Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2549
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
27 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 
วสันต์เร่พเนจร (๑)



ธราธร
๓๑ พฤษภาคม ๒๕๔๖


**************************************************************************



“ริน! ริน! ยัยริน! รินนภา!”

เสียงหัวโขกกับโต๊ะและเก้าอี้สลับกันดังเป็นจังหวะของเพื่อนร่วมหอที่นั่งสัปหงกโยกไปเยกมาทำให้หญิงสาวต้องเงยหน้าขึ้นจากตำรากองโตแล้วร้องออกมาอย่างหมดความอดทน แทบอยากจะลุกขึ้นหาอะไรปาใส่อีกฝ่าย แต่ก็ยังกลัวว่าจะถึงกับหัวร้างข้างแตกเสียก่อน

“เอาเข้าไป หลับอีกแล้ว แล้วจะสอบผ่านมั้ยเนี่ย หา! ...” เสียงตวาดยังตามมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่หญิงสาวอีกคนสะลึมสะลือขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้

“นี่เรียกเป็นครั้งที่สิบแล้วนะในรอบสองชั่วโมงที่ผ่านมา แล้วจะอ่านทันสอบพรุ่งนี้รึเปล่า ตัวสุดท้ายแล้วอดทนหน่อยสิยายริน”

“นี่คุณนาวีผู้คงแก่เรียนเจ้าค่ะ นอกจากจะทำลายสมาธิในขณะที่กำลังเรียบเรียงความคิดในหัวสมองแล้ว ยังปากไม่ดีแช่งกันอีกเหรอเนี่ย” คนที่เพิ่งงัวเงียตื่นถึงกับบ่นกระปอดกระแปด ส่งค้อนวงโตให้กับหญิงสาวคนสวย ที่เจ้าหล่อนให้สมญานามว่าเป็น “เพื่อนรักบางครั้ง เพื่อนชังบางเวลา”

“เรียกซะหรูเชียวนะ แหม ...เข้าสมาธิ ... เข้าณาน ... เรียบเรียงความคิด ... ฮะ ฮะ ไม่น่าละ เวลาสอบถึงได้รุ่งริ่งเหลือเกิน เพราะตอนท่องตำราดันใช้วิธีเอาหัวหมกหนังสือ” คนคงแก่เรียนยังคงส่ายหน้าอย่างระอา พลางส่งสายตาตำหนิราวกับอีกฝ่ายทำผิดจนไม่น่าให้อภัย

“แหม ...รุ่งริ่งอะไรกัน รุ่งโรจน์ละไม่ว่า เผลอหลับนิดเดียวเอง ...เดี๋ยวคืนนี้อ่านถึงเช้าค่อยไปสอบก็ยังไหว” รินนภายังคงยืนยันความสามารถในการเอาตัวรอดของหล่อนอย่างหนักแน่น พยักหน้าหงึกหงักทำสีหน้าจริงจังจนอีกฝ่ายอดประชดออกมาอีกคราไม่ได้

“ให้มันไหวจริงเถอะ คนอะไรไม่รู้ ... เวลาเรียนดันหลับ ทีเวลาสมควรนอนดันถ่างตาตื่น”

คนฟังได้แต่นั่งฟังเงียบ ๆ ปล่อยให้เสียงบ่นของนาวีลอยเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไปเรื่อย ๆ รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนได้ยินชื่อนาวินซึ่งเป็นคู่ปรับของหล่อนแว่วมากระทบโสตประสาทที่กำลังเคลิ้มอีกครั้ง

“เนี่ยพรุ่งนี้พี่วินจะมาถึงแล้วนะ อย่าลืมว่ารินรับปากเอาไว้แล้วว่าจะไปเที่ยวด้วยกัน” นาวีเอ่ยถึงพี่ชายซึ่งขณะนี้ทำงานอยู่ที่ออสเตรีย แต่ขอลาพักร้อนเพื่อมาเยี่ยมน้องสาวในช่วงหยุดเทอม

“เฮ้ย! วีว่าอะไรนะ ไหนคราวก่อนบอกว่าอาทิตย์หน้าท่านนักดนตรีถึงจะมาไม่ใช่เหรอ ไหงโผล่มาไวนักละ สอบเสร็จยังไม่ทันได้นอนให้เต็มอิ่มสมกับที่อดตาหลับขับตานอนเล้ย”

“คนเขาคิดถึงนะสิ ถึงได้รีบมา ...ลมฤดูใบไม้ผลิปีนี้คงหอบความรักจากออสเตรียมาอังกฤษละมั้ง” นาวีปรายตาดูใบหน้านวลของเพื่อนที่คว้ามะขามแก้วข้างตัวใส่ปากพร้อมทั้งส่งเสียงซี้ดซ้าดบ่งถึงความเปรี้ยวของมัน สีหน้าของรินนภายังคงไร้วี่แววว่าจะเข้าใจความนัยที่สื่อออกมา

“งั้นรินสละสิทธิ์แล้วกัน วีกับเจ้าวิทเป็นคนพาไปเที่ยวแล้วกันเนอะ” รินนภาหมายถึงวิทยาพื่อนหนุ่มคนไทยที่เฮไหนเฮนั่น เรียกว่าเป็นเพื่อนเที่ยวเพื่อนกินโดยแท้ เพราะในยามปกติจะไม่โผล่มาให้สองสาวเห็นหน้าเนื่องด้วยมัวแต่ไปวุ่นวายกับสาวสวยคนอื่น

“ได้ไงละ อุตสาห์วางแผนเที่ยวกันซะดิบดี รินไม่ไปพวกเราก็กร่อยแย่เลย”

“วีก็ไม่ใช่น้ำจืด ไอ้วิทมันก็ไม่ใช่น้ำเค็มนี่ มันถึงจะออกมากร่อย ไม่มีเราทุกท่านจะได้สงบสติอารมณ์บ้าง พี่วินก็จะได้ชื่นชมธรรมชาติได้เต็มที่ ไม่ต้องทนฟังเสียงนกเสียงกาไร้สาระ” หญิงสาวยังคงจำได้ถึงคำขัดคอของชายหนุ่มทำนองให้หล่อนรู้จักเงียบเสียบ้างในทุกครั้งที่มีโอกาสไปเที่ยวด้วยกัน แต่รินนภาก็ไม่เคยทำตามสักครั้ง กลับยิ่งแกล้งพูดจนอีกฝ่ายยอมจำนนชิงหลับไปเอง

“เหอะน่า ยังไงก็ต้องไป วีไม่ปล่อยให้รินนอนอืด ๆ อยู่คนเดียวตั้งสิบวันหรอก เอาไว้สอบเสร็จก่อนแล้วกันค่อยคุยกันใหม่ แต่ตอนนี้นะ ...อ่านหนังสือ!” รอยหยิกที่นาวีจิกลงบนต้นแขนเรียวของคนที่ตั้งตาจะเถียงทำให้รินนภาได้แต่คลำแขนตัวเองป้อย ๆ แล้วรีบทำตามคำสั่งก่อนที่จะโดนรอยเล็บแสนคมนั่นอีกครั้ง


**************************************************************************



“เป็นไงสาวน้อย สอบได้หรือเปล่า” เสียงชายหนุ่มที่ดังมาจากเบื้องหลัง ขณะที่หญิงสาวเดินออกจากห้องสอบวิชาสุดท้ายของเทอมส่งผลให้รินนภาหันขวับไปมองอย่างเอาเรื่อง ถึงแม้จะอยู่ไกลและนาน ๆ ถึงจะได้พบกันสักครั้ง แต่ก็จำได้ดีว่าเป็นเสียงใคร

“โธ่เอ๋ย ... ไอ้พี่วิน ไม่เจอกันนาน ดู ...แก่เนอะ ... ไม่น่าละมาเรียกรินว่าสาวน้อย เพราะพี่แก่ขึ้นเยอะนี่เอง”

“ปากเสียเหมือนเดิมเลยนะเรา” นาวินออกเดินตามคนที่รีบจ้ำเดินดุ่มกลับหอพัก ไม่มีท่าทีว่าจะรีรอคนข้างหลัง

“ใครใช้ให้พูดไม่เข้าหูก่อนละ คนยิ่งอารมณ์เสียอยู่ด้วย ข้อสอบก็ยากชะมัด จะผ่านมั้ยเนี่ยเทอมนี้ เฮ้อ! ...แถมออกมายังเจอคนกวนประสาทอีก กรรมของรินนภาจริ๊ง!”

“ไหนคุยเอาไว้ว่า หลับตาเขียนยังทำได้ไง” ชายหนุ่มยังคงล้อคนหน้ามุ่ยไม่รับแขก เมื่อกวดฝีเท้าก้าวยาว ๆ ตามมาทัน

“ยายวีบอกละสิ เอาเพื่อนมาเผาให้พี่ตัวเองฟังอีกแล้ว” น้ำเสียงคาดโทษเพื่อนรัก แต่สายตาเขียว ๆ นั้นส่อแววตำหนิอีกฝ่ายเต็มที่

“วีเขานอนเอาแรงอยู่ พี่เลยออกมาเดินเล่นแล้วแวะมารอดูเราตอนเลิก กลัวว่าถ้าถึงกับต้องหามกลับหอจะได้ไม่ลำบากคนอื่น”

“ขอบคุณนะค้า เป็นห่วงรินกันทั้งพี่ทั้งน้องเลย เนี่ย ...ถ้าเรียนได้ “เกือบนิยม” จะยกให้แล้วกันเนอะ ไอ้เกียรตินิยมคงไม่ต้องพูดถึงนะพี่ แค่ขอผ่านข้าพเจ้าก็พอใจแล้วหนะ”

“อย่างเรานี่ ...พี่ว่าเกือบนิยมคงไม่ได้แน่ เอาแค่เกือบตกก็พอ”
เมื่อเห็นคนตัวเล็กกว่าหน้าง้ำลงไปอีก พลางฟาดแขนฟาดขาชกลมราวกับนักมวย นาวินยิ่งนึกสนุก แกล้งใครก็ไม่สนุกเท่ากับแกล้งรินนภา เพราะหล่อนจะ “เต้น” ตามคำแหย่ของเขาทุกครั้งไป

“เอาหน่า ...ไหน ๆ ก็สอบเสร็จแล้ว เราก็เป็นไกด์พาพี่เที่ยวดีกว่า เห็นยายวีบอกว่า เราจะเบี้ยวเหรอ ทำไมคราวนี้ห่วงนอนมากกว่าห่วงเที่ยวละ” ชายหนุ่มพินิจดูร่างบางของคนเดินเคียงก็พบว่าอีกฝ่ายดูอิดโรย ขอบตาคล้ำอย่างคนอดนอนมาหลายคืน

“ใช่แล้ว พี่ดันรีบมาทำไมละ รินเพิ่งสอบเสร็จไม่ทันพักเลย ไม่ไหวแล้วคราวนี้ ถึงจะอยากเที่ยวก็เถอะ”

“พักก็พักสิ ใครว่าพี่จะลากเราไปตั้งแต่พรุ่งนี้ละ ดีเหมือนกันพี่ก็จะได้นอนเล่นสบาย ๆ ก่อนออกเที่ยวสักวัน เรานอนซะให้เต็มอิ่มตั้งแต่คืนนี้จนถึงคืนพรุ่งนี้ไปเลย วันมะรืนค่อยออกเที่ยวยังทันถมเถ”

“ลางานมากี่วันเนี่ย” เสียงลังเลอย่างไม่แน่ใจและคิ้วที่ขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิดหนักของหญิงสาวทำให้นาวินเผลอยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู

“คราวนี้ลาได้นานหน่อยประมาณสองอาทิตย์ ไม่ต้องกังวล พวกเราคงเที่ยวได้แบบไม่ต้องรีบ”

“แบบนี้ก็สบาย ...ไปไหนไปกัน เรื่องนอนเรื่องใหญ่ เรื่องกินเรื่องจำเป็น เรื่องเที่ยวเรื่องเขื่อง เฮ้ย ...นี่ ... นี่ ...อย่ามองอย่างงั้นดิ เรื่องเรียนก็สำคัญนะ” หญิงสาวรีบเสริมความตอนท้าย เมื่อเห็นนาวินทำท่าจะเทศนาอบรมอีกยาวเหยียด

“ไอ้ริน ไอ้ริน ...รอด้วยยยย ...โว้ยยยย ...” เสียงตะโกนโวกเวกที่ดังแทรกขัดจังหวะคำสนทนาทำให้ทั้งคู่หันไปมองต้นเสียงแทบจะพร้อมกัน วิทยาเพื่อนสนิทอีกคนของหญิงสาววิ่งกระหืดกระหอบตรงมาหาอย่างร่าเริง มือไม้โบกไปมาวุ่นวายเป็นทีรั้งคนข้างหน้าให้หยุดรอ เมื่อวิ่งมาถึงก็อาศัยร่างบางของรินนภาเป็นที่ปะทะเพื่อหยุดฝีเท้าตัวเอง พร้อมกับฉีกปากยิ้มกว้างถึงหูเมื่อเอ่ยทักชายหนุ่มอีกคนที่ยืนเคียงข้างเพื่อน

“หวัดดีคร้าบพี่วิน มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ฮะเนี่ย มาไวแบบนี้แสดงว่ารักและคิดถึงผมมากใช้มั้ยคร้าบ ...” สีหน้าสีตาที่ทั้งกะล่อนทั้งทะเล้นของคนพูดทำให้หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มทุบอักเข้าให้ที่กลางหลังเพื่อน

“โอ๊ย! ...เจ็บนะวะ” คนโดนทุบร้องโวยวายกับเจ้าของฝ่ามือก่อนจะหันกลับไปฟ้องคนที่มีอาวุโสที่สุดในกลุ่ม

“ศัตรูผมครับพี่ คนนี้นะศัตรูโผม ...”

“แล้วฉันไม่เจ็บหรือไงฟะ ชนมาได้ ไอ้วิทยายุทธ” พูดจบก็เหยียดแข้งเหยียดขา กวาดไม้กวาดมือตั้งท่ารับราวกับกำลังแสดงเป็นจอมยุทธหญิงในหนังจีนกำลังภายใน ก่อนที่จะกระโจนใส่อีกฝ่ายทันที

“วิทยาเฉย ๆ ไม่ต้องมาต่อสร้อยให้ไอ้รินนภาลัย” ฝ่ายนี้ก็ไม่น้อยหน้าเปลี่ยนชื่อหญิงสาวเสร็จสรรพพร้อมซัดอาวุธลับจำพวกลูกอมที่เจ้าตัวพกเอาไว้แก้ง่วงในห้องเรียนเสมอใส่ศัตรูอย่างไม่ยั้ง แต่ปากกลับร้องตะโกนไม่หยุดเมื่อเพลี่ยงพล้ำให้สาวน้อยที่ประเคนทั้งหมัดศอกเข่าหน้าแข้งให้อย่างไม่ปรานี

“พอกันทั้งคู่เลย หยุดก่อนให้พี่พูดบ้าง พี่มาถึงตั้งแต่ตอนสายแล้ว กำลังอยากเจอตัววิทอยู่พอดี จะได้คุยวางแผนเรื่องเที่ยวซะเลยทีเดียวพร้อม ๆ กัน” นาวินรีบขัดจังหวะขึ้นก่อนที่ทั้งสองคนจะเอาชนะคะคานและสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่ง

“ยินดีซำเหมอครับพี่ จริง ๆ แล้วผมก็ตั้งใจจะแวะไปหายัยวีเขาอยู่แล้ว สอบเสร็จก็ต้องฉลองกันหน่อย ผมนะผ่านแน่ แต่คนแถวนี้นะไม่มั่นจายยยย ...” วิทยาส่ายหน้ากวน ๆ ประกอบคำพูด พลางเหล่มองรินนภาอยู่ในที

“ไอ้วิทยายุทธ ใช้ปากพูดเหรอวะ ระวังเถอะว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง แล้วน้ำตาจะเช็ดหัวเข่า”

“โถ ...แม่คุ้น! ...เดาะจะใช้สุภาษิต ก็หัดใช้ให้มันถูก ๆ หน่อยสิจ้ะทูนหัว” เสียงกระแอมกระไอในลำคอที่วิทยาล้อเลียนหญิงสาวเรียกรอยยิ้มขันจากชายหนุ่มอีกคนอย่างปิดไม่มิด

“หนอย ...ทำยังกับตัวเองรู้ดีงั้นแหละ พอ ๆ กันแหละว้า เรื่องวิชาการละไว้ไปถามยายวีดีกว่า” รินนภาผละวิ่งจากไปทิ้งชายหนุ่มทั้งคู่ไว้เบื้องหลังอย่างไม่สนใจจะต่อล้อต่อเถียงด้วยอีก

“ดูดิเพ่ มันร้ายขนาดนี้ สงสัยชาตินี้ได้ขึ้นไปอยู่บนคานเสริมเหล็กแหง ๆ ใครมันจะกล้า ... อุ้บ! ...” ก้อนหินที่ลอยแหวกอากาศเฉียดศีรษะไปเพียงเส้นยาแดงผ่าแปดทำเอาคนช่างนินทาเบี่ยงหลบแทบไม่ทัน เงียบไปอึดใจก่อนจะพึมพำออกมาอย่างแสนแค้น

“จำไว้เลยไอ้ริน ชาตินี้ใครมาขอเอ็ง คนนั้นก็ตาถั่วละวะ ฮะ ฮะ แล้วข้าจะคอยดู!”


**************************************************************************

หมายเหตุ วสันต์ = ฤดูใบไม้ผลิ (ตั้งแต่ราวกลางเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม)





Create Date : 27 พฤษภาคม 2549
Last Update : 27 พฤษภาคม 2549 21:13:22 น. 0 comments
Counter : 179 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธราธร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หากมิเริ่มเพียงก้าว
เจ้าตรองดู
ฤาหาญสู้
อุปสรรคอีกนับพัน
Friends' blogs
[Add ธราธร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.