่มเครือข่ายของตน?”.. ก็เป็นได้(?).. เราเชื่อเช่นนั้นนะ(?).. เพราะวันนี้..ก็เริ่มเห็น”แสงสะท้อนลางๆ?”จาก”ฐานันดร4บางค่าย?”(มากกว่า1ค่าย?),ที่เริ่มแสดง”เพาเว่อร์?”หรือ”ศักยภาพการนำเสนอ?”ในการ”ชี้นำ?,ครอบงำสังคม?”ออกมาบ้างแล้ว(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.16.152 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2567 เวลา:5:25:32 น.  

 
62.โปรดคอยชม... “ศึกชนช้าง”.. ระหว่าง..”มุมน้ำเงินลุงสมองคนจีนค่ายเจ๊กกบฏ”......VS......”มุมแดงน้าเดชเดโชสมองพันท้ายค่ายไทยลูกทุ่ง”... งานนี้..การันตีความมัน(?)..แน่นอนพะยะค่ะ(???)..
ปล..งานนี้..ไม่มีใครดี100%..หรือเลว100%.. แค่จะมาพิสูจน์ว่า..”ใครเลวน้อยกว่ากัน?”..เท่านั้นครับ(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา:23:41:11 น.  

 
63.”สังคมไทยนี้?”(ติดตลกมากไปหรือไม่?).. เห็น”บ้านเมือง”เป็นเรื่องของ”การเล่นขายของ?”.. มีการพูดว่า..ไปแค่กิน”บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบางยี่ห้อ?”,และยังช่วยโฆษณาว่า..”โออิชิ,อูมาอิ,อูมามิ?”..อีกด้วย(?)..
ขอถาม”ประชาชนทั้งประเทศ?” ..ว่ามัน”เม้คเซ้นซ์?”หรือไม่?.. ตกลง”วาระประเทศไทย?”จะเอากันอย่างนี้?..แค่นี้?..ใช่ไหม?..
“ทุกคน”ก็ต่างรอชม”ซี่รี่ส์ละครหลัง2ทุ่ม?”จนเป็นนิสัย(?).. คล้ายว่า..รอดู”ฝ่ายการเมือง?”(บางส่วน?)ว่า..เขาจะทำอะไรกับประเทศไทย?,กันแบบประชาชนแค่”เป็นคนนั่งดูเฉยๆ?”.. จะหา”พันท้ายนรสิงห์2?”สักคนเดียว(?)..ก็ยังมองไม่เห็น(?)..
เราดูแล้ว.. ”สังคมที่หลงใหลวัตถุนิยม?”,และ”เทคโนโลยี่ผ่านมือถือ?”,ทำให้”ทุกคน?”(ไม่ว่า”ฝ่ายไหนก็ตาม?”),ล้วนมีวาระ”ประโยชน์ของตัวเองเป็นใหญ่?”,หรือ”ต้องมาก่อน?”(ไม่สนสี่สนแปด?)กันแทบทั้งนั้น?..(นี่มั้ง?..”ฝ่ายการเมืองบางส่วน?”,เขาจึงได้นึกกระหยิ่ม,ยิ้มย่องว่า..”จะทำอะไรกับบ้านนี้เมืองนี้ก็ได้?”..นั่นไง?).. ใช่หรือไม่?..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2567 เวลา:21:16:23 น.  

 
64.”สื่อบางสื่อ”.. เช่น..”สื่อรายการโหนฯ”นั้น,เรามองว่า.. เป็น”สื่อที่ค่อนข้างจะตรงไปตรงมา”(ไม่เลือกข้างใดๆเลย).. เพราะมักจะเชิญ”คู่ขัดแย้ง”มาชี้แจงกัน”ทั้ง2ฝ่าย”อยู่เสมอ.. แต่สมมุติว่า.. เกิดถ้ามี”บางสื่อ?”ที่ดูคล้ายจะ”ออกหน้า?”เป็น”ตัวตั้ง,ตัวตี?”เพื่อ”ผลประโยชน์?”ของ”คู่ขัดแย้งบางฝ่าย?”(หรือเหมือน”รีบตัดสินแทนศาล?”ไปก่อน?)โดยเฉพาะ(?)..เท่านั้น(?).. เราเห็นว่า..ถ้าเกิดเหตุการณ์สมมุติดังกล่าว(?).. เราคิดว่า..”สื่อที่ดี”ไม่น่าจะวางตัวเช่นนั้น(?)..ใช่หรือไม่?..
ยิ่งถ้าภายหลัง..เกิดมีหลักฐานว่า..”เจ้าของสื่อบางสื่อ?”หรือ”คนใกล้ชิดแวดล้อม?”(อาจ)ได้รับ”ค่าตอบแทน?”จาก”บางฝ่าย?”(ไม่ว่าจะก่อน?,ในระหว่าง?,หรือหลังคดีเสร็จสิ้น?..ก็ตาม?),ซึ่งเป็นเหตุแห่งการ”นำเสนอข่าวด้านเดียว?”,แบบ”เข้าข้างบางฝ่าย?”(เพื่อชี้นำทางคดี?")นั้น(?)..
ซึ่ง”ประชาชนบางคน”ย่อมอาจคิดได้ว่า.. หลังจาก”คดีความเสร็จสิ้น?”,ถ้าเป็น”ผลบวกต่อข้างที่สื่อนั้นสนับสนุน?”,และ”ออกตัวแทนบางฝ่ายอย่างมากมาย?,เต็มสตรีม?”.. ก็อาจได้รับการ”โปรยรางวัล?”(หรือได้รับ”ของกำนัล?”),เพราะฐานะของ”ฝ่ายที่สื่อนั้นไปเข้าข้าง?”นั้น?,เป็น”ผู้มีเงินมาก?”และ”ดูจะใจดี,ใจกว้าง?”ด้วย(?)..ก็เป็นได้(?)..หรือไม่?..(ใช่หรือไม่?)..
แสดงว่า.. สมมุติว่า..ถ้ามี”การทำสื่อ?”ของ”บางสื่อ?”ที่อาจมีลักษณะ”ทำสื่อโดยเลือกเข้าข้าง?”เฉพาะ”บางฝ่าย?”นั้น(?).. ก็อาจเป็น”การทำสื่อที่ไม่บริสุทธิ์?”(?)..ก็เป็นได้(?)..หรือไม่?.. ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น?.. น่าจะเข้าข่าย(?)ที่เป็นการ”ทำผิดจรรยาบรรณ?”ของ”การเป็นสื่อ?”..ด้วยหรือไม่?.. และ”กสทช.”ก็ควรต้องเข้ามาตรวจสอบเรื่อง”จรรยาบรรณของสื่อบางค่าย?”..ด้วยหรือไม่?.. ใช่หรือไม่?..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2567 เวลา:22:38:25 น.  

 
65.มีคำถามเพิ่มเติมอีกว่า.. การที่มี”สื่อบางสื่อ?”(มากกว่า1สื่อ?)ที่แสดงตัวแบบที่”ประชาชนผู้รับสารรู้สึกได้”ว่า.. เหมือนท่านกำลังแสดงตัวเป็น”ศัตรู?”กับ”คู่ขัดแย้งทางคดี?”กับ”เฉพาะบางฝ่าย?”(ซึ่งอาจเคยมีเรื่อง”ไม่กินเส้นกันมาก่อน?”),และคล้ายพยายาม”หาข้อมูลอย่างขะมักเขม้น?,เต็มที่?,จริงจัง?ผิดสังเกต?”,เพื่อสนับสนุนเฉพาะกับ”บางฝ่าย?”นั้น(?).. ถือเป็น”สื่อที่ดี?,ที่มีจรรยาบรรณที่ถูกต้อง?”..ได้หรือไม่?..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2567 เวลา:23:01:20 น.  

 
66.สรุปส่วนตัว ณ วันนี้.. “แมลงวันย่อมไม่ตอมแมลงวัน”(หรือ”เสือย่อมไม่กินเนื้อเสือ”)ด้วยกันเอง(?).. หรือ”สื่อย่อมไม่กล้าขุดความไม่ชอบมาพากลของ’สื่อบางค่าย?’ด้วยกันเอง”(?).. เพราะอาจกลัวว่า.. เมื่อไปขุดเค้า..ก็อาจถูกเค้าขุดคืนได้(?)..
และ”ทนายหรือทแนะบางคน?”ก็มักจะไม่อยากไปตอแยกับ”ทนายหรือทแนะ?”ด้วยกันเอง(?).. ทั้งๆที่ต่างก็อาจ”พอรู้?”,หรือ”กุมความลับ?”,หรือ”วิธีการ,เทคนิค,ชั้นเชิงในการหาทรัพย์?”ของ”ทนายหรือทแนะคนอื่นๆ?”(ที่อยู่ในวงการเดียวกัน?)อยู่อย่างมากมาย,หลายแง่,หลายมุม,หลายเรื่อง,ก็ตาม(?).. แต่ก็ไม่ยอมพูดถึง(?)..
ดูแล้ว”ทนายหรือทแนะบางส่วน,บางคน?”ก็ดูจะไม่ค่อย”จริงใจต่อประชาชน?”,หรือ”จริงใจต่อสังคมประเทศชาติ?”กันซักเท่าไหร่นัก(?).. เพราะถ้าไม่กล้า”เปิดเผยพฤติกรรม?”ของ”ทนายหรือทแนะบางคน?”ที่ไม่ค่อยดี(?).. “ทนาย,ทแนะเหล่านั้น?”เขาก็ย่อมจะหากินด้วย”วิธีเทาๆ?”(ตบทรัพย์?)กันได้ต่อไปอีกเรื่อยๆ(?)..
ดังนั้น.. เราจึงมองว่า.. “ทนาย,ทแนะบางส่วน?”ที่ไม่กล้าเปิดเผย,เปิดโปง”ทนาย,ทแนะ?”(บางส่วน)ด้วยกันเอง(?),ทั้งๆที่”รู้ความลับ?”ของ”ทนาย,ทแนะบางส่วน?”ที่”เลวๆ?เหล่านั้น?”.. ก็แปลว่าคุณก็น่าจะเป็น”ทนาย,ทแนะ?”ที่มี”บาดแผลที่สันหลัง?”เช่นเดียวกัน(?)..
แต่”ทนาย,ทแนะบางส่วน?”ที่กล้า”เปิดเผยทุกเรื่องราว?”ในสังคม,ไม่ว่าจะเป็น”วงการการเมือง?”,หรือ”วงการพระสงฆ์?”,หรือ”วงการทนาย?”,หรือแม้แต่”วงการสื่อ?”,ฯลฯ,โดยที่ไม่มีลักษณะเกรงกลัวใดๆเลย(?).. เช่นอย่าง”ทนายด.”เป็นตัวอย่าง(?)..เป็นต้น(?)..
ซึ่งเรามองว่า.. ถึงจะรู้ว่า”ไม่มีทนายคนใดที่บริสุทธิ์100%?”ทั้งหมดก็ตาม(?).. หรืออย่างน้อยในอดีต..”ทนายบางคน?”อาจจะเคยมีผิดพลาด(?).. แต่ ณ วันนี้..อย่างน้อย.. สิ่งที่”ทนายบางคน?”เค้า”กล้าพูด?,กล้าเปิดเผย?,กล้าเปิดโปงแทบทุกเรื่อง?”(แบบที่”ไม่ทำลับๆล่อๆ?”)อย่างไม่เกรงกลัว”อิทธิพลอะไร?”ใดๆเลยนั้น(?).. ย่อมนับว่า..เป็น”อเนกคุณ”หรือ”คุณูปการ”ต่อ”ประชาชนและสังคมประเทศชาติ”อยู่ไม่น้อยเลยนะ(?)..เราว่านะ(?)..(ใช่หรือไม่?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2567 เวลา:1:31:35 น.  

 
67.(“ความคิดเห็นจากผู้ชมข่าว”ในเรื่องที่มีการปล่อย”คลิปคนดังบางคน?”,เหมือนว่ามีการ”เรียกตบทรัพย์?”)..
มีคำถามว่า..ใคร(แอบ)อัดคลิป?..ใครปล่อยคลิป?..มีประสงค์อะไร?,มีความแค้นอะไรจึงปล่อยคลิป?.. เราคิดอนุมานหรือคะเนเอาเองว่า.. “คนดังบางคน?”ที่รับ”งานจ้างโปรโมต?”อาจเคย”ออกรายการ?”หรือ”พูดแสดงความเห็น?”ถึงเรื่อง”บางบริษัทที่มีแผนธุรกิจที่แปลกๆ?”..ใช่หรือไม่?..
และก็คล้ายว่า”คนดังคนนี้?”ก็ยังเคยรับงาน”โปรโมตพรรคการเมืองบางพรรค?”ให้กับ”หญิงที่เคยร้องเรียนต่อธุรกิจแปลกๆ?”,รวมทั้ง”ธุรกิจแปลกๆรายล่าสุด?”อีกด้วย(?)..
ภายหลัง..”เจ้าของธุรกิจแปลกๆบางคน?”จึงอาจอยากแก้เผ็ด(?),จึงอาจวางแผนส่ง”นกต่อบางคน?”,เพื่อมาทำทีว่า..จะขอให้ช่วย”โปรโมตบริษัทของตน?”,เพื่อ”แก้ภาพลักษณ์ของธุรกิจ?”,และมีการ”พูดนำทางก่อน?”,ประมาณว่า..มีเรื่อง”งบโปรโมต?”ของ”บริษัทธุรกิจแปลกๆดังกล่าว?”ที่อนุมัติแล้ว(?),ประมาณเท่านั้น,เท่านี้กิโล(?)..
แล้วต่อมาอีก.. ก็มีการ”ถามนำ?”แบบ”ถามทวน?”,คล้ายต้องการให้”ผู้รับงานโปรโมต?”นั้น”ตกหลุม?”,เพื่อให้เอ่ย”ตัวเลขดังกล่าว?”นั้นอีกรอบ(?),และรวมทั้งเผย”แผนการโปรโมต?”,เพื่อตั้งใจจะ”อัดเสียงไว้?”,เพื่อมาตลบหลังในภายหลัง?,เพื่อการ”แก้แค้น?”,กับทั้ง”ผู้รับงานโปรโมต?”ที่เคย”พูดให้สังคมระแวง?”,ใน”ธุรกิจแปลกๆของตน?”,และ”นักร้องเรียนหญิงบางคน?”,ที่เคยรวบรวมผู้เสียหายมาร้องเรียน”บริษัทของตน?”,รวมทั้ง”แก้เผ็ดต่อพิธีกรดัง?”,ที่ชอบเปิดโอกาสให้”ผู้เสียหายบางคน?”,มาร้องเรียน”บริษัทของตน?”ในรายการ(?),ซึ่งมีผลกระทบกับ”ธุรกิจแปลกๆของเขาด้วย?”..
จึงเป็นแผนที่คล้ายเรียกว่า..”ใช้กระสุนนัดเดียวได้นก3ตัวพร้อมๆกัน?”(ในคราวเดียว?)..ประมาณนั้นหรือไม่?.. เพราะดูลักษณะ”โหงวเฮ้ง?”ของ”เจ้าของบริษัทดังกล่าว?”.. ก็มีหลายคนมองวิเคราะห์ว่า..เป็นคนที่มักมี”บางอย่างในใจที่ซับซ้อน?,ลี้ลับ?”มากกว่า”บุคคลทั่วไป?”อยู่แล้ว(?).. นี่เราแค่”วิเคราะห์ส่วนตัว”เท่าที่”ฟังจากข่าว”เท่านั้น.. ซึ่งเราอาจจะวิเคราะห์ผิดก็ได้นะครับ(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2567 เวลา:20:48:23 น.  

 
68.”อุทาหรณ์ของปลา?”.. มีมั้ย?..”ปลาตัวไหน?”ที่ไม่ยอม”ติดเบ็ด?”?( =”จะกินแต่เหยื่อแต่ไม่กินเบ็ด?”..ว่างั้นเถอะ).. สมัยก่อนมีเรื่อง”การตกทอง”ก็จะมีเหตุการณ์”ถูกหลอกตกทอง?”ซ้ำๆอยู่เรื่อยๆอย่างยาวนาน(?)..เช่นกัน(?)..
ดังนั้น.. ถ้าเอา”เหยื่อที่ปลาชอบมาเกี่ยวกับเบ็ด?”เมื่อไหร่?.. ปลาก็ต้อง”งับอยู่ตลอด?”นั่นแหละ?(ไม่เคยพลาด?).. ไม่มี”ปลาฉลาดๆ?”ตัวไหน?,ที่จะอยู่”นอกเหนือกฎเกณฑ์นี้?”ไปได้เลย(?).. ดังนั้น.. เมื่อมีเหยื่อ”20กก.”มาล่อต่อหน้า(?).. มีหรือที่”ปลาที่ฉลาดๆบางตัว?”จะไม่ยอมงับ(?)..
ปล..”คนต้นทาง?”ที่”คิดแผนนี้?”ที่เป็น”คนอัดเทป?”แล้วถึงเวลาอันเหมาะก็”ปล่อยเทปออกมา?”นี่แหละ(?)..ที่”ฉลาด,แผนสูง?”ที่สุด(?).. ตรงกับ”คำพูดที่พูดกันเกร่อ?”ว่า..”จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง?”..นั่นเอง(?)..ละมังครับ(?)..(แค่เดาเล่นๆเท่านั้นครับ?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2567 เวลา:4:30:44 น.  

 
69.มี”บางคน?”ที่ทำตัวให้เรารู้สึกเซ็งมาก.. แต่ก่อน..หลายสิบปีก่อน,เคยอ้างว่าเป็น”ผู้ถูกข่มเหง?”จาก”ระบบที่ไม่เป็นธรรม?”,ภายหลัง”เรียนรู้กฎหมาย”มากขึ้น,ก็กลายมาเป็น”นักร้องเรียนเบอร์ต้นๆ?”(ช่วงแรกๆเราก็นิยมเค้ามากๆเลยนะ.. ดูว่ามีเค้ามีความกล้าเปิดโปง,นั่น,นี่,นู่น,ค่อนข้างดีมาก)..
แต่ภายหลังเมื่อไม่กี่ปีมานี้.. ก็มี”บางภาพข่าว”ว่าไปยืนส่งเสียงอยู่ที่หน้ารั้วของ”บางโรงงาน?”,หลังจากนั้นพอเป็นข่าวขึ้นมา,ก็หลบเลียแผลเงียบๆอยู่พักหนึ่ง(?).. ต่อมาอีกหลายปีก็มีเรื่องไปเปิดโปงเรื่อง”หมูเถื่อน?”?,แล้วพอมีข่าวอื่นๆมากลบ?,ก็เงียบหายไปอีก?..(คนที่ติดตามข่าว.. เขาย่อมคิดว่า..ไม่รู้ว่ามีอะไร?หล่นทับ”หัวแม่โป้เท้า”หรือเปล่า?.. ทำไมไม่ตามเรื่องต่อให้จบ?)..
ดูเหมือน”คนบางคน?”มีนิสัยที่”ชอบเคาะกะลา?”หาอะไรก็ไม่ทราบได้(?)..เป็นช่วงๆ(?)..แล้วก็เงียบไปเป็นพักๆ(?).. เคยมี”บางคน?”นัดแถลงข่าวสื่อที่”บางโรงแรม?”,แล้วถึงเวลาก็ไม่เห็นมีการแถลงอะไร?..
ช่วงนี้”บางคน?”ก็โผล่มาอีก(?),แสดงภาพ”จับมือบางคน?”,แล้วก็ออกมา”แฉรอบ2”อีกแระ(?)(โหงวเฮ้งค่อนข้างอ่านออกนะ?).. ช่วงหลังมีลักษณะ”ชอบหาพวก?”(เพื่อสร้างบารมีให้กับตัวเอง),โดยการ”ชอบออกหน้า?”ไปโจมตี”เพื่อนที่ถูกจับ?”.. คือใครที่มาพูดเข้าข้าง”เพื่อนที่ถูกจับ?”,ก็จะรีบออกมาช่วย”พูดคัดค้าน,โต้กับทุกคน?”,คล้ายทำงานแทน”เจ้าทุกข์?”..ว่างั้นเถอะ(?)..
แต่กลับเรียก”สื่อค่ายดัง,เลือกข้างบางค่าย?”แบบ”ทรงชเลียร์?”,โดยเรียก”เจ้าของสื่อนั้น?”ขึ้นต้นว่า”อา....?”(“คนบางคน?”เวลาต้องการประโยชน์,ก็มักจะปากหวาน,ปะเหลาะคนได้เก่งนะ?),และมี”สื่อเลือกข้างอีกค่าย?”ก็มีลักษณะ”ปะเหลาะหาพวก?”โดยเรียก”ทแนะบางท่านนี้?”,โดยใช้สรรพนามขึ้นต้นว่า”ลุง....?”(ช่างฟังดูหวานเจี๊ยบเหลือเกินนะ?)..
ปล.. เราดูแล้ว..ทั้ง”วงการสื่อ?”(บางส่วน),และ”วงการทนาย,ทแนะ?”(บางส่วน),น่าจะแสวงหาความจริงใจซึ่งกันและกันได้ยากมากนะ(?)..(คล้ายว่า..”ล้มเมื่อไหร่?..กรูเหยียบซ้ำเลย?”..ประมาณนั้น?..เราว่านะ?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2567 เวลา:7:44:50 น.  

 
70.เราเซ็งมากกับคนที่ดู”ชล้าดฉลาดบางคน?”(?).. คือ.. มี”บางคน?”มาดดีมาก(ซึ่ง”ทนายด.”พูดถูกใจเราว่า..”อย่าไปกล่าวหาใครว่าเลว.. ถ้าตนเองก็ยังไม่สะอาดพอ?”)..
ซึ่ง”คนบางคนนี้?”(รู้กฎหมายดี,แต่ไม่ได้เป็นทนายนะ),ซึ่งเป็น”คนละเอียด,สุขุม,รอบคอบมากๆ”(จับรายละเอียดทุกเม็ด),หน้าตาดูสะอาดสะอ้าน,แต่กลับยอมตนไปเป็น”สาวก,รับใช้,รับจ้าง?”อยู่กับ”ผู้เคยต้องคดีทำผิดกฎหมายบางคน?”(ซึ่งตนเองศรัทธา?..
แล้วพยายามยกอ้างสารพัดกับบางคดี,บางเหตุการณ์,ดูเผินๆน่าฟัง,ดูมีหลักการดี,เพื่อตอบโต้กับ”ทนายของอีกฝั่งหนึ่ง”,ทำนองว่า..”ผู้เป็นทนาย”นอกจากคำนึงถึง”หลักกฎหมาย”แล้ว,ยังต้องมี”จิตสำนึกเรื่องศีลธรรม”ด้วย..
ประมาณว่า..ถ้ารู้แก่ใจ(แต่จริงๆหลักกฎหมายเขาเอาแต่หลักฐาน,ไม่ได้เอาแค่ใจคะเนว่า”ใครดี?,ใครเลว?”มาวัดเอาเองนะจ๊ะ?)ว่า..ถ้าเป็น”คนเลว?”ที่มาให้”ทำคดีให้”,ก็จะต้อง”ไม่รับทำคดี?”ว่างั้นเถอะ(?)..


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2567 เวลา:22:45:49 น.  

 
71.ซึ่ง”ทนายอีกฝั่ง”เขา”มองต่างมุม”ว่า..”ทนายเป็นวิชาชีพ”,ไม่ว่าคนจะดี,หรือเลวอย่างไร?,ก็จะต้องมี”ทนาย”,ซึ่งเป็น”สิทธิสามัญ”ของ”ประชาชนทุกคน”อยู่แล้ว(?).. เพราะ”ฝ่ายกล่าวหา”ก็มีทั้ง”ตำรวจและอัยการและทนายด้วย”เป็นส่วนสนับสนุนอยู่แล้ว.. แล้วจะให้”ผู้ถูกกล่าวหา”(ซึ่งศาลยังไม่ทันตัดสินว่า”ผิดหรือถูก?”)ไม่ให้มี”ทนาย”เป็น”ที่ปรึกษา”(ว่าความให้?)บ้างเลยหรือ?..
ซึ่งเรามองว่าเป็น”ความคิดที่คับแคบมาก?”..(อย่างนี้”โรงพยาบาลราชทัณฑ์”ก็ต้องยกเลิก,ไม่ต้องรักษานักโทษที่เจ็บป่วย..แล้วกระมัง?..ใช่หรือไม่?).. เราว่า..เราเห็นด้วยกับ”ทัศนะแบบทนายด.”และ”ทนายส.”มากกว่านะ(?)..


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2567 เวลา:22:52:12 น.  

 
72.และ”คนบางคนนี้?”ที่ชอบมองคนอื่นผิดแง่นั้น,แง่นี้,จุดเล็ก,จุดน้อยนั้น(?),มันมองง่าย,แล้วทำไมไม่เพ่งมอง”ฝ่ายตัวเอง?”บ้าง?..ว่าได้คำนึงถึง”หลักศีลธรรม”.. เช่น..”เรื่องอบายมุขหวย,ล็อตเตอรี่?”(ซึ่งแม้ไม่ผิดกฎหมาย,เพราะกฎหมายดันไปอนุญาต,โดยชอบอ้าง”เหตุผลทางเศรษฐกิจ?”,เพื่อ”หารายได้เข้าภาครัฐ?”),ซึ่งจริงๆอยู่ในข่าย”ผิดศีลข้อที่5( =”ฐานแห่งการขาดสติ?”..คือ..”อบายมุข6”..นั่นเอง?),ใน”หลักการของพุทธศาสนา”..ด้วยหรือไม่?..
แล้วที่ชอบ”ว่าแต่คนอื่น?”โดย”อ้างหลักศีลธรรม?”),แต่”ฝั่งตัวเอง?”ก็ไปสนับสนุน,ช่วยดูแลให้”เศรษฐีแจ๊คพ็อตบางคน?”,ผู้ยังมี”มิจฉาทิฐิ,มิจฉาอาชีวะ?”ที่ยังชอบคลุกคลีอยู่แต่กับการ”ส่งเสริมเรื่องของอบายมุข,หวยล็อตเตอรี่?”อยู่เสมอ?.. ซึ่งก็เท่ากับกำลังชี้ว่า..”ตนเองก็ไม่ต่างกัน?”ในกรณีที่ไปว่า”ทนายคนอื่นเขา?”ด้วย?.. หรือไม่?..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2567 เวลา:22:56:40 น.  

 
73.ณ วันนี้.. เราเชื่อส่วนตัวว่า.. “สารตั้งต้น?”ก็คือ”เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างนอก?”นั่นเอง(?).. และเราเชื่อ(โดย”สังเกตอาการ”จาก”ทุกฝ่าย”,ตาม”เซ้นซ์ส่วนตัวของเรา”)ว่า.. “นักร้องเรียนหญิง?”(ใจเด็ด?,ใจนิ่ง?)บางท่าน,น่าจะมี”หมัดเด็ด?”(แต่คงไม่ใช่”คลิปแอบอัดใดๆ”)..
แต่น่าจะมี”ข้อมูลหลักฐานบางอย่าง?”,ที่จะซัด”ผู้ชายบางคน?”(คนสำคัญ?)ให้ไปไม่เป็นเหมือนกัน(?).. และ”ผู้ชายบางคนนี้?”อาจต้องถึงกับ”มองไม่เห็นอนาคต?”เลยก็เป็นได้(?).. เราแค่เดาเล่นๆ?,จากการ”ส่องดูอาการ?”ของ”หลายๆฝ่าย?”..เท่านั้นนะ(?)..[เพราะดูแล้ว”หญิงบางคนนี้”ถ้าใคร”เล่นเธอหนัก?”.. ดูเธอเป็นนักสู้.. เธอก็คงจะไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างของใครง่ายๆ(?)..เหมือนกันนะ(?).. เราว่าอย่างนั้นนะ(?)]..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2567 เวลา:1:33:20 น.  

 
74.ในฐานะ”คนดูข่าว”.. เราอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า.. ตอนที่”คลิปอื้อฉาว?”ไม่ทันถูกเปิดเผย(?).. ทำไม”ตัวแทนบริษัท?”(ที่เป็น”เจ้าของคลิป?”),ถ้าคิดหรือมั่นใจว่า”ตนถูกกรรโชกทรัพย์?”,แล้วทำไมจึงไม่รีบนำ”คลิปดังกล่าว?”ไปแจ้งความ”นักร้องดังบางท่าน?”และ”นักร้องเรียนหญิงบางท่าน?”เสียแต่เนิ่นๆ(?),ก่อนจะมีการเปิด”คลิปดังกล่าว?”ให้”สาธารณชน”รับรู้?..ด้วยเล่า?..(ใช่หรือไม่?)..(หรือมีนัยยะอะไร?..ซ่อนอยู่หรือไม่?)..
และถ้าไม่มีการเปิดคลิปดังกล่าวออกมาทางสื่อสาธารณะเลยตลอดไป?(จะโดยใครเป็น”ผู้ส่งให้สื่อมวลชน?”ก็ตาม?).. แล้ว”บริษัทซึ่งเป็นเจ้าของคลิป?”จะยังคงไปแจ้งความกับ”1นักร้อง+1นักร้องเรียน?”หรือไม่?..(และเมื่อไหร่?).. และถ้าตอบว่า”คงไม่?”,ก็จะมีคำถามต่ออีกว่า.. ดังนั้น..”เรื่องราวที่เกิดขึ้น?”นี้(?),น่าจะเป็น”บุคคลใด?”(หรือ”ฝ่ายใด?”)เป็น”ผู้เป็นจุดเริ่มต้น?”หรือ”ต้นเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าวนี้?”(เป็น”คนแรก?”)..กันแน่?..(หรือไม่?)..ใช่หรือไม่?..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา:21:28:22 น.  

 
75.[มีคำถามว่า..”ใคร(เคย)ตบ(?)ใครก่อน?]..
“วัฒนธรรมการตบ?”ของ”สังคมไทย”นั้นมีมาอย่างเนิ่นนาน(?).. ต้องยอมรับว่า..มีข่าว”เรื่องการตบ?”ด้วย”วิธีต่างๆ?”มาโดยตลอด,จนแทบจะเป็นปกติวิสัย(?)(ที่คนไทยพากันเฉยๆ?,รู้แต่ไม่พูด?)ใน”สังคมไทย”เลย(?)..ก็ว่าได้(?)..
อย่างเช่นเมื่อไม่ถึงปีมานี้.. ก็มีกรณี”เงินติดรั้ว?”บ้าง(?),”เบ๊นซ์เป็นรางวัล?”บ้าง(?),หรือ”เงินที่เรียก(พูดถึง)กันเป็นกิโลๆบ้าง(?),และ”ข่าวบางข่าว?”ที่กระเส็นกระสายออกมา(?),แต่ยังจับไม่ได้(?).. เช่น..กรณี”นักรู้กฎหมาย?,นักรู้วิชา?”ที่ทำตัวเป็น”นักร้องเรียน?”(บางคน)(น่าจะมากกว่า1คน?),ทำนองชอบ”เปิดหัวเรื่อง?”ว่า..วันนั้น,วันนี้(นัดทิ้งระยะไปสักช่วงหนึ่ง?,เพื่ออาจรอบางสิ่ง?.. เช่น..อาจรอให้มีการโทรมาเคลียร์?),ทำนองว่า..จะมีการ”แถลงข่าวเรื่องนั้น,เรื่องนี้?”(?)..เป็นต้น(?)..
บางเรื่องถึงเวลาก็ไม่มีการแถลงจริง(?),บางเรื่องมีการพาเจ้าหน้าที่ไปตรวจที่นั่น,ที่นี่(?),แต่สุดท้ายก็ไม่มีการ”ติดตามเรื่องเหล่านั้นต่อ?”,หรือ”บางเรื่อง?”พอถูกทวงถามจากผู้สื่อข่าวบ้าง(?),ก็อ้างว่าไปพบว่าไม่มีมูล(?),ก็เลยมากล่าวแก้อย่างนั้นอย่างนี้ให้(?),แล้วที่สุดเรื่องนั้นๆก็เงียบหายไปเลย(?).. เช่นนี้เป็นต้น(?)..นั่นไง?..(ใช่หรือไม่?)..
ปล..อยากบอกว่า.. มี”คนบางคน”(อาจมีหลายๆคน),ที่เขามี”ภูมิสังเกตสายตา?,แววตา?,สีหน้า?,ผิวหนังใบหน้า?,โหนกแก้มหนา-บาง-เนียน-หยาบ?,การกระพริบตา,ท่าทาง?”ของ”นักร้องเรียนบางคน?”,หรือ”อินฟลูฯบางคน?”,หรือ”นักรู้วิชาบางคน?”,หรือรวมทั้ง”นักรู้กฎหมายบางคน?”,หรือกระทั่ง”พิธีกรสื่อบางคน?”,ในเวลาที่”บุคคลเหล่านั้น?”ออกมาพูด(?),หรือให้สัมภาษณ์(?),ต่อหน้าสื่อมวลชน(?),หรือสาธารณะ(?).. ว่า.. จะมี”ความบริสุทธิ์ในตัวตน?”,ในการให้ความเห็นในแต่ละข่าว(?),แต่ละเหตุการณ์(?),ที่เป็นข่าวนั้นๆ(?)..แค่ไหน(?)..ด้วยนะ(?)..
เพียงแต่เขาอาจไม่อยากยุ่ง,เพราะ1.ไม่อยากเปลืองตัว(?),หรือ2.เพราะไม่มีทุนทรัพยเพียงพอที่จะไปตาม”สืบค้นหาหลักฐาน?”,หรือ”พยานบุคคล?”มาให้สังคมประจักษ์ได้(?)..เท่านั้นครับ(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา:23:37:38 น.  

 
76.”สังคมไทย”มี”คำพังเพย”ว่า..”ตบมือข้างเดียว(มัก)ไม่ดัง?”.. คือ”หลายๆเรื่อง?”(หรือ”การทุจริต?,ตบทรัพย์?,กินสินบาทคาดสินบนต่างๆ?”)มักเป็นเรื่อง”สมยอม?”,หรือ”สมคบคิด?”,หรือ”สมรู้ร่วมคิด?”,หรือ”หลับตาข้างหนึ่ง?”..นั่นเอง(?).. แต่”สังคมฝรั่ง?”,แม้คุณพยายามที่จะไปตบมือกับเขา(?),ถ้าเขาเห็นว่า”ไม่ถูกต้อง?”(?),หรือ”ไม่ถูกหลักเกณฑ์?”(?),เขาก็จะ”Say No”,ไม่ยอมตบมือกับคุณ(?)..(แน่ๆ?)..(ใช่หรือไม่?)..
คือ”คนไทยคือพุทธ?”.. ซึ่ง”พุทธ?”เน้น”ประโยชน์เฉพาะหน้าเป็นหลัก?”.. เช่น..เราเคยได้ยิน”คำสอนพุทธ?”ที่ว่า..”ผู้ที่ไม่กังวลต่ออนาคต,คือผู้ที่มีความสุขในปัจจุบัน?”(ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่อง”ดีหรือชั่ว?”นะ?)..นั่นไง?.. ซึ่ง”พระพุทธเจ้า”สอนกระทั่ง”ธรรมะสำหรับโจร?”ด้วยนะ(?)..(ไปลองถาม”ท่านจันทร์,สำนักคลองกุ่ม”ดูก็ได้)..
ซึ่ง”บางเรื่อง”เราก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับ”ปรัชญาคำสอนแบบพุทธ?”ในบางกรณีนะ(?),ที่เน้นให้”พระพุทธเจ้า”ดูโดดเด่นเกินไป(?).. เช่น.. “เกิดมาแล้วเดินได้7ก้าว?”,ซึ่งผิด”หลักการทางการแพทย์?”..เป็นต้น(?)..(เราเชื่อว่า..”พระพุทธเจ้า”คงไม่สามารถมาเกิดในยุคนี้ได้(?),เพราะอาจถูก”บอยคอต?”,หรือ”ประท้วง?”,หรือ”ถูกแบนทางโซเชี่ยล?”ได้(?)..(เหมือนเช่น”อ.เบียร์”ที่ถูก”พวกทายทักโชคชะตา?,ร่างทรง?,สายมู?”พากันประท้วง?..นั่นไง?)..
หรือเช่นที่”พระพุทธองค์”ห้าม”สาวก”ใช้”อิทธิปาฏิหาริย์?”,แต่”พระองค์เอง?”กลับมีข้อยกเว้นหลายครั้ง(?).. เช่น.. ที่ใช้”ฤทธิ์?”ไปเดินอยู่หน้า”องคุลีมาล?”,แต่”องคุลีมาล?”กลับ”วิ่งตามไม่ทัน?”..นั่นไง?.. ว่าที่จริง.. เราอยากเห็นฉากที่”องคุลีมาลวิ่งไล่ไม่ทันพระพุทธเจ้าที่กำลังเดินอยู่?”นั้น(?)..เหลือเกินนะ(?)..
ส่วน”คริสต์?”(หรือ”ฝรั่ง?”),เขาเน้น”เคารพยำเกรงต่อพระเจ้า?”เป็นหลัก(?),และ”วัฒนธรรมแบบฝรั่ง?”คือ..เขารู้ว่า..”พระเจ้าเกลียดชังต่อผู้ที่คดโกง?”,หรือ”ไม่มีความสัตย์ซื่อ?”เป็นอย่างมาก(?).. ดังนั้น..”คริสต์?”จึงเป็น”ศาสนา”ซึ่งเน้น”ความสัตย์ซื่อของมนุษย์?”เป็นหลักสำคัญ(?)..
แต่”พุทธ?”เน้นเรื่อง”การแก้ปัญหา?”(เฉพาะหน้า)ในปัจจุบัน(?)เป็นหลัก(?).. โดยมักมี”สาวกรุ่นหลัง?”,ที่มักกล่าวแก้แทน”พระพุทธเจ้า”ว่า..เป็นเรื่องของ”กุศโลบาย?”..ประมาณนั้น(?).. ซึ่งเราก็ยังไม่เห็นด้วยในบางกรณี(?).. เช่น..ตอนที่”พระพุทธเจ้า”ช่วย”นกบาดเจ็บ?”ที่ถูก”เทวทัต”ยิงตก(?)..
ซึ่งธรรมดา..”พระพุทธเจ้า”ก็ต้องเคารพ”กฎหมายบ้านเมือง?”(ใช่หรือไม่?).. ดังนั้น..”ผู้ใดยิงนกได้?”ก็ต้องถือว่าเป็น”เจ้าของนกตัวนั้น?”(แต่”บาปก็ต้องเป็นของเขา?”ด้วยเช่นกัน?).. แต่”พระพุทธเจ้า”กลับอ้าง”ความเมตตา?”เหนือกว่า”ข้อกฎหมาย?”เพื่อมา”แย่งเป็นเจ้าของนก?”จาก”เทวทัต”(เพื่อต้องการ”ช่วยชีวิตนกเอาไว้?”),จึงเป็น”เหตุเบื้องต้น?”ให้”เทวทัต”รู้สึก”คับแค้นใจ?,จองล้างจองเวร?”ต่อ”พระพุทธเจ้า”อย่างมากมาตั้งแต่บัดนั้น(?).. ใช่หรือไม่?..
เพราะ”กุศโลบาย?”( =”เทคนิค?”)กับ”เล่ห์กล?”( =”แท็คติก?”)มีเส้นบางๆคั่นอยู่(?).. เพราะ”กุศล?”( =”ขาว?”)+”อุบาย?”( =”ดำ?”),จึงทำให้คำว่า”กุศโลบาย?”กลายเป็นอะไร(?)ที่”สีเทาๆ?”(?).. ดังนั้น..”นิยายเรื่องศรีธนญชัย?”จึงฟูเฟื่องใน”เมืองสารขัณฑ์?”นี้.. นั่นไง?..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2567 เวลา:1:55:47 น.  

 
77.(มี”ข้อน่าสังเกต?”จาก”โลกเบี้ยวๆใบนี้?”).. นั่นก็คือ.. การคล้าย”สมยอม?”,หรือ”ยอมให้เขาเรียกทรัพย์?”โดยไม่แจ้งความใดๆ(?).. มีมุมชวนคิด,ชวนวิเคราะห์ประการใดบ้าง(?).. คือประมาณว่า.. เรามีส่วนใน”อะไรที่เทาๆ?”..ด้วยหรือไม่?.. กล่าวคือ..
1.ถ้า”เจ้าหน้าที่บางองค์กร?”,ไม่เคยมีข่าวเรื่อง”เรียกรับเพื่อปกปิด?”,หรือเพื่อ”ช่วยเหลือในเรื่องเทาๆ?”มาก่อนเลย(?).. แล้วจะมี”บางคน?”นำไปเป็นเหตุเพื่อ”อ้างอิงถึง?”(ใน"ทางลบ?")..ได้หรือไม่?..
2.ถ้าเราไม่หลงกับ”ความภูมิใจ?”ว่า.. มี”แฟนคลับ?”,หรือมี”คนที่ทำทีมาขอเซลฟี่?”มากมาย(?)(และเราอาจพูดว่า..ขออนุญาตที่จะ”ไม่ให้เซลฟี่กับใครๆนะครับ?”).. แล้วจะเป็นเหตุให้ถูกนำเอา”ภาพเซลฟี่ต่างๆ?”ไปแอบอ้าง(?),เพื่อหา”ผลประโยชน์?”ให้กับ”ผู้มาขอเซลฟี่?”(บางคนที่แอบแฝงมา?)ในทางมิชอบ(?)..ได้หรือไม่?..
3.ถ้าเรา”เลือกทำอาชีพ?”ที่”ค่อนข้างบริสุทธิ์?”(อาจเป็นอาชีพที่ต้องออกเหงื่อ,แรงงานเพื่อแลกเงิน),และไม่ทำธุรกิจที่รู้ว่า”เทาๆ?”.. เช่น..กึ่ง”ตลาดตรง?”,กึ่ง”ขายตรง?”,กึ่ง”แชร์ลูกโซ่?”,ที่แฝงซ่อน,ปนเปกันอยู่(?).. แล้วจะมี”นักร้องเรียนบางคน?”ที่”ฉลาด?,รู้ทันเกมซับซ้อนของเรา?”,แล้วมาหาช่องเพื่อต้องการได้”ผลประโยชน์จากเรา?”,ด้วยข้ออ้างเพื่อจะช่วยเหลือเราใน”บริบทต่างๆ?”..ได้หรือไม่?..
4.ถ้าเราไม่มี”รสนิยมที่ชอบชีวิตแบบอู้ฟู่,โก้หรู?”(ใช้แต่ของ”แบรนด์เนม?”)เกินไป(?),จนคนรู้สึก”ริษยา?”(?),และตั้งข้อสงสัยว่า..”มรึงรวยมาได้อย่างไร?”(วะ?).. แล้วเราจะเจอคนที่อยู่ไม่อยู่?,ก็ตั้งใจจะมาใส่ร้ายเรา?(โดยไม่มีสาเหตุ?)ว่า.. เราน่าจะ”ร่ำรวยผิดปกติ?”,หรือ”ร่ำรวยมาจากวิธีการสีเทาๆ?”,หรือ”เชื่อมโยงกับสิ่งผิดกฎหมาย?”,หรือ”สิ่งเสพติด?”,และ”โยงฟอกเงิน?”ได้ง่ายๆ(?)..หรือไม่?..


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2567 เวลา:3:58:58 น.  

 
5.ถ้าเราไม่ไปลุ่มหลงกับ”วงการฟ่องฟ้า?”,หรือ”วงการอินฟลูฯที่โดดเด่น?”,จนถึงขั้น”ขาดสติ?”,คือ..เขาพูดอะไรก็เชื่อหมด?,เพราะรัก?,เพราะศรัทธา?,อยากเป็นอย่างเขาบ้าง(?).. แล้วเราจะ”ถูกหลอก?,จาก”คนบางคน?,บางกลุ่ม?”ที่อยู่ใน”วงการเหล่านั้น?”(บางส่วน?).. แล้วที่สุดจูงเราให้ไปติด”กับดัก?”ของ”การชักจูง?”ให้ไป”ร่วมลงทุน?”กับอะไรที่คล้ายๆ”แชร์ลูกโซ่?”..ได้หรือไม่?..


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2567 เวลา:4:10:32 น.  

 
6.ถ้าเราไม่ไปแสดงตัว”สนิทสนม?”หรือ”คบหาใกล้ชิด?”,กับ”วงการลูกโป่งสวรรค์?”,หรือ”โคมลอย?”(ที่”ฉาบฉวย?,ไม่ยั่งยืน?”),หรือบางครั้ง.. เราอาจประมาทไปคบหาถึงขั้น”เคยร่วมหุ้น?,ร่วมลงทุน?”กับ”ธุรกิจบางอย่างกับเขา?”,จนเขาถือโอกาสนำ”ภาพ?,เสียง?,ไลน์?”ที่แสดง”ความใกล้ชิดกับเรา?”,ไปแสดงออกเพื่อเป็น”ข้ออ้าง?”ให้ได้”ประโยชน์บางอย่างจากชื่อเสียงของเรา?”,จนอาจทำให้เราถึงกับ”เสียชื่อเสียง?”ที่สะสมมาอย่างยาวนาน(?).. แล้วเขาจะกล้ากล่าวอ้างถึงเรา,จนเราต้องตกเป็น”ผู้เสียหาย?”[เพราะ”สังคมเริ่มระแวงเรา?”,ซึ่งเป็น”คนดังคนหนึ่ง?”ไปด้วย(?),เพราะเกิดจากเราไม่ระมัดระวัง?,ในการ”เลือกคบคน?”,และไม่ระวังที่จะไป”สังสรรค์?”และ”ถ่ายรูป?”ร่วมกับใครง่ายๆ?]จากการกล่าวอ้างว่า..”เขาสนิทสนม?,เชื่อมโยงกับเรา?”แบบนั้น?,แบบนี้?,เพื่อ”ประโยชน์ของเขา?”..ได้หรือไม่?..


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2567 เวลา:4:22:16 น.  

 
7.การที่”ชนชั้นกลาง?”(บางส่วน?)ที่มี”เงินสะสมจำนวนหนึ่ง?”,และอาจหาทาง”ลงทุน?”,แบบ”ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยมาก?”(โดยหวังแค่ใช้ระบบ”เงินต่อเงิน?”หรือ”เสือนอนกิน?),โดยไม่ฉุกคิดว่า..ถ้าจะมี”บริษัทใด?”ที่สามารถ”เอื้ออำนวยผลประโยชน์?”ให้กับเรา,ได้อย่าง”ล้นเกิน?,ผิดสังเกต?”มากขนาดนั้น(?).. เขาก็น่าจะไปชักชวนแต่เฉพาะ”ญาติพี่น้อง?,คนสนิทของเขา?”มากกว่าที่จะมา”ชักชวนเรา?”หรือไม่?..(ใช่หรือไม่?)..
ซึ่งเราก็น่าจะฉุกคิดได้ว่า.. จะมีใครใจดีขนาดนั้น(?),ที่จะอยากให้”ผู้อื่น?”ที่”ไม่ใช่ญาติตัวเอง?”,มาร่วม”ร่ำรวย?”,เพื่อ”ไต่เต้า?,ทัดเทียม?,เป็นคู่แข่งความร่ำรวย?”ประชันกับ”คนในตระกูลของเขา?”ด้วย(?),มันจะเป็นไปได้หรือ(?)?..
นั่นแหละ.. จึงเป็น”เหตุสำคัญ?”,ที่จะทำให้เราตกเข้าไปใน”หลุมล่อ?”,เพื่อให้เราไป”ส่งเสริมความร่ำรวยให้กับเขา?”ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น(?)..ยิ่งขึ้น(?)..เท่านั้น(?)..นั่นเอง?..(เราอยากบอกว่า..ไม่มีหรอกที่ใครจะอยาก”ให้เรามารวย?”เท่าเทียมกับเขา(?)..อย่างแน่นอน(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2567 เวลา:4:36:27 น.  

 
78.มีข้อสงสัยว่า.. อะไร?ที่ทำให้”นักร้องชายบางท่าน?”,มี”ความมั่นใจ?”,ถึงขนาดที่กล้าไป”รับปาก?,รับรอง?”แผน”โปรโมตบริษัท?”,ให้กับ”ตัวแทนบริษัท?”ที่มาติดต่อ(?)..ว่า.. ถ้ามี”เลข20”มาถึง”นักร้องชาย?”และ”นักร้องหญิง?”แล้วเรียบร้อยตามเงื่อนไข(?),ก็จะสามารถผ่านตลอดให้”เจ้าของบริษัท?”ไปออก”รายการดังรายการหนึ่ง?”ได้แน่ๆ,ตามที่ได้”รับรอง?,รับปาก?”ไว้นั้น(?)..
ซึ่งทำให้”ผู้ชมคลิปดังกล่าว?”(บางส่วน)อาจสันนิษฐานไปตาม”คำพูดของนักร้องชาย?”ว่า.. แสดงว่า..”นักร้องชายบางท่านนี้?”น่าจะต้อง”สนิทกัน?”กับ”เจ้าของรายการดัง?”นี้มากๆ(?)(เหมือนว่าเป็นพี่เป็นน้องกัน?),จนมั่นใจว่า..จะสามารถดีลกับ”เจ้าของรายการดังนี้?”[ซึ่งอาจดีลหลังจากได้รับเงินแล้ว(?),หรืออาจถึงขนาดมีการดีลกันไว้ก่อน(?),อย่างเป็นกิจจะลักษณะแล้ว(?)..ก็เป็นได้(?)(หรือไม่?).. ใช่หรือไม่?]..
ซึ่งเราเชื่อว่า.. จะมี”ผู้ชมคลิปบางส่วน?”อาจคิดสงสัย,ระแวงประมาณนี้(?),จากการแสดง”คำพูดที่แสดงความมั่นใจอย่างมาก?”ของ”นักร้องชายบางท่านนี้?”..ก็เป็นได้(?).. ใช่หรือไม่?..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...
77


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2567 เวลา:12:12:22 น.  

 
79.มีคำถามอีกว่า.. ถ้า”นักร้องชายบางท่าน?”เป็นผู้ติดต่อมาก่อน(?),และถ้าสมมุติว่า..”เจ้าของรายการดัง?”ได้รับปากกับ”นักร้องชายดังกล่าว?”,โดยที่ได้”นัดวัน-เวลา?”ไปเรียบร้อยแล้ว(?),แล้วภายหลังมามี”คนใหม่?”มาติดต่อ(?),ซึ่ง”ภาพที่ออกมา?”,คล้ายว่ามา”ตัดหน้าคิว?”ของ”นักร้องชาย?”ออกไป(?).. อย่างนี้จะอธิบายอย่างไรครับ?.. ได้มีการ”โทรยกเลิกหรืcancelคิว?”ของ”นักร้องชาย?”,ก่อนจะตกลงกับ”ผู้ติดต่อรายใหม่?”หรือไม่?..
แล้วถ้า”นักร้องชาย?”เกิด”รับเงินค่าโปรโมตบริษัท?”มาแล้ว(?),แต่”งานถูกcancel?”,แล้ว”นักร้องชาย?”จะกลายเป็น”เสียคน?,เสียข้อตกลง?,เสียคำสัญญา?,เสียเครดิต?”กับ”ตัวแทนบริษัทดังกล่าว?”ด้วยหรือไม่ครับ?..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2567 เวลา:12:56:22 น.  

 
80.เรื่อง”ตาทิพย์-หูทิพย์”ที่ออกทาง”รายการโหนฯ19-11-67”นั้นพิสูจน์ได้ไม่ยาก.. ซึ่ง”สำนักพุทธ”ต้องรีบลงไปจัดการพิสูจน์โดยเร็ว(เพื่อ”ป้องกันความเสียหาย?”ต่อ”ศาสนาพุทธ”?,ไม่ว่าจะเป็น”เรื่องจริง?”หรือ”ไม่จริง?”ก็ตาม?).. ซึ่งเรามองว่า.. สำหรับ”เด็กที่มาฝึกหูทิพย์?,ตาทิพย์?”นั้น,อาจมีการใช้”กลเม็ดบางอย่าง?”(เช่น..”อุปาทาน?”,หรือ”การสะกดจิต?”..เป็นต้น),ที่อาจยังไม่ถึง”ขั้นฌาน?”(อาจเป็นเรื่องของ”เทคนิคบางประการ?”..เท่านั้น?)..
แต่ที่แน่ๆคือ.. ใน”หลักคำสอนของพุทธศาสนา”นั้นไม่มี(?),มีแต่”สายฤาษี?”,ที่เห็นมีปรากฏแต่ใน”ยุคพุทธกาล”เท่านั้น(?).. แต่ถ้าพิสูจน์แล้ว”เป็นได้จริง?”,ก็ควรจะต้องให้ตั้งเป็น”สำนักวิชาทางจิต?”โดยเฉพาะ(?),แต่ต้องไม่อ้างว่า”เป็นของพุทธ?”.. อย่างนี้ก็ทำได้(?).. แต่ถ้าเป็นเรื่อง”การหลอกลวง?”,ก็ต้องให้”กฎหมาย”เข้าไปจัดการ(?)..
แต่ถ้า”เป็นพระ,เป็นสำนักสงฆ์?”,แล้วไปสอนสิ่งที่ไม่ใช่”พุทธศาสนา?”,โดยเฉพาะถ้ายิ่งเป็น”ระดับฌาน?”,หรือ”คุณวิเศษ?”,เช่น..ถ้า”เป็นพระ?”แล้วอ้างเรื่องมี”อภิญญา?”,ที่เรียกว่า”นั่งทางใน,รู้เห็นภาพนั่น,นี่?”,หรือ”ทำนายอนาคตได้?”.. อย่างนี้ก็พิสูจน์ไม่ยาก(?)..
เช่น..ให้ท่านนั่ง”ดูภาพโดยทางใน?”,ซึ่งเราสามารถส่ง”ผู้สื่อข่าว”ไป”ถ่ายคลิปภาพสดๆ?”,ซึ่งอาจเป็น”บุคคลที่เป็นsample?” ณ “จุดตัวอย่าง?”ที่อยู่ไกลออกไป(?)(โดยทำเป็นหลายๆเค้ส,จากเค้สใกล้,จนถึงเค้สไกลมากๆ),ว่า..”บุคคลsample?”นั้นกำลังทำกิริยาอะไรอยู่(?)..
แล้วก็ให้”พระที่บอกว่าตนเองมีอภิญญา?”นั้น,นั่งทางในดู,และบรรยายบอกมาว่า.. ณ นาทีเดียวกันนั้น,”บุคคลsample?”นั้นกำลังทำกิริยาอะไรอยู่(?)(รวมถึงเรื่อง”หูทิพย์?”ด้วยก็ได้ ว่า..”บุคคลนั้น?”กำลังพูดว่าอย่างไร?..ก็ได้ด้วย)..
ซึ่งถ้าตรงกัน(?),หรือไม่ตรงกัน(?),ก็จะสามารถพิสูจน์ได้ทันที(ถ้าเชิญ”อ.เจษฎาฯ”มาร่วมเป็นสักขีพยานด้วยก็จะยิ่งดี),และถ้า”ไม่ตรงกัน?”,ก็ต้อง”ปรับอาบัติปาราชิก?”,ให้”พระองค์นั้น?”ต้อง”สึกจากความเป็นพระ?”ในทันทีด้วย(?)..
แต่ถ้าปรากฏว่า”ตรงกัน?”.. ดังนั้น..“พระองค์นั้น?”ก็จะผิดแค่”อาบัติปาจิตตีย์?”,โดยยังไม่ต้องสึก,แต่ต้องให้เลิกอวด”อิทธิญาณ?”เรื่อง”หูทิพย์?,ตาทิพย์?”,โดยต้องไม่กระทำอีก(?)..
แต่ถ้าเป็น”เรื่องจริง?”,และท่านประสงค์จะทำต่อไป(?),ท่านก็ต้องแยกตนเป็น”สำนักสอนฤทธิ์ทางจิต?”(และต้องสละความเป็น”พระของพุทธ?”ด้วย),โดยต้องไม่กล่าวอ้างว่า”ตนเองเป็นพุทธ?”โดยเด็ดขาด(?).. อย่างนี้ก็สามารถทำได้โดย”ไม่ผิดกฎหมาย(?),หรือให้”ทางกฎหมายบ้านเมือง”เป็นผู้”ควบคุมหลักสูตรของท่าน?”,โดยใช้กระบวนการทาง”ภาครัฐ?”เองครับ(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2567 เวลา:9:52:46 น.  

 
81.”สังคมไทย”นั้นดู(เดา)ไม่ยาก(?)..[เราจึงไม่เคยนิยม”ยธ.ที่เนิ่นช้า?”เลย(?).. คือถ้าเร็วเท่าไหร่ได้จะยิ่งมั่นใจใน”ความยธ.?”ได้มากเท่านั้น(?).. แต่ถ้ายิ่งนานยิ่งให้โอกาส”ดีลกันไปมา?”,สำหรับ”คนบางคน?”ที่มี”อำนาจเงินอยู่ในมือ?”มากขึ้นเท่านั้น?]..
สำหรับ”คนบางคน?”.. จะสังเกตได้ว่า.. “คนบางคน?”นั้น(?),ถ้าเขาไม่มั่นใจว่าเขาสามารถดีลได้กับ”บางองค์กร?”.. เขาจะไม่รออยู่(?),แต่จะรีบชิง”หนีไปต่างประเทศ?”(?),และไปกร่างต่อที่ต่างประเทศแทน(?)..
แต่ถ้าวาระไหน?,ที่เห็นเขา”กล้ากร่างอยู่ในประเทศ?”,นั่นแสดงว่า(โดยใช้”หลักจิตวิทยา?”ในการ”สังเกตและวิเคราะห์?”).. คือ.. เขาต้องมั่นใจว่า..”เค้สนั้น?”เขาต้อง”ผ่านการดีล?”มาแล้ว(?),และได้รับคำตอบว่า..”ผ่านแน่ๆ?”แล้ว(?)..นั่นเอง(?)..
แต่เราสงสัยว่า.. เมื่อมีเหตุการณ์ใน”กระบวนยธ.?”ที่”ค้านสายตาปชช.?”,ในแทบ”ทุกคดี?”(เช่น..”คดีเครื่องดื่มกระตุ้นพลังงานบางยี่ห้อ?”..เป็นต้น).. ทำไม?..จึงมักมี”ข้อครหา?”เกี่ยวกับ”ยธ.กลางน้ำ?”ที่มักจะมี”ข่าวลือที่แปลกๆ?”ออกมาก่อน(?),เพื่อส่ง”สัญญาณบางอย่าง?”ให้”ปชช.เดาเหตุการณ์ออก?”ไว้ก่อนเสมอ(?)..
จน”คนบางคน?”อาจตั้งคำถามว่า.. ”ยธ.กลางน้ำ?”นั้น(?)..มีไว้เพื่อประโยชน์อะไร?..[ถ้าจะยกเลิก?,ไม่ต้องมี”บางองค์กร?”มา”ขั้นตรงกลาง?”ให้”ซับซ้อน?,เสียเวลา?”เลย?,และ”เปิดโอกาสให้เกิดความบิดเบี้ยว?”,และ”เปิดช่องให้เกิดการเรียกรับผปย.?”,หรือ”การติดสินบนต่างๆ?”(?)..จะได้มั้ย?)..(เมื่อไหร่”พันท้ายนรสิงห์#2?”จะปรากฏตัวซักทีหนอ?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2567 เวลา:18:27:32 น.  

 
82.เรามองว่า.. ถ้า”กฎหมาย?”ยิ่งมีรายละเอียดมาก,ยิ่งซับซ้อนมาก,ต้องตีความมาก,ประชาชนเข้าใจได้ยากมากขึ้น(?).. และ”องค์กรอิสระ?”ยิ่งมีมากเท่าไหร่(?).. แสดงว่า.. “ศีลธรรม?หรือคุณธรรม?”,รวมถึง”การศีกษา?”และ”การสอนศาสนาให้กับปชช.?”,ผ่าน”องค์กรของรัฐ?”ยิ่งเสื่อมลงมากเท่านั้นนะ(?)..เราว่า(?)..
เพราะ”องค์กรอิสระ?”ก็คือ”มนุษย์?”เหมือนเราๆท่านๆ(?)(ดังนั้น..”ท่านเหล่านี้?”จึงยังไม่ใช่”พระอรหันต์ที่หมดกิเลสแล้ว?”.. ดังนั้น.. ท่านย่อมมี”ทัศนะส่วนตัว?”ที่ไม่จำเป็นที่จะต้อง”เป๊ะๆ100%?”เสมอไป?)..
เท่าที่สังเกต.. “ผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย?”ใน”สังคมไทย”,มักนิยมการ”บริหารอำนาจของตนเอง?”(อย่างเต็มที่?,ซึ่งอาจเป็นเรื่องของ”อัตตา?”หรือ”ความภาคภูมิใจ?”ที่ได้”แสดงอำนาจของตน?”..ก็เป็นได้?)..
โดยทั่วไป..เท่าที่สังเกต.. “บางท่าน?”มักจะมี”ทิฐิมานะ?”,ไม่ชอบให้”ผู้ที่อยู่ในสถานะที่ด้อยกว่า?”,มา”ชี้นำ?”ในการ”ใช้อำนาจที่อยู่ในขอบเขตของตน?”[เว้นแต่”การร้องเรียนนั้นๆ?”เผอิญ”ตรงใจ?”กับ”ความประสงค์ในใจ?”ของ”ผู้มีอำนาจบางส่วน?”ใน”องค์กรอิสระบางองค์กร?”นั้นๆ(?)..อยู่แล้ว(?)]..
แต่โดยทั่วไป.. “ผู้มีอำนาจในองค์กรอิสระ?”(บางส่วน),มักไม่ต้องการ”ให้ใครมาชี้นำ?”ไว้ก่อน?.. ว่า”เค้สนี้,เค้สนั้น?”จะต้องมีผลเหมือน”เค้สที่แล้ว?”(เพราะดำเนินการแบบเดียวกันนี่?),ดังที่พวก”สื่อมวลชน?”(บางส่วน)ชอบไปสัมภาษณ์”ผู้รู้สารพัดสาขา?”(เพื่อ”ทำคอนเท้นต์?”),ที่ชอบ”ออกข่าว,นำทางไว้ก่อน?”อยู่เสมอ(?)..
หรือ”ผู้มีอำนาจในองค์กรอิสระ?”(บางส่วน),ก็คงไม่ชอบทำตามการ”คาดการณ์ล่วงหน้า?”ของ”สื่อบางส่วน?”,ที่ชอบชิง”วิเคราะห์ออกหน้า?”ว่า..จะต้อง”ออกผลมาเป็นอย่างนั้น?,อย่างนี้?”ไว้ก่อน?..ก็เป็นได้(?)..ละกระมัง(?)..
แต่ที่สุด.. เราเชื่อว่า..มี”นักการเมืองคนพิเศษอย่างน้อยคนหนึ่งในประเทศไทย?”,ที่เขาน่าจะเชื่อ(หรือน่าจะต้องคิด”ปรามาสคนในสังคมไทย?”)อย่างแน่วแน่(?).. ว่า..”เงิน?+คอนเน็คชั่นของเขา?”,จะสามารถ”ซื้อความเป็นไป?”ใน”ระบบทุกระบบ?”ใน”แทบทุกองค์กร?”ใน”ประเทศไทย?”ได้(?)..ประมาณว่า..”คนไทยแพ้อำนาจเงินแทบทุกคน?”..ประมาณนั้น(?)..เลยเชียวแหละ(?).. เราแค่เชื่อใน”ความคิดส่วนตัวเราเอง?”..เท่านั้นนะ(?)..
ดังนั้น.. ถ้า”องค์กรอิสระบางองค์กร?”ที่มักมี”ข่าวมุมลบ?”ออกมาเป็นระยะๆว่า..”ไม่ค่อยจะอิสระเท่าไหร่?”นั้น(?).. และ”ประชาชนก็สัมผัสได้?”.. แล้ววันหนึ่ง.. ถ้า”ปชช.?”ผู้เป็น”ผู้เสียภาษี?”เพื่อจ่ายเป็น”เงินเดือนให้กับองค์กรอิสระ?”นั้นๆ(?),แต่กลับรู้สึกว่า..”องค์กรอิสระบางองค์กร?”นั้น(?),น่าจะพึ่งพาอะไรไม่ค่อยได้(?)[รวมทั้งความเนิ่นช้า?,การประวิงเวลาต่างๆ?,ที่ทำให้”เสียเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศชาติ?”,และ”เสียสุขภาพจิต?”ของ”ผู้ได้รับผลกระทบ?”,ในการ”รั้งรอการตัดสินใจ?”จาก”องค์กรอิสระบางส่วน?”นั้นๆด้วย(?)]..
ก็อาจทำให้”ปชช.บางส่วน?”อาจตัดสินใจดำเนินการเพื่อ”แก้ปัญหาต่างๆด้วยตนเอง?”(แบบคล้าย”ยุคคาวบอยเท็กซัส?”ของ”เมกา?”,หรือแบบ”ตาแทนตา?,ฟันแทนฟัน?”ของ”คนอิสราเอล?”,โดยไม่หวังพึ่งพา”องค์กรอิสระบางส่วน?”อีกต่อไป(?)..ก็เป็นได้นะ(?)..เราว่า(?)..(ใช่หรือไม่?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2567 เวลา:20:45:53 น.  

 
83.(การวิเคราะห์”สังคมไทย”)..
“สังคมไทย”มีลักษณะ”ขี้เล่น?”มาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล(?)( =”กลัดกระดุมเม็ดแรกผิดมาแต่ต้น?”),ซึ่ง”ประเทศจีน”จะคิดต่าง(?),เขาจะไม่ทำให้การเมืองเป็น”เรื่องเล่นๆ?”,เหลาะแหละอะไรเลย?,และจะไม่ให้”สื่อบางส่วน?”นำมาทำเป็น”คอนเท้นต์?”ถามไปถามมา?,จนดูเหมือนกลายเป็นเรื่อง”การช่วยชี้ช่องทาง?"(หรือช่วยหา”เทคนิคทางกฎหมาย?”),หรือช่วยวิเคราะห์?,เพื่อหา”ทางหนีทีไล่?”ให้กับ”นักการเมืองบางส่วน?”ที่กำลัง”กระทำทุจริต?”ไปซะอย่างงั้น(?)..
ส่วน”นักวิชาการ?,นักวิเคราะห์?,อินฟลูฯทั้งหลาย?”(บางส่วน),โดยมากก็มักจะไม่ปฏิเสธ”คำรับเชิญให้มาเป็นแขกของรายการ?”,เพราะหลัง”จบรายการ?”,ก็มักจะได้รับ”ค่าน้ำมันรถ?”เป็น”หลักหลายพันบาท?”(ซึ่งมักจะมากกว่า”ค่าน้ำมันที่ต้องจ่ายจริง?”),เท่ากับเป็น”รายได้พิเศษ?”ในการ”เดินสายออกรายการ?”ไปนั่นเลยเทียว(?)..
และเมื่อพากัน”เดินสายวิเคราะห์?,ทำนายนั่น,นี่?”ไปก่อนกาล(?),”คนที่สีเทาๆ?”ก็เลยพลอย”เห็นช่อง?”ที่จะ”หลบหลีก?,วิ่งเต้นทางลับ?”,หรือหาทาง”ดีลทางลับ?”กับ”ผู้มีอำนาจหน้าที่ที่สำคัญ?”(บางส่วน),ก็จึงอาจทำให้”คำวิเคราะห์?,ทำนาย?”ที่ออกมาก่อนกาล(?),จึงมักจะ”ผิดพลาด?”,หรือ”หักปากกาเซียน?”กันอยู่เป็นจำนวนมาก,อยู่เนืองๆ,เสมอมา?..นั่นไง?..
แต่”ประเทศจีน”(รวมทั้ง”เวียดนาม”ด้วย),ดูเขาจะจริงจังมาก(?),เท่าที่เคยได้ยินตามข่าวต่างๆ(?),ถ้าใคร”ทุจริต?,คอร์รัปชั่น?”จะต้องนำไป”ประหารชีวิต?”เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง(?)..เป็นต้น(?).. จึงทำให้”ประเทศจีน”พัฒนาไปไกลกว่า”ประเทศไทย”มากมาย(?)..ไงล่ะ?..
แต่สำหรับของ”ประเทศไทย”.. เช่น.. สมัยหนึ่ง(ในอดีต),”สื่อภาครัฐ?”ก็คล้ายว่างมาก(?),ก็เลยจัดทำให้มีการ”ล้อเลียนนักการเมือง?”(เช่น..ในรายการ”สภาจ.?”),ที่มีการเรียก”ฝ่ายค้าน?”ว่า”ฝ่ายแค้น?”บ้าง(?),ซึ่งเท่ากับ”ดิ๊สเครดิต?”ต่อ”ฝ่ายค้าน?”ให้เสียคุณค่าไป(?),เหมือนว่า..”ฝ่ายค้าน?”เป็นฝ่ายที่มี”วาระส่วนตัว?”,เพราะ”อกหักไม่ได้เป็นรัฐบาล?”,จึงมี”ความคับแค้น?”,ที่ต้องการ”กลั่นแกล้งฝ่ายรัฐบาล?”(หรือ”รัฐบวม?”),หรือพยายามหาทาง”ล้มรัฐบาล?”,เพื่อที่”ฝ่ายค้าน?”จะได้มีโอกาสเปลี่ยนมาเป็น”ฝ่ายรัฐบาล?”แทน(?)..ประมาณนั้น(?)..นั่นไง(?)..(ใช่หรือไม่?)..
และเท่ากับเป็นเรื่องใช้”แง่จิตวิทยา?”ในการทำให้”เรื่องการเมือง?”กลายเป็น”เรื่องเล่นๆ?”(ชวนขบขัน?,อย่าไปถือสาหรือจริงจังอะไรมาก?).. ประมาณว่า..สร้าง”ค่านิยมมองผ่าน?”,ให้”คนไทย?”อย่าไปถือสาอะไร?กับ”นักการเมือง?”ให้มากนัก(?),ขอให้เห็นเป็นเรื่อง”น่ารักๆ?”,จนเป็นวัฒนธรรม(?),ที่ทำให้”สื่อต่างๆ?”(บางส่วน)ซึมซับ?,ที่ไม่ค่อยเอาเป็นเอาตาย?,กับ”นักการเมือง?”ที่ไม่ค่อย”สัตย์ซื่อกับประชาชน?”กันเท่าไหร่นัก?..นั่นไง?..เช่นนี้เป็นต้น(?)..(ใช่หรือไม่?)..


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2567 เวลา:22:26:42 น.  

 
84.ดังนั้น.. จาก”นิสัยคนไทยขี้เล่น?,ติดสนุกสนาน?”,ก็เลยเป็นที่มาแห่งการสร้าง”นิยายศรีธนญชัย?”ขึ้นมา(?),จนกลายเป็น”แบบอย่างของคนฉลาด?”(K.ล่อน?),ในการ”รู้จักเอาตัวรอดเป็นยอดดี?”(เฉพาะตัว?)(หรือ”นักเลี่ยงบาลี?”),ซึ่งเชื่อมโยงกับ”คำกลอนของสุนทรภู่?”ที่ว่า..“แม้นใครรักรักมั่งชังชังตอบ.. ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา.. รู้สิ่งไรไม่สู้รู้วิชา.. รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี”..นั่นไง?..เช่นนี้เป็นต้น(?)..
ทำให้ยุคนี้(?).. จึงมีเรื่องที่แปลกๆ(?),และแปลกมากๆ(?)..เกิดขึ้น(?).. คือจะพบว่า.. ทำไม”คนเลว?”หรือ”คนสีเทาๆ?”(บางส่วน),จึงมี”วัฒนธรรมเลียนแบบกัน?”,ที่”ชอบทำบุญ?”ให้กับ”วัดวาอาราม?”หรือกับ”พระดังๆ?”กันเป็นจำนวนมาก(?)..
ดังจะเห็นตามข่าวต่างๆ(?).. ว่า.. เวลาที่”คนดังบางส่วน?”ถูก”จับกุม?”หรือ”ถูกกล่าวหาเรื่องเงินๆทองๆ?”,หรือ”การฟอกเงิน?”,จึงมักอ้างว่า..เป็น”เงินที่ฝาก?”หรือ”โอนให้กัน?”เพื่อ”การทำบุญ?”(ซึ่งเป็น”จำนวนเงินมากๆ?”),และมัก”ทำบุญเช่นนี้?”อยู่อย่างสม่ำเสมอ(?),เป็นกิจวัตร(?)(แทบ”ทุกๆเดือน?”),ซึ่งดูเป็นที่”ผิดสังเกต?”อย่างมาก(?)..
ซึ่งจริงๆ..ทาง”หลักพุทธศาสนา”มองว่า.. “การทำบุญควรต้องไปทำด้วยตนเอง?”,การ”ฝากผู้อื่นไปทำบุญให้?”นั้น(?),”อานิสงส์?”ที่จะได้,ก็ย่อมลดน้อยถอยลงตามลำดับ(?)..ตามไปด้วย(?).. แต่”คนสีเทาๆ?”(บางส่วน)ก็ยังคงนิยม”ฝากเงินจำนวนมากๆ?”ไป”ทำบุญกับคนอื่นๆ?”อยู่เป็นประจำ(?).. มันแปลกดีนะ(?)..
หรือมีกรณีที่”คนบางคน?”(ใน”แวดวงสำคัญต่างๆ?”),ที่เมื่อถูก”กล่าวหานั่น,นี่?”,ก็มักใช้การไป”บวชสักระยะหนึ่ง?”,เป็นการทำให้”ภาพพจน์ของตัวเองดูดีขึ้น?”..นี่ก็ด้วย(?).. หรืออีกเรื่อง..”คนมีฐานะร่ำรวย?”(โดยเฉพาะคนในแวดวง”นักการเมือง?”,รวมทั้ง”แวดวงอื่นๆ?”ด้วย),ทำไมจึงมักนิยมสะสม”พระเครื่องดังๆ?”(มูลค่าเป็น”หลักล้านบาท?”ขึ้นไป?)เหมือนกับ”การทำตามๆอย่างกัน?”จนเป็นปกติวิสัย(?),(ซึ่งจะว่า”ศรัทธาพระพุทธเจ้ามากมายเหลือเกิน?”ก็ไม่น่าจะใช่?)..
ซึ่ง”ประชาชนบางส่วน?”ก็อาจนึกสงสัยได้ว่า.. “นักการเมืองบางส่วน?”ที่มีพฤติกรรมการชอบ”สะสมพระเครื่องดังๆ?”(ที่มี”มูลค่าแพงๆ?”)ดังกล่าวนั้น(?).. อาจมี”นัยยะ?”( =”กลวิธีซับซ้อน?”)ที่”เชื่อมโยง?”กับ”การฟอกเงิน?”,หรือเป็นเรื่อง”กลเม็ด?,เคล็ดวิธี?”ของการ”ปกปิดเรื่องเงิน?”ที่ได้มาจากความ”ไม่ชอบมาพากล?”จากการ”รับสินบน?”,หรือการ”คอร์รัปชั่นต่างๆ?”ก็เป็นได้(?)..ด้วยหรือไม่?..(ใช่หรือไม่?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2567 เวลา:22:58:05 น.  

 
85.(เกร็ดวิเคราะห์)..
ต้องยอมรับว่า..”หลายบริบทของพุทธ”ทำให้มี”ข้อถกเถียง?”ต่อได้อีกว่า..”ยังสอนไม่ครบในบางเรื่อง?”.. เช่น..สอนว่า”กตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี”.. ซึ่งครั้งหนึ่งในอดีต,ในสภาไทย.. เคยมี”คุณอ๊อกว่อร์ด?”พูดในสภา,ทำนองว่า.. ถ้าเราคิดแต่เพียง”ต้องกตัญญูกับคนที่มีบุญคุณส่วนตัวกับเรา?”เท่านั้น(?),แต่เขาเป็น”คนที่คอร์รัปชั่นต่อบ้านเมือง?”,แล้ว”สังคมไทย”จะเป็นอย่างไร?.. หรือถ้าเรา”ยอมเนรคุณ?”,แต่ได้เปิดเผยถึง”การกระทำที่โกงกินประเทศชาติ?”(แม้ว่า”คนนั้นจะมีบุญคุณต่อเราเป็นส่วนตัว?”ก็ตาม?)..อย่างนี้จะดีกว่ามั้ย?..
เราจึงมองว่า.. อย่างกรณีของ”ดิ....?”ที่มี”เจ้าของบริษัท?”ที่เป็น”คนที่มีบุคลิกเฉพาะตัวพิเศษ?”เหมือน”เจมส์....008”,หรือเหมือน”นักสืบแม็คไกเว่อร์”(ซึ่งเป็น”นักประดิษฐ์อุปกรณ์เพื่อแก้ปัญหา?”,ซึ่งเป็น”ซีรี่ส์ฝรั่ง”ในอดีตราว40กว่าปีก่อน),ซึ่ง”เจ้าของบริษัทคนนี้?”เขามีทัศนะที่”ไม่ทิ้งใครไว้ข้างนอก?”,และเป็น”นักใช้อุปกรณ์อัดเสียง?”,เพื่อ”เก็บหลักฐาน?”ของ”นักตบทรัพย์ทั้งหลาย?”,ก็ต้องยอมรับว่า..เขามีส่วนที่เป็น”คุณประโยชน์ต่อประเทศ?”ที่ช่วย”เปิดโปงมุมเลวร้ายของสังคมไทย?”(ในเรื่อง”การตบทรัพย์?”ของ”คนบางคน,บางกลุ่ม?”)ได้อยู่พอสมควรนะ(?)..
แต่อย่างกรณีล่าสุดของ”แม่-ลูกบางคู่?”แม้จะมีลักษณะDNAที่ถอดแบบกันเปี๊ยบ(?),แต่ดูว่า..เขาอาจไม่มี”บุคลิกพิเศษ?”เหมือนกับ”เจมส์....008”,โดยเฉพาะ”คนที่เป็นลูก?”,ดูจะยังมีความคิดแบบ”เกรงใจ?”(หรือคิดเรื่อง”กตัญญู?”)ต่อ”คนบางคนในภาคการเมือง?”อยู่มาก(?),แม้อาจจะมีความคับแค้นส่วนตัวว่า..ทำไมจึงถูกทอดทิ้งจากผู้ที่ได้รับ”ผปย.ร่วมกันมาก่อน?”,แต่ดูอาจจะไม่มี”ความกล้ามากพอ?”ที่จะเปิดเผยอะไร?ที่เกี่ยวกับ”ผู้ที่อยู่สูงกว่าขึ้นไป?”.. แต่ถ้าเขากล้าเหมือน”เจมส์.....008”,และเปิดเผยไปให้สุดทาง(?),เขาก็จะได้ชื่อว่า..”ช่วยทำความสะอาดประเทศชาติ?”ได้เป็นอย่างมาก(?)..อีกคนหนึ่งนะ(?)..เราว่า(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2567 เวลา:7:06:37 น.  

 
86.(เรื่องที่”คนไทยต้องฉุกคิด?”)..
1.”กลัดกระดุมเม็ดแรกผิด?”อยู่เรื่อยนะ”คนไทย?”?.. ทำไม”คนไทย?”(บางส่วน)จึงชอบคบหากับ”คนผิด?”,เพราะเห็นแก่”ผลประโยชน์เฉพาะหน้าแก่ตน?”อยู่เสมอ?..(อาจเพราะ”การสอนศาสนาพุทธให้กับคนไทยล้มเหลว?”..หรือไม่?).. เพราะ”คนไทย?”(บางส่วน)ไม่คิดแบบ”กามิกาเซ่?”( =”ชาติญี่ปุ่นที่เขาเจริญมากกว่าไทยหลายร้อยเท่า?”),หรือไม่คิดแบบ”พันท้ายนรสิงห์?”,แต่ชอบคิดแบบ”สุนทรภู่?”(เพราะ”คนไทย?”ติดเรื่อง”ลิเก,ละคร,วรรณคดีบางเรื่อง,ที่ไร้สาระ?”,ที่มอมเมาให้สังคมจมอยู่กับ”กิเลส,ตัณหา,ผิดศีล5?”,โดยเฉพาะ”ศีลข้อ3”,ไม่ว่าจะเป็น”พระอภัยมณี,ครุฑ,คนธรรพ์,ขุนแผน,วันทอง,ฯลฯ.. เป็นต้น),ที่มี”คำกลอนสุนทรภู่”ที่ว่า”รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี?”..นั่นไง?..
2.”คำพังเพยไทย”ที่ว่า..”ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น?”.. แปลความว่า.. “DNAของต้นแม่พันธุ์?”เป็นอย่างไร(?).. “DNAของต้นลูก?”ก็มักจะไม่ต่างกัน(?).. ถ้า”แม่พันธุ์?”เป็น”DNAโกง?”.. เมื่อ”ลูกพันธุ์?”ออกมา(?),ก็มักได้รับการ”ถ่ายทอดพันธุกรรม?”เป็น”DNAโกง?”ตามไปด้วยเสมอ(?)..(เรื่องเหล่านี้..ไม่ค่อยมีการพูดกันใน”สังคมไทย?”และใน”สื่อมวลชน?”).. โอกาสที่จะมี”การผ่าเหล่า,ผ่ากอ?”(Mutation),ที่”ต้นลูกพันธุ์?”จะเป็น”อภิชาตบุตร?”ดีเด่นกว่า”ต้นแม่พันธุ์?”,ย่อมเป็นไปได้ยากมาก(?)..(ใช่หรือไม่?)..
3.เพราะฉะนั้น.. ในอดีตแต่ครั้งโบราณกาล(“คนโบราณ”มี”เซ้นซ์ที่ฉลาดมาก?”)จึงมักมี”กฎหมายสำคัญ?”ที่ต้องให้มีโทษหนักมากๆถึงขั้น”.....7ชั่วโคตร?”มาโดยตลอด(?)..นั่นไงล่ะ?.. คือต้อง”ขุดออกให้หมด?”กระทั่ง”DNAของต้นพันธุ์ที่ไม่ดี?”ทั้งหมด(?)..ด้วยไงล่ะ(?)..(ใช่หรือไม่?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2567 เวลา:21:28:24 น.  

 
87.(เรื่องน่าคิด?.. ฤาผิดที่ระบบ?)..
1.”สื่อ?”คือ"กลไกสำคัญ?"ของ”ระบบประชาธิปไตย”.. ซึ่งในยามปกติมักพูดกันว่า.. “สื่อมวลชน”ต้องได้รับการคุ้มครอง,ต้องเป็นอิสระ,ต้องไม่ถูกแทรกแทรงจาก”องค์กรใดๆ”หรือ””กลุ่มใดๆ”.. แต่”อีกมุม?”.. ก็เห็น”สื่อบางค่าย?,บางรายการ?,บางพิธีกร”(อาจถึง10รายการ),กำลังทำตัวเป็น”ผู้ชี้นำทิศทาง?,คอนเท้นต์?”(โดยที่มักไม่นำทั้ง”2ฝ่าย”มาพร้อมๆหน้ากัน?),หรือมักถามให้”แขกรับเชิญ”(ซึ่งก็ย่อมอยากแสดงภูมิของตน?)ให้ตอบแบบเท่ากับไปช่วย”ชี้ช่อง?”(ให้เกิดการ”วางแผน?,แก้เกมส์?”กันไปมา?,จน”ปัญหาบางเรื่อง?”ยืดเยื้อ,ไม่จบลงง่ายๆ?,เพราะเลยเท่ากับไปคอยเปิดเผยให้”แต่ละฝ่าย?”เขารู้ทันเกมส์กันไปหมด?),ให้เกิด”ความผิดผวน?,วุ่นวาย?,ยุ่งเหยิง?,แผนแตก?”,ในมุมเพื่อ”แก้ไขปัญหาของชาติ?”,โดยอาจไม่รู้(?)และไม่เจตนา(?),แต่ทำไปเพราะมุ่งให้”รายการตนได้รับเรตติ้ง?”,เพราะเป็น”อาชีพที่ต้องทำ?”เพื่อ”หาเลี้ยงชีพ?”เท่านั้น(?)ก็เป็นได้(?)..(ใช่หรือไม่?)..
2.”ช่องสื่อ”จะได้เรตติ้ง,”รายการ”ก็ได้เรตติ้ง,"พิธีกร"ได้แสง(?),ได้เครดิต(?),ได้เป็น”พิธีกรเด่นของช่อง?”(?).. ส่วน”นักวิชาการ”(บางส่วน)ก็มักไม่ปฏิเสธการรับเชิญ,เพราะทั้ง”ได้แสง?”(?),และได้”ค่าน้ำมันรถ?”(?),ซึ่งเป็น”จำนวนเงินพอสมควร?”,จึงเป็นเหตุให้อาจ”ไม่มีแรงที่จะปฏิเสธ?”นั้นด้วย(?)..ก็เป็นได้(?)..หรือไม่?..
3.เมื่อมี”เหตุการณ์ไม่ปกติ?”เกิดขึ้นทุกครั้ง(?),จะสังเกตว่า.. ทำไม”สื่อมวลชน?”ต้องถูกควบคุมเป็นอันดับแรก(?)..[ซึ่งขัดกับ”หลักการประชาธิปไตยสากล?”,ที่สื่อจะต้องเป็นอิสระ(?)..ใช่หรือไม่?].. เพราะฉะนั้น.. ย่อมแปลว่า.. “สื่อ?”จึง”มีผลอย่างสำคัญ?”ต่อการทั้ง”ชี้นำ?”,และ”ช่วยเหลือสังคม?”,หรือในมุมตรงข้าม,ก็อาจมีลักษณะปั่นป่วน,รบกวน”การทำงานของบางฝ่าย?”,ให้”ผิดแผน?,วุ่นวาย?,ยุ่งเหยิง?,ควบคุมเกมส์ได้ยาก?”ไปด้วยก็เป็นได้(?)..ด้วยหรือไม่?..
4.”คุณอ๊อกว่อร์ด?”จึงเคยพูดประมาณว่า..”ความสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย?”จากการจัดการต่อ”ความวุ่นวายต่างๆ?”ของ”ระบบประชาธิปไตย?”นั้น..มองว่าเป็น”ต้นทุนของประชาธิปไตย?”(คือเป็น”เงินภาษีประชาชนที่ต้องจ่าย?”)ที่ไม่อาจปฏิเสธได้(?)..ประมาณนั้น(?)..[ดังนั้น..จึงมีคำถามว่า.. “ระบบคอมมิวนิสต์?”และ”ระบบเผด็จการ?”อาจใช้”งบประมาณค่าใช้จ่าย?”ที่น้อยกว่า”ระบบประชาธิปไตย?”มากๆ(?)..ใช่หรือไม่?]..


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2567 เวลา:0:10:30 น.  

 
5.”สื่อบางค่าย?”มี”แนวคิดกึ่งลำเอียง?”ที่ชอบพูดวิเคราะห์ข่าวแบบ”ต่อต้านเมกา?”และ”อิสราเอล?”[เพราะ”ตนเอง?”มี”เชื้อสายจีน?”,มี”สมองแบบจีนๆ?”,จึงมักพูดเข้าข้างจีนอยู่เสมอ(?),ทั้งๆที่”จีน?”เป็น”ต้นกำเนิด?”ของคำว่า”จีนเทา?”(รวมทั้ง”แก็งค์คอลฯ?”),เป็น”จุดริเริ่ม?”ของ”ธุรกิจสินค้า20บาท?”ที่ไร้คุณภาพ(?),รวมทั้ง”สินค้าปลอม?,สินค้าเลียนแบบสารพัด?”,ที่เคยเป็นข่าวเป็นระยะๆ?,อยู่เสมอมา?,และเคยมีหนังสื่อชื่อ”จีนอัปลักษณ์?”(ราว40กว่าปีก่อน?),ที่”สื่อบางค่ายนี้?”คงไม่เคยอ่าน(?)].. แต่เรากลับมองว่า”อิสราเอล?”(ซึ่ง”ให้เกียรติ”และ”ชื่นชอบแรงงานคนไทย”)เป็น”ศาสนายิว?”,เขามีคติว่า”ตาแทนตา?,ฟันแทนฟัน?”,และในที่สุด..เขาก็มักจะสามารถจัดการเรื่องราวที่ดูรุนแรง,ให้จบลงได้โดยที่เขาเป็น”ฝ่ายชนะอย่างมีศักดิ์ศรี?”ได้เสมอ(?)..
6.มีคำถามว่า.. “สื่อบางค่าย?”ชอบ”ชเลียร์จีน?”,แต่”จีน?”คือ”ระบบเหมาฯ?”มาก่อน(?),แต่”คุณสื่อบางค่ายนี้?”อยู่ใน”ระบบประเทศไทย?”,ซึ่งยึด”ระบบประชาธิปไตยสากล?”แบบ”อังกฤษ,เมกา?”.. และคุณก็”เรียนจบจากเมกา?”,ซึ่งก็แปลก(?),ที่คุณทั้งๆที่”ได้ประโยชน์?”จากการได้”ประสบการณ์ทางภาษาอังกฤษ?”จาก”เมกา?”,จึงอาจรู้ลึกถึง”ข่าวสารต่างๆ?”จากอีก”ซีกโลก?”มากกว่า”คนไทยโดยทั่วไป?”,และเอาการ”รู้ภาษาอังกฤษ?”มาใช้กับการ”สื่อสารของคุณ?”.. แต่คุณก็กลับชอบพูดจา,โจมตี,ต่อต้าน”เมกา?”อยู่เป็นเนืองนิตย์(?),จน”คนบางส่วน?”อาจมองว่า..”คุณลำเอียงเข้าข้างจีน?”ไปเสียทุกอย่าง(?)..หรือไม่?.. เราจึงไม่รู้ว่า”รากฐานในใจของคุณนั้น?”.. คุณคิดอย่างไร?..
7.เท่าที่เราสังเกต.. เรามองว่า.. “เมกา?”ไม่เคยคิดอยากเป็นศัตรูกับไทย(?),มีแต่คอยช่วยเหลือไทยอยู่เป็นระยะๆเสมอมา(?).. มีแต่”สื่อบางค่าย?”(รวมทั้ง”ทนายมีปีก?”บางคน?)ที่ดูเหมือนจะคอย”ตั้งป้อม?”จะเป็น”ศัตรูกับเมกา?”(รวมทั้ง”อิสราเอล?”)อยู่เรื่อยๆ(?).. ทั้งๆที่”ตนเอง?”ก็เคยตั้งกลุ่มที่มีชื่อ”เพื่อประชาธิปไตย?”,แต่ก็กลับไป”ชเลียร์จีน?”ซึ่งเป็น”คนละระบบการปกครอง?”กับเรา(?).. หรือถ้าอย่างนั้น?.. เราทุกคน..ก็พากันเปลี่ยนให้เป็น”ระบบแบบจีน?”เขาเลย(?)..ดีหรือไม่?.. จะได้ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2567 เวลา:0:58:30 น.  

 
88.(“สังคมไทย?”วกวน?,วุ่นวาย?.. เพราะ”สื่อบางค่าย?”ชอบอ่าน”นิยาย3ก๊ก?”)..
ทัศนะแบบ”นิยาย3ก๊ก?”คือรากฐานมาจาก”ประวัติศาสตร์ทางการเมืองแบบจีน?”.. คือสรุปว่า..”นิยายจีนเรื่องนี้?”ทำให้มองว่า.. ในทาง”การบ้านการเมือง?”นั้น(?),ไม่มีใครจริงใจต่อใครแบบถาวรตลอดไป(?)( =”ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร?”..นั่นเอง?)..
คือ..ไม่มีแค่”คน2กลุ่ม,2พวก?”เท่านั้น(ที่เป็น”พวกตรงข้ามกัน?”).. แต่อาจมีมากกว่า”3กลุ่มขึ้นไป?”ด้วยนะ(?)..[คืออาจมีการ”คบหากันเฉพาะกิจ,เฉพาะงาน?”,ดังคำที่ว่า..”ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร?”(เฉพาะหน้า?),หรืออย่างน้อยเป็นแค่”มิตรชั่วคราว?”ก็ยังดี?..นั่นเอง?]..
คืออาจมี”บางกลุ่มที่เด่น?”,แต่”อีกบางกลุ่ม?”ก็คล้าย”วางตัวกลางๆ?”(รอดูลาดเลา?).. ซึ่งอาจมี”นักการเมืองบางกลุ่ม?”,ถ้าเห็น”กลุ่มเด่นเริ่มเพลี่ยงพล้ำ?”,และมองว่า”กลุ่มตนเอง?”สามารถจะตีตื้นขึ้นมาเป็น”กลุ่มหลักได้?”,ก็อาจจะหาทาง”แทงข้างหลัง?”บ้าง(?),หรือ”เล่นแง่?,ต่อรอง?”ด้วย”เงื่อนไขต่างๆ?”บ้าง(?)..
คือสรุปว่า.. “แทบทุกกลุ่ม?”ล้วนเข้ามาสู่การเมืองด้วยทัศนะของการ”หาผลประโยชน์?”เข้าหา”กลุ่มก้อน?,กลุ่มก๊วน?”ของ”ตัวเอง?”หรือ”เครือญาติของตัวเอง?”กันแทบทั้งนั้น(?).. ซึ่งคุณจะมองว่า.. จะมีใครที่”ดีบริสุทธิ์ทุกประการ?”นั้น(?).. เรามองว่า..”แทบหาไม่ได้เลย?”..
เรายอมรับ”คนที่ซื่อสัตย์,ไร้ประโยชน์แบบทับซ้อนส่วนตัวจริงๆ”ก็มีแค่”2ท่าน”เท่านั้น.. คือ..”ลุงมหาจ.”,และ”ป๋าป.”..นั่นเอง.. นอกจากนั้น..ในทัศนะของเรา,เรามองว่า.. ก็ล้วนมี”ม่านบางๆ?”มาปิดกั้น”ใบหน้าของตัวเอง?”(ไม่ว่าจะเป็น”ผลประโยชน์ทางตรง?”หรือ”ผลประโยชน์ทางอ้อม?”ก็ตาม?)..แทบทั้งนั้น(?)..
...ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...


โดย: สมจิต IP: 124.122.14.178 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2567 เวลา:12:27:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

ผักกาดดองเน่า
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add ผักกาดดองเน่า's blog to your web]
space
space
space
space
space