พอประเทศจีน เปิดประเทศปล่อยให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าเมืองจีนได้ หรือ ชาวจีนเองก็ออกมาท่องโลก ไปเที่ยวเมืองต่าง ๆ ที่ตัวเองอยากจะไป ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ก็ดูเหมือนว่า หน่วยงานภาครัฐของไทย มีความหวังว่า นี่แหละ คนที่จะมากอบกู้ ภาวะเศรษฐกิจไทย ให้ฟื้นตัวกลับมาคึกคักเหมือนก่อนหน้าที่จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้ว่าจะได้ตัวเลขไม่เท่าเดิมก็เหอะ อย่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือททท. ก็มองว่า ช่วงไตรมาสแรกนี้จะมีชาวจีนมาเมืองไทย 300,000 คน ส่วนยอดรวมทั้งปีก็น่าจะไปถึง 500,000 คนได้ ซึ่งก็จะทำให้เรามีรายได้เข้ามามากกว่า 200,000 ล้านบาท เฉพาะเที่ยวบินแรกหลังจีนเปิดประเทศ ที่บินกันมาเมืองไทยมียอดรวม 3,465 คนเลยทีเดียว* นอกจากนี้ ยังมีการมองกันอีกว่า การที่จีนเปิดประเทศเร็วกว่าที่หลาย ๆ คนคิดไว้ ยังเป็นผลบวก กระตุ้นให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมในปี 2566 นี้เพิ่มเป็น 25-28 ล้านคน จากเดิมที่คาดว่าจะมีจำนวน 22.7 ล้านคน ซึ่งการที่การท่องเที่ยวขยายตัวขึ้นนี่แหละ จะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้เติบโตได้ที่ 3.6%** ว่ากันแบบนี้เลย การมองอะไรในแง่บวก เราก็ว่ามันดีอยู่นะ แต่คงต้องเป็นการมองบวกแบบยืนอยู่บนข้อเท็จจริง และมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ด้านด้วย เพราะเอาเข้าจริง ตอนนี้เศรษฐกิจโลกก็ยังชะลอตัว โดยเฉพาะประเทศหลัก ๆ หลายแห่ง ซึ่งไทยเราก็ต้องพึ่งพาตลาดโลก อย่างพวกส่งออกทั้งหลายที่เป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจสำคัญต้น ๆ ถ้าเศรษฐกิจโลกไม่ดีเศรษฐกิจไทยก็น่าจะไปในแนวเดียวกัน หลายคนก็อาจจะเถียงว่า ก็นี่ไง การท่องเที่ยวมันกำลังฟื้นตัวแล้ว เราก็พึ่งพาการท่องเที่ยวทำให้เศรษฐกิจโตขึ้นไง ซึ่งมันก็จริงแหละ แต่จะหวังพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวอย่างเดียว มันก็เป็นการโยนภาระให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมากไปนะ เพราะเครื่องยนต์กระตุ้นเศรษฐกิจไทย ต้องมีหลายตัว ทั้งการลงทุนภาครัฐและเอกชน การบริโภคของประชาชน และการส่งออกด้วย การท่องเที่ยวอย่างเดียวไม่น่าจะเอาอยู่ แต่เราก็เชื่อว่าการท่องเที่ยวจะค่อย ๆ ฟื้นแหละ แค่ไม่อยากให้หวังกับการท่องเที่ยวมากไปเท่านั้นเอง ที่สำคัญ เรายังห่วงธุรกิจต่าง ๆ ในภาคการท่องเที่ยว ที่เป็นผู้ประกอบการรายเล็ก ๆ หรือรายกลาง ๆ ระดับเอสเอ็มอีอะไรพวกนี้ เพราะเขายังไม่กลับมาแข็งแรง มีกำลังเงิน กำลังทรัพย์ และการทำงานได้เหมือนก่อนหน้าที่จะเกิดโควิด-19 หลังต้องบอบช้ำกับพิษโควิดมาเกือบ 3 ปี บางคนดีหน่อยก็แค่บอบช้ำ แต่ก็ยังมีชีวิตอยู่ แต่บางรายที่แย่สุด ก็ล้มหายตายจากวงการไปเลยก็มีไม่น้อยนะ ไหนจะยังมีเรื่องเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่มาฉุดไม่ให้ธุรกิจท่องเที่ยวเติบโตได้ด้วย นะ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องต้นทุนเพิ่ม ทั้งค่าพลังงาน ก๊าซ น้ำมัน ไฟฟ้า และวัตถุดิบ ค่าครองชีพพุ่ง ซึ่งกระทบกับคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มคนรายได้น้อย ๆ เรื่องเงินเฟ้อ ดอกเบี้ย เศรษฐกิจฝืดอีก เอสเอ็มอีบางรายที่ยังอยู่รอด แทบจะไม่มีรายไหนไม่เป็นหนี้ ซึ่งดอกเบี้ยก็น่าจะเพิ่มขึ้นตามวันเวลาด้วย แถมปัญหาสำคัญเรื่องแรงงานขาดแคลน โดนกันทั่วหน้า*** ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจไหน แล้วอย่างนี้ นักท่องเที่ยวจีนที่คาดว่าจะมากันเยอะ ๆ แต่หากเอสเอ็มอีด้านการท่องเที่ยวไม่มีความสามารถ ก็คงไม่ได้ประโยชน์อะไรมากนัก หรือแม้แต่เอาเข้าจริง ๆ เราก็ยังหวั่นใจ กับนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาว่าจะเป็นกลุ่มผู้เชื้อโควิดไหม เพราะก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่าตรวจพบนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางไปในยุโรปติดโควิดกันไม่น้อย แม้ว่าระบบสาธารณสุขของบ้านเราจะดีเลิศ การป้องกันได้ดีเยี่ยม และการเจ็บป่วยไม่ได้รุนแรงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่เราก็คาดเดาไม่ได้หรอกว่า อนาคตจะมีโควิดสายพันธุ์ใหม่อะไรอีกมั๊ย ที่จะรุนแรงจนทำให้เราต้องมาแก้ไข หรือทำให้การเติบโตของการท่องเที่ยวสุดดุดลงไปอีก และยิ่งหากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง จนนักท่องเที่ยวจีนไม่มาตามที่หวังกันไว้ ธุรกิจท่องเที่ยวไทยก็คงไปไม่ถึงฝันแน่นอน หวังได้ แต่เราว่าอย่าคาดหวังจนมากเกินไป อ้างอิง * https://www.thairath.co.th/news/local/central/2598560 **https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88/188103 *** https://www.matichon.co.th/economy/news_3754247
Create Date : 21 มกราคม 2566 |
|
0 comments |
Last Update : 21 มกราคม 2566 20:15:20 น. |
Counter : 529 Pageviews. |
|
|
|