Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2549
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
27 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 
วสันต์เร่พเนจร (๕)




“เมื่อคืนนอนหลับสบายมั้ย”

นาวินเอ่ยทักรินนภาที่กำลังเล็งหามุมถ่ายรูปปราสาทอยู่คนเดียวบนสนามหญ้าซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ออกดอกสีแดงบาดตาเต็มต้น บรรยากาศยามเช้าต้นฤดูใบไม้ผลิสดชื่น อากาศเริ่มอุ่น ต้นไม้ใบหญ้าเริ่มผลิใบสีเขียวอ่อนลออ ดอกหญ้าสารพัดชนิดพากันออกดอกเต็มท้องทุ่ง ส่งกลิ่นหอมอ่อนจางไปทั่วบริเวณ นกหลากชนิดต่างจับคู่และส่งเสียงร้องอย่างมีชีวิตชีวาร่าเริง

“สบายมาก หัวถึงหมอนก็หลับเป็นตาย ผีเผออะไรลืมกลัวไปเลย” หญิงสาวส่งยิ้มให้ชายหนุ่มที่เดินเข้ามาใกล้แล้วคว้ากล้องไปช่วยถ่ายรูปให้แทน

“ตื่นเช้าได้เหมือนกันนี่เรา แล้ววีละ ตื่นแล้วยัง” ชายหนุ่มเอ่ยถามถึงน้องสาวขณะปรับความไวแสงของกล้องให้รับกับแสงสลัวยามเช้า

“ตื่นแล้ว กำลังอาบน้ำอยู่” แต่เมื่อเห็นสีหน้าคนฟังหันมามองสำรวจตนเอง รินนภาถึงกับเอะอะออกมาอย่างหัวเสีย

“ไอ้พี่วินมองอะไร หนอยแน่ ...เดี๋ยวนี้หัดใช้สายตาโลมเลียมกับน้องกับนุ่งเหรอ รินไม่ใช่บรรดาสาว ๆ ทั้งหลายของพี่นะ” หญิงสาวคว้ากล้องที่ชายหนุ่มกดชัดเตอร์บันทึกภาพให้เรียบร้อยแล้วกลับคืนมา

“เรานี่เมื่อไหร่จะเลิกกล่าวหาพี่สักที ที่มองนะก็เพราะสงสัยว่าเราไม่อาบน้ำหรือไงถึงเสร็จก่อนยัยวี”

“อื๋อ ...ไม่อาบ หนาวจะตาย ถึงจะเข้าฤดูใบไม้ผลิแล้วก็เถอะ ยังหนาวอยู่ดี เคยบอกแล้วไงว่ารินอาบน้ำอาทิตย์ละครั้ง” สีหน้าของหญิงสาวค่อยดีขึ้นเมื่อได้ยินคำอธิบาย เดี๋ยวนี้หล่อนรู้ตัวว่าชักจะขี้หงุดหงิดใส่อีกฝ่ายบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเมื่อเห็นประกายบางอย่างที่หญิงสาวแสนกลัวในดวงตาเอื้ออาทรของคนตรงหน้า

“ชอบพูดอะไรเกินจริงอยู่เรื่อย โตเป็นสาวแล้ว พูดแบบนี้ไม่กลัวหนุ่ม ๆ กระเจิงหมดหรือไง” นาวินยังคงอารมณ์ดี เฝ้ามองใบหน้าอ่อนใสที่ไม่ยอมยิ้มเล่นหัวเหมือนเดิม

“กลัวทำมาย แบบนี้ละดีแล้วจะได้ไม่ต้องมีใครมาเข้าใกล้ให้ปวดหัว ยิ่งประเภทเจ้าชู้แบบพี่วินละก็ ขออย่าให้เจอะให้เจอเลย สาปส่งไปไกล ๆ” รินนภาแกล้งงึมงึมทำปากขมุบขมิบราวกับกำลังท่องมนต์คาถาก่อนที่จะเป่าลมออกจากปากเหมือนกับกำลังไล่เขาไปจริง ๆ อย่างนั้น

“ไหนเมื่อก่อนเราว่าสนุกที่คอยสับรางให้พี่ไง เดี๋ยวนี้ไม่เห็นดีเห็นงามด้วยแล้วเหรอ” นึกถึงแผนการต่าง ๆ ที่รินนภากับน้องสาวของเขาคอยช่วยเหลือวางแผนให้แล้ว นาวินก็อดยิ้มไม่ได้

“เมื่อก่อนรินไม่ทันคิด เห็นว่าสนุกดี เลยเล่นกับพี่ไปด้วย แต่เดี๋ยวนี้รู้จักคิดได้เองแล้ว สงสารผู้หญิง ยังดีนะที่สาวแต่ละคนของพี่ก็ประเภทรักสนุกเหมือนกัน ไม่งั้นรินจะยิ่งรู้สึกผิดไปกว่านี้โทษฐานสมรู้ร่วมคิดช่วยในสิ่งไม่สมควร” คนช่างเจรจาทำท่าเอ็ดอีกฝ่ายราวกับเขาเป็นผู้ใหญ่ที่พาเด็กเสีย

“พี่เลิกเจ้าชู้ไปตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เห็นเราน่ารักนะ” คำพูดตรง ๆ ของชายหนุ่มทำเอารินนภาแทบจะสะดุดขาตัวเองล้มลงขณะเดินเคียงกันจากที่พักลงสู่ทะเลสาบ Loch Lomond ที่เต็มไปด้วยละอองหมอกปกคลุมไปทั่วบริเวณ หันมามองอีกฝ่ายอย่างแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

“พี่วินไข้ขึ้นเปล่า ... นึกยังไงมาชมริน แต่อย่างว่าละ คนน่ารักก็มีแต่คนชมยังงี้แหละ รินนะรู้ตัวอยู่แล้วว่าตัวเองแสนจะน่าราก เอ๊ย ...น่าร้ากกกก ... ” หญิงสาวยกมือขึ้นอังหน้าผากของคนตัวสูงด้วยความสงสัย ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายมาไม้ไหน หรือว่ากำลังจะติดสินบนขอให้หล่อนช่วยเหลือเรื่องสาว ๆ อีกหรือเปล่า

“นี่ ...พี่กำลังจีบเราอยู่ ไม่รู้ตัวบ้างหรือไง” ชายหนุ่มเผลอยิ้มออกมาเต็มหัวใจ มือใหญ่อบอุ่นคว้ามือเล็กที่เอื้อมมาวัดไข้เขาเอาไว้แทน พลางมองหน้าอีกฝ่ายอย่างค้นหาคำตอบ

“อูยยยยย ....เอาจริงเหรอ” รินนภาถึงกับอ้าปากค้าง เมื่อเห็นทีท่าเอาจริงเอาจังของอีกฝ่าย “พี่วินคิดผิด คิดใหม่นะ ให้เวลาคิดสองนาที รีบเปลี่ยนใจเหอะ ไม่อายคนอ่านหรือไงคิดจะมารักรินเนี่ย” ยักมีหน้ามายักคิ้วหลิ่วตาอีกแนะ นางเอกหรือเปล่าเนี่ย

“พี่ไม่ต้องคิดหรอก ปักใจรักไปแล้ว ถอนยังไงก็ไม่ขึ้น” ไหน ๆ เริ่มแล้ว ก็ต้องลุยต่อละนะ

“แคก ...แคก ...”
เสียงสำลักน้ำลายของหญิงสาวทำเอาชายหนุ่มเก้อไปถนัดตา ทีจีบคนอื่นทำไมสาวเจ้าเอาแต่เขินอาย พอถึงคนที่รักจริงแบบนี้ดันกลับไปคนละทาง จะเขินหน้าแดงสักนิดก็ไม่มี แถมยังหัวเราะเสียดังลั่นราวกับเขากำลังเล่าเรื่องตลกให้ฟัง

“โห ...สำนวนไหงมันเชยแหลกแบบนี้ละเพ่ เห็นเมื่อก่อนพูดแต่ละทีทำเอาสาวเจ้าใจแทบละลาย ละลาย ละลาย ละลายยยยย ...” รินนภาร้องเล่นออกมาเป็นเพลง พลางหัวเราะตัวดิ้นตัวงอทำเอาชายหนุ่มหมดอารมณ์จะเกี้ยวต่อ

“มัวแต่เล่นอยู่ได้นะเรา เอาเป็นว่าพี่บอกให้รินรู้เอาไว้ เรียนจบเมื่อไหร่ค่อยรักและคิดถึงพี่ก็ได้” นาวินจับไหล่บอบบางของคนที่ไม่ยอมอยู่นิ่งให้หันมาเผชิญหน้ากับเขาโดยตรง ทอดสายตาจับอยู่ที่ดวงตากลมโตของหญิงสาวราวกับจะฝากรอยรักจากใจเอาไว้ที่นั่น

“แล้วพี่จะคอยดูว่าเมื่อไหร่เราจะโตเป็นสาวรู้จักมีความรักกับเขาบ้าง”


**********************************************************************



เมื่อทุกคนเตรียมตัวเรียบร้อย คณะเดินทางเล็ก ๆ ก็ได้ฤกษ์ออกเที่ยวต่อ สองสาวเป็นคนวางแผนเที่ยวรายทางสำหรับวันนี้ นาวินเลยยอมให้รินนภาขับรถอีกวัน เพราะหญิงสาวเล่นยึดกุญแจรถมาไว้กับตัวตั้งแต่เมื่อคืน ส่วนน้องสาวเขาก็เป็นคนบอกทางช่วยดูแผนที่ สองหนุ่มเลยเปลี่ยนมานั่งข้างหลังแทน

“เดี๋ยววันนี้เราจะขับเลียบทะเลสาบ ล็อค โลมอน ไปเรื่อย ๆ ก่อน ถ้าเห็นว่าตรงไหนสวยก็จะแวะจอดลงไปชมวิวกัน จากนั้นเราจะออกไปทางตะวันตกแถว Argyll เพื่อไปชมปราสาทอีกแห่ง ก่อนจะตีรถขึ้นไปยังบริเวณภูเขาที่ชื่อ Glen Coe แวะไปที่ Ben Nevis ซึ่งเป็นยอดเขาที่สุดในสหราชอาณาจักร แล้วค่อยเลยไปดูทางรถไฟสวย ๆ Glenfinnan ที่เราเห็นในเรื่องแฮรรี่ พอตเตอร์ ส่วนคืนนี้เราจะพักที่ Fort William กันค่ะ” นาวีผู้ทำหน้าที่เป็นเนวิเกเตอร์ประจำวันอธิบายรายละเอียดให้พี่ชายและเพื่อนหนุ่มฟัง

“ทำไมโปรแกรมมันถึงยาวเหยียดอย่างนี้ละ” วิทยาถึงกับงงฟังไม่ทัน จำไม่หวาดไม่ไหวว่าตกลงจะไปไหนกันบ้าง

“ตอนนี้มันสว่างเร็ว มืดช้า ยิ่งช่วงนี้แดดดี เราเที่ยวกันได้ยาวเลย กะเข้าที่พักโน่นเลย หลังพระอาทิตย์ตกตอนสองทุ่มนั่นแหละ” รินนภาเป็นฝ่ายตอบแทน ขณะขับรถเลียบทะเลสาบขนาดใหญ่ชมวิวไปเรื่อย ๆ อย่างใจเย็นผิดวิสัย

“นี่ไอ้ริน ขับให้ไวกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอไงวะ ดูดิรถหลังตามกันมาเป็นพรวนแล้ว ไม่ใช่รถนำขบวนนะเว้ย” วิทยายื่นหน้ามาเอ็ดตะโรกับคนขับ เมื่อหันไปมองข้างหลังเห็นรถตามกันมายาวเหยียด

“บ่นอะรายยย ... วันนี้อุตสาห์ขับดี ๆ ช้า ๆ นายจะได้ไม่เวียนหัว ก็ดันบ่นอีก แล้วจะรีบไปไหนละ ขับเร็วก็ไม่ได้ดูวิวดิ เดี๋ยวเขาก็ค่อย ๆ แซงกันไปเองละหนะ”

“โธ่! ไอ้ริน แล้วดันเจือกจะขับ เลือกสักอย่างสิวะ จะดูวิว หรือจะขับรถ”

“ฉันโลภโว้ย จะเอาทั้งสองอย่าง อย่ามายุ่ง!” คนพูดหน้าเริ่มหงิก จมูกเริ่มย่น ปากเริ่มยื่น (เอ ...เหมือนอะไรนะ) “ไว้วันไหนนายขับฉันจะไม่บ่นเลย”

“ปล่อยเขาเถอะวิท ไว้วันหลังวิทค่อยผลัดขับ” เป็นอันว่านาวินอีกเช่นเคยที่เป็นคนกลางคอยไกล่เกลี่ยทั้งคู่

เส้นทางจาก Loch Lomond ไปยัง Argyll ค่อนข้างคดเคี้ยว เพราะเป็นถนนสายเล็กเลาะเลียบไปตามทะเลสาบและเนินเขาหลายแห่ง ทางที่โค้งแล้วโค้งอีก ทำให้วิทยาที่นั่งข้างหลังเวียนหัวเมารถไปตามระเบียบ ถึงแม้จะปากแข็งบอกว่าไม่เมา แค่มึนเท่านั้น แต่ก็เห็นนอนมาตลอดทาง จนคนขับแอบค่อนว่าไม่รู้ไอ้เพื่อนตัวดีมาเที่ยวหรือมานอนกันแน่ บางทีตื่นขึ้นมายังมีหน้ามาถามอีกว่าผ่านจุดที่มันอยากดูมาหรือยัง

“แถบ Argyll นี่ละค่ะ วีจำได้ว่าอ่านเจอในเรื่องรัตนาวดี ที่ท่านชายดนัยวัฒนาขึ้นไปพักผ่อนตกปลาแล้วไม่รู้ว่าท่านหญิงรัตนฯ มาถึงอังกฤษแล้ว จึงไม่ได้ไปรับ ท่านหญิงเลยงอนซะ คราวนี้วีเลยวางแผนมาดูเสียหน่อยว่ามันสวยหรือเปล่า ไม่ผิดหวังเลย ถนนเส้นนี้สวยจัง ยิ่งตอนที่เราขับเลียบไปตามทะเลสาบยิ่งน่าประทับใจ พี่วินชอบหรือเปล่าค่ะ” นาวีหันไปถามพี่ชายที่วันนี้ค่อนข้างเงียบผิดปกติ

“ชอบสิ ยิ่งมีคนขับ ขับให้นั่งชมวิวสบาย ๆ แบบนี้ยิ่งชอบ” นาวีเหลียวไปมองซีกหน้าด้านข้างของรินนภาก็เห็นฝ่ายนั้นยิ้มชอบอกชอบใจ คุยทับเพื่อนขนานใหญ่

“เห็นมั้ย รินบอกแล้วว่ามา highland เที่ยวนี้พี่วินต้องติดใจ คนชอบธรรมชาติมาเที่ยวแบบนี้รับรองไม่ผิดหวังแน่ เนอะพี่วินเนอะ” รินนภายังคงคุยกับชายหนุ่มอย่างสนิทสนมเหมือนเดิม ไม่มีทีท่าเปลี่ยนไปเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไรกับตน

“ก็ขึ้นกับว่ามากับใคร ถ้ามากับแฟนคงจะโรแมนติคและติดใจมากกว่านี้” นาวินหยั่งเชิงอีกครั้ง แก้มนวลของคนข้างหน้าที่เรื่อขึ้นเล็กน้อยทำให้ชายหนุ่มเผลอยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูแกมขัน อย่างน้อยยายตัวแสบก็ยังรู้จักกระดากอยู่บ้างหรอก

“ขวา! ขวา! ขวา!” นาวีรีบร้องขัดขึ้นเมื่อเห็นปราสาท Inveraray Castle เด่นตระหง่านอยู่เบื้องหน้า แต่คนขับไม่มีทีท่าว่าจะเห็นไปด้วย

“ใจลอยไปถึงไหนแล้วยัยริน ดูสิปราสาทออกใหญ่โต ดันขับเลยมาได้”

“โทษที มัวแต่มองทาง ไม่ทันเห็น อ้าวลงได้แล้วทุกท่าน ไอ้วิทตื่น!” หญิงสาวดับเครื่องยนต์เรียบร้อย ก่อนจะหันไปตวาดเรียกคนข้างหลังอย่างพาลรีพาลขวาง


***************************************************************


“ปราสาทในสก็อตส่วนมากจะมียอดกรวยแหลม ๆ ทั้งนั้นเลยแฮะ”
หลังจากพากันเดินชมตัวปราสาทโดยรอบ วิทยาก็ออกปากวิจารณ์

“อือ ...สวยดีนะ แต่วีว่าสวยแบบทื่อ ๆ เย็น ๆ เหมือนก้อนหินที่เขาเอามาสร้างนั่นแหละ ดูยังไงก็ไม่งดงามอลังการแบบพระราชวังบ้านเราที่มีลวดลายอ่อนช้อยงดงามกว่ากันเยอะ”

“พี่ว่าของเขาก็สวยแปลกตาไปอีกแบบ ที่นี่เป็นที่พำนักของดยุคแห่งอากายล์ นับว่าเป็นปราสาทที่สำคัญในแถบนี้ เขาเลยบูรณะและจัดตกแต่งภายในปราสาทไว้ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม” นาวินกล่าวเสริมต่อจากน้องสาว

“แต่นักท่องเที่ยวก็มีให้เห็นแค่ประปรายเท่านั้นเอง ส่วนมากเขาคงไม่ถ่อกันมาจนถึงนี่ ตั้งแต่ขับมายังไม่เห็นรถทัวร์สักคัน” รินนภาหันไปมองยังลานจอดรถด้านหน้าบริเวณทางเข้าปราสาทก็พบเพียงแต่รถยนต์ส่วนบุคคลคันเล็กเท่านั้น

“เมื่อกี้วีไปถามทางกับเจ้าหน้าที่ขายตั๋วเขามาแล้วละริน” นาวีหันมาบอกเพื่อนขณะทั้งคู่เริ่มเปิดแผนที่งมทางขึ้นไปทางเหนือต่อหลังจากทุกคนกลับมาพร้อมกันที่รถ

“จากนี่ขึ้นไป Glen Coe ก็มีทางให้เลือกสองทาง คือ ย้อนกลับไปตามทางเก่าที่เราผ่านมาเมื่อเช้า แล้วค่อยเข้าถนนสายหลัก หรือเราจะวิ่งอีกเส้นซึ่งดูแล้วน่าจะใกล้กว่า” รินนภาใช้นิ้วลากไปตามแผนที่เส้นทางทั้งสองเส้นให้อีกฝ่ายดู

“ทางเมื่อเช้าสวยดี อยากย้อนกลับไปดูอีก แต่อีกใจก็อยากเห็นอีกทางบ้าง เจ้าหน้าที่เขาก็แนะนำให้วิ่งไปตามเส้นทางลัดสายนี้ ตอนแรกวีดันเผลอถามไปว่ามันเป็นถนนสองเลนพอที่รถจะสวนกันสะดวกหรือเปล่า เขาหัวเราะใหญ่เลยบอกว่ามันแค่ half lane เท่านั้นแหละ แถวนี้นะมัน highland แล้วนะจ้ะ” นาวีเล่าให้ทุกคนฟังยิ้ม ๆ เมื่อนึกถึงความเปิ่นของตัวเอง

“พี่ว่าเราอย่าย้อนกลับทางเดิม ลองขึ้นไปตามเส้นเล็กนี่ดีกว่า ย่นระยะทางได้มากเลย รินขับไหวมั้ย พี่ขับแทนให้ดีกว่า” นาวินอาสา เมื่อชะโงกหน้ามาดูแผนที่แล้วเห็นว่าเส้นทางใหม่นั้นทั้งแคบและคดเคี้ยว

“ไม่เอานะ รินอยากขับ พี่วินอย่าพึ่งแย่งสิ อยากหัดขับรถทางแบบนี้มานานแล้ว”

“หา! แม่คุ้น แม่จะมาอยากหัดขับรถอะไรตอนนี้ ไว้ค่อยไปหัดที่อื่นที่มันไม่ชวนเวียนหัวแบบนี้ดิ” วิทยาอดรนทนไม่ไหว รีบขัดขึ้นมาก่อน กลัวว่ามือใหม่หัดขับจะทำให้เขาอาเจียนจนได้

“ลืมแล้วเหรอว่าวันนี้ฉันเป็นใหญ่ ส่วนนายนะค่อยเบ่งวันอื่น ตกลงกันแล้วนะโว้ย เพราะฉะนั้นตอนนี้หุบปาก แล้วหลับตานอนไปได้เลย ถึงแล้วฉันค่อยเรียก” เป็นอันว่ากว่าจะได้ออกเดินทางกันต่อก็เสียเวลาทะเลาะกันอีกนาน

จากปราสาท Inveraray ขึ้นไปยังบริเวณ Glen Coe เต็มไปด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อน ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ล้วนแต่ภูเขาสูงตระหง่าน ระหว่างทางผ่านปราสาท Killchurn Castle ตั้งอยู่คนละฟากของทะเลสาบ แต่ด้วยความที่ถนนเล็กแคบหาที่จอดยาก รินนภาจึงแค่ชะลอความเร็วของรถเพื่อชมวิวเท่านั้น

“คำว่า เกลนโค นี่มาจากภาษาเกลิค แปลว่าเทือกเขาแห่งความโศกเศร้า หรือ หุบเขาแห่งเงาของความตาย” นาวินอธิบายให้ร่อนเร่ทัวร์ฟังคร่าว ๆ ถึงจุดหมายถัดไป

“ชื่อสยองจัง วีว่าคงเป็นเพราะทำเลที่ดูลึกลับน่ากลัว ใครมาหลงอยู่ในนี้คงหาทางออกไม่เจอ เลยพาลล้มหายตายจากกันไปเสียก่อนละมั้ง” หญิงสาวพยายามนึกภาพตามแล้วถึงกับสั่นหัวไปมา ไม่อยากจะคิดว่าถ้ามาหลงคนเดียวแถวนี้ในสมัยก่อนจะทำอย่างไรดี

“ดูดิ ...มีที่เล่นสกีด้วย เห็นเปล่า” วิทยาร้องบอกให้เพื่อน ๆ ดูป้าย Glencoe Ski Centre เมื่อเดินทางต่อมาได้อีกสักระยะ ก่อนจะพูดต่อ
“พึ่งรู้นะเนี่ย ที่คนอังกฤษเขาบอกว่ามาเล่นสกีที่สก็อตนะ เขามาเล่นกันแถวนี้เอง”

“โห! ยังมีหิมะเหลืออยู่เลย นี่ขนาดอากาศเริ่มอุ่นแล้วนะ” นาวีชี้ชวนให้รินนภาเงยขึ้นมองร่องรอยของหิมะที่ยังคงค้างอยู่ตามยอดเขา

“อยากหัดเล่นสกีบ้างจัง จะได้มีโอกาสมาเล่นมั้ยเนี่ย เหลืออีกไม่ถึงครึ่งปีก็ต้องกลับบ้านแล้ว” คนขับพึมพำออกมาเบา ๆ นึกตำหนิตัวเองที่มาอยู่อังกฤษตั้งนานแล้วไม่รู้จักขวนขวายหาลองเล่นเป็นประสบการณ์ดูบ้าง

“เอาไว้ไปเล่นที่ออสเตรียแล้วกัน เดี๋ยวพี่หัดให้” นาวินเอ่ยชวนสาวน้อยที่ทำหน้าละห้อยชวนให้เห็นใจ

“ไม่ได้ไปหรอกพี่วิน ต้องกลับบ้านไปทำงานเก็บตังค์ก่อน แต่คงไม่มีโอกาสแล้วละ ช่างเถอะ” หญิงสาวตัดใจ แค่เท่าที่ได้ออกมาเห็นโลกกว้างแบบนี้ก็นับว่าโชคดีมากพออยู่แล้ว จะเอาอะไรให้ได้ดั่งใจตัวเองหมดทุกอย่างคงเป็นไปไม่ได้

“ตอนนี้เราผ่าน Three sister แล้ว นั่นไง ...ที่เป็นภูเขาสามลูกเรียงต่อกัน ถนนที่เรากำลังวิ่งอยู่นี่คือเส้น A82 เส้นนี้แหละที่ได้ยินกิตติศัพท์มานานแล้วว่าสวย ถ้าใครขับรถขึ้นมาไฮแลนด์ ก็ต้องหาโอกาสมาวิ่งเส้นนี้ให้ได้” นาวีเปิดแผนที่พลางอธิบายประกอบ “เลยไปอีกหน่อยเดี๋ยวก็เจอ Loch Linnhe แล้ว จากแผนที่ดูแล้วเป็นทะเลสาบใหญ่เชียวนะ”

“ตั้งแต่เที่ยวมานี่เห็นแต่ภูเขาและทะเลสาบ จำไม่หมดแล้วว่าผ่านทะเลสาบอะไรบ้าง ทำไมมันถึงได้มีเยอะแยะขนาดนี้วะนี่” วิทยาเอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ

“นายจะไปจำได้ยังไงละ ฉันเห็นเอาแต่นอนมาตลอดทาง เผยอเปลือกตาดูก็ตอนที่ฉันเรียกเท่านั้นแหละ” คนขับเอ่ยแซวคู่ปรับทันที

“ถึงอยากจะจำก็จำไม่ได้อยู่ดี ดูแต่ละคำสิ เรียกยากชะมัด แค่อ่านออกเสียงยังไม่กล้าเลยวะ” ชายหนุ่มหัวเราะขันตัวเอง แค่ภาษาอังกฤษธรรมดายังแทบเอาตัวไม่รอด มาเจออังกฤษแบบสก็อตเข้าให้ ยิ่งไม่ได้เรื่อง

“แต่ถ้าเป็นชื่อสาว ๆ ละก็ ต่อให้เยอะหรือยากแค่ไหนก็ใส่ใจจะจำละว้า ไอ้วิทยายุทธ”





Create Date : 27 พฤษภาคม 2549
Last Update : 27 พฤษภาคม 2549 21:30:19 น. 0 comments
Counter : 221 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธราธร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หากมิเริ่มเพียงก้าว
เจ้าตรองดู
ฤาหาญสู้
อุปสรรคอีกนับพัน
Friends' blogs
[Add ธราธร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.