นักการเมืองคือเด็กที่ไม่ยอมโต เหตุบ้านการเมืองของไทยในเวลานี้ สาเหตุที่แท้จริง ผมสามารถชี้ลงไปได้เลยว่า มาจากความขัดแย้ง และแย่งชิง อำนาจ แย่งชิงมวล แย่งชิงความชอบธรรม แย่งชิงพื้นที่ทางการเมือง ระหว่าง ค่าย ประชาธิปัตย์ และ ค่ายเพื่อไทย
เช่นเดียวกับ กลุ่ม นปช.หรือคนเสื้อแดง ก็ยากเช่นกันถ้ามีคนบอกว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย ดังนั้นผมจึงมองว่า ความขัดแย้งครั้งนี้เกิดจากการเมืองสองขั้ว ระหว่าง ฝ่าย ประชาธิปัตย์ ที่มีมวลชนสนับสนุน และฝ่ายเพื่อไทยที่มีมวลชนสนับสนุนเช่นกัน ผมจึงขออนุญาตทั้งสองฝ่ายที่จะใช้คำว่า ฝ่ายประชาธิปัตย์และฝ่ายเพื่อไทย เพื่อความเข้าใจได้ง่ายขึ้น
ฝ่ายประชาธิปัตย์ที่รอโอกาสมาช้านานที่จะได้กระโดดเข้าขย่ำเหยื่อจึงไม่รีรอที่จะโถมกำลังทุ่มเข้าใส่จนเต็มแรง เริ่มจากการต่อต้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง ซึ่งต้องยอมรับว่าประเด็นนี้มันได้ใจประชาชน มีคนมากมายกระโดดเข้าร่วมวง จนรัฐบาลตั้งรับแทบไม่ทัน รีบถอยกรู ชนิดไม่มีกระบวนท่า เริ่มจากการ ถอนร่างนิรโทษที่เหลือค้างในสภาออกทั้งหมด ส่วนร่างที่เกิดปัญหาที่ผ่านสภาผู้แทนไปแล้ว ก็ให้เป็นดุลพินีจของวุฒิสมาชิก โดยคำแถลงของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณไปถึงวุฒิสภาว่ารัฐบาลยอมถอย และวุฒิสภาก็ลงมติคว่ำร่างตามมาตรา 147 (2) ต้องทิ้งไว้ 180 วัน นี่จึงเป็นชัยชนะที่สวยงามที่ฝ่ายประชาธิปัตย์มีต่อรัฐบาล ถ้าฝ่ายประชาธิปัตย์ เลิกม็อบเสียแต่ตอนนี้ประชาธิปัตย์จะได้ใจคนที่ร่วมต่อสู้ ที่ไม่ใช่ผู้สนับสนุนประชาธิปัตย์มาแต่ต้นเป็นจำนวนมาก
มวลชนที่เคยเดินหนุนหลัง กลุ่ม กปปส.ก็เริ่มทยอยกันเดินถอยออกมา จะยังเหลืออยู่ก็แต่แฟนประจำเท่านั้น นี่จึงเป้นความผิดพลาด และอ่านเกมผิดของ แกนนำ กปปส. ที่รุกไล่ในสิ่งที่ตนเองก็ไม่ได้มีการเตรียมการไว้และวางแผนมาก่อน การชุมนุมยิ่งยาวนาน เสียงจากสังคมยิ่งดังขึ้น ไม่เว้นแม้แต่เสียงมวลชนที่ร่วมทาง ก็มีคำถามในใจ ส่งผลให้ กลุ่ม กปปส.ต้องตอบคำถามเหล่านี้กับสังคม ให้ได้ว่าที่แท้ต้องการอะไร เพราะประเด็นและเงื่อนไข มันเปลี่ยนไปจากเดิม และเปลี่ยนไปรายวัน มีคนจำนวนมากที่ไม่ชอบรัฐบาล แต่ก็ตั้งคำถามและเริ่มไม่แน่ใจในการกระทำของกลุ่ม กปปส.เช่นกัน หลายคนจึงอยากให้คืนสภาพปกติให้สังคมและเดินหน้าการเลือกตั้ง เพื่อต้องการจะออกจากความขัดแย้ง โดยใช้เวทีเลือกตั้ง เพื่อตัดสินใจเข้าคูหา เลือกคนที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้งทั้งสองนี้ เพื่อนำประเทศออกจากความวุ่นวายนี้เสีย นี่จึงเป็นภาพสะท้อนว่า สังคมไทย ประชาชนมีวุฒิภาวะ และเติบโตเต็มที่แล้ว ไม่เอนอ่อนผ่อนตามกระแสการปลุกระดมของคนทั้งสองฝ่าย แม้เคยเดินตามทั้งสองฝ่ายก็ถอยออกมาเมื่อเห็นว่า มันผิดไปจากเดิม ปัญหาจึงอยู่ที่นักการเมืองที่ไม่ยอมเติบโต อยากได้สิ่งใดก็ร้องไห้กระทืบเท้าจะเอามาให้ได้เป็นเด็กที่ไม่ยอมโตอยู่ตลอดเวลา |
Thongnetra
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]
Group Blog All Blog
|
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |