นักการเมืองคือเด็กที่ไม่ยอมโต


เหตุบ้านการเมืองของไทยในเวลานี้
สาเหตุที่แท้จริง ผมสามารถชี้ลงไปได้เลยว่า มาจากความขัดแย้ง และแย่งชิง อำนาจ แย่งชิงมวล แย่งชิงความชอบธรรม แย่งชิงพื้นที่ทางการเมือง ระหว่าง ค่าย ประชาธิปัตย์ และ ค่ายเพื่อไทย

  • แม้ทางกลุ่มที่ เรียกตัวเองว่า กปปส. ออกมาบอกว่าไม่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ แต่ถ้ามองลงไปยังโครงสร้างของกลุ่ม กปปส. รวมถึงกำลังหลักในเวที กปปส. ก็ล้วนเป็นกลุ่มคนที่เคยเป็น ส.ส. พรรค ประชาธิปัตย์ เป็นส่วนใหญ่ จึงยากที่จะให้คนทั่วไปเชื่อว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน

เช่นเดียวกับ กลุ่ม นปช.หรือคนเสื้อแดง ก็ยากเช่นกันถ้ามีคนบอกว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย
ดังนั้นผมจึงมองว่า ความขัดแย้งครั้งนี้เกิดจากการเมืองสองขั้ว ระหว่าง ฝ่าย ประชาธิปัตย์ ที่มีมวลชนสนับสนุน และฝ่ายเพื่อไทยที่มีมวลชนสนับสนุนเช่นกัน ผมจึงขออนุญาตทั้งสองฝ่ายที่จะใช้คำว่า ฝ่ายประชาธิปัตย์และฝ่ายเพื่อไทย เพื่อความเข้าใจได้ง่ายขึ้น

  • ผมจะไม่ถอยหลังไปไกลถึงสาเหตุความขัดแย้งของคนในสังคม แต่ความขัดแย้งต่างๆมันมาจุดติด จากเชื้อไฟทางการเมือง ที่เรียกชื่อว่า ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ที่แก้เนื้อหาในชั้นกรรมาธิการ เป็นแบบเหมาเข่ง หรือสุดซอย ที่ฝ่ายโยนเชื้อไฟใส่เป็นฝ่ายของเพื่อไทยเสียเอง
  • พรรคเพื่อไทยเองก็สูญเสียมวลชนเป็นจำนวนมากในประเด็นนี้ ไม่เว้นแม้แต่กลุ่ม นปช.หรือคนเสื้อแดงที่เป็นเสาค้ำอำนาจให้รัฐบาลก็ออกมาประกาศไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.เหมาเข่งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระเทือนถึงความมั่นคงต่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทยอย่างเลี่ยงไม่ได้

ฝ่ายประชาธิปัตย์ที่รอโอกาสมาช้านานที่จะได้กระโดดเข้าขย่ำเหยื่อจึงไม่รีรอที่จะโถมกำลังทุ่มเข้าใส่จนเต็มแรง เริ่มจากการต่อต้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง ซึ่งต้องยอมรับว่าประเด็นนี้มันได้ใจประชาชน มีคนมากมายกระโดดเข้าร่วมวง จนรัฐบาลตั้งรับแทบไม่ทัน รีบถอยกรู ชนิดไม่มีกระบวนท่า เริ่มจากการ ถอนร่างนิรโทษที่เหลือค้างในสภาออกทั้งหมด

ส่วนร่างที่เกิดปัญหาที่ผ่านสภาผู้แทนไปแล้ว ก็ให้เป็นดุลพินีจของวุฒิสมาชิก โดยคำแถลงของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณไปถึงวุฒิสภาว่ารัฐบาลยอมถอย และวุฒิสภาก็ลงมติคว่ำร่างตามมาตรา 147 (2) ต้องทิ้งไว้ 180 วัน

นี่จึงเป็นชัยชนะที่สวยงามที่ฝ่ายประชาธิปัตย์มีต่อรัฐบาล ถ้าฝ่ายประชาธิปัตย์ เลิกม็อบเสียแต่ตอนนี้ประชาธิปัตย์จะได้ใจคนที่ร่วมต่อสู้ ที่ไม่ใช่ผู้สนับสนุนประชาธิปัตย์มาแต่ต้นเป็นจำนวนมาก
  • แต่ประชาธิปัตย์โดยนายสุเทพ กลับไม่ยอมลง เร่งรุดเดินหน้าต่อ ยื่นเงื่อนไข ขีดเส้นตายให้รัฐบาล ครั้งแล้วครั้งเล่า จนรัฐบาล โดย นางสาวยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กปปส. ก็ไม่ได้มีทีท่าจะหยุดยั้ง กลับรุกไล่กระหน่ำเข้าไปอีก จนเสียงจากสังคม เริ่มตั้งคำถามว่าที่แท้ กลุ่ม กปปส.ต้องการสิ่งใดกันแน่ หยุดยั้งร่างกฎหมายนิรโทษกรรม แบบสุดซอยเหมาเข่ง หรืออำนาจรัฐมาไว้ในมือ โดยวิธีนอกแบบแผน

มวลชนที่เคยเดินหนุนหลัง กลุ่ม กปปส.ก็เริ่มทยอยกันเดินถอยออกมา จะยังเหลืออยู่ก็แต่แฟนประจำเท่านั้น นี่จึงเป้นความผิดพลาด และอ่านเกมผิดของ แกนนำ กปปส. ที่รุกไล่ในสิ่งที่ตนเองก็ไม่ได้มีการเตรียมการไว้และวางแผนมาก่อน การชุมนุมยิ่งยาวนาน เสียงจากสังคมยิ่งดังขึ้น ไม่เว้นแม้แต่เสียงมวลชนที่ร่วมทาง ก็มีคำถามในใจ ส่งผลให้ กลุ่ม กปปส.ต้องตอบคำถามเหล่านี้กับสังคม ให้ได้ว่าที่แท้ต้องการอะไร เพราะประเด็นและเงื่อนไข มันเปลี่ยนไปจากเดิม และเปลี่ยนไปรายวัน

มีคนจำนวนมากที่ไม่ชอบรัฐบาล แต่ก็ตั้งคำถามและเริ่มไม่แน่ใจในการกระทำของกลุ่ม กปปส.เช่นกัน หลายคนจึงอยากให้คืนสภาพปกติให้สังคมและเดินหน้าการเลือกตั้ง เพื่อต้องการจะออกจากความขัดแย้ง โดยใช้เวทีเลือกตั้ง เพื่อตัดสินใจเข้าคูหา เลือกคนที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้งทั้งสองนี้ เพื่อนำประเทศออกจากความวุ่นวายนี้เสีย

นี่จึงเป็นภาพสะท้อนว่า สังคมไทย ประชาชนมีวุฒิภาวะ และเติบโตเต็มที่แล้ว ไม่เอนอ่อนผ่อนตามกระแสการปลุกระดมของคนทั้งสองฝ่าย แม้เคยเดินตามทั้งสองฝ่ายก็ถอยออกมาเมื่อเห็นว่า มันผิดไปจากเดิม ปัญหาจึงอยู่ที่นักการเมืองที่ไม่ยอมเติบโต อยากได้สิ่งใดก็ร้องไห้กระทืบเท้าจะเอามาให้ได้เป็นเด็กที่ไม่ยอมโตอยู่ตลอดเวลา




Create Date : 18 ธันวาคม 2556
Last Update : 18 ธันวาคม 2556 12:48:17 น.
Counter : 2132 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Thongnetra
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]



New Comments
ธันวาคม 2556

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog